Page 1 of 3

==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Wed Mar 03, 2010 6:50 pm
by jerasak
จากที่ได้เห็นความเคลื่อนไหวของฝ่ายต่างๆ หลังศาลพิพากษายึดทรัพย์คุณทักษิณ
พบมีความไม่เข้าใจในหมู่ประชาชนโดยเฉพาะชาวเสื้อแดง และมีการวิพากษ์วิจารณ์
กันออกนอกลู่นอกทางไปมาก ผมมีข้อสรุปสั้นๆอยากตั้งกระทู้ให้ชาวเสรีไทยได้อ่าน
นานๆจะได้แวะมาคุยกันสักทีนะครับ

สรุปคือ กฎหมายไทยห้ามนายกฯถือหุ้นสัมปทานรัฐ เช่น กิจการมือถือ ดาวเทียม
กับมีหลักกฎหมายสำคัญคือ บุคคลไม่ควรได้รับประโยชน์ใดๆจากการฝ่าฝืนกฎหมาย

ดังนั้นผลประโยชน์ใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการถือหุ้นดังกล่าวระหว่างเป็นนายกฯ ไม่ว่า-
จะเป็นมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นหรือเงินปันผล จึงเป็นผลประโยชน์ที่ได้รับโดยมิชอบทั้งสิ้น
และย่อมถือเป็นความร่ำรวยผิดปกติ เพราะนายกฯไม่สามารถถือหุ้นสัมปทานรัฐได้


เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับว่าหุ้นสัมปทานรัฐที่ถืออยู่จะมีราคาเพิ่มขึ้นเหมือนหรือแตกต่างกับ
หุ้นอื่นๆในตลาดหลักทรัพย์ ไม่เกี่ยวว่ากิจการจะมีกำไรมากกว่าหรือเท่ากับกิจการอื่นๆ
ตามที่คุณทักษิณและชาวเสื้อแดงกำลังพยายามชี้แจงแก้ต่าง เพราะนายกฯไม่มีสิทธิ-
รับผลประโยชน์สัมปทานรัฐแม้แต่สตางค์เดียว แต่คุณทักษิณรวยขึ้นหลายหมื่นล้าน


...

ศาลมีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ในประเด็น "ซุกหุ้น" ว่าคุณทักษิณซุกหุ้นสัมปทานรัฐ
ซึ่งคุณทักษิณได้ต่อสู้คดีในประเด็นนี้แล้ว และไม่สามารถแก้ต่างให้ตัวเองได้

การที่ศาลพิพากษาให้คืนเงินคุณทักษิณตามมูลค่าหุ้นก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ
คือจำนวน 3 หมื่นล้านบาท และยึดเงินที่เพิ่มขึ้นมา 4.6 หมื่นล้าน ซึ่งประกอบด้วย
มูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้น และเงินปันผลที่ได้รับระหว่างคุณทักษิณดำรงตำแหน่งนายกฯ
จึงเป็นการตัดสินตามกฎหมายโดยถูกต้องยุติธรรมแล้ว


สำหรับประเด็นประกอบอื่นๆ เช่น มีการทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กิจการ
ที่ตัวเองถือหุ้นหรือไม่นั้นไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะต่อให้ไม่โกงเลยแม้แต่บาทเดียว
เพียงการเป็นนายกฯแล้วถือหุ้นสัมปทานรัฐก็ไม่มีสิทธิรับผลประโยชน์ใดๆแล้ว

...

เพิ่มเติมสักหน่อยว่าการยึดทรัพย์เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนความผิดอาญากรณีเป็นนายกฯ
แล้วถือหุ้นสัปทานรัฐก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การแถลงทรัพย์สินอันเป็นเท็จหลายครั้ง
ก็เป็นความผิดอีกเรื่องหนึ่ง และหากมีการใช้อำนาจหน้าที่ทุจริตก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ซึ่งคุณทักษิณมีภาระจะต้องต่อสู้คดีต่อไปนะครับ


ข้อสรุปของผมมีเพียงเท่านี้ หากเห็นว่าเข้าท่าจะนำไปเผยแพร่ต่อก็ยินดีครับ

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Wed Mar 03, 2010 7:05 pm
by bitboy
อธิบายอย่างไร ควายมันก็ฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี
ในเมื่อสมองโดนล้าง ท่องได้แต่คำว่าพ่อมันถูกปล้น
ทำไมมันไม่มองมั่งว่า ....
พ่อมันก็ปล้นชาติไปเมื่อปี40 มากกว่าที่มันโดนศาลยึดไปซะอีก

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Wed Mar 03, 2010 7:14 pm
by protecter
เท่าที่ผมเข้าใจ แบ่ง 2 กรณี
1...ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับสัมปทานรัฐ ถือหุ้นได้ แต่กฏหมายห้ามถือเกิน 5 เบอร์เซ็น
2...ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัมปทานรัฐ ห้ามเด็ดขาด

และไม่ใช่ ใช้บังคับกับแต่ตำแหน่งนายกเท่านั้น ยังรวมถึงตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่ง เช่น รมต
เพื่อป้องกัน มิให้นักการเมืองบริหารประเทศเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตัวเอง
กรณีของทักษิณ มันเลี่ยงกฏหมาย โดยใช้ชื่อลูกถือแทน และทำทุกวิถีทาง ใช้อำนาจเอื้อประโยชย์แก่ธุรกิจของตัวมันเอง
เช่น แก้สัญญาสัมปทาน

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Wed Mar 03, 2010 8:10 pm
by ooo
jerasak wrote:
สำหรับประเด็นประกอบอื่นๆ เช่น มีการทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กิจการ
ที่ตัวเองถือหุ้นหรือไม่นั้นไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะต่อให้ไม่โกงเลยแม้แต่บาทเดียว
เพียงการเป็นนายกฯแล้วถือหุ้นสัมปทานรัฐก็ไม่มีสิทธิรับผลประโยชน์ใดๆแล้ว


ผมคิดว่าประเด็นการทุจริต การเอื้อประโยชน์เป็นประเด็นสำคัญเลยในการยึดทรัพย์

ถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้จะไปยึดทรัพย์เขาได้อย่างไร

การเป็นนายกฯแล้วไปถือหุ้นสัมปทานมันก็เป็นเรื่องที่กฎหมายห้าม เมื่อฝ่าฝืนก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไป

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาขี้โกง ดังนั้นทรัพย์สินที่เขาค้าขายมาอย่างสุจริตจะไปยึดเขาไม่ได้ ผิดหลักนิติธรรมเป็นอย่างยิ่ง

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Wed Mar 03, 2010 9:05 pm
by jerasak
protecter wrote:เท่าที่ผมเข้าใจ แบ่ง 2 กรณี
1...ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับสัมปทานรัฐ ถือหุ้นได้ แต่กฏหมายห้ามถือเกิน 5 เบอร์เซ็น
2...ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัมปทานรัฐ ห้ามเด็ดขาด

และไม่ใช่ ใช้บังคับกับแต่ตำแหน่งนายกเท่านั้น ยังรวมถึงตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่ง เช่น รมต
เพื่อป้องกัน มิให้นักการเมืองบริหารประเทศเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตัวเอง
กรณีของทักษิณ มันเลี่ยงกฏหมาย โดยใช้ชื่อลูกถือแทน และทำทุกวิถีทาง ใช้อำนาจเอื้อประโยชย์แก่ธุรกิจของตัวมันเอง
เช่น แก้สัญญาสัมปทาน


คุณ protecter เข้าใจถูกต้องทุกประเด็นครับ

ที่ผมระบุตำแหน่งนายกฯ และการถือหุ้นสัมปทานรัฐ
ก็เพราะเป็นการอธิบายแบบเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับคดี
ของคุณทักษิณ แต่ความจริงกฎหมายกำหนดเงื่อนไข
ครอบคลุมกรณีต่างๆ กว้างกว่ามากครับ

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Wed Mar 03, 2010 9:16 pm
by jerasak
ooo wrote:
jerasak wrote:
สำหรับประเด็นประกอบอื่นๆ เช่น มีการทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กิจการ
ที่ตัวเองถือหุ้นหรือไม่นั้นไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะต่อให้ไม่โกงเลยแม้แต่บาทเดียว
เพียงการเป็นนายกฯแล้วถือหุ้นสัมปทานรัฐก็ไม่มีสิทธิรับผลประโยชน์ใดๆแล้ว


ผมคิดว่าประเด็นการทุจริต การเอื้อประโยชน์เป็นประเด็นสำคัญเลยในการยึดทรัพย์

ถ้าไม่มีเรื่องเหล่านี้จะไปยึดทรัพย์เขาได้อย่างไร

การเป็นนายกฯแล้วไปถือหุ้นสัมปทานมันก็เป็นเรื่องที่กฎหมายห้าม เมื่อฝ่าฝืนก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไป

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาขี้โกง ดังนั้นทรัพย์สินที่เขาค้าขายมาอย่างสุจริตจะไปยึดเขาไม่ได้ ผิดหลักนิติธรรมเป็นอย่างยิ่ง


คุณ ooo ครับ

การดำรงตำแหน่งนายกฯแล้วถือหุ้นสัมปทานรัฐเป็นความผิดอาญามีโทษจำคุกหลายปี
จึงไม่ใช่การทำมาหากินอย่างสุจริตมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ...

ถ้าจะถือว่าการถือหุ้นสัมปทานเป็นแค่เรื่องที่กฎหมายห้าม เมื่อฝ่าฝืนก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง
เท่ากับกรณีคุณทักษิณไม่ต้องรับผิดอะไรเลย เพราะถูกรัฐประหารจนพ้นตำแหน่งไปแล้ว
นอกจากไม่ต้องรับผิดยังได้รับผลประโยชน์จากสัมปทานรัฐเป็นหมื่นล้านบาท ตลอดเวลา-
ที่ดำรงตำแหน่งหลายปี

หากถือหลักแบบนี้นักการเมืองทุกคนก็คงตั้งนอมินีมาถือหุ้นสัมปทานรัฐกันหมดทั้งสภา
ต่อให้ต้องติดคุกตารางก็ยังคุ้มกับผลประโยชน์เป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท

*ส่วนประเด็นเรื่อง "ขี้โกง" การซุกหุ้นสัมปทานรัฐเป็นการขี้โกงแน่นอนไม่ต้องสงสัยครับ*

ขอย้ำว่ากฎหมายห้ามนายกฯถือหุ้นสัมปทานรัฐ ไม่ว่าจะมีการทุจริตเชิงนโยบาย หรือ
ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อผลประโยชน์ต่อกิจการของตัวเองหรือไม่ก็ผิดตั้งแต่ต้นแล้วครับ

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Wed Mar 03, 2010 9:54 pm
by naiare
คนยากจนผิดปรกติ ต่อสู้เพื่อคนร่ำรวยผิดปรกติ

ประเทศไทยจึงผิดปรกติ

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Wed Mar 03, 2010 9:55 pm
by pygmy_hippo
เห็นด้วยกับคุณ จี ค่ะ
แค่เป็นนายกแล้วมีเอี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรัฐ
ยังไงก็ผิดอยู่แล้ว
ซึ่งศาลก็ย้ำหลายครั้งว่า เป็นการขัดกันของผลประโยชน์ หรือ ผลประโยชน์ทับซ้อน
คำ ๆ นี้คนไทยควรรู้จักกันไว้ให้มาก
มันลามอยู่ในสายงาน ลามอยู่ทุก ๆ องค์กร

คนไทยส่วนใหญ่ยังติดภาพกับคำว่า กินเหล็ก หิน ปูน ทราย
กินหัวคิว และยังไม่ทันกับการคอรัปชั่นแบบนี้
ยังคิดว่านี่คือการหากินสุจริต เพราะไม่ได้ไปปล้น โกง อะไร
ดังนั้น หลายคนก็ไม่แคร์ว่า นายกจะถือหุ้นอยู่ขณะเป็นนายก
และพยายามเถียงว่า เงินของเขา เขาหามาเอง
และชินคอร์ป ดำเนินกิจการ โดยสุจริต

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 3:03 am
by พายุ
ขอบคุณ คุณจีมากค่ะ

อธิบายแบบนี้ กระชับและเข้าใจง่ายดีค่ะ ขออนุญาตินำไปแปะที่อื่นนะคะ :D

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 5:02 am
by bangkaa
แม้วผิดที่ ซุกหุ้น... 1 กระทง
ผิดที่ถือหุ้นในบริษัทจำนวนมาก แล้วดันใช้ตำแหน่งหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้บริษัทที่ตนเองถือหุ้น.. อีก 1 กระทง
คือ... นอกจากผิดกฎหมายแล้ว มองแบบง่ายๆยังเป็นการเอาเปรียบคนอื่นเขาอีกต่างหาก

แค่นี้ก็น่าจะเข้าใจกันแล้ว...


แต่ คนรักแม้ว... เขาก็มีข้ออ้างเสมอ...
เช่น... หุ้นก็หุ้นของเขา แล้วไงล่ะ... ไปยุ่งอะไรกับของๆเขา
เขาทำงานให้ประเทศชาติตั้งมากมาย... เรื่องแค่นี้มันเล็กน้อย
พวกอำมาตย์ มันตั้งธง กลั่นแกล้ง เขียนบท สองมาตรฐานอยู่แล้ว...
ฯลฯ

ไม่ไหวจะเคลียร์ ครับ...

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 7:58 am
by Berryja
คงอีกนานที่จะทำให้คนที่ไม่พยายามเข้าใจให้เข้าใจได้

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 10:52 am
by jerasak
เนื่องจากมีผู้สงสัยสอบถามว่ายอดเงินที่ยึด 46000 ล้าน ได้คำนวณรวมเงินปันผล
ที่ได้รับระหว่างดำรงตำแหน่งนายกฯหรือไม่

*จากการตรวจสอบพบว่ายอดเงิน 46000 ล้าน ได้รวมเงินปันผลประมาณ 6900 ล้าน
เอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ*


ตัวเลขที่แน่นอนคือ เป็นการยึดส่วนเกินมูลค่าุหุ้น จำนวน 39,474,965,325.70 บาท
รวมกับเิงินปันผลตลอดเวลาที่เป็นนายกฯ จำนวน 6,898,722,129 บาท คิดเป็นเงิน
ที่ยึดทั้งสิ้น 46,373,687,454.70 บาท

พร้อมกันนี้ผมได้แก้ไขข้อมูลในกระทู้ให้ชัดเจนขึ้นในประเด็นนี้ด้วยครับ :D

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 10:56 am
by ooo
คุณจีครับ

ในส่วนถือหุ้นสัมปทาน ก็ผิดอาจถูกถอดถอนและถูกดำเนินคดีอาญาได้ประเด็นนี้เราเห็นตรงกันครับ

แต่ประเด็นที่คุณสรุปว่าเพียงแค่ถือหุ้นสัมปทานแล้วจะถือว่าร่ำรวยผิดปกติ ยึดทรัพย์ได้เลย อันนี้ผมไม่เห็นด้วย

ถ้าเป็นอย่างคุณจีว่า ประเด็นของคดีก็ควรมีแค่ว่านายกฯถือหุ้นสัมปทานหรือไม่ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าถือหุ้นสัมปทานก็ยึดทรัพย์ได้เลย

โดยไม่จำเป็นต้องมีประเด็นเรื่องเอื้อประโยชน์อีก

แต่ข้อเท็จจริงในคดีมิได้เป็นเช่นนั้น คดียังมีประเด็นเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์อีก 5 กรณี

ซึ่งศาลวินิจฉัยไปทีละประเด็นว่าเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ แล้วจึงมาสู่การพิพากษายึดทรัพย์

สรุปง่ายๆว่า ถ้าไม่มีเรื่องเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองก็ไม่อาจถือได้ว่ามีพฤติการณืร่ำรวยผิดปกติ จึงทำให้ยึดทรัพย์ไม่ได้ครับ...

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 11:42 am
by Superb_Mob
ออกตัวก่อนว่าไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย แต่สงสัยว่า หุ้นที่ว่าซุกๆ กันเนี้ยก็เป็นหุ้นตัวเดียวกับสมัยขึ้นศาลฯ ปี 44 ตอนนั้นรอดมาได้ แต่ตอนนี้ไม่รอด แล้วต่อไปจะเอาคำตัดสินตรงไหนเป็นหลักดีครับ ส่วนตัวแล้วถ้าเมืองไทยสามารถเอาคำตัดสินปัจจุบันเป็นบรรทัดฐานใช้กับผู้ถือครองอำนาจรัฐทุกคนได้อย่างเท่าเทียม ผมจะดีใจเป็นล้นพ้น เพราะเชื่อได้เลยว่าน่าจะโดนกันเป็นทิวแถว แต่ในความเป็นจริงคงเป็นที่รู้อยู่แก่ใจ ใครขึ้นมามีอำนาจก็เล่นพรรคเล่นพวกกันทั้งนั้น มิฉะนั้นแม้วมันก็ต้องโดนซิวตั้งแต่ตอนเป็นนายกไปแล้ว ไม่ต้องให้เกิดรัฐประหารถึงเช็คบิลได้หรอก แล้วผมก็อยากถามกลับว่า คุณคิดกันจริงๆ หรือว่าพรรคเทพเนี้ยไม่มีใครซุกหุ้น(ตามบรรทัดฐานของศาลฯตอนนี้)เลยซักคน ผมละอยากเห็นขบวนการรักชาติมีจริงๆ จังครับ :idea:

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 11:45 am
by jerasak
ooo wrote:คุณจีครับ

ในส่วนถือหุ้นสัมปทาน ก็ผิดอาจถูกถอดถอนและถูกดำเนินคดีอาญาได้ประเด็นนี้เราเห็นตรงกันครับ

แต่ประเด็นที่คุณสรุปว่าเพียงแค่ถือหุ้นสัมปทานแล้วจะถือว่าร่ำรวยผิดปกติ ยึดทรัพย์ได้เลย อันนี้ผมไม่เห็นด้วย


คุณ ooo

การเป็นนายกฯแล้วถือหุ้นสัมปทานรัฐ นอกจากต้องถูกถอดถอนและถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว
ผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้จากการถือหุ้นสัมปทานรัฐก็ไม่มีสิทธิได้รับด้วยครับ

ที่ผมสรุปว่าเพียงแค่ถือหุ้นสัมปทานก็ถือว่าร่ำรวยผิดปกติยึดทรัพย์ได้เลย เป็นการยึดทรัพย์-
ในส่วนผลประโยชน์จากการถือหุ้นสัมปทานรัฐระหว่างเป็นนายกฯ ซึ่งก็คือมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้น
และเงินปันผลที่ได้รับครับ และศาลก็พิพากษายึดทรัพย์ในส่วนนี้จริงๆ โดยไม่ได้นำเอาเรื่อง
การทุจริตมาคำนวณมูลค่าเพื่อยึดทรัพย์แต่อย่างใด

เท่ากับศาลถือว่าความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้นจากมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลทั้งหมดระหว่าง-
การดำรงตำแหน่งนายกฯเป็นการร่ำรวยผิดปกติ ถ้าใช้คำพูดของผมเองก็คงสรุปได้ประมาณ
กฎหมายไม่อนุญาตให้นายกฯคนไหนร่ำรวยจากสัมปทานรัฐระหว่างดำรงตำแหน่งได้

อยากให้สังเกตนะครับว่าศาลพิพากษาโดยใช้วิธีคำนวณเสมือนว่าคุณทักษิณไ่ม่เคยถือหุ้น-
สัมปทานรัฐระหว่างดำรงตำแหน่งเลย คือให้รวยเท่าเดิมก่อนมาเป็นนายกฯครับ

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 11:52 am
by jerasak
Superb_Mob wrote:ออกตัวก่อนว่าไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย แต่สงสัยว่า หุ้นที่ว่าซุกๆ กันเนี้ยก็เป็นหุ้นตัวเดียวกับสมัยขึ้นศาลฯ ปี 44 ตอนนั้นรอดมาได้ แต่ตอนนี้ไม่รอด แล้วต่อไปจะเอาคำตัดสินตรงไหนเป็นหลักดีครับ ส่วนตัวแล้วถ้าเมืองไทยสามารถเอาคำตัดสินปัจจุบันเป็นบรรทัดฐานใช้กับผู้ถือครองอำนาจรัฐทุกคนได้อย่างเท่าเทียม ผมจะดีใจเป็นล้นพ้น เพราะเชื่อได้เลยว่าน่าจะโดนกันเป็นทิวแถว แต่ในความเป็นจริงคงเป็นที่รู้อยู่แก่ใจ ใครขึ้นมามีอำนาจก็เล่นพรรคเล่นพวกกันทั้งนั้น มิฉะนั้นแม้วมันก็ต้องโดนซิวตั้งแต่ตอนเป็นนายกไปแล้ว ไม่ต้องให้เกิดรัฐประหารถึงเช็คบิลได้หรอก แล้วผมก็อยากถามกลับว่า คุณคิดกันจริงๆ หรือว่าพรรคเทพเนี้ยไม่มีใครซุกหุ้น(ตามบรรทัดฐานของศาลฯตอนนี้)เลยซักคน ผมละอยากเห็นขบวนการรักชาติมีจริงๆ จังครับ :idea:


เรื่องมันยาวครับคุณ Superb_Mob แต่สรุปสั้นๆ คือ

1. หุ้นที่ซุกในคราวนี้เป็นคนละกรณีกับที่ซุกไว้ที่คนใช้คราวก่อน
2. ศาลที่วินิจฉัยคราวก่อนคือ ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมถือว่าเป็น "องค์กรกึ่งศาล"
มีตุลาการเกินครึ่งที่มาจากการแต่งตั้งและไม่ใช่ผู้พิพากษา แตกต่างจากคราวนี้-
ที่เป็นศาลฎีกาฯ ซึ่งผมถือว่าเป็นศาลจริงๆ
3. ตุลาการที่วินิจฉัยในคดีซุกหุ้นคราวก่อนแบ่งตามคำวินิจฉัยได้เป็น 3 กลุ่ม
ผลวินิจฉัย 8 ต่อ 7 ที่คุณทักษิณรอดมาได้ ความจริงเป็น 4 ต่อ 4 ต่อ 7
แต่รายละเอียดมันยาวครับ

สรุปคือควรพิจารณาแยกกันเป็นแต่ละคดีไป เพราะมีอะไรต่างกันเยอะครับ :D

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 12:11 pm
by Superb_Mob
หรือจะพูดแบบภาษาชาวบ้านก็คือทีใครทีมันใช่มั้ยครับ :lol: :lol: แล้วการรัฐประหารก็จะอยู่คู่กับเมืองไทยตราบนานเท่านาน

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 12:17 pm
by jerasak
ooo wrote:ถ้าเป็นอย่างคุณจีว่า ประเด็นของคดีก็ควรมีแค่ว่านายกฯถือหุ้นสัมปทานหรือไม่ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าถือหุ้นสัมปทานก็ยึดทรัพย์ได้เลย

โดยไม่จำเป็นต้องมีประเด็นเรื่องเอื้อประโยชน์อีก

แต่ข้อเท็จจริงในคดีมิได้เป็นเช่นนั้น คดียังมีประเด็นเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์อีก 5 กรณี

ซึ่งศาลวินิจฉัยไปทีละประเด็นว่าเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ แล้วจึงมาสู่การพิพากษายึดทรัพย์

สรุปง่ายๆว่า ถ้าไม่มีเรื่องเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองก็ไม่อาจถือได้ว่ามีพฤติการณืร่ำรวยผิดปกติ จึงทำให้ยึดทรัพย์ไม่ได้ครับ...


ในความเห็นของผมแค่คำวินิจฉัยในส่วนแรกว่าคุณทักษิณซุกหุ้นจริง ก็เพียงพอในการยึดทรัพย์
ตามจำนวนที่ศาลวินิจฉัยแล้วครับ

แต่ที่มีประเด็นเอื้อผลประโยชน์ 5 เรื่องขึ้นฟ้องศาลด้วยก็เพราะคุณทักษิณไม่ได้แค่ฝ่าฝืนกฎหมาย
แต่ คตส. มีพยานหลักฐานว่าคุณทักษิณมีการใช้อำนาจทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับกิจการตัวเองด้วย


ซึ่งเป็นฐานความผิดที่ คตส. ใช้ฟ้องให้ยึดทรัพย์ "ทั้งหมด" รวมถึงมูลค่าหุ้นที่มีก่อนดำรงตำแหน่ง-
นายกฯ ซึ่งถ้าหากใช้เพียงฐานความผิดกรณีซุกหุ้นอย่างเดียวก็คงยึดได้แต่ส่วนเกินมูลค่าหุ้นและ
เงินปันผลเท่านั้น

การที่ คตส. นำเรื่องทุจริตเชิงนโยบายเอื้อประโยชน์ให้หุ้นตัวเองใส่เข้ามาในสำนวนด้วยแสดงถึง
ความมั่นใจในพยานหลักฐานของ คตส. ว่าจะสามารถชนะในประเด็นนี้ด้วย และศาลก็ได้ตัดสิน
ด้วยมติเสียงส่วนใหญ่ (ตามข่าวคือ 8 ต่อ 1) ว่ามีการทุจริตจริงในทั้ง 5 กรณี

อย่างไรก็ตามศาลพิพากษาให้ยึดทรัพย์เฉพาะในส่วนมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลระหว่างดำรง-
ตำแหน่งนายกฯเท่านั้น ซึ่งผมก็ยอมรับได้เพราะผลประโยชน์จากการทุจริตก็อยู่ในเงินส่วนนี้เท่านั้น
ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหายของรัฐและองค์กรต่างๆ จากการทุจริตของคุณทักษิณก็ควรไปฟ้องกัน
ในคดีอื่นแยกต่างหากเป็นรายๆต่อไปครับ
:D

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 12:25 pm
by eAT
ซุกหุ้นภาคแรก โดยไม่ได้ไปค้น เอาจากความทรงจำ
ยังจำได้ว่า มันซุกกับคนใช้ คนรถ ถือว่าเป็นหุ้นคนละตัวอยู่แล้ว


งานนี้โดนไป 9 ครั้ง ปกปิดทรัพย์สิน กระทงละ 6 เดือน คูณเข้าไปเลย

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 12:38 pm
by เบื่อ นช ทักสิน
Superb_Mob wrote:หรือจะพูดแบบภาษาชาวบ้านก็คือทีใครทีมันใช่มั้ยครับ :lol: :lol: แล้วการรัฐประหารก็จะอยู่คู่กับเมืองไทยตราบนานเท่านาน

เมื่อ ปี 44 มันซุกหุ้นในชื่อคนรับใช้ คนขับรถ แต่เลขามันอ้างว่า เป็นความเลินเล่อของตัวเองที่ไม่แจ้งใช่ไหม ตอนนั้นก็มีการกดดัน โดย มีม้อบ ไปเชียร์อยากได้ไอ้เหลี่ยม รวมถึงผมก็อยากได้ไอ้เหลี่ยมมาเป้นนายก(ยอมรับว่า ผมก็ควายตัวหนึ่งที่โดนจูงจมูกสมัยนั้น จำลองศรีเมืองก้เข้าไปลุ้นให้กำลังใจในศาลรธน)
ผลออกมามาคือ ไม่ซุก 4เสียง อันนี้มีข่าวลือ และข่าวจริง คือมีการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ศาล ไป search หาอ่านดูได้ เมื่อรวมกับอีก 4 เสียงที่บอกว่า มันไม่เข้าประเด็นอีก 4 เลยทำให้มันเป็นนายก ใช่ไหม
แต่ปี 53 ศาลก็อ่านคำตัดสิน โดยมีหลักฐาน ซุกหุ้นในชื่อ แอมเปิลริช กองทุนซินาตร้าทรัส(กองทุนฝรั่งหัวดำ ที่มาปั่นหุ้นใน ตลาด(ห)ลักทรัพย์ของไทย) และอื่นๆ ที่มีหลักฐานแน่ชัด ทำให้ศาลเชื่อ(ไม่ได้ตัดสินตามโพย แบบไอ้เหลี่ยมกล่าวหา) และตัดสินว่ามันซุกหุ้น ตั้งแต่ปี 44 นี่แสดงว่ามีหลักฐานใหม่ สามารถเอาผิดมันได้
กรณีเหตุการณ์สมมุติ นายดำ โดนจับข้อหาฆ่าคนตาย แต่ หลักฐานอ่อน ศาลก็ปล่อยให้พ้นคดี แต่ต่อมามีหลักฐานใหม่เพิ่มเติมว่า นายดำไปฆ่าคนตายจริงๆ ก็สามารถยกคดีมาฟ้องร้องใหม่ได้ ไม่ใช่การฟ้องซ้ำ หรือว่า กลับคำตัดสิน เข้าใจไหม
แล้วที่บอกว่า เชื่อหรือไม่ว่า คนในรัฐบาลปัจจุบันก็มีการซุก อันนี้ผมไม่รู้ ถ้าคุณรู้ว่าเป็นใคร ก็ฟ้อง ปปช ได้เลย อย่าแค่กล่าวลอยๆ น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง หรือไอ้การพูดว่า กูผิด แต่มึงก็ผิด ดังนั้นก็อย่ามาว่ากัน แบบนี้ อย่าไปมีกฎหมายดีกว่า ใครมีปืน ยิงเก่ง ยิงเร็วก็ชนะดีไหม เอาแบบคาวบอยของสหรัฐในหนังดีไหม

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 1:05 pm
by tu249cm
อ่านที่คุณจีอธิบายมาในกรณียึดทรัพย์ของแม้วนี้ หากเป็นคนที่พร้อมจะรับฟังและใช้สมองไตร่ตรองดูก็จะเข้าใจได้ง่ายมากไม่ได้ลึกลับซับซ้อนแต่อย่างไร
แต่ในกรณีของเสื้อแดงที่เทิดทูนแม้วโดยหมดจิตหมดใจ คงป่วยการทีจะนำไปบอกไปอธิยาย เพราะพวกนี้จะไม่รับรู้ในส่วนที่ผิดของแม้วเลยแม้แต่ข้อเดียว สำหรับพวกเขาไม่ว่าสิ่งใดที่แม้วทำย่อมถูกต้องเสมอ ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะดีแค่ไหนก็ตาม

ได้แต่หวังว่าจะนำไปคุยให้เพื่อนบางคนที่ยังยอมรับฟังหรือยังเข้าใจคลาดเคลื่อนให้เข้าใจใน กระบวนการที่ถูกยึดทรัพย์ในครั้งนี้ ขอบคุรมากๆค่ะที่มาโพสหลักการ เหตุผลที่สามาารถนำไปอธิบายต่อได้ไม่ยากเย็นเกินไป

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 2:16 pm
by ooo
Superb_Mob wrote:ออกตัวก่อนว่าไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย แต่สงสัยว่า หุ้นที่ว่าซุกๆ กันเนี้ยก็เป็นหุ้นตัวเดียวกับสมัยขึ้นศาลฯ ปี 44 ตอนนั้นรอดมาได้ แต่ตอนนี้ไม่รอด แล้วต่อไปจะเอาคำตัดสินตรงไหนเป็นหลักดีครับ ส่วนตัวแล้วถ้าเมืองไทยสามารถเอาคำตัดสินปัจจุบันเป็นบรรทัดฐานใช้กับผู้ถือครองอำนาจรัฐทุกคนได้อย่างเท่าเทียม ผมจะดีใจเป็นล้นพ้น เพราะเชื่อได้เลยว่าน่าจะโดนกันเป็นทิวแถว แต่ในความเป็นจริงคงเป็นที่รู้อยู่แก่ใจ ใครขึ้นมามีอำนาจก็เล่นพรรคเล่นพวกกันทั้งนั้น มิฉะนั้นแม้วมันก็ต้องโดนซิวตั้งแต่ตอนเป็นนายกไปแล้ว ไม่ต้องให้เกิดรัฐประหารถึงเช็คบิลได้หรอก แล้วผมก็อยากถามกลับว่า คุณคิดกันจริงๆ หรือว่าพรรคเทพเนี้ยไม่มีใครซุกหุ้น(ตามบรรทัดฐานของศาลฯตอนนี้)เลยซักคน ผมละอยากเห็นขบวนการรักชาติมีจริงๆ จังครับ :idea:


คดีแรกทักษิณยอมรับว่าหุ้นที่อยู่ในชื่อคนใช้ คนขับรถ เป็นของตัวเองจริงแต่ที่เอาชื่อคนอื่นใส่ไว้ก็ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ

ซึ่งในขณะยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้นมีหุ้นบางตัวที่ไม่รู้ว่าอยู่ในชื่อคนอื่นเนื่องจากเลขาเป็นผู้ดำเนินการให้ หรือบางทีหลงลืม

ไม่ได้มีเจตนาปกปิดทรัพย์สิน เป็นเรื่องของการบกพร่องโดยสุจริต เมื่อศาลฟังว่าทักษิณไม่มีเจตนาปกปิดบัญชีทรัพย์สิน

ก็ยกฟ้องไป ซึ่งประเด็นต่างกันกับในคดียึดทรัพย์นี้ที่ทักษิณสู้ว่า หุ้นไม่ใช่ของตนแต่ศาลฟังว่าหุ้นยังเป็นของทักษิณและมีการ

ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์จึงพิพากษาให้ยึดทรัพย์ครับ

ดังนั้นเมื่อประเด็นต่างกัน คำพิพากษาทั้งสองครั้งจึงไม่ได้มีอะไรขัดกันเลย...

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 2:32 pm
by ooo
คุณจีครับ

ปกติศาลจะไม่วินิจฉัยในประเด็นที่ไม่เป็นสาระแก่คดีหรือไม่มีผลใดๆต่อคำพิพากษา

ถ้าศาลเห็นว่าแค่รับสัมปทานรัฐก็เพียงพอต่อการพิพากษายึดทรัพย์แล้ว

ก็ย่อมไม่มีเหตุผลใดๆที่ศาลจะต้องวินิจฉัยในประเด็นเอื้อประโยชน์อีก

เพราะการจะเอื้อประโยชน์หรือไม่ย่อมไม่ทำให้ผลของคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป

อันที่จริงในคดียึดทรัพย์นี้คตส.ก็ตั้งไปหลายประเด็นซึ่งศาลก็ไม่ได้วินิจฉัยให้ในหลายประเด็น

เหมือนกันนะครับ โดยบอกว่า "ไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลของคำวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไป"

ดังนั้น การที่ศาลวินิจฉัยในประเด็นเอื้อประโยชน์ ย่อมแสดงว่าประเด็นดังกล่าวมีความสำคัญ

อันจะส่งผลถึงคำวินิจฉัย ว่าจะยึดหรือไม่ยึด นะครับ

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 7:34 pm
by Solidus
ooo wrote:
Superb_Mob wrote:ออกตัวก่อนว่าไม่มีความรู้เรื่องกฏหมาย แต่สงสัยว่า หุ้นที่ว่าซุกๆ กันเนี้ยก็เป็นหุ้นตัวเดียวกับสมัยขึ้นศาลฯ ปี 44 ตอนนั้นรอดมาได้ แต่ตอนนี้ไม่รอด แล้วต่อไปจะเอาคำตัดสินตรงไหนเป็นหลักดีครับ ส่วนตัวแล้วถ้าเมืองไทยสามารถเอาคำตัดสินปัจจุบันเป็นบรรทัดฐานใช้กับผู้ถือครองอำนาจรัฐทุกคนได้อย่างเท่าเทียม ผมจะดีใจเป็นล้นพ้น เพราะเชื่อได้เลยว่าน่าจะโดนกันเป็นทิวแถว แต่ในความเป็นจริงคงเป็นที่รู้อยู่แก่ใจ ใครขึ้นมามีอำนาจก็เล่นพรรคเล่นพวกกันทั้งนั้น มิฉะนั้นแม้วมันก็ต้องโดนซิวตั้งแต่ตอนเป็นนายกไปแล้ว ไม่ต้องให้เกิดรัฐประหารถึงเช็คบิลได้หรอก แล้วผมก็อยากถามกลับว่า คุณคิดกันจริงๆ หรือว่าพรรคเทพเนี้ยไม่มีใครซุกหุ้น(ตามบรรทัดฐานของศาลฯตอนนี้)เลยซักคน ผมละอยากเห็นขบวนการรักชาติมีจริงๆ จังครับ :idea:


คดีแรกทักษิณยอมรับว่าหุ้นที่อยู่ในชื่อคนใช้ คนขับรถ เป็นของตัวเองจริงแต่ที่เอาชื่อคนอื่นใส่ไว้ก็ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ

ซึ่งในขณะยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้นมีหุ้นบางตัวที่ไม่รู้ว่าอยู่ในชื่อคนอื่นเนื่องจากเลขาเป็นผู้ดำเนินการให้ หรือบางทีหลงลืม

ไม่ได้มีเจตนาปกปิดทรัพย์สิน เป็นเรื่องของการบกพร่องโดยสุจริต เมื่อศาลฟังว่าทักษิณไม่มีเจตนาปกปิดบัญชีทรัพย์สิน

ก็ยกฟ้องไป ซึ่งประเด็นต่างกันกับในคดียึดทรัพย์นี้ที่ทักษิณสู้ว่า หุ้นไม่ใช่ของตนแต่ศาลฟังว่าหุ้นยังเป็นของทักษิณและมีการ

ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์จึงพิพากษาให้ยึดทรัพย์ครับ

ดังนั้นเมื่อประเด็นต่างกัน คำพิพากษาทั้งสองครั้งจึงไม่ได้มีอะไรขัดกันเลย...
ที่ทำให้ยกฟ้องจริง ๆ มันมาจากกรณีนี้ไม่เข้าประเด็น ม.295 ครับ ที่มี 4 เสียงไงครับ แต่ถ้าถามว่ามันจงใจซุกหรือไม่ซุก อันนี้เสียงที่พิจารณาว่าจงใจมี 7 เสียง ไม่จงใจ 4 เสียง

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Thu Mar 04, 2010 9:03 pm
by Grimmy
ขอบคุณ คุณจีฯ ครับ เข้าใจง่ายขึ้นเยอะ แบบนี้ก้แปลว่าแม้วโดนยึดทรัพย์เพราะ กฎหมายไทยห้ามนายกฯถือหุ้นสัมปทานรัฐ

ส่วนเรื่องทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กิจการตัวเอง นั่นถือว่าศาลท่านจับแม้วแก้ผ้า ลากไส้ให้ ปชช. ได้ตาสว่างกัน :mrgreen:

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Fri Mar 05, 2010 2:24 am
by loginofu
ทีแรกอ้างว่าของตัวให้คนอื่นถือแทน เลยไม่รู้จะแสดงไหม เขาใจดีเชื่อตามนั้นก็ยกโทษให้ครั้งหนึ่งแบบหวุดหวิด
คราวนี้พอรู้ว่าซุกกับคนใช้ไม่ได้ เอาไปซุกที่อื่นแทน เป็นของตัวเองแท้ๆ แล้วก็ไม่ยอมเอามาแสดงเหมือนเดิม
จะอ้างว่าไม่รู้ว่าซุกไม่ได้อีกรอบ ใครมันจะเชื่อหว่า

ประหนึ่งครั้งแรก ไม่พอใจเขาไปฆ่าเขาตาย อ้างว่าไม่เจตนาปืนลั่นไปโดนเอง
ครั้งต่อมา ปืนลั่นซ้ำแบบเดิม ด้วยประเด็นเดิม อ้างแบบเดิมมันก็คุกสิ :lol: :lol: :lol:

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Fri Mar 05, 2010 7:07 am
by Theodore
จะไม่โดนยึดได้ไงว่ะ จะบอกให้
1.ซุกหุ้นสัปทานให้คนรอบข้าง แต่ยังรับเงินปันผล ใครๆเขาก็จับได้ทั้งนั้นแหละ
2.แก้สัปทานที่ต้องจ่ายให้กับรัฐ ที่ต้องจ่ายให้มากที่สุด35% เป็น 20%
3.ปล่อยเงินกู้ให้พม่าแล้วมาซื้อของบริษัทตัวเอง
4.ทำโรมมิ่ง เป็นการเชื่อมต่อเครือข่าย โดยอ้างว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ แต่รัฐเสียผลประโยชน์ เพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเชื่อมต่อก็เอามาหักจากกำไร แล้วค่อยให้รัฐต่ออีกทีนึง
มีอีกเยอะแต่กุจำไม่ได้

แค่ไม่โดนยึดหมดตัวก็บุญโขแล้ว
ไม่งั้นพวกค้ายาบ้ามันก็อ้างได้เหมือนกันนั้นแหละ

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Fri Mar 05, 2010 9:46 am
by jerasak
ooo wrote:คุณจีครับ

ปกติศาลจะไม่วินิจฉัยในประเด็นที่ไม่เป็นสาระแก่คดีหรือไม่มีผลใดๆต่อคำพิพากษา

ถ้าศาลเห็นว่าแค่รับสัมปทานรัฐก็เพียงพอต่อการพิพากษายึดทรัพย์แล้ว

ก็ย่อมไม่มีเหตุผลใดๆที่ศาลจะต้องวินิจฉัยในประเด็นเอื้อประโยชน์อีก

เพราะการจะเอื้อประโยชน์หรือไม่ย่อมไม่ทำให้ผลของคำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป

อันที่จริงในคดียึดทรัพย์นี้คตส.ก็ตั้งไปหลายประเด็นซึ่งศาลก็ไม่ได้วินิจฉัยให้ในหลายประเด็น

เหมือนกันนะครับ โดยบอกว่า "ไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลของคำวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไป"

ดังนั้น การที่ศาลวินิจฉัยในประเด็นเอื้อประโยชน์ ย่อมแสดงว่าประเด็นดังกล่าวมีความสำคัญ

อันจะส่งผลถึงคำวินิจฉัย ว่าจะยึดหรือไม่ยึด นะครับ


ครับคุณ ooo .. ตามที่แย้งมาผมขอสรุปเป็นข้อๆ อีกครั้งก็แล้วกันนะครับ :D

1. หลักสำคัญข้อหนึ่งของกฎหมายก็คือ บุคคลไม่ควรได้รับประโยชน์ใดๆจากการฝ่าฝืนกฎหมาย
2. คุณทักษิณฝ่าฝืนกฎหมายโดยถือหุ้นสัมปทานรัฐระหว่างเป็นนายกฯ ทำให้ร่ำรวยขึ้นเป็นเงิน
หลายหมื่นล้านบาทโดยผิดกฎหมาย
3. คุณทักษิณไม่ควรได้รับผลประโยชน์ใดๆจากการฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว

4. แต่นอกจากคุณทักษิณจะฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อ 2 แล้ว คตส.ยังมีพยานหลักฐานว่าทุจริตด้วย
ใน 5 ประเด็นซึ่งเป็นการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กิจการตัวเอง

5. สำนวนฟ้องของ คตส. จึงระบุให้ลงโทษคุณทักษิณโดยยึดทรัพย์ "ทั้งหมด" ไม่ใช่เฉพาะส่วน-
ที่ได้เพิ่มขึ้นจากการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างเป็นนายกฯ (ตามทฤษฎี "วัวกินหญ้า" ของ อ.แก้วสรร)

6. ศาลจึงต้องวินิจฉัยประเด็นทุจริตตามสำนวนฟ้อง เพื่อตัดสินว่าจะยึดทรัพย์ทั้งหมดหรือเฉพาะ
บางส่วนที่ได้เพิ่มขึ้น การวินิจฉัยประเด็นทุจริตจึงถือได้ว่าเป็นสาระสำคัญของคดี เพราะมีผล
ต่อคำพิพากษา
7. ศาลวินิจฉัยด้วยมติเอกฉันท์ว่า คุณทักษิณซุกหุ้นสัมปทานรัฐระหว่างดำรงตำแหน่งนายกฯจริง
8. ตุลาการเสียงข้างมาก 7 เสียงวินิจฉัยให้ยึดทรัพย์บางส่วน และเสียงข้างน้อย 2 เสียงวินิจฉัยให้
ยึดทรัพย์ทั้งหมด

9. ความเห็นของผมคือ เฉพาะฐานความผิดฝ่าฝืนกฎหมายถือหุ้นสัมปทานรัฐระหว่างเป็นนายกฯ
ก็เพียงพอจะยึดทรัพย์ในส่วนมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผลระหว่างดำรงตำแหน่งนายกฯแล้ว
อ้างอิงตามหลักการข้อ 1

10.ผมเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยที่ไม่ให้คุณทักษิณได้รับประโยชน์จากการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยในส่วน-
การทุจริตก็ให้ไปดำเนินคดีอาญากับคุณทักษิณแยกเป็นเรื่องๆ จะจำคุกหรือปรับเพิ่มอีกก็ว่ากันไป
และในส่วนความเสียหายของรัฐและองค์กรต่างๆ ก็ให้ไปฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายกันต่างหาก

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Fri Mar 05, 2010 2:04 pm
by ริวเซย์
ทรัพย์ที่เหลืออีกราวๆสามหมื่นล้าน อายัดเอาไว้เพื่อรอคดีอื่นต่อไป
หรือศาลสั่งให้คืนเจ้าของครับ

แค่สงสัยว่า ทักษิณมันจะได้เงินคืนทันทีเลยหรือไม่ ในเมื่อเจ้าตัวก็ยัง
เป็นนักโทษหลบหนีคดีอาญาอยู่แบบนี้ แถมยังมีคดีอื่นๆติดตัวอีกมาก
ศาลน่าจะอายัดเงินที่เหลือเพื่อใช้ปรับในคดีอื่นๆต่อไปครับ

Re: ==ข้อสรุปแบบสั้นๆชัดๆของผม เกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ทักษิณ==

PostPosted: Sat Mar 06, 2010 6:43 am
by Solidus
ริวเซย์ wrote:ทรัพย์ที่เหลืออีกราวๆสามหมื่นล้าน อายัดเอาไว้เพื่อรอคดีอื่นต่อไป
หรือศาลสั่งให้คืนเจ้าของครับ

แค่สงสัยว่า ทักษิณมันจะได้เงินคืนทันทีเลยหรือไม่ ในเมื่อเจ้าตัวก็ยัง
เป็นนักโทษหลบหนีคดีอาญาอยู่แบบนี้ แถมยังมีคดีอื่นๆติดตัวอีกมาก
ศาลน่าจะอายัดเงินที่เหลือเพื่อใช้ปรับในคดีอื่นๆต่อไปครับ
เงินที่เหลือศาลสั่งให้คืนเจ้าของครับ แต่ต้องรอคดีจบก่อนครับ ถ้าใน 30 วันนับตั้งแต่วันตัดสินไม่มีการอุทธรณ์ ก็จัดการยึดทรัพย์และคืนเงินที่เหลือครับ ส่วนเรื่องอายัดเงินที่เหลือนี่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น ๆ ที่จะร้องขอทำการอายัด อยู่ ๆ ศาลจะไปอายัดทรัพย์ใครไม่ได้ครับ และก็นึกจะถอนอายัดใครก็ไม่ได้ด้วยหากไม่มีการร้องขอมา