Server Error wrote:ต้องขอคารวะท่านjerasak
ที่มีความเพียรเป็นเลิศ ที่จะอธิบายความ นับถือ นับถือ
ppneer wrote:งานนี้ต้องขอบคุณ คุณsavor ด้วยที่พยายาม หาข้อมูลมาโต้เถียง
จนข้อมูล ในเรื่องกระทู้นี้ อัดแน่นด้วยสาระ และ คิดว่า คุณจี น่าจะได้เป็น ประธานปิดกระทู้
paper punch wrote:ppneer wrote:งานนี้ต้องขอบคุณ คุณsavor ด้วยที่พยายาม หาข้อมูลมาโต้เถียง
จนข้อมูล ในเรื่องกระทู้นี้ อัดแน่นด้วยสาระ และ คิดว่า คุณจี น่าจะได้เป็น ประธานปิดกระทู้
คิดคล้ายๆกับคุณ ppneer เลยครับ แม้ผมจะคิดว่าคุณ savor อาจจะมีอคติบ้าง แต่ก็กลับเป็นผลดีต่อคน
ที่เข้ามาอ่าน เพราะจะได้รู้รายละเอียดแบบครบถ้วน(จากคุณจี)
นึกถึงตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เช่นกันครับ ถ้าเปรียบเป็นตะกร้อ ฝ่ายค้านก็เป็นตัวชง
ชงมาแต่ละเรื่อง รบ.ตบกระจาย ได้แต้มตลอด...
savor wrote:เมื่อคุณอภิสิทธิ์มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ และกำลังศึกษา
ในระดับ ป.ตรี อยู่ที่อังกฤษ ทาง กพ. ที่ดูแลคุณอภิสิทธิ์
ในฐานะนักเรียนไทยในอังกฤษ ได้ขอผ่อนผันการเกณฑ์-
ทหารให้คุณอภิสิทธิ์ตลอดหลักสูตร ป.ตรี จนถึงปี 2529
หลังสำเร็จการศึกษาระดับ ป.ตรี ในปี 2529 และทาง
อ็อกซฟอร์ดยินดีรับให้เรียนต่อระดับ ป.โท คุณอภิสิทธิ์
ก็เดินทางกลับประเทศไทย โดยมีพันธะทางทหารต้องไป
แสดงตนขอรับใบ สด.9 ที่ล่าช้าไม่ได้ดำเนินการมานาน
หลายปีแล้ว
แสดงว่า ใบผ่อนผัน ใบแรกหมดอายุเมื่อกลับมาในปี 2529 ( ซึ่งก็คือก่อน 4 ก.ค. 2529 ) แล้วก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า ทางอภิสิทธิ์ไปขอหนังสือผ่อนผันฉบับใหม่
ส่วนเรื่องบอกว่า ทาง Oxford ยินดีรับให้เรียนต่อ ป.โท เป็นข้อความที่หลักลอยไม่มีอะไรรองรับครับ
savor wrote:เมื่อกลับถึงเมืองไทยกลางปี 29 คุณอภิสิทธิ์ไปแสดงตน
รับใบ สด.9 แล้วเอาใบ สด.9 ไปประกอบในการยื่นขอ
เรียนต่อ ป.โท ในความดูแลของ กพ. อีกครั้ง
ทาง กพ. ตรวจสอบทราบว่า อ็อกฟอร์ด รับคุณอภิสิทธิ์
เข้าเรียนต่อ ป.โท จริง จึงทำเรื่องขอผ่อนผันให้ ตั้งแต่-
ปลายปี 2529 ทำให้คุณอภิสิทธิ์มีรายชื่อได้รับการผ่อนผัน
ช่วงปี 2530-2532
เป็นการสมมติซ้อนสมมติครับ เพราะยังไม่มีความแน่ใจในเรื่องที่ว่า Oxford รับอภิสิทธิ์จริงหรือเปล่า ? แน่ใจว่า อภิสิทธิ์ มีความตั้งใจจะเรียนต่อที่ Oxford แน่เหรอ ?
ก็ต้องมาสมมติต่อเสียแล้วว่า ก.พ. อนุญาตให้อภิสิทธิ์ผ่อนผันได้
savor wrote:เมื่อได้รับการผ่อนผันฯ แล้ว คุณอภิสิทธิ์ได้ไปสมัคร
เข้ารับราชการทหาร เป็นอาจารย์ที่ รร.จปร. ตั้งแต่ก่อน
วันที่ 18 มี.ค. 30 โดยมีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย
คือมี สด.9 และเป็นผู้อยู่ระหว่างได้รับการผ่อนผันฯ
เนื่องจากเป็นช่วงเวลาก่อนถึงกำหนดเกณฑ์ทหาร
ก็ขัดแย้งกับคำพูดในสภาอีก...ขณะเดียวกัน ท่านก็บอกว่า 1.ถ้าอายุไม่ถึง 21 ก็เอาสด.9 ไปสมัคร และ 2.ถ้าเกินกว่า 21 ปี ต้องมีทั้งสด.9และสด.43 หรือมีหนังสือผ่อนผัน
หลักฐานในการสมัครต้องมีหนังสือผ่อนผัน
แล้วจากผลการสอบสวนก็คือ นายอภิสิทธิ์ไม่ส่งหนังสือผ่อนผันก่อนได้รับบรรจุอย่างแน่นอน
ตกลงแล้วคุณอภิสิทธิ์ใช้วิชามารสำนักอะไร เขาถึงยอมบรรจุให้ครับ หน่วยงานเบื้องบนทักท้วงมาก็ดื้อไม่ฟัง
savor wrote:จุดประสงค์ที่คุณอภิสิทธิ์สมัครเข้ารับราชการทหาร
เป็นอาจารย์ที่ รร.จปร. มี 2 ด้านด้วยกัน คือ
1. ได้รับราชการตามพันธะทางทหารให้ครบตามกำหนด
2. รอแต่งงานกับคุณพิมพ์เพ็ญ ที่จะเรียบจบทันตแพทย์
ในอีกประมาณ 1 ปีข้างหน้า แล้วไปอยู่อังกฤษด้วยกัน
ระหว่างที่คุณอภิสิทธิ์เรียนต่อ ป.โท
ระหว่างการพิจารณารับสมัครเข้า รร.จปร. ช่วงเดือน
มี.ค. 30 ทาง สบ.ทบ. มีหนังสือขอเอกสารเพิ่มเติม
คือ หนังสือผ่อนผันฯ จากนั้นก็ได้อนุมัติตามลำดับชั้น
จาก สบ.ทบ. ผ่านไปยัง กพ.ทบ. โดยไม่ทวงถามอีก
ก็ถึงถามไงครับ คุณมี วิชามาร อะไร... ใครทักท้วงอะไรมาต้องเงียบหมดเลย
โธ่... ถ้ามันถูกต้องเป๊ะๆจริงๆ ไม่มีทางเกิดผลสอบปี 42 ขึ้นมาได้หรอกครับ
savor wrote:อ้อ... แล้วผมมาสังเกตจากช่วงเวลาของเรื่องนี้อีกอย่างครับ
อภิสิทธิ์ ยื่นสมัครเป็น อ. จปร. ก่อนวันที่ 18 มี.ค. 30 ( เพราะวันที่ จปร. เอาหลักฐานของทุกคนมากองขยุมๆรวมกันมันวันที่ 18 )
ถึงกำหนดเกณฑ์ทหารวันที่ 7 เม.ย. 30
นายอภิสิทธิ์ได้รับการบรรจุเข้าเป็น อ. จปร. วันที่ 7 ส.ค. 30
นี่ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่ได้รับการบรรจุเป็น อ. จปร. จะเกิดอะไรขึ้นครับ ???
แล้วนายอภิสิทธิ์มั่นใจได้อย่างไรว่า จะได้รับการบรรจุแน่นอน 100% จนถึงกับไม่นำหนังสือผ่อนผัน ( ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่า ) ไปยืนยันที่คัดเลือกทหาร
jerasak wrote:เรื่องหนังสือผ่อนผันฯ ถ้าคุณ savor จะไม่เชื่อก็ควรมีเหตุผลรองรับนะครับ
ว่ามันเป็นไปไม่ได้อย่างไรที่คุณอภิสิทธิ์จะมีหนังสือผ่อนผัน
- คุณอภิสิทธิ์ไ่ม่มีปัญญาเรียนต่อ เพราะสมองไม่ดีพอ?
- คุณอภิสิทธิ์ไ่ม่มีเงินเรียนต่อ เนื่องจากทางบ้านยากจน และหาทุนไม่ได้?
- อ็อกซฟอร์ดไม่สะดวกที่จะรับคุณอภิสิทธิ์เข้าเรียนต่อ เพราะเกรดไม่ถึง?
คุณอภิสิทธิ์ชี้แจงในสภาฯ แล้วว่ามีหนังสือผ่อนผันฯ ที่ดำเนินการโดย กพ.
การที่ กพ. ขอหนังสือผ่อนผันให้แสดงว่าคุณอภิสิทธิ์ต้องอยู่ในความดูแล
จะเป็นนักเรียนในความดูแลของ กพ. ก็ต้องได้รับการตรวจสอบจาก กพ.
แล้วว่า ม.อ็อกซฟอร์ด ตอบรับให้คุณอภิสิทธิ์เข้าศึกษาต่อ..
ในที่สุดผมก็ไปค้นพบเอกสาร แล้วก็มีชื่อผมอยู่ในฐานะผู้ได้รับการผ่อนผันปี 30-32 เพราะผมมีความตั้งใจจะไปศึกษาต่อ
jerasak wrote:
ตอนนี้ที่อ้างอิงได้ก็คือคำพูดของนายกฯ กับเอกสารที่นำมาแสดงในสภาฯ
จะพูดจริงหรือไ่ม่ มีเอกสารจริงหรือไม่ ผมไม่มีเอกสารอยู่ในมือนะครับ
แต่ผมไม่เห็นว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณอภิสิทธิ์จะมีหนังสือผ่อนผันฯ จริง
และฝ่ายค้านก็สามารถไปขอตรวจสอบกับทาง กพ. ได้
ถ้าหากมีรายชื่อคุณอภิสิทธิ์ได้รับการผ่อนผันจาก กพ. ก็คงไม่จำเป็นต้อง-
ตรวจสอบกับทาง ม.อ็อกซฟอร์ด อีก (นอกจากบางคนจะสงสัยไม่เลิก )
ตอนนี้ก็เลยวันที่อภิปรายมาหลายวันพอสมควรแล้ว ผมไม่เห็นมีฝ่ายค้าน
ออกมาโวยวายว่าจับโกหก นายกฯ ได้เลยครับ
...
ในเมื่อฝ่ายกล่าวหาไม่สามารถหักล้างคำพูดและเอกสารของคุณอภิสิทธิ์
ผมยังถือว่า ณ ตอนนี้เรื่องมาหยุดอยู่ที่นายกฯ ชี้แจงไว้อย่างไรนะครับ
ถ้าอยากจะกล่าวหาต่อเป็นตาของฝ่ายคุณ savor แล้วที่จะต้องหักล้าง
ต่อให้ นายกฯ เอาสำเนาเอกสารมาให้ดู พวกคุณก็คงหาว่าทำปลอมอีก
ดังนั้นถ้าจะกล่าวหาต่อไปก็ต้องหาทางหักล้างคำพูดนายกฯ ให้ได้ครับ
ถ้าหักล้างไม่ได้ก็ต้องถือคำพูดนายกฯ เป็นข้อยุติชั่วคราว
jerasak wrote:
ผมอธิบายเรื่องราวโดยอ้างอิงคำพูดของคุณอภิสิทธิ์ครับ
จุดประสงค์ก็คือ เพื่อให้เห็นภาพเหตุการณ์โดยตลอดว่า
เรื่องราวเป็นไปได้ หรือไม่ อย่างไร..
ถ้าคุณ savor ไม่เืชื่อว่าอ็อกซฟอร์ดรับคุณอภิสิทธิ์จริง
ก็ต้องไปหาข้อมูลมาหักล้างนะครับ
หรือถ้าไม่เชื่อว่า กพ. ทำเรื่องผ่อนผันฯ ให้คุณอภิสิทธิ์
ก็ต้องไปหาหลักฐานมาหักล้างเช่นเดียวกัน
หรือถ้าคุณ savor ไม่มีหลักฐานหักล้าง ก็ต้องวิเคราะห์
ว่าการอธิบายเรื่องราวของผมไม่สมเหตุสมผล หรือมี
จุดผิดพลาด เป็นไปไม่ได้ตรงไหน
...
ไม่อย่างนั้นก็เป็นการค้านลอยๆ ใช้หลัก "ไม่เชื่อ"
เป็นข้ออ้างแบบครอบจักรวาล ซึ่งมันต้องได้ผลแน่ๆ
เพราะไม่มีใครสามารถหาหลักฐานทั้งโลกมาให้ดูได้
คุณ savor จะลองดูไหมครับว่า มีหลักฐานอะไรที่จะ
หักล้างคำพูดคุณอภิสิทธิ์ว่าไม่จริงบ้าง หรือมีตรงไหน
ที่ผมอธิบายแล้่วไม่สมเหตุสมผล เป็นไปไม่ได้บ้าง
jerasak wrote:
ผลการสอบสวนพอสรุปได้แค่ คุณอภิสิทธิ์ไม่ส่งหนังสือผ่อนผันฯ ก่อนได้รับบรรจุ
เอกสารที่ ฝ่ายค้าน และ นปช. นำมาใช้โจมตีคุณอภิสิทธิ์ก็มีแต่ใบบันทึกข้อความ
ไม่ได้เป็นตัวรายงานจริงๆ ในรายงานอาจจะบอกเหตุผลก็ได้ว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่จึง
พิจารณารับคุณอภิสิทธิ์โดยไม่ทักท้วงซ้ำสอง
jerasak wrote:การที่เจ้าหน้าที่ทหารไม่เจอว่าคุณอภิสิทธิ์ส่งหนังสือผ่อนผันฯ ให้ รร.จปร.
ไม่ได้หมายถึงคุณอภิสิทธิ์ไม่ได้รับการผ่อนผันฯ นะครับ
การขาดส่งเอกสารมีโทษปรับเท่านั้น ถ้าเป็นผู้ได้รับผ่อนผันฯ ก็ยังมีสิทธิ์ผ่อนผันฯ
เท่ากับว่าไม่ได้ขาดคุณสมบัติในการสมัครเข้า รร.จปร. แต่อย่างใด
จนถึงป่านนี้ ฝ่ายค้าน กับ นปช. สามารถหักล้างคำพูดคุณอภิสิทธิ์ได้หรือยังล่ะครับ
ว่าไม่ได้เป็นผู้ได้รับผ่อนผันฯ ตามที่กล่าวอ้างในสภาฯ
ถ้าไม่สามารถหักล้าง ก็เท่ากับดื้อค้านแบบลมๆ แล้งๆ เท่านั้นเอง
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่แต่ละระดับได้พิจารณาอนุมัติบรรจุคุณอภิสิทธิ์โดยไม่มีใครคัดค้านอีกหลังจากขอเอกสารเพิ่มเติมแล้วครับ
jerasak wrote:
มาเก็บตกคำถามอีกเล็กน้อย
ถ้าคุณอภิสิทธิ์ไม่ได้รับการบรรจุเป็น อาจารย์ รร.จปร. ก็ไ่ม่เกิดอะไรขึ้นหรอกครับ
เพราะเป็นผู้กำลังได้รับการผ่อนผันอยู่ ตามกฎหมายก็ไ่ม่ต้องไปเกณฑ์ทหารอยู่แล้ว
แต่จะมีการเปลี่ยนแผนไปเรียนต่อ ป.โท หรืออย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ
ผมเข้าใจผิดตอนแรกคิดว่าต้องมีการนำหนังสือผ่อนผันฯ ไปแสดงในวันเกณฑ์ทหาร
แต่หลังจากตรวจสอบแล้วก็พบว่า ตามกฎหมายไม่ต้องไปทำอะไรเลยครับ
savor wrote:jerasak wrote:
มาเก็บตกคำถามอีกเล็กน้อย
ถ้าคุณอภิสิทธิ์ไม่ได้รับการบรรจุเป็น อาจารย์ รร.จปร. ก็ไ่ม่เกิดอะไรขึ้นหรอกครับ
เพราะเป็นผู้กำลังได้รับการผ่อนผันอยู่ ตามกฎหมายก็ไ่ม่ต้องไปเกณฑ์ทหารอยู่แล้ว
แต่จะมีการเปลี่ยนแผนไปเรียนต่อ ป.โท หรืออย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ
ผมเข้าใจผิดตอนแรกคิดว่าต้องมีการนำหนังสือผ่อนผันฯ ไปแสดงในวันเกณฑ์ทหาร
แต่หลังจากตรวจสอบแล้วก็พบว่า ตามกฎหมายไม่ต้องไปทำอะไรเลยครับ
มันจะเปลี่ยนแผนได้หรือครับ ??? ในเมื่อตรงนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าที่ อภิสิทธิ์ ไปแจ้งเหตุผลขอผ่อนผัน ( ถ้าเคยแจ้งจริงๆ ) เป็น เท็จ ทั้งสิ้นเลย
แล้วเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อดีครับ ผมก็ยากจะคาดเดา...
savor wrote:โธ่... นี่เรากำลังพูดถึงเรื่อง ความตั้งใจ นะครับ...
ต่อให้ อภิสิทธิ์ จบการศึกษาด้วยเกรด 4.00 ที่บ้านรวยเป็นหมื่นล้าน
มันก็ไม่มีทางได้หนังสือผ่อนผันครับ ถ้าคุณไม่มีความตั้งใจที่จะผ่อนผัน และดำเนินการแล้ว
คุณพูดยังกับมีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน มีความตั้งใจ แล้วหนังสือผ่อนผันมันจะลอยมาเองยังงั้นแหละ
ซึ่งอันเนี้ย คุณก็ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้ ว่า อภิสิทธิ์ ในตอนนั้นมีความตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ???
แม้แต่คำชี้แจงของ อภิสิทธิ์ ก็ตอบได้ไม่ครอบคลุมครับ...ในที่สุดผมก็ไปค้นพบเอกสาร แล้วก็มีชื่อผมอยู่ในฐานะผู้ได้รับการผ่อนผันปี 30-32 เพราะผมมีความตั้งใจจะไปศึกษาต่อ
ตอบไม่ได้เลยว่า คุณไปขอผ่อนผันตอนไหนกันแน่ ? หลัง 7 เม.ย. 30 หรือยัง ? แล้วทำไมคุณถึงไม่ส่ง หนังสือผ่อนผัน ให้เจ้าหน้าที่ล่ะ ?
ส่วนเรื่องความตั้งใจอันนี้หลักลอยครับ ไม่มีผลต่อการชี้แจง...
aumm wrote:
แล้วทำไมมันจะเปลี่ยนแผนไม่ได้ล่ะครับ? ปกติถ้ามหาลัยตอบรับเข้าศึกษาต่อ เค้าไม่มีเขียนไว้หรอกครับว่าถ้าคุณไม่เข้ามาเรียนภายในเทอมถัดไปแล้วเค้าจะไม่เอาคุณ
แล้วอีกอย่าง ทำไมคุณอภิสิทธิ์จะต้องเป็นผู้ไปหาหลักฐานต่างๆมาอธิบาย "ความสงสัย" ของอีกฝ่ายด้วยล่ะครับ? ในเมื่อคุณอภิสิทธิ์เป็น "ผู้ถูกกล่าวหา" ดังนั้น ก็เป็นหน้าที่ของ "ผู้กล่าวหา" ที่จะต้องหาหลักฐานที่เชื่อถือได้มาประกอบ "คำกล่าวหา"
ถ้าหลักฐานที่นำมากล่าวอ้าง ไม่ใช่สิ่งที่พิสูจน์ได้โดยไม่มีข้อโต้แย้งทางกฎหมาย มันก็เป็นแค่การ "กล่าวหา" นะครับ ยังไม่ใช่ว่าเค้าจะผิดจริงๆ และคนที่จะชี้ได้ว่ามันผิดจริงหรือเปล่าก็ต้องเป็นศาล.... ผมว่าถ้าอีกฝ่ายแน่ใจว่าคุณอภิสิทธิ์ผิดจริง ก็ฟ้องศาลไปเลยสิครับ ไม่ใช่คอยเลี้ยงประเด็นไว้ discredit กันอย่างที่เป็นอยู่
savor wrote:jerasak wrote:
ตอนนี้ที่อ้างอิงได้ก็คือคำพูดของนายกฯ กับเอกสารที่นำมาแสดงในสภาฯ
จะพูดจริงหรือไ่ม่ มีเอกสารจริงหรือไม่ ผมไม่มีเอกสารอยู่ในมือนะครับ
แต่ผมไม่เห็นว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณอภิสิทธิ์จะมีหนังสือผ่อนผันฯ จริง
และฝ่ายค้านก็สามารถไปขอตรวจสอบกับทาง กพ. ได้
ถ้าหากมีรายชื่อคุณอภิสิทธิ์ได้รับการผ่อนผันจาก กพ. ก็คงไม่จำเป็นต้อง-
ตรวจสอบกับทาง ม.อ็อกซฟอร์ด อีก (นอกจากบางคนจะสงสัยไม่เลิก )
ตอนนี้ก็เลยวันที่อภิปรายมาหลายวันพอสมควรแล้ว ผมไม่เห็นมีฝ่ายค้าน
ออกมาโวยวายว่าจับโกหก นายกฯ ได้เลยครับ
...
ในเมื่อฝ่ายกล่าวหาไม่สามารถหักล้างคำพูดและเอกสารของคุณอภิสิทธิ์
ผมยังถือว่า ณ ตอนนี้เรื่องมาหยุดอยู่ที่นายกฯ ชี้แจงไว้อย่างไรนะครับ
ถ้าอยากจะกล่าวหาต่อเป็นตาของฝ่ายคุณ savor แล้วที่จะต้องหักล้าง
ต่อให้ นายกฯ เอาสำเนาเอกสารมาให้ดู พวกคุณก็คงหาว่าทำปลอมอีก
ดังนั้นถ้าจะกล่าวหาต่อไปก็ต้องหาทางหักล้างคำพูดนายกฯ ให้ได้ครับ
ถ้าหักล้างไม่ได้ก็ต้องถือคำพูดนายกฯ เป็นข้อยุติชั่วคราว
โธ่ถัง... คำพูดของนายกถือเป็นหลักฐานได้หรือครับ ???
แล้วคุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ...
การที่ฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาว่า ทำไม อภิสิทธิ์ ไม่ส่งหนังสือผ่อนผันให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วเขารับเข้าบรรจุได้อย่างไร ?
เป็นหน้าที่ของ อภิสิทธิ์ แล้วครับ ที่จะแสดงเอกสารหนังสือการผ่อนผัน
แล้วฝ่ายตรงข้ามถึงจะมาตรวจสอบเรื่องเหตุผล และวันที่ที่ขอผ่อนผันอีกที
เอะอะ... มาโยนให้ฝ่ายค้านไปหามาหมด แบบนี้ก็แย่สิครับ ก็เขาหาหลักฐานมาได้แล้วน่ะ ว่าคุณไม่ส่งหนังสือผ่อนผันก่อนเข้าบรรจุ
jerasak wrote:
ถ้าอย่างนั้น คุณ savor ก็ชวนผมคุยเรื่องที่ไม่มีข้อยุติแล้วครับ
ไร้สาระครับถ้าคุณ savor บอกว่ากำลังคุยประเด็น "ความตั้งใจ"
เพราะมันเป็นเรื่องนามธรรม..
ขนาดคุณอภิสิทธิ์บอกกับปากแล้วว่า "ตั้งใจ" คุณยังไม่เชื่อเลย
...
เราควรคุยกันในเรื่องที่หาข้อยุติได้ เช่น มีหนังสือผ่อนผันฯ-
จริงหรือไม่ ถ้าคุณ savor ไม่เชื่อก็ควรมีเหตุผลมารองรับว่า
มันเป็นไปไม่ได้อย่างไร ที่คุณอภิสิทธิ์จะมีหนังสือผ่อนผันฯ
หรืออีกทางหนึ่ง ถ้าคุณ savor มีหลักฐานอะไรจะมาหักล้าง
ว่าคุณอภิสิทธิ์ไม่มีหนังสือผ่อนผันฯ ก็ไปหามานะครับ
*ถ้าจะเล่นมุกทวงถามเอกสารยืนยันไปเรื่อยๆ ไม่มีใครมีเวลา
และความสามารถไปหามาให้ คุณ savor ได้หมดหรอกครับ*
แค่บัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านคุณอภิสิทธิ์ผมก็ไม่มีแล้ว
เกิดคุณ savor สงสัยว่านายกฯ ไม่ใช่คนไทยผมจะทำยังไง
...
ลืมตอบ.. เรื่องการขอผ่อนผันฯ คุณอภิสิทธิ์บอกชัดเจนแล้ว
ว่า มีชื่อได้รับผ่อนผันตั้งแต่ปลายปี 29 ยังต้องถามหรือครับ
ว่าขอผ่อนผันฯ หลัง 7 เม.ย. 30 หรือเปล่า
เรื่องไม่ส่งหนังสือผ่อนผันฯ ผมไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า เห็นว่า-
มีการพูดทวงถามในวันที่ 20 แล้วก็ไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มอีก
ความจริงถ้าคุณจตุพรจะตรวจสอบจริงๆ ไม่ต้องรอนายกฯ
หรอกครับ ไปตรวจสอบตรงๆ กับ กพ. เขาก็ตอบให้ได้แล้ว
อยู่ที่ว่ากล้าไปหรือเปล่า
ลืมตอบ.. เรื่องการขอผ่อนผันฯ คุณอภิสิทธิ์บอกชัดเจนแล้ว
ว่า มีชื่อได้รับผ่อนผันตั้งแต่ปลายปี 29 ยังต้องถามหรือครับ
ว่าขอผ่อนผันฯ หลัง 7 เม.ย. 30 หรือเปล่า
ในที่สุดผมก็ไปค้นพบเอกสาร แล้วก็มีชื่อผมอยู่ในฐานะผู้ได้รับการผ่อนผันปี 30-32 เพราะผมมีความตั้งใจจะไปศึกษาต่อ
jerasak wrote:
ถือเป็นหลักฐานได้ครับ กรณีนี้นำไปใช้ในศาลได้เลยด้วยซ้ำ
แล้วคุณ savor กลับไปอ่านดูอีกที ผมบอกว่ามีอ้างอิงได้อยู่
2 อย่างคือ คำพูดนายกฯ กับ เอกสารที่แสดงในสภา
ในเมื่อนายกฯ แสดงเอกสารพร้อมระบุว่าคืออะไร ก็ตามไป
ตรวจสอบตามที่นายกฯ อ้างอิงไว้ได้ครับ ซึ่งในที่นี้ก็คือ กพ.
การอ้างว่านายกฯ ไ่ม่ส่งเอกสาร เหมือนกับเล่นเกมส์เท่านั้น
ถ้านายกฯ ไม่ให้เอกสาร แล้วฝ่ายค้านไม่มีปัญญาตรวจสอบ
ก็ลาออกไปเถอะครับอย่าเป็นเลย ส.ส.ฝ่ายค้าน
savor wrote:ลืมตอบ.. เรื่องการขอผ่อนผันฯ คุณอภิสิทธิ์บอกชัดเจนแล้ว
ว่า มีชื่อได้รับผ่อนผันตั้งแต่ปลายปี 29 ยังต้องถามหรือครับ
ว่าขอผ่อนผันฯ หลัง 7 เม.ย. 30 หรือเปล่า
โธ่... ผมอุตส่าห์ไปหามาแปะให้แล้วว่า อภิสิทธิ์ อ้างว่ามีรายชื่อปี 30 คุณยังมาทำมึนเป็นปี 29 ได้ในที่สุดผมก็ไปค้นพบเอกสาร แล้วก็มีชื่อผมอยู่ในฐานะผู้ได้รับการผ่อนผันปี 30-32 เพราะผมมีความตั้งใจจะไปศึกษาต่อ
แล้วก็ จตุพร เขาจะตรวจสอบทำไมครับ... จตุพร ไม่ได้มีหน้าที่แก้ต่างให้ อภิสิทธิ์ นะครับ
ถ้า อภิสิทธิ์ แน่จริง ก็โชว์หนังสือผ่อนผันตัวจริงพร้อมเหตุผลเลยจะดีกว่าครับ
savor wrote:อันนี้คุณเข้าใจผิดนะครับ...
ที่ผมพิมพ์หมายถึง อภิสิทธิ์ไม่ส่งหนังสือผ่อนผันให้กับเจ้าหน้าที่ จปร.
ไม่เกี่ยวกับเรื่องในสภา และในสภา อภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้กล่าวถึงเอกสารตัวนี้เลย มีแต่บัญชีรายชื่อผ่อนผัน