ในหลวงกับการพัฒนา

เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับพระราชวงศ์ไทย เทิดพระเกียรติในหลวงและราชวงศ์จักรีที่ห้องนี้ครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

ในหลวงกับการพัฒนา

Postby bluedog » Mon Jun 13, 2011 1:43 pm

ในหลวงกับการพัฒนา

วันที่ 9 มิถุนายน 2554 นี้ เป็นวันมหามงคล ด้วยพระบาทสมเด็พระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นระยะเวลาถึง 65 ปี และเป็น 65 ปีที่ทรงอุทิศพระวรกายพระสติปัญญาด้วยพระวิริยะอุตสาหะ มิทรงย่อท้อต่อความเหน็ดเหนื่อย ทรงให้เวลาส่วนใหญ่กับการเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ต่าง ๆทั่วผืนแผ่นดินไทย ทำให้ทรงทอดพระเนตรเห็นสภาพความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎร ดังนั้นพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติโดยได้ทำการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง เพื่อหาแนวทางแก้ไขอันที่จะเอื้ออำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนและชาติบ้านเมือง

หลังจากที่เสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นการถาวร ได้ทรงเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรด้วยการเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยพระองค์เอง ทรงพบว่าสภาพบ้านเมืองตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรส่วนใหญ่ยังประสบกับความลำบาก ในระยะแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 เป็นการพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในเรื่องสุขภาพอนามัยของพสกนิกร และเมื่อปี พ.ศ. 2495 ได้เสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎรอย่างเป็นทางการ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้พระราชทานพระราชดำริให้ช่วยเหลือราษฎรด้วยการสร้างถนนเข้าบ้านห้วยมงคล เนื่องด้วยราษฎรมีความยากลำบากในการคมนาคม การเดินทางเพื่อจำหน่ายผลผลิตและเข้าไปในตัวเมืองเพื่อรับการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก

นับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริโครงการแรกแห่งการพัฒนา ด้วยราษฎรมีความยากลำบากในการคมนาคม การเดินทางเพื่อจำหน่ายผลผลิตและเข้าไปในตัวเมืองเพื่อรับการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆเป็นไปด้วยความยากลำบาก ปัจจุบันราษฎรได้รับความเจริญเพิ่มขึ้นมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกมีสาธารณูปโภคครบถ้วน ชีวิตและครอบครัวมีความสุขโดยทั่วกัน ซึ่งในปัจจุบันคือ ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และที่แห่งนี้ได้เป็นต้นแบบของการพัฒนาอีกมากมายกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
User avatar
bluedog
 
Posts: 146
Joined: Fri Mar 11, 2011 1:52 pm

Re: ในหลวงกับการพัฒนา

Postby keyboard » Mon Jun 13, 2011 1:48 pm

Re: ในหลวงกับการพัฒนา

หลังจากนั้นโครงการพระราชดำริทางด้านชลประทานแห่งแรกได้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2496 ที่อำเภอหัวหิน ได้แก่ การสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรจากภาวะแห้งแล้ง และในปีเดียวกันนั้น โครงการช่วยเหลือทางด้านประมงก็ถือกำเนิดขึ้นคือ การพระราชทานพันธุ์ปลาหมอเทศ ให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศนำไปเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ให้แก่ราษฎรในหมู่บ้านของตนจะได้มีอาหารโปรตีนเพิ่มขึ้น

นอกจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังเสด็จฯไปทรง เยี่ยมเยียนราษฎรในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศอย่างทั่วถึง ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน ซึ่งในขณะนั้นได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งกันดารและยากจนที่สุด มีราษฎรมาเฝ้าฯ รับเสด็จเป็นจำนวนมาก พื้นที่ภาคเหนือได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมในปีถัดมา ปี พ.ศ. 2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎร โดยขบวนรถไฟพระที่นั่ง และในปี พ.ศ. 2501 ได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรภาคใต้ และหลังจากนั้นเป็นต้นมาได้เสด็จพระราชดำเนินทุกภาคของประเทศเป็นประจำทุกปีเพื่อทอดพระเนตรชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรและพระราชทานความช่วยเหลือตามความต้องการของราษฎรและช่วยในการบรรเทาแก้ไขปัญหาความแห้งแล้ง การประกอบอาชีพ ทรัพยากรธรรมชาติที่มีแต่ให้ประโยชน์ให้กลับมามีสภาพที่สมบูรณ์ขึ้น ขณะเดียวกันปัญหายาเสพติดและปัญหาภัยคุกคามตามแนวชายแดนได้พระราชทานพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาได้อย่างแยบยล

การเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทุกภูมิภาคของประเทศ ทำให้พระองค์มีข้อมูลที่ได้ศึกษาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพบ้านเมือง ภูมิ ประเทศ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ การดำรงชีพ มาวิเคราะห์ คิดค้น หาทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นข้อเดือดร้อนของราษฎร ในการพระราชทานโครงการพระราชดำรินั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ความรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง ทรงมีการศึกษาค้นคว้า เพื่อการพัฒนาแบบยั่งยืนให้ราษฎรสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต ดังที่ได้ก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่งขึ้นในทุกภาคของประเทศ

จากคำกล่าวของ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ถึงการทรงงานด้านการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานปาฐกถาพิเศษ “84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา” ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับ สำนักราชเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา และสำนักงบประมาณ เมื่อวันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2554 ได้กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทพระวรกายในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดาร และพระราชทานโครงการพัฒนาด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือราษฎรของพระองค์ทั่วทุกภูมิภาคมากกว่า 60 ปี

ไม่ว่าจะอยู่ไกลใกล้ต่างได้รับประโยชน์และความสุขโดยทั่วกัน ตลอดระยะเวลาที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ พระองค์ทรงเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น และทรงตระหนักถึงแนวทางการดำเนินงานที่ควรปรับปรุง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ต่าง ๆ ตามความหลากหลายของสภาพภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และสังคมในพื้นที่ ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนานั้น ๆ ตั้งอยู่

“โครงการที่ดำเนินการ ได้รับความร่วมมือจากหลายส่วน หลายหน่วยงาน ไม่ว่ากรม กอง รวมทั้งมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ครอบคลุมหลากหลายประเด็น นับตั้งแต่ อาหาร การผลิตด้านการเกษตร และสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นการหาวิธีเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลผลิต ควบคู่กับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังจะเห็นได้จากลักษณะงานที่ได้ดำเนินการตามสถานีทดลอง ศูนย์วิจัย ทั้งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบและที่สูง ในเขตน้ำจืดหรือน้ำเค็มทั่วประเทศในทุกวันนี้ที่ต่างได้เอื้อต่อการประกอบอาชีพและการมีชีวิตที่มีคุณภาพของราษฎรทั่วทั้งประเทศ” องคมนตรี กล่าว

การดำเนินงานตามแนวพระราชดำริที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ ภายใต้การสนับสนุนและการประสานงานของสำนักงาน กปร. กว่า 30 ปี ได้อำนวยประโยชน์และสร้างความสุขให้แก่ราษฎรชาวไทยมากมายมหาศาล ซึ่งทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและควรอย่างยิ่งที่คนไทยทุกคนควรช่วยกันและร่วมกันสานต่อพระราชดำริเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน สังคมและประเทศชาติสืบต่อไป.
User avatar
keyboard
 
Posts: 39
Joined: Thu May 26, 2011 3:16 pm

Re: ในหลวงกับการพัฒนา

Postby babycat » Mon Jun 13, 2011 2:22 pm

นอกจากจะทรงเป็นผู้จุดประกายด้านคอมพิวเตอร์ให้กับเมืองไทยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงเสาะแสวงหาความรู้ด้านคอมพิวเตอร์จนทรงเชี่ยวชาญด้วยพระองค์เองด้วย สถานีวิทยุ อสมท ก็ได้เคยเผยแพร่ไว้ในเรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการพัฒนา (ตอนที่ ๔) ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในกิจการสื่อสารอุตุนิยมวิทยา และทรงพระปรีชาสามารถในการพยากรณ์ลักษณะอากาศได้อย่างแม่นยำมาก ทรงหาข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อมาประกอบพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ทรงใช้หาข้อมูลก็คือคอมพิวเตอร์นั่นเอง แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงใช้คอมพิวเตอร์เพียงแค่หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเท่านั้น พระองค์ท่านยังทรงศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่นด้วย เช่นใช้ทำโน๊ตเพลง ใช้แสดงตัวอักษรเทวนาครีบนจอภาพ ทรงคิดรูปแบบตัวอักษรภาษาไทยสำหรับใช้ส่วนพระองค์ ทรงใช้คอมพิวเตอร์ปรุงข้อความพระราชทานพรปีใหม่ พร้อมแง่คิด คำคมที่เป็นประโยชน์ ให้แก่บรรดาทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติภารกิจในท้องถิ่นทุรกันดารอีกด้วย โดยข้อความพระราชทานพรปีใหม่ หรือ “บัตร ส.ค.ส”ที่ต่อมาทรงทำต่อเนื่องทุกปีนี้
User avatar
babycat
 
Posts: 266
Joined: Wed Aug 11, 2010 2:01 pm

Re: ในหลวงกับการพัฒนา

Postby เพียงดิน2889 » Mon Jun 13, 2011 4:47 pm

พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก เพราะทรงใช้ในการทรงงานเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจต่าง ๆ เช่น โครงการฝนหลวง โครงการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำ โครงแก้ไขปัญหาจราจร โครงการแก้มลิง เพราะทรงใช้สืบค้นข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเหล่านี้ โดยการใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อมโยงค้นหาข้อมูลนำมาใช้ประโยชน์ในโครงการ หรือการใช้แก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ เป็นต้น
User avatar
เพียงดิน2889
 
Posts: 158
Joined: Mon Feb 07, 2011 5:39 pm

Re: ในหลวงกับการพัฒนา

Postby kuron23 » Tue Jun 14, 2011 10:17 am

ในหลวงทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพสกนิกรอย่างต่อเนื่องนั้น นอกจากจะทำให้ทุกคนได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแล้ว สิ่งที่ทุกคนย่อมประจักษ์ไปพร้อมกัน ก็คือ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ใฝ่พระราชหฤทัยในการศึกษาวิทยาการต่างๆ อย่างมาก และทรงมีพระปรีชาสามารถในการนำวิทยาการ หรือเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้ในงานพัฒนาฯ อย่างได้ผลที่สุด เช่น การที่ทรงสนพระราชหฤทัยในวิชาวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เฉพาะอย่างยิ่ง ในสาขาการสื่อสารโทรคมนาคม พระองค์ท่านก็ได้ทรงศึกษา ค้นคว้า ทดลองในวิชาการแขนงนี้อย่างลึกซึ้งและกว้างขวาง ดังที่ได้พระราชทานพระราชดำริ และข้อแนะนำต่างๆ ที่ยังผลให้กิจการสื่อสารโทรคมนาคมของชาติก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ส่งผลให้การดำเนินงานพัฒนาฯ ในท้องถิ่นทุรกันดาร ไม่ว่าจะเป็นโครงการตามพระราชดำริ การให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ หรือแม้แต่การเตือนภัย การบรรเทาสาธารณภัย เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาคน และพัฒนาชาติ อย่างแท้จริง
User avatar
kuron23
 
Posts: 407
Joined: Thu Jul 22, 2010 8:34 am


Return to ห้องเฉลิมพระเกียรติ