Page 1 of 1

ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Fri Dec 24, 2010 9:07 am
by hos_wipavadee
พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวพระราชดำริ ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Sat Dec 25, 2010 8:09 pm
by รักเมืองไทย55
พระองค์ทรงคิดค้นโครงการพระราชดำริต่าง ๆ มากมาย เพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Mon Dec 27, 2010 8:46 am
by chaobaan
พระราชดำริเริ่มแรกอันเป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กรมประมงนำพันธุ์ปลาหมอเทศจากปีนัง ซึ่งได้รับจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ เข้าไปเลี้ยงในสระน้ำพระที่นั่งอัมพรสถาน และเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๔๙๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพันธุ์ปลาหมอเทศ นี้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ นำไปเลี้ยงเผยแพร่ขยายพันธุ์แก่ราษฎรในหมู่บ้านของตน เพื่อจักได้มีอาหารโปรตีนเพิ่มขึ้น

โครงการพระราชดำริที่นับว่าเป็นโครงการพัฒนาชนบทโครงการแรก เกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานรถบลูโดเซอร์ ให้หน่วยตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร ไปสร้างถนนเข้าไปยังบ้านห้วยมงคล ตำบลหินเหล็กไฟ (ปัจจุบันคือ ตำบลทับใต้) อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ เพื่อให้ราษฎรสามารถสัญจรไปมาและนำผลผลิตออกมาจำหน่ายยังชุมชนภายนอกได้สะดวกขึ้น

จากนั้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ได้พระราชทานพระราชดำริให้สร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ เพื่อบรรเทาความแห้งแล้ง เดือดร้อนของราษฎรและสร้างเสร็จใช้ประโยชน์ได้ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ นับเป็นโครงการพระราชดำริทางด้านชลประทานแห่งแรกของพระองค์

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Mon Dec 27, 2010 10:39 am
by ae_mon
ในหลวงทรงมีโครงการพระราชดำริมากมายหลายโครงการ
ซึ่งล้วนแล้วแต่เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรของพระองค์ท่าน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Mon Dec 27, 2010 3:09 pm
by tita_pw
ทรงมีโครงการดี ๆ ให้ปวงชนชาวไทยอยู่เสมอ ๆ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Mon Dec 27, 2010 4:36 pm
by katib
โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Mon Dec 27, 2010 7:46 pm
by น้ำตก
ท่านทรงคิดและกำเนิดโครงการหลายโครงการที่เป็นประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศ
ท่านทรงห่วงใยและทรงหาวิธีที่จะทำให้คนไทยพออยู่พอกินไม่เดือดร้อน
หลายโครงการที่ท่านทรงทำได้ช่วยเหลือประชาชนมากมากทั่วประเทศ

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Tue Dec 28, 2010 4:47 pm
by kuron23
โครงการพระราชดำริที่ก่อตั้งมาแล้วหลายสิบปีและหลายพันโครงการทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งพระองค์ได้ทรงค้นคิดและหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแบบพอเพียงและยั่งยืน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Tue Dec 28, 2010 5:55 pm
by รักเมืองไทย55
พระองค์ทรงคิดค้นโครงการพระราชดำริต่าง ๆ มากมาย เพื่อช่วยเหลือประชาชน และทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Thu Jan 13, 2011 1:23 pm
by chaobaan
“สุเมธ”เผย “ในหลวง”ทรงงานตามหลักธรรมภิบาล เน้นคุณธรรม-จริยธรรม ชี้คนไทยทำได้แค่ฟังแต่ไม่ปฏิบัติตาม ระบุโครงการในพระราชดำริฯมีการพัฒนาต่อเนื่องและมีโครงการใหม่ ๆ เกิดขึ้น พร้อมขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์

สำนักข่าวเจ้าพระยา

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Sun Jan 16, 2011 7:45 pm
by babycat
พระองค์ทรงคิดริเริ่มโครงการพระราชดำริต่าง ๆ มากมาย เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี ไม่เดือดร้อน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Tue Jan 18, 2011 9:58 pm
by รักเมืองไทย55
มีโครงการในพระราชดำริของพระองค์มากมาย ที่พระองค์ทรงคิดค้นขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของประชาชน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Wed Jan 19, 2011 3:56 pm
by sareesri_39
พระองค์ทรงคิดริเริ่มโครงการพระราชดำริต่าง ๆ มากมาย
เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
เพื่อให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดีแบบพอเพียง ไม่เดือดร้อน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Wed Jan 19, 2011 9:30 pm
by รักเมืองไทย55
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งส่วนมากจะเป็นโครงการถาวร และรับต่อไปโดยคนในพื้นที่บ้าง ประชาชนบ้าง ส่วนใหญ่เป็นโครงการ พัฒนาด้านการเกษตร สิ่งแวดล้อม ชนบท เรื่องเกี่ยวกับการทำมาหากิน และปากท้องของประชาชน เป็นโครงการที่ดำเนินการขึ้นเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข มีจำนวนกว่า 3,000 โครงการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด ซึ่งทุกโครงการของพระองค์ท่านเป็นโครงการที่หนุนด้วย หลักวิชา อยู่บนฐานของหลักความคิดที่ชัดเจน นำทุกข์ของ ประชาชนและลักษณะเชิงพัฒนามาเป็นโจทย์ตามหลักอริยสัจ 4 ของศาสนาพุทธ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ทรงสร้างหลักความรู้และจะใช้หลักวิชาในการดำเนินการ ทั้งหมดนี้สอดแทรกอยู่ในพระบรมราโชวาท ต้องถือว่า พระองค์ท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักการศึกษา และนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่มาก ที่มา http://arc.nrru.ac.th/be/Body/interteacher1-1.html
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Wed Jan 19, 2011 9:37 pm
by kuron23
โครงการที่สำคัญของในหลวงอีกหนึ่งโครงการก็คือ "ฝนหลวง" ฝนหลวงนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์สำหรับแหล่งน้ำที่จำเป็นต้องใช้ในการเพาะปลูกสำหรับเกษตรกรในสภาวะแห้งแล้งเท่านั้น หากรวมถึงการเพิ่มปริมาณน้ำในแหล่งกักเก็บขนาดใหญ่ ให้มีสภาพสมบูรณ์เก็บไว้ใช้ตลอดปีอีกด้วย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะใต้ดินมีแหล่งหินเกลือครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ซึ่งถ้าน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กและขนาดกลางไม่มีทางระบายออก หากมี
ปริมาณน้ำเหลือน้อย น้ำจะกร่อยหรือเค็มได้นอกจากนั้นในภาวะการขาดแคลนน้ำ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำลดต่ำลง จนบางแห่งไม่สามารถใช้สัญจรไปมาทางเรือได้ การทำฝนหลวงจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำให้กับบริเวณดังกล่าว ทำให้สามารถใช้สัญจรได้ดังเดิม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเพราะในแม่น้ำบางสายถือเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าที่สำคัญ นอกจากนั้นการขนส่งทางน้ำยังเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าทางอื่นอีกด้วยน้ำจากน้ำฝนยังมีส่วนช่วยอย่างมากในการผลักดันน้ำเค็มจากอ่าวไทย หากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้อยลงเมื่อใด น้ำเค็มจากทะเลอ่าวไทยก็จะไหลหนุนเข้าไปแทนที่ทำให้เกิดน้ำกร่อยขึ้น สร้างความเสียหายแก่การเกษตร และการอุปโภค บริโภคของการประปาของคนกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมากจึงจำเป็นต้องมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อผลักดันน้ำเค็มมิให้หนุนเข้ามาทำความเสียหายต่อการอุปโภค บริโภคหรือเกษตรกรรมนอกจากนั้น "ฝนหลวง" ยังได้บรรเทาภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษอันเกิดจากการะบายน้ำเสียลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและขยะมูลฝอยที่ผู้คนทิ้งลงในสายน้ำกันอย่างมากมายนั้น ปริมาณน้ำจากฝนหลวงจะช่วยผลักดันออกสู่ท้องทะเล ทำให้มลพิษจากน้ำเสียเจือจางลดลงซึ่งสังเกตเห็นได้ชัดเจนมากจากขยะมูลฝอยและกระแสน้ำเสียต่างสีในบริเวณปากน้ำจนถึงเกาะล้าน เมืองพัทยาในขณะที่บ้านเมืองของเราพัฒนาไป การใช้พลังงานไฟฟ้าก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ สืบเนื่องมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าเนื่องจากมีความต้องการใช้ไฟฟ้าในปริมาณสูง จึงเป็นที่หวั่นเกรงว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ ในสภาวะวิกฤตที่ระดับน้ำเหนือเขื่อนมีระดับต่ำมากจน
โครงการพระราชดำริ "ฝนหลวง"ต้องเข้าไปช่วยเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Thu Jan 20, 2011 2:56 pm
by NUBO
พระผู้เป็นผู้นำแห่งความคิด
พระผู้เป็นผู้นำแห่งความก้าวหน้า
พระผู้ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Sat Feb 12, 2011 12:58 pm
by โดราเอมอน
หลักการของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ในการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้เป็นไปตามแนวพระราชดำริ และบรรลุวัตถุประสงค์ ควรจะได้ดำเนินการ โดยมีหลักการสำคัญ ๆ คือ
- การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- การพัฒนาต้องเป็นไปตามขั้นตอน
- การพึ่งตนเอง
- การส่งเสริมความรู้ และเทคนิควิชาการสมัยใหม่ที่เหมาะสม
- การส่งเสริมและปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อม
- การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ
ที่มา http://www.king60.mbu.ac.th/index.php?o ... mitstart=0

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Sun Feb 13, 2011 7:46 pm
by tarato13
ในการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้เป็นไปตามแนวพระราชดำริและบรรลุวัตถุประสงค์ ควรจะได้ดำเนินการโดยมีหลักการสำคัญๆ คือ
1. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นอยู่เสมอว่า โครงการของพระองค์นั้นเป็นโครงการที่มุ่งช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ราษฎรกำลังประสบอยู่ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสถึงความจำเป็นนี้ว่า...
“... ถ้าปวดหัวก็คิดไม่อะไรไม่ออก ...เป็นอย่างนั้นต้องแก้ไขการปวดหัวนี้ก่อน แต่ปวดหัวใช้ยาแก้ปวด ...หรือยาอะไรก็ตามแก้ปวดหัว มันไม่ได้แก้อาการจริง แต่ต้องแก้ปวดหัวก่อน เพื่อที่จะให้อยู่ในสภาพที่จะคิดได้ แล้วอีกอย่างคือแบบ Macroนี้ เขาจะทำแบบรื้อทั้งหมดฉันไม่เห็นด้วย ...อย่างบ้านคนอยู่ เราบ้านนี้มันผุตรงโน้นผุตรงนี้ ไม่คุ้มที่จะไปซ่อม... เอาตกลงรื้อบ้านนี้ ระเบิดเลย เราจะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีที่อยู่ ก็ต้องค้ำกันเสียก่อน แล้วค่อยๆ ดูตรงนี้พออยู่ได้ ไปรื้อตรงห้องโน้นแล้วก็ค่อยๆ สร้าง แล้วมารื้อห้องนี้ ... วิธีทำจะต้องค่อยๆ ทำจะไประเบิดหมดไม่ได้...”
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เน้นหลักมุ่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งต้องการแก้ไขปัญหาอย่างรีบด่วน เช่น กรณีเขตพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชาและเป็นพื้นที่ยากจนในเขตอิทธิพลของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่ขบวนการพัฒนาของรัฐยังเข้าไปไม่ถึง ภายหลังจากมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเข้าไปดำเนินการแล้ว ปัญหาความมั่นคงที่เคยมีอยู่ก็ลดน้อยลงและหมดสิ้นไปในที่สุด แม้กระทั่งปัจจุบันโครงการที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และจะมีผลระยะยาวต่อไป คือ การแก้ไขปัญหาการจราจร และการป้องกันน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นต้น
2. การพัฒนาต้องเป็นไปตามขั้นตอน ตามลำดับความจำเป็น ประหยัด
เพื่อให้มีรากฐานที่มั่นคงก่อน แล้วจึงดำเนินการเพื่อความเจริญก้าวหน้าในลำดับต่อๆ ไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นการพัฒนาที่มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในลักษณะการพึ่งตนเอง ทรงใช้คำว่า “ระเบิดจากข้างใน” นั่นคือ ทำให้ชุมชน หมู่บ้าน มีความเข้มแข็งก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่การนำเอาความเจริญหรือบุคคลจากสังคมภายนอกเข้าไปหาชุมชนหรือหมู่บ้านที่ยังไม่ทันได้มีโอกาสได้เตรียมตัวหรือตั้งตัว พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะช่วยเหลือราษฎรตามความจำเป็นและความเหมาะสมกับสถานภาพ เพื่อที่ราษฎรเหล่านั้นจะได้สามารถพึ่งตนเองได้ และออกมาสู่สังคมภายนอกได้อย่างไม่ลำบาก ดังแนวพระราชดำรัสต่อไปนี้
“...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานที่มั่นคงพร้อมพอสมควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้าง ค่อยเสริมความเจริญ และฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ้มเทสร้างความเจริญ ยกเศรษฐกิจให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด ดังเห็นได้ที่อารยะประเทศหลายประเทศกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงอยู่ในเวลานี้...
การช่วยเหลือสนับสนุนประชาชน ในการประกอบอาชีพและตั้งตัวให้มีความพอกินพอใช้ ก่อนอื่นเป็นพื้นฐานนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะผู้ที่มีอาชีพ และฐานะเพียงพอที่จะพึ่งตนเอง ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าระดับที่สูงในต่อไปโดยแน่นอน ส่วนการถือหลักที่จะส่งเสริมความเจริญให้ค่อยเป็นไปตามลำดับ ด้วยความรอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพื่อป้องกันความผิดพลาดล้มเหลว และเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จได้แน่นอนบริบูรณ์...”
3. การพึ่งตนเอง
การพัฒนาตามแนวพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ด้วยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้มีความแข็งแรงที่จะมีแนวคิดในการดำรงชีวิตต่อไปแล้ว ขั้นต่อไปก็คือการพัฒนาให้ประชาชนสามารถอยู่ในสังคมได้ตามสภาพและความสามารถ “พึ่งตนเองได้” ในที่สุด ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่ง ดังนี้
“...การเข้าใจถึงสถานการณ์ของผู้ที่เราจะช่วยเหลือนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การช่วยเหลือให้เขาได้รับสิ่งที่เขาควรจะได้รับตามความจำเป็นอย่างเหมาะสม จะเป็นการช่วยเหลือที่ได้ผลดีที่สุด เพราะฉะนั้นในการช่วยเหลือแต่ละครั้ง แต่ละกรณีจำเป็นที่เราจะพิจารณาถึงความต้องการและความจำเป็นก่อน และต้องทำความเข้าใจกับผู้ที่เราจะช่วยให้เข้าใจด้วยว่าเขาอยู่ในฐานะอย่างไร สมควรที่จะได้รับความช่วยเหลืออย่างไร เพียงใด อีกประการหนึ่งในการช่วยเหลือนั้น ควรยึดหลักสำคัญว่า เราจะช่วยเหลือเขาเพื่อให้เขาสามารถช่วยตนเองได้ต่อไป...”
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เน้นหลัก “การพึ่งตนเอง” เพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจนของราษฎร เช่น โครงการธนาคารข้าว โรงการธนาคารโค-กระบือ โครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์ “หุบกระพง” อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยทำกิน และรวมตัวกันในรูปของกลุ่มสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาของชุมชนและการทำมาหากินร่วมกัน เป็นต้น นอกจากนั้น โครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริในระยะหลังล้วนแต่เพื่อให้ประชาชนสามารถช่วยตัวเองได้ เพราะเป็นโครงการที่สนับสนุนให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพให้ได้ผลและมีประสิทธิภาพ เช่น โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การให้การอบรมความรู้สาขาต่างๆ ทั้งด้านการเกษตรและศิลปาชีพพิเศษ เป็นต้น
4. ภูมิสังคม
การพัฒนาตามแนวพระราชดำรินั้น จะต้องให้สอดคล้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนั้นๆ เนื่องจากแต่ละแห่ง คนไม่เหมือนกัน ขนบธรรมเนียมประเพณีก็ไม่เหมือนกัน ทรงใช้คำว่า “ภูมิสังคม” คือ ทรงดูลักษณะภูมิศาสตร์และลักษณะของสังคม ไม่ใช่ว่าเอาอะไรที่ทันสมัยมากๆ เข้าไปให้ชาวบ้าน ทั้งที่เขาไม่สามารถใช้ได้ หรือพยายามที่จะทำการเพาะปลูกบนเขา หรือพื้นที่แห้งแล้งให้ได้ อย่างนี้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิด พระองค์ทรงชี้แนะพวกเราอยู่ตลอดเวลาว่า การดำเนินการต่างๆ นั้น ต้องให้สอดคล้องกัลป์ลักษณะภูมิสังคม ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งความว่า
“... การพัฒนาจะต้องเป็นไปตามภูมิประเทศทางภูมิศาสตร์ และภูมิประเทศทางสังคมศาสตร์ในสังคมวิทยา ภูมิประเทศตามสังคมวิทยา คือ นิสัยใจคอของคนเรา จะไปบังคับให้คนคิดอย่างอื่นไม่ได้ เราต้องแนะนำ เราเข้าไป ไปช่วย โดยที่จะคิดให้เขาเข้ากับเราไม่ได้ แต่ถ้าเราเข้าไปแล้ว เราเข้าไปดูว่าเขาต้องการอะไรจริงๆ แล้วก็อธิบายให้เขาเข้าใจหลักการของการพัฒนานี้ ก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง”
5. เรียบง่าย ประหยัด
ในการพัฒนาและช่วยเหลือราษฎรทรงใช้หลักในการแก้ไขปัญหาด้วยธรรมชาติ เรียบง่าย และประหยัด ราษฎรสามารถทำได้เอง หาได้ในท้องถิ่น และประยุกต์ใช้สิ่งที่มีอยู่ในภูมิภาคนั้น มาแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องลงทุนสูง หรือใช้เทคโนโลยีที่ยุ่งยากนัก ดังที่นายสุเมธ ตันติเวชกุล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้กล่าวไว้ว่า...
“วิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ นั้น ทรงใช้ความเรียบง่าย ใช้ธรรมชาติเข้าแก้ไขกันเองอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชน จะทรงสวมวิญญาณของเกษตรกรเข้าไปแก้ไขปัญหา ทรงตรัสอยู่เสมอว่า อย่าได้เอาอะไรที่ชาวบ้านไม่สามารถทำได้ไปยัดเยียดให้เขา วิธีการแก้ไขปัญหาของพระองค์นั้น บางครั้งเรียบง่ายจนกระทั่งเรานึกไม่ถึง ทรงรับสั่งว่า จะเอาอธรรมสู้อธรรม อย่างกรณีเรื่องของน้ำเน่านั้น ก็ทรงเอาผักตบชวามาสู้แล้วก็สู้ได้ผลด้วย เช่น ที่บึงมักกะสัน ที่น้ำเคยเน่าเป็นอย่างมาก เดี๋ยวนี้น้ำดีขึ้นมาก”
6. การส่งเสริมความรู้ และเทคนิควิชาการสมัยใหม่ที่เหมาะสม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่าควรที่จะสร้างเสริมสิ่งที่ชาวบ้านในชนบทขาดแคลนและเป็นความต้องการ ซึ่งก็คือความรู้ในการทำมาหากิน การทำเกษตรโดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ พระองค์ทรงเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องมี “ตัวอย่างของความสำเร็จ” มีพระราชประสงค์ที่จะให้ราษฎรในชนบทมีโอกาสได้รู้ได้เห็นถึงตัวอย่างของความสำเร็จนี้และนำไปปฏิบัติได้เอง พระองค์จึงพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้ง “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ขึ้นในทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อเป็นสถานศึกษา ทดลอง วิจัย และแสวงหาความรู้ เทคนิควิชาการสมัยใหม่ที่ราษฎร “รับได้” นำไป “ดำเนินการเองได้” และเป็นวิธีการที่ “ประหยัด” เหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและการประกอบอาชีพของราษฎรที่อาศัยอยู่ในภูมิประเทศนั้นๆ เมื่อได้ผลจากการศึกษาแล้วจึงนำไปส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้ในการประกอบอาชีพต่อไป พระองค์ทรงปรารถนาที่จะให้ตัวอย่างของความสำเร็จทั้งหลายได้กระจายไปสู่ท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ และสามารถนำไปปฏิบัติได้ผลอย่างจริงจัง
7. การอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เนื่องจากในการพัฒนาประเทศในระยะเวลาที่ผ่านมานั้นได้เน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่สูงและรวดเร็ว โครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศได้เปลี่ยนไปสู่การผลิตที่มุ่งสู่ภาคอุตสาหกรรมและบริการเป็นหลัก มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติกันอย่างฟุ่มเฟือย โดยมิได้มีการฟื้นฟูทรัพยากรที่ถูกทำลายให้กลับคืนสู่สภาพเดิม จนในที่สุดได้ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานแนวทางแก้ไขในการพัฒนาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาการเกษตร ดังนั้น จึงทรงมุ่งที่จะให้มีการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนควบคู่กับการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรม เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศในระยะยาว ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่งต่อการทำนุบำรุงปรับปรุงสภาพของทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ที่ดิน แหล่งน้ำ การประมง ให้อยู่ในสภาพที่มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างมากที่สุด
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เน้นหลักมุ่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งต้องการแก้ไขปัญหาอย่างรีบด่วน เช่น กรณีเขตพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชาและเป็นพื้นที่ยากจนในเขตอิทธิพลของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่ขบวนการพัฒนาของรัฐยังเข้าไปไม่ถึง ภายหลังจากมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเข้าไปดำเนินการแล้ว ปัญหาความมั่นคงที่เคยมีอยู่ก็ลดน้อยลงและหมดสิ้นไปในที่สุด แม้กระทั่งปัจจุบันโครงการที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า และจะมีผลระยะยาวต่อไป คือ การแก้ไขปัญหาการจราจร และการป้องกันน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นต้น
โครงการพระราชดำริ ประวัติความเป็นมาของโครงการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลักการการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ัหัว ลักษณะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การเกิดของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หลักการเกิดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชั้นตอนการดำเินินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการพระราชดำริ

ที่มา : http://www.rdpb.go.th

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Mon Feb 21, 2011 7:18 am
by น้ำตก
ท่านทรงคิดค้นโครงการพระราชดำริมากมาย ล้วนเกิดจากความคิด
ที่จะทำให้ประชาชนไม่ลำบากในการทำมาหากิน ซึ่งแต่ละโครงการ
เมื่อทำแล้วเกิดประโยชน์มาก ท่านทรงคิดการไกลมองเห็นไปข้างหน้า

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Mon Feb 21, 2011 6:58 pm
by tragedy
“เพื่อความเจริญก้าวหน้า ความสุขใจสุขกายตลอดไปชั่วกาลนาน”

...ขอให้ทุกคนมีพลานามัยแข็งแรง มีจิตใจเข้มแข็ง และมีความเจริญรุ่งเรืองทั้งในหน้าที่การงานที่ดีและในส่วนตัว เพื่อจะได้มีความเจริญก้าวหน้ามีความสุขใจสุขกายตลอดไปชั่วกาลนาน...

...ส่วนรวมจะได้เป็นปึกแผ่น เราจะได้อยู่ในสังคมที่เรียบร้อย อยู่ในประเทศที่มั่นคงที่มีความก้าวหน้า ขอให้ทุกคนประสบแต่โชคดี มีความสุขความเจริญ ความก้าวหน้าและมีความสุขทั่วกัน...

ที่มา :
พระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หนังสือคำพ่อสอน ในโครงการตามรอยเบื้องพระยุคลบาทด้วยความรักและความดี 60 ปี 60 ล้านความดีถวายในหลวง น้อมเกล้าถวายในหลวง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Wed Feb 23, 2011 10:34 am
by sweet2011
พระองค์ทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกล สามารถแก้ปัญหา ช่วยเหลือ และพัฒนาอย่างยั่งยืน
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Mon Feb 28, 2011 1:34 pm
by ปลาบู่ทะเล
ท่านทรงเดินทางทุกพื้นที่ทรงห่วงใยประชาชนทั่วทุกคน

Re: ผู้นำโครงการพระราชดำริ

PostPosted: Thu Mar 10, 2011 7:03 am
by น้ำตก
ท่านคิดโครงการหลาย ๆ โครงการขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์
ในการทำอาชีพต่าง ๆ ท่านทรงเป็นนำที่ให้ประโยชน์แก่ชาวไทยจริง ๆ
ท่านนำความทุกร้อนของประชาชนมาคิด เพื่อหาหนทางให้ประชาชน
ของท่านได้มีอาชีพ พออยู่พอกิน