Page 1 of 2

พระราชดำรัส

PostPosted: Sat Jan 08, 2011 5:22 pm
by network1912
. . .การที่ในประเทศใด มีประชาชนทั้งหมดอยู่ร่วมกันโดยสันติ ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน. ไม่มีใครอยากให้มีความวุ่นวายในหมู่คณะ ในประเทศชาติ เพราะว่าถ้ามีความวุ่นวายนั้น เป็นความทุกข์. ทุกคนต้องการความสุข หากความสุขนั้นก็จะมาจากความปรองดอง และความที่ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปโดยยุติธรรม. . .

พระราชดำรัส
ในโอกาสที่รองประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำกระทรวงเข้าเฝ้าฯ
ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ครั้งแรก
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันพุธที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๗

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Thu Jan 13, 2011 10:17 am
by tarato13
พระองค์ทรงอยากเห็นคนในชาติรักและสามัคคีกัน เราร่วมใจกันทำความดีถวายในหลวง

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Thu Jan 13, 2011 10:40 am
by sareesri_39
พระองค์อยากให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน แล้วความสงบสุขก็จะเกิดขึ้น

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Fri Jan 21, 2011 6:48 pm
by รักเมืองไทย55
“การใช้จ่ายโดยประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ประหยัดเท่านั้น ยังจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
พระราชดํารัสเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธันวาคม 2502

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sun Jan 23, 2011 10:22 am
by VEE99999
พระราชดำรัสของในหลวง - ข้อคิดในการใช้ชีวิต

1. อย่าทำลายความหวังของใครเพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้
2. เมื่อมีคนเล่าว่าตัวเขามีส่วนในเหตุการณ์สำคัญอะไรก็ตาม เราไม่ต้องไปคุยทับ
ปล่อยเขาฟุ้งไปตามสบาย
3. รู้จักฟังให้ดี โอกาสทองบางทีมันก็มาถึงแบบแว่วๆ เท่านั้น
4. หยุดอ่านคำอธิบายสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งอยู่ริมทางเสียบ้าง
5. จะคิดการใด จงคิดการให้ใหญ่ ๆ เข้าไว้ แต่เติมความสนุกสนานลงไปด้วยเล็กน้อย
6. หัดทำสิ่งดี ๆให้กับผู้อื่นจนเป็นนิสัยโดยไม่จำเป็นต้องให้เขารับรู้
7. จำไว้ว่าข่าวทุกชนิดล้วนถูกบิดเบือนมาแล้วทั้งนั้น
8. เรื่องเล่นเกมกับเด็ก ๆ ก็ปล่อยให้แกชนะไปเถิด
9. ใครจะวิจารณ์เราอย่างไรก็ช่าง ไม่ต้องไปเสียเวลาโต้ตอบ
10.ให้โอกาสผู้อื่นเป็นครั้งที่”สอง” แต่อย่าให้ถึง“สาม”
11.อย่าวิจารณ์นายจ้าง ถ้าทำงานกับเขาแล้วไม่มีความสุข ก็ลาออกซะ
12.ทำตัวให้สบายอย่าคิดมากถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย อะไร ๆ มันก็ไม่ได้สำคัญอย่างที่คิดไว้ทีแรกหรอก
13.ใช้เวลาน้อย ๆ ในการคิดว่า “ใคร” เป็นคนถูกแต่ใช้เวลาให้มากในการคิดว่า “อะไร”คือสิ่งที่ถูก
14.เราไม่ได้ต่อสู้กับ “คนโหดร้าย” แต่เราต่อสู้กับ“ความโหดร้าย” ในตัวคน
15.คิดให้รอบคอบ ก่อนที่จะให้เพื่อนต้องมีภาระในการรักษาความลับ
16.เมื่อมีใครมาสวมกอดคุณ ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน
17.เป็นคนถ่อมตัว คนเขาทำอะไรต่ออะไรสำเร็จกันมามากมาย ตั้งแต่เรายังไม่เกิด
18.ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายเพียงใด...สุขุมเยือกเย็นเข้าไว้
19.อย่าไปหวังเลยว่า ชีวิตนี้จะมีความยุติธรรม
20.อย่าให้ปัญหาของเราทำให้คนอื่นเขาเบื่อหน่าย ถ้ามีใครมาถามเราว่า “เป็นยังไงบ้างตอนนี้”
ก็บอกเขาไปเลยว่า “สบายมาก”
21.อย่าพูดว่ามีเวลาไม่พอ เพราะเวลาที่คุณมี มันก็วันละยี่สิบสี่ชั่วโมงเท่าๆกับที่หลุยส์ ปาสเตอร์ไม
เคิลแอนเจลโล แม่ชีเทราซา ลีโอนาร์โด ดาวินชี ทอมัส เจฟเฟอร์สัน หรือ อัลเบิร์ด ไอน์สไตน์ เขามีนั่นเอง
22.เป็นคนใจกล้าและเด็ดเดี่ยว เมื่อเหลียวกลับไปดูอดีต เราจะเสียใจในสิ่งที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำ
มากกว่าเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว
23.ประเมินตนเองด้วยมาตรฐานของตัวเอง ไม่ใช่ด้วยมาตรฐานของคนอื่น
24.จริงจังและเคี่ยวเข็ญต่อตนเอง แต่อ่อนโยนและผ่อนปรนต่อผู้อื่น
25.อย่าระดมสมอง เพราะไอเดียดีๆใหม่ๆ และยิ่งใหญ่จนสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ล้วนมา
จากบุคคลที่คิดค้นอยู่แต่เพียงผู้เดียวทั้งสิ้น
26.คงไว้ซึ่งความเป็นคนเปิดเผย อ่อนโยน และอยากรู้อยากเห็น
27.ให้ความนับถือแก่ทุกคนที่ทำงานเพื่อเลี้ยงชีพ ไม่ว่างานที่เขาทำนั้นจะกระจอกงอกง่อยสักปานใด
28.คำนึงถึงการมีชีวิตให้ “กว้างขวาง” มากกว่าการมีชีวิตให้ “ยืนยาว”
29.มีมารยาทและอดทนกับคนที่สูงวัยกว่าเสมอ

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sun Jan 23, 2011 10:17 pm
by kuron23
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๔
วันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓
ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี มาอวยพรแก่ทุกท่านทุกๆ คน ให้มีความสำเร็จสมประสงค์ ในสิ่งที่ปรารถนา ความปรารถนาของทุกคน คงไม่แตกต่างกันนัก คือ ต้องการให้ตนเองมีความสุขความเจริญ และให้บ้านเมืองมีความสงบ
ร่มเย็น
ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะเห็นคนไทยมีความสุขถ้วนหน้ากัน ด้วยการให้ คือให้ความรักความเมตตากัน ให้น้ำใจไมตรีกัน ให้อภัยกัน ให้การสงเคราะห์ อนุเคราะห์กัน โดยมุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน ด้วยความบริสุทธิ์ และจริงใจ ทุกคน ทุกฝ่าย จะได้สามารถร่วมมือ ร่วมความคิดอ่านกัน สร้างสรรค์ความสุข ความเจริญมั่นคง ให้แก่ตน แก่ประเทศชาติ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องการให้สำเร็จผล ได้ดังที่ตั้งใจปรารถนา
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีภัย ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Mon Jan 24, 2011 9:15 pm
by รักเมืองไทย55
การที่คนสมัยใหม่บอกว่าคนสมัยเก่ามีความรู้น้อยก็อาจเป็นจริง แล้วคนสมัยใหม่ดูถูกหรือเหยียดหยามคนสมัยเก่าก็มีสิทธิ์ แต่ถ้าพูดตามความจริงแล้ว สิทธิ์ที่จะเหยียดหยามคนรุ่นเก่าไม่ควรจะมี ด้วยเหตุว่าคนรุ่นเก่านี้เองทำให้คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาได้

(พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่างๆที่เข้าเฝ้าฯเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2531)

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sun Jan 30, 2011 11:41 am
by ชมพู่
"...ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้า จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรา มีความเจริญมั่นคงเป็นปกติสุข ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสำเร็จผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยทุกคน ทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตน ให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ยิ่งกว่าส่วนอื่น..."
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๕๒
ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
วันเสาร์ ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Tue Feb 08, 2011 9:27 am
by sareesri_39
"...ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้า จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญมั่นคง เป็นปรกติสุข ความเจริญมั่นคงทั้งนั้น จะสำเร็จผลเป็นจริงได้
ก็ด้วยทุกคนทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนอื่น..."
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2552 ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย
วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2552

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Wed Feb 09, 2011 5:03 pm
by รักเมืองไทย55
พระราชดำรัสเนื่องในการเปิดศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางและสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง
วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๔๙๕

"อนาคตของชาติทุกชาติย่อมขึ้นอยู่แก่เด็ก เพราะเด็กก็คือผู้ใหญ่ในเวลาข้างหน้า ถ้าบุคคลได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นพลเมืองดีอยู่ในศีลในธรรม เคารพต่อบทกฎหมายของบ้านเมืองเสียตั้งแต่ยังเยาว์ เมื่อเติบโตขึ้นพลเมืองของประเทศก็จะมีแต่คนดี และประเทศจะเจริญก้าวหน้าต่อไปได้ ก็โดยต้องมีพลเมืองดีดั่งว่านี้ ข้าพเจ้าจึงมีความพอใจที่รัฐบาลของข้าพเจ้าได้มีความสนใจในปัญหาเกี่ยวกับการที่เด็ก และเยาวชนกระทำความผิด และพยายามคิดหาทางที่จะอบรมบุคคลเหล่านี้ให้กลับตนเป็นพลเมืองดี..."

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sat Feb 12, 2011 11:35 am
by โดราเอมอน
"...ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และวิชาการต่างๆ ทำให้โลกของเราทุกวันนี้แคบลง และประเทศต่างๆ ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่ว่าใหญ่หรือน้อยโดยอาศัยความเคารพไว้วางใจและเข้าใจดีต่อกันเป็นรากฐาน ย่อมมีความสำคัญอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าจึงเชื่อแน่ว่า ด้วยความร่วมมือซึ่งกันและกันอย่างจริงจังเท่านั้น จะเป็นผลให้โลกมีสันติสุขอันถาวร และมนุษยชาติทั้งมวลประสบความเจริญรุ่งเรือง..."

"...The World today is becoming smaller and ever more interdependent due to the advancement in the fields of science and technology. International co-operation based on mutual trust, respect and friendly understanding between countries, big or small, are therefore of vital importance. It is my firm belief that only along this road of mutual constructive co-operation a lasting peace and prosperity for mankind can be achieved."

จากพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อวันพุธที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Mon Feb 14, 2011 9:37 pm
by รักเมืองไทย55
-------การที่คนสมัยใหม่บอกว่าคนสมัยเก่ามีความรู้น้อยก็อาจเป็นจริง แล้วคนสมัยใหม่ดูถูกหรือเหยียดหยามคนสมัยเก่าก็มีสิทธิ์ แต่ถ้าพูดตามความจริงแล้ว สิทธิ์ที่จะเหยียดหยามคนรุ่นเก่าไม่ควรจะมี ด้วยเหตุว่าคนรุ่นเก่านี้เองทำให้คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาได้--------

พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่างๆที่เข้าเฝ้าฯเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2531

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Thu Mar 10, 2011 12:22 pm
by รักเมืองไทย55
"...เมืองไทยนี้อยู่ได้ด้วยความสามัคคี ด้วยความเข้ม แข็ง ด้วยความเสียสละ อาศัยความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกันและกัน และถ้ารักษาความ เห็นอกเห็นใจนี้แล้ว ประเทศชาติของเราก็จะ เป็นที่อาศัยที่อุดมสมบูรณ์และน่าสบายต่อไปชั่ว กาลนาน..."

พระราชดำรัส พระราชทานในพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านจังหวัดขอนแก่นณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 19 กุมภาพันธ์ 2519
ที่มา http://board.palungjit.com/f178/%E0%B8% ... 47994.html

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sat Mar 12, 2011 6:43 pm
by โดเรมอน01
"....ในปัจจุบัน การศึกษาวิจัยด้านพันธุศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้ามาก และมีการนำผลที่ได้ไปปรับใช้ในกิจการด้านต่างๆ อย่างกว้างขวาง. ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าจึงใคร่จะปรารภกับทุกท่านว่า ความรู้ต่างๆ เหล่านั้น แม้จะมีประโยชน์มากก็จริง แต่ถ้าใช้ไม่ถูกเรื่องถูกทางโดยไม่พิจารณาให้ดีให้รอบคอบแล้ว ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบเสียหายแก่ชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรงได้เช่นกัน. เหตุนี้ ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนาจำเป็นจะต้องศึกษาให้รู้เท่าและรู้ทัน. จึงเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ มาประชุมปรึกษาหารือกัน ร่วมกันนำเสนอผลงานการศึกษาวิจัย เกี่ยวกับเรื่องวิวัฒนาการของพันธุศาสตร์และผลกระทบต่อโลก ทำให้หวังได้ว่า การนำความรู้ด้านพันธุศาสตร์ไปปรับใช้ในกิจการด้านต่างๆ จะเป็นไปด้วยความระมัดระวังรอบคอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุดแก่มวลมนุษยชาติ..."

จากพระราชดำรัส ในพิธีการเปิดประชุมวิทยาศาสตร์นานาชาติ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ครั้งที่ ๕ เรื่องวิวัฒนาการของพันธุศาสตร์และผลกระทบต่อโลก วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๔๗ ณ โรงแรมแชงกรี-ลา

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Tue Mar 15, 2011 8:44 am
by sareesri_39
พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2540
วันอังคาร ที่ 31 ธันวาคม พุทธศักราช 2539
“…ไม่ว่าจะมีเหตุไม่ปรกติหรือปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เราควรจะได้ทำความเข้าใจและร่วมกันคิดอ่าน ปฏิบัติแก้ไขด้วยเหตุผล ด้วยหลักวิชา และด้วยความบริสุทธิ์จริงใจ ให้ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลายลุล่วงไป เพื่อให้ประเทศชาติของเราก้าวหน้าต่อไปได้โดยสวัสดี…”

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Wed Mar 16, 2011 9:21 pm
by bluedog
...คนดีทำให้คนอื่นดีได้ หมายความว่าคนดี ทำให้เกิดความดีในสังคม คนอื่นก็ดีไปด้วย. ความเลวนั้นจะทำให้คนดีเป็นคนเลวก็ยาก แต่เป็นไปได้.ถ้าคนดีเข้มแข็งในความดี จะทำให้คนเลวมาทำให้คนดีเป็นคนเลวยาก.สำคัญอยู่ที่ความเข้มแข็งของคนดี...


...A good person can make another person good; it means that goodness will elicit goodness in society; other person will also be good. Evil will make a steadfast good person bad only with great difficulty; however, it is not impossible. If good people hold on tenaciously to their goodness, it will be difficult for evil people to influence them. The important thing is the strong will of the good person...

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Wed Mar 16, 2011 9:24 pm
by bluedog
"...ถ้าประเทศทั้งปวงจะยกย่องนับถือกันโดยบริสุทธิ์ใจ และช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันโดยพร้อมพรักแล้ว ก็เชื่อได้ว่าจะเกิดความเข้าใจในกันและกันอย่างแท้จริง พร้อมทั้งความร่วมมือกันฉันมิตรอย่างแน่นแฟ้นขึ้นได้ แล้วความสงบสุข อิสรภาพ เสถียรภาพอันเสมอหน้าและถาวร ก็จะเกิดมีขึ้นทุกแห่งหนในโลก ดังที่ทุกคนปรารภปรารถนา..."



"...if all nations should treat each other with sincere mutual respect and esteem as well as with prompt readubess to be of mutual support and assistance, then it could be confidently expected that there will be created a general atmosphere of truly mutual good understanding with firm and friendly co-opration all around. It will then follow that peace, happiness, freedom and stability on equal and permanent bases will reign throughout the world, fulfilling the avowedly earnest desire of everyone."

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Fri Mar 18, 2011 11:10 am
by รักเมืองไทย55
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๔
วันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ (ฉบับไม่เป็นทางการ)

ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี มาอวยพรแก่ทุกท่านทุกๆ คน ให้มีความสำเร็จสมประสงค์ ในสิ่งที่ปรารถนา ความปรารถนาของทุกคน คงไม่แตกต่างกันนัก คือ ต้องการให้ตนเองมีความสุขความเจริญ และให้บ้านเมืองมีความสงบ
ร่มเย็น

ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะเห็นคนไทยมีความสุขถ้วนหน้ากัน ด้วยการให้ คือให้ความรักความเมตตากัน ให้น้ำใจไมตรีกัน ให้อภัยกัน ให้การสงเคราะห์ อนุเคราะห์กัน โดยมุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน ด้วยความบริสุทธิ์ และจริงใจ ทุกคน ทุกฝ่าย จะได้สามารถร่วมมือ ร่วมความคิดอ่านกัน สร้างสรรค์ความสุข ความเจริญมั่นคง ให้แก่ตน แก่ประเทศชาติ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องการให้สำเร็จผล ได้ดังที่ตั้งใจปรารถนา

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีภัย ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Mon Mar 21, 2011 3:22 pm
by tragedy
"ข้าราชการที่สามารถต้องมีความรู้ครบสามส่วน คือ ความรู้วิชาการ ความรู้ปฏิบัติการ
และความรู้คิดอ่านตามเหตุผลความเป็นจริง ..."
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ข้าราชการพลเรือนปี 2530

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Tue Mar 22, 2011 7:07 am
by VEE99999
“…สามัคคี คือการเห็น แก่บ้านเมืองและช่วยกันทุก วิถีทางเพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้เข้มแข็ง
ด้วย การเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างตรงไปตรงมา
นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม เพราะประโยชน์ส่วนรวม นั้น คือความมั่นคงของบ้านเมือง…”

พระราชดำรัส พระราชทานในพิธีพระราชทาน ธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านจังหวัดขอนแก่น
ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 19 กุมภาพันธ์ 2519

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 2:30 pm
by รักเมืองไทย55
คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เราทั้งหลายในปัจจุบัน จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป
(พระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2521)

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Fri Apr 29, 2011 8:44 pm
by ปลาบู่ทะเล
เมื่อไหร่คนไทยจะไม่ชิงดีชิงเด่นขัดแย้งกันรักกันและสามัคคีกัน
ทำเพื่อในหลวงและเพื่อประเทศไทยซักที

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sat Apr 30, 2011 8:05 pm
by chaobaan
อัน แผ่นดินไทยของเรานี้ ถึงจะเป็นที่เกิดที่อาศัยของคนหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา แต่เราก็อยู่ร่วมกันโดยปรกติราบรื่นมาได้เป็นเวลาช้านาน เพราะเราต่างสมัครสมานกันอุตส่าห์ช่วยกันสร้างบ้านเมือง สร้างความเจริญ สร้างจิตใจ สร้างแบบแผนที่ดีขึ้น เป็นของเราเอง ซึ่งแม้นานาประเทศก็น่าจะนำไปเป็นแบบฉบับได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเราทั้งหลายมีสามัคคี มีเหตุผลอันหนักแน่น และมีความรู้ความเข้าใจอันถูกต้องชัดเจนในสถานการณ์ที่เป็นจริง ต่างคนต่างร่วมมือร่วมความคิดกันในอันที่จะช่วยกันผ่อนคลายปัญหาและ สถานการณ์ที่หนักให้เป็นเบา ไม่นำเอาประโยชน์ส่วนน้อยเข้ามาเกี่ยวข้อง ให้เสียหายถึงประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาติบ้านเมือง เชื่อว่าเราจะสามารถรักษาชาติประเทศและความผาสุกสงบที่เราได้สร้างสมและ รักษาสืบต่อกันมาช้านานนั้น ไว้ได้ . . .

พระราชดำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๑๙ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๘

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Tue May 03, 2011 4:00 pm
by bluedog
"การกู้เงินที่นำมาใช้ในสิ่งที่ไม่ทำรายได้นั้น ไม่ดี อันนี้เป็นข้อสำคัญ เพราะว่าถ้ากู้เงินแล้วทำให้มีรายได้ ก็เท่ากับจะใช้หนี้ได้ ไม่ต้องติดหนี้ ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องเสียเกียรติ"
พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพรรษา : 4 ธันวาคม 2540

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sun May 08, 2011 8:51 am
by tragedy
พระราชดำรัสที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง
“...เศรษฐศาสตร์เป็นวิชาของเศรษฐกิจ การที่ต้องใช้รถไถต้องไปซื้อ
เราต้องใช้ต้องหาเงินมาสำหรับซื้อน้ำมันสำหรับรถไถ เวลารถไถเก่าเราต้องยิ่งซ่อมแซม
แต่เวลาใช้นั้นเราก็ต้องป้อนน้ำมันให้เป็นอาหาร เสร็จแล้วมันคายควัน ควันเราสูดเข้าไปแล้วก็ปวดหัว
ส่วนควายเวลาเราใช้เราก็ต้องป้อนอาหาร ต้องให้หญ้าให้อาหารมันกิน แต่ว่ามันคายออกมา ที่มันคายออกมาก็เป็นปุ๋ย
แล้วก็ใช้ได้สำหรับให้ที่ดินของเราไม่เสีย...”
พระราชดำรัส เนื่องในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๒๙
พระองค์ทรงให้แง่คิด ธรรมชาติเป็นสิ่งที่อยู่กับมนุษย์ไปนาน ๆ
และไม่ทำร้ายใคร ถ้าพวกเราลองหันมาทบทวน และฝึกทำในสิ่ง
ที่เรามีอยู่ หาได้เอง โดยใช้ทรัพยากรในบ้านของเราเอง ก็จะทำให้
เรามีความสุขได้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sun May 08, 2011 9:09 am
by tragedy
ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง
ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิต ชีวิตร่างกายจะดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อย
ทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร ชาติบ้านเมืองก็จะดำรงอยู่ได้ เพราะ
ฉะนั้นสถาบันต่าง ๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมูลอย่างนั้น
พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Tue May 10, 2011 3:02 pm
by babycat
ในชีวิตของคนเรา แต่ละคนต้องผ่านพบเรื่องราว และเหตุการณ์หลายหลากมากมายมาตั้งแต่เกิด หลายเรื่องหลายสิ่งเป็นปัญหา ที่ต้องนำมาขบคิดหาเหตุผล ความกระจ่างจริงเพื่อยุติแก้ไข ประสบการณ์ในการพิจารณาแก้ปัญหาเหล่านี้ ย่อมสั่งสมเพิ่มพูนเป็นความรู้ ความฉลาด อันกว้างขวางลึกซึ้ง ซึ่งถ้ารู้จักนำมาปรับใช้ ควบคู่กับความรู้ทางวิชาการให้ถูกต้อง พอเหมาะ พอดี ด้วยความเพิ่งพินิจ โดยละเอียดรอบคอบแล้ว จะยังประโยชน์แก่การปฏิบัติงานอย่างวิเศษสุด

พระบรมราโชวาท
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
พระราชทานแก่ คณะครู อาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนวังไกลกังวล

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Tue May 10, 2011 6:38 pm
by keatudomhospital
เรารักในหลวงของเรา
ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง
เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตราบนานแสนนาน

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Sun May 15, 2011 9:23 am
by รักเมืองไทย55
คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข

(พระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย 4 ธันวาคม 2541)

Re: พระราชดำรัส

PostPosted: Mon May 16, 2011 9:55 pm
by babycat
"...คุณธรรมที่ทุกคนควรจะศึกษาและน้อมนำมาปฏิบัติ มีอยู่สี่ประการ. ประการแรก คือการรักษาสัจ ความจริงใจต่อตัวเอง ที่จะประพฤติปฏิบัติ แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรม. ประการที่สอง คือการรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเองให้ประพฤติอยู่ในความสัจ ความดีนั้น. ประการที่สาม คือการอดทน อดกลั้น และอดออม ที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัจสุจริต ไม่ว่าจะด้วยเหตุประการใด. ประการที่สี่ คือการรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตนเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง. คุณธรรมสี่ประการนี้ ถ้าแต่ละคนพยายามปลูกฝังและบำรุงให้เจริญงอกงามขึ้นโดยทั่วกันแล้ว จะช่วยให้ประเทศชาติบังเกิดความสุข ความร่มเย็น และมีโอกาสที่จะปรับปรุงพัฒนาให้มั่นคงก้าวหน้าต่อไปได้ดังประสงค์..."

พระราชดำรัส ในพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า วันที่ ๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๕
http://www.rspg.or.th/special_articles/ ... /ksp15.htm