Page 1 of 1

“ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Sat Jan 29, 2011 10:51 am
by Darkcat
“ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

พ่อหลวงท่านได้ทรงเห็นและสนใจทางด้าน จิตรกรรมตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และได้ศึกษาด้วยตัวพระองค์เอง ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปีที่ ๒๔๘๐ – ๒๔๘๔ ทรงเริ่มฝึกเขียนจากตำราที่ทรงซื้อจน ในภายหลัง ท่านได้นำผลงานของท่านไปแสดงผลงานศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๔ แล้วหลังจากนั้นทรงได้มีผลงานใหม่ต่อเนื่องมาตลอด จนมีให้เห็นได้ถึงทุกวันนี้

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Wed Feb 09, 2011 2:35 pm
by tarato13
วันที่ (29 ก.ย.) เมื่อเวลา 20.00 น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ พร้อมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทอดพระเนตรการแสดงโดยวงดนตรีไทยแลนด์ ฟิลฮาร์โมนิก ออเคสตราในการจัดงาน “ศิริราชคอนเสิร์ต เทิดไท้องค์อัครศิลปิน” ณ หอประชุมหอประชุมราชแพทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรคอนเสิร์ต หลังจากประทับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อรักษาพระอาการประชวร เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2552 เป็นเวลา 1 ปี 9 วัน โดยที่ห้องโถงใต้อาคารเฉลิมพระเกียรติ มีประชาชนจำนวนมากมารอเฝ้ารับเสด็จฯตั้งแต่บ่าย แม้ว่าจะมีฝนตกลงมา
นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การจัดงานศิริราชคอนเสิร์ตเทิดไท้องค์อัครศิลปินครั้งนี้ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงพระเกษมสำราญ และเพื่อรำลึกถึง วันที่ 29 กันยายน 2516 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาทรงดนตรี ที่หอประชุมราชแพทยาลัย คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากนั้นพระองค์ก็ไม่ได้เสด็จฯไปทรงดนตรีที่สถาบันศึกษาไหนอีก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้กราบบังคมทูลถวายรายงานให้พระองค์ทรงทอดพระเนตร จากนั้นทรงมีรับสั่งผ่าน ศ.เกียรติยศ นพ.สงคราม ทรัพย์เจริญ แพทย์ประจำพระองค์ ว่าจะเสด็จฯมาทอดพระเนตร และตนเองได้เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีรับสั่งว่าจะเสด็จฯทอดพระเนตรด้วยเช่นกัน ทุกคนในวงรู้สึกตื่นเต้น ซึ่งวันที่พระองค์ทรงดนตรีนั้น ตนเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย ได้มีโอกาสเข้าร่วมรับชมด้วย วันนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแซกโซโฟน พระองค์จะรับสั่งกับนักดนตรีที่เข้าแสดง กลุ่มนักศึกษาแพทย์ต่างอิ่มใจและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ทั้งยังมีรับสั่งกับนักศึกษาด้วย
ด้าน รศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช กล่าวว่า ไทยแลนด์ฟิวฮาโมนิกออเคสตร้า ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาเป็นออเคสตร้าวงอาชีพ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลและวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ แต่ละปีที่ผ่านมาจะมีการแสดงระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาแสดงถวาย ทั้งนี้ทางศิริราชได้จัดเตรียมระบบแสงเสียงที่ดีที่สุด ในหอประชุมราชแพทยาลัย ถือเป็นประวัติศาสตร์ของศิริราช ที่มีการจัดการแสดงวงออเคสตร้าแบบเต็มวง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางรพ.ศิริราชตั้งใจถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติ
ขณะที่ นายกุดนี่ เอ.เอมิลสัน วาทยากรจากประเทศเยอรมัน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่พิเศษมาก เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ได้อำนวยเพลงต่อหน้าพระมหากษัตริย์ ที่ทรงมีความสามารถในการประพันธ์ดนตรี แต่งบทเพลงที่คนรู้จัก ภูมิใจที่พระองค์ทรงอนุญาติให้พวกเราได้มาจัดแสดงวันนี้ และเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของวงด้วย

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Thu Feb 10, 2011 8:49 am
by น้ำตก
ท่านทรงมีความสามารถหลายด้าน ไม่จะเป็นเรื่องการ
ดูแลประชาชน ท่านก็ยังสนใจในเรื่องการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ
การเล่นดนตรี ท่านทรงสนใจในหลายๆ เรื่อง

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Mon Feb 21, 2011 2:11 pm
by kuron23
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยดนตรีมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงฝึกฝนทักษะดนตรีแบบสากล ตามแบบฉบับดนตรีศึกษา อย่างแท้จริงนานกว่า ๒ ปี หลังจากนั้น จึงได้เริ่มฝึกฝนดนตรีประเภทที่ทรงสนพระราชหฤทัย คือ ดนตรี Jazz กล่าวกันว่าดนตรี Jazz เป็นดนตรีที่ซับซ้อนเข้าถึงได้ยาก มีต้นกำเนิดที่เมืองนิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา การที่จะเข้าถึงแก่นแท้ของดนตรี Jazz ได้นั้น ต้องอาศัยการชมและการฟังอย่างมาก ทรงหาซื้อแผ่นเสียง Jazz แผ่นแรกๆ ของนักดนตรี Jazz ชื่อดังในสมัยนั้น อาทิ Louis Armstrong, Count Basie, Duke Ellington, Bin Band และ Lionel Hamton เป็นต้น

พระอาจารย์สอนดนตรีคนแรกของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ Mr. Weybrecht ชาว Alsace ในเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อพระชนมายุ ๑๕ พรรษา ทรงเริ่มเรียน Saxophone ทรงพระปรีชาสามารถ ในการทรงดนตรีเป็นพิเศษ เครื่องดนตรีที่ทรงโปรดคือ เครื่องเป่าทุกชนิด Baritone ทั้งตระกูล เช่น Soprano Saxophone, Alto Saxophone, Tenor Saxophone และ Baritone Saxophone ทรงเป่า Clarinet, Trumpet, Cornet นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงกีตาร์ กลอง เปียโนได้อีกด้วย ดนตรีที่ทรงโปรดมากคือ New Orleans Jazz หรือ Dixieland Jazz

พระองค์ทรงเล่นดนตรี ร่วมกับวงดนตรีได้ทุกวงทั้งไทย และต่างประเทศ ทรงเข้าบรรเลงร่วมกับวงดนตรีต่างๆ ได้ ไม่ว่าวงดนตรีนั้นจะมีแนวเล่นแบบใด สำหรับวงดนตรี Jazz นั้น ยังทรงดนตรี ได้ทั้งชนิดมีโน้ตและไม่ต้องมีโน้ต ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรี อย่างชัดเจน ทรงใช้ดนตรีสนทนาโต้ตอบภาษาดนตรี (Improvisation) กับนักดนตรี Jazz ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิLionel Hamption, Jack Teagarden, Benny Goodman, Stan Getz, Benny Carter และ Maynard Ferguson

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Mon Feb 21, 2011 4:34 pm
by tragedy
พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถเล่นดนตรี เป่าแซกโซโฟน เป็นนักแต่งเพลง
พระองค์เป็นนักพัฒนาและทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านต่าง ๆ ขอให้
พระองค์มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยนาน ๆ

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Mon Feb 28, 2011 1:21 pm
by ปลาบู่ทะเล
ท่านมีความสามารถทุกด้าน
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Tue Mar 15, 2011 11:47 am
by bluedog
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เคารพรักและเทิดทูนของปวงชนชาวไทย เช่นเดียวกับพระมหาบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ แห่งราชวงศ์จักรีที่ปกครองประเทศชาติให้ผ่านพ้นผองภัย นานาประการมากว่า 200 ปี ในช่วงปีพุทธศักราช 2503 บรรดาประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของเรา มีปัญหาการปกครองภายในเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ ลัทธิการเมืองใหม่ที่นำมาซึ่งความขัดแย้งรุนแรง แต่ไทยเรารอดปลอดภัยมาได้เพราะพระองค์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกคน โครงการงานในพระราชดำริมากมายที่พระองค์ทรงริเริ่ม ได้สร้างประโยชน์สุขให้แก่พสกนิกร ทั่วราชอาณาจักร เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของนานาประเทศ ถึงกับมีผู้กล่าวไว้ว่า พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงแต่งานเป็นกิจวัตรหลัก เป็นที่น่าพิศวงยิ่งนัก แม้พระองค์จะทรงมีภารกิจต่างๆ มากมาย แต่พระองค์ก็ยังทรงมีเวลาสร้างสรรค์พระราชนิพนธ์ทางดนตรี ที่มีความไพเราะไว้มาก ซึ่งยังติดตรึงใจปวงชนชาวไทยตลอดมา
๑. แสงเทียน (Candlelight Blues)
๒. ยามเย็น (Love At Sundown)
๓. สายฝน (Falling Rain)
๔. ใกล้รุ่ง (Near Dawn)
๕. ชะตาชีวิต (H.M. Blues)
๖. ดวงใจกับความรัก (Never Mind the H.M. Blues)
๗. มาร์ชราชวัลลภ (Royal Guards March)
๘. อาทิตย์อับแสง (Blue Day)
๙. เทวาพาคู่ฝัน (Dream Of Love Dream of You)
๑๐. คำหวาน (Sweet Words)
๑๑. มหาจุฬาลงกรณ์
๑๒. แก้วตาขวัญใจ (Lovelight in My Heart)
๑๓. พรปีใหม่
๑๔. รักคืนเรือน (Love Over Again)
๑๕. ยามค่ำ (Twilight)
๑๖. ยิ้มสู้ (Smiles)
๑๗. มาร์ชธงไชยเฉลิมพล
๑๘. เมื่อโสมส่อง (I Never Dream)
๑๙. ลมหนาว (Love in Spring)
๒๐. ศุกร์สัญลักษณ์ (Friday Night Rag)
๒๑. Oh I say
๒๒. Can't You Ever See
๒๓. Lay Kram Goes Dixie ๒๔. ค่ำแล้ว (Lullaby)
๒๕. สายลม (I Think of You)
๒๖. ไกลกังวล (When)
๒๗. แสงเดือน (Magic Beams)
๒๘. ฝัน (Somewhere Somehow)
๒๙. มาร์ชราชนาวิกโยธิน
๓๐. ภิรมย์รัก (A Love Story)
๓๑. แผ่นดินของเรา (Alexandra)
๓๒. พระมหามงคล
๓๓. ยูงทอง
๓๔. ในดวงใจนิรันดร์ (Still on My Mind)
๓๕. เตือนใจ (Old Fashioned Melody)
๓๖. ไร้เดือน (No Moon)
๓๗. เกาะในฝัน (Dream Island)
๓๘. แว่ว (ECHO)
๓๙. เกษตรศาสตร์
๔๐. ความฝันอังสูงสุด
๔๑. เราสู้
๔๒. เรา-เหล่าราบ ๒๑
๔๓. BLUES FOR UTHIT
๔๔. รัก
๔๕. เมนูไข่

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Tue Mar 15, 2011 5:34 pm
by เพียงดิน2889
พระองค์ทรงเป็นอัครศิลปิน ในด้านการถ่ายภาพ ทรงถ่ายภาพได้สวยงาม และมีสุนทรีภาพทางการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก สังเกตุได้จากพระองค์ทรงมีกล้องถ่ายภาพติดพระองค์อยู่ตลอดเวลาที่ทรงพระราชกรณียกิจต่าง ๆ นอกจากเก็บภาพถ่ายพระราชกรณียกิจแล้ว ยังทรงมีถ่ายภาพประชาชน ทิวทัศน์ต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนด้วย

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Sat Mar 26, 2011 2:30 pm
by chaobaan
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นคีตกวีและนักดนตรีที่ชาวโลกยกย่อง ทรงพระปรีชาสามารถในการทรงดนตรี พระราชนิพนธ์เพลง และเรียบเรียงเสียงประสาน ทรงเป็นครูสอนดนตรีแก่ข้าราชบริพารใกล้ชิด และทรงซ่อมเครื่องดนตรีได้ด้วยพระองค์เอง รวมทั้งทรงเชี่ยวชาญในศิลปะแขนงต่างๆ อย่างแท้จริง สมกับที่พสกนิกรชาวไทยน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญาว่า “อัครศิลปิน”

Re: “ความเป็นอัครศิลปิน ของ พ่อหลวง”

PostPosted: Sat Mar 26, 2011 2:36 pm
by sweet2011
พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุด
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน