Page 1 of 1

ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Sat Mar 05, 2011 5:55 pm
by tragedy
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงวิตกกังวลกับปัญหาภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
โดยทรงกำชับให้สำนักฝนหลวงคอยติดตามธรรมชาติอย่่างใกล้ชิด หากพบว่ามีความชื้นที่เหมาะสม
ก็ให้เร่งปฏิบัติการทำฝนหลวงทันที เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำฝนในอ่างเก็บน้ำ และเพิ่มความชื้นในดินให้สามารถ
ทำการเกษตรได้ จังหวัด ที่ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดแพร่ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาเป็นห่วงพสกนิกร

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Sun Mar 06, 2011 10:07 am
by sareesri_39
พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทยที่กำลังได้รับความเดือดร้อน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Mon Mar 07, 2011 9:27 am
by Smallsoldier2010
กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกชั้นฟ้า อภิบาลปกปักรักษาคุ้มครององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงตราบนานเท่านาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ขอให้พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญให้กับปวงประชาทั่วราช ตลอดไป ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เทอญ ฯฯ

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Mon Mar 07, 2011 4:57 pm
by น้ำตก
ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดท่านก็ทรงห่วงใยประชาชน
ที่กำลังเดือดร้อนเสมอ

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Wed Mar 09, 2011 1:51 pm
by tarato13
เย็นศิระเพราะพระบริบาล
ปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ เป็นปีมหามงคลซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๘๐ พรรษา และเป็นปีที่ทรงครองราชย์ครบ ๖๑ ปี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ซึ่งครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงใช้ทศพิธราชธรรมในการนำประเทศชาติผ่านวิกฤติการณ์ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง ด้วยพระบารมีของพระองค์ทำให้สามารถยุติการนองเลือดและการแตกความสามัคคีอันส่งผลให้ระบอบประชาธิปไตย มีความยุติธรรมและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้พระอัจฉริยภาพแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมืองหลายครั้ง แต่ ครั้งที่สำคัญยิ่งคือ เหตุการณ์นองเลือด ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พุทธศักราช ๒๕๓๕ และเหตุการณ์ความแตกสามัคคี พุทธศักราช ๒๕๔๙ โดยพระองค์จะระมัดระวังไม่ทรงเกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง แต่จะทรงแนะนำทางออกเพื่อแก้วิกฤตด้วยพระองค์เองเมื่อถึงคราวที่บ้านเมืองมาถึงทางตันไร้ทางออกที่เหมาะสม พระองค์ทรงวางพระองค์เป็นกลาง ทรงมีพระราชประสงค์ให้บ้านเมืองมีความสงบสุขและประชาราษฎร์มีความปลอดภัยเพียงประการเดียว
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จมีพระราชดำรัสทางสื่อโทรทัศน์จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานว่า เป็นวันมหาวิปโยค เป็นช่วงที่มีเหตุการณ์น่าเศร้าสลดของชาติไทย เกิดการปะทะกันและมีความรุนแรงทวีขึ้นจนถึงขั้นจลาจลและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงด้วยความสงบ ทำให้คนไทยเสียชีวิตจำนวนมาก ทรงขอให้ทุกฝ่ายระงับเหตุแห่งความรุนแรงด้วยการตั้งสติยับยั้ง และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลพื่อให้บ้านเมืองคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นไม่นานนักบ้านเมืองก็มีความสงบสุข และมีความรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง
ประเทศไทยประสบภาวะวิกฤตอีกครั้งในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬซึ่งทำให้มีการปะทะกันและเกิดการนองเลือด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสเตือนสติผู้ก่อการให้เห็นถึงผลกระทบที่จะมีต่อประเทศชาติในทุกๆด้าน ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและการเมือง ทรงขอให้ผู้แทนทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันแก้ปัญหาเพื่อให้ประเทศชาติกลับคืนสู่ความสงบสุข ไม่นานนักบ้านเมืองก็กลับมาสงบสุขดังเดิม
พุทธศักราช ๒๕๔๙ เป็นปีที่ราษฎรไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกครั้ง ปีนี้มีเหตุการณ์แตกความสามัคคีลุกลามไปทั่วประเทศที่อาจจะนำไปสู่การนองเลือดได้ ด้วยพระบารมีของพระองค์ ทำให้ไทยรอดพ้นภาวะวิกฤตไปได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริก่อเกิดโครงการต่างๆ ถึง ๓๐๐๐ โครงการเพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงช่วยเหลือราษฎรทุกชุมชนไม่ว่าจะอยู่ไกลแสนไกลในถิ่นทุรกันดาร หรือในเขตของผู้ก่อการร้ายก็ตาม
ด้วยทศพิธราชธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้นิตยสารไทม์เอเชียถวายการยกย่องพระองค์เป็นวีรบุรุษแห่งเอเชีย สาขาผู้เป็นแรงบันดาลใจในโอกาสฉลองวาระครบ ๖๐ ปีของนิตยสารในฉบับวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
นิตยสารไทม์ได้สดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก ทรงใช้พระบารมีแห่งทศพิธราชธรรมนำประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตหลายครั้ง ด้วยพระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ทรงดำรงสถานะอันสูงส่งเป็นที่เคารพรักดุจบิดาของปวงชนชาวไทยตลอดมา
นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระองค์ทรงนำประเทศชาติพ้นไปจากความยากจน ความทุกข์ ความไม่รู้หนังสือ การปกครองที่ก่อให้เกิดปัญหาและการแตกความสามัคคี พ้นจากด้านมืดที่มีคนกระหายอำนาจ มีความเห็นแก่ตัวมุ่งทำลายชาติ ไปสู่ความเป็นชาติที่เจริญและมีความเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน ทั้งนี้เพราะพระองค์ทรงพระราชทานแนวความคิดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นหลักปรัชญาที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิตของคนไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับการพัฒนาชาติไทย พระองค์จึงได้รับการถวายพระนามจากชาวโลกว่า “ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา”
องค์การสหประชาชาติโดย นายโคฟี อันนัม เลขาธิการองค์การสหประชาชาติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” จากการที่พระองค์ทรงอุทิศพระวรกาย เพื่อความอยู่ดีกินดีของราษฎร
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ นานาประเทศเกิดความตื่นตัวและยอมรับแนวความคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่มุ่งเน้นหลักความเป็นอยู่พอประมาณ ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันผลกระทบจากโลกาภิวัตน์
ตลอดเวลาของการครองสิริราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระอัจฉริยภาพ ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะเพื่อความสุขความปลอดภัยของราษฎรมาโดยตลอด โดยไม่เคยทรงทอดทิ้งราษฏร ดังปฐมบรมราชโองการที่ว่า
“...เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม...”
โดย. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์สมโภชน์ วีระกุล
นางสาวชะอำ เมนะสูต

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Wed Mar 09, 2011 5:44 pm
by เพียงดิน2889
ความแห้งแล้งกำลังมา ฤดูร้อนทำให้แหล่งน้ำต่าง ๆ มีปริมาณน้ำน้อยลง หรือแห้งขอด ไม่เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค ใช้ในการเกษตร ทำให้ประชาชนเดือดร้อน พระองค์ทรงห่วงใยประชาชน จึงมีพระดำริให้ทำฝนเทียม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทำให้เกิดฝนตก มีน้ำไว้ใช้ในด้านการเกษตร อุปโภค บริโภคต่อไป ทรงมีน้ำพระทัยทีเปี่ยมล้นที่ทรงห่วงใยประชาชนทุกภาค

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Thu Mar 10, 2011 2:36 pm
by chaobaan
โครงการช่วยเหลือราษฎรของพระองค์ก่อนที่จะพระราชทานไปนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงศึกษาทดลองจนรู้จริง จากสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ จากความเห็นของราษฎร และ นักวิชาการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหาย และติดตามผลด้วยพระองค์เอง

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Tue Mar 22, 2011 8:50 am
by kuron23
พระองค์ทรงมีความห่วงใยกับพสกนิกรของพระองค์ตลอด เมื่อได้รับความเดือดร้อนต่างๆ พระองค์ทรงให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และบางครั้งก็ทรงพระราชทานราชทรัพย์ส่วนพระองค์มอบให้แก่ราษฎรในเบื้องต้นก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Tue Mar 22, 2011 5:33 pm
by เพียงดิน2889
พระองค์ทรงห่วงใยประชาชนในจังหวัดที่แห้งแล้ง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง เมื่ออากาศมีความชื้นพอเหมาะ เพื่อบรรเทาภัยแล้ง ทำให้มีฝนตก ประชาชนจะได้ทำการเกษตรต่อไปได้ มีน้ำอุปโภค บริโภค เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนได้ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Sat Mar 26, 2011 1:08 pm
by chaobaan
การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกหรือการชลประทาน นับว่าเป็นงานที่มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างสำหรับประชาชนส่วนใหญ่ของ ประเทศ ในการช่วยให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกได้อย่างสมบูรณ์ตลอดปี ในปัจจุบันพื้นที่การเพาะปลูกนอกเขตชลประทาน ซึ่งต้องอาศัยเพียงน้ำฝนและน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลัก ทำให้พืชได้รับน้ำไม่สม่ำเสมอตามที่พืชต้องการ อีกทั้งความผันแปรเนื่องจากฝนตกไม่พอเหมาะกับความต้องการ เป็นผลให้ผลผลิตที่ได้รับไม่ดีเท่าที่ควร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่ง น้ำมากกว่าโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริประเภทอื่น ทรงให้ความสำคัญในลักษณะ “น้ำคือชีวิต” ดังพระราชดำรัส ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๒๙ ความตอนหนึ่งว่า “…หลัก สำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ไม่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้…”

Re: ในหลวง ทรงย้ำให้เร่งทำฝนหลวง บรรเทาทุกข์ภัยแล้ง

PostPosted: Sat Mar 26, 2011 2:55 pm
by sweet2011
พระองค์ทรงห่วงใยความเดือนร้อนของราษฎอย่างแท้จริง
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน