พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ครองทศพิธราชธรรม

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ครองทศพิธราชธรรม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยึดมั่นในคำมั่นสัญญา ที่พระราชทานแก่อาณาประชาราษฎร์อย่างเคร่งครัด ดังความที่ตรัส ไว้ในปฐมบรม ราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ธรรมะที่ว่านี้คือทศพิธราชธรรม ซึ่งเป็นธรรมะ 10 ประการ สำหรับพระราชาทรงปฏิบัติในการปกครองบ้านเมือง ให้เจริญรุ่งเรืองมีความร่มเย็นเป็นสุขสันติ ดังเช่นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติติดต่อกันมายาวนานถึง 65 ปี พระราชธรรม 10 ประการ ได้แก่ การให้ การสำรวมในศีล การบริจาค ความซื่อตรง ความเป็นผู้อ่อนโยน ความเพียร ความไม่โกรธ ความไม่เบียดเบียน ความอดทน และความไม่คลาดธรรม การบำเพ็ญและรักษาพระราชธรรมนี้ เป็นที่ประจักษ์แล้วอย่างชัดแจ้ง ว่าทรงกระทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทย ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่สมบูรณ์พรั่งพร้อมด้วยพระเมตตาคุณ พระกรุณาคุณ และพระขันติคุณทุกประการมาโดยตลอด ทั้งในยามที่ทรงพระเกษมสำราญและในยามที่ทรงเผชิญกับความยุ่งยากพระราชหฤทัย เป็นเหตุให้เกิดประโยชน์แก่ ประเทศและพสกนิกรชาวไทยถ้วนหน้า พระราชจริยวัตรนี้ยังเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาว โลกอีกด้วย
จึงกล่าวได้ว่า ทรงเป็นมหาราชที่เป็นขวัญใจของมวลมนุษย์ด้วยการทรงรักษาสัจธรรมอันเป็นราชธรรมของมวลกษัตริย์และประมุขแห่งหมู่ชน ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติได้ทรงบำเพ็ญและอุทิศพระองค์ ให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ศาสนา และประชาชน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่รอบรู้ทุกด้าน ทรงมุ่งใช้พระปรีชาญาณเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นโดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์ส่วนพระองค์ ทรงใช้พระปรีชาญาณใช้พระบรมราโชบายในการแนะนำสั่งสอน เพื่อแก้ไขความทุกข์ของประชาชน ทรงริเริ่มโครงการในพระราชดำริซึ่งเป็นแบบอย่างแก่พสกนิกร พระราชทานทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พระราชทานให้แก่ราษฎรผู้ยากไร้ และผู้ประสบภัยต่างๆ ให้พ้นจากความเศร้าและทุกข์ใจ พระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงพสกนิกรไทย ทั้งยังแผ่กำจรกำจายไปถึงต่างแดน ทั่วโลก พระมหาบารมีอันยิ่งใหญ่ไพศาลนั้น มากล้นเกินพรรณนาความได้ครบถ้วน หากแต่ทุกผู้คนทั่วไปต่างจงรักประจักษ์ใจและแซ่ซ้องเทิดทูนไว้เหนือเกล้า ทรงสถิตเป็น “ ในหลวง ” อันเป็นที่รักยิ่ง...ทรงเป็นมิ่งมงคลของชนไทย
ข้อมูลข่าวและที่มา
เรียบเรียงโดย รุ่งนภา นรารัตน์กุล
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยึดมั่นในคำมั่นสัญญา ที่พระราชทานแก่อาณาประชาราษฎร์อย่างเคร่งครัด ดังความที่ตรัส ไว้ในปฐมบรม ราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ธรรมะที่ว่านี้คือทศพิธราชธรรม ซึ่งเป็นธรรมะ 10 ประการ สำหรับพระราชาทรงปฏิบัติในการปกครองบ้านเมือง ให้เจริญรุ่งเรืองมีความร่มเย็นเป็นสุขสันติ ดังเช่นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติติดต่อกันมายาวนานถึง 65 ปี พระราชธรรม 10 ประการ ได้แก่ การให้ การสำรวมในศีล การบริจาค ความซื่อตรง ความเป็นผู้อ่อนโยน ความเพียร ความไม่โกรธ ความไม่เบียดเบียน ความอดทน และความไม่คลาดธรรม การบำเพ็ญและรักษาพระราชธรรมนี้ เป็นที่ประจักษ์แล้วอย่างชัดแจ้ง ว่าทรงกระทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทย ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่สมบูรณ์พรั่งพร้อมด้วยพระเมตตาคุณ พระกรุณาคุณ และพระขันติคุณทุกประการมาโดยตลอด ทั้งในยามที่ทรงพระเกษมสำราญและในยามที่ทรงเผชิญกับความยุ่งยากพระราชหฤทัย เป็นเหตุให้เกิดประโยชน์แก่ ประเทศและพสกนิกรชาวไทยถ้วนหน้า พระราชจริยวัตรนี้ยังเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาว โลกอีกด้วย
จึงกล่าวได้ว่า ทรงเป็นมหาราชที่เป็นขวัญใจของมวลมนุษย์ด้วยการทรงรักษาสัจธรรมอันเป็นราชธรรมของมวลกษัตริย์และประมุขแห่งหมู่ชน ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติได้ทรงบำเพ็ญและอุทิศพระองค์ ให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ศาสนา และประชาชน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่รอบรู้ทุกด้าน ทรงมุ่งใช้พระปรีชาญาณเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นโดยมิได้มุ่งหวังประโยชน์ส่วนพระองค์ ทรงใช้พระปรีชาญาณใช้พระบรมราโชบายในการแนะนำสั่งสอน เพื่อแก้ไขความทุกข์ของประชาชน ทรงริเริ่มโครงการในพระราชดำริซึ่งเป็นแบบอย่างแก่พสกนิกร พระราชทานทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พระราชทานให้แก่ราษฎรผู้ยากไร้ และผู้ประสบภัยต่างๆ ให้พ้นจากความเศร้าและทุกข์ใจ พระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงพสกนิกรไทย ทั้งยังแผ่กำจรกำจายไปถึงต่างแดน ทั่วโลก พระมหาบารมีอันยิ่งใหญ่ไพศาลนั้น มากล้นเกินพรรณนาความได้ครบถ้วน หากแต่ทุกผู้คนทั่วไปต่างจงรักประจักษ์ใจและแซ่ซ้องเทิดทูนไว้เหนือเกล้า ทรงสถิตเป็น “ ในหลวง ” อันเป็นที่รักยิ่ง...ทรงเป็นมิ่งมงคลของชนไทย
ข้อมูลข่าวและที่มา
เรียบเรียงโดย รุ่งนภา นรารัตน์กุล
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th