ในนหลวงพระราชทานรถเข็นหญิงพิการอยุธยา หลังลูกกตัญญูถวายฎีกา
ลูกกตัญญูปลาบปลื้ม รับมอบรถเข็นคนพิการจากสำนักพระราชวัง หลังเขียนจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอความช่วยเหลือให้แม่ผู้พิการเส้นเลือดในสมองแตก...
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 เม.ย.2554 ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยผู้บริหารเทศบาล และผู้ร่วมบริจาค นำโดย พ.อ.อ.นรชัย กฤษณเกษกุล ผู้บริหารบริษัทอยุธยาการ์ด จำกัด และเป็น ส.ท.เทศบาลเมืองอโยธยา ได้นำรถเข็นสำหรับคนพิการอย่างดี และเงินสดจากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และเงินจากการบริจาค เข้ามอบแก่นางอรวรรณ รักศมีนา อายุ 65 ปี ซึ่งป่วยพิการเส้นโลหิตในสมองแตก และกลายเป็นคนพิการมานานเกือบ 1 ปี ที่อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ ฑ.130 ม.8 ซอยโรงฆ่าสัตว์เก่า ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายอนุภาพ นาคะสาทิศ อายุ 43 ปี บุตรชายนางอรวรรณ ที่ดูแลแม่พิการรับมอบ
ทั้งนี้ นายอนุภาพ ได้เขียนหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถึงปัญหาความเดือดร้อนในชีวิตครอบครัว ที่แม่พิการและมีฐานะยากจนมาก โดยล่าสุดสำนักพระราชวัง มีหนังสือเลขที่ รล 0007.5/3775 ถึงครอบครัวนี้ มีข้อความว่า ตามที่ท่านได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ลงวันที่ 1 มกราคม 2554 เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือ ความแจ้งอยู่แล้วนั้น ทางสำนักพระราชวังได้รับเรื่องไว้แล้ว จึงแจ้งมาเพื่อให้ทราบ
โดยนายอนุภาพ กล่าวว่า เดิมแม่เคยทำงานเป็นลูกจ้างประจำในเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เพื่อเกษียณอายุราชการมาแล้ว ก็ยังอยู่ในบ้านพักเก่าของเทศบาลนครฯ ส่วนตนเองเป็นลูกชายคนโต โดยแม่ของตนเองมีลูกรวม 3 คน อีก 2 คน ก็แยกครอบครัวไปอยู่กรุงเทพฯ และไม่ได้ติดต่อมาสำหรับตนเองยังไม่มีครอบครัว โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่มาเมื่อ 11 เดือนที่แล้ว แม่ที่ไม่ค่อยแข็งแรง เพราะทำงานหนักเลี้ยงลูกมาแต่วัยสาว ๆ ได้ล้มป่วยลง และท้ายที่สุดเกิดล้มในบ้านพัก เชื่อว่าเส้นโลหิตในสมองแตก ได้นำส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา รักษาจนรอดตายมาได้ แต่พบว่า ความที่เส้นโลหิตในสมองแตก ทำให้แม่กลายเป็นคนพิการ เป็นอัมพาต นานวันเข้าเมื่อร่างกายขยับไม่ได้ ร่างกายของแม่ก็ซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เมื่อแม่ป่วย ตนเองก็ลาออกจากงานมาดูแลแม่ที่ป่วย โดยไม่มีรายได้อะไรเข้ามาในครอบครัว โชคดีที่เทศบาลจ่ายเงินเบี้ยคนชราเดือนละ 500 บาท และหยิบยื่นความช่วยเหลือในยามที่ขัดสนบ้าง
ส่วนการกินการอยู่ลำบาก เพราะเมื่อไม่มีเงินเข้ามา แต่มีรายจ่ายในการดูแลแม่ทุกวัน ทั้งอาหารอ่อน อุปกรณ์ดูแลคนป่วยที่เป็นอัมพาต เพื่อป้องกันแผลกดทับ ยาและวัสดุทำความสะอาดร่างกายและแผล ซึ่งมีเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือบ้าง เช่น อาหารและเงินทองเล็กน้อยๆ แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะว่าก็ยากจนกันทั้งนั้น และชีวิตของตนเองเริ่มหมดหนทาง เพราะความที่ต้องดูแลแม่ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างใดๆ ได้
นายอนุภาพ กล่าวว่า เมื่อตนเองหมดหนทางในชีวิต และไม่ทราบจะหาทางออกอย่างไรดี ช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง ตนเองคิดว่า จะขอพระราชทานความช่วยเหลือ แต่ไม่กล้าในครั้งแรก เพราะเห็นว่าพระองค์ทรงพักรักษาพระวรกายที่ รพ.ศิริราช จึงปรึกษาเพื่อนบ้าน และท้ายที่สุด ตนลงมือเขียนหนังสือทูลเกล้าถวายฎีกาถึง 2 พระองค์ท่าน โดยเล่าบรรยายถึงสภาพชีวิตที่ผ่านมาของแม่และครอบครัว จนถึงสภาพปัญหาของแม่ที่ป่วย และตนเองต้องลาออกจากงานมาดูแลแม่ และยากจนไม่มีรายได้เข้ามาแลแม่ที่ป่วย ตนเองก็อยากจะดูแลแม่ไปตลอด จะนานเท่าใดตนเองพร้อมทำ เพื่อทดแทนพระคุณของแม่ ตอนส่งจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกานั้น ตนไม่ทราบว่าสำนักพระราชวังนั้น อยู่เลขที่อะไร ถนนอะไร หรือแขวงและเขตอะไร จึงจ่าหน้าซองถึงสองพระองค์ท่าน และเขียนว่าส่ง สำนักพระราชวังกรุงเทพฯ เท่านั้น และเมื่อมีหนังสือตอบกลับมา น้ำตาของตนเองไหลออกมาด้วยความปลาบปลื้ม ที่พระองค์ทั้งสองพระองค์ทรงดูแลบำบัดทุกข์ของพสกนิกร และรับทราบปัญหาของประชาชนทุกคน ขนาดตนเองเป็นคนที่ยากไร้โอกาสในสังคม เป็นเพียงธุลีดินธรรมดาคนหนึ่ง สองพระองค์ยังทรงมองเห็นความทุกข์ของตนเองและครอบครัว ทำให้ตนเองมีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิตต่อไป
ว่าที่ ร.ต.สมทรง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เทศบาลก็ให้การช่วยเหลือด้วยการให้อยู่ในบ้านพักเก่าของเทศบาล และมอบเงินเบี้ยยังชีพ พร้อมให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชนมาช่วยดูแลเช่นกัน ซึ่งพอทราบว่ามีหนังสือตอบกลับมาจากสำนักพระราชวัง จึงต้องเร่งเข้ามาให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมเข้าไปอีก โดยจากการประสานไปยังสำนักพระราชวังพบว่า ต้องการให้เทศบาลเพิ่มการช่วยเหลือ ให้ครอบครัวนี้มีความสุขในชีวิตบ้าง และมีรายได้บ้างเพื่อจะได้มีเงินมีซื้อสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต ซึ่งทางเทศบาลเองสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสองพระองค์ท่าน จึงได้เร่งประสานงานนำงบประมาณเข้าให้การช่วยเหลือ และได้รับความร่วมมือดีจากสังคมในการช่วยเหลือเบื้องต้น และหากสำนักพระราชวังประสานหรือสั่งการมาอย่างไร ทางเทศบาลพร้อมปฏิบัติอย่างเต็มกำลังและความสามารถ
http://www.thairath.co.th