Page 1 of 1

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Wed May 11, 2011 2:04 pm
by network1974
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานความรักอันยิ่งใหญ่แก่อาณาประชาราษฎร์ พระราชภารกิจอันหนักเพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์ ปรากฏเป็นที่ประจักษ์เทิดทูนพระเกียรติคุณทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวโลก จึงทรงได้รับการสดุดีและการทูลเกล้าฯถวายปริญญากิตติมศักดิ์เป็นจำนวนมาก ทุกสาขาวิชาการ ทั้งยังมีพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีอย่างสูงส่ง ทรงพระราชนิพนธ์เพลงอันไพเราะนับแต่พระเยาว์จนถึงปัจจุบันรวม 47 เพลง ซึ่งนักดนตรีทั้งไทยและต่างประเทศนำไปบรรเลงอย่างแพร่หลาย เป็นที่ประจักษ์ในพระอัจฉริยภาพจนสถาบันดนตรีในออสเตรเลีย ได้ทูลเกล้าฯถวายสมาชิกภาพกิตติมศักดิ์แด่พระองค์
นอกจากนั้นยังทรงเป็นนักกีฬาชนะเลิศรางวัลเหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาชีเกมส์ทรงได้รับยกย่องเป็น “ อัครศิลปิน” ของชาตินอกจากทรงพระปรีชาสามารถด้านดนตรีแล้ว ยังทรงสร้างสรรค์งานจิตกรรมและวรรณกรรมอันทรงคุณค่าไว้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของชาติ เช่น ทรงพระราชนิพนธ์แปลเรื่อง ติโตนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ และพระราชนิพนธ์เรื่อง ชาดก พระมหาชนก พระราชทานคติธรรมในการดำรงชีวิตด้วยความวิริยอุตสาหะ อดทนจนพบความสำเร็จแก่พสกนิกรทั้งปวง
ปวงชนชาวไทยต่างมีความจงรักภัคดีเป็นที่ยิ่งดังปรากฏว่า ในวาระสำคัญ เช่น ศุภวาระเถลิงถวัลยราชครบ 25 ปี พระราชพิธีรัชดาภิเษก 9 มิถุนายน 2514 พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธันวาคม 2530 พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก ทรงดำรงค์สิริราชสมบัติยาวนานกว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ 2 กรกฎาคม 2531 มหามงคลสมัยฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี 9 มิถุนายน 2539 และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 นี้ รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ได้พร้อมใจกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล ด้วยความกตัญญูกตเวที สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม อย่างสมพระเกียรติ


http://thainews.prd.go.th/king84year/bi ... php?part=7
ที่มา สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Sun May 15, 2011 8:53 am
by รักเมืองไทย55
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเริ่มเรียนดนตรีเมื่อพระชนมายุ ๑๓ พรรษา ขณะประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กับครูชาวอัลซาส ชื่อ นายเวย์เบรชท์ (Wey-brecht) โดยทรงเรียนเป่าแซกโซโฟน วิชาการดนตรี การเขียนโน้ต และสเกลต่าง ๆ ในแนวดนตรีคลาสสิค ต่อมา จึงเริ่มฝึกดนตรีแจ๊ส และทรงดนตรีสากล โดยทรงหัดเป่าแซกโซโฟนกับเพลงจากแผ่นเสียงของวงดนตรีที่มีฝีมือ เช่น John Hodges และ Sidney Bechet เป็นต้น จนทรงมีความชำนาญจึงทรงเป่าสอดแทรกกับแผ่นเสียงของนักดนตรีที่มีชื่อเสียงได้เป็นอย่างดี ทรงโปรดดนตรีประเภท Dixieland Jazz มาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องดนตรีได้ดี หลายชนิด ทั้งประเภทเครื่องลม เช่น แซกโซโฟน คลาริเนต และประเภทเครื่องทองเหลือง เช่น ทรัมเปต รวมทั้งเปียโนและกีตาร์ที่ทรงฝึกเพิ่มเติมในภายหลัง เพื่อประกอบการพระราชนิพนธ์เพลงและเพื่อทรงดนตรีร่วมกับ วงดนตรีส่วนพระองค์

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Fri May 20, 2011 8:29 am
by kuron23
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านภาษาและวรรณกรรมเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าพระองค์จะทรงเจริญพระชันษาในต่างประเทศ ทรงศึกษาภาษาต่างประเทศ แต่พระองค์ยังทรงมีพระอัจฉริยภาพในการใช้ภาษาไทยได้อย่างยอดเยี่ยม และยังทรงห่วงใยต่อภาษาไทยอีกด้วย
"...ภาษาไทยนั้นเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของชาติ ภาษาทั้งหลายเป็นเครื่องมือของมนุษย์ชนิดหนึ่ง คือเป็นทางสำหรับแสดงความเห็นอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่สวยงามอย่างหนึ่ง เช่นในทางวรรณคดีเป็นต้น ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาไว้ให้ดี ประเทศไทยนั้นมีภาษาของเราเองซึ่งต้องหวงแหนประเทศใกล้เคียงของเราหลายประเทศมีภาษาของตนเอง แต่ว่าเขาก็ไม่แข็งแรง เขาต้องพยายามหาทางที่จะสร้างภาษาของตนเองไว้ให้มั่นคง เราโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้... ”

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Fri May 20, 2011 2:56 pm
by VEE99999
การมีจิตสำนึกที่ดีและการกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญของทุกคนในชาติ
ต้องช่วยกันรักษาความเป็นชาติ ด้วยการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ไม่ให้ถูกละเมิด หรือล่วงเกินเป็นอันขาด ช่วยกันปกป้อง และเทิดทูนสถาบนอนเป็นที่รักของคนไทยทุก ๆ คน

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Thu May 26, 2011 12:15 pm
by น้ำตก
ท่านทรงมีพระอัจฉริยภาพทางดนตรีที่เก่งมาก ท่านทรงแต่งเพลงพระราชนิพนธ์
ที่ไพเราะหลายต่อหลายเพลง

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Fri May 27, 2011 2:42 pm
by tarato13
"เรา หรือเขา รักในหลวง"
ประเทศไทยเราในปัจจุบันนี้พบว่ามีผู้ไม่หวังดีพยายามบั่นทอนและสร้างความเข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติไทย แล้วประชาชนอย่างพวกเราจะช่วยกันปกป้องรักษาสถาบันที่เรารัก เทิดทูนได้อย่างไร วิธีง่ายที่สุดก็คือต้องช่วยกันเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาใด เหมือนเป็นการนำ “น้ำดีไล่น้ำเสีย” เพื่อให้คนทั่วไป โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถาบันฯ อันเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทย
เรื่องราวบางส่วนที่ได้คัดลอกมานี้ขอถวายแทนความเทิดทูนและจงรักภักดีต่อในหลวงที่เป็นพ่อของคนไทยที่ดีที่สุดในโลก เพราะอ่านแล้วไม่สามารถเก็บสิ่งดี ๆ อย่างนี้ไว้ในความรู้สึกคนเดียวได้ อยากให้ท่านผู้อ่านร่วมรู้สึกซาบซึ้งเช่นเดียวกัน แล้วท่านจะไม่แปลกใจว่าทำไมทุก ๆ คนแม้แต่ตัวท่านเอง รักในหลวงมากเหลือเกิน
“เขาเดินมาเป็นวัน ๆ” พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
“มีอยู่ครั้งนึงข้าพเจ้าอายุ ๑๘ ปี ได้ตามเสด็จ ตอนนั้นเป็นช่วงหลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทุกจังหวัดและอำเภอใหญ่ ๆ ก็เสด็จฯ ประมาณ ๙ โมงเช้า เสด็จออกทรงเยี่ยมราษฎรมาเรื่อย ๆ ทีนี้ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่า แหม นานเหลือเกิน ตอนนั้นยังไม่กางร่ม ตอนนั้นยังไม่ค่อยกลัวแดด ไม่ใส่หมวก ก็รู้สึกแดดเปรี้ยง หนังเท้านี้รู้สึกไหม้เชียว ก็เดินเข้าไปกระซิบท่านว่า พอหรือยัง ก็โดนกริ้ว “นี่เห็นไหมราษฎรเขาเดินมาเป็นวัน ๆ เพื่อมาดูเราแม้แต่นิดเดียว แต่นี่เรายืนอยู่ไม่เท่าไรล่ะ ตอนนี้ทนไม่ไหวเสียแล้ว”

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Mon May 30, 2011 9:48 pm
by สมศรี422อาร์
ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงมีพระอัจฉริยภาพในหลายๆด้าน และทรงนำสิ่งดีๆเหล่านั้นมาใช้ในการปกครองบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Mon May 30, 2011 11:29 pm
by d69b
VEE99999 wrote:การมีจิตสำนึกที่ดีและการกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญของทุกคนในชาติ
ต้องช่วยกันรักษาความเป็นชาติ ด้วยการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ไม่ให้ถูกละเมิด
หรือล่วงเกินเป็นอันขาด ช่วยกันปกป้อง และเทิดทูนสถาบนอนเป็นที่รักของคนไทยทุก ๆ คน

น่าเศร้าที่ กลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง หากินกับ ด้านมืดของจิตใจคน ทั้ง โลภ โกรธ หลง และ ริษยา อันเป็นสาเหตุให้มีการ สร้างกระแสต่อต้านสถาบันสูงสุด ด้วยการใส่ร้ายป้ายสี อ้างไพร่-ศักดินา ให้เกิดริษยา โกรธเกลียด จนลืมไปว่า ชีวิตเค้าเหล่านั้น ล้วนได้พึ่งบารมี ที่พระองค์ทรงพระอุสาหะ และทรงมีพระอัจฉริยภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ชลประทาน, พันธุ์ข้าว, พันธุ์ปลา ฯลฯ

เกิดเป็นมนุษย์ หาก ลืมคุณคน ก็ไม่ต่างอะไรกับ เดรัจฉานแล้ว

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Mon May 30, 2011 11:36 pm
by NUBO
d69b wrote:
VEE99999 wrote:การมีจิตสำนึกที่ดีและการกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญของทุกคนในชาติ
ต้องช่วยกันรักษาความเป็นชาติ ด้วยการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ไม่ให้ถูกละเมิด
หรือล่วงเกินเป็นอันขาด ช่วยกันปกป้อง และเทิดทูนสถาบนอนเป็นที่รักของคนไทยทุก ๆ คน

น่าเศร้าที่ กลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง หากินกับ ด้านมืดของจิตใจคน ทั้ง โลภ โกรธ หลง และ ริษยา อันเป็นสาเหตุให้มีการ สร้างกระแสต่อต้านสถาบันสูงสุด ด้วยการใส่ร้ายป้ายสี อ้างไพร่-ศักดินา ให้เกิดริษยา โกรธเกลียด จนลืมไปว่า ชีวิตเค้าเหล่านั้น ล้วนได้พึ่งบารมี ที่พระองค์ทรงพระอุสาหะ และทรงมีพระอัจฉริยภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ชลประทาน, พันธุ์ข้าว, พันธุ์ปลา ฯลฯ

เกิดเป็นมนุษย์ หาก ลืมคุณคน ก็ไม่ต่างอะไรกับ ******แล้ว
ถูกใจที่สุดเลย

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Tue May 31, 2011 10:39 am
by นิยมไทย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิชาการหรือเรื่องดนตรี แม้กระทั่งกีฬา พระองค์ก็ทรงเชี่ยวชาญ
พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถอย่างมากมาย

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Tue May 31, 2011 12:50 pm
by sareesri_39
NUBO wrote:
d69b wrote:
VEE99999 wrote:การมีจิตสำนึกที่ดีและการกตัญญูต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งสำคัญของทุกคนในชาติ
ต้องช่วยกันรักษาความเป็นชาติ ด้วยการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ไม่ให้ถูกละเมิด
หรือล่วงเกินเป็นอันขาด ช่วยกันปกป้อง และเทิดทูนสถาบนอนเป็นที่รักของคนไทยทุก ๆ คน

น่าเศร้าที่ กลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง หากินกับ ด้านมืดของจิตใจคน ทั้ง โลภ โกรธ หลง และ ริษยา อันเป็นสาเหตุให้มีการ สร้างกระแสต่อต้านสถาบันสูงสุด ด้วยการใส่ร้ายป้ายสี อ้างไพร่-ศักดินา ให้เกิดริษยา โกรธเกลียด จนลืมไปว่า ชีวิตเค้าเหล่านั้น ล้วนได้พึ่งบารมี ที่พระองค์ทรงพระอุสาหะ และทรงมีพระอัจฉริยภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ชลประทาน, พันธุ์ข้าว, พันธุ์ปลา ฯลฯ

เกิดเป็นมนุษย์ หาก ลืมคุณคน ก็ไม่ต่างอะไรกับ ******แล้ว
ถูกใจที่สุดเลย

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Tue May 31, 2011 5:26 pm
by NUBO
พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยจริง
พระองค์ทำเพื่อประชาชนชาวไทยทุกคน
ขอให้ระลึกถึงท่านและเป็นกำลังใจให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยไว

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Sun Oct 16, 2011 8:30 am
by รักเมืองไทย55
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นความสำคัญของ "ภาษาไทย"




ด้วยทรงตระหนักว่าเป็นภาษาประจำชาติ ซึ่งไม่ได้สำคัญเพียงใช้พูด อ่าน และเขียนเท่านั้น แต่ในความเป็นภาษาของชาติ ยังได้แสดงถึงความเป็นเอกราช ไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร ภาษาไทยจึงมีเอกลักษณ์ที่เป็นของตนเอง คนไทยทุกคนจึง ควรภูมิใจในมรดกอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษไทยได้คิดค้นขึ้นมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระอัจฉริยภาพทางด้านภาษาและหนังสืออย่างยอดเยี่ยม ทรงสนพระราชหฤทัยและทรงศึกษาภาษาไทยอย่างลึกซึ้งจนทรงแตกฉานด้านภาษาไทย ซึ่ง ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดในกระแสพระราชดำริ พระบรมราโชวาท หรือพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่บุคคลและคณะบุคคลในวโรกาสและสถานที่ต่างๆ
ทรงมีพระเมตตาห่วงใยในการใช้ ภาษาไทย การออกเสียง และการบัญญัติศัพท์ ดังเช่นกระแสพระราชดำรัสเมื่อครั้งเสด็จไปร่วม ประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย

คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พุทธศักราช 2505 มีความบางตอนดังนี้
"ภาษาไทยเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของชาติ ภาษาทั้งหลายเป็นสิ่งที่สวยงามอย่างหนึ่ง เช่น ในทางวรรณคดี เป็นต้น ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาไว้ให้ดี… เรามีโชคดีที่มีภาษาเป็นของตนเอง แต่โบราณกาล อย่างหนึ่งต้องรักษาไว้… ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่าวิธีใช้คำมาประกอบเป็นประโยคนับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สามคือ ความร่ำรวยในคำภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้… การบัญญัติศัพท์ใหม่ก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน จำเป็น แต่อันตราย… คำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็น ทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่ายๆ ก็ควรใช้คำเก่าๆที่มีอยู่ ไม่ควรตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก และผู้ที่ตั้งคำนั้นต้องรู้คำและหลักภาษาลึกซึ้งทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ…"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยใช้ภาษาไทยในทุก ภูมิภาค แม้ในบางท้องถิ่นมีการใช้ภาษาถิ่น เช่น ชาวเขาเผ่าต่างๆ ชาวกะเหรี่ยง ชาวไทยมุสลิมในภาคใต้
ก็จะพระราชทานพระราชดำริให้หน่วยงานที่รับผิดชอบสอนภาษาไทยให้แก่คนเหล่านี้ เพื่อที่จะได้พูดภาษาไทยในการติดต่อสื่อสารกัน การที่ทรงพระปรีชาญาณ ทรงวิจารณ์และพระราชทานกระแสพระราชดำริเกี่ยวกับภาษาได้อย่างลึกซึ้ง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการฝึกฝนของพระองค์ในยามว่างเว้นจากพระราชกรณียกิจ ทำให้ทรงแตกฉานด้านภาษาไทย ซึ่งจะเห็นได้จากงานพระราชนิพนธ์ของพระองค์หลายเรื่อง เช่น
- พระราชกิจรายวันของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
- เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิตเซอร์แลนด์
- พระราชนิพนธ์พระมหาชนก นอกจากนี้ ยังมีพระราชนิพนธ์แปลและบทความต่างๆ อีกหลายเรื่อง อาทิ
- นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ
- ติโต
- เศรษฐศาสตร์ตามนัยของพระพุทธศาสนา บทที่ 4 เล็กดีรสโต

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อภาษาไทยและหนังสือไทยอย่างมากมายนี้ จึงทรงได้รับการยกย่องเทิดทูนจากองค์กรต่างๆ เช่น คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ สำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทูลเกล้าฯถวายพระราชสมัญญา "อัครศิลปิน" เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2529 พระมหากรุณาธิคุณอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับแนวคิดใหม่ทางวรรณกรรมคือ ทรงเห็นว่า ควรมีหนังสือชุดที่ช่วยให้เยาวชนไทยสามารถศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง แม้ว่าจะไม่มีโอกาสเรียนต่อในระดับสูงก็สามารถค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะในยามที่มีปัญหาการขาดแคลนครูและสถานที่เรียน หนังสือสารานุกรมจะช่วยคลี่คลายได้
หนังสือชุดนี้ก็คือ "สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" จึงมีพระราชดำรัสให้จัดตั้งโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ
เพื่อดำเนินการสร้างหนังสือสารานุกรมไทยฯ ฉบับใหม่ชุดหนึ่ง มีความมุ่งหมายที่จะนำวิชาการแขนงต่างๆที่ควรศึกษา ออกเผยแพร่แก่เยาวชนให้แพร่หลายและทั่วถึง เพื่อเยาวชนจัก ได้หาความรู้ช่วยตัวเองได้โดยการอ่านหนังสือ
http://siweb.dss.go.th/sci60/team4/stru ... e02_1.html

Re: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : พระอัจฉริยภาพ

PostPosted: Mon Oct 17, 2011 8:53 am
by militaryloveking
ชาติไทยต้องเจริญรุ่งเรืองเพราะมีในหลวง