ในหลวงทรงให้ผู้พิพากษาเป็นกลาง
Posted: Tue Jun 21, 2011 8:06 am
"ในหลวง"มีพระบรมราโชวาทแก่คณะผู้พิพากษา "คนต้องมีการขัดแย้งกัน ต้องเป็นกลางในทุกกรณี ทั้งอยู่ในหรือนอกโรงศาล" ทรงย้ำให้เข้มแข็ง ความดีจะเป็นความสงบของชาติ
เมื่อเวลา 17.24 น. วันที่ 20 มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาลสำนักงานศาลยุติธรรมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาน ก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่
นอกจากนี้นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เพื่อเป็นแนวทางต่อการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางในทุกกรณีเพื่อความยุติธรรมและความสงบสุขของประเทศชาติ ความว่า "ให้ปฏิญาณของผู้พิพากษานั้น ถือเป็นปฏิญาณที่สำคัญมาก เพราะว่าอย่างที่ท่านได้เปล่งวาจา ท่านจะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่เพื่อความยุติธรรม เพื่อความสงบสุขแห่งประเทศชาติ ฉะนั้น ถ้าท่านปฏิบัติดีก็ทำให้ประเทศชาติมีความสงบได้ เพราะว่าคนต้องมีการขัดแย้งกัน ท่านต้องเป็นกลางในทุกกรณี ทั้งในเวลาท่านอยู่ในโรงศาล หรือ นอกโรงศาล"
"ฉะนั้น ขอให้ท่านได้รักษาคำปฏิญาณที่ท่านเปล่งด้วยความเข้มแข็งนี้ รักษาเอาไว้ทุกเมื่อและถือว่าเป็นหน้าที่ในชีวิต ก็ขอให้ทุกท่านได้ปฏิบัติงานด้วยความสามารถ ด้วยความเข้มแข็ง และเป็นความดีของท่าน จะเป็นความสงบของประเทศชาติ ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่อย่างดีด้วยความเข้มแข็ง ตามที่ท่านได้กล่าวและสามารถได้ปฏิบัติตาม ขอให้ท่านมีความสำเร็จ มีความสุขในงานการเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ"
เมื่อเวลา 17.24 น. วันที่ 20 มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาลสำนักงานศาลยุติธรรมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาน ก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่
นอกจากนี้นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เพื่อเป็นแนวทางต่อการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางในทุกกรณีเพื่อความยุติธรรมและความสงบสุขของประเทศชาติ ความว่า "ให้ปฏิญาณของผู้พิพากษานั้น ถือเป็นปฏิญาณที่สำคัญมาก เพราะว่าอย่างที่ท่านได้เปล่งวาจา ท่านจะต้องเป็นผู้ทำหน้าที่เพื่อความยุติธรรม เพื่อความสงบสุขแห่งประเทศชาติ ฉะนั้น ถ้าท่านปฏิบัติดีก็ทำให้ประเทศชาติมีความสงบได้ เพราะว่าคนต้องมีการขัดแย้งกัน ท่านต้องเป็นกลางในทุกกรณี ทั้งในเวลาท่านอยู่ในโรงศาล หรือ นอกโรงศาล"
"ฉะนั้น ขอให้ท่านได้รักษาคำปฏิญาณที่ท่านเปล่งด้วยความเข้มแข็งนี้ รักษาเอาไว้ทุกเมื่อและถือว่าเป็นหน้าที่ในชีวิต ก็ขอให้ทุกท่านได้ปฏิบัติงานด้วยความสามารถ ด้วยความเข้มแข็ง และเป็นความดีของท่าน จะเป็นความสงบของประเทศชาติ ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่อย่างดีด้วยความเข้มแข็ง ตามที่ท่านได้กล่าวและสามารถได้ปฏิบัติตาม ขอให้ท่านมีความสำเร็จ มีความสุขในงานการเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ"