by BeerIS52 » Tue Aug 30, 2011 9:42 am
“รักในหลวงอย่างไร”
๑. King of the king ในหลวงของเรา เป็นราชาของพระราชาทั้งปวง คงไม่มีพระราชาองค์ใดในโลกนี้ ที่มีพระบารมียิ่งใหญ่ไปกว่าในหลวง เพราะพระองค์ท่านทรงบำเพ็ญธรรมทศพิธราชธรรมในการปกครองดูและพสกนิกรชาวไทยเป็นต้นมา ตั้งแต่ที่ทรงได้ทรงราชย์ ดังปฐมพระบรมราชโองการที่ว่า “ เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ไม่มีวันใดที่พระองค์ท่าน ไม่เคยทรงงาน ทุกครั้งที่พสกนิกรชาวไทยหรือชนชาติอื่น ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย หรือธรณีพิบัติ อื่น ๆ เป็นต้น พสกนิกรชาวไทยต่างได้รับพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ถึงแม้พระองค์ท่านจะประทับอยู่ในพระราชวัง แต่คงไม่มีพระราชวังของพระมหากษัตริย์ใดในโลกนี้ ที่จะเหมือนกับพระราชวัง “สวนจิตรลดา” เป็นพระราชวังแห่งเดียวที่พระองค์ท่าน ทรงใช้เน้นมากกว่าที่ประทับ มีพระราชวังแห่งใดในโลกนี้ ที่มีโรงบดแกลบ สำหรับไว้ทำถ่านเชื้อเพลิง สถานีวัดน้ำฝนเพื่อการทำฝนเทียม (ฝนหลวง) มีการเลี้ยงโคเพื่อผลิตเป็นนมพงและนมอัดเม็ด โรงเพาะเนื้อเยื่อเพื่อพัฒนาปรับปรุงสายพันธ์ของพืช เพื่อนำไปแจกจ่ายพสกนิกรชาวไทย โรงงานทดลองไบโอดีเซล และมีแปลงนาเพื่อทดลองปลูก พัฒนาพันธ์ข้าวาให้พสกนิกรชาวไทย เป็นต้น ทุกเสี้ยวนาที พระองค์ท่านทรงนึกถึงแต่พสกนิกร วังสวนจิตรลดา มีเนื้อที่เพื่อการทดลองมากว่าที่จะเป็นที่ประทับของพระราชา ราพสกนิกรชาวไทยควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
๒. ในชีวิตนี้ ยังไม่เคยเข้าเฝ้าในหลวงเลยซักครั้ง แต่ทราบเป็นอย่างดีจากข่าวในพระราชสำนัก ที่พระองค์ท่านได้เสด็จทั่วทุกแห่งในประเทศไทย ภาพข่าวที่เห็นปรากฏทุกครั้งที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนิน ทรงมีอุปกรณ์เหล่านี้ คือ แผนที่ กล้องถ่ายรูป วิทยุสื่อสาร และดินสอ ที่ใช้ทรงงาน ในสมัยสุโขทัย เมื่อราษฎรมีเรื่องทุกข์ เดือดร้อนใจ ก็จะไปสั่นกระดิ่งเพื่อให้พ่อขุนรามคำแหง ทรงทราบความเดือดร้อน แต่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากกว่า เพราะได้เสด็จไปเพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อน ทรงศึกษาข้อมูลด้วยพระองค์เองทั้งสิน ข้าราชบริพารจะถวายข้อมูลเท็จไม่ได้ เพราะพระองค์ทราบมากกว่า เมื่อได้ทรงรับทราบปัญหา ก็ทรงมีโครงการตามพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาในท้องที่นั้น ๆ แต่ถึงแม้จะไม่เคยเข้าเฝ้าพระองค์ท่าน ก็เหมือนมีพระองค์ท่านอยู่ใกล้ ๆ เพราะพระองค์ท่านได้ประทับอยู่ในใจของพสกนิกรชาวไทยทุกคน
๓. “ภูมิพล” แปลว่า “พลังของแผ่นดิน” ในหลวงทรงมีพระราชปรารภถึงสมเด็จย่า ในการตั้งพระนาม เพราะสมเด็จย่า มีพระประสงค์ให้พระองค์ท่าน “ติดดิน” เพื่อให้พระราชโอรสของพระองค์ท่านรับทราบปัญหาของชนชาวไทยทุกชนชั้น พระองค์ก็ทรงมีพระราชจริยวัตรที่งดงาม เป็นต้นว่า ทรงใช้ดินสอที่ทรงงานจนเหลือสั้นนิดเดียวจนใช้ไม้ได้จึงทรงเปลี่ยนแท่งใหม่ ยาสีฟันก็ใช้จนหมดหลอด รองเท้าก็ทรงใช้จนสึกหรอ จะไม่ใช้รองเท้าใหม่ ให้ช่างซ่อมและนำมาใช้ใหม่ จะทิ้งก็ต่อเมื่อใช้ไม่ได้แล้วเท่านั้น พระองค์สูท ก็ทรงตัดในร้านซึ่งไม่มีชื่อ ด้วยพระราชจริยาวัตรอย่างนี้ พระองค์ท่านได้ปฏิบัติสมดังพระราชนามที่สมเด็จย่าได้ทรงตั้งให้แล้วจริง ๆ
๔. ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงเกี่ยวกับในหลวง เช่น เพลงสรรเสริญพระบารมี ต้นไม้ของพ่อ รูปที่มีทุกบ้าน เป็นต้น หรือเห็นโฆษณา เช่น ชาวอีสานคนหนึ่งมาขับสามล้อเครื่อง(ตุ๊ก ตุ๊ก) ได้รับผู้โดยสารคนหนึ่งเป็นคนต่างชาติ พอฝรั่งคนนั้นขึ้นสามล้อ ก็เห็นรูปในหลวง ติดอยู่ เลยถามว่า “นี่ใคร” คนขับพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง แค่งู ๆ ปลา ๆ ก็นึกแปลว่าพูดอย่างไร “ใน” คือ “ in” “หลวง” คนขับรถไม่ทราบ เลยบอกกับฝรั่งนั้นด้วยความจงรักภักดี ด้วยมั่นใจว่า “in heart” ซึ่งแปลว่า “ในหัวใจ” ฝรั่งคนนั้นก็พลอยซาบซึ้ง ได้ทราบว่าคนไทยรักในหลวงมากแค่ไหน คนไทยทุกคนเขาได้ยินเพลงเกี่ยวกับในหลวง ก็ทำให้ขนลุก เพราะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ นี่เป็นเพียงเสี้ยวส่วนหนึ่งของคนไทยเท่านั้น
๕. เห็นในทีวี ที่พสกนิกรพูดถึงในหลวง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ครู ตำรวจ ทหาร พ่อค้า ประชาชน เป็นต้น พูดถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย ที่ทรงเหน็ดเหนื่อยตรากตรำพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจไม่เคยหยุดหย่อน และการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงท่านมิได้ทรงหวังอะไรเลย จากพสกนิกรของท่าน เพียงแต่ท่านอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองเต็มที่ สมบูรณ์ ทำให้บ้านเมืองเป็นปกติสุข ท่านก็ทรงหายเหน็ดเหนื่อยแล้ว การทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ เต็มที่ คือการไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง เช่น ข้าพเจ้าปัจจุบันเป็นปลัดอำเภอ ก็จะขอทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่ประชาชน จะปรารถนานั่งในใจของประชาชาน จะไม่อยู่บนหัวของประชาชน ข้าราชการ คือ ใคร “ข้า” คือ คนรับใช้ “ราชการ” คือ ภารกิจของพระราชา พระราชาทรงอยากให้พสกนิกรของท่านอยู่เย็นเป็นสุข เราก็ควรทำหน้าทีของตนเองในฐานะที่เป็นข้าราชการให้สมบูรณ์ ไม่เอาเปรียบชีวิตข้าราชการ การมีเกียรติ ในฐานะเป็นปลัดอำเภอ มีได้เพราะกฎหมายกำหนด ให้อำนาจ ถ้าไม่ได้ทำหน้าที่ตามกฎหมายก็ขอจะไม่เรียกตนเองว่า “ข้าราชการ” คนจนหรือคนรวย กินข้าวก็กินแค่อิ่ม ไม่มีใครกินเกินอิ่ม จะโลภมากไปทำไม ตายแล้วเอาทรัพย์สมบัติไปด้วยได้หรือไม่ มีแต่คุณงามความดีเท่านั้นที่ติดตัวไปได้ เคยอิจฉา สุนัขที่ทรงเลี้ยง “คุณทองดำ” “คุณทองแดง”เป็นต้น ที่ได้ใกล้ชิดพระองค์ท่าน มีบุญยิ่งกว่า พสกนิกรหลาย ๆ คน แต่เดี๋ยวนี้ไม่อิจฉาแล้ว เพราะในหลวงจะทรงเตือนผมให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ อยู่อย่างพอเพียง และจะอยู่ในหัวใจข้าราชการผู้นี้ตลอดไป
นายปราโมทย์ ผายทอง
เลขประจำตัวสอบ ๓๔