ช่วงนี้วงการบันเทิงระดับโลกต้องสูญเสียบุคคลในวงการไปติดๆถึง 2 ราย ทั้งราชาเพลงป็อป ไมเคิล แจ็คสัน และอีกหนึ่งดาราสาว ฟาร์ราห์ ฟอว์เซ็ตต์ นางฟ้าชาลีรุ่นบุกเบิกที่ใครต่อใครหลายคนจดจำได้ถึงทรงผมของเธอ จนเป็นที่มาของชื่อทรงผมฟาร์ราห์ ซึ่งฟาร์ราห์เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยวัย 62 ปี วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์ จึงขอย้อนรำถึงเธอคนนี้ด้วยผลงานที่โดดเด่นต่างๆที่เคยสร้างสีสันไว้กว่า 30 ปีที่ผ่านมา
ฟาร์ราห์ ฟอว์เซ็ตต์ นักแสดงสาวชาวอเมริกัน เซ็กซ์ซิมโบลแห่งยุค '70s อดีต 1 ใน 3 สาว นางฟ้าชาร์ลีรุ่นบุกเบิก เริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงของเธอด้วยการถ่ายโฆษณาในช่วงยุคปลาย '60s เป็นต้นมา หลังจากนั้นฟาร์ราห์ได้เป็นแขกรับเชิญในทีวีซีรี่ส์ I Dream of Jeannie ในซีซั่น ปี 1968-1969 ตามด้วยการเป็นแขกรับเชิญในซีรี่ส์ Owen Marshall: Counselor at Law และในปี 1974 ฟาร์ราห์ปรากฏตัวในซีรี่ส์ The Six Million Dollar Man กับ ลี เมเจอร์ (ซึ่งในปี 1973 ฟาร์ราห์ได้แต่งงานกับเมเจอร์ และแยกทางกันในปี 1982), The Dating Game และ Harry O กับ เดวิด แจนเซน ในปี 1976 และเมื่อบริษัทโปรอาร์ตสจัดทำโปสเตอร์รูปฟาร์ราห์ในชุดว่ายน้ำสีแดงพร้อมทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Life magazine ในปี 1976 ทำให้โปสเตอร์รูปประวัติศาสตร์คราวนั้นขายดิบขายดีมากเกิน 12 ล้านก๊อปปี้เลยทีเดียว เรียกได้ว่าในยุคนั้นหนุ่มๆต้องมีรูปของเธอติดที่ผนังกันแทบทุกบ้าน
ส่วนซีรี่ส์สุดฮอตที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง นางฟ้าชาร์ลี (Charlie's Angel) ที่สร้างในปี 1976-1980 ฟาร์ราห์รับบทเป็น จิล มอนโรว์ โดยเธอแสดงร่วมกับ เคท แจ็คสัน และ แจ็กกาลีน สมิธ สองดาราดังในขณะนั้น ซึ่งจากความดังของฟาร์ราห์ในยุคนั้นทำให้แฟชั่นทรงผมของฟาร์ราห์ฮิตไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย และซีรี่ส์เรื่องนี้ทำให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Golden Globe Award ในสาขา Best Actress - Television Series Drama ในปี 1976
ซึ่งหลังจากที่เธอเล่นซีรี่ส์เรื่องนี้เพียงแค่ซีซั่นเดียว เธอก็เลิกเล่นและหันไปรับบทที่เน้นอารมณ์มากขึ้น เช่น รับบทภรรยาที่ถูกสามีทำร้ายและแก้แค้นโดยการเผาสามีขณะหลับอยู่บนเตียงในภาพยนตร์ทีวีที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง The Burning Bed ในปี 1984 ที่ทำให้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy Award ในสาขา Outstanding Lead Actress - Miniseries or a Movie และ Golden Globe Award ในสาขา Best Actress - Miniseries or Television Film และในปี 1986 ฟาร์ราห์รับบทผู้หญิงที่ออกตามล่าคนที่ข่มขืนเธออย่างทารุณในภาพยนตร์เรื่อง Extremities เป็นต้น และภาพยนตร์เรื่องหลังๆของเธอที่หลายคนยังจดจำ อาทิ The Apostle ในปี 1997, Dr. T & the Women ในปี 2000 ซึ่งก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอก็ได้ทำสารคดีชีวิตตัวเธอ Farrah's Story เกี่ยวกับการต่อสู้โรคมะเร็งร้าย โดยเผยแพร่ผ่านช่อง NBC News เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีความยาวกว่า 2 ชั่วโมง
ณ วันนี้ แม้เธอจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ภาพของเจ้าของทรงผมฟาร์ราห์พร้อมชุดว่ายน้ำสีแดงสดใสยังคงเป็นที่จดจำของแฟนๆของเธออยู่เสมอ
http://www.thairath.co.th/content/ent/15598
ความเห็นของผม เธอคือนางฟ้า ตลอดกาล รอยยิ้มกว้างขวาง และเปิดเผย นั่นคือนางฟ้าโดยแท้
