by ศปภอ.ทบ.๑ » Mon Jan 11, 2010 4:54 pm
ร่างรัฐธรรมนูญ
ในการนำร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ได้มีเรื่องโต้แย้งสำคัญอยู่หลายประการ กล่าวคือ
ประการแรก เกี่ยวกับบทบัญญัติที่ระบุให้เจ้านาย และบรมวงศานุวงศ์อยู่เหนือการเมือง โดยมีเจตจำนงที่จะมิให้เจ้านายมาพัวพัน ต้องถูกโจมตีให้เสียศักดิ์ศรี จึงควรให้อยู่เหนือการเมือง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ ทรงเห็นชอบด้วย แต่มีพระราชปรารภว่าไม่ควรจะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ให้เป็นการตัดสิทธิของเจ้านายที่เป็นพลเมืองไทยคนหนึ่ง แต่จะทรงมีประกาศเป็นพระราชนิยม ที่จะมิให้เจ้านายเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องการเมือง
ประการต่อมาคือ การใช้คำว่า " กรรมการราษฎร " แทนคำว่าเสนาบดี ได้เป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กัน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นแกนสำคัญในการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนมีบรรดาศักดิ์เป็นหลวง คงยืนยันจะให้ใช้คำว่า " กรรมการราษฎร " ให้จงได้ มีผู้เสนอให้ใช้คำอื่นแทน เช่น เลขาธิการว่าการกระทรวง เหมือนอย่างสหรัฐอเมริกา บางท่านเสนอให้ใช้คำว่า " ประศาสนกามาทย์ และมีท่านหนึ่งซึ่งเป็นนายทหารบก เสนอให้ใช้คำว่า " รัฐมนตรี " และมีผู้สนับสนุน คำนี้เป็นคำโบราณที่แปลว่า ข้าราชการ ผู้มีอำนาจในแผ่นดินซึ่งใช้กันทั่วไปในอินเดีย มลายู และชวา และคำว่า รัฐมนตรีนี้ เคยมีใช้กันมาในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ที่เรียกว่า สภารัฐมนตรี มีข้าราชการพลเรือนอีกคนหนึ่ง มีบรรดาศักดิ์เป็นหลวงได้ต่อว่าผู้ที่กล่าวว่า กรรมการราษฎร เป็นคำที่ใช้อยู่เฉพาะ เป็นรัสเซียคอมมิวนิสต์ และบอกว่าเป็นเรื่องของคำ ๆ เดียว ไม่เกี่ยวกับลัทธิ ในที่สุดสภาผู้แทนราษฎรก็ลงมติให้ใช้คำว่า " รัฐมนตรี แทน " กรรมการราษฎร" ด้วยคะแนนเสียง 28 ต่อ 7 งดออกเสียง 26