ภาพยนตร์ที่ผมประทับใจก็คงเป็นเรื่องนี้ครับ
Ben-Hur ภาพยนตร์เอพิคสุดยิ่งใหญ่ตลอดกาล
เป็นผลงานการกำกับของ William Wyler ออกฉายเมื่อ 18 พฤศจิกายน 1959
ทำรายได้ประมาณ 74 ล้านเหรียญ
และช่วยให้สตูดิโอ MGM ใที่สถานะการเงินร่อแร่อยู่สามารถรอดพ้นจากการล้มละลายไปได้ (ก็ทุนสร้างเรื่องนี้ก็ปาเข้าไป 15 ล้านเหรียญซึ่งถือว่าสูงมากสมัยนั้น)
หนังปี – ค.ศ.1959
บริษัทผู้สร้าง – เมโทร โกลด์วิน เมเยอร์
กำกับภาพยนตร์ – วิลเลียม ไวเลอร์
อำนวยการสร้าง – แซม ซิมบาลิสท์
บทภาพยนตร์ – คาร์ล ทันเบิร์ก
กำกับภาพ – โรเบิร์ท แอล.เซอร์ทีส
ดนตรี – มิคลอส รอสซา
นักแสดง – ชาร์ลตัน เอสตัน, แจ็ค ฮอว์กินส์, สตีเฟน บอยส์,
ฮายา ฮารารีท, ฮิวจ์ กริฟฟิธ, มาร์ธา สก็อตต์, แซม แจฟฟี,
แคธี โอ’ดอนเน็ลล์, ฟินเลย์ เคอร์รี, แฟรงค์ ธริง,
เทอเรนซ์ ลองเด็น, อังเดร มอเร็ลล์.
ได้รับรางวัลออสก้า ถึง 11 รางวัล เป็นเวลาราว 4 ทศวรรษ ก่อนที่ Titanic จะทำได้เทียบเท่าในปี 1997
รางวัลออสการ์ 11 รางวัลสาขา คือ
1. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
2. ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
3. ดารานำชายยอดเยี่ยม (ชาร์ลตัน เฮสตัน)
4. ดาราสมทบชายยอดเยี่ยม (ฮิวจ์ กริฟฟิธ)
5. กำกับภาพยอดเยี่ยม
6. กำกับฝ่ายศิลป์ยอดเยี่ยม
7. ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม
8. ลำดับภาพยอดเยี่ยม
9. บันทึกเสียงยอดเยี่ยม
10.เทคนิคพิเศษด้านภาพและเสียงยอดเยี่ยม
11.ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
เบนเฮอร์เรื่องย่อ จากวิกิพีเดีย จูดา เบนเฮอร์ ต้องผจญกับทุกข์ยากแสนสาหัสเมื่อ เมซซาล่า เพื่อนในวัยเด็กเติบโตขึ้นมาเป็นทหารของโรมันสั่งให้มาปกครองเมืองจูเดียของ เยรูซาเร็ม ซึ่งในขณะนั้นเป็นเมืองที่มีความขัดแย้งกับโรมันในด้านศาสนา เพราะชาวยิวเชื่อว่าจะมีพระบุตรของพระเจ้ามาปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระ ในขณะที่โรมันเชื่อว่าพระเจ้าคือซีซาร์ เมซซาล่าต้องการให้จูดาร์ เบนเฮอร์เข้ามาช่วยเขาปกครองชาวยิว แต่เบนเฮอร์ไม่ยอมทรยศต่อยิว ทำให้ทั้งสองกลายเป็นปรปักษ์กัน เมื่อแม่ทัพคนใหม่ถูกส่งเข้ามาปกครองเยรูซาเร็ม และได้ยกขบวนเข้าเมือง น้องสาวของเบนเฮอร์ได้ทำกระเบื้องหล่นใส่แม่ทัพโดยไม่ตั้งใจ เมซซาร่าถือโอกาสจับครอบครัวเบนเฮอร์เข้าไปขังคุก และส่งเบนเฮอร์เพื่อนเก่าของเขาไปเป็นทาสในกองทัพเรือ ตลอดเวลากว่า 3 ปีที่อยู่ในเรื่อ เบนเฮอร์ต้องทำงานอย่างหนัก แต่โชคชะตาก็พลิกผันเมื่อเบนเฮอร์ได้ช่วยแม่ทัพเรือไว้ และแม่ทัพผู้นั้นได้รับเบนเฮอร์เป็นบุตรบุญธรรม หลังจากนั้น เบนเฮอร์ได้สร้างชื่อเสียงเป็นอย่างมากในฐานะของนักแข่งรถม้าผู้ไม่เคยแพ้ ใคร แม้จะมีฐานะและเกียรติยศมากมาย แต่เบนเฮอร์ก็ยังมีความทุกข์ตรมเนื่องจาก แม่และน้องสาวยังถูกขังคุกอย่างไม่รู้ชะตากรรม ในที่สุดเบนเฮอร์ก็ลาจากแม่ทัพเรือและกลับมายังเยรูซาเร็มอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือแม่และน้องสาวของเขา การเผชิญหน้ากับเมซซาร่าครั้งนี้ ทั้งคู่ได้ร่วมแข่งขันรถม้าอีกครั้ง โดยมีเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่เขาต้องการคือให้เมซซาร่า ชดใช้ทั้งหมด ที่สหายในวัยเด็กได้ทำกับครอบครัวของเขา...
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการถูกตรึงไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์ ซึ่งเมื่อท่านถูกตรึงไม้กางเขนจนสิ้นพระชนม์ เลือดก็ไหลมายังพื้นดิน ฝนก็ตก และ แม่และน้องสาว ได้หายจากโรคเรื้อนเป็นปลิดทิ้ง สร้างความฮือฮาให้กับคนดูอีกด้วย
---------------------------------------------------------------------------------
ถ้าจะกล่าวถึงความประทับใจก็น่าจะเป็นตั้งแต่เริ่มฉายเลย คือ ชอบ overture ของหนังสมัยเก่ามากครับ มันดูขลังดี ในเรื่องนี้ก็ยาวประมาณ 6-7 นาที ในสมัยเด็กๆ ได้ดูตอนเริ่มเรื่องที่ นักปราชญ์ 3 คน เรียกว่า เมไจ รึเปล่าไม่แน่ใจครับ ตามดวงดาว Bethlehem ที่นำทางไปส่องแสงตอนพระเยซูประสูติ (ใครนับถือคริสต์หรือผู้ทราบข้อมูลรบกวนขอรายละเอียดด้วยครับ) เป็นหนังยุคเก่าที่ดูแล้วไม่เบื่อเลยครับ มีฉากขับรถม้าที่ตื่นตาตื่นใจ และความประทับใจที่พระเอกของเรามีต่อครอบครัวทั้งแม่และน้อง รวมทั้งคนรักด้วยครับ แต่ที่ประทับใจที่สุดก็คงเป็นฉากที่พระเอกของเราถูกเกณฑ์ไปเป็นเชลยและพระเยซูแบ่งน้ำให้พระเอกของเราดื่ม และอีกครั้งแต่คราวนี้สลับสถานะกันเมื่อพระเยซูถูกให้แบกไม้กางเขนพระเอกของเราจำได้ก็จะพยายามช่วยครับ ดูแล้วซึ้งกินใจดีครับ อ้างอิงhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aooa&month=02-2009&date=23&group=72&gblog=5http://www.boxofficemojo.com/movies/?id=benhur.htmhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C