ความจริง เรื่องนี้ ผมได้เคยนำมาโพสต์ลงที่บอร์ดเสรีไทยนานแล้ว แต่ในนามของ h_e_a_t เมื่อ 09-03-2008, 04:17 (ตอนนั้นมีเหตุบางประการที่ไม่อยากใช้นายชด ครับ )
แต่เมื่อเช้าเปิดเช็คอีเมล์ มีเพื่อนจากเว็บบอร์ดอื่น บอกว่า ได้อ่านเรื่องนี้ที่ผมเคยโพสต์ไว้อีกเว็บหนึ่ง เช่นกัน อ่านแล้วคิดถึงพ่อ ....มาก
ก็เลยถือโอกาสนี้ นำมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันอีกครั้งหนึ่ง อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่เตือนให้เราได้รู้ว่า พ่อ รักเรา แค่ไหน? และ เราเข้าใจในความรักที่พ่อมีให้มากน้อยเท่าไร?
ขอเชิญ รับชม ครับ
****************************************************************************************
ตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าจะเล่นอะไรก็ตาม จะทำของเล่นเองหรือแม่ซื้อให้ หรือเก็บเงินซื้อเอง แม้กระทั่งขโมยเงินแม่ไปซื้อ
ของ เล่นแต่ละชิ้น เป็นต้องโดนไอ้น้องสาวตัวแสบเอาไปเป็นเจ้าของจนหมด บางอย่างเล่นได้หนเดียว มันก็ยึดไปเป็นเจ้าของ พอแย่งคืนมา มันก็ร้องไห้จ้าดังไปสามบ้านแปดบ้าน ร้อนถึงพ่อต้องมาห้ามทัพ และผมก็โดนฟาดด้วยก้านมะยมไปทุกครั้ง
พ่อตี ไปก็พล่ามพูด "......หัดแบ่งปัน หัดเสียสละ บ้างสิ น้องยังเด็ก ให้น้องเล่นก่อน พูดกับน้องดีๆ เป็นพี่ชาย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีอำนาจเหนือน้องไปเสียทุกอย่าง."
น้ำตาตกใน ทุกครั้งที่พ่อพูดแบบนี้ แล้วผมล่ะ .......ทำไมน้องไม่เสียสละให้ บ้าง เป็นน้องก็ใช่ว่าจะต้องโดนตามใจทุกอย่าง ผมอยากจะเถียงเหมือนกัน แต่เถียงไม่ออก เพราะปากนั้นไม่ว่างต้องแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อก้านมะยมมันฟาดลงมาที่ก้น
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ทุกครั้งที่พ่อตีผม พ่อก็ยังลงโทษต่อด้วยการกระซิบให้แม่เอายาหม่องมาทาให้ผมแสบแผลหนักไปอีก
แม้กระทั่งเรื่องกิน มีครั้งหนึ่งพ่อซื้อไอติมฝาหรั่ง ยี่ห้อ ดีบี (เดลี่เบลล์ มั๊ง) ซึ่งสมัยนั้นหายากมาก พ่อซื้อมาให้ครบทุกคน แต่ยัยน้องสาวตัวแสบ มันกินไม่พอ ขออีก พ่อบอกให้ผมแบ่งให้น้องกิน ผมยังไม่ได้กินสักคำ ก็ต้องแบ่งให้มันไป เผลอแป๊บเดียว มันฟาดหมด
ผมโมโหมาก น้อยใจด้วย ก็เลยเตะก้นมันไปทีนึง
พ่อจับผมไปฟาดนับไม่ถ้วนแล้วเอาไปขังในห้องเก็บของกลางสวน มืดก็มืด ยุงก็เยอะ ไอ้ตุ๊กแกตัวใหญ่ตาโตๆก็เต็มไปหมด เด็กๆอย่างผมทั้งกลัวทั้งเสียใจ แต่ก็ต้องทน
แม่แอบมาเปิดให้กลับไปนอนที่บ้านตอนดึกแล้ว ส่วนพ่อนั้นไม่รู้หายไปไหน ผมไม่สนอะไร นอนหลับเป็นตาย
พอตอนเช้า ที่หัวเตียงกลับมีไอติมอีกถ้วยวางอยู่ แม่บอกว่า พ่อจ้างเรือไปลงต้นคลองแล้วต่อรถไปเยาวราช เพื่อไปซื้อมาให้ทุกคนอีก
............ถ้าพ่อจะทำแบบนี้ ทำไมไม่ซื้อมาเยอะๆแต่แรก ทำไมปล่อยให้น้องมาแย่งของของผม
ไอติมที่พ่อซื้อมาให้ ตอนเช้ามันก็ละลายเกือบหมดแล้ว ผมไม่ได้กินสักคำ พ่อซื้อมาประชดผมน่ะสิ.!!!
อีกครั้งหนึ่ง พ่อซื้อปลาริวกิวมากินกัน ปลานี้หายาก หากเป็นริวกิวแท้ๆ ห่อนิดเดียว แพงบรม ผมกลับจากโรงเรียนมาช้า เหลือชิ้นเดียวเท่าฝ่ามือ พ่อบอกว่าทุกคนกินกันหมดแล้ว นี่เหลือไว้ให้แก
แต่ก็แปลก ตอนเอาจานไปล้างแม่บอกว่าอร่อยไม๊ลูก ผมบอกว่าอร่อยแต่มีน้อยไป แม่บอกว่า พ่อซื้อมานิดเดียว ให้น้องไปกินชิ้นนึง เหลือให้ผมชิ้นนึง อีกสามชิ้นเอาไปให้ยาย เพราะ พ่อไม่ชอบกินปลาริวกิว
ผมมารู้ทีหลังว่า พ่อโกหกชะมัด จากอาพงษ์เพื่อนพ่อ เพราะไม่นานหลังจากนั้น อาพงษ์แกซื้อปลาริวกิวนี่แหละมาฝากที่บ้าน บอกว่า พ่อชอบกินมากๆ
พ่อขี้โกหก ผมเกลียดพ่อจริงๆ
สมัยก่อนรุ่นผม เอ็นทรานส์นั้นสำคัญมาก หากใครสอบไม่ติด เหมือนกับโลกนี้สีดำไปเลย ผมโชคดีที่เอ็นติดมหาวิทยาลัยรัฐ คณะดีซะด้วย แต่ในบ้านกลับไม่มีใครดีใจกับผมเลยสักคน โดยเฉพาะพ่อ
แทนที่จะจัดเลี้ยงมีปาร์ตี้เหมือนคนอื่นๆ พ่อกลับเอาเงินไปซื้อมอเตอร์ไซค์คันหรู(ในสมัยนั้น)มาขับเล่นซะอยู่เกือบเดือน แต่พอเบื่อ ในช่วงมหาวิทยาลัยกำลังจะเปิด ก็ยกให้ผม
ผมเกลียดพ่อจริงๆ ลูกสอบได้ แทนที่จะให้รางวัล แทนที่จะจัดปาร์ตี้ให้หรูๆ ดันไปซื้อมอเตอร์ไซค์มาขับเล่น แค่ไม่กี่วันก็เบื่อแล้วก็ยกให้ผม เชอะ
...........เงินเดือนก้อนแรกที่ผมได้ ผมซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าให้แม่ น้อง และพ่อ
โดยเฉพาะพ่อ ผมตั้งใจที่จะเอาใจท่านให้มาก เพื่อท่านจะได้ไม่เกลียดผมเหมือนที่ผ่านๆมา
ผมซื้อ เสื้อมองตากู สีฟ้าควันบุหรี่ซึ่งมันแพงเอามากๆ ให้ท่าน
แต่แทนที่จะใส่ พ่อกลับเก็บมันไว้ในตู้และไม่เคยเอามาใส่เลย พ่อไม่เคยเห็นความดีของผมเลยสักนิด ผมเกลียดพ่อมากๆ
.......................หลายๆปีต่อมา ในวันเผาศพพ่อ
แม่ถือกล่องกระดาษแบนๆที่ยังดูดีอยู่ เอามาให้ผม
ผมเปิดดูในนั้น มีเสื้อมองตากูตัวที่ผมซื้อให้พ่อ และมีโน๊ตเล็กๆในกระดาษ
"........ของขวัญที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต ที่ลูก......(ชื่อเล่นผม) ซื้อให้ในเงินเดือนก้อนแรก "
ผมเกลียดพ่อจับใจ พ่อรักผมมาตลอด แต่ทำไม พ่อไม่แสดงออกให้ผมรู้บ้าง จนกระทั่งวันที่พ่อจากผมไป
ผม.....เกลียด พ่อ