turethai wrote:ขอพึ่งบริการลุงชดแล้วครับ
อยากมาวววววววว
ตามสบายเลยครับ ท่าทางจะเมาไปแล้ว ยังไม่ตื่น
ถ้าตื่นแล้วยังเมาขี้ตาอยู่ วันนี้ผมมีเรื่องเก่า นำมาเล่าสู่ให้ฟังยามเช้าซึ่งแดดแจ๋แล้วมาให้ฟังกัน
มันอาจเป็นเรื่องที่หลายท่านเคยได้ยินมา และอาจต่างกันในรายละเอียดบ้าง
ในส่วนของผมมันเป็นเรื่องที่ผมได้รับการถ่ายทอดจาก ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งชาวญี่ปุ่นที่ไปลงทุนที่อเมริกา และภายหลังท่านก็มาลงทุนที่เมืองไทยจนได้พบกันอีกครั้ง ปัจจุบันท่านถึงอนิจกรรมไปแล้ว แต่ผมไม่เคยลืมท่าน เรื่องที่ท่านได้เมตตาผมเล่าให้ฟ้ง อันเป็นสิ่งที่สอนใจผมจนกระทั่งปัจจุบันนี้ และนำไปถ่ายทอดต่อลูกหลาน เพื่อนฝูง น้องๆ
........
.......
นรก สวรรค์
นรกนั้น ในภาพของมนุษย์ที่จินตนาการ มันจะต้องเป็นสถานที่ที่น่าหวาดผวา น่ากลัว โหดร้าย กับสิ่งต่างๆที่มีไว้ลงทัณฑ์ ผูุ้ถูกพิพากษาว่ากระทำผิด
ส่วนสวรรค์นั้น ในภาพจินตนาการของมนุษย์ ก็วาดไว้อย่างสวยงาม มีแต่สิ่งดีๆ และสะดวกสบาย
ความจริงนั้น นรก กับ สวรรค์ มีภูมิทัศน์ และ ปัจจัยต่างๆ อยู่อย่างครบถ้วน เท่าเทียมกัน เรียกได้ว่าเหมือนกันหมดก็ว่าได้
มันต่างกันตรงไหน?ล่ะ ต่างกันตรงสิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี่ล่ะครับ
ในการรับประทานอาหารของผู้ที่อยู่ในนรกและสวรรค์ จะเหมือนกันทุกอย่าง มีอาหารดีเลิศให้ตักกินอย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ว่าจะมีสิ่งเลิศมากมายอุดมอย่างไร สิ่งหนึ่งที่นรกและสวรรค์อาจมีต่างไปจากโลกมนุษย์ก็คือ ช้อนอาหาร และแก้วน้ำ
ช้อนอาหารจะยาวมากครับ ด้ามจับยาวเท่ากับเส้นผ่าศูนย์กลางของโต๊ะอาหารที่ใหญ่โตมากกว่า ยี่สิบเมตร แก้วน้ำดื่ม ก็จะมีหูจับยาวเช่นนั้นเช่นกัน และนี่เป็นกฏที่เหมือนกัน ทั้งนรก และสวรรค์ว่า จะต้องใช้ช้อนและแก้วน้ำที่กำหนดให้เท่านั้น มือต้องจับที่ปลายข้อน และปลายหูจับแก้ว ห้ามใช้วิธีอื่น มิฉะนั้นผู้นั้นจะถูกส่งไปเผาผลาญในไฟบรรลัยกัลป์ไปอีกแสนปี
โต๊อาหารในนรก มีแต่ผู้คนพยายามที่จะใช้ช้อนตักอาหารใส่ปากตน แต่ก็ทำได้อย่างยากเข็ญ ไม่สามารถจะส่งอาหารเข้าปากได้ หล่นเรี่ยราดเลอะเทอะไปหมด บ้างก็พยายามดื่มน้ำจากแก้วแต่ก็ทำไม่ได้เช่นกัน ทั้งที่แต่ละคนก็มีความมานะพยายามที่จะกินดื่มให้ได้ หากมีผู้มาเห็นก็จะเป็นที่เวทนายิ่งนัก เพราะหิว กระหายแต่ไม่สามารถส่งอาหารหรือน้ำให้เข้าปากตนเองได้
โต๊อาหารบนสวรรค์ ......... ทุกอย่าง อาหาร น้ำ ช้อน แก้ว เหมือนกับนรกหมดเหมือนภาพสำเนาที่ทำซ้ำกันมา แต่
ผู้คนที่นั้น ต่างดื่มกินกันอย่างมีความสุข ยิ้มแย้มพูดคุยด้วยใบหน้าแจ่มใส เพราะ
คนบนสวรรค์ มิได้ตักอาหารเข้าปากตนเอง มิได้ดื่มน้ำจากแก้วตนเอง ต่างคนล้วนป้อนอาหาร ป้อนน้ำให้แก่กัน จากสภาพช้องและแก้ว หากพยายามจะดื่มกินเอง ก็คงเป็นเช่นในนรก
บนสวรรค์นั้น ผู้ใช้ช้อนหรือแก้ว จะยื่นป้อนแก่ผู้อยู่ตรงกันข้ามกับตนเอง ครับ ทุกคนทำเช่นนี้ ทุกคนอิ่ม และมีความสุข
มีความสุขจาก ความไม่เห็นแก่ตัว
มีความสุขจากการรู้จักให้
มีความสุขจากไมตรีที่ถูกหยิบยื่น และตนเองก็เป็นผู้หยิบยื่นไมตรีนั้นกลับ
ต่างกับ นรก ที่มีแต่ทุกข์จากความเห็นแก่ตัวเอง ใจแคบ ไม่ได้คิดถึงผู้อื่น ไม่มีไมตรีที่จะยื่นแก่กันและกัน
นี่แหละ ครับ นรก กับ สวรรค์ มันไม่ได้ต่างกันที่สถานที่ กฏเกณฑ์ หรือ สภาพอื่นใด
มันต่างกันที่ คนที่อยู่ในสังคมนั้น คิดและปฏิบัติต่อกันเช่นไร ต่างหาก
ด้วยจิตเคารพมิเสื่อมคลาย ต่อท่านประธาน อิชิมูระ ทานากะ ซาโจ้ แห่ง saban entertainment ที่ล่วงลับ
กระผมขอรำลึก ถึงพระคุณของท่านและคำสอน ตลอดไป