ขำๆครับ

[paper punch]

อ่านเพลินๆ
ถ้าเคยอ่านแล้วก็อย่าว่ากันเน้อ

Consul : What is your name?
Arab: Abdul Aziz
Consul: Sex?
Arab : Six to ten times a week
Consul: I mean, male or female?
Arab : Both male and female and sometimes even camels
Consul: Holy cow!
Arab : Yes, cows and dogs too!!!!
Consul: Man,........ isn't it hostile?
Arab : Horse style, dog style, any style
Consul: Oh.......... dear!
Arab : Deer? No deer, they run too fast!

[loginofu]

ขำครับ
แต่ในอีกแง่มันแฝงการดูถูกคนศาสนาอื่น
ใช้มุกกรอกผิดของไทยยังดูน่ารักกว่า

[Jseventh]

ขอแจมด้วยคนนะคะ..
ใครเคยอ่านแล้ว ก็พยายามขำอีกสักรอบแล้วกันเนอะ..จะได้อารมณ์ดี

Dirty Jokes
ที่มา : http://www.deedeejang.com/joke/story/00020.html

ไมเกรน

ชายหนุ่มไปหาหมอ ด้วยโรคประจำตัว คือ ปวดหัวข้างเดียว หรือไมเกรน
จากการตรวจของหมอพบว่า คนไข้ของเขาเป็นไมเกรน ซึ่งไม่อาจรักษาได้

"ฟังนะ" หมอพูด "ผมก็เป็นไมเกรนเหมือนกัน ผมมี คำแนะนำให้คุณ
ซึ่งผมใช้ได้ผลกับตัวเอง โดยไม่มีในตำราเล่มไหนทั้งนั้น"
"เมื่อผมปวดหัวแบบไมเกรน ผมจะรีบกลับบ้าน แช่น้ำร้อนในอ่างอาบน้ำ
ให้ภรรยาผมขัดตัวให้
โดยใช้น้ำที่ร้อนที่สุดที่ทนได้ หลังจากนั้นผมจะพาเธอเข้าห้องนอน
แล้วก็มีเซ็กซ์กับหล่อน
แม้ว่าตอนนั้นผมจะปวดหัวมากแค่ไหนก็ตาม
หลังจากนั้นอาการปวดจะหายเป็นปลิดทิ้ง ลองทำดู
แล้วกลับมาหาผมเดือนหน้า"

หนึ่งเดือนต่อมา ชายหนุ่มคนเดิมเข้าพบหมอ ด้วยความปิติยินดี

"หมอ..คุณหมอ ผมหายแล้ว ผมหายจากไมเกรนที่ผมเป็นมาตั้ง 17 ปี
คำแนะนำคุณได้ผลจริงๆ เป็นครั้งแรกที่ผมหายจากไมเกรนได้"
"ดีมาก" คุณหมอพูดยิ้มๆ "ผมดีใจที่ช่วยคุณได้"

"แต่คุณหมอครับ..." ชายหนุ่มตบท้าย "อ่างอาบน้ำบ้านคุณหมอนี่
สวยจริงๆเลยครับ"

-------------------------------------------------

ดีกว่า

ที่เมืองนอกมีชายหญิงคู่หนึ่งมาหาจิตแพทย์ คุณหมอถาม
"มีปัญหาอะไรหรือครับ"
ผู้ชายตอบ "ช่วยดูพวกเรา ตอนมีเซ็กซ์กันได้ไหมครับ"
จิตแพทย์ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน แต่ก็ตกลงไปทั้งงงๆ
หลังจากการมีเซ็กซ์จบลง
จิตแพทย์จึงพูดว่า "ไม่มีอะไรผิดปกตินี่ครับ" และก็คิดค่าหมอไป 40
ดอลล่าร์
หลังจากนั้นชายหญิงคู่นั้น ก็วนเวียนมาหาหมอ แล้วก็ทำแบบเดิมทุกครั้ง
จนวันหนึ่ง จิตแพทย์ทนไม่ไหวจึงถามว่า
"พวกคุณกำลังหาว่าอะไรผิดปกติหรือ"
ชายจึงตอบว่า "เปล่า เธอแต่งงานแล้ว และผมก็แต่งงานแล้ว
จึงใช้ที่บ้านไม่ได้
ฮอลิเดย์อินน์ ก็ 82 เหรียญ ฮิลตัน ก็ 87 เหรียญ คุณคิดแค่ 40 เหรียญ
แล้วผมก็เบิกค่าหมอจากบริษัท ได้คืน 38 เหรียญ"

------------------------------------------------------

ที่ปรึกษา

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมพาเพื่อนไปภัตตาคาร ขณะสั่งอาหารอยู่
ก็เห็นพนักงานพกช้อนในกระเป๋า
ผมรู้สึกแปลกๆแต่ก็เฉยๆ
แต่เด็กที่มาเสิร์ฟน้ำก็มีช้อนในกระเป๋าเหมือนกัน
ก็เลยถามพนักงานที่กำลังจดรายการอาหารว่า "ทำไมต้องพกช้อนด้วย"
"อ๋อ" พนักงานตอบ
"เจ้าของร้านจ้างที่ปรึกษามาเพื่อปรับปรุงการทำงานทั้งหมด
หลายเดือนต่อมา ก็พบว่าลูกค้าทำช้อนหล่น 73.84 เปอร์เซนต์
มากกว่าทำอุปกรณ์อื่นๆหล่น
เลยมีกฏให้ทุกคนพกช้อน เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินกลับไปเอาช้อนที่ครัว
ประหยัดเวลาไปได้ 1.5 ชั่วโมงแรงงานต่อ 1 กะ"

ผมประทับใจมาก และพบอีกว่า ทุกคนมีเชือกยาวออกมานอกที่รูดซิปกางเกง
จึงถามต่อว่า "ขอโทษนะ แล้วเชือกนั่นหล่ะ"
"ใช่ครับ" พนักงานเสิร์ฟตอบเบาๆ "ไม่ทุกคนหรอกครับที่สังเกตเห็น
ที่ปรึกษาพบว่า
การใช้เชือกผูกที่ปลายของ ...คุณคงรู้นะ...
เราสามารถดึงออกมาฉี่ได้โดยไม่ต้องใช้มือ
ทำให้ประหยัดเวลาล้างมือ และลดเวลาในห้องน้ำถึง 76.39 เปอร์เซนต์"
"ใช่ แต่เวลาเก็บมันกลับเข้าไป จะทำอย่างไร"
ผมกระซิบถามอย่างคนอยากรู้อยากเห็น
พนักงานตอบกลับมา "เอ่อ...ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเขาทำกันยังไง
แต่ผมใช้ช้อนนั่นแหละครับ"

--------------------------------------------

ชายผิวดำ

ในงานแสดงศิลปะแห่งหนึ่ง สองสาวกำลังสงสัยรูปภาพที่อยู่เบื้องหน้า
ซึ่งเป็นรูปชายผิวดำสามคน นั่งบนม้านั่ง ที่แปลกประหลาดคือ
ชายสองคนที่นั่งด้านข้างมีจู๋ดำเหมือนผิว
แต่คนนั่งกลาง กลับมีจู๋สีชมพู ภาพนี้มีชื่อว่า
"กลับไปกินข้าวกลางวันที่บ้าน"
ศิลปินผู้วาดภาพเดินมาที่สองสาว "มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ" เขาถาม
"ค่ะ" สาวหนึ่งตอบ "เรากำลังสงสัยว่า ชายผิวดำในภาพทั้งสาม
ทำไมคนกลางจึงมีเอ่อ...ตรงนั้นไม่เป็นสีดำคะ"
"อ๋อ" ศิลปินตอบทันที "ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้วครับ ชายทั้งสาม
ไม่ใช่คนผิวดำหรอกครับ
พวกเขาเป็นคนงานเหมืองถ่านหิน แต่คนกลางเป็นคนเดียว
ที่กลับไปกินข้าวกลางวันที่บ้าน"

[Jseventh]

บุนด้า

มีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง(3 คน) ได้ไปท่องเที่ยวในป่าทที่ไม่ค่อยมีใครเคยเข้าไป นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นนักผจญภัยตัวยง ยิ่งเที่ยวยิ่งเข้าไปในป่าลึก...ยิ่งลึก เมื่อเข้าไปลึกมากก็ได้ไปเจอชนเผ่าพื้นเมืองกลุ่มหนึ่ง พวกเขาเหล่านี้ได้แอบดูและศึกษา พฤติกรรมของชนเผ่ากลุ่มนี้ ซึ่งพวกเขาก็ได้ตกใจมากเพราะชนเผ่านี้เป็นพวก มนุษย์กินคน.. และมีรสนิยมที่ชอบไม่ป่าเดียวกันซึ่งพฤติกรรมนี้ทางเผ่าเรียว่า "บุนด้า" นักผจญภัยกลุ่มนี้เกิด ความกลัวจึงคิดกันว่าจะหนี...พอหันกลับจะหนีเขาก็พบว่าพวกเขาได้โดนล้อมไว้ ด้วยพวกชนเผ่ากินคน... พวกเขาไม่มีทางหนีถึงแม้วาเขาจะพยายามหนีและดิ้นรนกันอย่างเต็มที่ เมื่อโดนจับมาที่เผ่า หัวหน้าเผ่าหน้าตาน่ากลัวหนวดเครารุงรังได้ตะโกนสั่งว่า..

"เอาพวกมันไป ขังไว้..! พรุ่งนี้ค่อยมาพิพากษา"

วันต่อมา หัวหน้าเผ่าได้เบิกตัวเชลยทั้งสี่ออกมาเพื่อพิพากษาหัวหน้าเผ่าได้ถามเชลยคนแรกว่า..

"ให้เจ้าเลือกเอา...ระหว่าง บุนด้า(การมีเพศสัมพันธ์ของไม้ป่าเดียวกันทางข้างหลัง)หรือตาย"

เชลยคนแรกด้วยความกลัวก็คิดว่า เอาวะดีกว่าตายจึงตอบออกไปว่า..

"บุนด้า" หัวหน้าเผ่าหัวเราะชอบใจและตะโกนเสียงดัง
" เอามันไปบุนด้า"

ลูกน้องในเผ่าดีใจกันยกใหญ่เอาเชลยคนแรกไปบุนด้าโดยทุกคนทั้งเผ่าหลัง 2 รอบ หลังจากเสร็จกิจก็ นำเชลยคนแรกไปขังเหมือนเดิม เชลยที่เหลือทุกคนตกใจเห็นเพื่อนกลับมาตัวเหลืองหน้าซีด หายใจอย่างรวยริน...เหมือนคนใกล้ตาย!
วันต่อมาหัวหน้าเผ่าก็ให้นำจำเลยที่ 2 ออกมาพิพากษา ก็ได้ถามเหมือนเดิมว่า..

"ให้เจ้าเลือกเอาระหว่างบุนด้าหรือตาย"
จำเลยที่ 2 ด้วยความกลัวเห็นเพื่อนรอดตายกลับมา ก็คิดว่าเอาน่าถ้ารอดกลับไปก็ไม่มีใครรู้
ก็เลยตอบว่า..

"บุนด้า"

ลูก น้องในเผ่าส่งเสียงไชโยดีใจและก็นำจำเลยที่ 2 ไปบุนด้ารอบเผ่าและกลับมาขังเหมือนเดิมจำเลยที่สอง กลับมาด้วยอาการร่อแร่เหมือนจำเลยคนแรก...ทำให้จำเลยที่สามเครียดลงทันที วันต่อมาหัวหน้าเผ่าก็เรียก เชลยที่สามไปพิพากษาและถามด้วยคำถามเดิมว่า..

" ให้เจ้าเลือกระหว่างบุนด้า หรือตาย"

เชลยที่สามเห็นเพื่อนๆ กลับมาด้วยอาการร่อแร่ปางตาย และเสียเกียรติเป็นอย่างยิ่งและคิดว่า ถ้ารอดกลับไปก็ไม่สามารถมองหน้าใครได้...อับอายเพราะโดนผู้ชายด้วยกันข่มขืน สู้อย่างนี้ตายดีกว่า อยู่ไปก็ไร้ความหมายสู้ขอตายดีกว่า จึงตอบด้วยเสียงอันดังว่า..

"ข้าเลือกตาย"

หัวหน้าเผ่าหัวเราะด้วยความดีใจและประกาศว่า..

"ดีมันเป็นคนที่หยิ่งในศักดิศรีดีมาก มันอยากตาย ให้มันตายด้วย บุนด้า"



Credit : http://variety.teenee.com
..............................................................................................

[Jseventh]

ชายขี่ม้า

กาลครั้งหนึ่ง มีผู้ชายหนุ่มคนหนึ่ง ต้องการจะขี่ม้า แต่เขาลังเลที่จะขี่มัน เจ้าของม้าได้บอกเขาว่าไม่ต้องกังวล ม้าตัวนี้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีมากๆ สุภาพมากๆ มันจะนำพาคุณไปที่นั่นเหนือเนินเขา และพาคุณกลับมาโดยตัวมันเองอย่างอัตโนมัติ มันรู้ทางไปและทางกลับของมัน ไม่มีปัญหา

ดังนั้น ชายหนุ่มที่ยังรู้สึกวิตกกังวลจึงพูดว่า ตกลง แต่ก่อนที่เขาจะขี่ม้าไปนั้น เจ้าของม้าได้พูดกับเขาว่า

“มี เพียง 2 สิ่งที่คุณจะต้องทำ ถ้าคุณต้องการให้ม้าเดินไปข้างหน้า จงพูดว่า “ขอบคุณพระเจ้า” แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการให้มันหยุด ก็พูดว่า “ฮาเลลูยา”

หลัง จากนั้น เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เขาก็ขี่ม้าเล่นไปเรื่อยๆ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเขามาจะถึงหน้าผา ม้าก็เริ่มควบด้วยความเร็วมากลงเนินเขา จนเกือบจะถึงหน้าผาแล้ว

ชายผู้นั้นเริ่มตื่นตระหนกอย่างมาก แต่เขาก็นึกถึงคำบอกของเจ้าของม้า เขาจึงพูดว่า..

“ฮาเลลูยา” และม้าตัวนั้นก็หยุดทันที ตรงที่ขอบของหน้าผา

“โอ้!” ชายผู้นั้นถอนหายใจอย่างโล่งอกและพูดต่อว่า “ขอบคุณพระเจ้า”



Credit : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id ... d&group=47
By : travelaround

[Jseventh]

ชมสวรรค์

มี ชายหนุ่มอยู่ ๓ คนเสียชีวิตในเวลาเดียวกัน ด้วยสาเหตุที่แตกต่างกัน ยมบาลมารับดวงวิญญาณไปสอบสวนก่อนจะส่งตัวไปตามกรรมที่สร้างมา เมื่อพิจารณาความผิดของทั้งสามคนแล้ว เป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรงนัก จึงอนุญาตให้ทั้งสามหนุ่มเที่ยวชมสวรรค์ได้หนึ่งวัน โดยยมบาลเริ่มซักถามคนที่ ๑ ว่า..
“พ่อหนุ่ม ก่อนตายเอ็งเคยประพฤติผิดลูกผิดเมียผู้อื่นบ้างหรือไม่ ?”
“บ่อยครั้งครับ ผมจำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง”
“เอ็งชั่วมาก งั้นเอาจักรยาน ๒ ล้อไปขี่ชมสวรรค์ก็แล้วกัน”

ต่อมายมบาลก็ซักถามคนที่ ๒
“พ่อหนุ่ม ก่อนตายเอ็งเคยประพฤติผิดลูกผิดเมียผู้อื่นบ้างหรือไม่ ?”
หนุ่มคนที่ ๒ ก้มหน้าอายนิดๆ แล้วก็ตอบว่า..
“ผมเผลอบ้างในบางครั้งครับ”
“เอ็งก็ชั่วกับเขาเหมือนกันนี่ เอ้า! เอ็งเอาจักรยานยนต์ไปขี่ชมสวรรค์”

เมื่อมาถึงคนที่ ๓ ยมบาลก็ซักถามเหมือนเคย
“พ่อหนุ่ม ก่อนตายเอ็งเคยประพฤติผิดลูกผิดเมียผู้อื่นบ้างหรือไม่?”
หนุ่มคนที่ ๓ อายหน้าแดงก่อนตอบว่า..
“ในชีวิตผม นอกจากเมียผมแล้ว ผมไม่เคยยุ่งกับใครเลยครับ”
“เอ็งนี่เป็นคนดีมาก ข้าจะให้รถยนต์ไปขี่ชมสวรรค์”

หลัง จากนั้นทั้งสามหนุ่มก็ได้ไปชมสวรรค์ โดยพาหนะที่ต่างกันตามความประพฤติ ชมไปได้ครู่หนึ่ง หนุ่มคนที่ ๑ และ ๒ เจอคนที่ ๓ นั่งหน้าเศร้าๆเหมือนกับจะร้องไห้ จึงตรงเข้าไปซักถามด้วยสงสัยว่า..
“เอ็งมีความทุกข์อะไรวะ จึงมานั่งคอตกเหมือนนกปีกหักอยู่อย่างนี้?”

หนุ่มคนที่ ๓ แหงนมองหน้าคนทั้งสอง ก่อนตอบแบบหมดอาลัยในชีวิตว่า
“ที่กูเป็นอย่างนี้ เพราะกูเพิ่งเจอเมียกูเมื่อกี้นี้เอง กูเห็นมันกำลังขี่จักรยานชมสวรรค์อยู่”




Credit : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id%20...%20d&group=47
By : travelaround

[Jseventh]

ขออนุญาต ขุดเอากระทู้ ของคุณ paper punch มาใช้งานหน่อยนะคะ..
พอดี มีกระทู้ขำๆ มาแปะต่ออ่ะค่ะ

สมองราคาแพง!

ข้าพเจ้าได้ยินเรื่องๆหนึ่ง - มันคงเป็นเรื่องของโลกอนาคต - ชายคนหนึ่งไปที่โรงพยาบาลเพราะว่าสมองของเขา ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาต้องการจะเปลี่ยนสมองใหม่ เขาได้ให้ศัลยแพทย์โชว์สมองทุกชนิดที่มีอยู่ให้เขาดู ศัลยแพทย์พาเขาเดินไปทั่วโรงพยาบาล มีสมองมากมายใ้ห้เลือกซื้อ..

สมองแรก เป็นของศาสตราจารย์นักคณิตศาสตร์ เขาถามราคา - ห้าสิบดอลลาร์ เขาประหลาดใจที่สมองของนักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบล มีราคาแค่ห้าสิบดอลลาร์เท่่านั้น

และก็มีสมองของนักดนตรี ราคาสามสิบดอลล่าร์
สมองของนักธุรกิจ ราคายี่สิบดอลล่าร์
เขาชมไปเรื่อยๆ..จนในที่สุดมาถึงสมองของนักการเมือง - ราคาห้าพันดอลลาร์!
ชายผู้นั้นถึงกับตกตะลึง เขาถามว่า "ทำไมราคาถึงสูงขนาดนั้น?" ศัลยแพทย์ตอบว่า "เพราะว่ามันใหม่มาก มันยังไม่เคยถูกใช้งานเลย

(ขำขันจากหนังสือ Intelligence : OSHO)

[paper punch]

โห คุณ Jseventh ไปขุดมาได้ไงครับเนี่ย จำไม่ได้เลยครับว่าเคยตั้งกระทู้นี้ ปีนึงผ่านมาแล้ว

แต่กลับมาอ่านของคุณ J อีกที ก็ยังขำอยู่นะครับ

[Jseventh]

ขุดกระทู้ เอาขำขันมาใส่เพิ่มค่ะ (มุกอาจจะเก่าไปหน่อย แต่ก็ยังขำได้อยู่)
V
V
ณ โรงพยาบาลจิตเวช คืนวันหนึ่ง หมอพาคนไข้ทั้งหมดมาทดสอบ..โดยให้นั่งมองความสวยงามของดวงจันทร์...ชื่นชมกับแสงจันทร์ที่สาดส่องเหลืองอร่ามทั่วบริเวณสนามหญ้า

ทุกคนสนุกสนาน วิพากษ์วิจารณ์ จินตนาการไปต่างๆ นานา...

มีคนไข้คนหนึ่ง นั่งสงบเรียบร้อย ไม่ได้สนใจไยดีกับความสวยงามของดวงจันทร์
คุณหมอยิ้มให้ คิดในใจว่า คนไข้คนนี้มีแววจะอาการดีขึ้นแล้ว น่าจะกลับบ้านได้ ก็เลยเข้าไปคุยด้วย..
"ดวงจันทร์สวยไหมครับ"..หมอถาม
"สวยเหมือนปกติแหละครับ"
"อยากขึ้นไปเที่ยวบนดวงจันทร์เหมือน นีล อาร์มสตรอง ที่เป็นนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรกไหม?"
"อยากครับ แต่ผมไม่มีเงินมากพอ..ไม่ได้อยู่อเมริกา ไม่มีจรวดอพอลโล่ ผมคงไม่มีโอกาสหรอกครับ"
"มีซิ..ทำไมจะไม่มี"
คนไข้ทำตาโต แปลกใจ "แล้วผมจะขึ้นไปด้วยวิธีไหนล่ะครับ?"
"ไม่ยากเลย" ว่าแล้วหมอก็หยิบไฟฉายอันใหญ่ขึ้นมา และส่องไปยังดวงจันทร์..
"คุณเห็นลำแสงของไฟฉายที่ส่องไปยังดวงจันทร์ไหม?"
คนไข้มองหน้าหมอด้วยสีหน้าแสดงความเบื่อหน่าย ตอบไปว่า "เห็นครับ"
****ิ้มแล้วพูดต่อว่า "คุณก็เดินตามลำแสงนี้ไป เดินไปจนสุดลำแสงก็จะถึงดวงจันทร์ได้ เป็นไง วิธีไปดวงจันทร์ของผม..ประหยัดดีไหม?"
คนไข้หันมามองหน้าหมอ แล้วหัวเราะ
"ผมว่าหมอเอาเรื่องปัญญาอ่อนพวกนี้ ไปหลอกคนอื่นดีกว่า..อย่ามาหลอกผมให้ยากเลย ผมไม่ได้โง่อย่างที่หมอคิด หลอกผมไม่ได้ผลหรอกครับ"
หมอมองหน้าคนไข้ แล้วยิ้มอย่างตื่นเต้น "คุณรู้เหรอ ว่าหมอหลอก"
"รู้ซิ ทำไมจะไม่รู้"
"ถ้างั้น ลองบอกหมอหน่อยว่า หมอหลอกยังไงบ้าง?"
"โธ่เอ๊ย!.....หมอจะหลอกให้ผมไต่แสงไฟฉายขึ้นไป พอผมขึ้นไปสูงๆ หมอก็จะปิดไฟฉาย ผมก็ตกลงมาตาย ใช่ไม๊ล่ะ..ลูกไม้ตื้นๆอย่างนี้ หลอกผมไม่สำเร็จหลอกนะหมอ" คนไข้พูดไป แถมยักคิ้วหลิ่วตาให้หมอไป..

เขาเรียกว่า ถึงจะบ้าแต่ว่าไม่โง่นะ...ฮา




เพลง บ้า
ศิลปิน คาราบาว

ไม่ใช่ผู้ดีตีนแดง ตะแคงตีนเดิน
ไม่ใช่ผู้ร้ายจอเงิน ต้องเดินเอียงคอ
ก็มีความฝันวันวัน ที่ขนมห่อ
ห้าบาทก็พอ สิบบาทสองห่อ
ล่อกันท้องตึง หนังในตาหย่อน

มีบ้านเป็นหลังคาแดง อยู่มานมนาน
ก็คือสถานพยาบาล อาการสมอง
ยังมีความสุขทุกวัน กับการเหม่อมอง
เกาะรั้วยองยอง รถราก่ายกอง
ว่องไววกวน ทั้งถนนรถแคม

แล้วมาวันหนึ่ง ถึงเวลาเย็น
ฉันไปเดินเล่น เกาะลูกกรงรั้ว
เห็นรถยางแตก กับหญิงสาวขี้กลัว
ฉันยืนยิ้มที่ริมรั้ว ดูเธอเปลี่ยนล้อยาง
(ยางมันแตก)

เธอลนเธอลานพลั้งเผลอ เตะน็อตตกท่อ
ก็เหลือแต่ล้อเปลี่ยนล้อ ขาดน็อตยึดแน่น
จากความวิตกหวาดหวั่น กลายเป็นความแค้น
เสียงตวาดแหว๋น เสียงดังแปร๋นแปร๋น
แค้นที่มองหน้า ยิ้มทำไมไอ้คนบ้า

ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดี
ไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดี
ฉันเป็นคนบ้า ไม่ใช่คนไม่ดี
ฉันสติไม่ดี ฉันเป็นคนบ้า

บ้ายังช่วยบอก ให้เธอใจเย็น
น็อตที่ฉันเห็น ยังมีอีกตั้งสามล้อ
ถอดมาล้อละตัว มาใส่แล้วก็ไปต่อ
เสียงเธอก็ร้องอ๋อ...ก็ไหนว่าเป็นคนบ้า

ไม่ค่อยจะดี อย่างเธอ จึงต้องอยู่ในรั้ว
ไม่ค่อยมีเงินติดตัว อนาถา
สติสตังไม่ดี ไม่มีปัญหา
ใช่แล้วคนบ้า ใครก็ว่าบ้า
บ้าก็บ้าซิวะ ถึงจะบ้าแต่ว่าไม่โง่...

[joejiroo]

555 คิดได้ไงเนี่ยยย