Jseventh wrote:ชอบเพลง 'จอมยุทธ์' ค่ะ..ฟังสนุกดี
ยินดีต้อนรับกลับสู่บอร์ดนะศิษย์น้องนายเวร (หายไปหลายวัน)
อย่าซ่าส์มากนะ..บอร์ดนี้จอมยุทธ์เยอะ
นายเวร wrote:Jseventh wrote:ชอบเพลง 'จอมยุทธ์' ค่ะ..ฟังสนุกดี
ยินดีต้อนรับกลับสู่บอร์ดนะศิษย์น้องนายเวร (หายไปหลายวัน)
อย่าซ่าส์มากนะ..บอร์ดนี้จอมยุทธ์เยอะ
อิอิ ขนาดขอเพลงยังอบรม ศิษย์น้อง หายไปช่วงน้ำท่วมบ้านอ่ะครับ
เอาหน้าออกจากจอคอม การเมืองสมองปรอดโปร่งดี ไปคิดกับปืนกระศพตั้งนาน
อ่านย้อนหลังดูผมทำไปได้ยังไง เนี้ยยเก่งจริงๆ(เอาตัวรอดไถล)
กะว่ามาเเก้คำผิดเสริมข้อมูลในทู้ เว้ณเรื่องการเมืองซักพัก
มาถึงก็นำระเบิดมาลงเรยยย นี่อ่ะครับกำลังของวิชาจากผู้อาวุโส
เจอจอมยุทธ์ไร้กระบวนท่า ก็ต้องใช้ ยุทธ์ไร้กระบวนท่าตามอารมณ์ช่วงนั้น
ผมเห็นชื่อศิษย์พี่มาห้องนี้ นึกแล้วมิมีผิดอันใด ต้องมาทู้นี้ จารย์อ้อย ชาวกบ เเวะเที่ยวฟังเพลงครับ อิอิ
นายเวร wrote:
ท่าทาง จารย์อ้อยมีศิษย์แต่ละคน มีแต่เพี้ยนๆเหมือนผม ฮา
ว่าแต่มาจากใหนครับ คุณซาวววกบ เคโระ ตอนแรกผม งง นึกว่าคนมาแกล้ง
ไปเจอ พระอาจารย์อ้อย เว็บใหนอ่ะคับ ผมจัดเพลงให้แล้ว ชาวกบจัดให้ผมหน่อยเด้อ
อยากฟังแนวคิดอ่ะคับ งิงิ
นายเวร wrote:ท่าน paradon ไม่มารับแขกเรยย เอาเพลงมาฟังบ้างนะ น้องเขาอุตส่าห์มาเยี่ยม
ท่าน J-7 ก็รักษาสูขภาพให้ผ่านพ้นมรสุม ไปด้วยดีนะครับ
แอบตัดมาบา่งส่วน..
แต่ที่ผมชอบมากที่สุดสำหรับ “จิ้งจอกภูเขาหิมะ” ก็คือฉากการต่อสู้ห้าวันห้าคืนของ “เมี้ยวนั้งหงส์” กับ “โอวเจ่กตอ” ที่มีทั้งหยุดพักกินอาหาร หยุดพักหลับนอน มีการพูดคุยสนทนากัน มีการแลกเปลี่ยนวิชาวรยุทธของตัวเองให้กับคู่ต่อสู้ แลกเปลี่ยนศัตราวุธ วิพากษ์วิจารณ์จุดอ่อนจุดด้วยของแต่ละคน ยอมรับนับถือซึ่งกันและกันจนถึงขั้นฝากฝัง “ชีวิตติดค้างที่ยังไม่ได้ทำ” หากในกรณีที่ผู้พ่ายแพ้ล้มตายแล้วจะไม่อาจปลดเปลื้องสิ่งค้างคา
ผมกินใจมากกับตอนที่หลังจาก “โอ่วเจ่กตอ” และ “เมี้ยวนั้งหงส์” ต่อสู้กันในวันแรก และนับถือน้ำใจซึ่งกันและกัน จากนั้นตัดสินใจเลิกราไปพักผ่อนหลับนอนเพื่อมาสู้กันต่อในวันรุ่งขึ้น คืนนั้น “โอ้วเจ่กตอ” ห้อม้าจนม้าหมดแรงตายไปห้าตัวเป็นระยะทางสามร้อยลี่จากสถานที่ต่อสู้ไปยัง มณฑลชานตุง ไปฆ่าศัตรูคู่อาฆาตที่เลวร้ายที่เยี่ยมวรยุทธของ “เมี้ยวนั้งหงส์” ด้วยวิทยายุทธเชิงกระบี่ของ “เมี้ยวนั้งหงส์” ที่เขาลอกเลียนจากการประทะกันเพียงวันเดียว ทั้งที่ “โอ้วเจ่กตอ” ชำนาญเพลงดาบ แต่กลับใช้เพลงกระบี่ของ “เมี้ยวนั้งหงส์” ล้างแค้นศัตรูที่ชำนาญเพลงดาบแปดทิศให้กับ “เมี้ยวนั้งหงส์” เพื่อเป็นการคารวะให้เกียรติ จากนั้นอดหลับอดนอนทั้งคืนห้อม้ากลับเพื่อมาให้ทันนัดหมายประลองในวันรุ่งขึ้น
เป็นการต่อสู้ของ “ลูกผู้ชาย” อย่างแท้จริง
ในโลกปัจจุบัน บ่อยครั้งที่การต่อสู้ระหว่างคน เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและการแทงข้างหลัง การต่อสู้ชนิดหน้าไหว้หลังหลอกนั้น เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและน่าเบื่อหน่าย เป้าหมายเพียงจะให้ได้มาซึ่งชัยชนะเพียงอย่างเดียวโดยไม่นึกถึงจริยธรรมความ ถูกต้องนั้น เป็นชัยชนะที่ไม่หมดจดงดงาม
ชัยชนะนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุดในการต่อสู้ แต่ “ชนะอย่างไร” จึงยิ่งใหญ่กว่า
นิ่งนอนซอนไชใฝ่รากลึก
กลมเกลียวผลึกกฎเกณฑ์เป็นนิสัย
ซ่อนเนื้อแท้ปกปิดมิดชิดไว้
อาจดูคล้ายไร้ที่ไม่มีตัว
ปรากฏชัดงอกเงยเผยผึ่งออก
เมื่อถอดถอกอารมณ์ปมดิบชั่ว
ในรูปแบบ รัก โลภ โกรธ หลง เริงรัว
จะเผยตัวธาตุแท้เห็นชันเจน
ปิดดับลงปลงใจนั้นการยาก
ลาจำจากปล่อยว่างห่างไกลเว้น
เมินเฉยสิ่งกระทบพบพานเห็น
ดั่งว่าเป็นพันธุ์ไม้ไร้จิตใจ
เพราะคาบเงากิเลสเป็นเหตุตั้ง
ทุกความหวังขยับขับเคลื่อนไหว
ยากจะคัดค้านต้านทานจิตใจ
มิหลงใหลอำนาจกิเลสลวง
เงากิเลสอิงแอบแยบยลซ่อน
เฝ้านิ่งนอนกร่อนกัดจิตหล่นล่วง
ปรุงแต่งให้หมองไหม้ในจิตดวง
เป็นวงบ่วงรึงรัดถักมัดตัว
เนื่องติดตามทุกขณะไม่ละห่าง
เด่นชัดบ้างบางครั้งยามจิตมั่ว
ในรูปแบบ รัก โลภ โกรธ หลงเริงรัว
จะเผยตัวธาตุแท้เห็นชัดเจน