ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

คุยกันสบายๆ ไม่ซีเรียส

ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Fri Mar 13, 2009 12:45 pm

รบกวนเพื่อนๆพี่ๆหน่อยนะคะ คือกลุ้มใจน่ะค่ะ อยากฟังความคิดเห็นหลายๆคน อ่ะค่ะ อยากมีวิธีจัดการกับความงี่เง่าของเพื่อนแต่ไม่อยากเสียเพื่อนไปค่ะ เพราะเรากำลังวางแผนทำอะไรหลายๆอย่างด้วยกัน แต่ความงี่เง่าของเขามันกลับมาอีกแล้วไม่อยากให้ทุกอย่างมันพังเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องค่ะ อย่างเช่นโกรธในเรื่องที่ไม่ควรโกรธ ชอบตัดสายโทรศัพท์เวลาที่ไม่พอใจ ทั้งที่กำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่ บ่อยมากแต่ก็อภัยให้ตลอด ก็อะนะ เพื่อน งอนเก่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง โทรไปเป็นร้อยสาย ก็ไม่รับถ้าไม่อยากรับ แต่ถ้าโทรหาเรา2สายแล้วไม่ได้รับ งอน เวลาเถียงกันถ้าเราไม่รู้ บอกเราโง่ ถ้าเราเถียงชนะ บอกไม่มีเหตุผล ไม่ยอมรับความคิดเห็นคนอื่น เลทนัด เห็นแก่ตัวบลาๆๆๆๆๆๆ จริงๆอาจดูเล็กน้อยแต่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้แหละ มีผลกับจิตใจมาก
อยากรู้ว่าใครมีเพื่อนแบบนี้ไหมคะ รบกวนด้วยค่ะ
Last edited by Three Legs on Fri Mar 13, 2009 3:59 pm, edited 1 time in total.
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ

Postby อธิฏฐาน » Fri Mar 13, 2009 1:34 pm

ท่าทางคุณสามขาแคร์เพื่อนมากเลยค่ะ โทรไปเป็น 100 สาย อธิฏฐานโทรแค่ 2 ครั้ง หากไม่รับก็ไม่สนใจแล้วค่ะ
User avatar
อธิฏฐาน
 
Posts: 3001
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:18 pm

Re: รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ

Postby Argus » Fri Mar 13, 2009 1:39 pm

เพื่อนหรือว่าแฟนครับ

ดูจากเนื้อหาแล้วประเมินสถานะการณ์ไม่ถูกครับ

ลองบอกรายละเอียดต่างๆ
เช่น อายุ?
งานที่ทำคืออะไร?
ปัญหาที่เกิดคืออะไร?
เพื่อนที่ว่า เพศไหน?
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Re: รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Fri Mar 13, 2009 2:02 pm

เพื่อนค่ะ เป็นผู้หญิงที่แคร์มากเพราะตอนคบกันแรกๆเขาดีมาก แต่เราก็ทะเลาะกันหลายครั้ง แต่เขาออกจะฐานะดีกว่า ทำงานเก่ง เทคแคร์ดีมากๆ เขาเป็นคนแรกที่ ทำให้เราอยากมีเพื่อนเมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจที่จะมีเพื่อนเพราะขี้รำคาญไม่ชอบง้อใคร ผู้หญิงเงื่อนใขเยอะ แต่เราลุยๆ ง่ายๆ ถ้ามีเพื่อนผู้ชายไม่ค่อยรอด เพื่อนที่คิดตรงกันหายาก ไม่ชอบปาร์ตี้ ชอบไปไหนคนเดียวโอยเยอะแยะ จนมาเจอคนนี้ งงมาก เจอกันแรกๆ ชอบดูเรียบร้อยพอสนิทกัน เรื่อมคุยกันเยอะ เวลา ไปกินข้าวชอบแย่งจ่าย เคยเจอแต่ แบบแชร์กัน ไม่ก็เราออกเอง ก็แฟร์ดี แต่เขาชอบแย่งจ่าย เวลาชวนเรา เราปฎิเสธถ้าเราตังค์ไม่เยอะพอ เขาจะงอน เราต้องยอม ตลอด เหมือนเพื่อนเลี้ยงตลอด เราก็อึดอัด แต่ยอม ได้แต่คิดว่า ถ้าวันหนึ่งเราโอเค เราจะดูแลเขาบ้าง เลยไม่อยากเสียเขาไปก่อนจะถึงวันนั้นอะค่ะ ทำทุกวิถีทางที่จะไห้ความสำพันธ์มันยืดยาว แต่ตอนนี้รู้สึกเหนื่อย อยากจัดการกับความรู้สึก ตัวเองก่อน ว่าจะเอาไงดี ให้ไม่คิดมาก อีกไม่กี่วันจะเดินทางด้วยกัน ไม่อยากไห้มันพังก่อน ไม่รู้เป็นไร วางแผนไว้ทีไรทะเลาะกันทุกที อยากได้หลายๆความคิดเห็นเพราะว่า ไม่อนากเข้าข้างตัวเอง ว่าถูก อะไรประมาณเนี้ย
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ

Postby Argus » Fri Mar 13, 2009 2:13 pm

ทุกปัญหาต้องมีสาเหตุ ถ้าเราไม่รู้ตัวต้นเหตุก็ไม่สามารถแก้ไขได้.

คุณ 3 ขายังไม่ได้ บอกอายุ เลยประเมินสถานะการณ์ลำบาก.

วัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน.

สิ่งหนึ่งที่มักจะสร้างปัญหาให้ทุกความสัมพันธ์แบบไ่ม่รู้ตัวคือ ความใกล้ชิด กับความคาดหวัง.

เวลาที่เราใกล้ชิดใครมากไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือแฟน เรามักจะลืมไปว่า เรามีความเป็นตัวของตัวเองมากแค่ไหน.

จริงๆ แล้วนอกจาก สาเหตุจะมาจากเรา อาจจะมาจากตัวเขาเองก็ได้.

สิ่งที่ผมยังไม่ทราบคือ ปัญหาเริ่มต้นมาแต่เมื่อใด
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Re: รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ

Postby Disconnected » Fri Mar 13, 2009 2:14 pm

:)

ผมโสดครับ
หาเพื่อนหยิงคุยแก้เหงาครับ


ประชาธิปไตยต้องมีสิทธิ์เท่ากันทุกคน แล้วทำไมเด็กต่ำ 18 ไม่มี

http://www.imeem.com/honeylollipop/musi ... _raise_up/
User avatar
Disconnected
 
Posts: 1337
Joined: Tue Oct 14, 2008 6:26 pm

Re: รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Fri Mar 13, 2009 2:31 pm

Argus wrote:ทุกปัญหาต้องมีสาเหตุ ถ้าเราไม่รู้ตัวต้นเหตุก็ไม่สามารถแก้ไขได้.

คุณ 3 ขายังไม่ได้ บอกอายุ เลยประเมินสถานะการณ์ลำบาก.

วัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน.

สิ่งหนึ่งที่มักจะสร้างปัญหาให้ทุกความสัมพันธ์แบบไ่ม่รู้ตัวคือ ความใกล้ชิด กับความคาดหวัง.

เวลาที่เราใกล้ชิดใครมากไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือแฟน เรามักจะลืมไปว่า เรามีความเป็นตัวของตัวเองมากแค่ไหน.

จริงๆ แล้วนอกจาก สาเหตุจะมาจากเรา อาจจะมาจากตัวเขาเองก็ได้.

สิ่งที่ผมยังไม่ทราบคือ ปัญหาเริ่มต้นมาแต่เมื่อใด

คือ เกือบ ยี่สิบกลางๆ ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่แล้วค่ะ ต้นเหตุมาจาก เราโทรคุยกัน เขาบอกมีงานด่วนต้องทำ ประมาณ3ทุ่มได้ เขาบอกเดี๋ยวโทรหา เรา เราก็ถามว่ากี่โมง เพราะเรากลัวเรานอนก่อน รู้สึกเพลียๆไง เราแค่ถามว่ากี่ทุ่ม เขาก็บอกไม่โทรแล้ว ตัดสายไปเลย เราก็เฮ้ยย ปี้ด ถ้าเป็นเมื่อก่อน จะส่งข้อความไปด่า แต่ไม่อยากทำ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์มีแต่จะทะเลาะกันมากขึ้น ที่ปี้ด เพราะเราคุยเรื่องงาน ที่จะทำด้วยกันใง
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ

Postby Argus » Fri Mar 13, 2009 2:38 pm

ยี่สิบกลางๆ แปลว่าเป็นคนวัยทำงาน.

จากสถานะการณ์ คร่าวๆ คาดว่า ทำงานคนละที่กันไม่ค่อยได้เจอกัน ติดต่อกันทางโทรศัพท์.

จุดมุ่งหมายการโทรหากันเพื่อชวนกันร่วม ทำธุรกิจ หรือทำงานอะไรบางอย่างร่วมกัน.

ใช่หรือเปล่าครับ
ผมขอ 2 ข้อนี้ก่อนครับไม่อยากให้บานปลาย
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Re: รบกวนช่วยตอบหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Fri Mar 13, 2009 3:56 pm

Argus wrote:ยี่สิบกลางๆ แปลว่าเป็นคนวัยทำงาน.

จากสถานะการณ์ คร่าวๆ คาดว่า ทำงานคนละที่กันไม่ค่อยได้เจอกัน ติดต่อกันทางโทรศัพท์.

จุดมุ่งหมายการโทรหากันเพื่อชวนกันร่วม ทำธุรกิจ หรือทำงานอะไรบางอย่างร่วมกัน.

ใช่หรือเปล่าครับ
ผมขอ 2 ข้อนี้ก่อนครับไม่อยากให้บานปลาย

อย่างนี้ละกันนะคะ มีเพื่อนที่สนิทกันมาก มีนิสัย แบบเนี้ย จะเลิกคบกันหลายครั้งแล้วเพราะชอบทำนิสัยแบบเนี้ย ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จนอ่อนใจ เราก็มาคุยกันว่า เอาไหม่นะ ต่อไปจะไม่ทำนิสัยแบบนี้อีก ก็โอเค ดีกันพักนึง ผ่านมาได้3เดือน ก็อีกแล้ว มันเหนื่อยไง ล่าสุดยืมกล้องเขามาถ่ายรูป แล้วก็คืนแล้วผ่านมาวันหนึ่งเขากับเราก็โทรคุยกัน เรื่องงาน เขาก็ต่อว่า ว่า ถ่ายรูปอะไรไม่เห็นซักรูป เราก็อึ้ง คือ เราหวังดีลบออก กลัวเปลืองเมม เขาก็ อ๋อ เดี๋ยวนี้ทำอะไรรู้ไม่ได้เลยใช่ไหม เราก็พูดไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่อง เขาก็ต่อยาวเลย เราก็เฮ้ย คิดในใจ แล้วไหมล่ะ โรคงี่เง่ากำเริบ พอดีเขาต้องทำงานเลยบอกเราว่า เดี๋ยวโทรหา เราก็ถามกี่ทุ่ม คือเราอยู่บ้านไม่ได้พกมือถือติดตัวตลอดเวลาไง เราจะได้กะถูก เผื่อลงไปดูทีวีข้างล่าง พอดีติดซิดคอม ถ้าโทรมาดึกจะได้ไม่ต้องถือลงไป เดี๋ยวก็ขึ้นมานอน แต่ถ้าโทรมาเร็ว จะถือลงไป แค่นั้น คือ เรางง ว่าเรื่องแค่นี้ ทำไมต้องแสดงกิริยาหยาบคายโดยการตัดสายทิ้ง ทั้งที่ยังคุยไม่จบ คือ เราคุยกันค้างอยู่ เราพยายามโทรกลับก็ไม่รับ มัน อาจเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับไคร แต่อยากจะบอกว่า มันมีผลต่อจิตใจเรามาก อยากจัดการกับมันก่อนไม่งั้น ทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะเรามีเพื่อนสนิทแค่คนเดียวไง
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Argus » Fri Mar 13, 2009 4:31 pm

จากข้อมูลเพิ่มเติม ประเมินได้คร่าวๆว่า

ความสัมพันธ ของคุณ 3 ขา มีมากกว่าเพื่อน สนิทธรรมดาเข้าใกล้ความเป็น อัญจารี.

ซึ่งความสัมพันธ์ส่วนนี้จะค่อนข้างเปราะบาง.

ลักษณะ การ ดูแลเอาใจใส่กันจะต่างกับการคบเพื่อนทั่วไปแบบปกติ.

ความห่างไกลทำให้ เพื่อสนิท คุณ 3 ขา อาจจะมีเพื่อนสนิทคนอื่นอีก กลุ่มหนึ่ง. ที่ค่อนข้างสำคัญ เรียกได้ง่ายๆว่า มีทางเลือกในการคุยและคบหามากขึ้น.

ในทางเดียวกันเขาก็ยังมีความรู้สึก คล้ายๆ กับหวง เพื่อนเก่า ไม่อยากให้ เพื่อนเก่าปิดบัง รวมถึงว่าการจะไปเที่ยวไหนก็น่าจะมีหลักฐานมาให้บ้าง.
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Fri Mar 13, 2009 5:15 pm

Argus wrote:จากข้อมูลเพิ่มเติม ประเมินได้คร่าวๆว่า

ความสัมพันธ ของคุณ 3 ขา มีมากกว่าเพื่อน สนิทธรรมดาเข้าใกล้ความเป็น

ซึ่งความสัมพันธ์ส่วนนี้จะค่อนข้างเปราะบาง.

ลักษณะ การ ดูแลเอาใจใส่กันจะต่างกับการคบเพื่อนทั่วไปแบบปกติ.

ความห่างไกลทำให้ เพื่อสนิท คุณ 3 ขา อาจจะมีเพื่อนสนิทคนอื่นอีก กลุ่มหนึ่ง. ที่ค่อนข้างสำคัญ เรียกได้ง่ายๆว่า มีทางเลือกในการคุยและคบหามากขึ้น.

ในทางเดียวกันเขาก็ยังมีความรู้สึก คล้ายๆ กับหวง เพื่อนเก่า ไม่อยากให้ เพื่อนเก่าปิดบัง รวมถึงว่าการจะไปเที่ยวไหนก็น่าจะมีหลักฐานมาให้บ้าง.

แล้วเราจะจัดการปัญหานี้ยังไงคะ มีวิธีไหน ปรึกษาไคร มีแต่คนส่ายหน้า คือ หมดปัญญา ที่จะแนะนำ เรื่องเพื่อนใหม่เก่าไม่ใช่ปัญหา เพราะเราไม่สนใจ ขนาดเขามีเพื่อนที่ ใช้บัญชีธนาคารเล่มเดียวกัน เขายังบอกว่าไม่สนิทเลย เวลาไปไหนกับเราคนอื่นยังไม่รู้เลย แต่ช่างมันเถอะ ความรู้สึกตอนนี้ก็คือ อยากหันหลังให้ แล้วเดินจากไปแต่ทำไม่ได้ เราเคยสัญยากับตัวเองว่าจะเคียงข้างเขาตลอดไป อัญจารี.คืออะไรคะ
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Argus » Fri Mar 13, 2009 5:44 pm

ปัญหานี้แก้ที่คนอื่นได้ยากมากครับมีโอกาส ถึง 80% ที่จะต้องเลิกกัน.

ประเด็นสำคัณ ที่สุดคือ ตอนนี้คุณจำแนกระดับความสัมพันธ์ของคุณกับเพื่อนสนิทได้ดีแค่ไหน.

ในลักษณะที่ผมอ่านมา ผมมองว่า ความสัมพันธ์ของคุณเกิน ความเป็นเพื่อนปกติไปแล้วครับ มันอยู่ในระดับ เพื่อนรักเพื่อน รวมถึงความรักความผูกพัน.

ในข้อนี้ต้องมองตัวเองก่อนครับเพราะว่า ผมเองมองไม่เห็นลักษณะนิสัยของทั้งคู่ ซึ่งผมเองก็ไม่อาจจะเห็นจุดบอดที่เป็นตัวปัญหาของท่านด้วย
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Fri Mar 13, 2009 5:57 pm

เราไม่ใช่รักร่วมเพศนะคะ :oops: แต่ความห่วงใยต่อกันมีแน่นอน นิสัยเราคือโกรธไครไม่เป็น จริงๆ แต่นิสัยเขาโกรธดะทุกเรื่อง การใช้ชีวิตของเขาออกแนว ไฮๆ แต่ของเราโลว์ๆ ต่างกัน แต่ใจเราตรงกัน แต่เรารักเขามาก แบบคนในครอบครัว เหมือนสายเลือดเดียวกันค่ะ อัญจารี.คือไรคะ จะเลิกคบหลายครั้งแล้วแต่ทำไม่ได้
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Argus » Fri Mar 13, 2009 6:19 pm

Three Legs wrote:เราไม่ใช่รักร่วมเพศนะคะ


ความรักมันละเอียดอ่อนครับ. คำว่ารักร่วมเพศ เองจริงๆ ก็มีความหมายที่ดีนะครับ ไม่ใ่ช่ว่าไม่ดี แต่มันอยู่ที่คนแปล
แต่ความรักความผูกพันมันละเอียดอ่อนครับจนกระทั่งเราเองมองใจไม่ทัน.
พอดีผมต้องกลับบ้าน เดี๋ยวผมจะมาตอบเพิ่มนะครับ

อัญจารี คือ หญิงรักหญิงครับ.
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Fri Mar 13, 2009 6:26 pm

Argus wrote:
Three Legs wrote:เราไม่ใช่รักร่วมเพศนะคะ


ความรักมันละเอียดอ่อนครับ. คำว่ารักร่วมเพศ เองจริงๆ ก็มีความหมายที่ดีนะครับ ไม่ใ่ช่ว่าไม่ดี แต่มันอยู่ที่คนแปล
แต่ความรักความผูกพันมันละเอียดอ่อนครับจนกระทั่งเราเองมองใจไม่ทัน.
พอดีผมต้องกลับบ้าน เดี๋ยวผมจะมาตอบเพิ่มนะครับ

อัญจารี คือ หญิงรักหญิงครับ.
:lol: :lol:
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby pepsi » Fri Mar 13, 2009 6:55 pm

ถ้าเป็นผมเลิกโทรตั้งแต่สายที่10กว่าๆแล้ว แล้วก็ดูไป ถ้าเพื่อนกันจริงมันต้องโทรมาบ้าง(ตรูเหนื่อยแระ)
อย่างที่สองก็คือไปหาตัวเป็นๆเลย จะยังไงก็ว่าไป แล้วเราก็ดูท่าที เรื่องแบบนี้มันพอดูกันออกอยู่แล้ว
อย่างสุดท้ายก็คือ เออ...งอนนักก็เชิญงอนไป จะโกรธเกลียดเรื่องของเอ็ง......แล้วเราก็ใช้ชีวิตของเราต่อปายยยยยยยยยยยย

:evil: :evil: :twisted: :twisted:
คนไทย ใช้ประชาธิปไตยได้ โง่ และ เลว ที่สุด เท่าที่มีระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นมา
User avatar
pepsi
 
Posts: 426
Joined: Wed Oct 22, 2008 11:46 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby halfmoon » Fri Mar 13, 2009 7:56 pm

เมื่อกี้ กับลังตอบยาวเลย เน็ตตัดซะก่อน เดี๋ยวผมพิมพ์จากข้างนอกมาโพส์ตก็แล้วกัน กำลังมันส์ เซ็งสุดๆ! :oops:
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby halfmoon » Fri Mar 13, 2009 11:26 pm

ขอแสดงความคิดเห็นตามที่อ่านมานะครับ

ทั้งหมดมันแบ่งออกเป็นสองเรื่อง
1 มโนคติ เป็นจิตนาการความรัก
2 เป็นคดี ที่ดำเนินวิถีชีวิตผูกพันกันแบบคนรักกันของคน 2 คน
สรุปก็คือ เป็นความรักครับ

Three legs ต้องแก้ปัญหาทั้ง 2 ข้อ โดยเริ่มจากข้อ 1 ก่อนครับ

1 จินตานาการความรักของ three legs ไม่ตรงกับความรักที่ใฝ่ฝันครับ three legs
ต้องตอบตนเองให้ได้ก่อนว่ารูปแบบที่ตนเองต้องการสัมผัสจริงคือแบบไหน ทำใจ
ให้เบาสบายเหมือนปุยเมฆ ให้มีอิสระ หากสิ่งที่รู้สึกอยู่ มันไม่ใช่ ก็ยุติและแสวงหา
ใหม่ครับ คนเราเกิดมาชาตินี้ก็ต้องให้ตนเองสัมผัสความสุขให้ได้ครับ

2 วิถีการดำเนินความสัมพันธ์ร่วมกัน มันเป็นไปตามเราต้องการมั๊ย ถ้าไม่ใช่ก็หยุด
อย่าให้เรื่องราวมันดำเนินไปโดยไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ หากที่สุดแล้วมันสิ้นสุดแบบ
ไม่พึงปรารถนา มันก็กลายเป็นคดี เรื่องราวที่เลวร้ายสำหรับทั้งสองฝ่าย

ฟังดูคล้ายว่าทั้งสองคนถือลูกกลมๆที่คิดว่าเป็นก้อนความรัก คล้ายๆกับลูกโป่งหรือ
ลูกบอล ที่ three legs เก็บงำไว้อยู่ กลัวมันแตก กลัวคนรู้ว่าข้างในนั้นมันคืออะไร
อีกฝ่ายหนึ่งเหมือนจะบีบเค้นให้แตกคามือซะให้ได้ ทั้งที่ก็อาจไม่อยากรู้ด้วยซ้ำว่า
มันคือลูกอะไร เหมือนว่าเขาเป็นลูกหนังยางลูกนั้น ส่วน three legs เป็นลมที่อยู่ใน
ลูกหนังยางลูกนั้น บ่อยครั้งที่เขาชอบเฟี้ยงชอบเตะให้กระเด็นโดยไม่สนใจใยดี และ
ก็มักมองกลับมาดูว่ามันแตกรึเปล่า แม้นไม่ได้คิดว่ามันแตกรึยัง ส่วน three legs
เองก็จ้องคอยแต่ขู่จะปล่อยลมมันออก หลายครั้งก็เป่าลมเขาเหมือนเดิม
มันเป็นอาการบีบเค้นทั้งภายนอกคือเขาและภายในคือเรา

เอาเป็นว่าผมจะแนะนำวิธีแก้ปัญหาแบบวิถีพุทธก็แล้วกัน พุทธเป็นศาสนาและศาสตร์
แห่งการดับทุกข์ ที่ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์ ไม่ใช่ผมจะแนะนำให้หนีไปบวชนะครับ
สามารถเอาธรรมชาติง่ายๆมาแก้ปัญหาได้ โดยการดับทุกข์ ตามหลัก อริยสัจจ 4 คือ
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

อะไรคือทุกข์ ให้เราตอบตนเองก่อนว่าอะไรที่ทำให้เราทุกข์ นั่นคือความรักใช่มั๊ย
สมุทัยอะไรคือเหตุแห่งทุกข์ การที่ตนเองรักและปรารถนาในตัวผู้อื่นใช่มั๊ย
นิโรธ เราอยากดับทุกข์ครั้งนี้ใช่มั๊ย งั้นเราต้องดับไฟรักไฟปรารถนาของเราต่อผู้อื่น
มรรค แล้วเราจะดับทุกข์ได้โดยวิธีใดอย่างไร ในเมื่อเรารู้แล้วเพราะความรักนั่นเอง

อย่างนี้คือขบวนการและวิธีดับทุกข์ตามวิถีพุทธ ดูมันอาจจะยากและไม่คุ้นเคย
งั้นเอาแบบนี้ครับ ชี้ให้ตนเองเห็นชัดๆก่อนว่ามันใช่หรือไม่ ว่าทำไม ความรักจึงทำ
ให้เราทุกข์ได้ เปิดใจให้กว้างเหมือนท้องฟ้าปลดภาระให้เบาเหมือนปุยเมฆ คือให้มี
อิสระ มีเสรี เมื่อมีอิสระและเสรีแล้วจะเหงาวังเวงมั๊ย เรายังไม่ได้ตัดโลกปลีกวิเวก
เรายังอยู่กับผู้อื่นอยู่ แต่มีภราดร มีความเป็นมิตร รักสันติ พูดง่ายๆคือกำหนดใจเรา
ให้มีความสุข จะมีความสุขได้ก็ต้องมี อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพและสันติภาพครับ

มาดูสิว่าใช่หรือไม่
อิสระภาพมีความสุข ความรักไม่อิสรภาพและไม่มีความสุข
เสรีภาพมีความสุข ความรักไม่มีเสรีภาพและไม่มีความสุข
ภราดรภาพมีความสุข ความรักไม่มีภราดรภาพและไม่มีความสุข
มิตรภาพมีความสุข ความรักไม่มีมิตรภาพย่อมไม่มีความสุข
สันติภาพมีความสุข ความรักไม่มีสันติภาพย่อมไม่มีความสุข
หากความรักไม่มีความสุข แสดงว่ามันเป็นเหตุแห่งทุกข์และเป็นทุกข์ในตัวมันเอง

ถามว่าแล้วทำไมผู้อื่นจึงดูเหมือนมีความสุขอย่างล้นเหลือเมื่อมีรัก จริงแล้วไม่ใช่ครับ
ความรักเป็นเพียงกิเลสมาล่อตัญหาในตัวเรา เมื่อปลดเปลื้องตอบสนองมันได้ ก็ดูผ่อน
คลายเหมือนมีสุข แต่มันไม่ยั้งยืน มันตอบสนองตนเองได้ครั้งต่อครั้ง แบบชั่วคราว
เพียงแต่จะต่อเนื่องยาวนานแค่ไหนเอง

มนุษย์ในโลกนี้อยู่ได้ด้วยกามคุณ sensuous. เอามาใช้คู่กับหรือทดแทนความรักที่เป็นทุกข์ครับ
กามคุณ sensuous.
คือการ ให้เขาผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองต้องการ
ตอบสนองเขาผู้อื่นในสิ่งที่ตนเองปรารถนา

อันนี้ผมประกาศขึ้นมาเอง หลังจากผมค้นพบความจริงแห่งชีวิต wisdomlives.ครับ

Three legs ลองเอาไปพิจารณาดู หากใกล้เคียงและไม่ยากเกินไป ผมแนะนำให้ปฏิบัติ
ทันทีโดยตนเองตามข้อ 1 ก่อน เมื่อสำเร็จแล้ว ค่อยปฏิบัติแก้ไขข้อ 2

ย้ำอีกครั้งนะครับ หากไม่อยากจะทุกข์เพราะความรัก ก็ต้องยุติความรัก ทั้งในจินตนาการและ
วิถีดำเนินคดีรัก หากว่าจะขาดรักไม่ได้ จะแสวงหารักจริงได้ที่ไหน ไม่ต้องหรอกครับ เหนื่อยซะเปล่า
งั้นก็กำหนดรูปแบบรักของเราเองซะสิ กำหนดอย่างไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง เริ่มจากไหน

ก็เอา อธิปัตย์ 5 ที่ผมเคยแนะนำว่ามันคือแก่นแท้ประชาธิปไตยนั่นแหละ มาประยุกต์ย่อส่วน
ลงในใจเรา คือ ตนเองต้องมี อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพและสันติภาพ กำหนด 5
อย่างนี่ก่อน หลังจากนั้น เมื่อเราเป็นอย่างนั้นแล้ว กิเลสความรักก็จะเบาลง การตอบสนองตัญหารัก
ก็จะเบาลง เมื่อเข้าสู่และสมสู่ในหลักของกามคุณ เราก็จะรู้สึกว่า มันเป็นกามคุณที่มีอิสระดี เป็น
กามคุณที่มีเสรีชอบ เป็นกามคุณที่มีภราดรภาพมีความเท่าเทียมแบ่งปันเสมือนพี่น้อง เป็นกามคุณ
ที่มีมิตรภาพ คือยินดีด้วยกันตลอดลำนำแห่งห้วงสัมพันธ์ เป็นกามคุณที่มีสันติภาพคือไม่ข่มเหงน้ำใจกัน

กามคุณที่ผมพูดถึงไม่ได้เพียงว่าการเสพเมถุนในกามอารมณ์หรือเพศสัมพันธ์กามสังขารนะครับ
หมายถึงการเสพความรักความชอบหรือตอบสนองอะไรก็ได้ของมนุษย์ด้วยประสาททั้งหกด้วยกันและกันครับ

หาก three legs ไม่จัดการเรื่องนี้ตามที่ตนปรารถนาได้ เราเองจะต้องเป็นทาสรัก ทาสคือบุคคล
ที่ขาดสิ้นซึ่งเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ เพราะตกอยู่ภายใต้อำนาจอื่น ผู้อื่นครอบงำ ทาสใจก็เป็น
ทาสผ่านความรักเป็นกิเลสต่อล่อใจทีก่อร่างขึ้นโดยตัญหาความอยากครับ คนเราต้องมีความดี ความงาม
และความจริงเป็นเจ้าเรือนชีวิตครับ หากเราเป็นทาส เราก็ไม่สามารถแสดงออกซึ่งความดีได้ แสดงความงาม
โดยศิลปธรรมชาติแห่งชีวิตไม่ได้ และเราก็ไม่สามารถแสดงออกหรืออยู่ร่วมกับความจริงแห่งชีวิตได้ครับ
สุดท้ายชีวิตเราจะเศร้า วิญญาณจะหมอง ไม่เบิกบาน อมทุกข์ไปชาติหน้าอีก เราจะรอให้ถึงชาติหน้าทำไม
ก็เป็นสุขให้ได้ในชาตินี้ตอนนี้เลย สลัดความเป็นทาสแห่งความรักก่อนเลย ดีดมันออกไป ทำทุกอย่างด้วยตัวเรา
ไม่ต้องไปรบกวนหลวงตาบัว ไม่ต้องไปแงะหาท่านพุทธทาส ไม่ต้องไปแง้มฝาโลงอาจารย์ปัญญา
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าไปวัดสวนแก้วนะ :lol: :lol: :lol: ขอสักหน่อยแต่สักกลางหลังหลวงพี่ซะเลย ฉึกๆๆๆ
Last edited by halfmoon on Sat Mar 14, 2009 9:09 pm, edited 1 time in total.
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Argus » Sat Mar 14, 2009 12:01 am

แย่งงานผมซะแล้ว

ตกงานเลย :( :( :(
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Augustine » Sat Mar 14, 2009 1:12 am

ผมน่ารัก ขี้เล่น เป็นกันเอง รูปหล่อ ใจดี และ ..... มีเวลาให้ครับ หลังไมค์ครับ :roll:
User avatar
Augustine
 
Posts: 201
Joined: Mon Oct 13, 2008 6:54 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby 1ktip » Sat Mar 14, 2009 2:33 am

กราบนมัสการท่านมหาผ่าจันทร์ :)

ฟังท่านเทศน์แล้ว ซาบซึ้งใจนัก อยากชวนน้องเหงา น้อง Augustine ออกอุปสมบทหมู่ เหลือเกิน :cry:

เสียดายที่กระผมดันเป็นคริสต์ซะนี่ :lol:

ว่าแต่ ทำไมมุ่งประเด็นไปที่น้องเค้าเป็นอัญจารีกันหมดล่ะเนี่ย :shock:

ตัวน้องสามขาผมยังไม่ฟันธง เพราะเพื่อนผู้หญิงที่คบหาสนิทกันเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากแบบเพื่อนจริงๆ มันก็มีเยอะ

แต่เพื่อนน้องสามขาน่าจะมีแนวโน้มนะครับ เหมือนเค้าพยายามเรียกร้องความสนใจ อยากให้คุณเอาใจใส่ความรู้สึกเขา

เวลาที่น้องสามขาไม่ได้ทำอย่างที่เค้าคาดหวัง เค้าก็จะออกอาการหงุดหงิดใส่ อาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว

อันนี้ต้องเปิดใจคุยกับเค้าดู ให้เค้าอธิบายเหตุผลได้ไหม ทำไมเค้าถึงมีพฤติกรรมแบบที่เป็นอยู่

เพื่อเข้าให้ถึงแก่นของปัญหา ให้เค้าแสดงความรู้สึกลึกๆ ออกมา ไม่ใช่การแสดงออกที่เห็นแค่ภายนอก

ถ้าเค้าไม่มีเหตุผลที่ดี ตัวตนของเค้าเป็นแค่ความต้องการที่เห็นแก่ตัว คุณก็อาจจะต้องทำใจยอมรับ

หรือปรับลดระดับความสัมพันธ์ลง แต่ถ้าเค้าให้เหตุผลได้ ในสิ่งที่เค้าเป็นและสิ่งที่เค้าทำ

คุณก็ต้องถามตัวเองว่าคุณยอมรับเหตุผลของเขาได้หรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหานั้น

ก็ต้องปรึกษากัน ถ้าเค้ายอมเปิดใจแล้ว ปัญหาน่าจะมีทางออกที่ชัดเจนขึ้น
User avatar
1ktip
Global Moderator
 
Posts: 3919
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:20 am

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby ScaRECroW » Sat Mar 14, 2009 2:56 am

คนเป็นเพื่อนกัน สิ่งที่เป็นพื้นฐานเบื้องต้นคือ ต้องเอาใจใส่ดูแลกันตามสมควร give and take ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำไม่ได้ อีกฝ่ายก็ควรเลิกดูหมิ่นตัวเอง
הִנֵּה מַה טוֹב וּמַה נָּעִים שֶׁבֶת אָחִים גַּם יַחַד
Hine (y)ma tov u’manayim Shevet akh-im gam ya-khad
How good and pleasant it is when brothers live together in harmony.

Just give 'em enough rope and they will hang themselve.
User avatar
ScaRECroW
 
Posts: 493
Joined: Tue Dec 30, 2008 1:58 am

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Sat Mar 14, 2009 3:19 pm

1ktip wrote:กราบนมัสการท่านมหาผ่าจันทร์ :)

ฟังท่านเทศน์แล้ว ซาบซึ้งใจนัก อยากชวนน้องเหงา น้อง Augustine ออกอุปสมบทหมู่ เหลือเกิน :cry:

เสียดายที่กระผมดันเป็นคริสต์ซะนี่ :lol:

ว่าแต่ ทำไมมุ่งประเด็นไปที่น้องเค้าเป็นอัญจารีกันหมดล่ะเนี่ย :shock:

ตัวน้องสามขาผมยังไม่ฟันธง เพราะเพื่อนผู้หญิงที่คบหาสนิทกันเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากแบบเพื่อนจริงๆ มันก็มีเยอะ

แต่เพื่อนน้องสามขาน่าจะมีแนวโน้มนะครับ เหมือนเค้าพยายามเรียกร้องความสนใจ อยากให้คุณเอาใจใส่ความรู้สึกเขา

เวลาที่น้องสามขาไม่ได้ทำอย่างที่เค้าคาดหวัง เค้าก็จะออกอาการหงุดหงิดใส่ อาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว

อันนี้ต้องเปิดใจคุยกับเค้าดู ให้เค้าอธิบายเหตุผลได้ไหม ทำไมเค้าถึงมีพฤติกรรมแบบที่เป็นอยู่

เพื่อเข้าให้ถึงแก่นของปัญหา ให้เค้าแสดงความรู้สึกลึกๆ ออกมา ไม่ใช่การแสดงออกที่เห็นแค่ภายนอก

ถ้าเค้าไม่มีเหตุผลที่ดี ตัวตนของเค้าเป็นแค่ความต้องการที่เห็นแก่ตัว คุณก็อาจจะต้องทำใจยอมรับ

หรือปรับลดระดับความสัมพันธ์ลง แต่ถ้าเค้าให้เหตุผลได้ ในสิ่งที่เค้าเป็นและสิ่งที่เค้าทำ

คุณก็ต้องถามตัวเองว่าคุณยอมรับเหตุผลของเขาได้หรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหานั้น

ก็ต้องปรึกษากัน ถ้าเค้ายอมเปิดใจแล้ว ปัญหาน่าจะมีทางออกที่ชัดเจนขึ้น
ScaRECroW wrote:คนเป็นเพื่อนกัน สิ่งที่เป็นพื้นฐานเบื้องต้นคือ ต้องเอาใจใส่ดูแลกันตามสมควร give and take ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำไม่ได้ อีกฝ่ายก็ควรเลิกดูหมิ่นตัวเอง

ขอบคุณนะคะ ที่เข้าใจ ดิฉันไมใช่ อัญจารีค่ะ แม้ไม่ปราถนาผู้ชายแต่ ก็ไม่ได้รักหญิง ไม่มีความใฝ่ฝันในเรื่องรักใคร่ เราเป็นคู่ทุกข์คู่ยากดั่งเข้าใจล่ะค่ะ กับปัญหา ก็คุยกันหลายครั้ง แต่เดี๋ยวเขาก็กลับมาเป็นอีก เคยคิดว่า พอหันหลังให้ ทุกอย่างก็จะจบ แต่เขามีบุญคุณกับเรามาก เคยช่วยเหลือ ครอบครัวเราตอนลำบาก เลย อยากดูแลเขา มอบสิ่งดีๆให้กับเขา อย่างเคียงข้างเขาแม้ว่าเราจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้ เขาเองก็มีคนมาจีบเยอะ เป็นคนเจ้าเสน่ห์ถ้าเขาไม่ชอบใครเขาก็หักอกดื้อๆ ซะงั้น แต่วิธีที่เขาใช้กับเรา มันคล้ายกับวิธีที่เขาใช้กับผู้ชายเหล่านั้น เราเองก็อึดอัด บางครั้งเหมือนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนเขา ไม่คิดว่าเรื่องเล็กๆไม่น่ามาโกรธเขาก็โกรธ เคยหยุดมาพักหนึ่ง แต่มาคุยกันตอนมือถือเราเสีย เขาก็เอา มาให้ จริงๆไม่อยากได้ เพราะตอนไม่ใช้มือถือรู้สึกสบายเป็นที่สุด แต่เกรงใจ แล้วเราก็คุยกันเรื่องนั้น เขาเองก็บอกว่าก็ไม่รู้ว่าทำไม ถึงขี้โมโห แต่เขาบอกเราก็เห็นแก่ตัว เย็นชา จริงๆไอ้เรื่องเย็นชา เราคิดว่าเพราะ ชีวิตเราต้องดูแลใครมากมายเลยมีเวลาให้เขาน้อย เช่น เราต้องดูแลน้องๆ พ่อแม่ หลานๆ อยากให้เวลาทุกคน เท่าๆกัน เรื่องนี้ บอกตั้งกี่รอบเขาก็ไม่รู้จักจำ หาว่าทีเขาให้เวลาเราเยอะแยะ ก็เขาเป็นครอบครัวเล็ก เราครอบครัวใหญ่ เราก็คบกันชนิด อย่างทุลักทุเล เรื่องเที่ยวอีก เราไม่อยากกินเหล้า ไม่อยากเมา แต่เมื่อก่อนเคยเมากันประจำ แต่พอโตขึ้นความรับผิดชอบมากขึ้น เราก็ดื่มน้อยจนไม่ดื่ม ก็โดนว่า ค่อนแคะ เปลี่ยนไป (ตูจะบ้า)ทำตัวเหินห่าง จริงแล้วก็พยายามอธิบายว่า ที่ไม่อยากเมาเพราะ มีอย่างอื่นต้องทำ มันไม่มีประโยชน์ เมาแล้วก็ทุกข์ แต่สำหรับเขามันคือข้ออ้าง ขนาดวันพระเราขอเขาก็หาว่าไร้สาระ เหล้า ไม่ได้ทำจากเนื้อสัตว์ซะหน่อย ว่าไปนั่น แต่ความงี่เง่าของเขามันเป็นข้อเสีย แต่ข้อดีของเขามันก็เยอะ เช่น เมื่อก่อน เขาจะอยู่เคียงข้างเรา เป็นคนขยัน ประหยัด นิสัยดี แต่เดี๋ยวนี้เขาก็เปลี่ยนไปนะ เช่น พูดจาหยาบคาย ชอบด่าอภิสิทธ์ หาว่าคนใทยโง่ ชอบนินทาราชวงค์ ทำให้เราคิดมาก แต่เราไม่เคยโกรธ นั่นเพราะ เพื่อน เขาคือเพื่อน อะไรที่เป็นเขาเรารับได้ แต่ จริงเราก็รู้ เราก็มีข้อเสีย เช่น ชอบไปสาย โดยไม่ตั้งใจ ขี้ลืม โกหกไม่เก่ง พูดตรงเกินไป และ ไม่รู้สิเราว่าเรารู้ตัวเองนะ มันทำให้บางครั้ง มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เวลามีปัญหา เลยเฮิร์ธ อ้อ อีกอย่าง เราโง่ แบบ โง่จริงๆ ซื่อ มาก จนเดาใจใครไม่เป็น เวลามีปัญหา เลย อยากหนี
อันสุดท้าย ล่าสุดเราจะเดินทางด้วยกัน ขอวีซ่าเรียบร้อยแล้ว แต่มามีปัญหาซะก่อน อยากรู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นจะทำยังใง จะปฎิเสธ แล้วยกเลิก ดีไหม หรือ ปล่อยให้ทุกอย่างไว้เหมือนเดิม กลับมาค่อยว่ากันไหม่ หรือยังไง รบกวนด้วยนะคะ
Last edited by Three Legs on Sat Mar 14, 2009 3:32 pm, edited 1 time in total.
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Sat Mar 14, 2009 3:26 pm

halfmoon wrote:Options Upload attachment

ขอบคุณนะคะสำหรับคำแนะนำ เอ่อ ไม่ใช่เรื่องรักใคร่ค่ะ แต่เป็นรัก แบบ สายเลือดเดียวกัน ไม่เคยปราถนาอะไร นอกจากอยากให้เขามีชีวิตที่เป็นสุข ค่ะ แต่มีประโยชน์มากๆเลยนะคะ
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby ดวงจำปา » Sat Mar 14, 2009 4:58 pm

....แล้วมันก็จะผ่านพ้นไป.......

เชื่อว่าเหตุการณ์เช่นนี้... คงเกิดขึ้นกับคุณและเพื่อนของคุณบ่อย ๆ .....

ไม่แน่นะ.... เพื่อนคุณก็อาจจะไปขอคำปรึกษากับใครเหมือนกันว่า ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้ ๆ .....

คุณลองสมมุติตัวเองเป็นผู้ดูนะ.....ดูละครชีวิตที่คุณและเพื่อนคุณเป็นผู้เล่น.... ดูเฉย ๆ นะ...... ไม่ต้องอินไปกับตัวละครนะ

ในฐานะคนดู...คุณจะเห็นตัวตนของตัวละครทั้งสองคน และเรื่องราวที่เกิดขึ้นของตัวละคร .... แล้วทีนี้ คุณก็เขียนตอนจบของละครเรื่องนี้ที่คุณต้องการให้เป็นด้วยตัวของคุณเอง ว่าจะให้จบแบบทุกข์ หรือสุข ...

คำตอบของเรื่องนี้ว่าจะให้จบอย่างไร มีอยู่ในใจของคุณแล้ว เพียงแต่ตอนนี้คุณต้องการคำแนะนำของใครสักคนที่เผอิญจะมาสนับสนุนความคิดนั้น

ถ้ามันไม่สามารถแก้ไขได้..... ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกาลเวลาไปเถอะ...

.......แล้วมันก็จะผ่านพ้นไป....
อำนาจใดในโลกหล้า ฤาจะหาญท้าอำนาจธรรม
User avatar
ดวงจำปา
 
Posts: 268
Joined: Thu Jan 01, 2009 10:19 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby 1ktip » Sat Mar 14, 2009 7:57 pm

เท่าที่บอกมา ผมเดาว่าเขาต้องการความเอาใจใส่จากคุณมากขึ้น อยากให้คุณมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตเขามากขึ้น
แต่คุณให้เขาได้เท่าที่คุณให้ได้ ทำให้เขาน้อยใจ และแสดงพฤติกรรมประชดออกมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ

คนเราก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณทั้งสองคนต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
ถ้ายังยึดติดกับภาพเก่าๆ ที่เคยคบกันมา มันจะทำให้มองตัวตนในปัจจุบันได้ไม่ชัดเจน
ความเปลี่ยนแปลงในตัวเขา ทำให้คุณเริ่มมองเขาเปลี่ยนไปจากเดิม หรือเขาเองก็อาจจะมองว่าคุณเปลี่ยนไปเหมือนกัน
ตัวเขาที่คุณเคยรู้จัก และความผูกพันธ์ที่เคยมี มันทำให้คุณตัดใจทิ้งเขาลำบาก

อย่าหนีปัญหาเลยครับ ถ้าเพื่อนคนนี้คือคนที่เราเคยใส่ใจ อย่างน้อยๆ สิ่งที่เรามีให้ได้ คือความจริงใจในความสัมพันธ์
คุณต้องขีดเส้นความสัมพันธ์ใหม่ให้ชัดเจน แค่ไหนที่เราให้ได้ แค่ไหนที่เราควรใส่ใจ
ความปรารถานาดีเราก็ยังมีให้เขาได้ แต่อย่าคาดหวังสูงเกินไป ทั้งผู้ให้และผู้รับ
ไม่ใช่เรื่องของการเห็นแก่ตัว แต่เราต้องดูแลหัวใจตัวเองเหมือนกัน อธิบายให้เขาเข้าใจถึงเหตุผลของเรา

ถ้าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเรา แต่ถ้าเราอึดอัดที่ต้องเปลี่ยนแปลง
คุณก็ต้องถามตัวคุณเอง เขามีค่ามากพอขนาดนั้นไหม? คุณอยากให้เขายืนอยู่ตรงไหนในชีวิต?
ถ้าการยืนใกล้กันเหมือนที่ผ่านๆ มามันทำให้อึดอัด ก็ลองถอยห่างดูสักนิด
เปิดโอกาสให้คุณทั้งคู่ได้ทบทวนความสัมพันธ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้น มองสิ่งรอบตัวให้กว้าง
ทางเดินของชีวิตมันอาจจะมีอีกหลายเส้นทาง ถ้าวันนี้เราไม่บีบให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปถึงจุดอับ
วันข้างหน้าอาจพบทางแยกให้เรากลับมาเดินด้วยกันได้สบายตัวกว่าเดิม

ขอให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดีครับ

ปล.เรื่องการเดินทาง ก็ชั่งน้ำหนักดู อารมณ์คุณทั้งคู่อยู่ในสภาพไหน การไปหรือไม่ไปจะส่งผลเช่นไร?
การใช้เวลาอยู่ด้วยกันอาจจะเร่งให้ปัญหาถึงจุดระเบิดเร็วขึ้น หรืออาจเป็นการปรับความเข้าใจก็ได้
User avatar
1ktip
Global Moderator
 
Posts: 3919
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:20 am

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby halfmoon » Sat Mar 14, 2009 9:40 pm

เพิ่มเติม

ผมไม่ได้หมายความว่า three legs เป็นอัญจารี นะครับ ผมหมายถึงการมีความรักความผูกพันซึ่งกันและกัน
กามคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่าร่วมเสพสัมพันธ์อารมณ์ทางเพศ แต่หมายถึงการตอบสนองของความรู้สึกของ
คนสองคน โดยฝ่ายหนึ่งต้องการและสนองกับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งกันและกัน เป็นลักษณะทดแทนแลกเปลี่ยน
แม้นไม่ถึงขั้นเป็นบุญคุณล้นเหลือต่อกัน อย่างเช่น แม่เราแก่ๆเดินไปตักบาตรที่หน้าปากซอยคนเดียวทุกวัน
ต่อมามีคนๆนึงไม่จำกัดสถานะเพศ เดินมารับมาส่งทุกวัน บางวันก็ฝากดอกไม้มาให้ไหว้พระที่บ้าน บางวันก็
แบ่งขนมให้ บางวันก็ไม่ให้อะไรเลย แต่มาส่งถึงบ้านเกือบทุกวัน วันไหนไม่ได้มาส่งตอนเย็นก็เดินมาถามว่า
กลับมาถึงตอนไหน เหนื่อยมั๊ย เราเองก็ได้แต่ยิ้มให้เขาคนนั้นทุกวัน วันไหนไม่เห็นหน้าเราก็ถามแม่เราว่าวัน
นี้เขาหายไปไหน ความผูกพันที่มีระยะห่างโดยมีแม่ขวางกลางนี้ไว้อยู่ ก็ยังถือว่าเป็นกามคุณครับ หากวันไหน
เรายิ้มให้เขา แต่เขาคนนั้นไม่ยิ้มตอบ เราก็ต้องถามแม่เราว่า เขาเป็นอะไร ทำไมไม่ยิ้มตอบ หากวันไหนเรา
รีบตื้นแต่เช้าอย่างเสนอหน้าไปยิ้มให้เขา เพียงแค่อยากให้เขาดูแลแม่ตนเองอย่างเคยทกวัน หากวันนั้นเรา
บอกว่า ช่วยดูและแม่ด้วยนะค่ะ รบกวน หากเขาตอบมาว่า แม่ใครก็ดูและเอาเองสิ จะกวนชาวบ้านทำไม เรา
ก็จะรู้สึกเสียใจ ห่อเหี่ยว หน้าแตก โกรธ อกหัก สารพัดจะรู้สึก นี้ไงครับคำว่ากามคุณ หากมันแตกหักแล้ว
เป็นไง มันไม่ใช่บุณคุณใหญ่โตมากมายอะไรเลย แค่เพียงความรู้สึกที่ยินดี พึงพากัน ก็เป็นกามคุณครับ

คำว่ากาม เราเคยชินที่จะเข้าใจว่า การร่วมรักทางเพศ ตามที่เราฟังเทศน์ศีลห้ามาครับ แต่ความหมายจริง
มันไม่ใช่แค่นั้นครับ กามา เป็นการรูปแบบวิธีการตอบสนองตัญหาในตัวเราตามกิเลสล่อใจครับ เหมือนว่า
กิจกามนี่ มันอยู่ตรงกลางระหว่างกิเลสล่อใจ กับความอยากของเราคือตัญหา พูดง่ายๆก็คือกามเป็นขบวน
การและเครื่องมือตอบสนองตัญหาในแต่ละกิเลสผ่านประสาททั้งหก เปรียบง่ายๆให้เข้าใจ หากน้ำหวานใน
แก้วคือกิเลสสิ่งล่อใจเรา ทำให้เราเกิดตัญหาคืออยากิน หลอดดูดก็คือเครื่องมือของกามก็คืออาการดูดซด
ดื่มกระเดือกของเรานั่นเอง เราจะค่อยปฏิบัติกามกิจยังไง แบบใช้หลอดดูด ค่อยเอาปากงาบยกดื่ม หรือ
ยกซดกระเดือกเพื่อสนองตอบระบบประสาททั้งหกครับ การสัมผัสลูบไล้เล้าโลมดมกลิ่มแลบเลียเงี่ยหูฟัง
แหกตาดูและจิตปรารถนาอันนี้แหละเรียกว่ากาม ต้องมีสัมผัสที่หกคือจิตด้วย หากตอบสนองครบหกสัมผัส
เรียกว่าตอบสนองตัญหาได้ครบถ้วนสมบูรณ์ครับ หากจิตไม่ต้องการกามนั้นก็จะเป็นรูปแบบวิธีตอบสนอง
สัมผัสเพียงห้าอย่าง คือตอบสนองเพียงสัญชาติญาณเท่านั้นครับ สัญชาติญาณ เป็นหน่วยความจำที่แฝงมา
กับอนุพันธุ์ในแต่ละชีวิตตามที่เราชอบเรียกว่ากรรมพันธุ์ เป็นกรรมของเผ่าพันธุ์ ส่วนจิตวิญาณมันก็อีกส่วนหนึ่ง
เข้าไปอยู่ในเผ่าพันธุ์ไหนก็ได้อย่างเช่นจิตวิญญาณของหมา มาเกิดอยู่ในเผ่าพันธุ์ของคน เราก็อาจจะมอง
เห็นนิสัยเขาแสดงออกแบบหมาๆ หรืออีกอย่างเช่นสัญชาติญาณการสืบพันธุ์สิ่งมีชีวิตวิตทั้งหมดก็ย่อมจะสืบพันธุ์
กันเองในเผ่าพันธุ์ เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ โดยบางครั้งไม่มีจิตเข้ามาเกี่ยวครับ คือผสมพันธุ์ตามระบบประสาทในสัตว์
ก่อนเสร็จก็กระตุก เสียวซ่าน นี่ก็เป็นรูปแบบกามแบบหนึ่ง หากมองมาใกล้ๆหน่อย อย่างคนเป็นต้น บางทีก็
ผสมพันธุ์กันโดยที่ไม่มีจิตมาเกี่ยวข้อง เป็นเพียงสัญชาติญาณตอบสนองประสาทแค่ห้า ไม่ถึงหกครับ

ดั่งนั้น กามคุณก็หากมองเฉพาะอากัปกิริยาของมันก็คือขบวนการและวิธีสนองตัญหานั่นเอง ไม่ใช่แค่การร่วมเพศครับ!


กามคุณหากตอบสนองได้เพียงประสาทสัมผัสห้าอย่าง มันจะตอบสนองได้เพียงระดับสัญชาติญาณ
แต่หากมันตอบสนองประสาทสัมผัสทั้งห้าบวกกับจิตสัมผัสอีกเป็นหก มันก็เป็นการตอบสนองตัญหาได้ครบถ้วนครับ
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Three Legs » Sat Mar 14, 2009 11:28 pm

1ktip wrote:เท่าที่บอกมา ผมเดาว่าเขาต้องการความเอาใจใส่จากคุณมากขึ้น อยากให้คุณมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตเขามากขึ้น
แต่คุณให้เขาได้เท่าที่คุณให้ได้ ทำให้เขาน้อยใจ และแสดงพฤติกรรมประชดออกมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ

คนเราก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คุณทั้งสองคนต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
ถ้ายังยึดติดกับภาพเก่าๆ ที่เคยคบกันมา มันจะทำให้มองตัวตนในปัจจุบันได้ไม่ชัดเจน
ความเปลี่ยนแปลงในตัวเขา ทำให้คุณเริ่มมองเขาเปลี่ยนไปจากเดิม หรือเขาเองก็อาจจะมองว่าคุณเปลี่ยนไปเหมือนกัน
ตัวเขาที่คุณเคยรู้จัก และความผูกพันธ์ที่เคยมี มันทำให้คุณตัดใจทิ้งเขาลำบาก

อย่าหนีปัญหาเลยครับ ถ้าเพื่อนคนนี้คือคนที่เราเคยใส่ใจ อย่างน้อยๆ สิ่งที่เรามีให้ได้ คือความจริงใจในความสัมพันธ์
คุณต้องขีดเส้นความสัมพันธ์ใหม่ให้ชัดเจน แค่ไหนที่เราให้ได้ แค่ไหนที่เราควรใส่ใจ
ความปรารถานาดีเราก็ยังมีให้เขาได้ แต่อย่าคาดหวังสูงเกินไป ทั้งผู้ให้และผู้รับ
ไม่ใช่เรื่องของการเห็นแก่ตัว แต่เราต้องดูแลหัวใจตัวเองเหมือนกัน อธิบายให้เขาเข้าใจถึงเหตุผลของเรา

ถ้าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเรา แต่ถ้าเราอึดอัดที่ต้องเปลี่ยนแปลง
คุณก็ต้องถามตัวคุณเอง เขามีค่ามากพอขนาดนั้นไหม? คุณอยากให้เขายืนอยู่ตรงไหนในชีวิต?
ถ้าการยืนใกล้กันเหมือนที่ผ่านๆ มามันทำให้อึดอัด ก็ลองถอยห่างดูสักนิด
เปิดโอกาสให้คุณทั้งคู่ได้ทบทวนความสัมพันธ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้น มองสิ่งรอบตัวให้กว้าง
ทางเดินของชีวิตมันอาจจะมีอีกหลายเส้นทาง ถ้าวันนี้เราไม่บีบให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปถึงจุดอับ
วันข้างหน้าอาจพบทางแยกให้เรากลับมาเดินด้วยกันได้สบายตัวกว่าเดิม

ขอให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดีครับ

ปล.เรื่องการเดินทาง ก็ชั่งน้ำหนักดู อารมณ์คุณทั้งคู่อยู่ในสภาพไหน การไปหรือไม่ไปจะส่งผลเช่นไร?
การใช้เวลาอยู่ด้วยกันอาจจะเร่งให้ปัญหาถึงจุดระเบิดเร็วขึ้น หรืออาจเป็นการปรับความเข้าใจก็ได้
ขอบคุณคุณ อี้ด มากๆนะคะ
halfmoon wrote:เพิ่มเติม

ผมไม่ได้หมายความว่า three legs เป็นอัญจารี นะครับ ผมหมายถึงการมีความรักความผูกพันซึ่งกันและกัน
กามคุณ ก็ไม่ได้หมายความว่าร่วมเสพสัมพันธ์อารมณ์ทางเพศ แต่หมายถึงการตอบสนองของความรู้สึกของ
คนสองคน โดยฝ่ายหนึ่งต้องการและสนองกับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งกันและกัน เป็นลักษณะทดแทนแลกเปลี่ยน
แม้นไม่ถึงขั้นเป็นบุญคุณล้นเหลือต่อกัน อย่างเช่น แม่เราแก่ๆเดินไปตักบาตรที่หน้าปากซอยคนเดียวทุกวัน
ต่อมามีคนๆนึงไม่จำกัดสถานะเพศ เดินมารับมาส่งทุกวัน บางวันก็ฝากดอกไม้มาให้ไหว้พระที่บ้าน บางวันก็
แบ่งขนมให้ บางวันก็ไม่ให้อะไรเลย แต่มาส่งถึงบ้านเกือบทุกวัน วันไหนไม่ได้มาส่งตอนเย็นก็เดินมาถามว่า
กลับมาถึงตอนไหน เหนื่อยมั๊ย เราเองก็ได้แต่ยิ้มให้เขาคนนั้นทุกวัน วันไหนไม่เห็นหน้าเราก็ถามแม่เราว่าวัน
นี้เขาหายไปไหน ความผูกพันที่มีระยะห่างโดยมีแม่ขวางกลางนี้ไว้อยู่ ก็ยังถือว่าเป็นกามคุณครับ หากวันไหน
เรายิ้มให้เขา แต่เขาคนนั้นไม่ยิ้มตอบ เราก็ต้องถามแม่เราว่า เขาเป็นอะไร ทำไมไม่ยิ้มตอบ หากวันไหนเรา
รีบตื้นแต่เช้าอย่างเสนอหน้าไปยิ้มให้เขา เพียงแค่อยากให้เขาดูแลแม่ตนเองอย่างเคยทกวัน หากวันนั้นเรา
บอกว่า ช่วยดูและแม่ด้วยนะค่ะ รบกวน หากเขาตอบมาว่า แม่ใครก็ดูและเอาเองสิ จะกวนชาวบ้านทำไม เรา
ก็จะรู้สึกเสียใจ ห่อเหี่ยว หน้าแตก โกรธ อกหัก สารพัดจะรู้สึก นี้ไงครับคำว่ากามคุณ หากมันแตกหักแล้ว
เป็นไง มันไม่ใช่บุณคุณใหญ่โตมากมายอะไรเลย แค่เพียงความรู้สึกที่ยินดี พึงพากัน ก็เป็นกามคุณครับ

คำว่ากาม เราเคยชินที่จะเข้าใจว่า การร่วมรักทางเพศ ตามที่เราฟังเทศน์ศีลห้ามาครับ แต่ความหมายจริง
มันไม่ใช่แค่นั้นครับ กามา เป็นการรูปแบบวิธีการตอบสนองตัญหาในตัวเราตามกิเลสล่อใจครับ เหมือนว่า
กิจกามนี่ มันอยู่ตรงกลางระหว่างกิเลสล่อใจ กับความอยากของเราคือตัญหา พูดง่ายๆก็คือกามเป็นขบวน
การและเครื่องมือตอบสนองตัญหาในแต่ละกิเลสผ่านประสาททั้งหก เปรียบง่ายๆให้เข้าใจ หากน้ำหวานใน
แก้วคือกิเลสสิ่งล่อใจเรา ทำให้เราเกิดตัญหาคืออยากิน หลอดดูดก็คือเครื่องมือของกามก็คืออาการดูดซด
ดื่มกระเดือกของเรานั่นเอง เราจะค่อยปฏิบัติกามกิจยังไง แบบใช้หลอดดูด ค่อยเอาปากงาบยกดื่ม หรือ
ยกซดกระเดือกเพื่อสนองตอบระบบประสาททั้งหกครับ การสัมผัสลูบไล้เล้าโลมดมกลิ่มแลบเลียเงี่ยหูฟัง
แหกตาดูและจิตปรารถนาอันนี้แหละเรียกว่ากาม ต้องมีสัมผัสที่หกคือจิตด้วย หากตอบสนองครบหกสัมผัส
เรียกว่าตอบสนองตัญหาได้ครบถ้วนสมบูรณ์ครับ หากจิตไม่ต้องการกามนั้นก็จะเป็นรูปแบบวิธีตอบสนอง
สัมผัสเพียงห้าอย่าง คือตอบสนองเพียงสัญชาติญาณเท่านั้นครับ สัญชาติญาณ เป็นหน่วยความจำที่แฝงมา
กับอนุพันธุ์ในแต่ละชีวิตตามที่เราชอบเรียกว่ากรรมพันธุ์ เป็นกรรมของเผ่าพันธุ์ ส่วนจิตวิญาณมันก็อีกส่วนหนึ่ง
เข้าไปอยู่ในเผ่าพันธุ์ไหนก็ได้อย่างเช่นจิตวิญญาณของหมา มาเกิดอยู่ในเผ่าพันธุ์ของคน เราก็อาจจะมอง
เห็นนิสัยเขาแสดงออกแบบหมาๆ หรืออีกอย่างเช่นสัญชาติญาณการสืบพันธุ์สิ่งมีชีวิตวิตทั้งหมดก็ย่อมจะสืบพันธุ์
กันเองในเผ่าพันธุ์ เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ โดยบางครั้งไม่มีจิตเข้ามาเกี่ยวครับ คือผสมพันธุ์ตามระบบประสาทในสัตว์
ก่อนเสร็จก็กระตุก เสียวซ่าน นี่ก็เป็นรูปแบบกามแบบหนึ่ง หากมองมาใกล้ๆหน่อย อย่างคนเป็นต้น บางทีก็
ผสมพันธุ์กันโดยที่ไม่มีจิตมาเกี่ยวข้อง เป็นเพียงสัญชาติญาณตอบสนองประสาทแค่ห้า ไม่ถึงหกครับ

ดั่งนั้น กามคุณก็หากมองเฉพาะอากัปกิริยาของมันก็คือขบวนการและวิธีสนองตัญหานั่นเอง ไม่ใช่แค่การร่วมเพศครับ!


กามคุณหากตอบสนองได้เพียงประสาทสัมผัสห้าอย่าง มันจะตอบสนองได้เพียงระดับสัญชาติญาณ
แต่หากมันตอบสนองประสาทสัมผัสทั้งห้าบวกกับจิตสัมผัสอีกเป็นหก มันก็เป็นการตอบสนองตัญหาได้ครบถ้วนครับ

ขอบคุณ มากนะคะ ทุกคำแนะนำ ที่มีคุณค่า จะน้อมรับไว้ค่ะ
Hero-อาจจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งและรวดเร็วเสมอไป แต่.......
Hero-เป็นคนที่เข้มแข็งและเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ U R My Hero
User avatar
Three Legs
 
Posts: 282
Joined: Thu Jan 29, 2009 2:52 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby halfmoon » Sun Mar 15, 2009 2:18 am

อยากให้ลอง

โดยไม่ต้องหวังผลเลิศ แค่ลองเพื่อสัมผัสรับรู้ครับ

ลองในวิธีและวิถีง่ายๆ ไม่ต้องเอาแบบเข้าถึงแก่นพุทธรรม เอาแค่ระดับคนธรรมดา โดยอาศัยอธิปัตย์ 5 มาทดลองใช้แบบง่ายๆ ดังนี้ครับ

ลองกำหนดไว้และให้ได้ว่า เรามีสิ่งนี้รึเปล่า เรายังสัมผัสรับรู้มันได้ครบถ้วนรึเปล่า
ลองทำดูในตอนเช้าตื่นนอน ตอนอาบน้ำแปรงฟัน ทานข้าวเช้าหรือรับกาแฟ ก่อนออกจากบ้าน ขณะเดินทางไปที่ทำงานหรือที่ใดๆ ขณะที่
ไปถึงที่ทำงานหรือที่ใดๆ ขณะปฏิบัติงานช่วงเช้าหรือกิจธุระใดๆในตอนช่วงเช้า ตอนพักทานเข้ามื้อเที่ยงแม้ขณะทานข้าว ตอนกลับมาทำงาน
ช่วงบ่ายหรือทำกิจธุระช่วงบ่าย จนเลิกงานหรือเสร็จกิจธุระ ขณะเดินทางกลับบ้าน กลับถึงบ้าน เดินพักผ่อนในบ้าน อาบน้ำ ทานข้าวมื้อเย็น
ดูทีวี เล่นกับคนในบ้าน จนกระทั้งก่อนนอน อ่านหนังสือ แชท หรือตกแต่งบำรุงผิวหน้าผิวพรรณ เอนตัวลงนอน จนหลับ จนกว่าอาจจะฝัน

ให้คิดหรือถามหรือสำรวจหรือจับความรู้สึกของตนเองดังนี้ครับ ว่า (ห้ามนำไปปฏิบัติขณะฝันและในฝันโดยเด็ดขาด เดี๋ยวไฟธาตุหรือสติแตก)

ตอนนี้ ขณะนี้ เราเป็นตัวเป็นจิตของเราเองรึเปล่า เรารู้สึกเป็นอิสระมั๊ย? เป็นไม่เป็นก็เฉยไว้ก่อน(เดี๋ยวไก่ตื่น)
ตอนนี้ ขณะนี้ เราเป็นตัวเป็นจิตของเราเองรึเปล่า เรารู้สึกเป็นเสรีมั๊ย? เป็นไม่เป็นก็เฉยไว้ก่อน(ขอแค่ให้เรารู้สึกตัว)
ตอนนี้ ขณะนี้ เราเป็นตัวเป็นจิตของเราเองรึเปล่า เรารู้สึกเป็นภราดรมั๊ย? มีความเท่าเทียมเสมอภาคดั่งพี่น้องเพื่อร่วมโลกคนอื่นรึเปล่า? เฉยไว้
ตอนนี้ ขณะนี้ เราเป็นตัวเป็นจิตของเราเองรึเปล่า เรารู้สึกเป็นมิตรและมีมิตรมั๊ย? เราเกลียดชังผู้อื่นมั๊ย มีไม่มีก็เฉยไว้(เดี๋ยวจะทะเลาะกับตัวเอง)
ตอนนี้ ขณะนี้ เราเป็นตัวเป็นจิตของเราเองรึเปล่า เรารู้สึกเป็นสันติมั๊ย? เราราวีใครรึ เราข่มขู่ข่มเหงใครรึเปล่า? เป็นไม่เป็นก็เฉยไว้(เดี๋ยวจะโมโห)

ทำอย่างนี้หละครับ สักหนึ่งเดือน รับรู้หยั่งรู้ พยามยามสัมผัส อย่างนี้แหละครับ อย่างเฉยๆซักหนึ่งเดือน โดยที่ไม่ต้องรอผลตอบ หรือผลที่ได้รับ
หากรู้สึกว่ามีอะไรหรือไม่มีอะไร ก็ลองทำอีกซักหนึ่งเดือน เฉยอย่างนั้นหละครับ หากทนไม่ไหว ยังว้าวุ่นอยู่ ก็ลองบังคับให้ตนเองปลดปล่อย
ให้ตนเองมี อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ ได้ไม่ได้ก็เฉย วันแล้ววันเล่า ไม่ได้ก็ช่างมัน ทำไปอย่างนั้นแหละไปเรื่อยๆจนกว่า
จะถึงเดือนที่สาม ทีนี้กลับมาทำแบบเดือนแรก ไม่ต้องบังคับได้ไม่ได้ก็เฉย ทำซ้ำทำซากอย่างนั้นหละครับ จนครบเดือนที่สาม ถ้าไม่สำเร็จหรือว่า
ไม่ได้สัมผัส อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว ไม่ได้ก็กลับไปดำรงชีวิตตามปกติ ธรรมดา ช่างมันเต๊อะ! :D
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ช่วยตอบกระทู้งี่เง่าหน่อยนะคะ

Postby Argus » Thu Mar 19, 2009 11:45 am

6 วันผ่านไป ไว เหมือน โกหก.

จขกท เป็นอย่างไรบ้าง ปัญหาแก้ได้หรือเปล่า?
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Next

Return to ชายคาพักใจ



cron