พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Fri Mar 13, 2009 7:46 am

Bookmarks wrote:ดันก่อน เผื่อคุณจีมีข้อมูลมาเพิ่ม :)


ความจริงไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นสำคัญต้องเพิ่มเติมแล้วครับ
แต่คุณ Bookmarks อุตส่าห์ช่วยดันกระทู้ ผมแถมให้แล้วกัน :D

ตารางแสดงการเบิกจ่ายเงินในแพ็คเกจไอเอ็มเอฟ เฉพาะ-
ส่วนที่นำมาใช้เป็น ทุนสำรองฯ (Standby Arrangement)
มีการเบิกจ่ายทั้งหมด 8 ครั้ง ..


Image
http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlo ... chapter=26

- ครั้งแรก เป็นงวดที่เบิกจ่ายมากที่สุดใน 8 งวด คิดเป็น 45.55% ของเงินทั้งหมดที่เบิกจ่าย
มีการดำเนินการทั้งหมดรวมถึงเบิกจ่ายในสมัยรัฐบาลชวลิต

- ครั้งที่ 2 ดำเนินการเกือบทั้งหมดในสมัยรัฐบาลชวลิต แต่มาลงนามในสมัยรัฐบาลชวน
หลังจาก รัฐบาลชวน เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 11 วัน คิดเป็น 21.21% ของเงินทั้งหมด
ที่มีการเบิกจ่าย

- ครั้งที่ 3-8 ดำเนินการทั้งหมดรวมถึงเบิกจ่ายในสมัยรัฐบาลชวน แม้จะมีถึง 6 งวด
แต่คิดเป็นจำนวนเงิน 33.23% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่มีการเบิกจ่ายเท่านั้น
Last edited by jerasak on Fri Mar 13, 2009 7:54 am, edited 2 times in total.
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Fri Mar 13, 2009 7:49 am

Bookmarks wrote:คุณจีครับ ขออนุญาติ นำข้อมูลบางส่วนของคุณจีไปเผยแพร่นะครับ :)


ตามสบายเลยครับ ที่ผมนำข้อมูลมาลงก็เพื่อให้ช่วยกันเผยแพร่อยู่แล้ว :D
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby Albert Einsteins » Fri Mar 13, 2009 8:55 am

jerasak wrote:
มีข้อมูลที่น่าสนใจคือเงินงวดที่ 2 มีการเบิกจ่ายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2540

*ซึ่งเป็นเวลาหลังจาก ครม.ชวน 2 ได้รับการโปรดเกล้าฯ เพียง 2 สัปดาห์*

เงินงวดที่ 2 นี้มีเงื่อนไขมาก่อนว่าจะขอเบิกจ่ายได้ เมื่อรัฐบาลชวลิตสามารถ
ทำตามเกณฑ์ที่กำหนดใน LOI ฉบับที่ 1 ได้สำเร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน
2540 และเจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟได้เข้ามาตรวจสอบระหว่างวันที่ 27 ต.ค. ถึง
6 พ.ย. 2540 ซึ่งปรากฎว่ารัฐบาลชวลิตได้ทำตามเงื่อนไขครบทุกประการ

แต่บังเอิญว่า พล.อ.ชวลิต เพิ่งประกาศลาออกในวันที่ 4 พ.ย. 2540
ทำให้รัฐบาลชวน 2 ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 14 พ.ย. 2540 ต้องเป็น
ผู้ลงนามใน LOI ฉบับที่ 2 แทน การลงนามมีขึ้นในวันที่ 25 พ.ย. 2540


ซึ่งขณะนั้น นายธารินทร์ เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง รมว.คลัง ได้เพียง 11 วัน :idea:

...

ด้วยเหตุนี้ผมจึงถือว่า การขอเบิกเงินงวดที่ 2 ดำเนินการในรัฐบาลชวลิต
ที่มีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจชื่อ ทักษิณ ชินวัตร


*เพียงแต่มาลงนามทำเรื่องเบิกจ่ายสำเร็จในตอนต้นของรัฐบาลชวน 2
หลังจากรัฐบาลชวลิตพ้นตำแหน่งไปเพียงสิบกว่าวัน*


เรื่องนี้ รัฐบาลชวลิตและคุณทักษิณ ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้
ว่ารัฐบาลชวนเป็นผู้ยืมเงิน เพราะรัฐบาลชวลิตเองก็ได้ดำเนินการตาม-
LOI ฉบับที่ 1 ทุกประการ รับรู้และเต็มใจมาตลอดที่จะเบิกเงินงวดที่ 2


...


ขอนอกเรื่องหน่อย
เอ เรื่องนี้คุ้นๆ เหมือนรถ ดับเพลิง :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
User avatar
Albert Einsteins
 
Posts: 609
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:19 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby mr.k » Fri Mar 13, 2009 12:41 pm

อย่าไปเถียงกันเลยครับ

ยอมรับว่า นช. ทักษิณ เป็นคนคืนเงินกู้ทั้งหมด ให้ IMF จริง

แต่ ชวน เป็น คนหาเงินไว้ให้

ไม่งั้น จะ เอาเงินจากไหนมาคืน

:lol: :lol: :lol:
แผ่นดินมันกำลังอ่อนแอ อ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเรือนใกล้จะพัง คานใกล้จะขาด เสาผุกร่อน เพราะปลวกมอดมันเจาะกินใน ถ้าพวกเราไม่ช่วยกัน วันนึง ถ้ามันต้องเผชิญกับพายุร้าย แม้นแรงเพียงนิด มันก็ไม่แคล้วต้องพังทลายลง- ขุนรองปลัดชู
User avatar
mr.k
 
Posts: 230
Joined: Sat Feb 21, 2009 6:35 am
Location: Bangkok

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby savor » Fri Mar 13, 2009 12:53 pm

"ใน 2 งวดแรกที่มีจำนวนเงินมากที่สุดนั้น ดำเนินการอยู่ในช่วงรัฐบาล
พล.อ.ชวลิตซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจชื่อ ทักษิณ ชินวัตร
แม้เงินงวดที่ 2 จะมาเบิกจ่ายในเดือนแรกๆ ของรัฐบาลชวน 2 ก็ตาม"


ทักษิณจะเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงวดแรกเหรอครับ...

ในเมื่อ LOI ฉบับแรกทำกันเมื่อวันที่ 14 ส.ค.

ส่วนทักษิณรับตำแหน่งรองนายกฯในรัฐบาลจิ๋ววันที่ 15 ส.ค.

แล้วงี้ทักษิณเกี่ยวอะไรด้วยครับ... อย่าบอกนะว่าจะโยงไปเรื่อง ทนง ละครับ :D


แล้วมีอีกเรื่องหนึ่ง

แต่ตอนที่รัฐบาลทักษิณ มารับช่วงต่อจากรัฐบาลชวน+ธารินทร์
ปลายปี 2543 ธปท. มีเงินในมือ 32661 ล้าน USD ยังติดลบ-
สถานะ forward เพียง 2135 ล้าน USD เท่ากับมีทุนสำรองฯ
เพิ่มขึ้นกว่า 21500 ล้าน USD สามารถค้ำประกันค่าเงินบาท
ได้เต็มจำนวน และพร้อมจะจ่ายคืนเงิน IMF ได้เร็วกว่าที่มีการ-
ประเมินไว้ในสมัยรัฐบาลชวลิต+ทักษิณ+ทนง+สมคิด ขณะที่
IMF อนุมัติวงเงิน 17000 ล้าน USD


ที่เพิ่มขึ้นมา 21500 ล้านเนี่ย คุณต้องลบตัวเลขเงินกู้ของ IMF ไปก็คือ 12000 ล้านก่อนไม่ใช่เหรอ...

เท่ากับว่า รบ. ชวน 3 ปีทำให้ทุนสำรองเพิ่มขึ้นได้เพียง 9000 ล้านไม่ใช่เหรอครับ :D

อย่างไรก็ดีผมก็เห็นด้วยแบบคุณ ทุนสำรองไม่ใช่แค่ฝีมือของรัฐบาลอย่างเดียว เพราะช่วงระหว่างรัฐบาลขิงแก่ - สมัคร , สมชาย ทุนสำรองกลับเพิ่มขึ้นมามหาศาลเรียกได้ว่าสูงเป็นประวัติศาสตร์

แต่ผมต้องการจะบอกว่า ทักษิณไม่ได้มารับงานง่ายๆสบายๆอย่างที่คุณบอกมั้งครับ :D
ปราสาทเขาพระวิหารมันก็เหมือนบ้านทรายทอง
เจ้าคุณปู่ เจ้าคุณตาตกลงไว้ว่ามันเป็นของสายพินิจนันท์ แต่สาย สว่างวงศ์ ณ อยุธยา เข้าไปอยู่นานมากจนคิดว่าเป็นของตัวเอง
มันไม่ใช่ มันเป็นของพจมานเขา
เรื่องนี้คนเข้าใจได้ง่ายๆ มีแต่คนโง่ๆ เท่านั้นที่จะไม่เข้าใจ
User avatar
savor
 
Posts: 540
Joined: Wed Jan 07, 2009 1:15 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Fri Mar 13, 2009 9:11 pm

นึกว่าเรื่อง IMF จะจบหมดข้อข้องใจแล้วเสียอีก
ก็ดีครับมีประเด็นใหม่เข้ามาอีกก็จะได้คุยกันต่อ

ดึกๆ จะมาตอบอีกทีนะครับ คุณ savor ถามแบบนี้
ท่าทางจะต้องอธิบายลงรายละเอียดกันอีกยาว
:D
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby Bookmarks » Fri Mar 13, 2009 11:51 pm

ดันก่อน รอคุณจีมา :)
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby Matahari » Sat Mar 14, 2009 5:53 am

savor wrote:ไม่ได้กู้ แต่ก็แทบไม่ได้ใช้หนี้

สรุปแล้ว รบ. ปชป. ตอนนั้นเรียกว่า 3 ปีแห่งความว่างเปล่าก็คงไม่ผิดกระมังครับ...


เอาอีกแล้วหางแดงหน้าโง่ไร้สมอง....ปชป ไม่ได้กู้แต่คนทำให้ต้องกู้คือเหลียมพ่อแก ปชป นะเขาไม่คืน ก็เขาไม่ได้อยู่ต่อทำคืน แต่เขาวางรากฐานด้านเศรษฐกิจ คือหลังจากนั้นประเทศไทยก็ดีขึ้นมาตามลำดับ เหลียมนะไม่ได้ทำอะไรหรอก เขาเรียกว่าชุบมือเปิดเอาหน้าว่า ตูนี้ใช้หนี้ มันจะไม่ใช่หนี้ได้อย่างไร ไม่ใช้ก็โง่ ออกพันธบัตร กู้นอก มาจ่ายแทน ก็ตอนกู้เงินมัน ดอลละ 45 บาท แต่ตอนทักษิณเหลือดอลละ 36 บาท ดบแค่ 3 % ไม่คืนก็โง่ แต่หางแดงกลับไม่หอนว่า แล้วที่เหลี่ยมมันถลุงเงินหมดคลัง พอขายไฟฟ้าไม่ได้ก็ต้องเอาเงินล่วงหน้ารัฐวิสาหกิจมาใช้ ไม่ได้ยินข่าวเหรอว่าเงินไม่มี ลูกจ้างเงินค้าง จะออกพันธก็เต็มพิกัด พอมาถึงรัฐบาลขิงแก่ หม่อมอุยเพื่อนเหลี่ยมที่ช่วยเรื่องที่รัฃดาก็ประจานว่าเหลี่ยมมันหมกหนี้ไม่เอาแสดงในงบประมาณว่ามีหนี้ซุกไว้ มันหลอกควายหางแดงว่า มันเก่ง งบประมาณเกินดุล ที่ปชป ออกมาพุดตลอดว่าทำงบประมาณเกินดุล มันผิดนะเดียวมีปัญหา ก็ไหงตอนนี้ก็เลยมีปัญหาเงินไม่มี สมัยมันคิดจะเอาเงินทุนสำร้องแบงก์ชาติมาใช้ จนในหลวงต้องออกมาว่า ประเทศจะล่มจม ถ้ามันขืนผลาญแบบนี้
***********************************************************
User avatar
Matahari
 
Posts: 2405
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:30 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Sat Mar 14, 2009 9:33 am

savor wrote:
"ใน 2 งวดแรกที่มีจำนวนเงินมากที่สุดนั้น ดำเนินการอยู่ในช่วงรัฐบาล
พล.อ.ชวลิตซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจชื่อ ทักษิณ ชินวัตร
แม้เงินงวดที่ 2 จะมาเบิกจ่ายในเดือนแรกๆ ของรัฐบาลชวน 2 ก็ตาม"


ทักษิณจะเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงวดแรกเหรอครับ...

ในเมื่อ LOI ฉบับแรกทำกันเมื่อวันที่ 14 ส.ค.

ส่วนทักษิณรับตำแหน่งรองนายกฯในรัฐบาลจิ๋ววันที่ 15 ส.ค.

แล้วงี้ทักษิณเกี่ยวอะไรด้วยครับ... อย่าบอกนะว่าจะโยงไปเรื่อง ทนง ละครับ :D


เราคงต้องออกนอกเรื่องไอเอ็มเอฟไปคุยถึงเรื่องการเมืองก่อนนะครับ :D

ในระบบการเมืองไทย ถ้าไม่ใช่ระดับคีย์แมน หรือนายทุนสำคัญของพรรค
ไม่มีทางได้ขึ้นตำแหน่งรองนายกฯ โดยไม่ได้เป็น ส.ส. หรอกครับ
:idea:

...

คุณทักษิณขึ้นตำแหน่งรองนายกฯ ในโควต้าพรรคความหวังใหม่ เนื่องจาก-
มีฐานะเป็นนายทุนพรรค (ถ้านึกไ่ม่ออก บทบาทจะคล้ายๆ คุณประชัยยุคนี้)

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าไทยรักไทยถือกำเนิดจากการก่อตั้งของคุณทักษิณ
บางคนอาจโยงไปว่าพรรคก่อตั้งโดยใช้แกนหลักมาจากพรรคพลังธรรมเดิม
ที่คุณทักษิณเคยเป็นหัวหน้าพรรค

แต่ความจริง ไทยรักไทยคือความหวังใหม่ภาค 2 เหมือนกับที่พลังประชาชน
เป็นไทยรักไทยภาค 2 และเพื่อไทยเป็นพลังประชาชนภาค 2

ฐานเสียงในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานของไทยรักไทย มาจากฐานเสียงเดิม
ของพรรคความหวังใหม่ ซึ่งคุณทักษิณร่วมหัวจมท้ายมาตั้งแต่ก่อนบิ๊กจิ๋ว
จะได้เป็นนายกฯ และมีสถานะสำคัญกับพรรคความหวังใหม่มาโดยตลอด
ไม่ใช่เพิ่งจะมาเกี่ยวข้องเมื่อรับตำแหน่งรองนายกฯ นะครับ

คุณทนงเองก็ไปทำงานมีตำแหน่งสำคัญอยู่ในบริษัทของคุณทักษิณตั้งแต่
ก่อนที่จะได้เป็น รมว.คลัง เรียกได้ว่าเป็นลูกน้องคุณทักษิณมาก่อนนั่นเอง


การกู้เงิน IMF ไม่มีทางที่คุณทักษิณจะไม่รู้เห็นนะครับ เพียงแต่ยังไม่ได้
ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการเท่านั้น เปรียบเทียบก็คงคล้ายๆ คุณเนวิน-
ในยุคปัจจุบันที่ไม่มีตำแหน่งอะไร แต่มี "เพื่อนเนวิน" เป็นรัฐบาล
:lol:

...

และต่อให้คุณทักษิณไม่เคยเกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาลชวลิตมาก่อนจริงๆ
แล้วบังเอิญได้รับตำแหน่ง รองนายกฯ มาอย่างแปลกประหลาดที่สุด :?:

การมารับตำแหน่งรองนายกฯ หลังจากคุณทนงไปเซ็นสัญญากับ IMF
เพียง 1 วัน ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณทักษิณเข้ามาบริหารงานโดย-
รู้เห็นการเบิกจ่ายเงิน IMF ทั้ง 2 งวด เพราะเงินก็มีการเบิกจ่ายหลังจาก
คุณทนงไปเซ็นสัญญา ซึ่งตอนนั้นคุณทักษิณดำรงตำแหน่งรองนายกฯ
ฝ่ายเศรษฐกิจอย่างเต็มตัวแล้ว

ในเมื่อเข้ามารับเงิน IMF งวดแรกไปใช้ตลอดเวลาที่เป็น รองนายกฯ
ถึงไม่ได้เป็นคนเซ็นสัญญา แต่ก็ได้บริหารงานเป็นรัฐบาลโดยมีเงิน
IMF ก้อนแรกหนุนหลัง จึงปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเงิน IMF งวดแรก
คงไม่ได้หรอกนะครับ
:D

...

สืบเนื่องไปจนถึงการเบิกจ่ายเงินงวดที่ 2 ซึ่งรัฐบาลชวลิตจะต้องทำตาม
เงื่อนไข LOI ฉบับที่ 1 ให้สำเร็จในเดือนกันยายน 2540 ก็เป็นเวลาที่
คุณทักษิณอยู่ร่วมในรัฐบาลมาโดยตลอด ต่อเนื่องจนถึงช่วงเวลาที่ IMF
เข้ามาตรวจสอบผลการปฏิบัติตาม LOI ฉบับที่ 1 ในเดือนพฤศจิกายน
เพื่ออนุมัติเงินงวดที่ 2 โดยมีคุณทักษิณดำรงตำแหน่งรองนายกฯ อยู่
จนกระทั่ง พล.อ.ชวลิต ลาออกก่อนมีการเซ็น LOI ฉบับที่ 2 แค่เพียง
10 กว่าวันเท่านั้น

การลาออกของ พล.อ.ชวลิต ในตอนนั้นเกิดขึ้นด้วยความมั่นใจว่าจะ
สามารถกลับมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะผลัดเอา พล.อ.ชาติชาย
ขึ้นมารับหน้าเป็นนายกฯ แทน


ชัดเจนว่า รัฐบาลชวลิต วางแผนจะเบิกเงิน IMF งวดที่ 2 มาใช้เอง
การที่ รัฐบาลชวน ได้เข้ามาบริหารประเทศเกิดจาก พล.อ.ชวลิต
พลาดท่ากรณีกลุ่มงูเห่า รัฐบาลชวลิตซึ่งมีรองนายกฯ ชื่อ ทักษิณ
จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการขอเบิกจ่ายเงินงวดที่ 2 ครับ


---

ด้วยเหตุผลข้างบน ข้อสรุปจึงเหมือนเดิมครับ..

" ใน 2 งวดแรกที่มีจำนวนเงินมากที่สุดนั้น ดำเนินการอยู่ในช่วงรัฐบาล
พล.อ.ชวลิตซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจชื่อ ทักษิณ ชินวัตร
แม้เงินงวดที่ 2 จะมาเบิกจ่ายในเดือนแรกๆ ของรัฐบาลชวน 2 ก็ตาม "
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Sat Mar 14, 2009 10:01 am

savor wrote:แล้วมีอีกเรื่องหนึ่ง

แต่ตอนที่รัฐบาลทักษิณ มารับช่วงต่อจากรัฐบาลชวน+ธารินทร์
ปลายปี 2543 ธปท. มีเงินในมือ 32661 ล้าน USD ยังติดลบ-
สถานะ forward เพียง 2135 ล้าน USD เท่ากับมีทุนสำรองฯ
เพิ่มขึ้นกว่า 21500 ล้าน USD สามารถค้ำประกันค่าเงินบาท
ได้เต็มจำนวน และพร้อมจะจ่ายคืนเงิน IMF ได้เร็วกว่าที่มีการ-
ประเมินไว้ในสมัยรัฐบาลชวลิต+ทักษิณ+ทนง+สมคิด ขณะที่
IMF อนุมัติวงเงิน 17000 ล้าน USD


ที่เพิ่มขึ้นมา 21500 ล้านเนี่ย คุณต้องลบตัวเลขเงินกู้ของ IMF ไปก็คือ 12000 ล้านก่อนไม่ใช่เหรอ...

เท่ากับว่า รบ. ชวน 3 ปีทำให้ทุนสำรองเพิ่มขึ้นได้เพียง 9000 ล้านไม่ใช่เหรอครับ :D

อย่างไรก็ดีผมก็เห็นด้วยแบบคุณ ทุนสำรองไม่ใช่แค่ฝีมือของรัฐบาลอย่างเดียว เพราะช่วงระหว่างรัฐบาลขิงแก่ - สมัคร , สมชาย ทุนสำรองกลับเพิ่มขึ้นมามหาศาลเรียกได้ว่าสูงเป็นประวัติศาสตร์

แต่ผมต้องการจะบอกว่า ทักษิณไม่ได้มารับงานง่ายๆสบายๆอย่างที่คุณบอกมั้งครับ :D


ที่เพิ่มขึ้นมา 21500 ล้าน ถ้าอยากเอาเงิน IMF ไปลบจริงๆ ก็ไม่ใช่ยอด 12000 ล้านครับ :idea:

เพราะที่ผมพูดถึง เป็นตัวเลข ณ สิ้นปีต่างๆ ที่พอจะบ่งชี้สถานะในแต่ละรัฐบาลได้
เนื่องจากเรามักมีการเปลี่ยนรัฐบาลกันใกล้ๆ ช่วงปลายปี

ตัวเลขที่นำมาตั้งต้นให้กับรัฐบาลชวน จึงเป็นตัวเลข ณ วันที่ 31 ธ.ค. 40 ซึ่งได้รวม
การเบิกเงิน IMF งวดแรกและงวดที่ 2 รวม 8000 กว่าล้าน USD ไว้ก่อนแล้ว


ถ้าคุณ savor อยากจะเอาเงิน IMF ไปลบทุนสำรองฯ จริงๆ ก็ต้องเอา 8000 กว่าล้าน
ไปลบออกจากทุนสำรองของรัฐบาลชวลิต โดยที่ในส่วนของรัฐบาลชวน คุณ savor
เอายอดเบิกจ่ายงวดที่ 3 ถึง 8 รวมกันไปลบทุนสำรองได้เพียงไม่ถึง 4000 ล้านครับ


...

อย่างไรก็ตาม ความคิดเรื่องจะเอายอดเงิน IMF ไปหักออกจากทุนสำรองที่เพิ่มขึ้น
เป็นเรื่องคิดไม่ถูกมาตั้งแต่แรกแล้ว
เพียงแต่คุณอยากคิดแบบนั้นผมก็ช่วยคิดให้ว่า
มันไม่ได้ช่วยให้รัฐบาลชวลิต+ทักษิณดูดีขึ้น หรือรัฐบาลชวนดูแย่ลงเท่านั้นเอง...

ผมรู้สึกว่า ยิ่งคุณ savor เถียงก็ยิ่งเข้ารกเข้าพงไปเรื่อยๆ การเงินระหว่างประเทศ
ไม่ใช่เอาตัวเลขมาบวกลบกันได้ง่ายๆ อย่างที่คุณทำหรอกครับ
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby savor » Sat Mar 14, 2009 11:44 am

ผมอุตส่าห์ดักคอเรื่อง ทนง ไว้แล้วคุณก็ยังอุตส่าห์พล่ามมาโยงอีก :|

ไอ้ที่คุณร่ายยาวมาเนี่ย สรุปว่า ทักษิณมีส่วนเกี่ยวข้องยังไงกับการเบิกจ่าย IMF งวดแรกครับ ??? ทักษิณในตอนนั้นมีสิทธิ์บีบบังคับ ทนง , บิ๊กจิ๋ว ให้กู้ได้เหรอครับ ?

ถ้าจะบอกว่า รู้เห็น มันก็รู้เห็นทั้งหมดแหละ รวมทั้ง รมต. และ สส. อีกหลายร้อยคนด้วย

แต่นี่เอาง่ายๆว่า LOI ยังไม่มีชื่อ ทักษิณ เซ็นเลยด้วยซ้ำ ตกลง ทักษิณ จะเป็นคนกู้ IMF อย่างที่พันธมิตรชอบบิดเบือนได้ไงครับ ?


ส่วนเรื่องทุนสำรอง ทำไมถึงลบไม่ได้ล่ะครับ ???

ก็ในเมื่อเงินกู้ IMF เนี่ยเอามาใช้เป็นทุนสำรองอย่างเดียว ไม่ได้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นเลย แถม รบ. ชวน ก็ยังแทบไม่ได้คืนเงินเลยด้วยซ้ำ...
ปราสาทเขาพระวิหารมันก็เหมือนบ้านทรายทอง
เจ้าคุณปู่ เจ้าคุณตาตกลงไว้ว่ามันเป็นของสายพินิจนันท์ แต่สาย สว่างวงศ์ ณ อยุธยา เข้าไปอยู่นานมากจนคิดว่าเป็นของตัวเอง
มันไม่ใช่ มันเป็นของพจมานเขา
เรื่องนี้คนเข้าใจได้ง่ายๆ มีแต่คนโง่ๆ เท่านั้นที่จะไม่เข้าใจ
User avatar
savor
 
Posts: 540
Joined: Wed Jan 07, 2009 1:15 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby LOB » Sat Mar 14, 2009 12:06 pm

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเจ้าของกระทู้...ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด ดดด Oop! :o
มาโยนระเบิดทิ้งไว้แล้วไปไหนหว่า?? น้องนา!
I'M A STRAIGHFORWARD, DON'T EXPECTED TO SEE MY FAKE ANY WAY I'M NOT INNOCENT
User avatar
LOB
 
Posts: 146
Joined: Wed Dec 24, 2008 9:56 am
Location: BKK

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby Matahari » Sat Mar 14, 2009 2:06 pm

savor wrote:ผมอุตส่าห์ดักคอเรื่อง ทนง ไว้แล้วคุณก็ยังอุตส่าห์พล่ามมาโยงอีก

ไอ้ที่คุณร่ายยาวมาเนี่ย สรุปว่า ทักษิณมีส่วนเกี่ยวข้องยังไงกับการเบิกจ่าย IMF งวดแรกครับ ??? ทักษิณในตอนนั้นมีสิทธิ์บีบบังคับ ทนง , บิ๊กจิ๋ว ให้กู้ได้เหรอครับ ?

ถ้าจะบอกว่า รู้เห็น มันก็รู้เห็นทั้งหมดแหละ รวมทั้ง รมต. และ สส. อีกหลายร้อยคนด้วย

แต่นี่เอาง่ายๆว่า LOI ยังไม่มีชื่อ ทักษิณ เซ็นเลยด้วยซ้ำ ตกลง ทักษิณ จะเป็นคนกู้ IMF อย่างที่พันธมิตรชอบบิดเบือนได้ไงครับ ?


ส่วนเรื่องทุนสำรอง ทำไมถึงลบไม่ได้ล่ะครับ ???

ก็ในเมื่อเงินกู้ IMF เนี่ยเอามาใช้เป็นทุนสำรองอย่างเดียว ไม่ได้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นเลย แถม รบ. ชวน ก็ยังแทบไม่ได้คืนเงินเลยด้วยซ้ำ...

ไม่น่าเชือสมองของหางแดงตัว พธม เคยบอกเหรอ ว่าทักษิณกู้ แหมแถและแหล มีแต่บอกว่าทักษิณจอมกระหล่อนตอแหลเอาความดีใส่ตัว เอาความชั่วมาคนอื่น ระดับหางแดง กับ พธม นะคนลชั้น คนฟังเขาฟังเขาหาข้อมุลมาเปรียบเทียย แต่หางแดงซิ เชือเลย ไม่ต้องหาข้อมูล ก็สมองมีแค่นั้น จริงมะ
แล้วเรื่องการกู้เงินมาIMF เพื่อมาเป็นทุนสำรองห้ามใช้เหรอ คิดได้อย่างไร กู้มาเก็บไม่ก่อประโยชน์ต้องเสียดอก คิดได้อย่างไร ง่ายๆๆๆ ไม่ต้องใช่ความรุ้ด้านนี้ คิดได้อย่างไร
แล้วเรื้องการคืนเงิน หางแดงจอมโง่ไร้สมองเอามาเป็นตรรกะ เหลียมคืน แต่ชวนไม่คืนแต่ไม่คิดว่า ณ.ตอนนั้นประเทศมีอะไร ปัญหาอะไร เริมทำอะไร กู้มาไม่นาน การจ่ายมันก็ต้องไปตามสัญญา แต่เหลียมคืนมากก็เรื่องจากค่าเงินบาท เดียวไปค้นหาเคยอ่าน อ.ที่วิเคราะห์เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่ต้องคืนเร็วก็ค่าเงินบาทมันลดมากเหลือ 36 บาท จากที่กู้ตอนนั้น 45 บาท แล้วทำไม่คิอ แล้งหางแดงไม่หอนละว่าเหลี่ยมสร้างหนี้ไว้มากมาย และหมกเม็ด จนมาถึงยุคหม่อมอุย ต้องทำงบประมาณขาดดุล
***********************************************************
User avatar
Matahari
 
Posts: 2405
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:30 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby 55555 » Sat Mar 14, 2009 5:14 pm

savor wrote:ผมอุตส่าห์ดักคอเรื่อง ทนง ไว้แล้วคุณก็ยังอุตส่าห์พล่ามมาโยงอีก :|

ไอ้ที่คุณร่ายยาวมาเนี่ย สรุปว่า ทักษิณมีส่วนเกี่ยวข้องยังไงกับการเบิกจ่าย IMF งวดแรกครับ ??? ทักษิณในตอนนั้นมีสิทธิ์บีบบังคับ ทนง , บิ๊กจิ๋ว ให้กู้ได้เหรอครับ ?

ถ้าจะบอกว่า รู้เห็น มันก็รู้เห็นทั้งหมดแหละ รวมทั้ง รมต. และ สส. อีกหลายร้อยคนด้วย

แต่นี่เอาง่ายๆว่า LOI ยังไม่มีชื่อ ทักษิณ เซ็นเลยด้วยซ้ำ ตกลง ทักษิณ จะเป็นคนกู้ IMF อย่างที่พันธมิตรชอบบิดเบือนได้ไงครับ ?


ส่วนเรื่องทุนสำรอง ทำไมถึงลบไม่ได้ล่ะครับ ???

ก็ในเมื่อเงินกู้ IMF เนี่ยเอามาใช้เป็นทุนสำรองอย่างเดียว ไม่ได้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นเลย แถม รบ. ชวน ก็ยังแทบไม่ได้คืนเงินเลยด้วยซ้ำ...



หมอนี่สงสัยอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องจริง ๆ ด้วยดิ....โห...

Image
http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlo ... chapter=26


สงสัย คุณจี ต้องเริ่มต้น ด้วย ก ข ก่อนดีมั๊ยครับ...

:lol: :lol: :lol:
55555
 
Posts: 5131
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:29 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby drop » Sat Mar 14, 2009 9:27 pm

หัวหน้าพรรคจบจาก oxford จ้าาาาาาาา
User avatar
drop
 
Posts: 21
Joined: Sat Feb 14, 2009 1:27 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby thai007 » Sat Mar 14, 2009 9:45 pm

อ้าว อีหนู รูมิมี เอ๊ย นานามิ หายไปไม่มาแจมเลย ไอ้ที่ได้ความรู้น่ะไม่เอาเลยนะ ชอบจิงแบบ แถๆ
thai007
 
Posts: 709
Joined: Mon Oct 27, 2008 1:28 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Sun Mar 15, 2009 1:15 am

savor wrote:ผมอุตส่าห์ดักคอเรื่อง ทนง ไว้แล้วคุณก็ยังอุตส่าห์พล่ามมาโยงอีก :|

ไอ้ที่คุณร่ายยาวมาเนี่ย สรุปว่า ทักษิณมีส่วนเกี่ยวข้องยังไงกับการเบิกจ่าย IMF งวดแรกครับ ??? ทักษิณในตอนนั้นมีสิทธิ์บีบบังคับ ทนง , บิ๊กจิ๋ว ให้กู้ได้เหรอครับ ?

ถ้าจะบอกว่า รู้เห็น มันก็รู้เห็นทั้งหมดแหละ รวมทั้ง รมต. และ สส. อีกหลายร้อยคนด้วย

แต่นี่เอาง่ายๆว่า LOI ยังไม่มีชื่อ ทักษิณ เซ็นเลยด้วยซ้ำ ตกลง ทักษิณ จะเป็นคนกู้ IMF อย่างที่พันธมิตรชอบบิดเบือนได้ไงครับ ?


เรื่องคุณทนงเป็นแค่ประเด็นปลีกย่อย คุณ savor ไม่ต้องให้ความสำคัญก็ได้นะครับ
ที่ผมพูดถึงก็เพราะคุณ savor เอ่ยชื่อขึ้นมาก่อนเท่านั้นเอง แต่ประเด็นหลักก็คือ...

*คุณทักษิณร่วมหัวจมท้ายกับความหวังใหม่มาก่อนจะรับตำแหน่ง รองนายกฯ แล้ว*

เป็นความจริงที่รับรู้กับทั่วไปว่าคุณทักษิณใกล้ชิดกับพรรคความหวังใหม่เป็นอย่างมาก
เมื่อก่อตั้งพรรคไทยรักไทยในปี 2541 ยังนำเอากลุ่มวังน้ำเย็นจากพรรคความหวังใหม่
ไปเป็นแกนสำคัญในการก่อตั้งพรรค


ที่ยิ่งน่าสนใจก็คือแม้จะตั้งพรรคไทยรักไทยแล้ว คุณทักษิณก็ยังคงให้ทุนอุดหนุน
พรรคความหวังใหม่ต่อมาอีก จนกล่าวกันว่าพรรคความหวังใหม่เป็น "พรรคอะไหล่"
ของไทยรักไทย การให้ทุนอุดหนุนนี้มีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งพรรคความหวังใหม่
ยุบรวมกับพรรคไทยรักไทยในปี 2545
:idea:

...

ตอนที่เบิกเงิน IMF งวดแรกมาใช้ คุณทักษิณเข้ามาอยู่ในรัฐบาลชวลิตเรียบร้อยแล้ว
และไม่เกี่ยวกับประเด็นมีสิทธิ์บีบบังคับ คุณทนง, บิ๊กจิ๋ว หรือไม่ แต่ประเด็นสำคัญก็คือ

- คุณทักษิณร่วมทำงานการเมืองกับรัฐบาลชวลิต มาตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง รองนายกฯ
- คุณทักษิณดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ขณะที่มีการเบิกเงิน IMF งวดแรกมาใช้ และร่วมรัฐบาล
มาโดยตลอดขณะที่มีการดำเนินการเพื่อขอเบิกเงิน IMF งวดที่ 2


การที่คุณทักษิณเข้าร่วมรัฐบาลชวลิต หลังจากคุณทนง (ลูกน้องเก่า) บินไปเซ็นสัญญา
กับ IMF ที่ญี่ปุ่นแค่วันเดียว จะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยไม่ได้หรอกครับ :D

*ตอนเบิกเงินมาก็อยู่ด้วย เวลานำเงินมาใช้ก็อยู่ด้วย ตอนปฏิบัติตาม LOI ฉบับที่ 1
เพื่อให้ได้รับสิทธิเบิกจ่ายเงินงวดที่ 2 ก็อยู่ในรัฐบาลชวลิตมาโดยตลอด*


การโจมตีว่ารัฐบาลชวนเป็นคนกู้เงิน IMF ทั้งที่รู้ดีว่าพวกตัวเอง (และตัวเอง) เป็นคน
ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงวดแรกและงวดที่ 2 ซึ่งคิดเป็นเงิน 2 ใน 3 ของวงเงินทั้งหมด
ถือเป็นการจงใจบิดเบือนความจริงอย่างร้ายแรง นอกจากบิดเบือนว่ารัฐบาลชวนเป็น
คนกู้เงิน IMF ยังนำเรื่องการคืนเงินมาเป็นผลงานของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว


ซึ่งเท่ากับรัฐบาลทักษิณ "เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น" อย่างชัดเจนที่สุด :idea:
Last edited by jerasak on Sun Mar 15, 2009 1:38 am, edited 1 time in total.
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Sun Mar 15, 2009 1:31 am

savor wrote:ส่วนเรื่องทุนสำรอง ทำไมถึงลบไม่ได้ล่ะครับ ???

ก็ในเมื่อเงินกู้ IMF เนี่ยเอามาใช้เป็นทุนสำรองอย่างเดียว ไม่ได้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นเลย แถม รบ. ชวน ก็ยังแทบไม่ได้คืนเงินเลยด้วยซ้ำ...


เรื่องทุนสำรองถ้าจะคุยกับแบบที่ชาวบ้านเข้าใจ อยากจะเอาเงิน IMF มาลบยอด-
ทุนสำรองฯ ก็ทำไปเถอะครับ ผมคงไม่ลงรายละเอียดแล้วว่าทุนสำรองฯ มีการ
เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ถ้าคุณ savor เชื่อว่ามันอยู่เฉยๆ เราก็ถือว่า
มันอยู่เฉยๆ ก็แล้วกัน.. ง่ายดี :D

*แต่อย่าลืมว่าตัวเลขที่คุยกัน เอาทุนสำรองปลายปี 2540 ที่รวมเงิน IMF 2 งวดแรก
8 พันกว่าล้าน USD เอาไว้แล้ว มาเป็นยอดตั้งต้น*


ทุนสำรองฯสุทธิ ที่เพิ่มขึ้น 2 หมื่นกว่าล้าน ณ สิ้นปี 2543 จึงไม่เกี่ยวกับเงิน IMF
2 งวดแรกครับ ถ้าคุณ savor อยากเอาเงิน IMF มาหักก็ทำได้แค่เงินงวดที่ 3-8
ที่มียอดเงินรวมกันไม่ถึง 4000 ล้าน USD เท่านั้น


และต้องคิดด้วยว่าเงิน IMF ในส่วนนี้คงอยู่เป็นทุนสำรองฯ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ
ต่อเนื่องมาถึงปี 2546 ที่มีการคืนเงิน IMF ก่อนกำหนดจำนวน 4 พันกว่าล้าน USD
ซึ่งคุณทักษิณก็เอาเงินจำนวนนี้คืนให้ IMF ไม่ได้ไปหามาจากไหน
:idea:

...

รู้สึกว่าคุยกันแบบนี้เข้าใจง่ายดี..

- รัฐบาลชวลิต+ทักษิณ .... เบิก IMF มา 8000 ล้าน USD
- รัฐบาลชวน ............... เบิก IMF มา 4000 ล้าน USD


หลังจากนั้นรัฐบาลทักษิณก็คืนเงินที่เบิกมาเก็บไว้รวม 12000 ล้านให้ IMF
แล้วคุยว่าหาเงินมาใช้หนี้แทน ปชป. 5 แสนล้านบาท :D
Last edited by jerasak on Sun Mar 15, 2009 10:06 am, edited 1 time in total.
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby Matahari » Sun Mar 15, 2009 9:49 am

[quote="jerasak"
]savor wrote:
ส่วนเรื่องทุนสำรอง ทำไมถึงลบไม่ได้ล่ะครับ ???

ก็ในเมื่อเงินกู้ IMF เนี่ยเอามาใช้เป็นทุนสำรองอย่างเดียว ไม่ได้ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นเลย แถม รบ. ชวน ก็ยังแทบไม่ได้คืนเงินเลยด้วยซ้ำ...


เรื่องทุนสำรองถ้าจะคุยกับแบบที่ชาวบ้านเข้าใจ อยากจะเอาเงิน IMF มาลบยอด-
ทุนสำรองฯ ก็ทำไปเถอะครับ ผมคงไม่ลงรายละเอียดแล้วว่าทุนสำรองฯ มีการ
เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ถ้าคุณ savor เชื่อว่ามันอยู่เฉยๆ เราก็ถือว่า
มันอยู่เฉยๆ ก็แล้วกัน.. ง่ายดี

*แต่อย่าลืมว่าตัวเลขที่คุยกัน เอาทุนสำรองปลายปี 2540 ที่รวมเงิน IMF 2 งวดแรก
8 พันกว่าล้าน USD เอาไว้แล้ว มาเป็นยอดตั้งต้น*

ทุนสำรองฯสุทธิ ที่เพิ่มขึ้น 2 หมื่นกว่าล้าน ณ สิ้นปี 2543 จึงไม่เกี่ยวกับเงิน IMF
2 งวดแรกครับ ถ้าคุณ savor อยากเอาเงิน IMF มาหักก็ทำได้แค่เงินงวดที่ 3-8
ที่มียอดเงินรวมกันไม่ถึง 4000 ล้าน USD เท่านั้น

และต้องคิดด้วยว่าเงิน IMF ในส่วนนี้คงอยู่เป็นทุนสำรองฯ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ
ต่อเนื่องมาถึงปี 2546 ที่มีการคืนเงิน IMF ก่อนกำหนดจำนวน 4 พันกว่าล้าน USD
ซึ่งคุณทักษิณก็เอาเงินจำนวนนี้คืนให้ IMF ไม่ได้ไปหามาจากไหน

...

รู้สึกว่าคุยกันแบบนี้เข้าใจง่ายดี..

- รัฐบาลชวลิต+ทักษิณเบิก IMF มา 8000 ล้าน USD
- รัฐบาลชวนเบิก IMF มา 4000 ล้าน USD

หลังจากนั้นรัฐบาลทักษิณก็คืนเงินที่เบิกมาเก็บไว้รวม 12000 ล้านให้ IMF
แล้วคุยว่าหาเงินมาใช้หนี้แทน ปชป. 5 แสนล้านบาท
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==[/quote]

สงสัย นาย SAVOR คงเข้าใจเนอะ แบบ ชาวบ้าน กู้มาเสียดอกเล้วเก็บไว้เป็นทุนสำรอง ถึงเวลาเอามาจ่ายคืน..........................ถ้าคิดได้อย่างนี้ คนทำค้าขาย คงเจ็งและพังไปนานแล้ว............เงินสำรองไม่มีหรือไม่พอ เขาก็คงไม่กู้มาเพื่อถมเงินสำรอง เขากุ้มาใช้ เงินสำรองของรัฐ และแบงก์ชาติมันคนละประเด็น เงินสำรองของรัฐ คือการกันเงินไว้ในอนาคตที่จะต้องใช้ เหมือนธุรกิจต้องกัน Stock ไว้ขายล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน เพื่อหาผลกำไร แต่รัฐไม่ได้แสวงหากำไร เขากันไว้เพื่อใช้จ่าย ตอนรัฐหาเงินไม่เข้าเป้า แต่แบงก์กันสำรองเพื่อการควบคุมการเงินประเทศ ความเชื่อถือ ถ้าเงินสำรองไม่พอ เขาก็จะกู้แต่จะเบิกมาใช้แต่ละงวด ไม่ใช่เบิกทั้งก้อนแล้วเอามาถมเป็นเงินสำรองนอนนิ่ง มันก็ไม่ก่อประโยชน์แล้วยังเสียดอกเบี้ย แต่เขาจะเบิกแต่ละงวด การที่นายsavor คิดได้อย่างไร เอาเงินกู้มาสำรองนอนนิ่งแล้วเสียดอก ชาวบ้านคิดแบบนี้มะ หรือมีนายsavor คิดคนเดียว
***********************************************************
User avatar
Matahari
 
Posts: 2405
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:30 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby Great Wall » Sun Mar 15, 2009 9:57 am

thai007 wrote:อ้าว อีหนู รูมิมี เอ๊ย นานามิ หายไปไม่มาแจมเลย ไอ้ที่ได้ความรู้น่ะไม่เอาเลยนะ ชอบจิงแบบ แถๆ


อ่านกระทู้นี้มาหลายวัน...
ชักสงสัยว่า savor น่าจะเป็นอวตารหนึ่ง ของ อีหนู รูมิมี ...เอ๊ยยย นานามิ นั่นเอง

:roll: :roll: :lol: :lol:
User avatar
Great Wall
 
Posts: 153
Joined: Tue Oct 14, 2008 3:01 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Sun Mar 15, 2009 7:21 pm

ผู้ ญ ธรรมดาฯ wrote:ขออนุญาตนำบทความมาลงทั้งหมดค่ะ

"ทักษิณ" ไม่ใช่วีรบุรุษ กรณีใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ (กวนน้ำให้ใส)

แทบไม่น่าเชื่อว่า คนเรามันจะลวงโลกได้ขนาดนี้

คำพูดในทำนองว่า "ทักษิณบริหารเศรษฐกิจเก่ง และเป็นคนใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ" หรือแม้กระทั่งการคุยโอ่ในลักษณะว่า"ทักษิณเป็นคนเข้ามาใช้หนี้ไอเอ็มเอฟที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก่อทิ้งไว้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ 2540" กำลังถูกนำมามอมเมา เป่าหู หรือแม้กระทั่งลวงหลอกประชาชนรากหญ้า ให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของทักษิณและพวก อีกครั้ง !

...

พรุ่งนี้ มาดูกันชัดๆ ว่า ประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 ขึ้นมาได้อย่างไร? การส่งออกดีขึ้นตอนไหน? เพราะอะไร? ฝีมือของทักษิณหรือไม่?

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ เป็นอย่างไร? หนี้ลดลงตอนไหน? เพราะทักษิณหรือไม่ ?
จะได้เห็นชัดๆ ว่า ไม่มีทักษิณ ประเทศไทยก็รอดพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 !
ไม่มีทักษิณ ประเทศไทยก็สามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ !

ตรงกันข้าม ประเทศชาติอาจจะไม่ต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้เสียด้วยซ้ำ !


http://www.naewna.com/news.asp?ID=152292


ขอขอบคุณ คุณ ผู้ ญ ธรรมดาฯ ที่นำบทความจากคอลัมน์ "กวนน้ำให้ใส" มาแนะนำครับ
บทความข้างต้นเผยแพร่เมื่อวันที่ 12 มี.ค.52 แล้วมีภาคต่อในวันรุ่งขึ้นอีกตอน ผมก็เลย
ลองค้นหาเพื่อจะนำมาลงต่อให้สมบูรณ์...

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูลในบทความภาคต่อ ผมพบว่ามีข้อผิดพลาดหลายประการ
ทั้งเรื่องวันที่ลงนามใน LOI ฉบับที่ 2 ที่ระบุว่าลงนามเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 40 ในสมัยรัฐบาลชวลิต
และ การระบุว่าเงินกู้งวดสุดท้ายจะได้รับประมาณกลางปี 2544 ซึ่งทำให้กำหนดชำระหนี้ IMF
ก้อนสุดท้าย ก็ต้องชำระกลางปี 2547 ซึ่งผู้เขียนนำมาสรุปว่ารัฐบาลทักษิณไม่ได้ชำระหนี้เร็วขึ้น


น่าเสียดายที่ทั้งหมดเป็นการใช้ข้อมูลที่ผิดครับ :|

...

ความจริง LOI ฉบับที่ 2 ลงนามเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 40 ในสมัยรัฐบาลชวน ซึ่งได้รับโปรดเกล้าฯ -
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 40 ข้อผิดพลาดนี้เจ้าของนามปากกา "สารส้ม" ผู้เขียนบทความอาจเข้าใจผิด
โดยนับวันถัดจากที่ลงนาม LOI ฉบับที่ 1 มา 3 เดือนตรงๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พล.อ.ชวลิต
ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง นายกฯ เสียก่อน ก็เลยต้องมาลงนามในรัฐบาลชวนครับ

ส่วนการระบุว่าเงินกู้งวดสุดท้ายจะได้รับประมาณกลางปี 2544 ก็คลาดเคลื่อนไปถึง 1 ปีเต็มๆ
เพราะตามกำหนดเงินงวดสุดท้าย (งวด 12) จะเบิกจ่ายเดือนพฤษภาคม 2543 และรัฐบาลชวน-
ได้หยุดเบิกเงินหลังจากเบิกงวดที่ 8 ในเดือนพฤษภาคม 2542

บทความนี้ถูกต้องบางส่วนที่นำเสนอว่าการหยุดเบิกเงินก่อนกำหนดของรัฐบาลชวนทำให้ไทย
มียอดเงินที่ต้องใช้คืน IMF ลดลง และเงินในส่วนนี้สามารถใช้คืนได้เร็วขึ้น 1 ปีจริง


แต่เนื่องจากกำหนดคืนเงิน IMF ที่นำมาเป็นทุนสำรองฯ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน มีเงินจาก J-EXIM
ประมาณ 4 พันล้าน USD ที่กำหนดเริ่มต้นคืนในปี 2546 และมีกำหนดคืนเงินเสร็จสิ้นในปี 2548
ซึ่งส่วนนี้เองเป็นเงินเกือบทั้งหมดที่มีการคืนล่วงหน้าในรัฐบาลทักษิณเมื่อ ปี 2546 การโฆษณา
ว่ามีการคืนเงิน IMF ล่วงหน้าในรัฐบาบทักษิณจึงมีการคืนเงินล่วงหน้าจริงๆ ครับ
:idea:

...

อย่างไรก็ตามเพื่อประโยชน์ของ เพื่อนสมาชิกเสรีไทยฯ ผมขอนำบทความดังกล่าวมาลงไว้ด้วย
อย่างน้อยก็จะได้เห็นผ่านตาว่าเป็นบทความที่มีการใช้ชุดข้อมูลที่ผิด ไม่ควรนำไปอ้างอิงนะครับ
:D
Last edited by jerasak on Sun Mar 15, 2009 7:46 pm, edited 3 times in total.
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby jerasak » Sun Mar 15, 2009 7:25 pm

ถ้าคุณทักษิณโกหกง่ายๆ ว่าใช้หนี้ล่วงหน้าตามบทความนี้ มีหวังถูกฝ่ายตรงข้าม-
ถล่มแหลกไปตั้งแต่เมื่อปี 2546 ไม่เหลือมาให้เราคุยกันตอนนี้หรอกครับ
:D

-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความลวงเรื่องทักษิณใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ (กวนน้ำให้ใส)
http://www.naewna.com/news.asp?ID=152462

เรื่องลวงโลกในทำนองว่า "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นวีรบุรุษกู้ชาติไทยผู้ปลดหนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนด
เป็นเรื่องที่คนไทยถูกหลอกลวงมากที่สุด ฝังหัวที่สุด และทำให้ถูกมอมเมาต่อไปอีกว่า "ทักษิณ ชินวัตร"
เป็นนายกฯ ที่บริหารเศรษฐกิจเก่ง มีบุญคุณต่อประเทศไทย ฯลฯ

นปก. ก็ขึ้นป้าย บอกว่า "เป็นความสามารถของทักษิณที่ทำให้ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมด"

อันธพาลที่ช่วยตำรวจของระบอบทักษิณทำร้ายคนแก่ที่ออกมาขับไล่ทักษิณ บริเวณห้างสรรพสินค้า
เซ็นทรัลเวิลด์ ก็ให้การว่า "นายกฯทักษิณ เป็นคนใช้หนี้ไอเอ็มเอฟหมด เป็นคนสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ
ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้ราคายางสูงขึ้น แล้วมาตะโกนขับไล่นายกฯ ทักษิณทำไม"

ทั้งหมด ถูกฝังหัว มอมเมา ลวงหลอก โดยการปั้นแต่งข้อมูลข่าวสารของระบอบทักษิณ เริ่มตั้งแต่ค่ำ
วันที่ 31 ก.ค. 2546 ทักษิณออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ประกาศว่า วันนี้ ได้ชำระหนี้ก้อนสุดท้าย
ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เรียบร้อยแล้ว

"เราใช้หนี้ก่อนเวลา 2 ปี" ทักษิณโอ้อวดว่าเป็นความสำเร็จของตัวเองในวันนั้น...

เมื่อวานนี้ ได้ชี้ชัดไปให้เห็นแล้วว่า หนี้ไอเอ็มเอฟเกิดขึ้นในยุครัฐบาลชวลิต สมัยรัฐมนตรีคลังชื่อ "ทนง พิทยะ"
ที่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีโดยการสนับสนุนของ "ทักษิณ ชินวัตร"

เดือน มี.ค. 2540 สถาบันการเงินในประเทศจำนวนมากอ่อนแอ แต่รัฐบาลในขณะนั้นกลบเกลื่อน เลือกปิด
เพียง 16 แห่ง พยายามอุ้มสถาบันการเงินที่มีสายสัมพันธ์กับพรรคพวกตนเอง ต่อมาภายหลัง เดือน มิ.ย.
จึงปิดสถาบันการเงินเพิ่มอีก 42 แห่ง เกิดความปั่นป่วน ไม่เชื่อถือไปทั่ว

ในที่สุด เมื่อลดค่าเงินบาท 2 ก.ค. 2540 เงินทุนสำรองร่อยหรอ (แทบไม่เหลือหรอ เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย
ไปเก็งกำไรต่อสู้ค่าเงินบาทจนหมดหน้าตัก) รัฐบาลชวลิตก็ไปขอกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ ลงนามในหนังสือแสดง
เจตจำนงฉบับที่ 1 (Letter of Intent : LOI) เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2540

1) เงินกู้ไอเอ็มเอฟ ทางผู้ให้กู้เขาประเมินและตกลงให้กรอบประเทศไทยเป็นหนี้ได้ทั้งหมด ประมาณ 16,000 ล้าน
เหรียญสหรัฐ ซึ่งเมื่อหักลบหนี้ที่รัฐบาลไทยกู้จากต่างประเทศและสถาบันการเงินระหว่างประเทศอื่นๆ แล้ว ปรากฏว่า
ประเทศไทยได้กู้จากไอเอ็มเอฟจริงๆ ประมาณ 14,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

2) เงื่อนไขและวิธีการรับเงินกู้ไอเอ็มเอฟ คือ ไอเอ็มเอฟจะทยอยส่งเงินให้เป็นงวดๆ 3 เดือนต่อหนึ่งงวด
โดยแต่ละงวด รัฐบาลไทยก็จะต้องลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง หรือ Letter of Intent : LOI เป็น
เงื่อนไขพันธะผูกพันที่จะต้องปฏิบัติตาม

พูดง่ายๆ ว่า ยื่นหมู ยื่นแมว จะเอาเงินจากเขา ก็ต้องทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับเขา

3) หนังสือแสดงเจตจำนง หรือ Letter of Intent : LOI ฉบับที่หนึ่ง ลงนามสมัยรัฐบาลชวลิต เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2540
ตกลงผูกมัดไว้หมดแล้วว่า รัฐบาลไทยจะต้องรัดเข็มขัดอย่างไร ควบคุมนโยบายการเงินอย่างไร ควบคุมนโยบายการคลัง
อย่างไร ห้ามขึ้นเงินเดือนราชการอย่างไร ต้องมีนโยบายรัฐวิสาหกิจอย่างไร ฯลฯ

และเมื่อจะเอาเงินกู้งวดที่สอง (3 เดือนต่อมา) ก็ต้องยื่นเงื่อนไข LOI ฉบับที่สอง รัฐบาลชวลิตก็ไปตกลงไว้กับ
ไอเอ็มเอฟแล้ว เซ็นต์กันเมื่อวันที่ 14 พ.ย.40

4) เงื่อนไขและวิธีการจ่ายคืนเงินกู้ไอเอ็มเอฟ คือ เงินกู้แต่ละงวดแต่ละก้อน จะต้องจ่ายคืนเมื่อครบกำหนด 3 ปี
ยกตัวอย่าง ก้อนที่ได้มา 14 พ.ย. 40 ก็มีกำหนดจ่ายคืน 14 พ.ย. 43 (นับไปอีก 3 ปี) เป็นต้น

ดังนั้น ตามแผนการที่เจรจากรอบการกู้ไอเอ็มเอฟไว้เดิม วางแผนกันว่า ประเทศไทยจะรับเงินกู้จากไอเอ็มเอฟไปอย่างนี้
ทุกๆ 3 เดือน จนครบยอดเงินกู้ทั้งหมด ซึ่งตามแผนเดิม เงินกู้งวดสุดท้ายจะได้รับประมาณกลางปี 2544 ซึ่งทำให้กำหนด
ชำระหนี้ไอเอ็มเอฟก้อนสุดท้าย ก็ต้องชำระกลางปี 2547 (นับไปอีก 3 ปี)

เมื่อรัฐบาลชวลิตออกไป รัฐบาลชวนก็เข้ามา (หลัง 14 พ.ย. 2540) หลังจากนี้ คือ ช่วงที่ประเทศไทยจะต้องทำตามเงื่อนไข
พันธะที่ไปตกลงไว้กับไอเอ็มเอฟ และเริ่มทยอยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟตามกำหนด ระหว่างนี้ ประชาชนคนไทยในประเทศต้อง
เดือดร้อนกับ "ยาขมหม้อใหญ่" ที่ต้องรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจกันถ้วนหน้า แต่ในที่สุด เมื่อค่าเงินบาทต่ำลง การส่งออกดีขึ้น
ภาคธุรกิจเอกชนในประเทศปรับตัวได้ กลับมาแข่งขันได้ ภาคการเงินในประเทศดีขึ้น ดอกเบี้ยต่ำ การลงทุนเพิ่มขึ้น
เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น ทุนสำรองของประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ ฯลฯ

เมื่อสถานการณ์ประเทศไทยดีขึ้น จนถึงช่วงกลางปี 2543 (รัฐบาลชวน) จึงได้ตกลงเลิกกู้จากไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด
1 ปี จากเดิมที่เคยกำหนดว่าจะทยอยรับเงินกู้เรื่อยๆ ไปจนถึงงวดสุดท้าย ณ กลางปี 2544 ที่จะทำให้มีกำหนดชำระหนี้
งวดสุดท้าย ณ กลางปี 2547 (กำหนดชำระ 3 ปี)

แต่เมื่อกู้เงินน้อยลง โดยเลิกรับเงินกู้เร็วขึ้น 1 ปี กำหนดการชำระเงินกู้งวดสุดท้ายย่อมเร็วขึ้น 1 ปี ตามไปด้วย
เพราะฉะนั้น กำหนดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ งวดสุดท้าย จึงเร็วขึ้น จากกลางปี 2547 เหลือเพียงกลางปี 2546
ประเทศไทยก็จะหมดหนี้ไอเอ็มเอฟ (ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล)

5) กลางปี 2546 เมื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" คุยโอ่ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ว่าตนเองเป็นผู้ช่วยให้ประเทศไทย
ปลดหนี้ไอเอ็มเอฟก่อนกำหนดถึง 2 ปี และมีการนำไปขยายผลว่าถ้าไม่ใช่ทักษิณประเทศไทยจะไม่มีทางใช้หนี้
ไอเอ็มเอฟได้เช่นนี้ จึงเป็นเพียงลูกไม้ เล่ห์เหลี่ยม ปลุกระดม หาเสียงทางการเมือง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ของตนเอง อย่างน่าเวทนา

ประชาชนคนไทยที่ทนทุกข์ตลอดช่วงเวลาวิกฤติต่างหาก คือ วีรบุรุษ ช่วยกันกอบกู้วิกฤติของชาติ ในขณะที่
"ทักษิณ" ซึ่งมีสัมพันธ์เชิงลึกกับรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ประกาศลดค่าเงินบาทนั้น กลับไม่ได้รับผลกระทบเหมือน
คนอื่นๆ เพราะได้ล่วงรู้ข้อมูลสำคัญล่วงหน้า

6) ที่ไม่รู้จักอายก็คือ จนถึงบัดนี้ ก็ยังมีการพยายามลวงหลอกประชาชนคนไทยด้วยเรื่องลวงๆ พรรค์อย่างนี้ต่อไปอีก
เพียงหวังจะสร้างภาพลวงว่า ทักษิณเก่งกาจ เลอเลิศ ต่างๆ นานา เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนตัวของคนที่
หลบหนีคดีทุจริตโกงกินบ้านเมือง

เลิกคิด เลิกคุย เลิกโกหก เพื่อสร้างความสับสนวุ่นวายในประเทศได้แล้ว

ความจริง คือ ไม่มีทักษิณ ประเทศไทยก็รอดพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 ! และไม่มีทักษิณ ประเทศไทย
ก็สามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ !

ตรงกันข้าม หากไม่มีทักษิณ ประเทศชาติอาจจะไม่ต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้เสียด้วยซ้ำ !

สารส้ม
วันที่ 13/3/2009
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby Matahari » Sun Mar 15, 2009 8:02 pm

คิดแล้ว ก็นึกถึงรายการจำไม่ได้ว่า......ทักษิณคุยโม้คุยโอ่ ว่าเก่ง ก็เมือสนิทกับดุไบเจ้าครองนคร ได้ข่าวว่าดุไบกำลังแย่ เพราะว่ามุ่งสร้างอสังหาริมทรัพย์ เหลียมเก่งแก่ปัญหาดุไบก่อนเถอะ เมือมีเวลา และโอกาส ใกล้ตัว ทำไมไม่แสดงความเก่งให้พวกรากหญ้าหางแดงได้ดุละ จริงมะนาย Savor
***********************************************************
User avatar
Matahari
 
Posts: 2405
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:30 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby พายุ » Tue Mar 17, 2009 4:52 pm

แหม.. พี่ๆ ก็กระหน่ำความจริงใส่มากันใหญ่เลย

รับม่ายด้ายยยย :lol: :lol:
" คนที่พูดคำว่า จงรักภักดี คำที่ดีที่สุดคือ สติ เหนือสิ่งอื่นใด ทุกวันนี้สติหด หาย ขาด ถ้ามีสติ มีศีล มีปัญญา ฉลาดรอบคอบ ก็ไม่ทำให้ใครเดือด ร้อน เพราะฉะนั้น คนในสังคมต้องมีสติ อย่าขาดสติ จะให้เราเข้าใจที่สุด"
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
User avatar
พายุ
 
Posts: 3977
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:33 am

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby ตับเหล็ก. » Tue Mar 17, 2009 8:24 pm

กู้เงินเก่งมาก.....ล่าสุดจะกู้อีก 1.4ล้านๆ

1,400,000,000,000 ......พวกเราจะเป็นหนี้เพิ่มคนละ 20000 สองหมื่นบาทไทย


“อภิสิทธิ์”เผยทีมเศรษฐกิจหารือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจกรอบ 2-3 ปี ทำโครงสร้างพื้นฐาน เจรจากู้เงิน ตปท. 1.4 ล้านล้าน เผยตัวเลขรายได้ต่ำกว่าเป้าพุ่งสูง 1.5 แสนล้าน แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวติดลบน้อยลง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเป็นประธานการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเรียกหารือ ครม.เศรษฐกิจในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ( 17 มี.ค.) ว่า ที่มีการดูกันเป็นเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นกรอบ 2-3 ปี หลังจากที่ทำรอบแรกแล้ว ก็จะมีเรื่องการที่จะไปเจรจากู้เงิน จากต่างประเทศก็กำลังดูในเรื่องการลงทุนลักษณะโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมกรอบ เวลา 2-3 ปี คือปีงบประมาณ 2554 ก็จะมีวงเงินใน 3 ปี ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ตกปีละประมาณ 5 แสนล้าน ขณะนี้กำลังดูในรายละเอียดอยู่ ก็จะมีทั้งโครงการในส่วนของคมนาคม แหล่งน้ำ โรงเรียน สาธารณสุข ที่อยู่อาศัย


ได้แจก 2000 เป็นหนี้ 20000
User avatar
ตับเหล็ก.
 
Posts: 405
Joined: Wed Jan 07, 2009 10:11 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby ppneer » Tue Mar 17, 2009 9:34 pm

ตับเหล็ก. wrote:กู้เงินเก่งมาก.....ล่าสุดจะกู้อีก 1.4ล้านๆ

1,400,000,000,000 ......พวกเราจะเป็นหนี้เพิ่มคนละ 20000 สองหมื่นบาทไทย


“อภิสิทธิ์”เผยทีมเศรษฐกิจหารือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจกรอบ 2-3 ปี ทำโครงสร้างพื้นฐาน เจรจากู้เงิน ตปท. 1.4 ล้านล้าน เผยตัวเลขรายได้ต่ำกว่าเป้าพุ่งสูง 1.5 แสนล้าน แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวติดลบน้อยลง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเป็นประธานการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเรียกหารือ ครม.เศรษฐกิจในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ( 17 มี.ค.) ว่า ที่มีการดูกันเป็นเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นกรอบ 2-3 ปี หลังจากที่ทำรอบแรกแล้ว ก็จะมีเรื่องการที่จะไปเจรจากู้เงิน จากต่างประเทศก็กำลังดูในเรื่องการลงทุนลักษณะโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมกรอบ เวลา 2-3 ปี คือปีงบประมาณ 2554 ก็จะมีวงเงินใน 3 ปี ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ตกปีละประมาณ 5 แสนล้าน ขณะนี้กำลังดูในรายละเอียดอยู่ ก็จะมีทั้งโครงการในส่วนของคมนาคม แหล่งน้ำ โรงเรียน สาธารณสุข ที่อยู่อาศัย


ได้แจก 2000 เป็นหนี้ 20000


55555555555


ไอ้ตับเล็กหมึงศึกษามาก่อนดีกว่ามั้ง


ทำไมเขาถึงกู้ พ่อหมึงทั้ง 3 คนทำหนี้ไว้ทั้งเท่าไหร่
ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิต

ใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว
User avatar
ppneer
 
Posts: 3382
Joined: Mon Jan 19, 2009 2:59 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby ตับเหล็ก. » Tue Mar 17, 2009 9:48 pm

ppneer wrote:
ตับเหล็ก. wrote:กู้เงินเก่งมาก.....ล่าสุดจะกู้อีก 1.4ล้านๆ

1,400,000,000,000 ......พวกเราจะเป็นหนี้เพิ่มคนละ 20000 สองหมื่นบาทไทย


“อภิสิทธิ์”เผยทีมเศรษฐกิจหารือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจกรอบ 2-3 ปี ทำโครงสร้างพื้นฐาน เจรจากู้เงิน ตปท. 1.4 ล้านล้าน เผยตัวเลขรายได้ต่ำกว่าเป้าพุ่งสูง 1.5 แสนล้าน แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวติดลบน้อยลง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเป็นประธานการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเรียกหารือ ครม.เศรษฐกิจในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ( 17 มี.ค.) ว่า ที่มีการดูกันเป็นเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นกรอบ 2-3 ปี หลังจากที่ทำรอบแรกแล้ว ก็จะมีเรื่องการที่จะไปเจรจากู้เงิน จากต่างประเทศก็กำลังดูในเรื่องการลงทุนลักษณะโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมกรอบ เวลา 2-3 ปี คือปีงบประมาณ 2554 ก็จะมีวงเงินใน 3 ปี ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ตกปีละประมาณ 5 แสนล้าน ขณะนี้กำลังดูในรายละเอียดอยู่ ก็จะมีทั้งโครงการในส่วนของคมนาคม แหล่งน้ำ โรงเรียน สาธารณสุข ที่อยู่อาศัย


ได้แจก 2000 เป็นหนี้ 20000


55555555555


ไอ้ตับเล็กหมึงศึกษามาก่อนดีกว่ามั้ง


ทำไมเขาถึงกู้ พ่อหมึงทั้ง 3 คนทำหนี้ไว้ทั้งเท่าไหร่


พ่อคุณสิทำหนี้ไว้....อิอิ

สมัยก่อนชวนกู้IMF เป็นหนี้เขา ทักษิณมาใช้ให้...ไม่เคยเห็นทักษิณเหน็บชวนเลย
พอมาร์คมาเป็นนายกก็อ้างว่ารัฐบาลเก่าทำเสียไว้ถึงต้องกู้
...อย่างว่า ...คิดไม่เป็นหาเงินไม่เป็นก็ต้องกู้อย่างเดียว....หรือจะเถียงว่า ชวน มาร์ค หาเงินเป็น
ถ้าหาเป็นทำไมต้องกู้...ทักษิณเข้ามาไม่เห็นต้องกู้ใครเลย.....ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
User avatar
ตับเหล็ก.
 
Posts: 405
Joined: Wed Jan 07, 2009 10:11 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby ตับเหล็ก. » Tue Mar 17, 2009 9:51 pm

แล้วอีกอย่าง ลองไปศึกษามาก่อนว่าที่ต้องกู้จุดเริ่มต้นมาจากใครที่ทำเศรษฐกิจชิบหาย

ถ้าไม่ใช่การรัฐประหาร
User avatar
ตับเหล็ก.
 
Posts: 405
Joined: Wed Jan 07, 2009 10:11 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby ppneer » Tue Mar 17, 2009 9:53 pm

ตับเหล็ก. wrote:
ppneer wrote:
ตับเหล็ก. wrote:กู้เงินเก่งมาก.....ล่าสุดจะกู้อีก 1.4ล้านๆ

1,400,000,000,000 ......พวกเราจะเป็นหนี้เพิ่มคนละ 20000 สองหมื่นบาทไทย


“อภิสิทธิ์”เผยทีมเศรษฐกิจหารือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจกรอบ 2-3 ปี ทำโครงสร้างพื้นฐาน เจรจากู้เงิน ตปท. 1.4 ล้านล้าน เผยตัวเลขรายได้ต่ำกว่าเป้าพุ่งสูง 1.5 แสนล้าน แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวติดลบน้อยลง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเป็นประธานการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเรียกหารือ ครม.เศรษฐกิจในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ( 17 มี.ค.) ว่า ที่มีการดูกันเป็นเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นกรอบ 2-3 ปี หลังจากที่ทำรอบแรกแล้ว ก็จะมีเรื่องการที่จะไปเจรจากู้เงิน จากต่างประเทศก็กำลังดูในเรื่องการลงทุนลักษณะโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมกรอบ เวลา 2-3 ปี คือปีงบประมาณ 2554 ก็จะมีวงเงินใน 3 ปี ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ตกปีละประมาณ 5 แสนล้าน ขณะนี้กำลังดูในรายละเอียดอยู่ ก็จะมีทั้งโครงการในส่วนของคมนาคม แหล่งน้ำ โรงเรียน สาธารณสุข ที่อยู่อาศัย


ได้แจก 2000 เป็นหนี้ 20000


55555555555


ไอ้ตับเล็กหมึงศึกษามาก่อนดีกว่ามั้ง


ทำไมเขาถึงกู้ พ่อหมึงทั้ง 3 คนทำหนี้ไว้ทั้งเท่าไหร่


พ่อคุณสิทำหนี้ไว้....อิอิ

สมัยก่อนชวนกู้IMF เป็นหนี้เขา ทักษิณมาใช้ให้...ไม่เคยเห็นทักษิณเหน็บชวนเลย
พอมาร์คมาเป็นนายกก็อ้างว่ารัฐบาลเก่าทำเสียไว้ถึงต้องกู้
...อย่างว่า ...คิดไม่เป็นหาเงินไม่เป็นก็ต้องกู้อย่างเดียว....หรือจะเถียงว่า ชวน มาร์ค หาเงินเป็น
ถ้าหาเป็นทำไมต้องกู้...ทักษิณเข้ามาไม่เห็นต้องกู้ใครเลย.....ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ





หมึงก็ควายวันยันค่ำ หมึงเข้ากระทู้นี้หมึงอ่านรายละเอียงมั้งมั่ย


อึม. *** บอกซิหมึงอ่านมั้งม่าย
ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิต

ใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว
User avatar
ppneer
 
Posts: 3382
Joined: Mon Jan 19, 2009 2:59 pm

Re: พี่ๆเสรีไทย ช่วยบอกข้อดีของพรรคปชป ให้ฟังหน่อยได้มั๊ยคะ

Postby ตับเหล็ก. » Tue Mar 17, 2009 9:56 pm

“อภิสิทธิ์”เผยทีมเศรษฐกิจหารือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจกรอบ 2-3 ปี ทำโครงสร้างพื้นฐาน เจรจากู้เงิน ตปท. 1.4 ล้านล้าน เผยตัวเลขรายได้ต่ำกว่าเป้าพุ่งสูง 1.5 แสนล้าน แต่ตัวเลขนักท่องเที่ยวติดลบน้อยลง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเป็นประธานการประชุม ครม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเรียกหารือ ครม.เศรษฐกิจในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ( 17 มี.ค.) ว่า ที่มีการดูกันเป็นเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นกรอบ 2-3 ปี หลังจากที่ทำรอบแรกแล้ว ก็จะมีเรื่องการที่จะไปเจรจากู้เงิน จากต่างประเทศก็กำลังดูในเรื่องการลงทุนลักษณะโครงสร้างพื้นฐานครอบคลุมกรอบ เวลา 2-3 ปี คือปีงบประมาณ 2554 ก็จะมีวงเงินใน 3 ปี ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่จะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ตกปีละประมาณ 5 แสนล้าน ขณะนี้กำลังดูในรายละเอียดอยู่ ก็จะมีทั้งโครงการในส่วนของคมนาคม แหล่งน้ำ โรงเรียน สาธารณสุข ที่อยู่อาศัย

“ทั้งนี้ โครงการต่างๆที่จะดำเนินการไม่ได้ทำในลักษณะของเม็กะโปรเจคซ์ แต่ถ้ารวมกันก็จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับโรงเรียนหรือโรงพยาบาล ก็ไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่แต่เป็นโครงการจำนวนมากที่กระจายตามพื้นที่ต่างๆ รวมแล้วก็เป็นวงเงินที่ค่อนข้างใหญ่ ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้ สื่อข่าวถามว่าตัวเลขเงิน 1.4 ล้านล้านบาทเป็นตัวเลขในกรอบเดิมหรือตัวเลขใหม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดิมยังไม่มี ส่วนนี้เป็นมาตรการที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ทีได้ไปเดินสายพูดคุยกับเจ้ากระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับแผนการลงทุนทั้ง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข

เมื่อถามว่าโครงการที่จะทำดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นกรอบที่จะใช้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มเงินลงทุนในภาวะซึ่งเราคาดการณ์ว่าการลงทุนจากต่าง ประเทศและเรื่องการส่งออกยังมีปัญหาอยู่ เมื่อถามว่ากรอบวงเงินงบประมาณในปี 2554 มีการกำหนดเป้าหมายไว้อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ดู 3 ปี ก่อนจากนั้นก็จะมาซอยย่อยย้อนกลับมาเป็นแต่ละปี

เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์กันถึงปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องเร่งดูอย่างต่อเนื่องในกรอบ 2-3 ปี

ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของกระทรวงการคลังได้เสนอให้มีการขยายเพดานเงินกู้ที่ จะมีการออกกฎหมายด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี จะเอาส่วนนี้เป็นตัวตั้งก่อนว่าความต้องการในการใช้เงินที่เราคิดว่าจะทำให้ เศรษฐกิจไปได้เท่าไหร่ หลังจากนั้นก็จะย้อนกลับมาดูประมาณการณ์ในเรื่องการขยายตัว เรื่องรายได้ที่เป็นภาษีอากรและดูกรอบของกฎหมายจากนั้นก็จะมาดูกันอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการกันอย่างไร เมื่อถามว่าแต่ตอนนี้การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าครึ่งหนึ่งที่มีการประมาณ การไว้ จำเป็นจต้องออกกฎหมายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “รายได้ขณะนี้ซึ่งเดิมประมาณการว่าจะต่ำกว่าเป้าประมาณแสนล้าน ก็คิดว่าอาจจะวิ่งไปถึงแสนห้าหรือมากกว่าแสนห้า แต่ตรงนี้ยังดูตัวเลขการบริหารจัดการงบประมาณ และเงินคงคลังได้อยู่ แต่ที่ต้องดูต่อไปก็คืออีก 2 ปี ข้างหน้า ”

ต่อข้อถามว่าจำเป็นต้องหาเงินมาชดเชยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการหรือเช้าวันเดียวกันนี้ก็ดูกรอบตรงนี้ และทำความเข้าใจตรงกันในทุกหน่วยงานซึ่งค่อนข้างจะมีการประเมินสถานการณ์ที่ ตรงกันไม่ว่าจะเป็นสภาพัฒน์ฯ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อถามว่จะพิจารณาความจำเป็นอย่างไรเกี่ยวกับแก้กฎหมายขยายเพดานเงินกู้เพราะ อาจเป็นจุดอ่อนไหวได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องยึดหลักโดยดูมาตรฐานสากลในเรื่องของหนี้สาธารณะและไม่น่าที่จะเป็น เปลี่ยนกติกาถาวร หมายความว่ากฎหมายวิธีการงบประมาณก็ไม่ควรจะไปแก้ซึ่งตอนนี้ก็กำลังพิจารณา อยู่ โดยจะเริ่มจากการเอาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 ปี เข้าครม.เศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า

เมื่อถามว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่นี้จะมีการเพิ่มการจ้างงานได้มากน้อยเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงรายละเอียดไปถึงตัวเลข

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลจะใช้เงินงบหลายร้อยล้านบาทในการฟื้นฟูภาพ ลักษณ์ประเทศ ว่า ตนยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว แต่สำหรับงบประมาณ 400 ล้านที่มีการพูดกันนั้นก็เป็นงบของเดิมที่มีอยู่ เป็นงบประมาณเพิ่มเติมซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกันในลักษณะบูรณาการทั้ง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยว กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งไม่มีอะไรใหม่ตอนนี้ที่กำลังดูคือกรอบการลงทุนภาครัฐใน 3 ปีข้างหน้า

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเชิญสื่อมวลชนอาชีพระดับโลกมาใช้งบประมาณส่วนนี้ ด้วยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีคณะกรรมการที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอยู่ แต่เราจะพยายามดึงในส่วนขงอนักลงทุนหรือนักธุรกิจที่เดินทางอยู่มาทางนี้ ก่อน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจากการประเมินสถานเศรษฐกิจ ขณะนี้ทุกคนยังกังวลอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษบกิจสหรัฐฯ เพราะฉะนั้นวิธีที่เราพยายามทำก็คือลองคำนวนดูว่าถ้าการค้าโลกลดลงไปเท่านี้ รายได้จากการส่งออกจะหายไปเท่าไหร่ และจะต้องมีเงินในลักษณะของการกระตุ้นเศรษฐกิจลงไปชดเชยเท่าไหร่ และควรทำในเรื่องอะไร

ส่วนการท่องเที่ยวตัวเลขล่าสุดของนักท่องเที่ยวต่างประทศดูจะดีขึ้นจาก เดิมที่จะติดลบประมาณร้อยละ 18-20 ล่าสุดติดลบน้อยลง อยู่ที่ประมาณติดลบร้อยละ 10.5 ซึ่งตัวเลขท่องเที่ยวที่ดีขึ้นนั้นก็มาจากเริ่มที่จะมีการฟื้นตัวและแหล่ง ท่องเที่ยวในประเทศไทยคนยังให้ความสนใจอยู่มาก ซึ่งที่ผ่านมาเราก็พยายามทำงาน กระทรวงท่องเที่ยวก็พยายามสร้างความมั่นใจและดึงดูดในทุกภูมิภาค อย่างที่ไปอังกฤษมาทางกระทรวงการท่องเที่ยวก็ไปทั้งอังกฤษ เยอรมัน สเปน และมีการดึงสื่อมวลชนเข้ามาและตนก็ได้มีโอกาสได้พบปะด้วย


คิดอะไรไม่ออกก็กู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

........อ้อ..แล้วถามอีกเรื่อง

ทำไมเช็คที่แจกต้องผ่านธนาคารกรุงเทพผู้สนับสนุนหลักพันธมิตร?

ใครได้...อิอิ ทำไมไม่ผ่านธนาคารกรุงไทยของรัฐบาล?
User avatar
ตับเหล็ก.
 
Posts: 405
Joined: Wed Jan 07, 2009 10:11 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron