อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Sat Jul 18, 2009 11:16 am

หลังจากที่ศาลโลกวินิจฉัยยกตัวปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาเมื่อปี 2505 รัฐบาลไทยถือเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่จะไม่ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนแหล่งโบราณสถานบนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกต่อยูเนสโกตามลำพัง
เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อพื้นที่รอบตัวปราสาทพระวิหาร ที่ไทยถือว่ายังมีอธิปไตยเหนือพื้นที่ดังกล่าวอย่างสมบูรณ์

จนกระทั่งถึงรัฐบาลทักษิณ (2544-2549) เมื่อกัมพูชาสามารถขอให้ยูเนสโกพิจารณาขอขึ้นทะเบียนแหล่งโบราณคดีพระวิหารเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2549 ดังปรากฏในวาระการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 31 ในกลางปี 2550 แต่ก็ไม่พบหลักฐานว่าไทยได้ให้การสนับสนับสนุนข้อเสนอของกัมพูชาดังกล่าว แต่เป็นที่เข้าใจได้เพราะรัฐบาลทักษิณถูกยึดอนาจไปเสียก่อนหน้านั้น แต่คณะกรรมการมรดกโลกถือว่าเป็นข้อเสนอ "สืบเนื่อง" ไปพิจารณาครั้งต่อไปได้

เกิดคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชา รัฐบาล "นอมินี" ของอดีตนายกทักษิณ(มกราคม - กันยายน 2551) และยูเนสโกระหว่างกลางปี 2550 ถึงกลางปี 2551 อะไรคือแถลงการณ์ร่วมอัปยศลงวันที่ 18 มิถุนายน 2551 ในขณะที่ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสมัครว่าวิเทโศบายดังกล่าวเสี่ยงต่อการที่ไทยจะเสียดินแดน
และสุดท้าย ณ วันนี้ ไทยมีความคืบหน้าอะไรในความพยายามทำความเข้าใจกับกัมพูชาและยูเนสโก เพื่อหาทางลดความตึงเครียดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สัมพันธภาพของประเทศทั้งสองจะกลับมามีไมตรีต่อกันดังเดิมได้หรือไม่ เพียงไร นับแต่เสื่อมทรามลงเพราะปัญหามรดกโลกนี้
Last edited by อารยา on Wed Aug 26, 2009 5:13 pm, edited 12 times in total.
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby ScaRECroW » Sat Jul 18, 2009 11:24 am

น่าจะใครเป็นแกนนำทำเพ็ทติชั่น รวมกันลงชื่อ แล้วส่งไปประท้วงยูเนสโก้ ให้เป็นเรื่องเป็นราว นะครับ
הִנֵּה מַה טוֹב וּמַה נָּעִים שֶׁבֶת אָחִים גַּם יַחַד
Hine (y)ma tov u’manayim Shevet akh-im gam ya-khad
How good and pleasant it is when brothers live together in harmony.

Just give 'em enough rope and they will hang themselve.
User avatar
ScaRECroW
 
Posts: 493
Joined: Tue Dec 30, 2008 1:58 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby แดง ขาว น้ำเงิน » Sat Jul 18, 2009 11:51 am

ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วว่าต้องการ

ความแข็งกร้าวจากรัฐบาลไทยในเวทีโลกเสียที

บทบาททุกวันนี้มันไม่ค่อยจะน่าภาคภูมิใจเอาเสียเลย หงอไปทุกประเทศ
"ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือคนโง่ ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือทาส" เพลโต้
User avatar
แดง ขาว น้ำเงิน
Moderator
 
Posts: 4943
Joined: Thu Feb 12, 2009 4:07 pm
Location: Earth

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อธิฏฐาน » Sat Jul 18, 2009 11:54 am

ไทยไม่ได้ใกล้เสียดินแดนหรอกค่ะ แต่มีความพยายามของบุคคลบางกลุ่มที่พยายามชี้ให้เห็นว่า
ดินแดนนั้นเป็นของเขมรมาก่อน

ไม่ทราบว่ามันเป็นคนไทยหรือเปล่าเพราะว่าปราสาทมันยังเขียนไม่ถูกเลย


ผมว่า กว่าครึ่งหนึ่ง คนไทย ไม่เคยรู้ว่า ปราสาจ เขาพระวิหาร เป็นของเขมรมาก่อน

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P809535พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส4/P8095354.html
User avatar
อธิฏฐาน
 
Posts: 3001
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:18 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Jseventh » Sat Jul 18, 2009 12:43 pm

อธิฏฐาน wrote:
ไทยไม่ได้ใกล้เสียดินแดนหรอกค่ะ แต่มีความพยายามของบุคคลบางกลุ่มที่พยายามชี้ให้เห็นว่า
ดินแดนนั้นเป็นของเขมรมาก่อน

ไม่ทราบว่ามันเป็นคนไทยหรือเปล่าเพราะว่าปราสาทมันยังเขียนไม่ถูกเลย


ผมว่า กว่าครึ่งหนึ่ง คนไทย ไม่เคยรู้ว่า ปราสาจ เขาพระวิหาร เป็นของเขมรมาก่อน

http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P809535พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส4/P8095354.html


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P8095354/P8095354.html

น่าชื่นชมคนกัมพูชานะคะ..
อย่างน้อยๆ เท่าที่เคยได้ยินได้ฟังจากสกู๊ปข่าวต่างๆ เขายังแสดงออกถึงความรักชาติ หรือความเป็นชาตินิยมอย่างไม่มีข้อกังขา!..พวกเขาคิดเพื่อประเทศของตน แม้ในบางครั้งจะแสดงออกมาด้วยท่าทีไม่เป็นมิตรกับฝ่ายเรา..ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของความขัดแย้งระหว่างประเทศ

แต่กับคนไทยบางกลุ่ม กลับแสดงออกตรงข้ามกัน
เป็นทนายแก้ต่ีางให้เขาไปซะหมดทุกอย่าง!..ทำให้พึ่งเข้าใจประโยคที่ว่า "คนไทย ใจเขมร" เป็นอย่างไร! แม้แต่หลักการและเหตุผลใดที่ฟังขึ้นของฝ่ายไทย พวกเขายังค้านซะหัวชนฝาราวกับเป็นคนกัมพูชามาร่วมวงเจรจาพูดคุยเสียเอง!

สรุปว่า หากทั้งสองฝ่ายได้พยายามหาทางเจรจาประนีประนอมในปัญหาปักปันเขตแดนด้วย มาตรการที่โปร่งใส มีหลักเกณฑ์สากล และด้วยสันติวิธี ความสัมพันธ์ที่เคยมีไมตรีต่อกันมา ก็น่าจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาดังเดิม


ดิฉันสนับสนุนแนวทางสันติวิธีค่ะ..ไม่อยากให้ถึงขั้นรบกัน
ยังหวังและยังเชื่อเช่นกันว่า น่าจะเจรจากันบนพื้นฐานของข้อมูลและเหตุผลได้
แต่ไทยเราต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนและเข้มแข็งเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงจะแก้ปัญหาได้
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเทวาหรือซาตาน มนุษย์เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด
User avatar
Jseventh
 
Posts: 1741
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:19 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Jseventh » Sat Jul 18, 2009 1:03 pm

ขออภัยคุณอารยาด้วย ถ้าหากงานเขียนด้านล่างไม่ค่อยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับกระทู้
แต่ดิฉันพึ่งไปอ่านเจอมา และรู้สึกว่ามันเกี่ยวกับท่าทีและพฤติกรรมของคนไทยที่มีต่อปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบัน อาทิเช่น ประเด็นเขาพระวิหาร..

เครดิต : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=howkky&group=4
ขอบคุณ..คุณ howk_ky

กรุงแตก

เคย คิดเล่นๆว่า ทำไมน้า กรุงศีอยุธยาถึงถูกพม่าตีแตก มันเป็นความรู้สึกที่ว่า เพราะอะไรกันแน่ เราถึงต้องเป็นประเทศราชพม่าถึง 2 ครั้ง

เราถูกสอนว่าในห้องเรียนประวัติศาสตร์ว่า "เพราะเราขาดความสามัคคี เราถึงต้องเสียบ้านเสียเมือง" ไม่เถียงหรอกว่านั่นไม่จริง ใช่!!! มันคือความจริงว่า เราแตกความสามัคคี แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุเริ่มแรกหรอก

ในทางพระพุทธศาสนา เรารู้กันว่า สิ่งนี้ก่อให้เกิดสิ่งนั้น ตามหลักปฏิจสมุปบาท ถ้าการแตกความสามัคคีทำให้เราต้องเสียกรุง แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้เกิดการแตกความสามัคคี

หลังจากใช้รอยหยักในสมองอันน้อยนิดคิดและประมวลผลออกมาแล้ว ทำให้ได้คำตอบว่า "เพราะความคิดเห็นของคนในชาติที่แตกต่างกันนั่นเอง ที่ทำให้เราแตกความสามัคคี" ให้มองในแง่ดีที่สุด เมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 เป็นเพราะสมเด็จพระมหาธรรมราชากับสมเด็จพระมหินทร์ไม่ถูกกัน มีความคิดเห็นไปคนละทาง ไม่ต้องมองในแง่ร้ายถึงขั้นที่ว่า มีบุคคลในชาติไม่ประสงค์ดีต่อแผ่นดินแม่ของตัวเองก็ได้

เรา ไม่อาจจะรู้ได้ว่า ใครมีความคิดหรือความต้องการอย่างไร และเพื่ออะไร แต่การกระทำและผลที่แสดงออกในภายหลังจะเป็นคำตอบเองว่า แท้ที่จริงแล้ว คุณมีความจริงใจต่อประเทศชาติมากแค่ไหน ใครจะคิดอย่างไรก็ตาม เชื่อเถอะว่า ทั้งสมเด็จพระมหาธรรมราชาและสมเด็จพระมหินทร์ต่างก็รักชาติทั้งสองพระองค์ ทรงอยุ่ในฐานะของพระมหากษัตริย์ของเรา ทำทุกๆอย่างเพื่อบ้านเมือง เพื่อกรุงศรีอยุธยา วิธีการอาจจะต่างกัน ผลลัพท์อาจจะต่างกัน แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตารมณ์ที่แท้จริงที่ทั้งสองพระองค์มีต่อกรุง ศรีอยุธยา

เราอาจจะรบจนตัวตาย ไม่ยอมแม้จะก้มหัวเพื่อรักษาชีวิต ก็เพราะความรักชาติยิ่งชีพ อย่างที่สมเด็จพระมหินทร์ทรงมี

เราอาจจะยอมก้มหัว เสียเกียรติ เพื่อรอวันเอาคืน ก็เพราะความรักชาติยิ่งเกียรติศักดิ์ อย่างที่สมเด็จพระมหาธรรมราชาทรงเป็น

อย่างไหนล่ะ ที่ถูกต้อง เราไม่อาจตัดสินได้ เพราะมันก็เป็นเพียงวิ๔ีทางที่ต่างคนต่างเลือกเดิน เลือกทำ

ครั้งแตกครั้งที่ 2 อาจเป็นเรื่องราวที่ทำให้หลายคนสะเทือนใจ "เราไม่ได้แพ้ เพราะเราประมาทเพียงอย่างเดียว เราขาดความสามัคคี แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น เราขาดอุดมการณ์ในการรักษาบ้านเมืองร่วมกัน"

ต่าง คนต่างก็คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง ผลประโยชน์ของตัวเอง ทางรอดตายของตัวเอง แต่ในครั้งนั้นก็ยังโชคดีที่ยังมีกลุ่มคนที่กล้าหาญฉุดเราขึ้นมาจากเหวลึก ที่มืดมน ทำให้เรากลับมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้ง ถึงแม้จะต้องถึงจุดสิ้นสุดแห่งกรุงศรีอยุธยา แต่ความเป็นไทยก็มิได้จางหายไป มันยังคงอาบอยู่ในเนื้อหนัง ไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดคนทุกคนจนถึงวันนี้ อย่างน้อย เราก็สามารถรักษาเผ่าพันธุ์และแผ่นดินของเราไว้ได้ ไม่ต้องสูญสิ้นชาติ ไร้แผ่นดินอย่างเช่นหลายเผ่าพันธุ์บนโลกใบนี้ ดังนั้น เราควรจะภูมิใจและระลึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษของเราให้มาก

หาก เมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 เราไม่มีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้ทรงเติบใหญ่มาพร้อมกับพระราชภารกิจกอบกู้ชาติบ้านเมือง วันนี้ เราจะสามารถเรียกตัวเองว่า "คนไทย" ได้หรือ เราจะยังมีแผ่นดิน"ของเรา"ให้ได้ยืนเต็มฝ่าเท้าหรือ เราจะยังมีฟ้า"เืมืองไทย"ให้มองอีกหรือ

หาก เมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 2 เราไม่มีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ผู้ทรงมุ่งมั่นจะกอบกู้เอกราชของเราคืนมา วันนี้ เราจะมีกรุงรัตนโกสินทร์ เราจะได้เห็นวัดพระแก้วอันงดงาม เราจะได้ร้องเพลงชาติไทยตอน 8 โมงเช้า เราจะยังได้ยินเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์หรือ และที่สำคัญ เราจะได้รับการปลดปล่อยจากทาสให้เป็นไท และประชาธิปไตยที่เราบูชากันนักได้อย่างไร

กรุงแตกทั้ง 2 ครั้ง เรามีผู้มากอบกู้ ฉุดเราขึ้นจากความทุกข์ เหมือนที่ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า "กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี" แต่วันนี้กรุงศรีอยุธยาสิ้นสุดยุคสมัยไปแล้ว เราอยู่ในยุคสมัยของกรุงเทพฯ จึงอดไม่ได้ที่จะคิดว่า "แล้วกรุงเทพฯ จะยังเหลือคนดีหรือไม่"

ตั้งแต่ มีกรุงเทพมหานครมากว่า 200 ปี เราจวบเจียนจะล่มกันมาก็หลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น เหตุการณ์ รศ.112 ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่เราเกือบจะต้องเสียกรุงอีกครั้ง แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง และคนไทยผู้มีความรู้ความสามารถในขณะนั้น ที่ร่วมมือกันทำทุกวิถีทางให้เรายังคงธำรงความเป็น"ชาติ"และรักษาความเป็น"ไท"อยู่ ได้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว หรือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ที่หากว่าสมเด็จพระปกเกล้าฯ มิทรงยินยอมแล้ว เลือดไทยคงจะนองทั่วพื้นปฐพีเป็นแน่

อย่างนี้แล้ว เราคงจะเชื่อได้ว่า "กรุงเทพฯ ก็ไม่สิ้นคนดีเช่นกัน"

ในภาวะที่ยากลำบากของบ้านเมืองที่มองไปทางใดก็มีแต่ความขัดแย้ง แล้วจะทำอย่างไรได้ ตอนนี้ เราคงไม่อาจหวังได้หรอกว่า จะมี "คนดีศรีกรุงเทพฯ" มาช่วยกอบกู้สถานการณ์ อย่างเช่น "คนดีศรีอยุธยา" เพราะความซับซ้อนของสถานการณ์มันต่างกันมากนัก ซ้ำยังเป็นการต่อสู้กันเองของคนในชาติที่มิใช่แค่การขาดความสามัคคี แต่มันเป็นภาวะเสื่อมคุณธรรมและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนอย่างหน้ามืดตามัว

ภาวนาเหลือเกินว่า เราจะไม่ต้องเผชิญกับ "กรุงแตก ครั้งที่ 3 ด้วยน้ำมือคนบ้าหน้าเงิน" เพราะครั้งนี้ เราอาจไม่มีใครอาสาเป็น "คนดีศรีกรุงเทพฯ" มากู้บ้านเมือง เพราะคงถูกเงินฟาดหน้ากันจนไม่เหลือความเป็น "คนดีศรีกรุงเทพฯ" อีกแล้ว

นี่ ถ้าคณะราษฎร์รู้ว่าประชาธิปไตยมันยุ่งยากเกินไปสำหรับคนไทย วันที่ 24 มิถุนายน 2475 พวกเขาจะยังทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองกันอยู่มั้ยนะ ???


Create Date : 27 พฤศจิกายน 2551
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเทวาหรือซาตาน มนุษย์เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด
User avatar
Jseventh
 
Posts: 1741
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:19 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Sat Jul 18, 2009 1:48 pm

ScaRECroW wrote:น่าจะใครเป็นแกนนำทำเพ็ทติชั่น รวมกันลงชื่อ แล้วส่งไปประท้วงยูเนสโก้ ให้เป็นเรื่องเป็นราว นะครับ

ผมปรับและอัพเดทกระทู้ไปจนกว่าจะไม่มีใครท้วงติงอะไร เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติที่นายกฯเคยฝากรัฐมนตรีสุวิทย์ไปประท้วงเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา
แต่ไม่มีใครรู้ว่ารัฐมนตรีท่านนั้นไปพบปะกับใครในคณะกรรมการมรดกโลกทั้ง 21 ชาติ เห็นมีแต่ออกข่าวมาก่อนถึงวาระเมื่อวันที่ 26 ว่าล้มเหลวแล้ว รอไปปีหน้าค่อยไปประท้วงที่บราซิลกลางปีหน้าหรืออีก 12 เดือนก็ได้

อย่าคิดว่าเขาไม่รู้นะว่า deadline มันอีกไม่ถึง 6 เดือน จึงพูดเหมือนขาดสติเช่นนั้น
ตรงกันข้าม เพราะเขารู้อย่างดี มีข้อมูลเรื่องที่กรรมการ 7 ชาติจะต้องรับสัมปทานมาทำอย่างไรในเร็วๆนี้ ใกล้วนอุทยานเขาพระวิหารของไทยบนเทือกเขาพนมดงรักต่างหาก รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรแห่งชาติครับ ลืมไปได้ไงว่าต้องดูแลวนอุทยานทั่วราชอาณาจักร

และไม่น่าแปลกใจ หากท่านจะได้พบและคุยกับคณะกรรมการ 7 ชาติ (ไอซีซี): เบลเยียม สหรัฐ ฝรั่งเศส อินเดีย จีน ญี่ปุ่น
ที่สเปนนั้นเรียบร้อยแล้ว

เพิ่งนับได้ 6 ลืมไปครับว่า ไทยอยู่ในนั้นด้วย งานนี้ตามน้ำ เพราะไทยถูกยัดเข้าเป็นหุ้นลม (หุ้นจริง 4 ชาติแรก) ตั้งแต่เดือนกันยา ปี 50 ตอนนั้นบริษัทนี้รับจ้างเขมรทำการประเมินพลิกล๊อกจากที่ ICOMOS ทำไว้ก่อนในปี 2549
อารยา wrote:นาง ฟรังซัวส์ ริเวียเร่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ฯมรดกโลกร่วมมือกับกัมพูชาให้มีการจ้างกลุ่มนักสำรวจโบราณสถานแห่งหนึ่งชื่อ ANPV [Autorite Nationale pour la Protection et le Developpement du site culturel et naturel de Preah Vihear (The National Authority for the Protection and Development of the Preah Vihear Natural and Cultural Site)] ประเมินคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมของแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ซ้ำจากที่ ICOMOS ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้วในปี 2549 [เงื่อนไขความเป็นมรดกโลกของโบราณสถานแห่งนี้จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ 3 Criteria I II IV –ตามมาตรฐานของยูเนสโกเอง]
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Tam-mic-ra » Mon Jul 20, 2009 2:16 am

อนาถา wrote:
ข้อเสนอแนะ
รัฐบาลจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับทั้งกัมพูชาและยูเนสโกว่า ความเข้าใจผิดระหว่างประชาชนและรัฐบาลของทั้งกัมพูชาและไทยนั้น มีสาเหตุเป็นมาอย่างไร ไม่มีฝ่ายใด ไม่ว่าไทย กัมพูชา หรือ แม้แต่ยูเนสโกปราศจากข้อบกพร่องใดๆ แต่เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ด้วยเหตุนี้ ในเบื้องต้นจึงไม่มีทางออกใดดีไปกว่า

1. ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาวันที่ 18 มิถุนายน 2551

2. ยกเลิกมติของคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 32 วันที่ 7 กรกฎาคม 2551

หากทางการไทยมองว่าปล่อยไปเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร ให้เงื่อนเวลาผ่านพ้นไปเอง ผลตามมาจะยิ่งสั่งสมความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา
จนเป็นไปได้ว่าสงครามระหว่างสองประเทศไม่อาจหลีกเลียงได้ และนั่นย่อมมิใช่ทางออกที่ฝ่ายใดปรารถนา

สรุปว่า หากทั้งสองฝ่ายได้พยายามหาทางเจรจาประนีประนอมในปัญหาปักปันเขตแดนด้วยมาตรการที่โปร่งใส มีหลักเกณฑ์สากล และด้วยสันติวิธี ความสัมพันธ์ที่เคยมีไมตรีต่อกันมา ก็น่าจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาดังเดิม

ก็ผมเองยังไม่เชื่อว่าไทยจะต้องเสียดินแดน เพราะถ้าเชื่อเช่นนั้น ก็ไม่มีเหตุที่จะต้องเปิดกระทู้นี้ และก็เพื่อทราบ ไม่ปรารถนาจะตอบโต้ให้เปลืองสมาธิ เออ แต่ถ้าถามว่า ไทยใกล้มีสงครามกับกัมพูชา? บางทีผมอาจจะเชื่อแฮะ เป็นงั้นไป



อารถา มาแนะนำงั่งๆ ไรตอนนี้
ทั้ง 2ประเทศโดย เตช เขาออกแถลงการณ์ร่วม 25 สิงหาคม 2551
เขาไม่ได้นำแถลงการณ์ร่วมนพดลไปใช้ตั้งนานแล้ว
ตกข่าวเหรอไอต๊อง
หรือตั้งใจ จะหลอกพี่น้องคนไทย ไปเรื่อยๆ

ต่อไปนี้ เกิดไรขึ้น ไม่เกี่ยวกับนพดลแล้ว เข้าใจไหม อารถา กร้วก

ไอ้บร้า อารถา
พา งง กันทั้งเวป อีกแล้วครับทั่น

http://news.sanook.com/politic/politic_305717.php
ไทย แจ้ง กัมพูชา แถลงการณ์ร่วมปราสาทพระวิหารสิ้นผล


หลักฐาน
Image


เอาแค่จุดนี้ก่อน จริงๆ อารถา มันมีมั่วหลายจุด
หักหน้าน้อยๆ พอ
เดี๋ยว อารถา อกแตกตายห่าก่อน
ไม่ก็เจ้านายมันมาเจอ อดแดกค่าโพสต์ ไปซะฉิบ
คำว่า "คนฉลาด" ด้วยเพราะคนอื่นเขายกย่อง มิใช่ ยกหางเน่าๆของตัวเอง โดยการโยนยัดใส่คนอื่นว่า โง่
มาดูกัน นักเรียนตลอดชีพแถว่าสมัยแม้วปล่อยเขมรมาสร้างวัด viewtopic.php?f=2&t=37916&p=708131#p707996
User avatar
Tam-mic-ra
 
Posts: 901
Joined: Mon Mar 02, 2009 4:03 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Mon Jul 20, 2009 12:15 pm

:D
Last edited by อารยา on Mon Jul 20, 2009 1:07 pm, edited 1 time in total.
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Mon Jul 20, 2009 12:31 pm

เฮ้อ เศษกระดาษขยะยังใช้เช็ดก้นได้ แต่เศษมนุษย์นอกจากรกโลก หนักแผ่นดินแล้ว ยังก่อมลพิษทางปัญญาไม่จบสิ้น
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Mon Jul 20, 2009 12:55 pm

ในระหว่างนี้ก่อนถึง deadlines ต่างๆที่อยู่ในแถลงการณ์ร่วมฉบับอัปรีย์ คุณ halfmoon เคยให้อุทาหรณ์ไว้ดังนี้

halfmoon Jul 11, 2009 12:44 am viewtopic.php?f=2&t=11478&start=100 wrote:
อย่าง ไรก็ดีแถลงค์การร่วม ไม่ได้ถูกนำไปใช้แล้วนะครับเขมรก็ไม่ได้ใช้ ไม่มีผลใดๆแล้ว เข้าใจจุดนี้ก่อน อนาคตเกิดไรขึ้น จะโทษนภดลไม่ได้


หมายความว่าโจรกระทำการไม่สำเร็จ ก็ไม่ถือว่าเป็นโจรใช่มั๊ยครับ อาจจะคล้ายกับลูกเขยขโมยโฉนดพ่อตายไปขาย แต่ขายไม่ได้ เพราะคู่เขยมาทักไว้ก่อน แถมแม่ยายยังออกโรงปกป้องว่า มันยังไม่ได้ขาย มันขายยังไม่ได้ เพราะยังไง เพราะว่าหลังโฉนดประทับไว้ "ห้ามโอนภายในสิบปี" ดังนั้นมึงอย่ามาเห่า ตอนนี้โฉนดยังอยู่ในมือกู จงเล่าสู่กันฟังต่อไปทั่วประเทศว่าลูกเขยคนเล็กกูไม่ผิด เพราะว่ายังไงมันก็ยังขายไม่สำเร็จตามกฎหมายอย่างนั้นหรือเปล่าครับ
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Mon Jul 20, 2009 1:49 pm

สาระสำคัญใน press release ข้างบนบอกว่า ได้มีการ "แก้ปัญหาความตึงเครียด" ในภารกิจของคุณเตช ในฐานะรัฐมนตรีไปแล้ว เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2551 นั่นคือความก้าวหน้าทางการทูตที่รายงานให้คนไทยทราบ ทางกัมพูชาจะออก press release หรือไม่อย่างไร ก็เป็นเรื่องของเขา

ประเด็นสำคัญคือ
ประการแรก หนังสือของคุณเตชที่มีไปถึงผู้นำกัมพูชา "unilaterally" เป็นการอ้าง "คำกล่าว" จากปาก มิใช่เป็นการอ้างเอกสารที่ยืนยัน เข้าใจ หรือบันทึกช่วยจำที่ลงนามร่วมกัน 2 ฝ่าย (bilaterally) แล้วว่ามีการยกเลิกแถลงการณ์ร่วมฉบับนั้น จึงอย่าตื่นเต้นไปกับ protocol ปกติที่ฝ่ายไทยมีมารยาทเขียนถึงหลังจากได้พบปะกันแล้ว

ประการที่สอง เหตุไรจึงไม่มีการอ้างอิงเอกสารที่ถือว่าเป็นข้อยุติได้ คำอธิบายมีอยู่ในตัวแล้วคือ นายฮอนัมฮงไม่ยินยอมทำเป็นหนังสือว่าจะมิให้แถลงการณ์ร่วม (joint communiqué dated June 18, 2008) นั้นมีผลบังคับใช้ (ตามเงื่อนเวลาต่างๆ เช่น 1 กุมภาพันธ์ 2553)

ประการสุดท้าย ต้องไม่ลืมว่า แถลงการณ์ร่วมที่ลงนามพร้อมกันสามประเทศโดยไม่ได้มานั่งโต๊ะเดียวกันเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 นั้นลงนาม 3 ฝ่าย (tripartite) จึงต้องให้นางฟรังซัวส์มาลงนามรับรู้การไม่บังคับใช้ให้ครบ แค่นายฮอนัมฮงยังไม่พอเลยครับ ทั้งนี้เพื่อล้างแถลงการณ์ร่วมฉบับนั้นโดยสมบูรณ์
เจตนารมณ์ของข้อเสนอแนะในกระทู้นี้ (และคงไม่หยุดแค่นี้ ดีครับ ใครมีอะไรขยายออกมา ผมบอกแล้ว วันสองวันนี้ก็แค่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้น) เป็นเช่นนั้นครับ ส่วนจะทำด้วยวิธีใด หรือมีพิธีการใดที่มีผลตามเจตนาดีกว่านี้ ก็แล้วแต่ทางรัฐบาลไทยจะคิดอ่านเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ก็มีแค่นั้น

อนึ่ง สำเนาหนังสือที่คุณเตชมีถึงกัมพูชาฉบับที่เอ่ยถึงใน press release นี้ สภารับทราบในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของรายงานที่เจ้ากระทรวงต้องเสนอตามกรอบรัฐธรรมนูญมาตรา 190

คงจำได้ว่าคุณเตชตอบรับเป็นรัฐมนตรีขณะอยู่ที่สต๊อกโฮล์ม บินด่วนกลับมาเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม 2551 ถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จสรรพรุ่งขึ้นเช้าก็ปร๋อที่เมืองเสียมเรียบอย่างฉุกละหุก ไม่มีเวลาแจ้งต่อสภาก่อนไปเจรจาความเมืองเรื่องดินแดนเลย รอบ 2 ที่ชะอำในเดือนต่อมาได้มีเวลาแจ้งสภาก่อนว่าจะไปพูดกับกัมพูชางี้ๆนะ จากนั้นก็รายงานว่าได้ทำไปตามที่บอกไว้อย่างไร)

โปรดฟังอีกครั้ง หนังสือที่คุณเตชเขียนถึงทั้งฮุนเซนและฮอนัมฮง ไม่มีเอกสารใดๆ อาทิ "joint statement/ memo/joint communique) ที่ใช้ยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายตกลงยกเลิกแถลงการณ์ร่วมฉบับนั้นแล้ว เป็นเพียงการบอกกล่าวว่าได้ยินว่าท่านพูดอย่างนั้น หากไทยโชคดี จะ มี Reply ตอบยืนยันจากนายฮอนัมฮงว่า "ตกลง" ตามที่ท่านเตชเอ่ยว่าให้มีการยกเลิกแถลงการณ์ร่วม

มีมั๊ยลา

คุณเตชลาออกจากรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2551

press release นี้ออก 2 สัปดาห์หลังจากคุณเตชลาออก

นี่ก็ 9 เดือนผ่านมา เขาตอบมามั๊ยลา

9 ปีหลังจากอดีตรัฐมนตรีสุขุมพันธุ์เขียนประท้วงฮุนเซนเมื่อปี 2543 ให้ย้ายคนออกจากพื้นที่ทับซ้อน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลุกลาม ตามที่ตกลงกันเมื่อปี 2505 หรือ 38 ปีก่อนหน้านั้น จนบัดนี้ยังไม่เคยตอบ ผมก็อยากรู้นักว่าคนอย่างฮุนเซนจะมาตายน้ำตื้นกับเรื่องที่ไม่ต้องออกแรง คนไทยด้วยกันเองก็เป็นไส้ศึกให้อยู่แล้ว
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby arch_freeman » Mon Jul 20, 2009 2:17 pm

จขกท ตั้งกระทู้มีสาระ และ เข้าใจหาข้อมูล ไม่ไร้สาระเหมือนบางพวก

ผมขอร่วมแสดงความเห็นด้วยนะครับ

จุดหมายตอนนี้ ไม่ใช่ ว่าเราจะเอาตัวปราสาทที่แพ้คำตัดสินกลับคืนมา

แต่

ทางกองทัพและรัฐบาล ใช้วิธีการคงกำลังทหาร ในจุดยุทธศาสตร์ที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนรอบๆ ตัวปราสาท เพื่อทำให้เขมรไม่สามารถจัดทำรายงาน แผนพัฒนามรดกโลก ส่ง ยูเนสโกได้ทันตามกำหนด หรือ ทำไม่ได้เลย และ ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ยูเนสโก ก็ต้องถอน เขาพระวิหาร ออกจากทะเบียนมรดกโลก ตามระเบียบข้อบังคับของเขา

หลังจากนั้น ฝ่ายทหารและการเมือง จึง จะเริ่มเจรจาปักปันเขตแดนกับ กัมพูชา ให้เรียบร้อย แล้ว จึงค่อยมาพิจารณาเรื่องการจดทะเบียนร่วมกัน แบบที่ทำ กับ ประเทศลาว

ในขณะที่่คงทหารไว้ ฝ่ายกัมพูชาย่อมแสดงอาการไม่พอใจ รมต ต่างประเทศ มีหน้ารักษาภาพของประเทศไทย ในฐานะ ประเทศที่ไม่ต้องการทำสงครามและยึดแนวทางสันติและการเจรจาเป็นหลัก สรุปคือ เขมรยิ่งอาละวาด เรายิ่งนิ่งแต่คงทหารไว้เฉยๆ เราก็จะได้เปรียบทั้งภาพลักษณ์ และ เป้าหมายที่มุ่งหวัง

นี่ีคือ แผนที่ทางรัฐบาลและทหารเขากำลังทำอยู่ ซึ่งผมคิดว่า ฝ่ายทหารและการเมืองทำถูกต้องแล้วครับ

คงไม่ต้องไปฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล หรือ พันธมิตรบางคนที่ บอกให้ เอา F16 ไปถล่มพนมเปญ แล้ว ส่งกำลังทหารยึดตัวเขาพระวิหาร :lol:
User avatar
arch_freeman
 
Posts: 1254
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:34 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Bookmarks » Mon Jul 20, 2009 3:00 pm

arch_freeman wrote:จขกท ตั้งกระทู้มีสาระ และ เข้าใจหาข้อมูล ไม่ไร้สาระเหมือนบางพวก

ผมขอร่วมแสดงความเห็นด้วยนะครับ

จุดหมายตอนนี้ ไม่ใช่ ว่าเราจะเอาตัวปราสาทที่แพ้คำตัดสินกลับคืนมา

แต่

ทางกองทัพและรัฐบาล ใช้วิธีการคงกำลังทหาร ในจุดยุทธศาสตร์ที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนรอบๆ ตัวปราสาท เพื่อทำให้เขมรไม่สามารถจัดทำรายงาน แผนพัฒนามรดกโลก ส่ง ยูเนสโกได้ทันตามกำหนด หรือ ทำไม่ได้เลย และ ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ยูเนสโก ก็ต้องถอน เขาพระวิหาร ออกจากทะเบียนมรดกโลก ตามระเบียบข้อบังคับของเขา

หลังจากนั้น ฝ่ายทหารและการเมือง จึง จะเริ่มเจรจาปักปันเขตแดนกับ กัมพูชา ให้เรียบร้อย แล้ว จึงค่อยมาพิจารณาเรื่องการจดทะเบียนร่วมกัน แบบที่ทำ กับ ประเทศลาว

ในขณะที่่คงทหารไว้ ฝ่ายกัมพูชาย่อมแสดงอาการไม่พอใจ รมต ต่างประเทศ มีหน้ารักษาภาพของประเทศไทย ในฐานะ ประเทศที่ไม่ต้องการทำสงครามและยึดแนวทางสันติและการเจรจาเป็นหลัก สรุปคือ เขมรยิ่งอาละวาด เรายิ่งนิ่งแต่คงทหารไว้เฉยๆ เราก็จะได้เปรียบทั้งภาพลักษณ์ และ เป้าหมายที่มุ่งหวัง

นี่ีคือ แผนที่ทางรัฐบาลและทหารเขากำลังทำอยู่ ซึ่งผมคิดว่า ฝ่ายทหารและการเมืองทำถูกต้องแล้วครับ

คงไม่ต้องไปฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล หรือ พันธมิตรบางคนที่ บอกให้ เอา F16 ไปถล่มพนมเปญ แล้ว ส่งกำลังทหารยึดตัวเขาพระวิหาร :lol:

ที่ผมอ่านข่าวทั้งไทย และนอก ข่าวคนละเรื่องกันเลย ทหารไทยบอกเขมรยิงก่อน ข่าวออกเฉพาะในไทย แต่เขมรออกสื่อไปทั่วโลก ว่าไทยยิงก่อน แล้วจะรักษาภาพลักษณ์ ยังไงครับ

เคยอ่านข่าวจาก BBC ตอนนั้นเริ่มเกิดกรณีพิพาท และเขมรเข้ามายิงไทย ในสมัยรัฐบาลสมชาย ฝรั่งมันเขียนบอกว่า รัฐบาลเขมรประโคมข่าวไปทั่วโลก ว่าไทยรุกล้ำอาณาเขตมัน และยิงพวกมันก่อน แต่ฝรั่งมันก็แปลกใจ ทำไมฝ่ายรัฐบาลไทยถึงได้เงียบ ไม่ค่อยออกสื่อ หรือตอบโต้อะไรเลย แล้วใครจะเชื่อว่า เขมรยิงไทยก่อน เห็นเร็วๆนี้ เขมรมันก็เรียกสื่อต่างชาติ เข้าไปสังเกตการณ์ อย่างนี้เราแพ้ทางด้านสื่อหรือเปล่าครับ
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Mon Jul 20, 2009 3:58 pm

1. ไทยถือเป็น “วาระแห่งชาติ" ที่จะไม่สนับสนุนให้กัมพูชาได้นำโบราณสถานแห่งนี้ไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวเพราะจะเกิดปัญหาละเมิดอธิปไตย อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เป็นคนแรกที่ฝ่ากฎนี้ระหว่างเยือนฮุนเซนปลายปี 2548 โดยบอกว่าจะไม่ขัด

2. การฝืน “วาระแห่งชาติ” ของทักษิณไม่สำเร็จ เพราะทักษิณหมดอำนาจก่อนมีการประชุมมรดกโลกครั้งที่ 31/2550 คณะตัวแทนไทยที่ไปร่วมประชุมไม่สนับสนุน ทำให้ต้องเลื่อนการพิจารณา ไปอีกปี

3. รายงานการประชุมตาม 2 บันทึกว่าฝ่ายไทยต้องการที่จะร่วมอนุรักษ์โบราณสถานแห่งนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องไม่ผิดปกติเพราะอนุสัญญา JDA (2547) ระบุให้ไทยกับกัมพูชาต้องร่วมมือกันอยู่แล้ว ประเด็นคือ การรายงานว่าฝ่ายไทยให้ "active support" ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่กลับต้องเลื่อนพิจารณาแทนที่จะมีมติได้ทันที หากกัมพูชาได้รับการสนับสนุนจากไทยจริง

4. จึงอนุมานสถานการณ์ตามข้อ 3 ได้ว่า ยูเนสโกน่าจะมีวาระซ่อนเร้น อย่างน้อยเป็นการซื้อเวลาเพื่อสร้างหลักฐานต่างๆเพื่อสนับสนุนกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา (18 มิถุนายน 2551) ก่อนจะนำไปแสดงในที่ประชุมปีต่อไปที่คานาดา (กรกฎคม 2551)
โดยมีนายนภดลในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศขณะนั้นลงนามเอื้อประโยชน์ต่อกัมพูชาตามคำสั่งของอดีตนายกทักษิณ

5. พบในแถลงการณ์ร่วมลงวันที่ 18 มิถุนายน 2551 ว่ายูเนสโกได้เปลี่ยนชื่อโบราณสถาน (Site) ที่กัมพูชาข้อเสนอขขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา (Nomination File ลงวันที่ 30 มกราคม 2549) จาก The Sacred Site of ะ้the Temple of Preah Vihear ที่คณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 31 รับทราบเมื่อกลางปี 2550 มาเหลือเพียง The Temple of Preah Vihear ซึ่งไม่ถูกต้อง

6. หากยูเนสโกจะช่วยสนับสนุนกัมพูชา ควรทำการยกเลิกข้อเสนอดังกล่าวก่อนให้มีการเสนอใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหามาตรฐานในกรณีที่ลดองค์ประกอบของคุณค่าที่จะเป็นมรดกโลก ดังที่ปรากฎพบว่า ยูเนสโกได้รับรองในที่ประชุมเมื่อปี 2550 ไปก่อนแล้วว่าเฉพาะตัวปราสาทไม่มีคุณค่าตามมาตรฐานของยูเนสโกเองที่จะเป็นมรดกโลกได้ มติ 7 กรกฎาคมในการประชุมครั้งที่ 32/2551 จึงน่าจะเป็นโมฆะ
Last edited by อารยา on Thu Jun 30, 2011 3:52 pm, edited 2 times in total.
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Mon Jul 20, 2009 4:38 pm

Image

หลังจากการประชุมมรดกโลกโลกครั้งที่ 33/2552 ผ่านไปได้ 3 สัปดาห์ ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกันต่อเนื่องตั้งแต่เกิดการปะทะกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2551
ไทยที่ใช้ ยุทธวิธีให้เกิด "ความตึงเครียด" ที่ชายแดน ในความพยายามทำ “สงครามเย็น” กดดัน กดดันยูเนสโกให้ถอนข้อเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชาที่ขณะนี้เปลี่ยนเป็น The Temple of Preah ไปแบบไร้ร่องรอย เนื่องจากกัมพูชากับยูเนสโกมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกว่าจะร่วมมือกันตามปกติ

กัมพูชาแก้เกมส์ . “เจบีซี” ที่ไทยพยายามบล็อก “แผนเขมร" ได้สำเร็จ โดยยูเนสโก “ลักไก่” ว่ากัมพูชามีแผนฯแล้ว ในขณะเดียวกันใช้การเจรจานอกรอบภายในห้องประชุมมาลวงว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนพิจารณา วิธีนี้ใชัมาตั้งแต่ปี 2550 ในการประชุมครั้งที่ 31 แต่หลังจากการประชุมจบลงแล้ว มติการประชุมจะออกมาอย่างไรก็ได้ โดยอ้างว่าไทยรับรองระหว่างการประชุมนอกรอบไปแล้ว

ไทยควรเปิดฉากเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชา หรือมียูเนสโกมารับรู้ด้วยเป็นไตรภาคีไปนานแล้ว เพื่อจะได้ใช้โอกาสนี้นำข้อเท็จจริงที่เต็มไปด้วยวาระซ่อนเร้นและไม่โปร่งใสระหว่ากัมพูชากับยูเนสโกมาเปิดอกทบทวนกัน

อย่าลืมว่ากัมพูชากับยูเนสโกสมคบกันบรรเลงมาจั้งแต่การประชุมครั้งที่ 31/2551
Last edited by อารยา on Thu Jun 30, 2011 3:56 pm, edited 3 times in total.
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Server Error » Mon Jul 20, 2009 9:11 pm

อารยา wrote:ผมมองไม่เห็นว่ายุทธวิธีซึ่งต้องอาศัย "ความตึงเครียด" ที่ชายแดนเป็นปัจจัยร่วม จะทำให้ยูเนสโกถอนข้อเสนอของกัมพูชาในการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกที่ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเป็น The Sacred Site of the ....หรือ The Temple of Preah... กันแน่
เพราะไม่ว่าจะมั่วกันอย่างไร ขั้นตอนต่อไปที่จะทำกันระหว่างกัมพูชากับยูเนสโกคือ ลงมติเด็ดขาดในกลางปีหน้าที่บราซิล ในกระบวนการนี้ก็แค่เพียงรอรายงานที่กัมพูชาจะพบกับไอซีซีในวันที่ 1 ก.พ. 53 เท่านั้น

ที่บอกว่า เราจะตรึงทหารไว้อย่างนั้น มันไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเมื่อทั้งสองฝ่ายตก็ตรึง ใครมากกว่าน้อยกว่าก็จะกลายเป็นการยั่วยุให้โอกาสที่สงครามระหว่างสองประทศจะอุบัติมีมากขึ้น มากกว่าโอกาสที่จะเห็นยูเนสโก"คาย" ข้อเสนอของกัมพูชาออกจากวาระการประชุม

อย่าลืมว่า แถลงการณ์ร่วม 18 มิถุนายน 2551 จะถูกนำมาแสดงในการประชุมที่บราซิลกลางปีหน้า เป็นหลักฐานเดียวและสำคัญที่สุดที่บอกว่าไทยให้ "active support" (แม้จะมีที่มาที่ไปที่โคตรหละหลวม ถ้าเราปล่อยไปมันจะแข็งโป๊กทันที) แต่ถ้าไทยใช้การทูตนำ วันนี้พรุ่งนี้ จะคุยทวิหรือมียูเนสโกมารับรู้พร้อมกันไปเลยก็ได้ ไทยมีแต่จะได้ผลในทางบวก เมื่อข้อเท็จจริงต่างๆได้รับการเปิดเผยมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนที่เต็มไปด้วยวาระซ่อนเร้นและไม่โปร่งใสที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2544 ระหว่าง 2 ผู้นำไทย-กัมพูชา

จริงอยู่ การยกเลิกการขึ้นทะเบียนมีปรากฏอยู่บ่อยๆ (อุทยานกรุงเก่าที่อยุธยาสองปีก่อนก็เกือบไป เพราะกรมศิลป์ไร้น้ำยา ต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งภายในสามชั่วโมงก็รื้อมลภาวะทางสายตาที่เรื้อรังมานับปีสำเร็จ) แต่นั่นต้องได้รับอนุมัติก่อน (คล้ายๆจะขออภัยโทษต้องนอนคุกก่อน)
ในกรณีปราสาทพระวิหาร การตัดสินขั้นสุดท้ายที่ยูเนสโกจะประชุมว่าจะเอาหรือไม่เอาคือมิถุนายน 2553 ที่บราซิล จะทำอะไรก็ต้องรีบทำ แต่อย่ารอให้เลย 1 ก.พ. 53 เพราะวันนั้น กัมพูชา-ไทย-ไอซีซี มีกำหนดที่จะพบกันเป็นนัดสุดท้าย เพื่อรายงานให้ยูเนสโกทราบว่าพื้นที่บริหารจัดการตามที่ระบุใน "แผนที่ใหม่" มีพร้อม หรือไม่พร้อม อย่างไร
ถ้าเราตัดตอนก่อนถึงวันนั้นได้ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องพูดที่บราซิล

ผมเข้าใจดีว่า วิธีที่ไทยใช้ก็อย่างที่คุณ arch_freeman พูดมานั่นแหละ

คุณครับ ผมเรียนแล้วว่า 1 ก.พ. 53 เป็นนัดครั้งสุดท้าย (once and for all)
1 กุมภาพันธ์ 2551 นัดครั้งแรก
1 กุมภาพันธ์ 2552 นัดครั้งที่สอง

ไม่ต้องบอกก็ได้นะครับ เราใช้วิธี "ดึง" มาตั้งแต่เชิญคุณเตชมาทำงานนี้ เราทำถึงขนาดไม่ตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพราะมีเมื่อไหร่ JBC ทำงานคล่องตัวทันที สรุปว่า เราดึงด้วยการทูตผ่าน bilateral talk แล้วจบที่คุณเตช เมื่อหาเจ๋งกว่านั้นไม่ได้เราก็เลิกคุยแล้วไม่ต้องมี JBC และนี่คือทำให้ไม่มีผลการปักปันเขตแดนของประเทศทั้งสองเกิดขึ้น ยิ่ง GBC ไม่ต้องพูดเลย หลังจากพล.อ. บุญสร้างไปแล้วก็จบ

ประเด็นที่ผมต้องการชี้คือ ในขณะที่เรามองว่าประสบความสำเร็จในการทำการทูตแบบ "moonlighting" แล้วให้มีการตรึงกำลัง
สถานะการขึ้นทะเบียนของกัมพูชากลับ "in-progress" เดินหน้าไปได้เรื่อยๆ

ถ้าคุณจำนายกฯอภิสิทธิ์พูดเมื่อทราบข่าวจากคุณสุวิทย์ที่สเปนรายงานข้ามน้ำข้าทะเลว่า"การประท้วงยูเนสโกล้มเหลว" (27 มิถุนายนที่ผ่านมา)ได้ ก็จะต้องบอกว่า เราไม่ได้เปรียบ นายกฯพูดว่า "ผมยังไม่เห็นรายงานของกัมพูชาเดือนเมษายนที่ผ่านมาเลย" แปลความว่า ไม่มีไทยไปตามนัดทุกครั้ง เราก็ไม่รู้ว่าทำไมยูเนสโกรับรองกัมพูชามาตลอด แบบนี้เขมรจะรายงานว่าไทยให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง (เหมือนรายงานการประชุมที่นิวซีแลนด์มิถุนายน 2550 ที่เขียนแหกตาคนทั้งโลกว่าไทยให้ 'active support" และนั่นอย่าลืมว่ายูเนสโกเป็นเจ้สของรายงานการประชุมนั้นเอง อะไรทำให้ยูเนสโกให้ท้ายกัมพูชาถึงขนาดนั้นมีคำอธิบายแน่นอนครับ แต่เดี๋ยวจะยาว กลับมาประเด็นเก่าก่อนดีกว่า)ยูเนสโกก็แสร้งโง่ เหมือนในที่ประชุมกลางปีกลายที่คานาดาในการยอมรับแถลงการณ์ร่วมซึ่งเขียนทำนองเดียวกับรายงานการประชุมนิวซีแลนด์ที่ผมเอ่ยถึงในวงเล็บนั้นว่าไทยให้การสนับสนุน ทั้งๆที่ไม่มีเอกสารใดๆให้อ้างอิงว่าเป็นอย่างที่เขียนนั้น

ผมไม่เชื่อว่ายูเนสโกจะตัดสินไม่ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในเดือนมิถุนายนปีหน้า
เพราะอีกไม่ถึง 5 เดือน (1 ก.พ.53) เขมรก็รู้ก่อนไทยว่าสามารถขึ้นทะเบียน (final) ได้ก่อนจะมีการประชุมใหญ่ที่บราซิลในกลางปี ในขณะที่ไทยยังไม่เคยเห็น แม้แต่รายงานที่กัมพูชากับไอซีซี (unesco's proxy/originally ANPV)สมคบกันเขียนปิดปากไทยไปตั้งแต่ปี 2551

จากนั้น ต่อให้ไทยร้องแร่แห่กะเชอจนปากแหกดังไปทั้งโลกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย จ้างก็ไม่มีใครฟังคตรับ

ที่พูดว่าจะใช้วิธีสันติวิธีก็เลยสาย เหลือ 2 ทางเลือกที่สุดห่วย คือรบ หรือยอมเสียค่าโง่

ฝันกันไปเถอะครับว่า วิธีตรึงกำลังทหารยั่วยุให้เขมรคลั่ง จนผิดพลาดยิงเราก่อนนั้น จะได้ผล

เดือนที่แล้วที่รัฐบาลเลือกวิธีประท้วงยูเนสโก ผมยังดีใจแทบตายว่านั่นคือแนวที่ถูกต้องที่สุด

ผมยังประหลาดใจว่า ทำไมเปลี่ยนมาเป็นเอาการทหารมานำ เพราะการตรึงตึงตังที่พื้นที่ทับซ้อนโดยปราศจาก bilateral talk ทวิภาคี อย่าปฏิเสธว่าการทูตดลความสำคัญจนไม่เหลือ

และนั่นคือที่มาของกระทู้ ย้ำอีกคำรบหนึ่งครับ พี่น้อง


ถ้ามีเหตุให้ทหารไทยกับเขมรปะทะกันช่วงปลายเดือนมกราคม2553
ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้เริ่มก่อนก็ตาม
ท่านอารยาว่า ยูเนสโก ยังจะเดินหน้าเรื่องมรดกโลก
ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
ในเดือนมิถุนายนปีหน้าต่อไหมครับ
:?:

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล == viewtopic.php?f=14&t=14102 -->

User avatar
Server Error
 
Posts: 2462
Joined: Thu Oct 16, 2008 8:25 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby katindork » Mon Jul 20, 2009 10:06 pm

arch_freeman wrote:จขกท ตั้งกระทู้มีสาระ และ เข้าใจหาข้อมูล ไม่ไร้สาระเหมือนบางพวก

ผมขอร่วมแสดงความเห็นด้วยนะครับ

จุดหมายตอนนี้ ไม่ใช่ ว่าเราจะเอาตัวปราสาทที่แพ้คำตัดสินกลับคืนมา

แต่

ทางกองทัพและรัฐบาล ใช้วิธีการคงกำลังทหาร ในจุดยุทธศาสตร์ที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนรอบๆ ตัวปราสาท เพื่อทำให้เขมรไม่สามารถจัดทำรายงาน แผนพัฒนามรดกโลก ส่ง ยูเนสโกได้ทันตามกำหนด หรือ ทำไม่ได้เลย และ ผลลัพธ์สุดท้ายคือ ยูเนสโก ก็ต้องถอน เขาพระวิหาร ออกจากทะเบียนมรดกโลก ตามระเบียบข้อบังคับของเขา

หลังจากนั้น ฝ่ายทหารและการเมือง จึง จะเริ่มเจรจาปักปันเขตแดนกับ กัมพูชา ให้เรียบร้อย แล้ว จึงค่อยมาพิจารณาเรื่องการจดทะเบียนร่วมกัน แบบที่ทำ กับ ประเทศลาว

ในขณะที่่คงทหารไว้ ฝ่ายกัมพูชาย่อมแสดงอาการไม่พอใจ รมต ต่างประเทศ มีหน้ารักษาภาพของประเทศไทย ในฐานะ ประเทศที่ไม่ต้องการทำสงครามและยึดแนวทางสันติและการเจรจาเป็นหลัก สรุปคือ เขมรยิ่งอาละวาด เรายิ่งนิ่งแต่คงทหารไว้เฉยๆ เราก็จะได้เปรียบทั้งภาพลักษณ์ และ เป้าหมายที่มุ่งหวัง

นี่ีคือ แผนที่ทางรัฐบาลและทหารเขากำลังทำอยู่ ซึ่งผมคิดว่า ฝ่ายทหารและการเมืองทำถูกต้องแล้วครับ

คงไม่ต้องไปฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล หรือ พันธมิตรบางคนที่ บอกให้ เอา F16 ไปถล่มพนมเปญ แล้ว ส่งกำลังทหารยึดตัวเขาพระวิหาร :lol:


คงเข้าใจแล้วนะครับว่า มีทางเดินเหลือให้กับประเทศไทยเท่าไร จากคุณอารยา
นอกเสียจากว่าหวังกับลมว่า ยูเนสโกกับเขมรน่าจะจนแต้มเข้าตาเรา

ผมเพียงอยากทราบจากคุณสถาปนิกอิสระว่า
หลังจาก ทำงงตรึงกำลังต่อไปเรื่อยๆแล้วจะยังไงต่อ




ก่อนหน้านี้ก็เรื่อยๆนะครับ
เสียปราสาทเพราะเรื่อยๆ
เขาขนคนมาอยู่มาสร้างวัดก็เรื่อยๆ
เขามาแบ่งเกาะกูดก็เรื่อยๆ
เขามายึดปราสาทอื่น เขามาถอดหมุดแล้วเอาสื่อมวลชนมาทำข่าว เราก็เรื่อยๆ
ฝรั่ง มาคุยมาเซ็นบันทึกความเข้าใจ แบ่งทะเลเจาะน้ำมันโดยไม่สนว่าเป็นที่ไทย ไทยก็เรื่อยๆ



เราเรื่อยไม่ไหวแล้วครับ
การเอาคนในชาติที่เขาไม่อยากจะเรื่อยๆ มาประชดโดยเล่าว่า เอาเรือบินไปถล่ม ส่งกำลังทหารเข้ายึด
มันอาจจะดูเขินตื้นสำหรับคุณถาปนิก แต่ไม่เหมาะถ้าประชดสนธิหรือพันธมิตรแบบนั้น
ควรอยู่ในประเด็นครับ :geek:
katindork
 
Posts: 995
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:00 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Jseventh » Mon Jul 20, 2009 10:29 pm

อารยา wrote:ผมมองไม่เห็นว่ายุทธวิธีซึ่งต้องอาศัย "ความตึงเครียด" ที่ชายแดนเป็นปัจจัยร่วม จะทำให้ยูเนสโกถอนข้อเสนอของกัมพูชาในการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกที่ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเป็น The Sacred Site of the ....หรือ The Temple of Preah... กันแน่
เพราะไม่ว่าจะมั่วกันอย่างไร ขั้นตอนต่อไปที่จะทำกันระหว่างกัมพูชากับยูเนสโกคือ ลงมติเด็ดขาดในกลางปีหน้าที่บราซิล ในกระบวนการนี้ก็แค่เพียงรอรายงานที่กัมพูชาจะพบกับไอซีซีในวันที่ 1 ก.พ. 53 เท่านั้น

ที่บอกว่า เราจะตรึงทหารไว้อย่างนั้น มันไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเมื่อทั้งสองฝ่ายตก็ตรึง ใครมากกว่าน้อยกว่าก็จะกลายเป็นการยั่วยุให้โอกาสที่สงครามระหว่างสองประทศจะอุบัติมีมากขึ้น มากกว่าโอกาสที่จะเห็นยูเนสโก"คาย" ข้อเสนอของกัมพูชาออกจากวาระการประชุม

อย่าลืมว่า แถลงการณ์ร่วม 18 มิถุนายน 2551 จะถูกนำมาแสดงในการประชุมที่บราซิลกลางปีหน้า เป็นหลักฐานเดียวและสำคัญที่สุดที่บอกว่าไทยให้ "active support" (แม้จะมีที่มาที่ไปที่โคตรหละหลวม ถ้าเราปล่อยไปมันจะแข็งโป๊กทันที) แต่ถ้าไทยใช้การทูตนำ วันนี้พรุ่งนี้ จะคุยทวิหรือมียูเนสโกมารับรู้พร้อมกันไปเลยก็ได้ ไทยมีแต่จะได้ผลในทางบวก เมื่อข้อเท็จจริงต่างๆได้รับการเปิดเผยมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนที่เต็มไปด้วยวาระซ่อนเร้นและไม่โปร่งใสที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2544 ระหว่าง 2 ผู้นำไทย-กัมพูชา

จริงอยู่ การยกเลิกการขึ้นทะเบียนมีปรากฏอยู่บ่อยๆ (อุทยานกรุงเก่าที่อยุธยาสองปีก่อนก็เกือบไป เพราะกรมศิลป์ไร้น้ำยา ต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งภายในสามชั่วโมงก็รื้อมลภาวะทางสายตาที่เรื้อรังมานับปีสำเร็จ) แต่นั่นต้องได้รับอนุมัติก่อน (คล้ายๆจะขออภัยโทษต้องนอนคุกก่อน)
ในกรณีปราสาทพระวิหาร การตัดสินขั้นสุดท้ายที่ยูเนสโกจะประชุมว่าจะเอาหรือไม่เอาคือมิถุนายน 2553 ที่บราซิล จะทำอะไรก็ต้องรีบทำ แต่อย่ารอให้เลย 1 ก.พ. 53 เพราะวันนั้น กัมพูชา-ไทย-ไอซีซี มีกำหนดที่จะพบกันเป็นนัดสุดท้าย เพื่อรายงานให้ยูเนสโกทราบว่าพื้นที่บริหารจัดการตามที่ระบุใน "แผนที่ใหม่" มีพร้อม หรือไม่พร้อม อย่างไร
ถ้าเราตัดตอนก่อนถึงวันนั้นได้ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องพูดที่บราซิล

ผมเข้าใจดีว่า วิธีที่ไทยใช้ก็อย่างที่คุณ arch_freeman พูดมานั่นแหละ

คุณครับ ผมเรียนแล้วว่า 1 ก.พ. 53 เป็นนัดครั้งสุดท้าย (once and for all)
1 กุมภาพันธ์ 2551 นัดครั้งแรก
1 กุมภาพันธ์ 2552 นัดครั้งที่สอง

ไม่ต้องบอกก็ได้นะครับ เราใช้วิธี "ดึง" มาตั้งแต่เชิญคุณเตชมาทำงานนี้ เราทำถึงขนาดไม่ตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพราะมีเมื่อไหร่ JBC ทำงานคล่องตัวทันที สรุปว่า เราดึงด้วยการทูตผ่าน bilateral talk แล้วจบที่คุณเตช เมื่อหาเจ๋งกว่านั้นไม่ได้เราก็เลิกคุยแล้วไม่ต้องมี JBC และนี่คือทำให้ไม่มีผลการปักปันเขตแดนของประเทศทั้งสองเกิดขึ้น ยิ่ง GBC ไม่ต้องพูดเลย หลังจากพล.อ. บุญสร้างไปแล้วก็จบ

ประเด็นที่ผมต้องการชี้คือ ในขณะที่เรามองว่าประสบความสำเร็จในการทำการทูตแบบ "moonlighting" แล้วให้มีการตรึงกำลัง
สถานะการขึ้นทะเบียนของกัมพูชากลับ "in-progress" เดินหน้าไปได้เรื่อยๆ

ถ้าคุณจำนายกฯอภิสิทธิ์พูดเมื่อทราบข่าวจากคุณสุวิทย์ที่สเปนรายงานข้ามน้ำข้าทะเลว่า"การประท้วงยูเนสโกล้มเหลว" (27 มิถุนายนที่ผ่านมา)ได้ ก็จะต้องบอกว่า เราไม่ได้เปรียบ นายกฯพูดว่า "ผมยังไม่เห็นรายงานของกัมพูชาเดือนเมษายนที่ผ่านมาเลย" แปลความว่า ไม่มีไทยไปตามนัดทุกครั้ง เราก็ไม่รู้ว่าทำไมยูเนสโกรับรองกัมพูชามาตลอด แบบนี้เขมรจะรายงานว่าไทยให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง (เหมือนรายงานการประชุมที่นิวซีแลนด์มิถุนายน 2550 ที่เขียนแหกตาคนทั้งโลกว่าไทยให้ 'active support" และนั่นอย่าลืมว่ายูเนสโกเป็นเจ้สของรายงานการประชุมนั้นเอง อะไรทำให้ยูเนสโกให้ท้ายกัมพูชาถึงขนาดนั้นมีคำอธิบายแน่นอนครับ แต่เดี๋ยวจะยาว กลับมาประเด็นเก่าก่อนดีกว่า)ยูเนสโกก็แสร้งโง่ เหมือนในที่ประชุมกลางปีกลายที่คานาดาในการยอมรับแถลงการณ์ร่วมซึ่งเขียนทำนองเดียวกับรายงานการประชุมนิวซีแลนด์ที่ผมเอ่ยถึงในวงเล็บนั้นว่าไทยให้การสนับสนุน ทั้งๆที่ไม่มีเอกสารใดๆให้อ้างอิงว่าเป็นอย่างที่เขียนนั้น

ผมไม่เชื่อว่ายูเนสโกจะตัดสินไม่ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในเดือนมิถุนายนปีหน้า
เพราะอีกไม่ถึง 5 เดือน (1 ก.พ.53) เขมรก็รู้ก่อนไทยว่าสามารถขึ้นทะเบียน (final) ได้ก่อนจะมีการประชุมใหญ่ที่บราซิลในกลางปี ในขณะที่ไทยยังไม่เคยเห็น แม้แต่รายงานที่กัมพูชากับไอซีซี (unesco's proxy/originally ANPV)สมคบกันเขียนปิดปากไทยไปตั้งแต่ปี 2551

จากนั้น ต่อให้ไทยร้องแร่แห่กะเชอจนปากแหกดังไปทั้งโลกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย จ้างก็ไม่มีใครฟังคตรับ

ที่พูดว่าจะใช้วิธีสันติวิธีก็เลยสาย เหลือ 2 ทางเลือกที่สุดห่วย คือรบ หรือยอมเสียค่าโง่

ฝันกันไปเถอะครับว่า วิธีตรึงกำลังทหารยั่วยุให้เขมรคลั่ง จนผิดพลาดยิงเราก่อนนั้น จะได้ผล

เดือนที่แล้วที่รัฐบาลเลือกวิธีประท้วงยูเนสโก ผมยังดีใจแทบตายว่านั่นคือแนวที่ถูกต้องที่สุด

ผมยังประหลาดใจว่า ทำไมเปลี่ยนมาเป็นเอาการทหารมานำ เพราะการตรึงตึงตังที่พื้นที่ทับซ้อนโดยปราศจาก bilateral talk ทวิภาคี อย่าปฏิเสธว่าการทูตดลความสำคัญจนไม่เหลือ

และนั่นคือที่มาของกระทู้ ย้ำอีกคำรบหนึ่งครับ พี่น้อง


เห็นด้วยกับแนวทางที่คุณอารยาเขียนมา..
ไทยต้องพยายามทำทุกทาง และทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ในเวลาที่เหลืออยู่
แต่อยากให้ใช้การทูตนำการทหารค่ะ

มีแผนการดำเนินการที่ดี มีท่าทีที่ชัดเจน รู้จักการประชาสัมพันธ์
และสุดท้าย หากจะต้องรบกัน ก็จะได้ให้ชาวโลกเขารู้ว่า เราไ้ด้พยายามทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเทวาหรือซาตาน มนุษย์เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด
User avatar
Jseventh
 
Posts: 1741
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:19 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby arch_freeman » Mon Jul 20, 2009 11:08 pm

ยั่วยุ ให่เขมรยิงก่อน ไม่ใช่เรื่องยาก กระมั่งครับ ในยุทธิวิธีของฝ่ายทหาร

ก่อนจะมีสงคราม เราก็คงต้อง lobby ฑูตทหารของประเทศมหาอำนาจ ให้ได้เสียก่อน

แต่ก็คงยาก เพราะ อเมริกา กับ ฝรั่งเศษ มีผลประโบชน์เหนือแหล่งก๊าซ ในอ่าวไทย

ไอ้การยึดเขาพระวิหาร นั้นไม่ยาก แต่รักษาเอาไว้ ใัห้เป็นของเรา และ รับมือกับแรงบีบจาก อเมริกาและฝรั่งเศษ ไม่ใช่เรื่องง่าย

ส่วนตัว ผมเองก็ยังมองไม่ออก ว่าจะใช้วิธีการ ตรึ่งกำลัง เพื่อไม่ให้เขาจัดทำแผน นั้น จะทำได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้
User avatar
arch_freeman
 
Posts: 1254
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:34 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Tue Jul 21, 2009 12:16 am

Server Error wrote:ถ้ามีเหตุให้ทหารไทยกับเขมรปะทะกันช่วงปลายเดือนมกราคม2553
ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้เริ่มก่อนก็ตาม
ท่านอารยาว่า ยูเนสโก ยังจะเดินหน้าเรื่องมรดกโลก
ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร
ในเดือนมิถุนายนปีหน้าต่อไหมครับ
:?:


ยูเนสโกกับกัมพูชาสุมหัวกันมาตั้งแต่ตอนไปเอา่ ANPV มาให้ฮุนเซนเมื่อเดือนกันยายน 2550 ในบทบาทของ "Cambodia's public institution" แย่งซีนจาก ICOMOS เรียบร้อยในการถ่ายทำที่คานาดากลางปี 2551

วันนี้กำลังเล่นบท "ไอซีซี" โดยฉากสุดท้ายในบทนี้จะปิดกล้องในเดือนกุมภาพันธ์ 2553
จากนั้นจะมารับสัมปทานบริหารจัดการมรดกโลกให้กัมพูชาต่อ

สองปีผ่านมา ANPV มันคือยักษ์ที่หลุดออกมาจากตะเกียงอาละดิน ใหญ่คับฟ้า
สามารถบอกให้กัมพูชารายงานผลการกำหนดพื้นที่บริหารจัดการที่ขณะนี้ยังอยู่ในเขตประเทศไทยแท้ๆ
และนี่คือที่มาของคำพูดไส้ศึกเมื่อสามสี่วันก่อนว่า "กรรมการ 7 ชาติไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพื้นที่ทับซ้อน"

ผมไม่อยากให้รัฐบาลหมดกำลังใจ หรือตกใจจนไม่อยากต่อกรด้วยกับไอซีซี ("กรรมการ 7 ชาติ") มีเบลเยียม สหรัฐ อินเดีย ฝรั่งเศส (+3 คือ จีน ญี่ปุ่น ไทย) แต่ต้องหาวิธี abort ่joint communique เพื่อหยุดการทำงานของไอซีซีก่อนรับมิชชั่นสุดท้ายในต้นปีหน้านี้
เพราะหากหลุดจากนี้ไป พวกมัน (รวมทั้งไส้ศึกจากไทย)ไม่ยอมถอยแน่ เพราะอีกก้าวเดียวก็กินสามต่อเข้าฮ็อดก่อนจะแปรโฉมเป็น "ผู้จัดการมรดกโลก" ให้กัมพูชา และ/หรือ โบ๊รกเก้อของนางฟรังซัวส์

ยูเนสโกที่นางฟรังซัวส์เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์จึงไม่รู้สึกเดือดร้อนหากวันดีคืนดีมีสงครามระหว่างไทย-กัมพูชา

คำถามของคุณ Server Error เป็นคำถามเดียวกับที่นายกฯอภิสิทธิ์ถามฮุนเซนเดือนที่แล้ว
คือ "ตรงนั้นจะเป็นมรดกโลกได้อย่างไร ในเมื่อคนของสองประเทศจะรบกันตรงนั้น" ฮุนเซนยิ้มไม่ตอบ พอนายกฯเรากลับถึงกรุงเทพฯ ฮุนเซนตะโกนไล่หลังว่า ถามเรื่องไร้สาระ ไม่รู้จักกาละเทศะ
แต่ถ้าถามนางฟรังซัวส์ คำตอบคือ ก็ไม่เห็นมีเหตุผลที่กัมพูชาจะไม่ได้รับอนุมัติให้เป็นเจ้าของมรดกโลก
เลวร้ายที่สุดก็รอให้สงครามชายแดนตรงนั้นสงบก่อนค่อยอนุมัติภายหลังก็ได้

จะเอายังงั้นหรือครับ ผมถึงได้บอกว่า ต้องไม่รอถึง
1. วันที่ 1 กพ 53
2. มีการรบพุ่งที่เขาพระวิหาร

ยูเนสโกต้องถูกกดดันจากไทย ผ่านการเดินแต้มคูทางการทูตของไทยที่ต้องทำต่อเขมร


IT'S NOW OR NEVER!
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Tue Jul 21, 2009 12:38 am

สรุปว่า ผมไม่เชื่อว่ายูเนสโกจะตัดสินไม่ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในเดือนมิถุนายนปีหน้า แม้จะมีสงคราม
เลวร้ายที่สุดของกัมพูชาคือ ยูเนสโกให้รอไปตราบเท่าที่แถลงการณ์ร่วมไม่หมดอายุการบังคับใช้ ยกเว้นแต่จะยกเลิกใช้โดยเห็นชอลทั้ง 3 ฝ่าย (ไทย กัมพูชา และยูเนสโก)
Image

ทางออกดีที่สุดของไทยคือ ไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น ทำอย่างไรที่จะ convince ยูเนสโกผ่านกัมพูชา หรือกัมพูชาผ่านยูเนสโกให้ยกเลิกแถลงการณ์ร่วม ก่อนถึงบทบาทสำคัญของไอซีซีในเดือนกุมภาพันธ์นี้
เรื่องอื่นไว้พูดกันทีหลัง

ผมเพิ่งเห็นลิ้งค์ข้างล่างครับ เป็นย่าววันที่ 8 กรกฏาคม 2551 รุ่งขึ้นจากวันที่คณะกรรมการมรดกโลกลงมติให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ดีใจที่ขนาดวันนั้น ANPV ยังไม่มีบทอะไรมาก แต่ผู้ใหญ่ของเรามองทะลุมากว่า 12 เดือนแล้ว
http://accomthailand.wordpress.com/2008/07/08/“อดุล”-อดีต-ประธานคณะกรร/
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Server Error » Tue Jul 21, 2009 1:18 pm

ป.ป.ช.แย้มอาจชี้มูลคดีเขาพระวิหารสัปดาห์นี้

20 กค. 2552 15:56 น.
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. ผู้รับผิดชอบสำนวนถอดถอนคณะรัฐมนตรี (ครม.)นายสมัคร สุนทรเวช ทั้งคณะ จากกรณีการออกมติ ครม.สนับสนุนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกขัดต่อรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างการรวบรวมคำให้การของพยานและผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 33 คนอยู่ เชื่อว่าจะสามารถนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ พิจารณาได้ภายในสัปดาห์นี้
โดยจะให้คณะทำงานทำสำนวนออกมาในรูปแบบว่า ผู้ถูกกล่าวหาแต่ละคนแก้ข้อกล่าวหาอย่างไรบ้าง พร้อมเสนอความเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ เพื่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ง่ายต่อการวินิจฉัย ซึ่งหากที่ประชุมเห็นว่าไม่จำเป็นต้องสอบปากคำบุคคลเพิ่มเติมอีก ก็น่าจะสามารถชี้มูลความผิดได้ทันที


http://breakingnews.nationchannel.com/r ... sid=394472

เป็นไปได้ไหมที่ไทยเราจะแถลงยกเลิกแถลงการณ์ร่วมฉบับเหล่ขายชาติ
หลังจากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด
จากนั้นก็ให้ไอ้พวกไส้ศึกขายชาติจากไทย
ถอนตัวจากการเป็นกรรมการไอซีซี
แล้วถ้ายูเนสโกยังไม่หยุด
เชื่อว่าต้องดวลปืนกันละครับ

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล == viewtopic.php?f=14&t=14102 -->

User avatar
Server Error
 
Posts: 2462
Joined: Thu Oct 16, 2008 8:25 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Tue Jul 21, 2009 1:48 pm

Server Error wrote:เป็นไปได้ไหมที่ไทยเราจะแถลงยกเลิกแถลงการณ์ร่วมฉบับเหล่ขายชาติ
หลังจากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด
จากนั้นก็ให้ไอ้พวกไส้ศึกขายชาติจากไทย
ถอนตัวจากการเป็นกรรมการไอซีซี
แล้วถ้ายูเนสโกยังไม่หยุด
เชื่อว่าต้องดวลปืนกันละครับ


ผมมองว่ารัฐบาลนี้ฉลาดพอที่จะลิ้งค์ผลการสอบของ ปปช. กับความพยายามที่จะกดดันยูเสโกผ่านการทูตไทย-กัมพูชา
เพราะถ้าไม่ทำตรงนี้ ก็เหมือนรัฐบาลนอมินีทักษิณที่เมินคำตัดสินศาลปกครองเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2551
ไอ้รัฐบาลเส็งเคร็งแบบนั้น ใครก็รู้ว่าถ้าเปย์งามมันอาจไปกราบเท้าฮุนเซนด้วยซ้ำ คงจำได้ว่าช่วงนั้น ครม. ของหมักหมมไม่ต่างจากเป็นสาขาสองของรัฐบาลพนมเปญ พ่อมันสั่งให้รักกันไว้ ถ้าขายผ้าเอาหน้ารอดไม่สำเร็จก็ขายชาติ กินให้อิ่ม ตายแล้วจะหาโอกาสแดรกด่วนพิสดารอย่างนี้ได้ที่ไหนอีก

แต่ถ้ารัฐบาลอภิสิทธิ์เอามันแค่ประกาศว่า ครม. ของอดีตนายกฯนอมินีผิด แล้วไม่ขยายผลไปปลดชนวนสงคราม ก็ควรถูกประณามว่าเลวร้ายกว่ารัฐบาลสมัคร เพราะผมยังจำภาพวันอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อกลางปีกลายได้ชัดเจนว่า นายสมัครถูกก่นบริภาษถึงขนาดว่าเป็นคนเนรคุณชาติกำเนิดที่ปล่อยให้แถลงการณ์ร่วมบัดซบฉบับนั้นออกมาเป็นเสนียดแผ่นดิน
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Tue Jul 21, 2009 2:11 pm

แค่เปิดทวิภาคีกับฮุนเซน/ฮอนัมฮง แล้วทำ Joint Statement
ในนั้นเขียนอะไรก็ได้ที่ทำให้ Cambodia's WHCNomination Files shelved หรือให้กัมพูชา "ถอน"
แต่ต้องไม่หักหาญน้ำใจกันถึงขนาดเสร็จแล้วหันหลังให้กัน หา "วาระแห่งชาติร่วมกัน" กับกัมพูชา ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาของแต่ละฝ่ายจะต้องยึดถือทสานภารกิจนั้นต่อจนสำเร็จ ผมนึกออกแต่เรื่องงเขาพระวิหารอย่างเดียว อาจมีเรื่องอื่นที่งดงามกว่านี้ แต่ไม่ว่าเรื่องอะไร ปัญหาเขตแดนต้องทำต่อ หรือถ้าไม่ปักปันให้เป็นฟรีโซนช่วงไหนก็ได้ อย่าลืมว่าประชาชนของสองประเทศเป็นญาติกัน ที่มันบ้าๆบอๆกัน เป็นเพราะผู้่นำมันเฮงซซวยกันมากกว่า
ดูๆไปแล้ว "วาระแห่งชาติ" ร่วมกันนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องต่อเนื่องจากมรดกโลก แต่ทำให้เป็นมรดกของคนที่ชายแดนไทข-เขมรซะ
รีบทำวันนี้ อีก 20 ปีก็ยังไม่เสร็จ ก็ยังต้องสะสางกันอีกที่ตาเมือนธม ตาควาย ที่สระแก้วก็ยังมีอีกแห่ง เชิญฮุนเซนมากินข้าวที่พนมรุ้ง หรือจะเลยไปปราสาทเมืองสิงห์ที่กาญจน์ผ่านละโว้ก็ได้

หลังจากลงนามกันใน Joint Statement แล้ว ทุกอย่างที่เป็นมลพิษทางการเมืองของสองประเทศจะถูกตัดตอนไปเอง ICC ทั้งยวง ใครโวยคนนั้นแหละไส้ศึกของแท้

ที่แน่ๆ ทหารของทั้งสองประเทศก็กลับเข้ากรมกอง ที่เหลือเจอกันเมื่อไหร่ก้พากันไปเลี้ยงข้าวแทนแจกกระสุนปืน

โอกาสอย่างนี้ นายกฯอภิสิทธิ์ไม่ทำ อีกกี่ชาติก็ไม่มีวันได้เริ่ม
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Server Error » Tue Jul 21, 2009 2:19 pm

ขอบคุณมากครับ ท่านอารยา สำหรับข้อมูล
รอ ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วจะมาติดตามข่าวต่อครับ
ขอบคุณมากครับ
:idea:

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล == viewtopic.php?f=14&t=14102 -->

User avatar
Server Error
 
Posts: 2462
Joined: Thu Oct 16, 2008 8:25 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Tue Jul 21, 2009 3:22 pm

ยินดีครับ คุณ Server Error :D
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby อารยา » Tue Jul 21, 2009 4:31 pm

อารยา wrote:
Server Error wrote:เป็นไปได้ไหมที่ไทยเราจะแถลงยกเลิกแถลงการณ์ร่วมฉบับเหล่ขายชาติ
หลังจากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด
จากนั้นก็ให้ไอ้พวกไส้ศึกขายชาติจากไทย
ถอนตัวจากการเป็นกรรมการไอซีซี
แล้วถ้ายูเนสโกยังไม่หยุด
เชื่อว่าต้องดวลปืนกันละครับ


ผมมองว่ารัฐบาลนี้ฉลาดพอที่จะลิ้งค์ผลการสอบของ ปปช. กับความพยายามที่จะกดดันยูเสโกผ่านการทูตไทย-กัมพูชา
เพราะถ้าไม่ทำตรงนี้ ก็เหมือนรัฐบาลนอมินีทักษิณที่เมินคำตัดสินศาลปกครองเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2551...

ผมควรจะพูดว่ามันไม่จำเป็นที่จีะต้องไปหาความชอบธรรมจากผลการชี้มูลขององค์กรอิสระที่ไหนเลยว่านายหมูนายหมาที่ไหนทำผิดก่อนหรือหลังศาลปกครองสั่งคุ้มครองด้วยซ้ำ

เรื่องนี้มันลุยได้ตั้งแต่คุณกษิตเข้ามาพร้อมกับรัฐบานี้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

แต่เริ่มวันนี้ก็ยังไม่สาย

ผิดไปจากนี้ ก็รบกัน
User avatar
อารยา
 
Posts: 2201
Joined: Sat Apr 11, 2009 5:26 pm

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Tam-mic-ra » Wed Jul 22, 2009 3:52 am

เอาหลักฐานมาให้ดูข้างบน
ขนาดเอามาจากเวปกระทรวง
ไอ้อารถามันยังไม่เชื่ออีก

นี่ขนาดทั้งเวปเหลือง และเวปแดงเขารู้และยอมรับกันไปหมดแล้ว
ว่ายกเลิกไปแล้ว ไปหาดูที่เขาถกกันสิ่ ว่าจริงไหม



อารถา ยังมีหน้า มามั่วเกรียนๆ ว่ายังไม่ยกเลิกอีก
จะแหวกแนว ให้มันได้อะไรขึ้นมา


อารถา อนาถา ไอ้มั่ว
แล้วยังจะด้านถามหาหลักฐานจากเขมรอีก
นี่แหล่ะส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม่อยากคุยกับมัน ตั้งแต่กระทู้ก่อน


Image


เขาออกหนังสือมาแบบนี้ หลังจากที่เขาคุยกันกับนายเตช

“In this regard, I would like to recall that during our working lunch in Siem Reap on 28 July 2008, talking about the said Joint Communique, I said that “It is not an international treaty”, thus its value is worth what it is.”

เขมรมันบอกไม่ใช่ international treaty
ทางการทูต เขาไม่ได้คุยกันลอยๆ แบบไอ้ลิ้มหรอก
จะแถต่อยังไงอีก ไอ้มั่ว พา งง ทั้งเวป


ขอดักคอก่อน จะใส่ร้ายว่าทักษิณสั่งกัมพูชาให้ออกหนังสือข้างบนใช่ไหม

แต่ ในเมื่อ แถลงการณ์ร่วมนพดลทำให้เขมรมันได้เปรียบพื้นที่พิพาท ตามที่พวกอารถา ดักดานเชื่ออยู่นั่น
เขมรมันจะออกหนังสือข้างบนทำไม ในเมื่อตอนลงนามแถลงการณ์นพดลไปแล้วนั้น เขมรถือว่าอ้อยเข้าปากเขมรไปแล้ว

มาถึงตรงนี้ ทำให้คิดได้ว่า
ถ้าศาลโลก อนาคตจะตัดสิน ชี้เขตแดน
กลายเป็นมีหลักฐานว่าศาล รธน. ไทยซะอีก
ที่ตีความยอมรับเองว่า เอกสาร เป็น international treaty


:oops:
คำว่า "คนฉลาด" ด้วยเพราะคนอื่นเขายกย่อง มิใช่ ยกหางเน่าๆของตัวเอง โดยการโยนยัดใส่คนอื่นว่า โง่
มาดูกัน นักเรียนตลอดชีพแถว่าสมัยแม้วปล่อยเขมรมาสร้างวัด viewtopic.php?f=2&t=37916&p=708131#p707996
User avatar
Tam-mic-ra
 
Posts: 901
Joined: Mon Mar 02, 2009 4:03 am

Re: อย่าเชื่อนะว่าไทยใกล้เสียดินแดนแล้ว

Postby Tam-mic-ra » Wed Jul 22, 2009 4:50 am

http://www.ryt9.com/s/mfa/393670/
ข้อมติที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 32 ณ นครควิเบก แคนาดา
รับรองเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551 เรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

http://whc.unesco.org/en/decisions/1548

(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)
ข้อมติ: 32 COM 8 B. 102
คณะกรรมการมรดกโลก

5. รับรอง ว่าคำแถลงการณ์ร่วมฉบับเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2008 โดยผู้แทนของรัฐบาลแห่งกัมพูชาและไทย กับยูเนสโก รวมทั้งร่างคำแถลงการณ์ร่วมซึ่งได้อ้างผิดว่าได้ลงนามเมื่อวันที่ 22 และ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 ในเอกสาร WHC 08/32.COM/INF.8B1.Add.2 ต้องไม่ใช้ ตามการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่ระงับผลของแถลงการณ์ร่วม ภายหลังคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองไทยในเรื่องนี้


อารถา เลิกพิมเถอะ ไอ้มั่วเอ๊ย อายเค๊า
คำว่า "คนฉลาด" ด้วยเพราะคนอื่นเขายกย่อง มิใช่ ยกหางเน่าๆของตัวเอง โดยการโยนยัดใส่คนอื่นว่า โง่
มาดูกัน นักเรียนตลอดชีพแถว่าสมัยแม้วปล่อยเขมรมาสร้างวัด viewtopic.php?f=2&t=37916&p=708131#p707996
User avatar
Tam-mic-ra
 
Posts: 901
Joined: Mon Mar 02, 2009 4:03 am

Next

Return to สภากาแฟ



cron