Jseventh wrote:naichod wrote:..............ที่ตั้งกระทู้ถามแบบกึ่งเช็คอายุ
ก็เพราะว่า หากเกิดใกล้ๆกัน ในรุ่นนั้น จะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยชัดเจนมากในเรื่องต่างๆทั้งการเมือง เศรษฐกิจ ค่านิยม วัฒนธรรมตะวันตก
และจะมองสังคมไทยปัจจุบันนี้ได้ชัดมากขึ้นว่า บางอย่างมันตั้งต้นมาจากอะไรกันแน่ โดยที่ในยุคนั้น เราเองก็มองไม่ออกเลยว่าจะมาเป็นแบบนี้ในวันนี้
ถ้าไม่รบกวนเกินไป..อยากฟังทัศนะในเรื่องนี้ของ คุณ naichod ค่ะ
ชอบฟังเรื่องเล่า ทัศนะจากประสบการณ์ของคนในแต่ละรุ่นค่ะ..น่าสนใจดี
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ (มัดมือเลย
)
ไม่ปฏิเสธหรอกครับ เพราะผมเองก็อยากถ่ายทอดมุมมองจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาของผม เพื่อแลกเปลี่ยนและฟังความเห็นจากท่านอื่นๆว่าคิดเห็นเป็นอย่างไรเช่นกันครับ
และใจจริงก็อยากชวนทั้งคุณอังศนา คุณสามสี และเพื่อนสมาชิกทุกท่านมาถ่ายทอดร่วมกันด้วย จะได้เป็นอะไรๆที่เหมือนเรานั่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ที่มีชีวิต
ชีวิตคนเราคนหนึ่งๆ ก็ไม่ต่างไปจากหนังสือที่น่าอ่านครับ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของใครก็ตามที
*******************************
แบบที่ผมว่านั่นแหละ ชีวิตวัยรุ่นของผมในอดีต มันเลวร้าย พอๆกับ หรืออาจมากกว่า แดง ไบเล่ย์ในภาพยนตร์ 2499 อันธพาลครองเมือง ด้วยซ้ำ
ผมเรียนในโรงเรียนชายล้วน(ในสมัยนั้น ปัจจุบันเปลี่ยนไปเป็นสหศึกษา แล้ว) ที่มีชื่อเสียงย่านพญาไท ว่าเก่งทั้งเรียน และเก่งทั้งเกเร
..จำแม่นว่า ในอดีต ในโรงเรียน ไม่ว่าจะมีเรื่องทะเลาะกับใครก็ตาม ก็จะตกลงและตัดสินกันด้วย กำปั้น ไม่มีอาวุธใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่มีการใช้พวกมารุมกัน
หลังโรงเรียนเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ใช้วัดความเป็นลูกผู้ชาย(หรือเปล่า?นะ) ซัดกันด้วยกำปั้นไม่มีรู จนกว่าจะเลิกรากันเอง หรือฝ่ายใดขอให้เลิก แต่จะไม่มีคนมารุม มาห้าม แต่จะมีคนมาดูและกำกับไม่ให้มีการรุม ไม่ให้มีการเอาเปรียบแบบขี้โกง
ตั้งแต่เด็กจนเรียนจบชั้น มศ.5 (สมัยผมมันเป็น ม.ศ. 5 ครับ ) ชกกกับเพื่อนนักเรียนด้วยกันเฉลี่ย ปีละสามคน ส่วนใหญ่ ไร้สาระ ด้วยครับ
แต่เด็กสมัยนี้ ไม่เป็นแบบนั้น ไม่แฟร์เพลย์ ไม่มีใจนักเลงตัวต่อตัว มีแต่พวกมากลากไป มีแต่รุม มีแต่เล่นของ มีแต่เอาเปรียบคู่ต่อสู้
สมัยผม ชกกันเจ็บเจียนตาย จบแล้ว ก็จบครับ จับมือเป็นเพื่อนกัน บางคนเป็นเพื่อนจนวันตายก็มี
มีคนหนึ่งที่ผมไม่ลืม ตอนนี้ มันเป็นอธิบดีผู้พิพากษาไปแล้ว เอ่ยชื่อได้ ไม่กลัวติดคุก น้ำเพชร ปาณะถึก ครับ
ชกกับผมจนเยินกันไปทั้งหน้า ตามตัวก็มีแต่แผลระบมไปหมด แค่เรื่องนิดเดียว ดูดบุหรี่เปียก
คือมันกะผมเป็นเพื่อนกัน มันเป็นรุ่นพี่ผมหนึ่งปี ผมดูดบุหรี่อยู่ ไอ้จิมมี่ (ชื่อเล่นมัน) มันก็มาขอดูด ดูดไม่ดูดเปล่าดันทำก้นเปียก (สมัยนั้น สูบกรุงทองสั้น)
เถียงไปมากัน สักพัก เฮ้ย ชกกันดีกว่า
เด๋วนี้มันใหญ่โตในราชการตุลาการไปแล้ว แต่มันเหมือนเดิมกับผมทุกอย่าง.