อิทรายุธ wrote:เรียนคุณ dtonNa
ก่อนอื่น...
แผนฆ่ามวลชนตนเอง เป็นแผนการรบอย่างหนึ่งของการทำสงครามมวลชน บรรดาคนที่ทำสงครามมวลชน หรือสู้รบโดยใช้มวลชนเป็นกำลัง จะรู้จักแผนนี้กันเป็นอย่างดี แต่ปกติแล้วแผนนี้จะไม่ถูกนำออกมาใช้เว้นแต่ผู้นำเห็นว่าถึงจุดจำเป็นจริงๆ ซึ่งสำหรับการต่อสู้ของเสื้อแดงนี้ พื้นฐานเดิมๆแกนนำก็ย่อมไม่อยากฆ่ามวลชนตนเองมาก่อน แต่เพื่อสถานการณ์สู้รบพัฒนามาถึงขั้นนี้ เขาจึงหยิบออกมาใช้ตั้งแต่สงกรานต์ทีผ่านมา
ผมขอขยายความด้วยว่า สำหรับคนที่ทำการสู้รบ หรือมีความรู้ด้านการสู้รบนั้น เมื่อเขาเห็นการสู้รบของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เขาจะมองออกทันทีว่าว่าฝ่ายนั้นกำลังรบอยู่ด้วยแผนการณ์ใด เหมือนๆกับที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลมองออกว่าทีมคู่แข่งกำลังเล่นด้วยแผนใด และทีมของตนจะแก้เกมด้วยแผนใด ในกรณีการรบนี้ก็เช่นกันเมื่อมองออกว่าฝ่ายตรงข้ามจะรุกมาด้วยแผนใด ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องหาทางแก้เกมกันไป ซึ่งที่จริงแล้วในการรบที่ยืดเยื้อติดพัน เขาก็จะประเมินด้วยว่าในการรบครั้งถัดไปคู่ต่อสู้จะรบด้วยแผนใด ดังนั้นแผนฆ่ามวลชนตนเองที่ถูกปรับปรุงนำมาใช้ใหม่นี้ ฝ่ายรัฐบาลเองก็รู้อยู่ครับ
การทำสงครามมวลชนนั้นจะมีอยู่สามระดับ ผมขอเรียกอย่างให้เข้่าใจง่ายๆว่า ขันธรรมดา ขั้นกว่า และขั้นสุด
ขั้นธรรมดาคือจัดมวลชนประท้วงธรรมดา เช่น ม๊อบสมัชชาคนจนเป็นต้น
ขั้นกว่าคือยั่วยุให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายเริ่มก่อความรุนแรงก่อนเพื่อให้สูญเสียความชอบธรรม (ในการสงครามฝ่ายใดเสียความชอบธรรมฝ่ายนันจะแพ้เสมอ) แผนระดับนี้เคยนำมาใช้อย่างได้ผลในการต่อสู้เดือน พ.ค. 2535 นำไปสู่ชัยชนะของฝ่ายประชาชน และในการต่อสู้ของพันธมิตรก็นำมาใช้สองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผลที่ชัดเจน เนื่องจากแผนระัดับนี้เป็นที่รู้กันดีของคู่ต่อสู้ทุกฝ่ายแล้ว จึงมักแก้เกมกันได้หมด
ขั้นสุด คือฆ่ามวลชนตนเองแต่ผลักให้ฝ่ายตรงข้ามเสียความชอบธรรม แผนนี้ที่ชายแดนใต้ฝ่ายแบ่งแยกดินแดนใช้หลายครั้งในช่วงสองสามปีแรกๆ และได้ผลเป็นอย่างมาก แต่มาถึงระยะหลังๆทั้งฝ่ายรัฐและประชาชนดูจะรู้ทัน เลยไม่ค่อยมีการใช้กันอีก โดยปกติแผนนี้จะมีสองระดับคือ
ระดับแรกบีบคั้นให้ฝ่ายตรงข้ามฆ่ามวลชนตนเอง เช่น ที่โจรใต้ทำสำเร็จอย่างงดงามในกรณีกรือเซะและตากใบ และฝ่ายเสื้อแดงนำมาใช้เมื่อสงกรานต์ แต่ไม่สำเร็จ
ระดับสองคือฆ่ามวลชนตนเองด้วยฝ่ายตัวเองที่อำพรางเป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นที่ทราบแน่ชัดว่าฝ่ายเสื้อแดงจะนำแผนระดับนี้มาใช้ โดยพยายามหาช่องนำมาใช้สองสามเดือนมาแล้ว จนถึงการประท้วงใหญ่ที่กำลังจะกิดขึ้นนี้ ก็คือมุ่งแผนนี้เป็นหลัก (แผนระดับนี้ถ้าไม่ใจดำจริงจะทำไม่ได้) แต่แนนอนว่ามันจะต้องไล่ระดับไปจากขั้นธรรมดาก่อนในวันแรกๆ จากนั้นจะยกระดับไปสู่ขั้นกว่า และไปสู่ขั้นสุด ชนะได้ที่ขั้นไหนก็อยุดที่ขั้นนั้น
ผมคงไม่สามารถเสนอหลักฐานอะไรได้ชนิดมีใบเสร็จ ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณเอาเอง แต่ขอบอกเพิ่มเติมว่าในบรรดาแกนนำของทั้งแดงและเหลืองนั้นมีพวกที่เรียกว่า "ซ้ายเก่า" คืออดีตพลพรรคอมมิวนิสต์ไทยอยู่ด้วย และแม้แยกฝ่ายกันรบแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ยังติดต่อ โทรหา นัดพูดคุยกันอยู่ตลอด ผมเองก็ทำเช่นนั้น เมื่อตอนสงกรานต์ผมก็โทรหาเพื่อนที่เป็นซ้ายเก่าถึงกลางม๊อบแดงตลอดเวลา ซึ่งพวกนี้พื้นฐานจิตใจจะรักมวลชน จึงไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจกับแผนฆ่ามวลชน ข้อมูลต่างๆจึงรั่วออกมาจากพวกนี้เอง (การฆ่ามวลชนตนเองนั้นปกติเป็นพฤติกรรมของพวกขวาจัด) ครั้งนี้ก็เช่นกัน
overtherainbow wrote:คนธรรมดาจะคิดป้องกันยังไง
ติดสปอร์ตไลท์ กล้องวงจรปิด
รถดับเพลิง เตรียมให้พร้อม ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับสูงสุด
แปะประกาศใบปลิว และบอกข้อดีและข้อเสีย ของการเลือกแต่ละข้าง
สติ สติยังไม่มาปัญญาเลยยังไม่มี ขอนอนคิดก่อน![]()
Anakinta wrote:อยู่ที่ว่าทหารบ้านเรา ที่จะออกมา หลัง 2 ฝ่ายปะทะกันเป็นฝ่ายไหน... ถ้าฝ่ายทักษิณออก ครั้งนี้คง "ปฎิวัติ" แบบเต็มรูปแบบ เพราะจะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว (คงทราบนะคะว่าหมายถึงอะไร)
ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ และทหารบางส่วนคงไม่ยอม แล้วก็คงสู้กันจนแหลกไปข้างนึง
ส่วนตัว ดิชั้นว่า ถึงจะเกิดสงครามกลางเมือง ปฏิวัติได้จริง ฝ่ายทักษิณก็ไม่มีทางชนะ เพราะก็ต้องสู้กับประชาชนอีกหลายรอบ
...แต่ใจรัญและพวกซ้ายทารกคงแอบยื้ม...
ป.ล. ชาวนางเลิ้ง คือกรณีตัวอย่าง แม้ควายแดงจะยิงไป 2 ศพ แต่พวกเขาก็ยังปกป้องตัวเองและตอบโต้ในพื้นที่ จนทำให้พวกเสื้อแดงต้องถอดเสื้อเปลี่ยนเป็นขาว เวลาผ่านไปมา แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้ลามไปดักทำร้ายมันจนถึงที่สุด แค่ปกป้องเขตพื้นที่ของตนเองเท่านั้น
บทนี้ทักษิณเล่นเก่งกว่า และเล่นไม่หยุดต่อเนื่องมาตั้งแต่ออก CNN มกรา 2550 แดน ริเวอร์ส คนสัมภาษณ์วันนั้นออกอาการเห็นใจอิทรายุธ wrote:บทที่คุณอภิสิทธิถนัดที่จะเล่น และเล่นแล้วได้คะแนนเสมอ คือบท "พระเอกรูปหล่อแสนดีถูกรังแก" หวังว่าจะไม่อินและหวังพึ่งพากับบทแบบนี้มากเกินไปจนตกประมาท พลาดท่าขึ้นมาอาจตายได้ง่ายๆ การตายของคุณอภิสิทธิเป็นความหวังยิ่งยวดอย่างหนึ่งของคุณทักษิณที่นับวันจะหวาดกลัวคุณอภิสิทธิมากขึ้นทุกที