.....และแล้วสิ่งมีชีวิตที่สังคนไทยรู้จักเขาในนาม สมัคร สุนทรเวช ก็ปิดฉากลง
ท่ามกลางการแสดงความรู้สึกต่างๆนาๆของคนที่ได้รับผลกระทบจาก"กรรม"ที่สิ่งมีชีวิตนามนี้
แต่สิ่งที่ สมัคร สุนทรเวช จะต้องประสบ นับตั้งแต่วันที่ 24 พย.2552 เป็นต้นไปน่าจะเป็นอย่างนี้
ชีวิต 49 วันหลังความตาย
มนุษย์มีจิตวิญญาณ เมื่อใดสิ้นลมปราณ วิญญาณไปอยู่ที่ไหน?
มนุษย์เมื่อตายแล้ว ภายใน 49 วัน วิญญาณผู้นั้นก็จะไปรายตัวยังยมโลก
ผู้ที่ตอนมีชีวิตประกอบแต่กรรมดี พอไปถึงยมโลกเทวทูตก็จะพาไปส่งที่บนสวรรค์
ส่วนผู้ที่ตอนมีชีวิตอยู่ชอบก่อกรรมทำชั่ว กรรมนั้นตนก็ต้องเป็นผู้รับต้องถูกส่งไป
จองจำที่นรก เสวยทุกข์ทรมาน
ถึงตอนนี้จึงเพิ่งรู้ว่า พอมัจจุราชมาหา ทุกอย่างพาไปไม่ได้
มีแต่บาปกรรมติดตัวเท่านั้น แต่สำนึกได้ก็สายไปแล้ว
จึงขอแจกแจงความแตกต่างชีวิตหลังความตายของวิญญาน
ผู้ประกอบกรรมดีและชั่ว เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจชาวโลกดังต่อไปนี้
เจ็ดวันรอบแรก วิญญาณผู้ตายต้องเดิน ผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้าย
เหมือนเสือขวางทางอยู่ เมื่อวิญญาณบาปไปถึงก็เกิดความหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป
ฝูงหมาป่าก็เข้ารุมล้อมกระโจนเข้าขย้ำขบกัด วิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว
กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวทูตมาคอยพิทักษ์คุ้มครอง
พวกหมาป่าได้แต่มองนิ่งเฉยไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ 2 เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผีเจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป
ก็จะทุบตีทิ่มแทงอย่างไม่ปรานีปราศรัย และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันตามมาทวงหนี้เวรกรรม
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผีจะได้รับการต้อนรับ ให้ผ่านไปโดยดี
เจ็ดวันรอบที่ 3 เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกล่ามโซ่ตรวน
นำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่งกรรม ภาพการทำบาปต่างๆ ก็จะปรากฎขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ
เหมือนกับการฉายภาพยนตร์เสร็จแล้ว ก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ
ถึงตอนนี้วิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด แต่ก็สายไปเสียแล้ว
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงที่แห่งนี้จะได้รับการต้อนรับอย่างดี
มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และดูสภาพของญาติมิตรที่ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด
เจ็ดวันรอบที่ 4 มาถึงภูเขากระดาษเงินกระดาษทองการจะขึ้นไปที่ภูเขากระดาษเงินกระดาษทองนี้ยากลำบากมาก
ภูเขากระดาษเงินกระดาษทองนี้ คือ กระดาษเงินกระดาษทองที่คนในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้
กองสุมทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์
เจ็ดวันรอบที่ 5 วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม
ได้เห็นลูกหลานคนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
ถึงตอนนี้ จึงเริ่มรู้ว่าอยู่กันคนละภพภูมิ ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่อาลัยอาวรณ์
เจ็ดวันรอบที่ 6 เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงตำหนักที่หกยมบาลตำหนักหก จะสั่งให้
เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุมบัญชี ตรวจดูบาปและบุญที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต
หลังจากนำบาปและบุญหักลบกันแล้ว ถ้าฝ่ายบุญมีมากกว่าฝ่ายบาป ก็จะให้ไปจุติยังสุคติภูมิ
ถ้าฝ่ายบาปมีมากกว่าจะส่งไปนรกภูมิเสวยทุกขเวทนา
เจ็ดวันรอบที่ 7 เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงตำหนักที่เจ็ด
ยมบาลตำหนักเจ็ดก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้ตายตอนมีชีวิยอยู่ ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมากหรือไม่
ถ้าได้ถือศีลกินเจงดฆ่าสัตว์ก็จักระงับโทษ ถ้าชอบฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้อง ก็จะเพิ่มโทษอีกเท่าตัว
ข้างต้นนี้ คือชีวิต 49 วันหลังความตาย ซึ่งผู้ตายทุกคน จะต้องประสบพบผ่าน ซึ่งเซฟเก็บไว้ จำไม่ได้ว่าใครเป็นผู้เขียนไว้