เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

คลังปัญญา กระทู้ปักหมุดเดิม เรื่องสำคัญจัดเก็บที่นี่

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby overtherainbow » Fri Nov 20, 2009 10:03 pm

เห็นว่าหากผ่านพ้นวันแดงสะท้านภพ 28 นี้ไปแล้ว
ช่วงปีใหม่ก็อย่าหวังจะมีความสุขกัน
กดดัน คนไม่มีอำนาจและอาวุธในมือจริงๆ
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby pooyong » Sat Nov 21, 2009 5:35 am

ทำไมการสร้างความวุ่นวาย ให้ประเทศชาติ เป็นความถูกต้อง ความดีของคนเสื้อแดง
ใครเป็นคนสอนเค้าแบบนี้
การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน
User avatar
pooyong
 
Posts: 1496
Joined: Mon Oct 19, 2009 9:55 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby dahlia » Sat Nov 21, 2009 6:45 pm

ไม่ยอมให้ตก
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , nontee , eAT , Moon , tonythebest , -3- , amplepoor , เด็กปากดี
User avatar
dahlia
 
Posts: 1375
Joined: Mon Oct 12, 2009 2:35 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Mon Nov 23, 2009 8:44 pm

overtherainbow wrote:เห็นว่าหากผ่านพ้นวันแดงสะท้านภพ 28 นี้ไปแล้ว
ช่วงปีใหม่ก็อย่าหวังจะมีความสุขกัน
กดดัน คนไม่มีอำนาจและอาวุธในมือจริงๆ


ได้ข่าวมาแบบนั้นเหมือนกันค่ะ... ก็คงได้แต่ ขอพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองประเทศ
ให้ผ่านพ้นเหตุวิกฤติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นไปได้ด้วยดี อย่าให้เลือดเนื้อคนไทยด้วยกัน
ต้องไหลนองแผ่นดินไทยอีกเลยค่ะ... :cry: :cry:

pooyong wrote:ทำไมการสร้างความวุ่นวาย ให้ประเทศชาติ เป็นความถูกต้อง ความดีของคนเสื้อแดง
ใครเป็นคนสอนเค้าแบบนี้


วิทยาลัยคนเสื้อแดงไง... 8-) 8-)

dahlia wrote:ไม่ยอมให้ตก


ขอบคุณค่ะ... :mrgreen: :mrgreen:
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Fri Nov 27, 2009 3:23 pm

กองทุนนอมินี ชิเนตรา ทรัสต์

ขออนุญาติแวะพักริมข้างทางสักนิด เพื่อเพิ่มข้อมูลที่เกี่ยวกับเส้นทางซุกซ่อนทรัพย์สิน
ของอดีตผู้นำรัฐบาล ซึ่งมีมูลค่าเท่าใดนั้น มิอาจประมาณการได้ และในขณะนี้เรื่องราว
การซุกซ่อนเงินภายนอกประเทศกำลังอยู่ในขบวนการของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของ
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งอัยการสูงสุด ยื่นร้องขอให้ยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ
๗๖,๐๐๐ ล้านบาท (เจ็ดหมื่นหกพันล้านบาท) ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากอดีตผู้นำ
รัฐบาลแม้ว มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ในขณะดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลใช้อำนาจหน้าที่
เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น

ภายหลังอดีตผู้นำรัฐยบาล ทำการโอนกรรมสิทธิ์ในหุ้นของบริษัทต่าง ๆ ให้แก่บุตร, พี่
น้อง หรือแม้กระทั่งคนรับใช้ คนสวนและพนักงานขับรถ ในช่วงกลางปี พ.ศ. ๒๕๔๓
และรายการบัญชีทรัพย์สินที่ทักษิณ ยื่นแสดต่อคณะกรรมการ ปปช มีมูลค่าทรัพย์สิน
ประมาณ ๕๐๐-๖๐๐ ล้านบาท ซึ่งการยื่นรายการบัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช นั้นต้องยื่น
ทั้งสิ้น ๓ กรณี ดังนี้

๑) ยื่นเข้ารับตำแหน่ง
มูลค่าทรัพย์สินตามรายการบัญชีที่ทักษิณยื่นเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลครั้ง
ที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๔๘ ระบุมีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ ๕๐๖,๔๙๓,๙๗๒
บาท (ห้าร้อยหกล้านสี่แสนเก้าหมื่น...บาท)


๒) ยื่นเมื่อพ้นจากตำแหน่ง
มุลค่าทรัพย์สินตามรายการบัญชีทรัพย์สินที่ทักษิณยื่นต่อ ปปช เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน
๒๕๔๙ มีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ ๕๕๗,๓๖๓,๑๒๓ บาท (ห้าร้อยห้าสิบเจ็ดล้านสาม
แสนหกหมื่น...บาท)


๓) ยื่นเมื่อพ้นจากตำแหน่ง ๑ ปี
มูลค่าทรัพย์สินตามรายการบัญชีทรัพย์สินที่ทักษิณยื่นต่อ ปปช เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน
๒๕๕๐ มีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ ๖๑๔,๓๙๓,๒๕๙ บาท (หกร้อยสิบสี่ล้านสามแสน
เก้าหมื่น...บาท)


จุดที่น่าสงสัยคือ เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๐ ทักษิณทำสัญญาเทคโอเวอร์ทีม
ฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในมูลค่า ๑๐๘ ล้านปอนด์ หรือประมาณ ๗,๕๖๐ ล้านบาท
(คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันทำสัญญาเทคโอเวอร์) ซึ่งที่มาของเงินจำนวนนี้
ยังไม่ปรากฎแน่ชัดว่ามีที่มาอย่างไร ทักษิณนำเงินจำนวนนี้มาจากไหน และคำถามนี้
ก็ไม่เคยมีคำตอบจากปากของทักษิณ

Image

Image

ต่อมาในช่วงประมาณเดือนกันยายน ๒๕๕๑ ทักษิณขายทิมฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้
ให้กับกลุ่มทุนจากรัฐอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในมูลค่า ๒๐๐ ล้านปอนด์
หรือประมาณ ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งคาดว่าทักษิณได้กำไรจากการขายในครั้งนี้มูลค่า
๕๐ ล้านปอนด์ หรือประมาณ ๓,๐๐๐ ล้านบาท

และจากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ รวมทั้งการโพสต์ลงในทวิตเตอร์ ทักษิณคุย
ว่าได้ลงทุนทำเหมืองเพชร การออกล๊อตเตอรี่ และอีกหลายโครงการในประเทศแถบ
ทวีปแอฟฟริกา ตามที่สื่อนำเสนอ รวมทั้งมีการโพสต์รูปภาพขณะอยู่ในเหมืองเพชร
และยังมีการโชว์ภาพเพชรที่ขุดได้จากเหมือง

Image
Image
Image

คำถามคือ.... ทักษิณนำเงินและทรัพย์สินเหล่านี้มาจากไหน

ในเมื่อมูลค่าทรัพย์สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ปปช เมื่อ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๐ มีมูลค่า
ประมาณ ๖๐๐ ล้านบาท และ ทรัพย์สินของครอบครัวที่ได้มาจากการขายหุ้นชินคอร์ป
ให้กับ เทมาเส็ก เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๔๙ ที่มีมูลค่าประมาณ ๗๖,๐๐๐ ล้านบาท
ถูกอายัดไว้ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง
การเมือง

หรือข้อสงสัยที่ว่า ทักษิณน่าจะมีทรัพย์สินจำนวนมากที่ซุกซ่อนอยู่ โดยผ่าน บ.วินมาร์ค
และ บ.แอมเพิลริช ซึ่งตั้งอยู่บนหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น จะเป็นจริง ทั้งนี้เพราะการทำธุร
กรรมซื้อ-ขายหุ้นผ่านบริษัททั้ง ๒ แห่งนี้ มีความยุ่งยาก ซับซ้อนเป็นอย่างมาก


ทักษิณยอมรับว่าเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท แอมเพิลริช ขึ้น เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๒ และ
โอนหุ้นชินคอร์ปให้จำนวน ๓๒.๙๒ ล้านหุ้น (เป็นจำนวนหุ้นก่อนแตกพาร์เป็น ๓๒๙.๒
ล้านหุ้น) แต่ในส่วนของบริษัท วินมาร์ค นั้น ทักษิณไม่เคยยอมรับว่าเป็นของตน ทั้งๆ ที่
ที่อยู่ของวินมาร์ค และ แอมเพิลริช มีสถานที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน คือ PO. BOX 3151, Road
Town, Tortola, British Virgin Island นอกจากนี้ ทักษิณและภรรยา ยังโอนหุ้นกลุ่ม
เอสซี แอสเสท ทั้ง ๖ บริษัท ได้แก่

บจ.เอสซี แอสเสท, บจ.เอสซี ออฟฟิซ ปาร์ค, บจ.เวิร์ธ ซัพพลายส์, บจ.พีที อคร์ปอ
เรชั่น, บจ.เอสซีเค เอสเตท และ บจ.บีพี พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ ๑,๕๒๗
ล้านบาท (หนึ่งพันห้าร้อยยี่สิบเจ็ดล้านบาท) ให้กับ บ. วินมาร์ค เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม
๒๕๔๓

"ข้าพเจ้าและคู่สมรส ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นหรือกรรมการบริษัท วินมาร์ค และข้าพเจ้ามิได้เป็น
เจ้าของหุ้นบริษัทชินคอร์ป นอกเหนือไปจากที่โอนให้แก่บริษัท แอมเพิลริช และญาติ
พี่น้องคนอื่น..และกรณีบริษัท วินมาร์ค มีหุ้นบริษัท ชินคอร์ป อยู่จริงก็เป็นเรื่องของ
บริษัท วินมาร์ค เพราะหุ้นบริษัท ชินคอร์ป เป็นบริษัทมหาชน ที่ซื้อขายอยู่ในตลาด
หลักทรัพย์"
คำให้การของทักษิณ ที่ยื่นต่อ คตส.

ข้อสังเกตุที่น่าสงสัย เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ วินมาร์ค ซึ่งถือหุ้น เอสซี แอสเสท จำนวน
๖๑,๑๖๕,๑๔๔ หุ้น (หกสิบเอ็ดล้านหนึ่งแสน...หุ้น) หรือเกือบจะ ๒๐% ของทุนจด
ทะเบียนทั้งหมด มานานกว่า ๓ ปี ได้ทำการโอนกรรมสิทธ์ในหุ้นทั้งหมดให้แก่ แวลู
แอสเสท ฟันด์ (VAF) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะลาบวน ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ ๑๓ สิงหา
คม ๒๕๔๖ ก่อนที่จะนำ เอสซีฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพียง ๒ สัปดาห์
(จดทะเบียนในตลาดฯ วันที่ ๕ กันยายน)

ซึ่งก่อนหน้านี้ ทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า วินมาร์ค ซื้อหุ้น บจ.เอสซี แอสเสท เพื่อ
ผลประโยชน์จากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ข้อสงสัยยังไม่จบแค่นั้น วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๔๖ ก่อน เอสซี แอสเสท จดทะเบียน
ในตลาดหลักทรัพย์เพียง ๔ วัน (จดทะเบียน ๕ กันยายน) แวลู แอสเสท ฟันด์ VAF
ได้โอนหุ้นเอสซี แอสเสท ทั้งหมดที่รับโอนมาจาก วินมาร์ค โดย VAF ได้โอนต่อให้
- กองทุนโอเวอร์ซี โกรว์ธ ฟันด์ อินซ์ (OGF)
- กองทุนออฟชอร์ ไดนามิค ฟันด์ อินซ์ (ODF)

ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะลาบวน ประเทศมาเลเซียเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ VAF ยังได้สละสิทธิ์
การซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บจ.เอสซี แอสเสท เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๖ ให้แก่ พิณ
ทองทา และ แพรทองธาร ซึ่งการสละสิทธิ์ในครั้งนี้ทำให้ VAF เสียประโยชน์ประมาณ
๗๑ ล้านบาท

ซึ่งข้อสงสัยเหล่านี้ ได้ถูกไขปริศนาที่ค้างคาใจให้กระจ่าง เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน
๒๕๕๒ ที่ผ่านมา จากคำให้การของ คุณวรัชญา ผู้ช่วยเลขาฯ สำนักงานคณะกรรมการ
กำกับหลักทรัพย์ฯ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมื่อง ซึ่งผล
การตรวจสอบข้อมูล ในต่างประเทศ พบหลักฐาน ดังนี้


๑) ทักษิณและภรรยา จัดตั้งกองทุนลับ "ซิเนตรา ทรัสต์" ขึ้น จากนั้นให้กองทุนชิเนตรา
เข้าไปถือหุ้น บจ.บลูไดมอนด์ ๑๐๐% และ บจ.บูลไดมอนด์ ถือหุ้นใน บจ.วินมาร์ค ๑๐๐%
โดย ทักษิณและภรรยา ได้ว่าจ้างให้ บจ.แมธีสัน บนเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่
ว่าจ้างให้จัดตั้ง บริษัท แอมเพิลริชฯ ดำเนินการจัดตั้งบริษัททั้งสามและในการทำธุรกรรม
แต่ละครั้งต้องฟังคำสั่งจากผู้ว่าจ้าง (คือ ทักษิณและภรรยา)


๒) เอกสารการจัดตั้ง "ซิเนตรา ทรัสต์" ระบุชัดว่า ผู้รับประโยชน์จากกองทุนดังกล่าว คือ
พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมานและลูกๆ

๓) เอกสารในการเปิดบัญชีหุ้นของบริษัท วินมาร์ค ที่ธนาคารยูบีเอส สิงคโปร์ ระบุผู้รับ
ผลประโยชน์คือ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน


๔) เงินที่บริษัทวินมาร์คอ้างว่า ใช้ในการซื้อหุ้นกลุ่มบริษัทเอสซี แอสเสทฯ ทั้ง 6 บริษัท
มูลค่าประมาณ ๑,๕๒๗ ล้านบาทฯ และโอนเข้าบัญชีคุณหญิงพจมานนั้น ปรากฏว่าเมื่อ
ตรวจย้อนกลับไปพบว่า ในจำนวนเงินดังกล่าวนั้น เงินจำนวน ๓๐๐ ล้านบาทโอนมาจาก
บัญชีของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน จากธนาคาร ๓ แห่งในสิงคโปร์ ที่เหลือ
อีกประมาณ ๑,๒๐๐ ล้านบาทเป็นเงินจากบริษัท วินมาร์ค ในสิงคโปร์


๕) กองทุน VAF ที่รับโอนหุ้นเอสซี แอสเสทฯ ต่อจากบริษัท วินมาร์ค ถือหุ้นโดยบริษัท
วินมาร์ค 100 % เช่นเดียวกับ OGF และ ODF ถือหุ้นโดย VAF


๖) บริษัท วินมาร์ค ถือหุ้นชินคอร์ปตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ อยู่ ๕๔ ล้านหุ้น (ประมาณ
๑.๘%) โดยเปิดบัญชีที่ธนาคารยูบีเอส สิงคโปร์ และเป็นเลขบัญชีเดียวกับบริษัท แอม
เพิลริชฯ ที่ถือครองหุ้นชินคอร์ปอยู่ ๓๒๙.๒ ล้านหุ้น (จากหลักฐานของ คตส.)


ซึ่งหลักฐานทั้งหมด สามารถให้ข้อสรุปที่ บ่งชี้ว่า

๑) พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวชินวัตร มีเงินซุกซ่อนอยู่ในต่างประเทศที่เป็นจำนวน
มหาศาลตั้งแต่ก่อนและระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยมิได้ยื่นแสดงรายการ
บัญชีทรัพย์สินต่อ ปปช นอกจากจะขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว ยังเป็นการโกหกต่อประชา
ชนมาตลอด

๒) พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงมีอำนาจในการจัดการหุ้นและทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมด ดังนั้น
หุ้นชินคอร์ปที่ถือโดยบริษัทต่างๆ และลูกๆ จึงเป็นเพียงการถือหุ้นแทนหรือ "นอมินี"
ซึ่งหากศาลฎีกาฯเชื่อในหลักฐานดังกล่าวหรือพยานฝ่ายทักษิณ ไม่อาจโต้แย้งได้
คงพอจะมองบทสรุปของคดี ยึดทรัพย์ ๗๖,๐๐๐ ล้านบาทได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

จึงไม่น่าแปลกใจว่า

ทำไม คนไกลบ้าน ไร้แผ่นดิน จึงต้องปฏิบัติการแทบ เทหมดหน้าตักให้ช่วงนี้
Attachments
Picture1.jpg
(26.89 KiB) Downloaded 565 times
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby pooyong » Fri Nov 27, 2009 7:51 pm

หายไปหลายวัน นึกว่าคุณ bird ไปหลงอยู่กระทู้คนอื่น จนลืมกระทู้นี้ซะแล้ว
มีหลายคน เคยเสนอมุมมองคล้ายๆนี้ มาแล้ว คุณ bird นำเสนออีกที
ก็เข้มข้นดีครับ สงสารก็แต่คนเสื้อแดง ที่ไม่ยอมอ่าน หรืออ่านไม่จบ
และไม่ยอมคิดตาม เฮ้อ ...
User avatar
pooyong
 
Posts: 1496
Joined: Mon Oct 19, 2009 9:55 am


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby แดง ขาว น้ำเงิน » Fri Nov 27, 2009 9:03 pm

สิ้นปีรวมเล่มครับ :mrgreen:
"ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือคนโง่ ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือทาส" เพลโต้
User avatar
แดง ขาว น้ำเงิน
Moderator
 
Posts: 4943
Joined: Thu Feb 12, 2009 4:07 pm
Location: Earth

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Fri Nov 27, 2009 9:40 pm

overtherainbow wrote::mrgreen:


แว๊บ แว๊บ มาทักทาย กะพี่สาวคนสวย :mrgreen:

:mrgreen:
pooyong wrote:หายไปหลายวัน นึกว่าคุณ bird ไปหลงอยู่กระทู้คนอื่น จนลืมกระทู้นี้ซะแล้ว
มีหลายคน เคยเสนอมุมมองคล้ายๆนี้ มาแล้ว คุณ bird นำเสนออีกที
ก็เข้มข้นดีครับ สงสารก็แต่คนเสื้อแดง ที่ไม่ยอมอ่าน หรืออ่านไม่จบ
และไม่ยอมคิดตาม เฮ้อ ...


ขอบคุณค่ะที่ยังคงติดตามโดยสม่ำเสมอ และ ขออำภัยด้วยค่ะ ที่หายไปหลายวัน
พอดีช่วงนี้ใก้ลสิ้นปี งานเยอะมาก มีเวลาเมื่อไหร่จะแวะมาค่ะ
รับรอง ไม่ลืมกระทู้ตัวเองค่ะ ยังคงมุ่งมั่นกับเจตนารมณ์เดิมค่ะ
แค่มีใครสักคนแวะมาอ่าน แล้วฉุกคิดสักนิด ก็ถือว่าประสบผลตามที่ตั้งใจไว้แล้วค่ะ :mrgreen:

แดง ขาว น้ำเงิน wrote:สิ้นปีรวมเล่มครับ :mrgreen:


คิดไว้เหมือนกัน เนี้ยแท่นพิมพ์รอแล้วนะ กะว่าครบ ๑๐๐ เมื่อไหร่
พิมพ์แจกแน่นอน...(ผันไว้แบบนั้น) :mrgreen:
ยังไงก็ ขอบคุณค่ะ ที่ติดตาม อาทิตย์หน้าจะส่งหนังสือให้อีก ๑ เล่ม
รอรับนะ " เปลวเทียน ที่ปลายอุโมงค์ "

ขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงค่ะ เดี๋ยวจะกลับมาอัพข้อมูลต่อ คืนนี้พอมีเวลาว่างค่ะ
:mrgreen: :mrgreen:
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Fri Nov 27, 2009 10:11 pm

overtherainbow wrote:ในฐานะแฟนครับ จองเล่มนุงนะ :D


ได้ขอรับ...ว่าแต่ pm ที่อยู่มาด้วยน่ะเจ้าค่ะ เบิร์ดมีหนังสือที่น่าสนใจ
จะส่งให้ค่ะ

คุณ pooyong คุณ Paper Punch คุณ tu 249cm ด้วยน่ะค่ะ...ถ้าไม่รังเกียจค่ะ :mrgreen:
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby pygmy_hippo » Sat Nov 28, 2009 12:07 pm

อ่านแล้วความดันจะขึ้น
เบื่อพวก "ไม่เอาเจ้าจนคลั่ง"
User avatar
pygmy_hippo
 
Posts: 546
Joined: Sat Oct 25, 2008 9:41 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Sat Nov 28, 2009 1:07 pm

คำให้การ ดคียึดทรัพย์

สืบเนื่องจาก "กองทุนนอมินี ชิเนตรา ทรัสต์" ซึ่งขณะนี้คดียึดทรัพย์ของอดีตผู้นำรัฐบาล
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ร้องขอให้ทรัพย์สินมูลค่าประมาณ ๗๖,๐๐๐ ล้านบาทของท่าน
อดีตผู้นำรัฐบาล ทักษิณ รวมทั้งทรัพย์สินของบุคคลในครอบครัว ให้ตกเป็นของแผ่นดิน
อันเป็นผลมากจาก ทักษิณมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ โดยขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะ
รัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น อยู่ระหว่างการไต่สวนพยาน

คำให้การที่จะขอนำเสนอต่อไปนี้ บางท่านอาจจะเคยรับรู้จากสื่อ เพราะคดีนี้เป็นคดีที่
น่าติดตาม และเป็นการลุ้นระทึกของผู้ถูกกล่าวหา เป็นที่ยากแก่การคาดเดาหรือการ
วิเคราะห์ว่า คำพิพากษาจะสรุปออกมาในรูปแบบใด จึงขอรวบรวมคำให้การของบุคคล
บางท่านไว้ เพื่อเป็นกรณีศึกษา

วันที่ ๒๔ พฤศิจกายน ๒๕๕๒ เวลา ๙.๓๐ น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำ
แหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เจ้า
ของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา ๙ ท่าน ไต่สวนพยานคดีที่อัยการสูงสุด ร้องขอ
ให้ทรัพย์สินมูลค่าประมาณ ๗๖,๐๐๐ ล้านบาท ของอดีตผู้นำรัฐบาล ทักษิณรวมทั้งบุค
คลในครอบครัว ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ โดยขณะดำรง
ตำแหน่งใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น

โดยในวันนี้พนักงานอัยการนำ พยานบุคคลเข้าเบิกความ ดังนี้

๑) นางเนติมา อดีตผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย บจ. โทเทิล ฯ (มหาชน) หรือ แทค และ
นายธนา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทค เข้าเบิกความเกี่ยวกับการทำสัญญาระหว่าง
หน่วยงานของรัฐกับ บจ.แอดซ์วานซ์ อินโฟร์ ฯ (มหาชน) หรือ เอไอเอส ที่ได้เปรียบ
แทค เนื่องจากเอไอเอส ไม่ต้องเสียค่าเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ หรือเอ็กซ์เซป ชาร์จ
ให้กับ กสท.

ในขณะที่แทคต้องเสียค่าเอ็กซ์เซปชาร์จ ในอัตราหมายเลขละ ๒๐๐ บาทต่อเดือน ใน
การให้บริการแบบโพสต์ เพด POST PAID ส่วนการให้บริการแบบพรีเพด PRE PAID จะ
เสียในอัตรา ๑๘% ของรายได้ในแต่ละเดือน ซึ่งเป็นความเลื่อมล้ำของการทำสัญญา
ทำให้แทคไม่สามารถแข่งขันกับเอไอเอส ได้อย่างเป็นธรรม


๒) นายวิบูลย์ อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ เข้าเบิกความสรุปว่า การที่
เอ็กซิมแบงก์ให้รัฐบาลพม่ากู้ยืมเงินจำนวน ๔,๐๐๐ ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ๓%
ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กู้ยืมมา เป็นผลให้กระทรวงการคลังต้องจ่ายเงินส่วนต่างคืนให้
เอ็กซิมแบงก์รวมจำนวนประมาณ ๖๗๐ ล้านบาทนั้น

เนื่องจากต้องทำตามนโยบายของรัฐบาลที่มีมติ ครม. ออกมาในขณะนั้น โดยที่เอ็กซิม
แบงก์ทำสัญญาโอนเงินให้กับธนาคารการค้าต่างประเทศของประเทศพม่า ซึ่งได้ทำสัญ
ญาให้จ่ายเงินจำนวน ๑๕ ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ให้กับ บจ.ชินแซทเทิลไลท์ ต่อมา
บจ. ชินแซทฯ ถึงโอนเงินจำนวน ๕.๕ ล้านเหรียญ US ให้กับบริษัท ฮาตาริ ประเทศพม่า

นายวิบูลย์ เบิกความว่า จากนโยบายดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน เอ็กซิมแบงก์ยังแบกรับดอก
เบี้ยจากการกู้ยืมเงินมาให้ประเทศพม่ากู้ดอกเบี้ยต่ำ แม้กระทรวงการคลังจะจ่ายเงินชด
เชยให้กับธนาคารเอ็กซิมแบงก์ก็ตาม


๓) นายสุนัย อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เบิกความเกี่ยวกับการสอบ
สวนในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บจ. เอสซี แอสเสทฯ (มหาชน) ผ่าน บจ.วินมาร์ค
โดยมีใจความโดยสรุปว่า หลังดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ได้ตรวจสอบพบว่า ครอบ
ครัวชินวัตร ถือหุ้นใน บจ.เอสซี แอสเสทฯ จำนวน ๖๐.๘๒% และมีกองทุนโอเวอร์ซี
โกรว์ธ ฟันด์(OGF) และ กองทุนออฟชอร์ ไดมามิกฟันด์ (ODFโ) ถือหุ้นอีก ๒๐%

นายสุนัยเบิกความว่า ช่วง บจ.เอสซี แอสเสทฯ นำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น ทั้ง ๒
กองทุนดังกล่าวขอสละสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุน จึงสงสัยว่า กองทุนทั้งสองเกี่ยวข้อง
กับครอบครัวชินวัตรหรือไม่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ตรวจสอบพบ กองทุนทั้งสอง ถือหุ้นโดยกองทุนValue Investment Mutual Fund
(VIF)โดย บริษัท วินมาร์ค ถือหุ้น กองทุน วีไอเอฟ

นายสุนัยกล่าวว่า เมื่อตรวจสอบการซื้หุ้นกลุ่มบริษัทเอสซี แอสเสทฯ ทั้ง ๖ บริษัท
(มูลค่าประมาณ ๑,๕๒๗ ล้านบาท) ของบริษัท วินมาร์ค พบว่า มีการนำเงินในบัญชี
ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร (ขณะนั้น) ในประเทศสิงคโปร์เป็น
จำนวน ๓๐๐ ล้านบาท ไปซื้อหุ้นเมื่อได้เงินมาได้โอนเงินเข้าบัญชี พ.ต.ท.ทักษิณ
ดังนั้น กลต.จึงสงสัยว่า บริษัท วินมาร์ค น่าจะเป็นบุคคลเดียวกัน หรือ มี ทักษิณ เป็น
เจ้าของ

นายสุนัย เบิกความต่อว่า เมื่อตรวจสอบการจัดตั้ง บริษัทเอสซีฯ ตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๗
โดย พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน และก่อตั้งบริษัท วินมาร์ค มีการตั้งบริษัท
ต่างๆเป็นบริษัทลูกในเครือเพื่อแบ่งหน้าที่กันทำ หลังปี ๒๕๔๓ ได้มีการเปลี่ยนแปลง
โครงสร้าง บริษัทเอสซี แอสเสทฯ

โดยนำบริษัท ที่คุณหญิงพจมาน ได้ก่อตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ เช่น บจ. บูลไดมอนด์ บจ.
ซิเนตร้า ทรัสต์ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทเอสซี แอสเสทฯ ซึ่งดีเอสไอมีเอกสารหลัก
ฐานที่ได้รับการรับรองจากประเทศสิงค์โปร์ที่เกี่ยวกับเรื่องเงินฝากบัญชีธนาคาร จาก
ประเทศฮ่องกง และมาเลเซีย เรื่องการจัดตั้งบริษัทที่เป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ
และ คุณหญิงพจมาน บริษัทต่างๆ ดังกล่าวไม่มีอำนาจ คนคุมและจัดการก็คือ ทักษิณ
และคุณหญิงพจมาน


"ต่อมา บจ. วินมาร์ค ขายหุ้นกลุ่ม บจ. เอสซี แอสเสทฯ คืนให้กับ น.ส.พินทองทา ใน
ราคาพาร์พร้อมสละสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยมีนางบุษบา ดามาพงศ์ กก.ผู้มีอำนาจ
ใน บจ. เอสซี แอสเสทฯ เป็นผู้แจ้ง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า สามารถดำเนินการแทน
กองทุนโอดีเอฟ และ โอจีเอฟได้ ทันที่ โดยไม่มีใครโต้แย้ง แล้วนำเงินเข้าบัญชี บริษัท
วินมาร์ค ที่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของ

อีกทั้งตอนที่หุ้น บจ. เอสซี แอสเสทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ ทักษิณและคุณหญิงพจมาน
ไม่เปิดเผยว่ากองทุนโอดีเอฟ และ โอจีเอฟ เป็นของตัวเองอันเป็นการปกปิดสาระสำคัญ
ที่ควรแจ้งให้ประชาชนผู้ถือหุ้นทราบ เพราะถือหุ้นรวมกันมากกว่า ๘๐% สามารถบริหาร
งานได้อย่างเบ็ดเสร็จ และไม่รายงานการได้มาหรือขายไปซึ่งหุ้นทุก ๕% ให้ กลต.ทราบ"

นายสุนัย เบิกความว่า ดีเอสไอได้ทำสำนวนฟ้อง บจ.เอสซี แอสเสทฯ แล้ว แต่ภายหลัง
อัยการสั่งไม่ฟ้องซึ่งให้เหตุผลในประเด็นที่ประกาศ กลต. ออกภายหลังเกิดคดีเอสซีฯ
ทำให้ไม่เป็นความผิด แต่พยานเห็นว่า น่าจะเป็นความผิดเกี่ยวกับการปกปิดสาระสำคัญ
เกี่ยวกับการถือหุ้น เหมือนที่เคยซุกหุ้นไปไว้ที่คนใช้ แต่กรณีนี้เป็นการซุกหุ้นใน บริษัท
นิติบุคคล ซึ่งเป็นนอมินี สำหรับในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้
กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาแล้ว


นายสุนัย เบิกความต่อว่า ได้แจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว
แต่ยังไม่ได้รับ ภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการ ซึ่งขอ
ให้ดีเอสไอดำเนินการเรื่องต่างๆ ทั้งสอบพยานเพิ่มเติม ก็ทำให้ตามที่ต้องการ ซึ่งพยาน
ไม่เคยเห็นเอกสารว่า บริษัท วินมาร์คฯ มีนายมามุส โมฮัมหมัด อัล-ซารี ที่ฝ่ายผู้ถูกร้อง
และผู้คัดค้านว่า เป็นนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียเป็นเจ้าของแต่อย่างใด จากหลักฐานที่
ได้จากการสืบสวน เชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของบริษัทวินมาร์ค มาตั้งแต่ พ.ศ.
๒๕๔๓-๒๕๔๙ มีวัตถุประสงค์เพื่อปกปิดความเป็นเจ้าของหุ้น


จากคำให้การของบุคคลข้างต้นนั้น ทำให้อยากต่อการคาดเคาคำพิพากษาของศาลฎีกา
แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าจะมีผลสรุปเป็นอย่างไร ซึ่งหากคำพิ
พากษาให้เป็นไปตามคำร้องขอของสำนักงานอัยการสูงสุด คือ ให้ทรัพย์สินของอดีต
ผู้นำรัฐบาลและบุคคลในครอบครัวตกเป็นของแผ่นดิน

การเคลื่อนไหวของแกนนำและมวลชนที่ให้การสนับสนุนอดีตผู้นำรัฐบาลจะเพิ่มความ
รุนแรงมากขึ้น ย่อมส่งผลให้การปะทะกันระหว่างมวลชนที่มีแนวคิดต่างกันสุดขั้ว ที่ก่อ
ตัวอยุ่ในสังคมไทย อาจสุ่มเสี่ยงต่อการเสียเลือดเนื่อ สงครามกลางเมือง สงครามระ
หว่างประชาชนคนไทยด้วยกัน หรือ การเคลื่อนไหวอาจจะแผ่วเบา และจบสิ้นลงไป
นั้นก็หมายความว่า ความสงบสุข ความรัก ความสามัคคี ในสังคมไทยจะหวนกลับมา
อีกครั้ง

แต่หากว่า คำพิพากษากลับตรงข้ามคำร้องขอ อดีตผุ้นำรัฐบาล แกนนำและกลุ่มมวล
ชนที่ให้การสนับสนุน ย่อมใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อเรียกร้องให้ล้างมลทินแก่อดีตผุ้นำอย่าง
มิต้องสงสัย ในขณะเดียวกัน ก็อาจจะสร้างความไม่พึงพอใจให้กับกลุ่มที่ต่อต้านอดีต
ผู้นำรัฐบาลที่ถูกกล่าวหา และอาจจะ ขอย้ำคำว่า อาจจะ ออกมาประท้วง ก่อม๊อบ หรือ
กระทำอย่างหนึ่งอย่างใด ที่จะนำไปสู่ความวุ่ยวายในสังคม ซึ่งเท่ากับว่าเราเดินย้อน
กลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง

เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น ไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม อยากวิงวอน
ขอให้คนไทยตั้งมั่น มีสติ ทุกอย่างคงจะผ่านพ้นไปในทางที่ควรจะเป็น เพราะประเทศ
ไทย สยามประเทศ มีพระสยามเทวาธิราช รวมทั้ง ดวงพระวิญญาณขององค์พระเจ้า
อยู่หัว สมัยสุโขทัย อยุธยา และพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ คุ้มครอง
ให้ประเทศไทย รอดพ้นภยันตรายใดทั้งปวง.
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Sat Nov 28, 2009 5:09 pm

ทุบรถผู้นำรัฐบาล สี่แยกพัทยาใต้

ในช่วงวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๒ ข่าวใหญ่ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก คงหนีไม่พ้นข่าวการ
ล้อมรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขณะจอดติดไฟแดงสี่แยกพัทยาใต้ ของกลุ่มมวล
ชนที่ให้การสนับสนุนอดีตผู้นำรัฐบาล ซึ่งมีสถานะเป็นผู้ร้ายหลบหนีคำพิพากษาของศาล
ในคดีที่ดินรัชดา หากลองย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว คงพอสรุปได้ว่า

เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๒ เวลา ๙.๑๕ น. สื่อหลายแขนงรายงานบรรยากาศการประ
ชุม ครม นอกสถานที่ครั้งที่ ๒ ณ โรงแรม รอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี ว่า มี
กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า ๕,๐๐๐ นาย ตรึงกำลังเข้มรอบบริเวณโรงแรม ขณะเดียวกัน
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยสวมเสื้อแดง ทยอยรวมตัวอยู่บริเวณแยกเทพประสิทธิ์ ถนน
ทางขึ้นเขาด้านหน้าโรงแรม พร้อมทั้งถือป้ายข้อความว่า “ยินดีต้อนรับรัฐบาลโจร“


Image
Image
Image


ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากบ้านพักตั้งแต่เวลา ๖.๐๐ น.
เพื่อเข้าร่วมประชุม โดยมีวาระการประชุมที่น่าสนใจ ดังนี้

๑) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เสนอที่ประชุมพิจารณา
อนุมัติร่างแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะต้องใช้งบประมาณกว่า
๕๒,๙๒๔ ล้านบาท

๒) กระทรวงคมนาคมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบร่างกระทรวงฯ ให้ยกเว้น
ค่าธรรมเนียมการใช้รถยนต์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข ๗ ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๐ น. ใน
วันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๒ ถึงเวลา ๑๒.๐๐ น. ของวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๒ ทั้งนี้เพื่อ
อำนวยความสะดวกช่วงเทศกาลสงกรานต์

๓) กระทรวงการคลังเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติการกู้เงินชดเชยการขาดดุลของ
งบประมาณปี ๒๕๕๒ กว่า ๙๔,๐๐๐ ล้านบาท

พร้อมกันนี้คณะรัฐมนตรีจะตรวจความพร้อมของสถานที่ ที่จะใช้จัดการประชุมสุดยอด
ผู้นำอาเซียนหรืออาเซียนซัมมิต ๑๐+๓ และ ๑๐+๖ ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท
ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๒ เมษายน ๒๕๕๒ โดยใช้โอกาสการประชุม ครม.ครั้งนี้ตรวจสถาน
ที่ความพร้อมในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนด้วย โดยนายกฯจะเดินทางกลับในเวลา
๑๔.๓๐ น. วันเดียวกัน เพื่อปาฐกถาเรื่องทิศทางเศรษฐกิจที่รัฐสภา


Image


พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผบช.ภ.๒ กล่าวว่า ในการประชุมครม.วันนี้ตำรวจมีความพร้อม
๑๐๐% ที่จะดูแลความสงบเรียบร้อย เชื่อว่าเสื้อแดงจะมาชุมนุมน้อย เพราะได้ทำการประชา
สัมพันธ์และขอความร่วมมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นพี่น้องกัน ด้วยส่วนตัว
ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น

ทางตำรวจมีขั้นตอนการดูแลโดยยึดหลักการเจรจา ไม่ใช้ความรุนแรง เพราะคงไม่เข้ามา
ในบริเวณ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นใช้ชุดเดียวกับที่จะใช้ในงานการประชุมสุดยอดอาเซียน
บวก ๓ บวก ๖ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นไม่มีความตกใจอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพราะ
เจ้าหน้าที่ได้ทำการประชาสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา

ตนขอวิงวอนผ่านสื่อว่า ม็อบเสื้อแดงให้ดูว่าเศรษฐกิจกำลังจะดี สงบสุขไม่วุ่นวายอย่างที่
เป็นข่าวขอแก้ภาพพจน์ ประเทศเรากำลังฟื้น ซึ่งเสื้อแดงในพื้นที่นี้ก็ได้ขอร้องกันไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร ที่ดูแล
ทั้งภายในและโดยรอบ ประมาณ ๕,๐๐๐ นาย

ต่อมาเวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. ระหว่างที่การประชุม ครม. ดำเนินไปตามปกติ นายสุเทพ
เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้เดินออกจากห้องประชุม ครม.เพื่อมารับทราบสถาน
การณ์การ ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ที่ชุมนุมปิดทางเข้าออกประตูด้านหน้า โรงแรมรอยัล
คลิฟฯ โดยมี พล.ต.ท.ประยูร อมฤต ผู้ช่วยผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบฝ่ายอำนวยการเป็นผู้
รายงาน

จากนั้นทั้งสองได้เดินขึ้นไปยังชั้น ๓ ของอาคารที่ประชุม ครม.ซึ่งเป็นบริเวณโถงกระจก
และสามารถมองเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้อย่างชัดเจน ซึ่งนายสุเทพได้กวาดสายตา
ตรวจสอบบริเวณโดยรอบของกลุ่มผู้ชุมนุม และสอบถาม พล.ต.ท.ประยูร ว่า ผู้ชุมนุมมี
จำนวนมากน้อยเพียงใด และรถยนต์ส่วนตัวของบรรดาคณะรัฐมนตรีนั้นจอดอยู่ที่ใด

เพื่อเป็นการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น และเป็นการดูทางหนีทีไล่ไว้ให้กับคณะรัฐมนตรี
ได้เดินทางออกจากโรงแรมได้ ในขณะที่กลุ่มเสื้อแดงเมื่อได้มองเห็นนายสุเทพ ก็ตะโกน
โห่ร้อง ขับไล่ ด้วยท่าทีที่เกรี่ยวกราดมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากยืนดูอยู่ครู่หนึ่ง นาย
สุเทพได้เดินกลับเข้าห้องประ ชุมครม.อีกครั้ง

กระทั่งเวลาประมาณ ๑๓.๑๕ น. ภายหลังจากการประชุม ครม. เสร็จสิ้นลง นายอภิสิทธิ์
นายกฯ ได้รีบเดินทางออกจากโรงแรมรอยัล คลิฟฯ ทันที โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า
“ต้องรีบไปกล่าวปาฐกถาที่รัฐสภาและจะไปให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา”

โดยใช้เส้นทางออกด้านหน้าโรงแรมตามปกติ เนื่องจากกลุ่มม็อบเสื้อแดงที่ปิดล้อมทาง
เข้า-ออกโรงแรมก่อนหน้านี้ได้สลายตัวไปแล้ว อย่างไรก็ตามรถของนายกฯ และรถติด
ตามมุ่งหน้าใช้เส้นทางไปทางแหลมบาลีฮาย เพื่อขึ้นสะพานมุ่งหน้าออกไปทางสาย ๓
พัทยาใต้

แต่เมื่อรถมาจอดติดสี่แยกไฟแดงบังเอิญว่าในเวลาดังกล่าวมีกลุ่มเสื้อแดงที่นั่งรถปิกอัพ
และจักรยานยนต์กว่า ๒๐ คัน มาจอดติดไฟแดงใกล้ๆ กันเห็นรถประจำตำแหน่งนายกฯ
จำได้ รีบกรูลงจากรถตามไปโห่ไล่และเขย่าตีนตบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่มีใครคาดคิดมา
ก่อน จราจรติดขัด ขบวนรถของนายกฯ ถูกฮือล้อมกรอบ


Image

Image


เมื่อสถานการณ์แนวโน้มค่อนข้างจะชุลมุน เนื่องจากขบวนรถของนายกฯ ยังขยับไปไหน
ไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มกันนายกฯ จากศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) เห็น
ว่าเสื้อแดงยังมีจำนวนคนไม่มาก จึงอาศัยช่วงที่รถติดลงไปเชิญนายอภิสิทธิ์ ซึ่งนั่งอยู่ใน
รถประจำตำแหน่ง ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน ศฮ ๙๒๐๑ กรุงเทพมหานคร ให้สลับมา
นั่งรถอีกคันเป็นรถตรวจการณ์คันใหญ่ ยี่ห้อโตโยต้า พลาโด้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ศห
๙๒๑๐ กรุงเทพมหานคร


Image

Image


แต่บังเอิญว่ามีหญิงวัยกลางคนที่เป็นสมาชิกกลุ่มเสื้อแดงเหลือบเห็นพอดี จึงรีบตะโกน
เรียกให้สมาชิกคนอื่นมาล้อมไว้ บางคนก็โทรศัพท์ให้พรรคพวก ตามมาช่วย เมื่อกลุ่ม
เสื้อแดงทยอยกันมามากขึ้น จึงพากันตะโกนด่าและเข้าไปทุบรถทั้ง ๒ คัน จนทางเจ้า
หน้าที่ต้องเข้าอารักขา จนเกิดการชุลมุนวุ่นวาย จู่โจมด่าทุบกระจกแตกยับ


Image

Image


นอกจากนี้กลุ่มคนเสื้อแดงยังใช้รถจักรยานยนต์ มาจอดขวางด้านหน้ารถพลาโด้ ทาง
เจ้าหน้าที่ ศรภ.พยายามจะขับรถหนีทำให้ไปทับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จนรถไม่
สามารถเคลื่อนออกไปได้ กลุ่มเสื้อแดงจึงกรูกันเข้าไปกระชากประตูด้านคนขับ เพื่อให้
รับผิดชอบ แต่เจ้าหน้าที่ ศรภ. และตำรวจติดตามนายกฯ ได้เข้าไปช่วยกัน ไม่ให้กลุ่ม
เสื้อแดงเข้าไปประชิด


Image

Image


แต่มีสาวใหญ่สมาชิกเลื้อแดง ฉวยโอกาสเปิดประตูรถตะโกนเข้าไปด่าทอนายอภิสิทธิ์
ในระยะประชิด ตำรวจจึงรีบดึงออกมาจนเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันขึ้นระหว่างตำรวจรัก
ษาความปลอดภัยนายกฯ ที่พยายามคุ้มกันรถ จึงถูกกลุ่มเสื้อแดงฮือฉุดกระชากเสื้อเอา
ไว้ กระทั่ง มีตำรวจจราจร ๓-๔ นาย ทราบเรื่องจึงรีบมาช่วยเหลือ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่
สามารถขับรถฝ่าวงล้อมออกไปสำเร็จ แต่มีผู้ชุมนุมบางคนใช้หมวกกันน็อกทุบกระจก
หลังรถพลาโด้จนแตกกระจายเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่


Image

Image


ต่อมา ขบวนรถประจำตำแหน่งของ นายกฯ ซึ่งติดตามมาทันได้ไปจอดรับนายอภิสิทธิ์
ออกมาจากในรถพลาโด้ โดยมีรถตำรวจทางหลวงอีก ๓ คันมาปิดท้ายขบวน เมื่อผู้สื่อ
ข่าวถามว่านายกฯ ได้รับบาดเจ็บอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวด้วยสีหน้าไม่สู้ดีว่า

“ไม่เป็นไร”

จากนั้นขบวนนายกฯ ได้มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ร่วมการสัมมนา เสร็จสิ้นในเวลาประมาณ
๑๖.๒๐ น. นายกฯ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มาดักรอทำข่าวจำนวนมากโดยมีใจความ
โดยสรุป ว่า

ตนทราบอยู่แล้วว่าตกเป็นเป้าหมาย และในวันนี้มีการพยายามที่จะทำอะไรโดยพอรถ
จอดติดไฟแดง เข้าใจว่าเขามีเจตนาที่จะเข้ามาล้อม ตนจึงได้รับคำแนะนำให้เปลี่ยนรถ
เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาดูแลอย่างดี การรักษาความปลอดภัยไม่มีปัญหา และ รปภ. ของตน
เพียงพอ ในวันพรุ่งนี้ตนก็จะทำงานตามปกติ

เหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ของการชุมนุมของมวลชนเสื้อแดง ภาย
ใต้การนำ และการปลุกระดมจากคนไกลบ้าน ที่ใช้การโฟนอิน วีดีโอลิงค์ เพื่อมุ่งหวัง
ให้เหตุการณ์ชุมนุมของมวลชน กระจายเป็นวงกว้าง สร้างความวุ่นวาย จนอยากแก่การ
ควบคุมของเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ หรือ จะด้วยจุดประสงค์ใดก็ตาม เหตุการณ์ในช่วง
วันหยุด วันครอบครัว ที่ควรจะมีแต่ความสุข


Image


กับเต็มไปด้วย เปลวเพลิง และควันไฟอันเกิดจากการเผารถประจำทาง และ ความวุ่น
วายที่เกิดจากกลุ่มมวลชนที่ออกมาร่วมชุมนุม ภายใต้คำกล่าวอ้างของอดีตผู้นำรัฐบาล
ที่ว่า เราต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง คืนอำนาจให้ประชาชน หรือ อะไรอีกมากมาย
โดยไม่สนใจว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบอย่างไร ต่อภาพส่วนรวมของ
ประเทศ

Image
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby pooyong » Sun Nov 29, 2009 4:01 am

สื่อของรัฐน่าจะทำเป็นสกุ๊ป แล้วนำเสนอบ่อยๆ ให้ประชาชนที่ไม่มีเน็ตเล่น ได้ดูบ้าง
การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน
User avatar
pooyong
 
Posts: 1496
Joined: Mon Oct 19, 2009 9:55 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby just in case. » Mon Nov 30, 2009 9:04 am

น่าจะปักหมุดนะครับ
just in case.
 
Posts: 766
Joined: Sat Oct 17, 2009 10:11 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby แมวน้อย » Mon Nov 30, 2009 2:11 pm

พึ่งได้เข้ามาอ่าน ตั่งแต่หน้าแรก ขออภัยที่มาช้าไปหน่อยครับ
จนป่านนี้ยังมีคนคิดว่า แม้วเป็น เทพ อยู่เลย ทำอะไรก็ไม่ผิด รบ.นี้ โจร ปล้น เค้ามา พอถามว่าปล้นยังไง บอกต้องให้ พท.เป็นรบ.จน เป็นไม่ได้ค่อยยุบ อธิบายจนจะบ้าแล้ว ยังไม่ดีขึ้นเลย แม้ว เนี่ย มันเพพจริงๆๆๆ มอมเมาคนจนเชื่อได้จริงๆๆ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ช่วยกันใช้ เลขไทย ด้วยน่า
สังคมดีไม่มีขาย อยากได้ต้องร่วมสร้าง แต่ถ้าไม่ช่วยกันทำแล้วจะเหลืออะไรให้สร้างได้เล่า ช่วยกันรณรงค์ไม่ตอบกระทู้ชวนทะเลาะ ไม่ตอบโต้ด้วยคำหยาบคาย
User avatar
แมวน้อย
 
Posts: 1186
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:21 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby dahlia » Mon Nov 30, 2009 4:19 pm

just in case. wrote:น่าจะปักหมุดนะครับ


นั่นสิทำไมไม่ปักหมุด
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , nontee , eAT , Moon , tonythebest , -3- , amplepoor , เด็กปากดี
User avatar
dahlia
 
Posts: 1375
Joined: Mon Oct 12, 2009 2:35 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby pooyong » Mon Nov 30, 2009 4:41 pm

ปักไปแล้ว คุณ bird ขอให้ถอดออกเอง
ไม่เป็นไร มีคุณ just in case คอยช่วยดันไว้
ไม่ให้ตกหน้า 2 ก็พอ :mrgreen:
การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน
User avatar
pooyong
 
Posts: 1496
Joined: Mon Oct 19, 2009 9:55 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Mon Nov 30, 2009 8:44 pm

pooyong wrote:สื่อของรัฐน่าจะทำเป็นสกุ๊ป แล้วนำเสนอบ่อยๆ ให้ประชาชนที่ไม่มีเน็ตเล่น ได้ดูบ้าง


เคยเสนอไปแล้วค่ะ.. แต่ก็เงียบไป ยังไงก็มีรายการ
๒ สาวสับแหลกมาให้ดูทุกวันจันทร์แล้วค่ะ :mrgreen:

แมวน้อย wrote:พึ่งได้เข้ามาอ่าน ตั่งแต่หน้าแรก ขออภัยที่มาช้าไปหน่อยครับ
จนป่านนี้ยังมีคนคิดว่า แม้วเป็น เทพ อยู่เลย ทำอะไรก็ไม่ผิด รบ.นี้ โจร ปล้น เค้ามา พอถามว่าปล้นยังไง บอกต้องให้ พท.เป็นรบ.จน เป็นไม่ได้ค่อยยุบ อธิบายจนจะบ้าแล้ว ยังไม่ดีขึ้นเลย แม้ว เนี่ย มันเพพจริงๆๆๆ มอมเมาคนจนเชื่อได้จริงๆๆ


ขอบคุณค่ะ ที่กรุณาเข้ามาอ่าน ขาดตกบกพร่องตรงไหน แก้ไขได้ค่ะ
หรือ มีอะไรจะนำเสนอ รบกวนด้วยค่ะ :mrgreen:

just in case. wrote:น่าจะปักหมุดนะครับ


dahlia wrote:นั่นสิทำไมไม่ปักหมุด


ท่าน WM เคยปักหมุดให้แล้วค่ะ คำชี้แจงตามนี้เลยค่ะ

bird wrote:ชี้แจงค่ะ

bird ขอให้ยกเลิกการปักหมุดเองค่ะ...

แบบว่า..มีกระทู้ใหม่ๆ ที่มีเนื้อหาดี ข้อมูลแน่น วิเคราะห์เยื่ยม ที่ควรปักหมุดค่ะ
ที่สำคัญ...กระทู้นั้นๆ ล้วนเป็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น และน่าจะได้รับการเผยแพร่
ข้อมูลให้ขยายกว้างมากขึ้น..

ในทางตรงกันข้าม กระทู้นี่เป็นการรวบรวมผลงาน พฤติกรรม และการกระทำ
ของแม้วและมวลชนที่ให้การสนับสนุนอดีตนายก เครือข่ายและผู้ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งเป็นข้อมูลสำหรับใช้เป็นกรณีศึกษามากกว่า...

ก็เลยขออนุญาติ ปลดกระทู้นี่ลงเองค่ะ..ไม่ว่ากันนะค่ะ ยังไงก็จะยัง up ข้อมูล
ต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ จนกว่าจะไม่มีข้อมูลให้นำเสนอค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ :mrgreen:


ยังไงก็ ขอบคุณทุกกำลังใจน่ะค่ะ

สุดท้าย... ขออนุญาติ ไปสัมนาตั้งแต่ ๑-๓ ธันวาคม ค่ะ
เรียบร้อยแล้วจะ นำเสนอข้อมูลต่อค่ะ :mrgreen: :mrgreen:
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby just in case. » Mon Nov 30, 2009 8:56 pm

เข้าใจครับ คุณ bird ใจกว้างดีครับผม
ไปสัมมนาแล้วได้อะไรดีดีก้อกลับมาตั้งกระทู้บอกเล่ากันบ้างนะครับ
just in case.
 
Posts: 766
Joined: Sat Oct 17, 2009 10:11 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby แมวน้อย » Tue Dec 01, 2009 8:55 am

เข้ามาดันอีกรอบครับ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ช่วยกันใช้ เลขไทย ด้วยน่า
สังคมดีไม่มีขาย อยากได้ต้องร่วมสร้าง แต่ถ้าไม่ช่วยกันทำแล้วจะเหลืออะไรให้สร้างได้เล่า ช่วยกันรณรงค์ไม่ตอบกระทู้ชวนทะเลาะ ไม่ตอบโต้ด้วยคำหยาบคาย
User avatar
แมวน้อย
 
Posts: 1186
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:21 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby Duke-th1 » Tue Dec 01, 2009 1:44 pm

เรียนคุณเบิร์ด

กลับมาอ่านต่อ ;) ขอบคุณมากที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา จะแวะเข้ามาทักทายเรื่อย ๆ รวมเล่มเมื่อไหร่ รบกวนส่งข่าวนะคะ

นับแต่จำความได้ สงกรานต์ปี 2552 เป็นเทศกาลเซ็งเป็ดไก่ห่านอย่างแท้จริง จะออกไปไหนต้องเช็คข่าวตลอด ทั้งทีวีและอินเทอร์เน็ต
สงสารพวกเราคนไทยทุกคน เพียงแค่ความไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ความละโมบไม่มีที่สิ้นสุดของคนบางคน ทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ

เป็นเพราะสงครามจิตวิทยามวลชน หรืออะไรก็ตาม ที่ทำให้ผู้คนในสังคมแตกแตกเป็นฝักฝ่ายต่าง ๆ บางกลุ่มเชื่อในข้อมูลที่ได้รับแบบไม่ลืมหูลืมตา
ทั้งที่ข้อมูล ข้อเท็จจริงก็มีปรากฏอยู่ออกมากมาย จนทุกวันนี้ บ้านเมืองของเรายังคงสภาพเหมือนไฟสุมขอนที่อาจลุกโพลงขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

จะทำอย่างไร และจะแก้ไขอย่างไรดีหนอ :geek:
User avatar
Duke-th1
 
Posts: 10
Joined: Mon Nov 09, 2009 10:37 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby dahlia » Tue Dec 01, 2009 9:22 pm

ถึงยังงั้นผมก็ไม่ยอมแพ้ที่จะดันต่อไป
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , nontee , eAT , Moon , tonythebest , -3- , amplepoor , เด็กปากดี
User avatar
dahlia
 
Posts: 1375
Joined: Mon Oct 12, 2009 2:35 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby แดง ขาว น้ำเงิน » Tue Dec 01, 2009 9:49 pm

มีคนช่วยดันหลายคน เราเลยสบาย แอบอู้ไปนอนหลับได้หลายวันแระ อิอิ

เอ้าดัน :mrgreen:
"ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือคนโง่ ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือทาส" เพลโต้
User avatar
แดง ขาว น้ำเงิน
Moderator
 
Posts: 4943
Joined: Thu Feb 12, 2009 4:07 pm
Location: Earth

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby pooyong » Wed Dec 02, 2009 2:42 am

ไปเจอในราชดำเนิน เลยเอามาแปะรอ คุณbird กลับจากสัมมนา
Mr.xxx ผู้ที่ยอมทรยศขายชาติแต่ไม่ยอมให้ใครๆแม้แต่แบคทีเรียในสำไส้ทรยศและขายเขา?

[กระทู้โหวตแนะนำตัวตนคน xxx นั้น]

1. ผู้ติดบ่วงแห่งความนิยม ถวิลหาการการยอมรับ ผู้ไม่นิยมตอบคำถาม หนีการตอบคำถามสุดชีวิต จ้างลิ้วล้อเบี่ยงเบนประเด็น ดูถูก เย้ย ถากถาง ข่มขู่ คำถามที่ไม่ตรงใจ และเปิดประเด็นอื่นๆเพื่อทำลายผู้ตั้งคำถามอย่างอ่อนภาษาโดยสุจริต

2. ผู้นำแฟชั่น ธนาธิป+ขู่ฆ่า+นองเลือด+fake ธิปไตยแห่งจักรวาล ผู้ก้มหัว สมสู่ ยั่วยุ หลอกใช้อำมาตย์เพื่อนบ้านทำร้าย ทำลายประเทศไทย อย่างอ่อนภาษาโดยสุจริต

3. ผู้ที่ใช้ตำแหน่งทางการเมืองสะสมทรัพย์ ทำธุรกิจการเมืองตลอด 24 ชม.ไม่ยอมรับกฎหมายที่ตรวจสอบ เสพติดการทุจริตยิ่งกว่าหายใจ วิ่งเต้น ซื้อตำแหน่ง ซื้อสัมปทาน ทุจจริต มาตลอดชีวิต อย่างอ่อนภาษาโดยสุจริต

4. ผู้ใฝ่หาการยอมรับ ยกตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ นิยมออกกล้อง คลั่งไคล้ไมค์ แม้พูดผิดๆถูกๆ ก็ขอโชว์เกรียนกูรู อย่างอ่อนภาษาโดยสุจริต

5. ผู้คลั่งไคล้เงินตรา ไม่เคยสนใจการเมือง เพียงใช้การเมืองทำธุรกิจ และสร้างมวลชนเทียมเพื่อสนับสนุน สร้างกระแส ทุจริตอย่างอ่อนภาษาโดยสุจริตได้ ถ้าแบ่งให้สาวกอย่างทั่วถึง ลูกพี่กินไป ลูกน้องจะป่วนเมืองเอง

6. ผู้คลั่งไคล้นักร้อง สารพัดค่าย มีรสนิยมจ้างนักร้องดัง มาติวการร้องเพลงตัวต่อตัว ค่าติวขึ้นอยู่กับ ลีลา เร้าใจ เร่าร้อน เสมอๆอย่างอ่อนภาษาโดยสุจริต

7. ผู้คลั่งประชาธิปไตยปลอม ที่หลอกคนทั้งโลกว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่เป้าหมายที่แท้จริง คือ เงิน เงิน เงิน อย่างอ่อนภาษาโดยสุจริต

8. ผู้ที่พยายามแสดงความภักดี แม้ลูกน้องและตัวเองจะแจกคลิบลับ แจกเอกสารเท็จ แจกข้อมูลปลอมๆ พูดพาดพิงอย่างสม่ำเสมอ หนีคดี รวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด อย่างเป็นคณะ อย่างอ่อนภาษาโดยสุจริต

9. อื่นๆโปรดระบุพร้อมเหตุผล
ใครมีต่อเชิญครับ
การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน
User avatar
pooyong
 
Posts: 1496
Joined: Mon Oct 19, 2009 9:55 am

PreviousNext

Return to ห้องสมุด



cron