หะแรกผมบอกว่าจะโพสต์เรื่องในอดีต ในเรื่องธุรกิจบนคราบน้ำตาเพศแม่ แต่มาคิดดูอีกที คาดว่าจะไม่เหมาะในวันนี้ เพราะเพิ่งข้ามผ่านวันมหามงคลมาหมาดๆ ไม่โพสต์เรื่องเครียด จะดีกว่า
ครั้นจะเล่าเรื่อง เก่าๆที่ผมมีกิจกรรมกับพ่อ ในช่วงอดีต ก่อนที่คุณพ่อจะจากผมไป ก็อาจจะยิ่งเศร้าหนักไปอีก
ก็เลยขอเล่าเรื่องของความเป็นพ่อ ของผมเอง กับลูกชายครึ่งเสี้ยว.......
****************************************************
ช่วงหนึ่งของชีวิตผมหลังผ่านมรสุมชีวิตที่ยากจะลืม ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบ ทำงานได้ไม่นานเท่าไรก็มีโอกาสไปศึกษาต่อต่างแดน โดยญาติของพ่อเป็นคนชวนให้ไป
คนหนุ่ม วัยทำงาน ไปอยู่ต่างแดนไม่เท่าไร ก็แปลกหน้าแปลกตาไปหมด ยิ่งต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยแล้ว โอกาสพบปะผู้คนจริงๆ โอกาสที่จะมีแควนกะเขาที่นั่น มันยากเอาการทีเดียว
แต่แล้วก็เหมือนคิวปิดเมืองนอก มันรู้ใจกะเหรี่ยงหนุ่มอย่างผม เหตุไม่คาดฝันก็ทำให้รู้จักกับแคนาเดียนสาวสวยนางหนึ่ง ในสถานที่ที่ผมไปเรียนต่อนั่นแหละ
ขณะที่ฟังบรรยายในห้องโถงใหญ่ แบบรู้บ้างไม่รู้บ้างเพราะง่วงเหลือเกิน แบกจ๊อบมากกว่าเวลาเรียน จนแทบไม่มีเวลานอน เพื่อแก้ง่วง ผมก็นั่งวาดรูปเล่น ฃี่งถ้ามองเผินๆ เหมือนไอ้กะเหรี่ยงคนนี้ ขยันซะไม่มี ก้มหน้าก้มตาขีดเขียนไปเรื่อย สาวน้อยนางนั้นจึงเอ่ยทักทายและขอยืมสมุดเล็คเช่อร์ของผมที่เธอเข้าใจว่า มันคงจดไว้อย่างละเอียด
ผมก็โชว์ให้เธอดู สมุด ในนั้นประกอบด้วยภาพต่างๆมากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นภาพล้ออาจารย์ที่บรรยาย และเพื่อนนักศึกษาที่อยู่ด้านหน้าเท่าที่ผมเห็น รวมทั้งลายเทพพนมที่บรรจงวาดอย่างสวย
เธอยิ้มอย่างสดใส จากนั้นก็คบกันเรื่อยมา ..และนั่นก็คือ แม่ของลูกชายครึ่งเสี้ยวของผมนั่นเอง
รายละเอียดต่อจากนั้น ก็คงไม่เอามาเล่าหรอกครับ..........เอาเป็นว่า ลูกชายครึ่งเสี้ยวของผมเขาอยู่กะแม่ของเขาที่แคนาดาโน่น แต่ผมก็ไม่เคยที่จะขาดการติดต่อและส่งเสียตั้งแต่เล็กจนโต
เขาพูดไทยได้ อ่านไทยได้ เขียนไทยได้ เพราะ แม่เขาแม้จะเป็นแคนาเดียน แต่ก็พยายามให้เขาอยู่ในสังคมที่มีคนไทยอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะ พี่ชายของเธอก็มีภรรยาเป็นคนไทย เสมือนว่ามีป้าเป็นคนไทยนั่นแหละครับ แต่เธอบอกกับผมว่า พ่อเป็นไทย ลูกก็ต้องไม่ลืมความเป็นไทย........น่ารักไหม ทั้งที่เราสองคนต้องแยกกันอยู่ตั้งแต่ลูกยังเล็ก และผมก็ต้องกลับเมืองไทยมาใช้ชีวิตของผม.
ผมกับลูกชายครึ่งเสี้ยว แม้จะไกลด้วยระยะทาง แต่ดูเหมือนเราจะสนิทกันมากกว่า พ่อลูกที่อยู่ด้วยกันบางคนเสียอีก ตั้งแต่จดหมาย อีเมล์ โทรศัพท์ โปรแกรมสื่อสารทุกชนิดที่มีให้ใช้ รวมทั้งการบินไปหาเขา(ปีละครั้ง......)
ตอนเด็กๆ เขาเคยส่งการ์ดมาทางไปรษณีย์มาให้ผม ในตอนวันเกิดผม
เขาทำเองด้วยมือ ตัดกระดาศเอง ทำทุกๆอย่างด้วยตัวเองหมด
ตอนนั้น เขาเองแม้จะพูดภาษาไทยได้ แต่เขียนอ่านไม่ได้ แต่ก็พยายาม และไปขอให้ป้าเขานั่นแหละเขียนภาษาไทยให้ดูเป็นตัวอย่างในข้อความที่จะส่งหาผม แทนการเขียนภาษาอังกฤษ หรือฝรั่งเศส
เสียดายที่ผมไม่ได้สแกนการ์ดขณะพิมพ์อยู่นี่ มิฉะนั้นจะได้อารมณ์ร่วมอีกมาก เขาเขียนแบบพยายามแม้จะผิด มีข้อความในการ์ดว่า
" เนืองในวันเกิก พ่อ ขอใหพ่อมีควานสุช รีกพ่อ มาก ครีบ.........."
ทุกวันนี้ ผมก็มีความสุขตามที่เขาอวยพรให้ และเขาก็รักผมมากเช่นตอนเด็กๆ ครับ