Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Killer » Mon Nov 24, 2008 11:54 pm

shuu wrote:
Killer wrote:นึกแล้วว่า จะต้องมีอดีตผู้บริหารห้างสรรพสินค้าพื้นเมือง ออกมาเสียบในกระทู้นี้ โชว์พลังสติปัญญาอันคร่ำครึไดโนเสาร์

แทนที่จะหยิบฉวยโอกาสจังหวะนี้ ศึกษาหาทางหนีทีไล่ ว่าเหตุใดเขาจึงประสบความสำเร็จ เขาใช้เทคโนฯอะไรในการบริหาร จึงสามารถรุกตลาด ได้รวดเร็วขนาดนี้

คนพวกนี้กลับมองเห็นแต่ปัญหา หลับหูหลับตาอิจฉาตาร้อน ริษยาในความสำเร็จแล้วก็มานั่งตีอกชกหัว สะบัดมือตบ ปลอบใจตัวเองหน้ากระจก

มันมาแล้วkiller
เขียนบล็อกเห่าคนเดียว ได้ยินคนเดียว เห่าในถ้ำ สนุกไหมจ้ะ :P :P



"เห่า" นั่นใช้กับเครือญาติคุณ อย่ามาใช้กับผม ผมก็ไม่ได้สื่อสารอะไรกับคุณ คุณก็ไม่ต้องสะเออะ
User avatar
Killer
 
Posts: 520
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:15 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby เปรม » Tue Nov 25, 2008 2:12 am

Image dont feed troll
กรุณาลบเพลงผี โปรแกรมเถื่อน ออกจากเครื่อง ก่อนด่าทักษิณ
เราชอบเปลี่ยนแปลงมนุษยชาติ แต่ไม่เปลี่ยนตนเอง
User avatar
เปรม
 
Posts: 71
Joined: Tue Nov 18, 2008 11:14 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby 8omuj » Tue Nov 25, 2008 3:31 am

ก็เห็นด้วยแหละว่ามีผลกระทบจริงๆ แต่การแก้ไขควรทำทั้งสองฝั่ง โดยการยกระดับของโชว์ห่วยขึ้นมาให้ได้ ไม่ใช้ไปกดดันผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเดียว เพราะเห็นคนโวยวายกันเยอะว่าเดือดร้อน แต่พอจะให้รวมตัวกันทีไร ก็ต่างคนต่างทำไม่ช่วยกันเองจริงๆจังๆสักที ก็คงยากจะแข่งขันครับ (แต่ก็พอเข้าใจว่าร้านเก่าแก่ทั้งหลายที่เปิดมานานแล้ว มักไม่ค่อยมีไอเดียจะ upgrade ตัวเองเท่าไหร่) :cry:

- การบริหาร logistic + supply chain ช่วยให้บริษัทใหญ่ๆอยู่ด้วย โชว์ห่วยควรเลียนแบบมั่ง โดยการรวมตัวกันสร้างอำนาจต่อรองเอง ไม่ใช่ประท้วงขับไล่ เพราะถ้าหาก Store ขนาดใหญ่ หายไปโชว์ห่วยจำลำบากกว่าเก่า

- การแข่งขันกับ 7-11 นั้นปกติแล้วเป็นไปไม่ได้ในแง่คุณภาพ โชว์ห่วยต้องทดแทนด้วยการเน้นสินค้าที่ 7-11 ไม่มี(สินค้าท้องถิ่น) หรือขายให้ถูกกว่า7-11 เพราะ7-11 มีลักษณะพื้นฐานคือกำหนดราคาจาก ศูนย์กลาง (สินค้าทุกตัวถูก set ราคาจากสำนักงานใหญ่-ตรงดิ่งไปที่คอมร้านเท่านั้น บังคับราคามาตรฐาน) ซึ่งโชว์ห่วยถ้าจัดการขนส่ง + stock ดีๆก็สามารถขายถูกได้มากกว่าเล็กน้อย (แน่นอนว่าต้องพึ่งห้างขายส่งขนาดใหญ่ด้วย)

- โชว์ห่วยมี 3แสน , 7-11 กำหนดมี5พันสาขาเท่านั้น (นโยบายเขาไม่เพิ่มกว่านี้แล้ว) แต่ที่โชว์ห่วยจะตายเพราะตัดลูกค้ากันเองด้วยมากกว่า :D

/me เห็นทำข้อมูลพอสมควรเลยขอร่วมแจมด้วยครับ ;)
User avatar
8omuj
 
Posts: 249
Joined: Tue Nov 25, 2008 2:39 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Shelmikedmu » Tue Nov 25, 2008 3:43 am

8omuj wrote:ก็เห็นด้วยแหละว่ามีผลกระทบจริงๆ แต่การแก้ไขควรทำทั้งสองฝั่ง โดยการยกระดับของโชว์ห่วยขึ้นมาให้ได้ ไม่ใช้ไปกดดันผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเดียว เพราะเห็นคนโวยวายกันเยอะว่าเดือดร้อน แต่พอจะให้รวมตัวกันทีไร ก็ต่างคนต่างทำไม่ช่วยกันเองจริงๆจังๆสักที ก็คงยากจะแข่งขันครับ (แต่ก็พอเข้าใจว่าร้านเก่าแก่ทั้งหลายที่เปิดมานานแล้ว มักไม่ค่อยมีไอเดียจะ upgrade ตัวเองเท่าไหร่) :cry:

- การบริหาร logistic + supply chain ช่วยให้บริษัทใหญ่ๆอยู่ด้วย โชว์ห่วยควรเลียนแบบมั่ง โดยการรวมตัวกันสร้างอำนาจต่อรองเอง ไม่ใช่ประท้วงขับไล่ เพราะถ้าหาก Store ขนาดใหญ่ หายไปโชว์ห่วยจำลำบากกว่าเก่า

- การแข่งขันกับ 7-11 นั้นปกติแล้วเป็นไปไม่ได้ในแง่คุณภาพ โชว์ห่วยต้องทดแทนด้วยการเน้นสินค้าที่ 7-11 ไม่มี(สินค้าท้องถิ่น) หรือขายให้ถูกกว่า7-11 เพราะ7-11 มีลักษณะพื้นฐานคือกำหนดราคาจาก ศูนย์กลาง (สินค้าทุกตัวถูก set ราคาจากสำนักงานใหญ่-ตรงดิ่งไปที่คอมร้านเท่านั้น บังคับราคามาตรฐาน) ซึ่งโชว์ห่วยถ้าจัดการขนส่ง + stock ดีๆก็สามารถขายถูกได้มากกว่าเล็กน้อย (แน่นอนว่าต้องพึ่งห้างขายส่งขนาดใหญ่ด้วย)

- โชว์ห่วยมี 3แสน , 7-11 กำหนดมี5พันสาขาเท่านั้น (นโยบายเขาไม่เพิ่มกว่านี้แล้ว) แต่ที่โชว์ห่วยจะตายเพราะตัดลูกค้ากันเองด้วยมากกว่า :D

/me เห็นทำข้อมูลพอสมควรเลยขอร่วมแจมด้วยครับ ;)



ดูไปดูมา ไม่ใช่ว่าผมเห็นแก่ตัวนา แต่ว่า เท่าที่เราเถียงๆกันมา ก็สรุปว่า มันเป็นเรื่องของการปรับตัวด้านธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ใช่มั้ย
อย่าง ที่ ก๋วยเตี๋ยว หรือพวกเสื้อผ้าแผงลอยมันไม่โดน โมเดอร์นเทรด รับประทานก็เพราะอะไรล่ะ เพราะว่า สินค้าที่เขาขายนะ มันมี
ความโดดเด่น ที่ห้างไม่มี ถ้าโชว์ห่วยอยากอยู่รอดแบบที่แข่งกับเขาได้ ก็ต้องแก้เรื่องสินค้าแล้วล่ะ อย่าง เซเว่นเนี่ย มันไม่มีขาย ชา
เขียวฟูจินะ ขายแต่ชาโออิชิ ถ้าคนอยากกินชาฟูจิในเซเว่น(ผมคนนึงล่ะไม่กินโออิชิ มันหวานอ่ะ) คงหากินไม่ได้ ถ้ามีร้านขายชาฟูจิ
ผมก็เข้า อะไรอย่างนี้น่ะ ร้านโชว์ห่วยต้องรู้จักพัฒนาตัวเอง
รัฐอาจจะช่วยได้เรื่องการผลักดันให้เกิดสหกรณ์ แต่สุดท้ายแล้ว การมีแค่สหกรณ์ไม่ได้รับประกันว่า โชหว่ยจะอยู่รอดเลย
สรุป รัฐช่วยได้แค่ 20 แต่ต้องปรับตัวเอง 80 ซึ่งทุกวันนี้ โชห่วย ยังไม่ได้ทำ
User avatar
Shelmikedmu
 
Posts: 130
Joined: Tue Oct 28, 2008 5:51 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Tue Nov 25, 2008 4:04 pm

พูดถึงเรื่องอาหาร ยิ่งเห็นด้วยเลยครับ โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวที่ผุดขึ้นมาตามห้างต่างๆ

ใครชวนกิน ผมต้องขอเบือนหน้าหนีเลยครับ อร่อยก็จริง แต่แพงมาก ไม่อิ่ม และที่สำคัญ ความอร่อยยังสู้พวกร้านก๋วยเตี๋ยวตามริมถนน ในบ้าน ไม่ได้ครับ

ทั้งอร่อย ทั้งเยอะกว่า ราคาย่อมเยาว์ ชามหนึ่งอิ่ม ทนร้อนนิดหนึ่ง แต่ก็ทนได้ 555+ (บางคนว่าอาจจะไปเทียบราคาตามห้างฯไม่ได้ เพราะจ่ายค่าเช่าแพงกว่า แต่เอาเถอะ แล้วแต่คนคิดละกันครับ เพราะส่วนตัวคิดว่า จะเข้าห้างเพื่อไปกินก๋วยเตี๋ยว - ผัดไทย ข้าวมันไก่เนี่ยนะ มันไม่คุ้มอะครับ)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องโชว์ห่วย ก็ต้องดูกันต่อไปครับว่าเป็นยังไง กฎหมายที่แท้งไปหลายรอบแล้ว ไม่รู้จะได้เกิดหรือเปล่า อาจจะต้องรอรัฐบาลหน้าอีกที :D
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby dekpe118 » Wed Nov 26, 2008 4:17 am

จากการเมือง ไปเศรษฐศาสตร์ ดีครับๆ
หลายคนคิดว่า เศรษฐศาสตร์ คือเรื่องที่หน้าจะเกี่ยวกับ เงิน เงิน แล้วก็เงิน
จริงๆ แล้วมันไม่ใช่นะครับ
จริงๆ แล้ว ประเทศที่มีเศรษฐศาสตร์ดี คือ ประเทศที่ประชากร มีความสุขมวลรวมมาก
แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณมีเงิน เยอะแล้วจะมีความสุขนะครับ
สภาพแวดล้อม สังคม การเงิน ETC. จึงรวมมาเป็นเศรษฐศาสตร์
หลายๆคน ในที่นี่ ดูท่าจะไม่ชอบ ทุนนิยม อยู่สูงมาก
โดยเหตุผลหลักๆ ก็คือ ตัดรายได้ของประชาชน
บริษัทจากต่างประเทศอย่างเช่น Big C , tesco Lotus, นี่ผมไม่เถียงครับ
พวกนี่เอากำไรจากคนไทยไปเยอะครับ
(คุณรู้รึป่าว ครั้งนึก Lotus เป็นของคนไทย CP นะครับ แต่ขาดทุน
เลยขายให้ Tesco ซึ่งเป็นบริษัทใน อังกฤษ)
แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการที่คุณไปว่า บริษัทอย่าง CP=> 7-11
1.) It's true that CP is control the whole system of market both livestock and small retaling like convenience store, however, It's just oligopoly not the monopoly firm, therefore, It can't totally control the quantity of product.
2.)As it's the few firm which produce the product and serve in to the market, we are as consumer can gain benefit from lower price of product and higher quantity from economy of scale. For example, if nowadays there doesn't have 7-11 exisitng, and we use service from Mom and Pop shop, these shop will try to cut the price or reduce the cost by lowering the quality of product in order to gain customer from competitors,in addition, those action will create price dicrimination, thus, consumer will suffer from different price and unmatch the quality of goods. In contrast, 7-11 will chare exactly the same price in every branches and try to gain profit in quantity of sell not the high margin mark up price,therefore, we are as consumer will get the benefit. Think to yourself why the price of product in 7-11 is cheper than ordinary one with the same quality standard from CP livestock.
3.)Do you know that the best economic system that economist can developed is free market economy. Indeed, you or even government should not control it and have to let it flows by supply and demand of market. Therefore, if you said that Thailand should not have large firms or multinational companys because those gain to much revenue from Thai People. It will contracdict with the economy structure. Furthermore, John Nash who created Nash equillibrium also support that free market economy will be greater and greater if firm concerned more in competitors' behaviour and help each other to get success in the market. For example, Do you think firm like Mom and Pop shop will care and concern about their competitors?; the actual that their will do is normally chit chat and gossip with the time past by in day to day basis.
4.)Large firm also need a lot of labors. The profit that firm got will distribute to the labor force, back to the society, or if the firm get a lot of profit, sure it will be in the bank account, nevertheless, those money will return to the society by loaning and it will be invested again. Now, you will think that why CP has to be only one firm to get an opportunity in order to do like that right? Let think that in retailing market, there is no labor force and every one is open Mom and Pop shops, everyone is CEO of their own shop. Which problems will be occur? A lot of unnecessary fix cost will be charge to consumers (there is many shops and each shops need fix cost to operation) and no labor force thus no manufacturing thus not enough product to serve consumer and Price will go up
User avatar
dekpe118
 
Posts: 10
Joined: Wed Nov 26, 2008 2:41 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Shelmikedmu » Wed Nov 26, 2008 4:51 am

dekpe118 wrote:จากการเมือง ไปเศรษฐศาสตร์ ดีครับๆ


ผมว่าเรื่องเศรษฐศาสตร์มันดีตรงที่ว่า คุยกันได้แบบไม่มีสีแดงสีเหลืองน่ะ :lol: :lol:
User avatar
Shelmikedmu
 
Posts: 130
Joined: Tue Oct 28, 2008 5:51 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby dekpe118 » Wed Nov 26, 2008 4:55 am

เห็นด้วยครับ พี่
ผมพึ่งโดน คนไทยด้วยกันว่ามาเหมือนกัน ^^
User avatar
dekpe118
 
Posts: 10
Joined: Wed Nov 26, 2008 2:41 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby tem_t2001 » Wed Nov 26, 2008 11:43 am

คุณ dekpe118 ครับ ตอนที่ซีพีขายโลตัสเนี่ย โลตัสเป็นธุรกิจที่ทำกำไรให้ซีพีมากนะครับ เพียงแต่ว่าต้องขายของดีเพื่อให้ได้ราคา ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดขายได้ 9200ล้านจากจำนวน 13 - 14 สาขา เค้าต้องเอาเงินมาโปะธุรกิจที่ขาดทุนแต่คิดว่ามีอนาคต(มั้ง) อย่าง True หรือ TA สมัยก่อน

ตอนแรกการบริหารของโลตัส ใช้คอนเส็ปของ Wallmart ซึ่งเป็นอเมริกันมากๆ เค้าใช้การขายเอากำไรน้อยๆ แต่ขายจำนวนเยอะๆ เพิ่อใช้จำนวนซิ้อรวมต่อรองกะซัพพลายเออร์ให้ได้ราคาที่ถูกลง สมัยก่อน ซํพพลายเออรฺเป็นคนกำหนดตลาดครับ คิดว่า เค้าคงเอาโลตัสเป็นตัวรองเพื่อปิดยอดขายเวลาที่ยอดขายรายเดือนไม่ถึงเป้า ซึ่งทำให้โลตัสสามารถโตขึ้นมาได้ (ตอนนี้พวกซัพพลายเออร์คงกะลังร้องให้เสียใจกันอยู่ครับ)

หลังจากที่ขายให้เทสโก้แล้ว จึงเป็นช่วงแห่งการขยายตัวของโลตัสอย่างแท้จริง และก็นำเอาคอนเซ็ปของยุโรปมาใช้ คือขายของราคาปกติ ส่วนของถูกใช้ Housebrand มาเป็นตัวธง และปรับตัวเองเพิ่มฟอร์แมท ซึ่งจริงๆแล้ว Tesco Express คือธุรกิจที่ถนัดของเทสโก้ เทสโก้ไม่รู้จักซูเปอร์สโตร์มาจนซื้อโลตัส ถึงได้เอาคอนเซ็ปซูเปอร์สโตร์จากไทยไปเปิดที่อังกฤษ ถ้าไปเดินที่โน่นก็จะเห็นป้ายคุ้นๆ

ถามว่าแล้วร้านพวกนี้ขายของถูกจริงรึป่าว คำตอบคือถูกแต่ไม่หมดครับ เค้าใช้วิธีทำให้คนรู้สึกว่าถูกมากกว่า ถ้าเช็คราคาสินค้าดูจริงๆ จะพบว่าของในร้านค้าใกล้บ้านเราขายถูกกว่าเป็นส่วนใหญ่ครับ แต่เค้าจะเลือกสินค้าที่ขายดีอยู่ใน top 100 ตัวและก็ขายในราคาที่ถูกกว่าคนอื่น 25สตางค์ ถึง 1บาท และก็หาสินค้าโปรโมชั่นมาขายตัดราคาเพิ่อตอกย้ำให้คนรู้สึกว่าถูก ที่ผ่านมาจะเห็นร้านโมเดอร์นเทรดแข่งกันโฆษณาราคาสินค้ากัน ยิ่งทำให้คนรู้สีกว่าต้องซื้อในร้านแบบนี้ถึงจะถูก

ส่วนที่ว่ากันว่าสินค้าหลายตัวเค้ามีกำไรเกินครึ่ง จริงครับ แต่เค้าจะใช้วิธีถัวเฉลี่ยครับ สินค้าจะแยกเป็น 4กลุ่ม สินค้าอุปโภคกำไรประมาณ 0 - 3% เสื้อผ้า 20 - 50% อาหารสด 50-100% ของใช้ 50-100% แต่ถัวออกมาแล้วเหลือกำไรประมาณ 15 - 20% ยังไม่หักค่าใช้จ่ายนะครับ หักแล้วเหลือประมาณ 8-10%

เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันครับ ถ้าอยากรู้ประเด็นไหนลองถามมาครับ ถ้าพอมีความรู้จะลองตอบให้
ส่วนเรื่องทางรอดของโชวห่วยไทยพอมีครับ แต่คนรอดคงไม่เยอะ...มันมีปัญหาหลายอย่างครับ และก็มีคนหรือองค์กรเข้ามาเกี่ยวข้องหลายฝ่ายครับ
User avatar
tem_t2001
 
Posts: 3
Joined: Wed Nov 26, 2008 11:09 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby shuu » Sun Nov 30, 2008 1:32 pm

ผมว่าเรื่องยุคของ "การร่วมมือกัน" ของ modern trade กับ​โขว์ห่วย หรือ ระหว่างโชว์ห่วย กันเองควรมีได้แล้วนะครับ
ตอนนี้พวก tops กำลังทำอยู่

ต้องให้ win-win น่ะครับ

นิสัยแปลกประหลาดอย่างของคนไทยนั่นคือ กลัวอีกคนได้ประโยชน์ ทั้งที่ต้วเองก็ได้ประโยชน์
User avatar
shuu
 
Posts: 510
Joined: Fri Oct 24, 2008 4:48 pm
Location: กรุงเมพ

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby SUNISA » Sun Nov 30, 2008 2:46 pm

เพื่อนที่ทำบ.กรีนแอท ที่สร้างlotus บอกว่าตอนนี้lotusได้สร้างอีกหลายที่ express นี่จะเยอะมาก
เน้นอยู่ใกล้ๆ 7 - 11 ส่วน 7 - 11 จะแก้โดย เปิด7-11 ขนาบข้าง Lotus express อีกทีทั้ง 2ด้าน
เราทำตลาดสดอยู่แถวลาดกระบัง ตลาดเราได้ผลกระทบพอสมควรจากLotus express 7-11ที่มาสร้างติดกัน ตอน7-11 มาเปิด ไม่มีปัญหาอะไร พอ lotus express มาเปิดนี่สิ พวกแม่ค้าพ่อค้าบ่นกันเป็นแถว สินค้าที่ขายไม่ออกคือพวกเครื่องขวด -น้ำปลา ซอสต่างๆ ขนาดน้ำตาลช่วงที่แพงๆ แม่ค้าที่ตลาดยังไปซื้อในlotus แล้วมาแบ่งใส่ถุงขายเองเลย พอสักตี3 ของลงที่lotus นี่ไปรอกันเป็นแถว ส่วนพวกผัก เนื้อสัตว์ เราเห็นlotus ขายไม่ออก เพราะแพงกว่าในตลาดพอสมควร พอหมดอายุก็เอามาทิ้ง บางอย่างลดราคาแล้วก็ขายไม่ออก ตลาดสดเราเป็นตลาดขายส่งเป็นหลัก มีลูกค้าประจำ เชื่อของไปก่อนจ่ายทีหลัง(สำหรับลูกค้าประจำนะ) เลยยังอยู่ได้ นี่ได้ข่าวมาว่าคาร์ฟูไซด์เล็กลงมาใช้พื้นที่ 8 ไร่ จะมาเปิดใกล้ๆอีก ไม่รู้จะเป็นไงอีก :roll:
User avatar
SUNISA
 
Posts: 2
Joined: Sun Nov 30, 2008 1:48 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Mon Dec 01, 2008 7:00 pm

shuu wrote:ผมว่าเรื่องยุคของ "การร่วมมือกัน" ของ modern trade กับ​โขว์ห่วย หรือ ระหว่างโชว์ห่วย กันเองควรมีได้แล้วนะครับ
ตอนนี้พวก tops กำลังทำอยู่

ต้องให้ win-win น่ะครับ

นิสัยแปลกประหลาดอย่างของคนไทยนั่นคือ กลัวอีกคนได้ประโยชน์ ทั้งที่ต้วเองก็ได้ประโยชน์


ประเด็นนี้น่าสนใจ มีให้อ่านเพิ่มเติม หรืออธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby bangkaa » Mon Dec 08, 2008 2:22 am

พูดยากครับ... มันเป็นเรื่องของ ระบบทุนนิยม...

อย่างเรื่อง 7-11 เนี่ย...
การที่เขาทุนเยอะ... มีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ดี...
โชว์ห่วย.. จะสู้ก็ลำบาก... โดน 7-11 แย่งส่วนแบ่งไปตรึม...

มันมีวิธีการ บรรเทาทุกข์ให้กับ รายเล็กทั่วไปได้หลายอย่าง...
แต่ปัญหาในเชิงแนวคิดมันก็มี... เช่น หากกีดกันมากเกินไปจะไม่ยุติธรรมกับธุรกิจ (อย่าง 7-11 หรือไม่) หรือ...
ทำให้เสียระบบทุนนิยม ทำให้ผู้บริโภคเสียประโยชน์หรือไม่ (เช่น อาจไม่ได้รับสินค้าราคาถูก อาจไม่ได้รับบริการที่ดี อาจไม่ได้รับความพอใจสูงสุด ฯลฯ)


ปัญหาใหญ่เลยคือ ผู้กำหนดนโยบาย คือ รัฐบาล...
กล้าพอที่จะออกกฎเกณฑ์มาช่วยเหลือ รายย่อย โชว์ห่วยหรือไม่...
เช่น การกำหนดพื้นที่การเปิดสาขา...
การใช้มาตรการทางภาษีกับธุรกิจโมเดิร์นเทรด อาจจะ ชาร์จภาษีเพิ่มโดยวิธีการต่างๆ
ฯลฯ
มาตรการเหล่านี้ ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่โดยหลักการทุนนิยมก็ทำกันได้... แต่ด่านสุดท้ายก็อยู่ที่นักการเมืองข้างบนอีกที่มักจะโดนรายการคุณขอมาจากธุรกิจใหญ่เช่นเดิม...


อีกอย่างหนึ่งที่ช่วยกันได้ คือ...
จิตสำนึกของผู้บริโภค...
เช่น ในหนึ่งสัปดาห์ จากที่เข้า 7-11 ทุกวัน... ก็อาจจะเปลี่ยนมาเข้า วันเว้นวัน... ไปช่วยอุดหนุนโชว์ห่วยบ้าง...
มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...
User avatar
bangkaa
 
Posts: 1473
Joined: Sun Oct 19, 2008 12:22 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Wed Dec 10, 2008 11:47 pm

กระทู้นี้ยังอยู่....
ผมขอผลัดผ่อนการร่วมแสดงความคิดเห็นไปก่อน....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Fri Dec 12, 2008 9:13 am

Shelmikedmu wrote:
8omuj wrote:ก็เห็นด้วยแหละว่ามีผลกระทบจริงๆ แต่การแก้ไขควรทำทั้งสองฝั่ง โดยการยกระดับของโชว์ห่วยขึ้นมาให้ได้ ไม่ใช้ไปกดดันผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเดียว เพราะเห็นคนโวยวายกันเยอะว่าเดือดร้อน แต่พอจะให้รวมตัวกันทีไร ก็ต่างคนต่างทำไม่ช่วยกันเองจริงๆจังๆสักที ก็คงยากจะแข่งขันครับ (แต่ก็พอเข้าใจว่าร้านเก่าแก่ทั้งหลายที่เปิดมานานแล้ว มักไม่ค่อยมีไอเดียจะ upgrade ตัวเองเท่าไหร่) :cry:

- การบริหาร logistic + supply chain ช่วยให้บริษัทใหญ่ๆอยู่ด้วย โชว์ห่วยควรเลียนแบบมั่ง โดยการรวมตัวกันสร้างอำนาจต่อรองเอง ไม่ใช่ประท้วงขับไล่ เพราะถ้าหาก Store ขนาดใหญ่ หายไปโชว์ห่วยจำลำบากกว่าเก่า

- การแข่งขันกับ 7-11 นั้นปกติแล้วเป็นไปไม่ได้ในแง่คุณภาพ โชว์ห่วยต้องทดแทนด้วยการเน้นสินค้าที่ 7-11 ไม่มี(สินค้าท้องถิ่น) หรือขายให้ถูกกว่า7-11 เพราะ7-11 มีลักษณะพื้นฐานคือกำหนดราคาจาก ศูนย์กลาง (สินค้าทุกตัวถูก set ราคาจากสำนักงานใหญ่-ตรงดิ่งไปที่คอมร้านเท่านั้น บังคับราคามาตรฐาน) ซึ่งโชว์ห่วยถ้าจัดการขนส่ง + stock ดีๆก็สามารถขายถูกได้มากกว่าเล็กน้อย (แน่นอนว่าต้องพึ่งห้างขายส่งขนาดใหญ่ด้วย)

- โชว์ห่วยมี 3แสน , 7-11 กำหนดมี5พันสาขาเท่านั้น (นโยบายเขาไม่เพิ่มกว่านี้แล้ว) แต่ที่โชว์ห่วยจะตายเพราะตัดลูกค้ากันเองด้วยมากกว่า :D

/me เห็นทำข้อมูลพอสมควรเลยขอร่วมแจมด้วยครับ ;)



ดูไปดูมา ไม่ใช่ว่าผมเห็นแก่ตัวนา แต่ว่า เท่าที่เราเถียงๆกันมา ก็สรุปว่า มันเป็นเรื่องของการปรับตัวด้านธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ใช่มั้ย
อย่าง ที่ ก๋วยเตี๋ยว หรือพวกเสื้อผ้าแผงลอยมันไม่โดน โมเดอร์นเทรด รับประทานก็เพราะอะไรล่ะ เพราะว่า สินค้าที่เขาขายนะ มันมีความโดดเด่น ที่ห้างไม่มี าโชว์ห่วยอยากอยู่รอดแบบที่แข่งกับเขาได้ ก็ต้องแก้เรื่องสินค้าแล้วล่ะ อย่าง เซเว่นเนี่ย มันไม่มีขาย ชา
เขียวฟูจินะ ขายแต่ชาโออิชิ ถ้าคนอยากกินชาฟูจิในเซเว่น(ผมคนนึงล่ะไม่กินโออิชิ มันหวานอ่ะ) คงหากินไม่ได้ ถ้ามีร้านขายชาฟูจิ
ผมก็เข้า อะไรอย่างนี้น่ะ ร้านโชว์ห่วยต้องรู้จักพัฒนาตัวเอง
รัฐอาจจะช่วยได้เรื่องการผลักดันให้เกิดสหกรณ์ แต่สุดท้ายแล้ว การมีแค่สหกรณ์ไม่ได้รับประกันว่า โชหว่ยจะอยู่รอดเลย

สรุป รัฐช่วยได้แค่ 20 แต่ต้องปรับตัวเอง 80 ซึ่งทุกวันนี้ โชห่วย ยังไม่ได้ทำ



วันนี้ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้าปลีกในประเทศไทย โดยเฉพาะร้านโชวห่วย หรือ ร้านค้าชำ ร้านขายหนังสือ ร้านทีวีริมถนน ร้านขายอาหาร ฯลฯ...

ประเทศไทยควรมีร้านค้าขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดยักษ์ ดำเนินกิจการร่วมกันเพื่อเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้การดูแล การสนับสนุน และ การกำกับของรัฐบาล เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่มีผู้เกี่ยวข้องมากมายเป็นสิบล้านคน มีส่วนเกือบยี่สิบเปอร์เซ็นของภาคเศรษฐกิจของประเทศ....

ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการคลัง จะเข้าไปศึกษา เข้าใจอุตสาหกรรมค้าปลีกในประเทศไทย จะสามารถดูแล สนับสนุน เสริมความรู้ พัฒนา และกำกับได้ถูกต้อง....

1.ถ้าร้านโชวห่วยขายแต่สินค้าที่ร้านสะดวกซื้อเช่น 7-11 ไม่มี ก็ต้องปิดร้าน....

ร้านค้าเหล่านี้ จำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคในชีวิตประจำนั้นที่เป็นที่ต้องการ...
เจ้าของร้านโชวห่วยจะต้องมีความเข้าใจว่าผู้บริโภคซื้อสินค้าใช้ประจำวันในร้านสะดวกซื้อเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องเลือกหาสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สิ้นเปลือง เช่น ยาสีฟัน กระดาษชำระ น้ำมันพืช กาแฟ ฯลฯ จำหน่ายภายในร้าน...
ทั้งนี้ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ คุณสมบัติ ขนาด รูปแบบผลิตภัณฑ์
ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้บริการ...
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Sat Dec 13, 2008 8:22 am

วิธีซื้อสินค้าราคาถูกมาขาย....
1. ซื้อสินค้าขายดี ขายคล่องจากยี่ปั๊วใกล้บ้าน ใกล้ร้าน รถเร่ ควรศึกษาราคาสินค้าเปรียบเทียบราคาขายในดีสเคาน์สโตร์เช่น แมกโคร์ บิ๊กซี โลตัส คาร์ฟูร 7-11 เป็นต้น ราคาปกติ ราคา'โบร์ชัวร์'....
2. ซื้อสินค้าขายได้น้อย แต่จำเป็นต้องมีไว้ขาย หรือ ยี่ปั๊วขายแพงกว่าจากห้างดีสเคาน์สโตร์ใกล้ร้าน โดยตรวจสอบราคาจาก'โบร์ชัวร์'...
3. การซื้อสินค้าให้คำนึงถึงสินค้าจำเป็นใช้ในชีวิตประจำวันก่อน เช่น กระดาษชำระ น้ำมันพืช แชมพู สุขภัณฑ์ เป็นต้น เลือก'ยี่ห้อ'ที่เป็นที่นิยมของลูกค้า 'ขนาดบรรจุ' เล็ก-ใหญ่ตามกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ในชุมนุม ในบริเวณนั้น เช่นบ้านอยู่อาศัย ครอบครัวเล็ก-ใหญ่ อายุน้อย-มาก คอนโด โรงเรียน โรงงาน ฯลฯ ให้ครบครันเท่าที่พื้นที่มีและเงินทุนหมุนเวียน...
4. จัดพื้นที่ในร้านให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าด้วยตนเอง หรือ เจ้าของร้านสามารถหยิบให้ลูกค้าอย่างรวดเร็ว..
5. จัดเรียงสินค้าเป็นหมวดหมู่ ของกิน ของใช้ อย่าปนกัน สินค้าขายดี ยี่ห้อขายดี เรียงให้เห็นเด่นชัด...
6. มีป้ายราคาให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบ ดูราคาจากป้ายด้วยตนเอง...
7. ต้องจัดเรียงสินค้าให้เป็นระเบียบ สะอาด ไม่มีฝุ่นเกาะ....
8. แสงสว่างในร้านให้เพียงพอ เห็นสินค้าชัดเจน ไม่มืดมัว เหม็นอับ....
วิธีดูว่าแสงสว่างในร้านเพียงพอไหม ไม่จำเป็นต้องให้แสงสว่างเท่า 7-11....
ให้เลือกกลางวันที่แดดจ้า เดินออกจากร้านไปสักร้อยเมตร...
เดินกลับมายืนหน้าร้าน มองเข้าไปในร้าน ถ้ามองไม่เห็นสินค้า หรือ รู้สึกมืดมัว ต้องเพิ่มแสงสว่าง...
9. ฯลฯ
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Sat Dec 13, 2008 2:01 pm

ถ้ารัฐบาล ถ้ากระทรวงพาณิชย์ อยากช่วยเหลือให้ร้านค้าโชวห่วย ร้านชำ ร้านขายอุปกรณ์การเรียน ร้านขายทีวีข้างถนนอยู่รอด....

รัฐบาลต้องดำเนินการ 4 ประการ....
1. กฏหมายค้าปลีกตามรอยรัฐบาลฝรั่งเศส สหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น และ มาเลยเซีย เป็นต้น
เนื้อหาสำคัญของกฏหมาย ต้องให้ห้าง'ดีสเคาน์สโตร์' อยู่นอกเมือง ระยะห่างอาจจะ 3-4 กม.
ภายในเมือง ในชุมชนให้มีห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านโชวห่วยเท่านั้น...
ห้างดีสเคาน์สโตร์ที่ตั้งอยู่ในชุมชนแล้ว ต้องมีเวลาเปิด-ปิดแน่นอน เช่น 10.00 น.-22.00น. เป็นต้น
เพื่อให้ร้านโชวห่วย ร้านชำมีเวลาขาย 06.00 น.-24.00 น......

2. กรมพัฒนาการค้าควรให้ความรู้เกี่ยวกับการค้าปลีก การเปิดร้านโชวห่วย
บริหารร้านชำที่ถูกต้องกับสถานการณ์บ้านเมืองไทย....

3. สนับสนุนให้เงินกู้ยืมเพื่อปรับปรุงร้านโชวห่วย ร้านชำให้ทันสมัยตามความต้องการของลูกค้า ตามขนาดร้านค้า
ตามยอดขายปัจจุบันและคาดว่าจะขยายตัวได้อีกเท่าใด...

4. กรมสรรพากรให้ร้านค้าปลี่ก ร้านโชวห่วย ร้านชำที่มียอดขายต่อวันต่ำกว่า 50,000 บาท มีต้นทุนสินค้า 90 %
10 % เป็นกำไรขั้นต้น นำไปหักค่าใช้จ่ายในการบริหารร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเงินเดือน ฯลฯ เหลือเท่าใด
ไปเสียภาษีสิ้นปี....

5. ฯลฯ


ถ้าตามได้ประมาณนี้ จะมีคนไทยรุ่นใหม่ อยากจะเป็นเจ้าของกิจการร้านค้าปลีก ร้านโชวห่วย ร้านชำทันสมัย เป็นอาชีพอิสระ ไม่เป็นลูกจ้างรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับในต่างประเทศ...
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Thu Dec 25, 2008 12:52 pm

ปีใหม่นี้หน่วยงานของรัฐและองค์กรอิสระ'รณรงค์' การไม่ซื้อเหล้า ไม่ดื่มเหล้า ไม่ให้เหล้าเป็นของขวัญปีใหม่ ฯลฯ....
หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือ และห้ามจัดเหล้าในกระเช้าปีใหม่ ห้ามส่งเสริมการขายเหล้า ห้ามแจกปฏิทินโป๊(เจ้าของปฏิทินบอกว่าภาพ'ศิลปะ') ห้ามชิงโชค ชิงรางวัลอันเนื่องมาจากการขายเหล้า ห้ามนับเนื่องราคาเหล้าในมุลค่ากระเช้าปีใหม่ชิงโชค ฯลฯ....

มาตราการต่างๆของหน่วยงานของรัฐและองค์กรอิสระไม่ชัดเจน และหลากหลายได้สร้างความสับสน อุปสรรค และ ปัญหาในการจำหน่ายเหล้าเทศกาลปีใหม่นี้อย่างยิ่ง ซัพพลายเออร์ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ดิสเคาน์สโตร์ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ต้องทำความเข้าใจมาตราการต่างๆ 'ขอความร่วมมือ' 'ขอความสนับสนุน' และ'ข้อห้าม' ที่มีผลทางกฏหมายลงโทษ และภาพพจน์ทางสังคม....

ผู้ค้าปลีกรายใหญ่จึงต้องหาทางออกของตนเอง ด้วยความเข้าใจ และด้วยการตีความของตนเอง มีความลักหลั่น เช่น'โบรโชว์' ของห้างฯ....
บางห้าง ไม่มีขวดเหล้าในกระเช้าปีใหม่ แต่มีหมายเหตุข้างล่างของแผ่นภาพว่า กระเช้าเบอร์นี้มีเหล้ายี่ห้า....ราคา....รวมอยู่ด้วย...
บางห้างไม่มีขวดเหล้าในกระเช้าปีใหม่ แต่มีข้อความว่า ถ้าต้องการเหล้ายี่ห้อ....ราคา... จะต้องเพิ่มเงินอีก...
บางห้างฯ มีขวดเหล้าพร้อมฉลากให้เห็นในกระเช้า แต่ภาพกระเช้าใน'โบรชัวร์' ไม่ปรากฏให้เห็นเหมือนทุกปี
บางห้างฯ หุ้มขวดเหล้าด้วยกระดาษขาว แต่บอกราคาเหล้ายี้ห้อนั้นในเบอร์นั้นต่างหาก.....

ปีนี้พนักงานขายของห้างฯ จึงมีปัญหากับลูกค้าที่ยังมีความประสงค์ต้องการซื้อกระเช้าปีใหม่ที่มีเหล้าเพื่อมอบเป็นของขวัญแก่คนที่รัก คนที่นับถือ และด้วยความจำเป็น...
ลูกค้าไม่ได้รับความสะดวก ไม่สามารถเห็นกระเช้าที่ต้องการ หรือ ทราบราคากระเช้าทันที ฯลฯ....


ถามว่าวัตถุประสงค์หรือมาตราการต่างๆหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรอิสระได้ผลสำเร็จหรือไม่....?
เชื่อยอดจำหน่ายเหล้าในกระเช้าปีใหม่ลดลงกว่าปีที่แล้ว แต่ไม่ใช่มาตราการต่างๆนั้น แต่เป็นเพราะว่า..
1. ลูกค้าอยากได้กระเช้าปีใหม่ กระเช้าสุขภาพ ไม่มีเหล้าอยู่ด้วย
2. งบประมาณจำกัด
3. ส่งเสริมสินค้าไทย สินค้าโอทอป
4. ลูกค้ารายใหญ่จัดกระเช้าปีใหม่เองด้วยเหล้า ไวน์ที่ไม่มีอากรแสตมป์
5. ฯลฯ


ปล.ร้านค้าขนาดเล็กที่ไม่ตัองจัดเตรียมกระเช้าล่วงหน้า สามารถจัดกระเช้าตามคำสั่งนั้น ขายดีมากกว่าปีก่อน
เนื่องจากไม่ต้องโชว์เหล้าให้เห็น จึงไม่ต้องขายเหล้าที่มีอากรแสตมป์ได้ในราคาย่อมเยาตามภาวะเศรษฐกิจ....


จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ทางบวกทางลบมาตราการต่างๆนั้นเหมาะสมสถานการณ์ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ซบเซา
และ เป็นมาตราการที่สมเหตุสมผลไหม........?
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Mon Jan 05, 2009 10:15 am

หยุมหยิม wrote:คิดจะทำ 7-11อยู่เหมือนกัน ดูท่าจะไม่ไหวข้อมูลแต่ละอย่างค่อนข้างเป็นลบทั้งภายในภายนอก
ตอนนี้7-11เหมือนตู้เย็นขนาดใหญ่ใกล้บ้านไปแล้วครับ สะดวกกว่าไปห้างสรรพสินค้าอีก



ถ้าเข้าใจวิธีการเปิดร้านสะดวกซื้อ ร้านมินิมาร์ทใกล้บ้านอย่างถูกต้องและพยายามแก้ไข บริหารร้านต่อเนื่อง ก็ไม่ต้องกังวล หรือ อยากจะเข้าไปเป็น'ร้านลูกโซ่'ของเครือ 7-11 หรือเครือข่ายอื่นๆ....
ร้านสะดวกซื้อ ร้านโชวห่วยของคนไทยมีจำนวนมากที่สามารถแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อ(โลโก้)ต่างชาติได้ ขอให้ศึกษาดูครับ...

หรือจะเป็นสมาชิกร้านสะดวกซื้อ 7-11 ก็ไม่ผิกกติกาอะไรหรอกครับ...!!!


รัฐบาลควรเข้ามาศึกษาธุรกิจค้าปลีกไทย แล้วกำหนดแนวทาง หลักการประกอบธุรกิจค้าปลีก เพื่อให้ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ร้านโชวห่วย ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ห้างดีสเคาน์สโตร์อยู่ร่วมกันได้ในเศรษฐกิจไทย...

ร้านค้าขนาดใหญ่จะได้ไม่เป็น'ปลาใหญ่กินปลาเล็ก'หรือ'ผีดิบ' 'ผีปอบ' กินลำใส้ใหญ่เศรษฐกิจไทย....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby halfmoon » Wed Jan 14, 2009 8:30 pm

Distributor คือ ผู้พิฆาตและทำลาย ตั้งแต่ผู้ผลิตยันแผงร้านรวง
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby tem_t2001 » Sun Feb 01, 2009 10:21 pm

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ครับ พอดีเป็นได้ทำโครงการนี้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นแนวคิดที่จะพัฒนาธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกไทย โดยแนวคิดของการสร้างเครือข่ายร้านค้าปลีกผ่านศูนย์กลางคือร้านค้าส่งครับ เป็นโครงการนำร่อง โดยปีนี้ได้ประสานกับสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีก ได้ลองจัดกิจกรรมที่ร้านค้าปลีกที่อยู่ในเครือข่ายของร้าน ส.สรรพกิจ เขตบางบอน กรุงเทพ และร้านสมสวัสดิ์ อ.เมือง จังหวัดแพร่ ซึ่งถ้าโครงการนี้สำเร็จ จะได้ทำให้กับร้านค้าที่อยู่ในเครือข่ายของร้านค้าส่งทั่วประเทศครับ ซึ่งกิจกรรมของโครงการจะประสานระหว่าง ร้านค้าส่ง ร้านค้าปลีก และซัพพลายเออร์ เพื่อหากิจกรรมทางการตลาดมาช่วยร้านค้าปลีกขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถแข่งขันกับธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ได้ โดยอบรมทีมงานของร้านค้าส่งให้เข้าไปช่วยร้านค้าปลีกในการพัฒนาระบบการจัดการ การจัดร้าน และการหาสินค้าหรือกิจกรรมต่างๆ เข้าไปช่วย เพื่อให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ครับ รอบแรกสามารถหาสินค้าได้สามรายการ ตามรูปครับ ถ้าพบเห็นร้านที่มีโปสเตอร์รายการสินค้าอย่างนี้ ช่วยเข้าไปอุดหนุนด้วยนะครับ

ใครมีข้อแนะนำที่จะช่วยในการพัฒนาธุรกิจค้าปลีก หรือโชห่วย ยินดีนะครับ
Attachments
Poster (Small).jpg
(40.72 KiB) Downloaded 595 times
User avatar
tem_t2001
 
Posts: 3
Joined: Wed Nov 26, 2008 11:09 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby dannbkk » Mon Feb 02, 2009 3:46 pm

แล้วถ้าอุดหนุดพวก minimart ของคนไทยละครับ อย่างนี้เราทำลายเศรษฐกิจรึเปล่าครับ



- thailand phuket hotels | phuket thailand hotels | Security Travel -
User avatar
dannbkk
 
Posts: 1
Joined: Mon Feb 02, 2009 3:35 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ppneer » Tue Feb 03, 2009 8:51 pm

เรื่อง Modern trade เกี่ยวกับ การทำลายโชว์ห่วย
มันไม่จริง 100% จริงๆแล้วน่าจะอยู่แค่5% มากกว่า
ผมเองก็อยู่ในแวดวงพวกนี้ตลอดเวลา ทั้ง Tesco
BigC Carf mackor jaiant สำหรับต่างประเทศมันมีผลโดยตรง
กับโชว์ห่วยจริงๆ แต่สำหรับเมืองไทย คิดว่าน่าจะเป็นพ่อค้าคนกลางมากกว่า
เพราะลองสอบถาม เขาไปซื้อมาจาก Tesco ได้กำไรมากกว่าที่ซื้อจากพวกพ่อค้าคนกลาง
แต่จะมีปัญหามากๆ คือ ตอนนี้พวกมันกำลัง จ้างให้พวกผลิตสินค้า
ลบชื่อสินค้าตัวเองออกให้ใช้ชื่อของห้างนั้น ลองเดินสำรวจดูได้ แม้แต่น้ำปลายังมีตรา TESCO
พวกสินค้าพึ่งมารู้ตัวว่าโดนหลอกเกือบสาย เลยเป็นผลดีกับพ่อค้าคนกลาง เขาให้ราคาเดียวกับที่ขาย
ให้ Model trade
ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิต

ใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว
User avatar
ppneer
 
Posts: 3382
Joined: Mon Jan 19, 2009 2:59 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Tue Feb 03, 2009 8:57 pm

ppneer wrote:เรื่อง Modern trade เกี่ยวกับ การทำลายโชว์ห่วย
มันไม่จริง 100% จริงๆแล้วน่าจะอยู่แค่5% มากกว่า
ผมเองก็อยู่ในแวดวงพวกนี้ตลอดเวลา ทั้ง Tesco
BigC Carf mackor jaiant สำหรับต่างประเทศมันมีผลโดยตรง
กับโชว์ห่วยจริงๆ แต่สำหรับเมืองไทย คิดว่าน่าจะเป็นพ่อค้าคนกลางมากกว่า
เพราะลองสอบถาม เขาไปซื้อมาจาก Tesco ได้กำไรมากกว่าที่ซื้อจากพวกพ่อค้าคนกลาง

แต่จะมีปัญหามากๆ คือ ตอนนี้พวกมันกำลัง จ้างให้พวกผลิตสินค้า
ลบชื่อสินค้าตัวเองออกให้ใช้ชื่อของห้างนั้น ลองเดินสำรวจดูได้ แม้แต่น้ำปลายังมีตรา TESCO
พวกสินค้าพึ่งมารู้ตัวว่าโดนหลอกเกือบสาย เลยเป็นผลดีกับพ่อค้าคนกลาง เขาให้ราคาเดียวกับที่ขาย
ให้ Model trade



สำหรับต่างประเทศมันมีผลโดยตรงกับโชว์ห่วยจริงๆ....?
แต่สำหรับเมืองไทย คิดว่าน่าจะเป็นพ่อค้าคนกลางมากกว่า....?

เพราะลองสอบถาม เขาไปซื้อมาจาก Tesco ได้กำไรมากกว่าที่ซื้อจากพวกพ่อค้าคนกลาง...?

"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ppneer » Tue Feb 03, 2009 9:16 pm

สำหรับต่างประเทศมันมีผลโดยตรงกับโชว์ห่วยจริงๆ....?

ผมไปหลายที่จะไม่ค่อยมีโชว์ห่วยแบบบ้านเราแล้ว
นอกจากบริเวณชาวหลบหนีเข้าเมืองมาหางานทำ

แต่สำหรับเมืองไทย คิดว่าน่าจะเป็นพ่อค้าคนกลางมากกว่า....?

พี่เคยเห็นรถส่งของไปตามร้านค้าต่างๆบ้างหรือเปล่าครับ
เขาจะไปทุกหมู่บ้านที่มีร้านค้า และเจ้าของร้านโชว์ห่วยแถวบ้านนอก
ต้องซื้อของจากรถพวกนี้แหละ และ ส่วนมากจะไม่รู้ราคาที่แน่นอน
ถ้าเขาบอกว่าของมันขึ้น ก๊ต้องจ่ายเพิ่ม เมื่อเจ้าของร้านรวยขึ้นมีรถตัวเอง
ได้เข้าเมือง ลองแวะซื้อของตามห้างTesco หรือ BigC เอ๊ะ ราคามันถูกดี
เมื่อรู้แบบนี้ ซื้อเองดีกว่า สุดท้ายก็ไม่ยอมซื้อจากรถเหมือนเคย

พี่ๆอาจไปบ้านนอกสุดๆๆดูซิครับ เฉพาะน้ำมันมอไซ ขวดหนึ่งก็ตก 40 บาท
ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิต

ใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว
User avatar
ppneer
 
Posts: 3382
Joined: Mon Jan 19, 2009 2:59 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Tue Feb 17, 2009 3:01 pm

ว่าจะมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับค้าปลีกไทยอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่ได้ทำสักทีหนึ่ง...

ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเงินสองพันบาทที่รัฐบาลจะให้ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทก่อน
ผมเห็นด้วยและสนับสนุนโครงการนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อระบอบเศรษฐกิจไทยระยะสั้น
ผมมีความเชื่อว่าเงินจำนวนนี้ ผู้ได้รับส่วนใหญ่จะนำไปจับจ่ายทันที
มากกว่าเก็บไว้ในธนาคาร....!!!

รัฐบาลกำลังพิจารณาจะส่งเงิน2,000บาทนี้ให้ผู้มีสิทธิ์อย่างไร ?
บางคนให้จ่ายเป็น"คูปอง" บางคนให้จ่ายเป็น"เชค" บางคนให้เข้าบัญชีธนาคาร...
บางคนจ่ายเป็น"เชค" ให้ไปขึ้นเงินสดกับธนาคารใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน...
ดูเหมือนว่าจะสรุปจ่ายเป็น"เชค"ให้ผู้รับเชคไปจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการเอง
จะขอร้องให้ผู้ค้าปลีก ผู้ให้บริการให้ส่วนลดพิเศษเพื่อจะทำให้เงิน 2,000 บาทมีค่ามากยิ่งขึ้น...

ถ้าจ่ายเป็น"เชค/คูปอง" จะเป็นผลประโยชน์ผู้ค้าปลีกรายใหญ่มากกว่ารายเล็ก รายย่อย...
ร้านค้ารายย่อยอาจจะมีสินค้าบริการไม่เพียงพอให้ผู้ใช้"เชค"ใช้ครั้งเดียวครบ 2000 บาทหรือมากกว่า...

ห้างร้านคงไม่ทอนเป็นเงินสดส่วนที่เหลือ เพราะจะเป็นช่องโหว่
สำหรับผู้ซื้อสินค้า/บริการเพียง 100-200 บาทแล้วขอเป็นเงินสดาส่วนที่เหลือ...

ผู้ได้รับผบประโยชน์จะเป็นห้างร้านรายใหญ่ในกรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ๋เป็นส่วนใหญ่
ทั้งที่ควรจะกระจายไปถึงอำเภอ ตำบล หมู่บ้านเพื่อสร้างงาน สร้างการบริโภค
ทำให้เงินจำนวนนี้หมุนเวียนหลายรอบในระบอบเศรษฐกิจ.....


ผมขอเสนอความเห็นว่าจ่ายเป็น"เชค"ไปขึ้นเงินสดที่ธนาคารใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน
แล้วค่อยนำไปจับจ่ายในท้องถิ่น ในชุมชน ทำให้เงินหมุนเวียนในตลาดหลายรอบ
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ppneer » Tue Feb 17, 2009 6:39 pm

ลุงปุแหลงโถก จัย มากๆ ครับ


วันที่ 25 ผม เดินทางไปที่Kuching เมืองหลวงของ ซาราวัก เดี๋ยว จะถ่ายรูป พวก โชว์ห่วย กับ โรฮิงญา

มาให้แลกัน

ลุงปุตั้งใจแล้วม่าย เอาแบบ เน้นๆ แต่ห้ามเวบ ไปแลสาวๆอีกหละ
ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิต

ใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว
User avatar
ppneer
 
Posts: 3382
Joined: Mon Jan 19, 2009 2:59 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Wed Feb 18, 2009 2:09 pm

พรุ่งนี้(19 กพ.)คณะอนุกรรมการพัฒนากฏหมายว่าด้วยการค้าที่เป็นธรรมและการคุ้มครองผู้บริโภคในคณะกรรมการปฏิรูปกฏหมายฯ จะจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนเรื่องกฏหมายการค้าปลีก/ค้าส่งสมัยใหม่ ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรมชั้น 28 อาคารกระทรวงยุติธรรม เวลา 09.00-12.00 น....

ผมได้รับเชิญไปร่วมสัมมนาในฐานะ"ผู้ทรงคุณวุฒิ"(เขาระบุในหนังสือเชิญฯ)ที่สามารถเสนอข้อคิดเป็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกฏหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งด้วย ผมได้ตอบรับคำเชิญเรียบร้อยแล้ว....

ผมคงจะเก็บสาระเกี่ยวกับกฏหมายค้าปลีกค้าส่งฉบับใหม่พร้อมแนวทางแก้ไขช่วยเหลือค้าปลีกค้าส่งรายเล็กรายน้อย.....ถ้ามี!!!
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ppneer » Wed Feb 18, 2009 2:38 pm

ขอเสนอสักเรื่อง ครับ ลุงปุ


ห้ามให้ DC พวก นี้ทำโลโก้ สินค้าตัวเอง


ไม่อย่างนั้น ในเวลา 5 ปีจากนี้ไป


คนที่เดือดร้อน จริง คือ พวกเราครับ


ไม่ไช่โชว์ห่วย
ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิต

ใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว
User avatar
ppneer
 
Posts: 3382
Joined: Mon Jan 19, 2009 2:59 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Wed Feb 18, 2009 3:26 pm

ppneer wrote:ขอเสนอสักเรื่อง ครับ ลุงปุ


ห้ามให้ DC พวก นี้ทำโลโก้ สินค้าตัวเอง


ไม่อย่างนั้น ในเวลา 5 ปีจากนี้ไป


คนที่เดือดร้อน จริง คือ พวกเราครับ


ไม่ไช่โชว์ห่วย



อย่ากังวลใจ หวาดกลัวเลย....
สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เยอรมัน ฯลฯ มี private label มากกว่าเรา
สหรัฐเคยมีสินค้า"No brand" คือไม่มีฉลาก ไม่มีตรายี่ห้อ ก็ล้มเหลวมาแล้ว....

ยูนิลิเวอร์ เนสเล่ย์ คอลเกต สหพัฒน์ฯ ไม่นิ่งเฉย ไม่ปล่อยให้สินค้ามียี่ห้อของพวกเขาสูญหาย มลายไปหรอกครับ....!
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron