วันนี้ พุธ 28 เมษายน 2553
มีข่าว
แดงถ่อย ใช้มีดดาบฟันรถเก๋ง ย่านประตูน้ำ
อ่านรายละเอียดได้จากข่าวหมายเลข 20
-----
ผมจะจัดทำกะทู้รวมความถ่อยเสื้อแดง
ท่านใดมีข้อมูล แจ้งผมด้วยครับ
ผมจะรวบรวมมาไว้ใน กะทู้นี้
เพื่อให้พี่น้องเรา เอาไว้ให้ใช้อ้างอิง
หรือจัดทำ Forward Mail ก็ตามสะดวก
งานเขียนทุกอย่างของผม ยินดีให้เผยแพร่ได้ตามอัธยาศัย
หัวข้อเรื่องขณะนี้ (ไม่เรียงลำดับวันที่ ปนๆ กันไป แต่จะพยายามตั้งชื่อ ให้สื่อความหมายครับ)
1.) 'อี้-แทนคุณ' ผวา! พาลูกเมียหลบไปตจว. หลังถูกข่มขู่จากเสื้อแดง
2.) รมช.สธ. “พรรณสิริ” หวิดเดี้ยง! ถ่อยแดงรุมทุบรถกลางพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
3.) รมช.เกษตร เจอเสื้อแดงแท้ๆ บุกต่อย
4.) ม็อบถ่อยเหิมหนัก หญิงสาวบีบแตร เจอรุมตื้บ ทุบรถเละ ต่อหน้าสาธารณชน
5.) สาวใหญ่ติดป้ายไม่เอา นปช. หลังรถ ถูกแดงไล่ตามทุบกระจก
6.) Taxi บีบแตรขอทางรถ กลุ่ม นปช. ฉุนเข้ารุมกระทืบ
7.) “การ์ด นปช.” ซ่าจัด ปรี่เข้าทำร้ายชายหญิงกลางสะพานลอย
8.) ตู่ส่งการ์ดคุกคามนักข่าว อ้างเป็นผู้กองบุกถึงบ้าน
9.) ขับเบนซ์ขว้างรองเท้าเฉียดหัวเสื้อแดง ขณะยื่นหนังสือทหารร้อยเอ็ด
10.) "เสื้อแดงน่าน" ปิดถนนสกัด ตำรวจ เสริมกำลังเข้ากรุง
11.) แดงยึดรถบัสทหารขอนแก่นเตรียมเข้ากรุง
12.) มันเวรกรรมอะไรของคนไทยเนี่ย
13.) แจ้งจับการ์ด “ไพร่” รุมตื้บล่ามนักข่าวนอกขัดขืนค้นกระเป๋า
14.) ส.ส.เสื้อแดงกร่าง คับ 4 เลน ... ปิด ถ.มิตรภาพ ค้นดะ ไล่จิกหัวทหารลงรถ ห้ามกลับค่าย !!!
15.) เสื้อแดง เอาโทรโข่งตีหัวประชาชนเลือดอาบ ที่ปทุมฯ (ขอบคุณท่าน 'ORCL')
16.) (คลิป youtube) เมธีดารานู้ดเสื้อแดง ต่อยเสื้อแดงกันเอง (ขอบคุณท่าน 'เสือยิ้มยาก')
17.) ฝูงแดง ขอนแก่น บุกสถานีรถไฟ ยึดรถฮัมวี-GMC ของทหาร อ้างลำเลียงสลายม็อบ กทม.
18.) ใหญ่คับฟ้า! ไพร่แดง รุมตีชาวบ้านเจ็บ 2-ตร.หมดปัญญาตามจับ
19.) บ้านป่า เมืองเถื่อน ด่านแดงอุดรฯ ทุบรถแพทย์หญิง กลางดึก + กักรถ หลวงตา'บัว
20.) "การ์ดไพร่" เบ่ง!! ใช้มีดดาบฟันรถหนุ่มขี่เก๋ง ฐานบังอาจขับชนกรวยล้ม
อ้างอิงจาก http://www.thairath.co.th/content/ent/77765
วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2553
'อี้-แทนคุณ' ผวา! พาลูกเมียหลบไปตจว. หลังถูกข่มขู่จากเสื้อแดง
"อี้-แทนคุณ" ผวา!
พาลูก-เมีย ครอบครัวหลบไปพักที่ ตจว.
หลังถูกข่มขู่จากหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ให้ระวังมือที่ 3 ลอบทำร้าย
เหตุนั่งจ้อช่องเอ็นบีที พร้อมขอ ตร.คุ้มกันเข้ม...
อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ พิธีกรรายการ ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ทางช่องเอ็นบีที
เผยต่อ "ไทยรัฐออนไลน์" ถึงกรณีที่มีข่าวว่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่ง ตำรวจเข้าคุ้มกันครอบครัวว่า เป็นเรื่องจริง
และขณะนี้ได้ให้ครอบครัวย้ายออกจากบ้านที่อยู่ปัจจุบันไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว
เนื่องจากตนได้รับข่าวว่า
มีการข่มขู่จาก หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง อ้างว่าให้ตนระวังตัว
เพราะจะมีมือที่สามลอบทำร้ายครอบครัว
ซึ่งการตัดสินใจทำงานพิธีกรรายการประเทศไทยฯ นั้น
เป็นการตัดสินใจของตนที่ต้องการแสดงออก ในบทบาทพิธีกร
มากกว่าที่ต้องการแสดงออกทางการเมือง และยอมรับว่า
มีการข่มขู่จริงภายหลังรายการดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป
"เรื่องข่มขู่ ผมได้ข่าวมาจากเพื่อน ที่อยู่ในกลุ่มเสื้อแดง
เขาอ้างว่ามีหนึ่งใน แกนนำคนเสื้อแดง บอกให้ฟังว่า
จะมีมือที่สามมาทำร้ายครอบครัวผม ให้ระวังตัว
แล้วในเว็บไซต์ พันธุ์ทิพย์ ก็มีการโพสต์ข้อความว่า
จะมีการปิดล้อมบ้านผม ส่วนตัวก็ได้รับผลกระทบมาก
หลายวันก่อนก็มี กลุ่มเสื้อแดง พยายามเข้ามา
ที่ โรงเรียนสอนภาษาจีน ของผมย่านเอกมัย
เป็นไปได้ว่า เขาทราบว่า ภรรยาของผมทำงานที่นั่น
จากนั้น ผมได้ขอให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยดูแลครอบครัวผมมากขึ้น"
พิธีกรชื่อดัง กล่าวต่อว่า
ขณะนี้ พ่อแม่ ของผมได้ย้ายออกไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว
เพราะไม่มั่นใจความปลอดภัย
และยอมรับว่าตอนนี้ครอบครัวผม ลูกผม อยู่กันอย่างหวาดกลัวไม่น้อย
ผมยังยืนยันที่จะทำงานตรงนี้ต่อไป
ไม่ได้หมายความว่าผมอยู่ข้างรัฐบาล
แต่เราทำงานเพราะเชื่อว่า ประเทศไทย เรานี้สามารถปกครองได้โดยนิติรัฐ
ผมยังไม่ถอดใจตอนนี้ครับ
อี้-แทนคุณ กล่าวทิ้งท้ายว่า
ตนเองไม่เคยขึ้นเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯ
และต้องการให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า
โดยวอนให้สังคมใช้สติในการแก้ปัญหามากกว่าความรุนแรง
อ้างอิงจาก
http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 0000052177
“พรรณสิริ” หวิดเดี้ยง! ถ่อยแดงรุมทุบรถกลางพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 เมษายน 2553 18:28 น.
รมช.สธ.ถูกกลุ่ม นปช.กว่า 300 คน บุกทุบรถหมายเอาชีวิต
ขณะทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ยกยอดฉัตรพระบรมธาตุมหาราชล้านนา ที่ จ.น่าน
โชคดีโชเฟอร์ขับรถฝ่าวงล้อมออกมาได้หวุดหวิด
วันนี้ (15 เม.ย.) นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากพรรคภูมิใจไทย
ได้เดินทางไปเป็นประธาน ในพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ยกยอดฉัตร พระบรมธาตุมหาราชล้านนา
เจดีย์ศรีจอมไพร วัดหัวเมือง บ้านหัวเมือง ตำบลแงง อำเภอปัว จังหวัดน่าน
ซึ่งเป็นวัดชื่อดังประจำหมู่บ้าน
เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน และต่างจังหวัด
โดยมี นาย ดร งามธุระ สมาชิกสภาจังหวัดน่าน สมาชิกพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ประสาน
พร้อมกลุ่ม อสม.ตลอดจนข้าราชการในพื้นที่ เข้าร่วมพิธี
ระหว่างการทำพิธีก็ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดง
นปช.อำเภอเชียงกลาง อำเภอทุ่งช้าง และอำเภอปัว กว่า 300 คน
ปิดทางเข้าออกวัดดังกล่าว พร้อมใช้เครื่องขยายเสียง
กล่าวโจมตีขับไล่ เป็นระยะระหว่างทำพิธี
และการปราศรัยพบปะ กับผู้มาร่วมพิธี
ขณะที่ชาวบ้าน ก็ไม่พอใจที่ กลุ่มคนเสื้อแดง มาก่อกวนในงาน
ทำให้มีปากเสียงกันพอสมควร
กระทั่ง นางพรรณสิริ ประกอบพิธีเสร็จ จึงเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ
กลุ่มคนเสื้อแดง ที่รออยู่ได้กรูกันเข้าหารถใช้มือทุบกระจก
ท่ามกลางการคุ้มกัน ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และตำรวจ
ต่อมา รถของคณะ นางพรรณสิริ
สามารถแหวกวงล้อมออกมาได้ คนขับจึงรีบขับรถออกไปทันที
โดยมีรถของกลุ่มคนเสื้อแดง วิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน
แม้รถยนต์ของคณะนางพรรณสิริ จะไม่ได้รับความเสียหาย
แต่ต้องยกเลิกกำหนดการ ที่จะไปเยี่ยมประชาชนที่ อำเภอทุ่งช้าง
เพราะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย
รายงานข่าวแจ้งว่า การเดินทางมาของรถคณะนางพรรณสิริ ครั้งนี้
เพื่อหาเสียงให้ นาย ดร งามธุระ ส.จ.น่าน เขตทุ่งช้าง
ซึ่งถูกวางตัวให้ลงเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 แข่งกับ ดร.วัลลภ สุปริยศิลป์ พรรคเพื่อไทย
อ้างอิงจาก
http://www.posttoday.com/ข่าว/อาชญากรรม/22460/รมช-เกษตรเจอเสื้อแดงบุกต่อยขณะร่วมสงกรานต์นครพนม
รมช.เกษตร เจอเสื้อแดงแท้ๆ บุกต่อย
คนเสื้อแดง สงบ สันติ อหิสา จริงหรือ ???
เสื้อแดงบุกเดี่ยวต่อย กกหู ศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรฯ
ขณะร่วมงานสงกรานต์ที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม
การ์ดรวบตัวส่งตำรวจดำเนินคดีทันที
วันพุธที่ 14 เมษายน 2553 เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.
นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว รมช.เกษตร สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย
ได้ลงพื้นที่ เพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร และร่วมพิธีรดน้ำดำหัว
เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ที่บริเวณวัดไผ่ล้อม ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม
ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 30 คน
นำโดยนายศุภฤกษ์ ทากิระ อดีตผู้สมัคร สจ.เขต อำเภอศรีสงคราม
นำรถปราศรัยออกติดตาม คณะของ นายศุภชัย
และปราศรัยโจมตี การทำงานของ นายศุภชัย ตลอดเวลา
แต่คณะก็ไม่ได้ตอบโต้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามขณะที่นายศุภชัย
กำลังก้มหัวให้ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านจำนวนมากเข้ารดน้ำดำหัวที่วัดไผ่ล้อมอยู่นั้น
ได้ถูก นายปุ่น สาสอน อายุประมาณ 30 ปี
ซึ่งเป็นกลุ่มเสื้อแดง ที่ติดตามคณะนายศุภฤกษ์มาด้วย
ได้บุกเข้าชกนายศุภชัย เข้าที่บริเวณกกหู
ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของนายศุภชัย
ได้กระโดดเข้าขวาง และจับตัว นายปุ่นส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ม็อบถ่อยเหิมหนัก หญิงสาวบีบแตร เจอรุมตื้บ ทุบรถเละ ต่อหน้าสาธารณชน
วันที่ 12 เมษายน 2553 16:42 น.
อ้างอิงจาก
http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 0000051116
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังจอดรถอยู่สี่แยกสีลม
ได้แสดงความไม่พอใจต่อม็อบ นปช.ที่เดินขบวนแห่ศพ
ด้วยการบีบแตรรถ ทำให้การ์ด นปช.ไม่พอใจ
รุมกระทืบรถ และทุบกระจก ต่อหน้าสายตาสาธารณชน
ข่าวเดียวกัน อ้างอิงจาก
http://naewna.com/news.asp?ID=207086
แดงถ่อยกระทืบรถ ไม่พอใจบีบแตรใส่
วันที่ 12/4/2010
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ผ่านแยกสีลมนั้น
ก็มีรถยนต์เชฟโรเลต สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌษ 2052 ซึ่งคนขับเป็นผู้หญิงอายุไม่เกิน 30 ปี
ซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ฝั่งตรงข้าม ได้บีบแตร ใส่ด้วยความไม่พอใจ
ทำให้คนเสื้อแดงแสดงอาการไม่พอใจบุกเข้าทุบรถ กระทืบรถ ปีนขึ้นหลังคารถ
ทุบตีจนกระจกรถแตกเสียหาย ซึ่งขณะนั้นผู้หญิงคนกล่าวได้หยิบกล้องดิจิตอลออกมาถ่าย
พอคนเสื้อแดงเห็นก็จะเข้าทำร้าย แต่โชคดีที่ไฟแดงก่อน ทำให้รอดหวุดหวิด
สาวใหญ่ติดป้ายไม่เอา นปช.หลังรถ ถูกแดงไล่ตามทุบกระจก
เนชั่นทันข่าว ข่าวด่วนธุรกิจ The Nation
12 เมษายน. 2553 17:40 น.
นาง สายสุดา (ไม่ขอเปิดเผยนามสกุล)
ได้เข้าร้องเรียนกับทางผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์คมชัดลึกว่า
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาตนได้ขับรถยนต์ฮอนด้า สีบรอนซ์-เทา หมายเลขทะเบียน ศท 9054
โดยด้านหลังรถได้ติดกระดาษ A4
โดยมีข้อความเขียนว่า"ขอร้องเถอะแกนนำนปช.หยุดได้แล้ว"
จากนั้นได้ขับรถไปเจอกับกลุ่ม นปช.บริเวณถนนสุขุมวิท
จึงทำให้กลุ่ม นปช. ไม่พอใจ ขับรถเข้ามารุมด่า และขีดข่วนข้างรถ
นางสายสุดา เปิดเผยว่าวันนี้เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ขณะที่ตนได้ขับรถไปตามท้องถนนปกติ
และได้เขียนข้อความบนกระดาษ A4 ด้วยลายมือตัวเองว่า "ขอร้องเถอะแกนนำนปช.หยุดได้แล้ว"
เนื่องจากคิดว่าการเขียนข้อความแบบนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยชอบธรรม
เพราะว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องทางการเมือง
ระหว่างที่ตนขับรถอยู่บน ถนนเส้นสุขุมวิท ตัดทองหล่อ
ได้มีขบวนของกลุ่ม นปช. ขับรถแห่ศพของผู้ตายวิ่งมาบนถนนเดียวกัน
เมื่อพวกเขาเห็นกระดาษ ที่ติดอยู่หลังรถจึงขับรถตามมาจำนวนหลายคัน ทั้งรถ จยย. และรถเก๋ง
"หลายคนพยายามบอกให้ดิฉันลด กระจกลง และทุบกระจกรถ
ตะโกนดังลั่นจนน่ากลัว ดิฉันเลยพยายามบีบแตรให้ดังที่สุด
เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ละแวกนั้นเห็นเหตุการณ์ หากเกิดอะไรขึ้นจะได้มาช่วยดิฉัน
กระทั่งดิฉันพยายามขับรถต่อมาเรื่อยๆ ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขับไล่ตามมา
แต่โชคดีที่ถนนนั้นเป็นทางผ่านเข้าบ้านดิฉัน
จึงตัดสินใจเลี้ยวเข้าซอย กลุ่ม นปช. ก็ไม่ขับตามมาอีกเลย
เมื่อมาถึงบ้านตรวจสอบรอบรถพบว่า ถูกขีดข่วนรอบคัน " นางสายสุดากล่าว
นางสายสุดา กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกกลัวมาก
เมื่อขับเข้าบ้านจึงคิดได้ว่าควรจะออกมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่
เพราะตนไม่ได้ทำผิดอะไร อีกทั้งเรื่องแบบนี้ไม่น่าที่จะเกิดขึ้น
เนื่องจากตนได้เรียกร้องทางการเมืองเหมือนกลุ่มคนเสื้อแดง
เพียงแต่มีความคิดแปลกแยก แต่ก็ไม่น่าที่จะทำกันถึงขั้นนี้
Taxi บีบแตรขอทางรถ กลุ่มนปช.ฉุนเข้ารุมกระทืบ
12 เมษายน 2553 18:01 น.
เนชั่นทันข่าว ข่าวด่วนธุรกิจ The Nation
อ้างอิงจาก
http://breakingnews.nationchannel.com/r ... sid=442927
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 เมษายน 2553
นายสมพร มณีรส อายุ 57 คนขับรถแท๊กซี่สีเหลือง
ยี่ห้อโตโยต้า อัสติส ทว6773 กทม ของสหกรณ์แท๊กซี่ลาดพร้าว
แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดง
ที่เคลื่อนขบวนมาบริเวณ ปากซอยสุเหร่าพระโขนง เข้าทำร้ายร่างกาย
และทุบกระจกรถยนต์ ทั้งด้านหน้าด้านหลังจนแตกหมด เพราะไม่พอใจที่ตนขับรถสีเหลือง
เข้าใจว่า เป็นฝ่ายตรงข้ามจึงเข้าทำร้าย ได้รับบาดเจ็บปากแตกมีเลือดไหล และโดนรุมต่อย
นายสมพร เปิดเผยว่า ขณะขับรถออกจากซอยสุเหร่าพระโขนง
หลังจากไปส่งผู้โดยสารเสร็จ ก็ได้มาเจอกับกลุ่มคนเสื้อแดง
ที่ขนคนขึ้นรถกระบะและรถหกล้อ เป็นจำนวนมาเคลื่อนขบวนแห่ศพผ่านมา
ตนจึงบีบแตร เพื่อขอทางออก แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมเปิดทางให้ ตนจึงบีบแตรอีก
จนผู้ชุมนุมที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์มา ไม่พอใจที่ได้ยินเสียงแตร จึงลงมาตะโกนด่า
และเปิดประตูดึงตนออกมาจากรถ แล้วพูดว่า มึงปัญหาอะไร ตนตอบไปว่าขอทางออกหน่อย
"ผมพูดว่า ผมทำมาหากินไม่ได้อยู่ด้านไหนสีไหน ทำงานเลี้ยงลูกเมีย
ไม่อยากมีปัญหากับใคร บีบแตรก็แค่ขอให้เปิดทาง ไม่ได้บีบขับไล่
แต่กลุ่มเสื้อแดงไม่ฟัง ได้เข้ามาด่าทอ และผลักหน้าอก ต่อยปาก 1 ที
พอหันไปที่รถ เห็นมีคนใช้ไม้ทุบกระจกรถทั้งหน้าหลังจนแตก
เมื่อตั้งสติได้ จึงวิ่งเข้าไปในรถ แล้วขับขึ้นฟุตบาท
เพื่อหนีเอาตัวรอด แล้วรีบมาแจ้งความทันที "นายสมพรกล่าว
“การ์ด นปช.” ซ่าจัด ปรี่เข้าทำร้ายชายหญิงกลางสะพานลอย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 มีนาคม 2553 16:38 น.
อ้างอิงจาก
http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 0000040567
การ์ด นปช.ยัวะจัด
ปรี่เข้าทำร้าย ชาย หญิง คู่หนึ่ง กลางสะพานลอย ย่านถนนเพชรบุรี
เหตุไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว
ทั้งที่การรณรงค์ในครั้งนี้ของกลุ่ม นปช.
เพื่อสร้างความเข้าใจว่าจะชุมนุม ด้วยสันติวิธี
วันนี้ (23 มี.ค.) กลุ่ม นปช.
ได้ส่งขบวน มอเตอร์ไซค์ จำนวน 500 คัน
ออกแจก สติกเกอร์ ที่มีข้อความว่า ยุบสภา
ให้แก่ประชาชนทั่วไปรอบๆ กรุงเทพฯ จำนวน 5 แสนแผ่น
เพื่อรณรงค์ให้ประชาชน รับทราบการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.
ในการชุมนุมด้วยสันติวิธี
โดยการเดินทาง ได้ใช้เส้นทางเดียวกับวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 มี.ค.)
คือ ออกจาก สะพานผ่านฟ้า ไปยมราช เพชรบุรี อโศก รัชดาภิเษก
ลาดพร้าว บางกะปิ ลำสาลี รามคำแหง พระโขนง พระราม 4
พระราม 3 ขึ้นสะพานกรุงเทพ ไปฝั่งธนบุรี วงเวียนใหญ่ ขึ้นสะพานสาทร
กลับมาสีลม เยาวราช หลานหลวง และสะพานผ่านฟ้าฯ
ทั้งนี้ ระหว่างการแจกสติกเกอร์บริเวณถนนเพชรบุรี
ได้มีชายหญิงคู่หนึ่งที่แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับการรณรงค์ดังกล่าว
จึงถูกการ์ดของกลุ่ม นปช. ปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกาย บนสะพานลอยข้ามถนนเพชรบุรี
ตู่ส่งการ์ดคุกคามนักข่าว อ้างเป็นผู้กองบุกถึงบ้าน
ที่มา: http://www.prachatouch.co.th/web/news_d ... sp?id=6937
“จตุพร” ส่งชายฉกรรจ์ 2 คน
บุกถึงบ้าน ถามหานักข่าวที่ไปทำข่าวบ้านหรูของตัวเอง
พร้อมนั่งเฝ้ารอ อ้างเป็น “ผู้กองดอน” มาตามคำสั่ง “นาย”
บอกถ้ามีปัญหาให้ไปพบที่ อิมพีเรียล
เผยก่อนหน้า นักข่าว เคยโดน รปภ. หมู่บ้านล้อมกรอบมาแล้ว
แถมระบุ “คุณนาย” สั่งกักตัว-ยึดบัตรประชาชน
เมื่อค่ำวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา
ได้เกิดเหตุการณ์ คุกคาม ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์
โดยในเวลาประมาณ 18.30 น.
วันดังกล่าว ได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน
บุกไปถามหา ผู้สื่อข่าวฝึกงาน ถึงบ้านพักย่านตลาดรังสิต
และพยายามสอบถามเอาชื่อจริง และหมายเลขโทรศัพท์
จากมารดาของผู้สื่อข่าว ซึ่งอยู่บ้านเพียงคนเดียว
ขณะที่ทั้ง 2 คน ก็ยังไม่ยอมเดินทางกลับในทันที
แต่ยังคงเดินป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณหน้าบ้าน
และนั่งรออยู่หน้าร้านอาหารฝั่ง
ตรงข้ามบ้านเป็นเวลานาน จนค่ำจึงได้ขับรถออกไป
ผู้สื่อข่าวระบุว่า ได้มีโทรศัพท์หมายเลข ไม่คุ้นเคยพยายามโทรศัพท์เข้ามาหลายครั้ง
แต่ไม่ได้รับ เนื่องจากทราบเรื่องจากมารดา
จนในที่สุดเวลาประมาณ 20.30 น. ก็ตัดสินใจรับสาย
ผู้ที่โทรศัพท์เข้ามา พยายามสอบถามถึง สาเหตุที่ไปทำข่าว
ที่บ้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในหมู่บ้านวิสต้า ปาร์ค วัชรพล
พร้อมตั้งคำถามอีกหลายคำถาม
รวมทั้งพยายามจะสอบถามเอาชื่อ และหมายเลขโทรศัพท์
รวมทั้งที่อยู่ของผู้สื่อข่าว ที่ไปทำข่าวพร้อมกันอีกคน
โดยระบุว่า “นาย” ให้มาสอบถามว่ามีปัญหาอะไร
หากมีปัญหาก็ให้ไปคุยกันได้ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว
และอ้างว่าตัวเองชื่อ “ผู้กองดอน”
ทั้งนี้ การไปทำข่าวดังกล่าว
สืบเนื่องจากมี ผู้อ่านหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์
โทรศัพท์เข้ามาร้องเรียน และตั้งคำถามว่า
ในขณะที่ ผู้ชุมนุมเสื้อแดง ชุมนุมกันอย่างยากลำบาก
มีข่าวว่า บรรดาแกนนำมีความเป็นอยู่ที่ดี
ร่ำรวย มีบ้านหลังโตจริงหรือไม่
จึงได้ส่งทีมตรวจสอบเบื้องต้น เข้าไปดูบ้านของนายจตุพร
ในหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นโครงการใน เครือเอสซี แอสเสท
โดยวันที่ ผู้สื่อข่าวเข้าไปในหมู่บ้าน
ก็เพียงมองจากภายนอกเท่านั้น ว่า บ้านเลขที่ 99/92 ของนายจตุพร
มีความหรูหราอย่างที่ถูกกล่าวถึงหรือไม่
โดยไม่ได้มีการบุกรุกเข้าไปในบ้าน หรือเข้าใกล้ริมรั้วแต่อย่างใด
และใช้เวลาเพียงสั้นๆ ก็เดินทางกลับ
เพราะได้รับคำสั่งให้ไปตรวจสอบในเบื้องต้นเท่านั้น
ก่อนที่กองบรรณาธิการจะประมวลข้อมูลและตัดสินใจดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวระบุด้วยว่า ในขณะที่กำลังจะเดินทางกลับ
กลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน
ที่เรียกนายจตุพร ว่า “นาย” และเอ่ยถึงผู้หญิงอีกคนว่า “คุณนาย”
ได้พยายามเข้ามารุมล้อมซักถาม
และบอกว่า “คุณนาย” ให้รอพบ และให้ยึดบัตรประจำตัวประชาชนไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวจึงแจ้งว่าไม่สามารถให้ยึดไว้ได้
แต่แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการแสดงบัตรประชาชนให้ดู
ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ก็นำไปจดรายละเอียดไว้
และเป็นที่มาของชายฉกรรจ์ 2 คน มาคุกคามดังกล่าว
อ้างอิงจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... =03&catid=
ขับเบนซ์ขว้างรองเท้าเฉียดหัวเสื้อแดง ขณะยื่นหนังสือทหารร้อยเอ็ด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 เม.ย.
กลุ่มคนเสื้อแดงร้อยเอ็ดกว่า 100 คน
เดินทางมุ่งหน้าจะเข้าไปที่กองพลทหารราบที่ 6
ค่ายพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(พล.ร.6) ที่ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
เพื่อที่จะยื่นข้อเรียกร้องผ่านไปยังผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และผู้บัญชาการเหล่าทัพ
แต่ถูกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ,ทหาร และสารวัตรทหาร สกัดไว้ที่หน้าประตูค่าย
ขณะเดียวกันพันโท รัฐพล ศิริทับ
หัวหน้าฝ่ายยุทธการทหาร รองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 6
ออกมาพบกับแกนนำของคนเสื้อแดง เพื่อรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ขณะกลุ่มเสื้อแดงกำลังเดินข้ามถนนไปรวมตัวกันที่หน้าประตูค่าย
ปรากฏว่ามีรถเบนซ์สีดำ มีคนนั่งในรถ 4 คน
ได้ชะลอรถพร้อมหมุนกระจกลง และตะโกนด่ากลุ่มคนเสื้อแดง
สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนตอบโต้ด้วยการยกมือทำเครื่องหมายอวัยวะเพศชายใส่
ถ่มน้ำลายใส่ และรุมเตะที่รถ
ในขณะที่คนในรถ ได้ถอดรองเท้าผ้าใบขว้างออกมาเฉียดหัวคนเสื้อแดง
ก่อนที่จะเร่งขับรถหนีไปทางตัวเมืองร้อยเอ็ด
อ้างอิงจาก http://breakingnews.nationchannel.com/r ... lang=&cat=
"เสื้อแดงน่าน" ปิดถนนสกัด ตำรวจ เสริมกำลังเข้ากรุง
19 เมษา. 2553 02:44 น.
ช่วงเย็นที่ผ่านมา พล.ต.ต.เฉลิมพันธ์ อจลบุญ ผบก.ภ.จว.น่าน
ได้เรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปราบจลาจลกองร้อยที่ 1 จังหวัดน่าน
สนธิกำลังจาก ตำรวจ สภ.เมืองน่าน สภ.ภูเพียง สภ.เวียงสา สภ.นาน้อย และสภ.นาหมื่น รวม 166 นาย
พร้อมสัมภาระ เพื่อเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ รักษาความสงบ การชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์
ตามที่ ศอฉ. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งเรียกกำลังเสริม
โดยเตรียมเคลื่อนย้ายด้วยรถตู้ 20 คันและรถห้องขัง 2 คัน
แต่ปรากฎว่ากลุ่ม นปช.น่าน กว่า 200 คน
นำโดยนายประทิน อุ่นถา อดีต สจ.น่าน เขตอำเภอนาน้อย
ที่ปรึกษา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน
ได้นำทีมโดยรถยนต์จำนวน 23 คัน
นำกลุ่มเสื้อแดงจากหลายอำเภอ พร้อมติดตั้งเครื่องเสียง
ไปปิดถนนที่ด่านตรวจห้วยน้ำอุ่น กม. ที่ 54 - 55 ต.อ่ายนาไลน อ.เวียงสา จ.น่าน
ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก ที่จะเดินทางผ่านไปยังจังหวัดแพร่ พิษณุโลก และเข้า กรุงเทพฯ
เพื่อขัดขวาง การนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปรักษาความสงบ การชุมนุมเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์
กระทั่งเวลา 01.17 น. วันที่ 19 เมษายน
ก็ไม่มีวี่แววของ ตำรวจชุดปราบจลาจล ร้อย.1 ของจังหวัดน่านเดินทางมา
ทางกลุ่มเสื้อแดง ก็บอกว่าคืนนี้ทั้งคืน จะปักหลักปิดด่าน
ตรวจค้นรถบัส รถทัวร์ รถตู้ หรือรถบรรทุกที่สงสัย
เพื่อสกัดกั้น ไม่ให้เดินทางเข้าไปเสริมกำลังกับ บช.น.ที่กรุงเทพฯ
โดยมีภรรยาของตำรวจ ที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพ มาคอยขัดขวางด้วย
โดยจะใช้ยุทธวิธีปล่อยลมยาง และให้ภรรยายกกระเป๋าเสื้อผ้าของสามีลงจากรถทันที
อย่างไรก็ตาม การส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดน่าน ไปเสริมกำลัง
ปรากฏว่า พ.ต.อ.วีระชัย บั้งเงิน ผกก.สส.ภ.จว.น่าน/จนท.คุมกำลัง
ได้ระงับแผนเดินทางชั่วคราว เพื่อวางแผน หรือเปลี่ยนเส้นทาง และกำหนดการในการเดินทาง
ซึ่งหากตามกำหนดการ จะต้องออกเดินทาง จาก จ.น่าน ในเวลา 20.00 น.
เพื่อไปรายงานตัวที่ กทม. ก่อนเวลา 16.00 น.
วันที่ 19 เมษายน 53 แต่ปรากฏว่าทุกเส้นทางที่จะออกจากจังหวัดน่าน
รายงานข่าวไม่ครบมาตั้งแต่ต้นฉบับ จบแต่เพียงเท่านี้ครับ
แต่คงพอทราบเนื้อความคร่าวๆ
ว่า กองโจรก่อการร้ายทักษิณ นอกจากจะคุกคามประชาชนแล้ว
ยังคุกคาม เจ้าหน้าที่รัฐด้วย ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง