ถ้าแดงแท้คือต้องตายแล้วคะ แล้วเอามาแห่


ปล.ชอบเพลงปลุกใจข้างบน

เสียงจากคนอุบล...รักชาติด่าคนเผาบ้านเมือง
noway2know wrote:ใช้ชุดทหารสร้างสถานการณ์ ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร
หวังให้ทหารตกเป็นจำเลยของสังคม...เพื่อล้มรัฐบาล
โดยเฉพาะกรณีศพวัดปทุม...ที่กล่าวหาทหารยิงจากรถไฟฟ้า
ภาพเปรียบเทียบกับอรุณ ฉายาจันทร์
อรุณ ฉายาจันทร์
นายอรุณ ฉายาจันทร์ ผู้ชุมนุมเสื้อแดง
ที่ตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุบุกรุกเข้ากระทรวงมหาดไทย
และทุบรถยนต์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
จับกุมได้เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2552
โดยจับกุมได้หน้าสนามมวยลุมพินี ถนนพระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
อรุณ ฉายาจันทร์ เป็นหนึ่งในการ์ดของเสธ.แดงด้วย
กลุ่มคนพวกนี้โยงใยกันหมด แดง จิ๋ว นปช.
แต่พอก่อคดี จะกลายเ้ป็นแดงเทียมหมด
โพสต์ทูเดย์ ฉบับ วันที่ 11 มีนาคม 2553
ด้านทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมแถลงข่าวถึงการชุมนุมของนปช.นำโดยนพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค กล่าวว่าตอนนี้ทีมงานของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับข้อมูลมาว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ในระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงขึ้นเพื่อโยนความผิดให้รัฐบาล ทราบมาว่าเป็นเครือข่ายของคนมีสี คือนายอรุณ ฉายาจันทร์ ซึ่งเป็นคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่หน้ากระทรวงมหาดไทยในช่วงเหตุการณ์ เม.ย.ของปี2552
http://www.posttoday.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87/15670/%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B0
คนนี้อีกคนอยู่ในที่ก่อเหตุแทบทุกเหตุการณ์
คนพวกนี้จะใส่ชุดเหมือนทหาร
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังต้องทำการพิสูจน์ตรวจสอบว่านาย ศรชัย ศรีดี
อาจเป็นบุคคลเดียวกับที่ปรากฏในภาพข่าวซีเอ็นเอ็น ที่ปรากฏตัวบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอ
ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ บช.น.พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานสืบสวน โชว์ภาพ นายศรชัย ศรีดี ที่พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ประชุมร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับในคดีต่างๆ โดยนาย ศรชัย อยู่ในเหตุการณ์ที่ตำรวจบุกเข้าเพื่อจับกุมนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง กบดานอยู่ในโรงแรมเอสซีปาร์ค ขณะนี้รอศาลอนุมัติหมายจับอยู่
อุดรธานี
ผวจ.อุดรฯ สรุปความเสียหายเผาศาลา- สนง.เทศบาลสูญกว่า 150 ล้าน แต่ศาลากลางหลังใหม่ยังใช้งานได้บางส่วน มีหนุ่มใหญ่เข้าร่วมชุมนุมถูกยิงดับ 1 ศพ...
วันที่ 20 พ.ค. 2553 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความเสียหาย หลังมีกลุ่มมวลชนบุกเผาศาลากลาง จ.อุดรธานี ทั้งหลังเก่าและหลังใหม่ พร้อมขนย้ายสิ่งของและเอกสารต่างๆ ซึ่งไม่ได้รับความเสียหายออกมา ส่วนที่สำนักงานเทศบาลนครอุดรธานีนั้น เจ้าหน้าที่ ไม่สามารถเข้าไปตรวจความเสียหายได้เนื่องจากบริเวณชั้น 1 ถูกเพลิงไหม้เสียหายรุนแรง โดยมีกำลังตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองกว่า 300 นาย ดูแลความสงบบริเวณศูนย์ราชการ
ส่วนที่อาคารเอนกประสงค์ ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ โดยนายอำนาจ กล่าวว่า ต้องปิดศาลากลางหลังเก่าทั้งหมด ส่วนศาลากลางหลังใหม่ชั้น 2 -7 สามารถใช้งานได้ เบื้องต้นประเมินมูลค่าความเสียหายของตัวอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ ประกอบด้วยศาลากลาง 2 หลังและสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี 150 ล้านบาท
นายอำนาจ กล่าวต่อว่าเหตุการณ์หลังสลายการชุมนุมบริเวณศาลากลางวานนี้ (19 พ.ค.) จับกุมตัวผู้ชุมนุมได้ 49 คน และไปควบคุมและสอบสวนที่กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ค่ายพระยาสุนทรธรรมธาดา ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 5 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย และ อส.2 นาย ส่วนวิทยุชมรมคนรักอุดรหยุดกระจายตั้งแต่คืนที่ผ่านมา หลังทหารเข้าตรวจยึดเครื่องส่ง และตัดกล่องรับสัญญาณดาวเทียม PTV
ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี กล่าวอีกว่า เวลา 11.20 น. รับแจ้งมวลชน ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมรักษาตัวในโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือนายเพลิน วงษ์มา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 ม.4 ต.กุดจับ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณต้นแขนซ้าย เข้ารักแร้ ทะลุปอด กระสุนตุงแผ่นหลัง รวมทั้งต้นขาซ้ายและขวา
จากนั้นแพทย์ อัยการ และตำรวจชันสูตรพลิกศพที่ห้องดับจิต โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี พบผู้ตายยังมีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 ขนาด 5.56 มม. ด้วย ขณะที่นางลอด วงษ์มา อายุ 62 ปี แม่ผู้ตายไม่ติดใจสาเหตุการณ์ตาย พร้อมขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
http://munjeed.com/news_detail.php?id=48
คุกปีครึ่ง“จอ ใจเดียว-ก้อง” 2ดีเจมือขวา“ขวัญชัย”
(อุดรธานี)
วันนี้ (3 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.00น. ศาลแขวงอุดรธานีตัดสินจำคุก นายประสิทธิ วิชัยรัตน์ หรือ “ดีเจจอ ใจเดียว” และ นายจักรพงษ์ แสนคำ หรือ “ดีเจก้อง” 2 ดีเจสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร 97.50 เมกกะเฮิร์ต ชมรมคนรักษ์อุดร มือขวานายขวัญชัย ไพรพนา เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากมีความผิดในข้อหา ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง โดยเสนอข่าวสาร หรือทำให้แพร่หลาย ซึ่งหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หรือสิ่งอื่นใด ที่มีข้อความอันทำให้ ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
สำหรับดีเจจอ ใจเดียว และดีเจก้อง นับว่าเป็นมือขวาของนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร แกนนำ นปช.ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้ โดยทั้ง 2 คนจะมีหน้าที่จัดรายการสดออกอากาศอยู่ที่สถานี และทำหน้าที่ดูแลสถานีให้กับนายขวัญชัย ในช่วงที่นายขวัญชัย มาร่วมชุมนุมอยู่ที่กรุงเทพฯ และได้จัดรายการสดชักชวนให้สมาชิกชมรมคนรักอุดร มารวมตัวที่หน้าศาลากลาง จ.อุดรธานี ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เผาศาลากลาง และสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี ในวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
http://www.isnhotnews.com/archives/136061
noway2know wrote:การจับกุมผู้กระทำความผิด
นายจรัญ หรือ ยักษ์ใหญ่ ลอยพูล
จับกุมตัวได้แล้ว
"นครบาล" ออกหมายจับพร้อมอายัดตัว"ยักษ์ใหญ่" หัวหน้าการ์ด นปช.คนติดตาม"เสธ.แดง"หลังเข้ารักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.ตำรวจ จากเหตุการณ์กระชับพื้นที่ของทหารและออกหมายเรียกหัวหน้าการ์ดนปช.อีก ที่ปรากฎภาพบนหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับพบมีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี
วันที่( 3 มิ.ย.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. รับผิดชอบงานด้านการสืบสวน กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติหมายจับนายจรัญ หรือ ยักษ์ใหญ่ ลอยพูล อายุ 39 ปีส่วนสูง 190 เซ็นติเมตร อยู่บ้านเลขที่ 38/2 หมู่ 6 ต.งิ้วลาย อ.เมือง จ.ลพบุรี หัวหน้าการ์ด นปช.คนติดตาม พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ข้อหา ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนร่วมใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการใดๆและร่วมกัน ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมืองในช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และได้แสดงความป่าเถื่อนโดยเข้าไปแย่งกล้องบันทึกภาพของพนักงานสืบสวน สน.ลุมพินี และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 คนด้วยกัน โดยได้ควบคุมไว้แล้วอยู่ระหว่างรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มีการกระชับพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ของเจ้าหน้าที่ทหาร
http://thairecent.com/Crime/2010/657649/
เชียงใหม่
ความเสียหายเบื้่องต้นจังหวัดเชียงใหม่ เสื้อแดงป่วนเมืองเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม กว่า 13 ล้านบาท
วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย กลุ่มเสื้อแดงได้ก่อเหตุเผายางรถยนต์หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และโยนระเบิดเพลิงเข้าไปด้านในจวนผู้ว่า เพลิงได้ทำลายชั้นล่างบ้านพักปลัดจังหวัดเสียหายทั้งหมด ผู้ชุมนุมได้ยึดรถดับเพลิงของเทศบาลนครเชียงใหม่ ปล่อยน้ำทิ้งและรองน้ำมันใส่ขวดน้ำจำนวนมาก หลังจากนั้นได้เผารถดับเพลิงทั้ง 2คัน นอกจากนี้ยังได้เผายางรถยนต์ที่ธนาคารกรุงเทพสาขาสันป่าข่อย ทุบตู้ เอ.ที.เอ็ม.ธนาคารกรุงเทพสาขาท่าแพ บุกปาระเบิดปิงปองใส่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ เผาตู้ยาม และปาระเบิดปิงปองและประทัดยักษ์ใส่สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังปาระเบิดเพลิงใส่ห้างสรรพสินค้าและบ้านของนายคะแนน สุภา บิดาของภรรยานายเนวิน ชิดชอบ มีการเผายางรถยนต์ที่ข่วงประตูท่าแพ วงแหวนรอบสอง ใต้สะพานลอยแยกดอนจั่น และอีกหลายจุดทั่วเมืองโดยกำลังทหาร ตำรวจ สามารถยึดพื้นที่คืนได้ในช่วงค่ำ โดยศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ประกาศเคอร์ฟิวจังหวัด เชียงใหม่ระหว่างเวลา 20.00 น.ของวันที่ 19 พฤษภาคม ถึงเวลา 06.00 น.ของวันนี้(20 พ.ค.53)โดยโรงเรียนหลายแห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ได้ประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 2 วัน
http://www.chiangraitoday.net/chiangrainews/Default.aspx?chiangrainewsid=6687
จับกุมตัวนายสายันต์ แสงศิริ อายุ 52 ปี (เชียงใหม่)
ข้อหาร่วมกันก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ทำให้เกิดระเบิด เนื่องจากพบว่าเป็นคนขับสี่ล้อกระทำการที่ก่ออันตรายแก่ชีวิตของประชาชนและทรัพย์สินผู้อื่นรวมถึงทำร้ายเจ้าพนักงานและมั่วสุมเกิน 10คนขึ้นไปในวันที่ 19 พ.ค.หน้าจวนผู้ว่าราชการจ.เชียงใหม่
พ.ต.อ.ภาณุเดช กล่าวอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา(23 พ.ค.)เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายสายันต์ แสงศิริ อายุ 52 ปี อาชีพคนขับสี่ล้อแดงบ้านอยู่อ.สารภี จ.เชียงใหม่ไว้ได้ตามหมายจับคดีเผาบ้านพักปลัดจังหวัดในจวนผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ในข้อกล่าวหาร่วมกันก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ทำให้เกิดระเบิด เนื่องจากพบว่าเป็นคนขับสี่ล้อกระทำการที่ก่ออันตรายแก่ชีวิตของประชาชนและทรัพย์สินผู้อื่น รวมถึงทำร้ายเจ้าพนักงานและมั่วสุมเกิน 10คนขึ้นไปในวันที่ 19 พ.ค.หน้าจวนผู้ว่าราชการจ.เชียงใหม่
สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่าวันเกิดเหตุ นายสายันต์ ผู้ต้องหารายนี้ ทำหน้าที่ขับรถสี่ล้อแดงบรรทุกยางรถยนต์มาให้กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุเผาที่หน้าจวนฯ สอบปากคำเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งอยู่หน้าโรงแรมแกรนด์วโรรสพาเลซให้กระทำการและที่ผ่านมาได้เคยไปร่วมชุมนุมเวทีนปช.แดงที่กรุงเทพมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำเพื่อขยายผลในการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุป่วนเมือง 19 พฤษภาคมในพื้นที่จ.เชียงใหม่หลายจุดต่อไป
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/local/20100524/117235/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%8851%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AF.html
กลุ่มรักเชียงใหม่51
- รายชื่อตามหมายจับกรณีผู้จัดวิทยุชุมชนทางภาคเหนือปลุกระดมมวลชน
และสนับสนุนสิ่งของพร้อมทั้งที่เวทีราชประสงค์โจมตี รัฐบาล(จำนวน 5 ฉบับ)
1.นางกัญญาภัค มณีจักร 2.นายเพชรวรรต วัฒนะพงศ์ศิริกุล 3.นายภูมิใจ ไชยยา 4.นายนิยม เหลืองเจริญ 5.นายอภิชาต อินสอน
1.โฉมหน้าดีเจอ้อม นางกัญญาภัค มณีจักร กลุ่มรักเชียงใหม่51
อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม
ประจานดีเจอ้อม หรือกัญญาภัค มณีจักร
ปราศรัยหน้าราบ11/ 28 มีนาคม 53
2.นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล
อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม
เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล เกิดเมื่อ 5 ตุลาคม พ.ศ.2500 ปัจจุบันอายุ 51 ปี หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 3510101086xxx ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน 64 ถนน อินทวโรรส ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่ หมู่โลหิต บี. ส่วนสูง 162 ซ.ม.
นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล
ดาวน์ โหลด (55.32 KB)
14-2-2009 18:26
เดิมนายเพชรวรรต ใช้ชื่อสกุลว่า นายนิติวัตติ บุตรดา เป็นบุตรนายสม และนางคำ บุตรดา ภูมิลำเนาเดิม 27/1 หมู่ 2 ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน เป็นตระกูลเชื้อสายคนยอง ซึ่งเป็นชนพื้นถิ่นของจังหวัดลำพูน (อพยพมาจากเมืองยอง ในยุคต้นรัตนโกสินทร์)
3 กรกฎาคม 2535 เปลี่ยนนามสกุลจากบุตรดา มาเป็นวัฒนพงศศิริกุล ตามหนังสือสำคัญเปลี่ยนชื่อเลขที่ 1/2535 ที่ว่าการกิ่งอำเภอบ้านธิ ซึ่งเวลานั้นเขาเริ่มทำธุรกิจของตนเองหลังจากเปลี่ยนอาชีพหลายอย่างก่อนหน้า และเปลี่ยนชื่อจากนิติวัตติ เป็น เพชรวรรต เมื่อกลางปี พ.ศ. 2549
จดทะเบียนสมรสกับ น.ส.สายรุ้ง ยะอนันต์ เกิด พ.ศ.2507 ภูมิลำเนาเดิม 32/1 หมู่ 3 ตำบลอุโมงค์ อ.เมือง จังหวัดลำพูน เมื่อ 28 พ.ค.2535 ณ ที่ว่าการอำเภอเมือง เชียงใหม่
ในช่วงก่อนปี 2537 นิติวัตติ หรือ เพชรวรรต เริ่มทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว แรกทีเดียวไม่ได้อยู่ที่ 64 ถนนอินทวโรรส ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบัน โดยพักอยู่ที่ ต.หนองหาร อ.สันทราย เชียงใหม่ โดยธุรกิจแรกที่จดทะเบียนการค้า คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชานิวัติ คอนสทรัคชั่น จดทะเบียนเมื่อปี 2529 ใช้ชื่อพี่น้อง คือ นายแสวง บุตรดา และ นายวิบูลย์ บุตรดา มาร่วมเป็นหุ้นส่วนแต่แท้จริงเป็นกิจการส่วนตัว
จนกระทั่งปี 2537 จึงย้ายมาอยู่ ณ ที่อยู่ปัจจุบันคือ 64 ถนนอินทวโรรส ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมวโรรสแกรนด์พลาซ่า (ชาวบ้านเรียกว่า แกรนด์วโรรส)
3.นายภูมิใจ ไชยยา หรือดีเจต้อม(อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมตัว)
แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่51 เดินทางไปชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด
4.นายนิยม เหลืองเจริญ หรือ ดีเจแหล่ อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมตัว
ในภาพ"ดีเจแหล่"ถูกจับในข้อหามีและพกพาอาวุธปืน
ในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติ
โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2552 ปลุกระดมคนมาขับไล่
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ซึ่งเดินทางมาปฎิบัติภาระกิจที่จ.เชียงใหม่ และทำลายทรัพย์สมบัติราชการ
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20090717/60759/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A-%E0%B8%95%E0%B8%A3.%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88.html
5.นายอภิชาติ อินสอน หรือดีเจอ้วน(ผมทอง เสื้อแขนยาว)
อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมตัว
ในภาพ :เชียงใหม่ 51 มอบตัวตามหมายจับดคีตื้บคนพิษณุโลก
อภิชาต อินสอน” สมาชิกหางแดง-เชียงใหม่ 51 มอบตัวตามหมายจับต่อผู้กำกับ สภ.เมืองพิษณุโลก หลังเคลียร์กับผู้เสียหายที่ถูกรุมกระทืบกลางเมืองพิษณุโลกไม่เอาความ ส่วนหมายจับตามภาพ 3 ราย เงียบ ไร้เงา เหตุไม่มีชื่อให้ตามจับ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (30 เม.ย.) ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก นายอภิชาต อินสอน พร้อมนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เจ้าของโรงแรมแกรนด์วโรรส พร้อมกับกลุ่มเสื้อแดง (กลุ่มรักษ์ประชาธิปไตยสองแคว) ประมาณ 20 คน เดินทางมามายัง สภ.พิษณุโลก เพื่อมอบตัวตามหมายจับศาลแขวงจังหวัดพิษณุโลก เลขที่ 233/2552
http://www.rd1677.com/branch.php?id=55845
ลุยค้น- 11.00 น.วันที่ 22 พ.ค.2553 ทหารบุกเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ภายในโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ จ.เชียงใหม่ ยึดอุปกรณ์การออกอากาศ จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์ออกอากาศจำนวนมาก มีทีวีและจานดาวเทียม ระเบิดปิงปอง 13 ลูก ประทัดยักษ์ 2 ลูก หนังสติ๊ก 10 อัน กระสุน หมวกกันน็อก ตะปูเรือใบ 2 กล่อง หน้ากากไอ้โม่ง ถังน้ำมัน และทรัพย์สินอื่นๆ เช่น ป้ายเขียนข้อความกล่าวโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
จากการตรวจค้นครั้งนี้มีเพียงนายแสวง บุตรดา ญาติของนายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล แกนนำคนเสื้อแดงเชียงใหม่เท่านั้น แต่ไม่พบนายเพชวรรตและแกนนำเสื้อแดงคนอื่นอยู่ในโรงแรมแต่อย่างใด
เผาศาลากลางและNBTขอนแก่น
ศาลากลางขอนแก่น
นายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับศาลากลางจังหวัดหลังจากกลุ่มนปช.ก่อเหตุวางเพลิง จากการประเมินความเสียหายศาลากลางหลังเก่าและหลังใหม่ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ต่างๆประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นได้ส่งไปยังรัฐบาลเพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างโดยเฉพาะศาลากลางหลังเก่าซึ่งก่อสร้างมาประมาณ 30 กว่าปี ซึ่งคาดว่าคงต้องทุบทิ้งและสร้างใหม่ทั้งหลัง มูลค่าก่อสร้างประมาณ 180 ล้านบาท ซ่อมแซมศาลากลางหลังใหม่บริเวณชั้น 1 อีก40 ล้านบาท และจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ อีก 20 ล้านบาท
http://news.siamjobit.com/News-detail-293199.html
สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีขอนแก่น ที่กลุ่มเสื้อแดงทำกรบุกเผาครั้งนี้
ก่อสร้างเสร็จพึ่งเปิดใช้งานได้ประมาณ 5 ปี
ดร.บัณฑิต ตั้งประเสริฐ ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น กล่าวหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดง จ.ขอนแก่น บุกเข้าเผาทำลายอาคาร และสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการสำรวจทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งคณะกรรมการรักษาความปลอดภัย และความมั่นคง คณะกรรมการการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์องค์กร คณะกรรมการด้านกฎหมาย รวมทั้งคณะกรรมการวางแผนฟื้นฟู โดยขณะนี้ได้ใช้อาคารที่เหลือ 1 หลัง ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ใช้เป็นที่ทำงาน ส่วนทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากการประเมินของคณะกรรมการสำนักงานโยธา และผังเมือง ร่วมกับตำรวจ เบื้องต้นจำนวน 125.6 ล้านบาท
http://www.ryt9.com/s/bmnd/906306
การจับกุมตัวผู้กระทำความผิด(จับกุมตัวได้แล้ว)
1.นายไชยยงค์ ถูระพี อายุ 33 ปี ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ
2.นายสมชาย หวานอารมย์ อายุ 41 ปี ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ
ที่ จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภาค 4 กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานสืบสวนสอบ สวนภาค 4 ได้เร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับแกนนำคนเสื้อแดง ที่ก่อความวุ่นวายบุกเผาศาลากลางจังหวัด ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นนำหมายศาลบุกจับกุมนายไชยยงค์ ถูระพี อายุ 33 ปี ในข้อหาบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ และจับกุมนายสมชาย หวานอารมย์ อายุ 41 ปี ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาสถานที่ราชการ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 รายดังกล่าวตำรวจนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น สอบ สวนและทำประวัติ จากนั้นนำไปควบคุมตัวไว้ที่ค่ายสีหราชเดโชชัย จ.ขอนแก่น เพื่อสอบสวนขยายผลต่อไป
http://www.oknation.net/blog/kunsiripunyo/2010/05/23/entry-1
แกนนำในการเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น
1.นางซาบีนา ซาส์ 1 ในแกนนำ เผาศาลากลางขอนแก่น
(อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมตัว)
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา ในขณะที่สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เมืองหลวง และการแก้ไขสถานการณ์ของรัฐบาลภายใต้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือศอฉ.กำลังเขม็งเกลียวกันทั้งสองฝ่าย กลับเกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงในขณะนั้นมองว่าเป็น"โมเดล"ให้แดงทุกจังหวัดเอาเยี่ยงอย่าง
เหตุการณ์ดังกล่าวคือ นางซาบีน่า ซาห์ หัวหน้ากลุ่มชมรมเสื้อแดงขอนแก่น หรือประธานชมรมคนเสื้อแดง 51 นายอุทัย คุ้มตะบุตร รองหัวหน้ากลุ่มมวลชนคนรักประชาธิปไตยขอนแก่น นำสมาชิกคนเสื้อแดงขอนแก่นประมาณ 500 คน นำท่อซีเมนต์ขนาดใหญ่และสิ่งกีดขวางเข้าขวางกั้นขบวนรถไฟพิเศษของทหารกรม ทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชชัย จ.ขอนแก่น ที่จะเดินทางไปสับเปลี่ยนกำลังกับทหารหาญในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้ชุมนุมระบุว่า ทหารจะนำยุทโธปกรณ์ไปใช้สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ แม้พ.อ.กนก ภู่ม่วง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชชัย และตำรวจในพื้นที่จะเข้าไปเจรจา แต่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยินยอมให้เคลื่อนขบวน อ้างว่าต้องรอคำสั่งจากแกนนำที่กรุงเทพฯเท่านั้น
ภาพการเจรจาที่มีนางซาบีน่า และหญิงสาวชุดแดงที่นั่งกอดอกอยู่บนโซฟา ภายในห้อง ด้วยท่าทีหยิ่งผยอง ไร้แววตาแห่งสันติ หน้านิ่ง บึ้งตึง ไม่มีแม้รอยยิ้มที่จะเผยอให้เห็นที่มุมปาก ย่อมแสดงให้เห็นว่า ตังนาง ไม่ยอมรับฟังการเจรจาใดๆทั้งสิ้นทั้งจากทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือนระดับรองผู้ว่าฯ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น หลายคนใคร่รู้ว่า "นางซาบีน่า ซาห์" เป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงกล้าอาจหาญขวางอำนาจรัฐเช่นนั้น แสดงว่า "นังนี่"ย่อมไม่ธรรมดา กอปรกับมีเสียงซุบซิบลือกันในแวดวงชาวขอนแก่นว่า อย่าว่าแต่ใครเลย ขนาดคนระดับผู้ว่าฯ เองยังต้องยอมมัน
นางซาบีน่า เป็นคนไทย เชื้อสายปาทาน ถือเป็นแกนนำรุ่นใหม่ของคนเสื้อแดงขอนแก่น เดิมทำหน้าที่เป็นโฆษก-พิธีกรงานต่างๆของกลุ่มคนที่รู้จักมักคุ้น มีฐานะที่ไม่ถือว่ายากจน หรือร่ำรวย แต่งงานมีครอบครัวแล้ว อุปนิสัยเป็นคนพูดเก่ง เมื่อทำหน้าที่โฆษกพิธีกรในงานต่างๆแล้ว จึงยกฐานะขึ้นเป็นผู้จัดรายการวิทยุทางสถานีวิทยุ เรด สเตชั่น ที่ขอนแก่น ทำให้ถูกยกระดับขึ้นเป็นแกนนำคนเสื้อแดงในเวลาต่อมา
ด้านความสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จะขอนแก่นนั้น นางซาบีน่าไม่จัดว่า มีความสัมพันธ์ขั้นสูงกับข้าราชการระดับสูงของจังหวัด หรือผู้ทรงอิทธิพลมากนัก ไม่ว่าจะเป็น "เจ๊หวงผัว" หรือ"ทั่นปลัดกลัวเมีย" ก็ยังเข้าไม่ถึงความสนิทสนม อย่าว่าแต่คำล่ำลือที่ว่า นางซาบีน่า มีสายสัมพันธ์และธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันกับพ.ต.ท.ทักษิณเลย
แต่ในขณะเดียวกันนางซาบีน่า จัดว่าเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์อันดี และเติบโตมาจากการดูแลฉันท์มิตรกับนายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย บุตรชายของ"มังกรอีสาน" หรือ"เสี่ยเล้ง" นายเจริญ พัฒน์ดำรงจิตร ผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงของเมืองแก่นนคร ที่มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับ"บิ๊กจิ๋ว" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตั้งแต่ครั้งกระโน้น จนกระทั่ง"ทักษิณ ชินวัตร"เรืองอำนาจ ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกันได้
นั่นเป็นประวัติและสายสัมพันธ์อย่างย่อๆของนางซาบีน่า ซาห์ ที่ ณ ปัจจุบัน ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาบุกเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีขอนแก่น และเหตุการณ์ความวุ่ยวายในจังหวัดอีกหลายเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
http://thairecent.com/Crime/2010/656713/
ใครเผาเซ็นทรัลเวิลด์บทสัมภาษณ์หัวหน้า รปภ.เซ็นทรัลเวิลด์
การอภิปรายเมื่อเช้าของวันที่ 1 มิ.ย. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ฉายภาพเหตุการณ์กระชับพื้นที่การชุมนุมอีกครั้ง โดยยอมรับว่าอุปสรรคสำคัญของการเข้าไปปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ คือ กลุ่มนักรบชุดดำ และช่วงท้ายการอภิปราย อภิสิทธิ์ ได้ตอกย้ำว่า นักรบชุดดำตามที่ ส.ส.ฝ่ายค้านพยายามเบี่ยงเบนประเด็นนั้นแท้ที่จริง มีประจักษ์พยานอยู่ในเหตุการณ์และเผชิญหน้ากับนักรบชุดดำมาแล้ว นายกฯย้ำเรื่องนี้สองวันติดต่อกัน
“ถ้าท่านอยากทราบได้มีหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ได้สัมภาษณ์หัวหน้ารปภ.ที่ได้เผชิญหน้ากับคนชุดดำ” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เพื่อให้เห็นสถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างนักรบชุดดำกับ รปภ.เซ็นทรัลเวิลด์ โพสต์ทูเดย์ขอนำเนื้อหา “ ฮีโร่ กลางดงปืน” มานำเสนออีกครั้ง เพราะตลอดของการอภิปรายพบว่ามีส.ส. ซี่งไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ พยายามอภิปรายว่าเหตุเผาเซ็นทรัลเวิลด์ไม่ใช่ฝีมือคนชุดดำแต่เนื้อหาจากนี้ไปเป็นคำตอบในคลี่ปมความสงสัยระดับหนึ่ง
เย็นวันที่ 19 พ.ค. หลังจากแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศยอมสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์และเข้ามอบตัว แหล่งช็อปปิ้งใจกลางกรุงเทพฯ ดูไม่ต่างอะไรกับสมรภูมิรบ ทั้งเสียงปืน ประทัดยักษ์ ระเบิด ดังระงม เจ้าหน้าที่ทหารต้องหยุดยิงและปักหลักอยู่บริเวณแยกสารสิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายกองร้อยตรึงอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ความพยายามปกป้องอาคารระฟ้า เท่าที่ทำได้ ณ ขณะนั้น จึงมีแต่ทีมการ์ดประจำห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แม้จะพยายามเข้าไประงับเพลิง แต่ก็ถูกฝ่ายนักรบชุดดำปาระเบิดใส่ตลอดเวลา ทำให้ รปภ. รายหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขา
ลานเซ็นทรัลเวิลด์ซึ่งกลายเป็นลานสู้รบดำเนินต่อไป นักรบชุดดำรายหนึ่งถือปืนอาก้าบุกไล่ยิงอย่างบ้าระห่ำ หวังขัดขวาง รปภ. ไม่ให้เข้ามายับยั้งการวางเพลิง ไม่เพียงเท่านั้น หวังใช้เสียงกระสุนปืนเปิดทางเข้าไปวางถังแก๊สใต้ถุนอาคาร เพื่อบอมบ์ห้างใหญ่ให้เป็นจุณ
นาทีต่อจากนี้เป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าภาพยนตร์เรื่องไดฮาร์ด หรือ “นรกระฟ้า” ที่มี “บรูซ วิลลิส” รับบทพระเอกในเรื่อง ภายใต้ชื่อ จอห์น แมคเคลน ยอดตำรวจจากนิวยอร์ก ที่ต้องรับเคราะห์ติดอยู่ในอาคารระฟ้าเผชิญหน้าขบวนการก่อการร้ายอย่าง เลี่ยงไม่ได้
ไพรวรรณ รุนนอก ชายวัย 45 ปี จากที่ราบสูงโคราช ไม่ได้คิดสวมวิญญาณ “บรูซ วิลลิส” หรือเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยประจำเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เขาจำต้องดูแลความปลอดภัยอาคารและอพยพผู้คนที่หลงเหลือออกนอกอาคารอย่างสุดชีวิต
รอยสะเก็ดระเบิดที่นักรบชุดดำขว้างถล่มทีมรปภ.
“เขาสวมชุดดำ ปิดหน้า โพกผ้าพันคอสัญลักษณ์เสื้อแดง มือถือปืนอาก้าพกระเบิด มีการยิงขู่และไล่ยิงใส่ผม” ไพรวรรณ เริ่มเล่านาทีเผชิญหน้าปฏิบัติการเผาเมือง ก่อนพาไปตระเวนดูจุดเกิดเหตุใต้ลานจอดรถของห้าง
“พวกเขาต้องการเข้าไปวางเพลิง มันเห็นพวกผมออกมา ก็ใช้ปืนยิง ผมต้องวิ่งลงไปชั้นใต้ดิน มันวิ่งตามแล้วมีเสียงปืนดังขึ้น ผมต้องหลบตัวข้างผนังตึกติดกับทางลงบันได ถ้าโผล่ออกไปตอนนั้นโดนยิงหัวแน่ แต่ไม่ใช่หนีอย่างเดียวนะ เรารอเวลาเป็นของเราเพื่อเข้าชาร์จด้วย”
ช่วงจังหวะนั้นลานจอดรถมืดสลัว ทัศนวิสัยไม่เอื้อต่อการปฏิบัติการใดๆ ไพรวรรณต้องซ่อนตัว หายใจให้เบาที่สุด ตั้งสติรอจังหวะ ขณะที่นักรบดำย่ามใจวิ่งลงบันไดตามมา ปลายกระบอกปืนยื่นโผล่มุมเสา
นาทีนั้นหัวหน้า รปภ. ตัดสินใจว่า...ใครดีใครอยู่!!!
เทพีแห่งโชคเข้าข้างไพรวรรณ เขาชิงจังหวะก่อน สาวหมัดขวาตรงทิ่มใส่ใบหน้า พร้อมถีบยอดหน้าอกไปอีกหนึ่งดอก ส่งผลให้นักรบชุดดำเสียหลักเซถลา ปืนอาก้าหลุดมือ ไพรวรรณไม่รอช้าแย่งชิงปืนมาได้ พร้อมเล็งไปที่นักรบชุดดำ คราวนี้นักรบนิรนามตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หมดทางสู้กระเสือกกระสนวิ่งหนีสุดชีวิตไปด้านข้างลานจอดรถ
“ผมตั้งสติ ประสบการณ์มีเยอะมาก ยังไงผมชาร์จอยู่แล้ว ชีวิตถึงชีวิตถ้าแย่งปืนไม่ได้ ชีวิตผมคงดับ”
ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดรายงานว่าพบปืนอาก้า 47 จำนวน 1 กระบอก บริเวณชั้นใต้ดินอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ หารู้ไม่ เบื้องหลังปืนกระบอกนี้มาจากฝีมือหัวหน้า รปภ. ที่เข้าต่อสู้กับนักรบชุดดำ และหัวหน้า รปภ รายนี้ก็เป็นคนเดียวกับที่ผ่านนาทีมรณะในวันถัดมาขณะลุยกวาดขยะหน้าอาคาร เซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนมีเสียงระเบิดตูมสนั่น ทำให้ร่างกายเขากระเด็น แต่ก็รอดมาได้อีกครั้ง
ไพรวรรณกับบันไดลงลานจอดรถที่เขาเผชิญหน้ากับนักรบชุดดำ
หัวหน้า รปภ. ผู้ได้มีโอกาสประชิดตัวนักรบชุดดำมากที่สุดรายนี้ เดิมทำหน้าที่ดูแลการจราจร ตรวจตราพื้นที่รอบนอกและอาคารลานจอดรถใต้ดินชั้นบี 1 บี 2 มาร่วมปีแล้ว มีลูกน้องอยู่ในความดูแล 40 คน ขณะที่ทีมงานกระจายไปตามโซนอื่นกว่า 200 คน ก่อนหน้านี้เคยเป็นอาสาสมัครหลายหน่วยงาน ทั้งลูกเสือชาวบ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาพัฒนาและป้องกันตัวเอง (อปพ.) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ทำให้มีประสบการณ์ด้านการต่อสู้อยู่บ้าง
ทว่าหลังนักรบชุดดำเสียเหลี่ยมให้การ์ดหมัดสั่งรายนี้ ใช่ว่าไพรวรรณจะอยู่ในความปลอดภัย เพราะผ่านไปเพียง 20 นาทีนักรบชุดดำรวบรวมแดงฮาร์ดคอร์อีก 5-6 คน รุกเข้ามาด้านข้างลานกว้างเซ็นทรัลเวิลด์อีกครั้ง คราวนี้นักรบชุดดำรายเดิมที่หลบหนีไปเดินเข้ามาชี้หน้าเขาด้วยอาการคับแค้น ใจจากนั้นสั่งลูกน้องระดมขว้างระเบิดเข้าไปภายในลานจอดรถใต้ดินหมายปลิดชีวิต
การปะทะภายในลานจอดรถใต้ดินเกิดขึ้นรอบสอง แต่คราวนี้ผู้กล้าต้องรักษาระยะห่าง “มีการโยนระเบิดเข้ามาหลายลูก ควันโขมงทั่วลานจอดรถ สะเก็ดระเบิดตกไปโดนรถยนต์เสียหาย กระโปรงรถเป็นรูพรุน ถึงตอนนั้นจำเป็นต้องหลบข้างเสา มีลูกน้อง รปภ. ผมอีก 3 คน เข้ามาช่วยตะโกนบอกว่า ให้หัวหน้าถอยก่อน สถานการณ์ไม่ปลอดภัย ในที่สุดพวกเราต้องถอยร่น ซึ่งก็เป็นจังหวะที่นักรบชุดดำรุกคืบเข้ามา ทุบกระจกรถยนต์เสียหายไปหลายคัน ก่อนค้นเอาทรัพย์สินในรถผู้บริหารไปด้วย”
รถผู้บริหารเซ็นทรัลเวิลด์ที่ถูกกลุ่มเสื้อแดงทุบทำลายและขโมยทรัพย์สินไป
หลังจากนั้นมีความพยายามจากกลุ่มคนเสื้อแดง 50-60 คน ทุบกระจกและนำถังแก๊สเข้าไปภายในอาคาร ฝ่าย รปภ. ที่อยู่ในความควบคุมของไพรวรรณกว่า 40 ชีวิต พยายามผลักดันอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีทั้งอาวุธปืน ระเบิด ทำให้ต้องระวังตัว ขณะเดียวกันยังมีอีกภารกิจด่วนต้องรีบลำเลียงแม่บ้าน คนงานที่ติดอยู่ในอาคารเซ็นทรัลเวิลด์อีกกว่า 300 ชีวิต ออกไปตามเส้นทางเชื่อมต่อสยามพารากอน ทุกคนได้รับการคุ้มครองออกจากพื้นที่ด้วยความปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของกลุ่มนักรบชุดดำ
“เจ้านายบอกว่าต้องช่วยกันผลักดัน คุ้มครองความปลอดภัยเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ถ้าไม่ไหวให้ออกไปก่อน เจ้านายมาดูแล้วเห็นว่า รปภ. ไม่เพียงพอ กลุ่มผู้ชุมนุมเยอะ ต่อต้านไม่ไหว ถ้าต่อต้านแล้วเอาไม่อยู่ก็ต้องเซฟชีวิต
เจ้านายเคยย้ำอย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกับเขา ขนาดไม่ทะเลาะก็ทำถึงขนาดนี้ ฝ่ายอาคารเสียหายขนาดไหนซ่อมแซมได้ เอาชีวิตไว้ก่อน พวกผมเอาไม่อยู่จริงๆ” ไพรวรรณ ยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น
หัวหน้ารปภ.ที่ต้องกินนอนร่วมกับลูกน้องตลอดช่วงกลุ่มคนเสื้อแดงปักหลักชุมนุมร่วมสอง เดือน ทิ้งท้ายว่า “เสียใจมากที่คนไทยทำกันแบบนี้ มันไม่ใช่ต่างประเทศมาสู้กับเรา แต่นี่คนไทยต่อสู้กับคนไทยด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล นปช. จะเอาอย่างไร ก็ไม่อยากให้คนไม่รู้เรื่องต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย”
วันนี้ไพรวรรณและลูกน้องในชุดเครื่องแบบเชิ้ตขาวกางเกงดำยังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเซ็นทรัลเวิลด์อย่างแข็งขันต่อไปแม้สภาพตึกต้องพังพินาศไปด้วยน้ำมือคนไทยเช่นเดียวกับเขาและหวังว่าอาชีพการรักษาความปลอดภัยต่อจากนี้คงไม่ต้องมาเผชิญความเลวร้ายอย่างที่เกิดขึ้นกับเซ็นทรัลเวิลด์อีก
http://www.posttoday.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C/%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1/31154/%E0%B8%AE%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B9%88-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B7%E0%B8%99