ความพอเพียงของชาวนา

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby นายเวร » Tue Jun 15, 2010 6:57 am

Solidus wrote:
นายเวร wrote:ดูยังไม่ละเอียดเท่าไรอรหันต์ โลกนี้ยุคทุนนิยมจะให้เค้าใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ว่า
แต่มองถึงลูกเค้าบ้าง คงอยากมีสิ่งดีๆในโลกทุนนิยม เน็ต ทีวี โทรศัพท์
คุณมีแล้วทุกอย่างแล้ว ไม่คิดว่าเค้าอยากมีบ้างเหรอ ควรเร่งหาเทคโนโลยี่เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้ทันกับ โลกทุนนิยม
ผสมแบบพอเพียงถึงจะถูก ไม่ใช่มองว่าเค้ามีทุกอย่างที่ไม่ต้องซื้อ ลูกเค้าต่อไปในอนาคตจะใช้ชีวิตยังไง? มาทำเหมือนพ่อเรอะ?
ปล เปรียบเทียบนะคับ มีกับข้าว 1 ถุง ทำไงให้เพิ่ม 2 3 ถุง ไม่ใช้ให้เค้ากินให้น้อยลง
ตลกล่ะ พอเพียงไม่ได้หมายถึงแค่มีกินมีใช้ ไปศึกษาให้ดีก่อน ทำให้พอกินไม่มีหนี้ เหลือถึงขาย แต่ที่ขายนะดันขายได้เป็นหมื่น/เดือน มากกว่าพวกในเมืองหลาย ๆ คนอีก แบบนี้จะว่าไง :lol: :lol: :lol:

ผมเข้าใจในสิ่งทีคุณผมมานานแล้วครับ แต่ที่เหลือคือเพิ่มผลผลิตต่อไร่ครับ
แถวบ้านผมโครงการพระองค์ท่านก็มีและนำไปปฎิบัติเกิดผลมาแล้ว ขาด
แต่เพิ่มผลผลิตต่อไร่อย่าง เมืองนอกครับที่ได้ฟังมา
Last edited by นายเวร on Sat Jun 19, 2010 3:17 pm, edited 1 time in total.


คุกกักขังได้แค่กายหยาบ ... คุกมิอาจกำหราบใจกล้าแกร่ง

จิตวิญญาณ เสรีชน มิโรยแรง ... จักตอบโต้ ทุกตะแบง แห่งอธรรม


ว.แหวนลงยา
เย้ยฟ้า ท้านรก
User avatar
นายเวร
 
Posts: 3515
Joined: Tue Jun 01, 2010 3:36 am

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby Solidus » Tue Jun 15, 2010 7:30 am

นายเวร wrote:
Solidus wrote:
นายเวร wrote:ดูยังไม่ละเอียดเท่าไรอรหันต์ โลกนี้ยุคทุนนิยมจะให้เค้าใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ว่า
แต่มองถึงลูกเค้าบ้าง คงอยากมีสิ่งดีๆในโลกทุนนิยม เน็ต ทีวี โทรศัพท์
คุณมีแล้วทุกอย่างแล้ว ไม่คิดว่าเค้าอยากมีบ้างเหรอ ควรเร่งหาเทคโนโลยี่เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้ทันกับ โลกทุนนิยม
ผสมแบบพอเพียงถึงจะถูก ไม่ใช่มองว่าเค้ามีทุกอย่างที่ไม่ต้องซื้อ ลูกเค้าต่อไปในอนาคตจะใช้ชีวิตยังไง? มาทำเหมือนพ่อเรอะ?
ปล เปรียบเทียบนะคับ มีกับข้าว 1 ถุง ทำไงให้เพิ่ม 2 3 ถุง ไม่ใช้ให้เค้ากินให้น้อยลง
ตลกล่ะ พอเพียงไม่ได้หมายถึงแค่มีกินมีใช้ ไปศึกษาให้ดีก่อน ทำให้พอกินไม่มีหนี้ เหลือถึงขาย แต่ที่ขายนะดันขายได้เป็นหมื่น/เดือน มากกว่าพวกในเมืองหลาย ๆ คนอีก แบบนี้จะว่าไง :lol: :lol: :lol:

ผมเข้าใจในสิ่งทีคุณผมมานานแล้วคับ แต่ที่เหลือคือเพิ่มผลผลิตต่อไร่คับ
แถวบ้านผมโครงการพระองค์ท่านก็มีและนำไปปฎิบัติเกิดผลมาแล้ว ขาด
แต่เพิ่มผลผลิตต่อไร่อย่าง เมืองนอกคับที่ได้ฟังมา
พันธุ์พืชพันธุ์เดิมมันจะเพิ่มได้เท่าไหร่กันครับ หรือให้ใช้พืช GMOs และอยู่เขตอบอุ่นแบบเมืองนอก :lol: :lol: :lol:
User avatar
Solidus
 
Posts: 8593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:47 pm

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby Jseventh » Tue Jun 15, 2010 9:41 am

นายเวร wrote:ดูยังไม่ละเอียดเท่าไรอรหันต์ โลกนี้ยุคทุนนิยมจะให้เค้าใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ว่า
แต่มองถึงลูกเค้าบ้าง คงอยากมีสิ่งดีๆในโลกทุนนิยม เน็ต ทีวี โทรศัพท์
คุณมีแล้วทุกอย่างแล้ว ไม่คิดว่าเค้าอยากมีบ้างเหรอ ควรเร่งหาเทคโนโลยี่เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้ทันกับ โลกทุนนิยม
ผสมแบบพอเพียงถึงจะถูก ไม่ใช่มองว่าเค้ามีทุกอย่างที่ไม่ต้องซื้อ ลูกเค้าต่อไปในอนาคตจะใช้ชีวิตยังไง? มาทำเหมือนพ่อเรอะ?
ปล เปรียบเทียบนะคับ มีกับข้าว 1 ถุง ทำไงให้เพิ่ม 2 3 ถุง ไม่ใช้ให้เค้ากินให้น้อยลง


ที่ยกตัวอย่างมา อยากให้ศึกษาแนวคิดของเขา ไม่ได้ให้เลียนแบบหรือต้องทำตามไปเสียทุกอย่าง
คำถามคือ คุณมองเห็นอะไรในแนวคิดของชายผู้นี้บ้าง?

มีใครบอกให้คุณห้ามมีของดีๆใช้?
มีใครบอกให้คุณหยุดการพัฒนาตนเองและผลผลิตของตนเอง?
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้บอกให้คุณห้ามมีของดีๆใช้ และไม่ได้บอกให้คุณหยุดคิดพัฒนาตนเอง..แต่ต้องการให้คนมีพื้นฐานที่ดีในการดำรงชีวิต พึ่งพาตนเองได้ พัฒนาตนเองอย่างมีปัญญา ไม่ตกเป็นทาสทุนนิยม

ถ้าดิฉันบอกว่า "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" เป็นพื้นฐานที่ดีในการพัฒนาของพี่น้องเกษตรกร คุณเห็นด้วยไม๊?

พื้นฐานที่ดีควรมาก่อนการพัฒนา ต้องพอมีพอกินก่อน แล้วจึงค่อยเสริมสร้างพัฒนา
และ ที่สำคัญ การพัฒนามันต้องเริ่มจากตัวเองก่อน

ส่วนเรื่องเทคโนโลยีในการเพิ่มผลผลิต ลองค้นหาและศึกษาดู..แล้วจะเห็นว่าหลายฝ่ายเขาก็ช่วยกันคิด ช่วยกันพัฒนาอยู่ตลอด

http://www.prdnorth.in.th/The_King/justeconomic.php

แนวพระราชดำริทั้งหลายดังกล่าวข้างต้นนี้ แสดงถึงพระวิริยะอุตสาหะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทพระสติปัญญา ตรากตรำพระวรกาย เพื่อค้นคว้าหาแนวทางการพัฒนาให้พสกนิกรทั้งหลายได้มีความ ร่มเย็นเป็นสุขสถาพรยั่งยืนนาน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงที่ได้พระราช ทานแก่ปวงไทยตลอดเวลามากกว่า 50 ปี จึงกล่าวได้ว่าพระราชกรณียกิจของพระองค์นั้นสมควรอย่งยิ่งที่ทวยราษฎรจักได้เจริญรอย ตามเบื้องพระยุคลบาท ตามที่ทรงแนะนำ สั่งสอน อบรมและวางแนวทางไว้เพื่อให้เกิดการอยู่ ดีมีสุข โดยถ้วนเช่นกัน โดยการพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขึ้นตอนต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมี พอกิน พอใช้ ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อได้พื้นฐานที่มั่นคงพร้อมพอสมควรและปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริม ความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจขึ้นที่สูงขึ้นไปตามลำดับ จะก่อให้เกิดความยั่งยืนและจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของครอบครัว ชุมชน และสังคม สุดท้ายเศรษฐกิจดี สังคมไม่มีปัญหา การพัฒนายั่งยืน
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเทวาหรือซาตาน มนุษย์เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด
User avatar
Jseventh
 
Posts: 1741
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:19 am

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby Jseventh » Tue Jun 15, 2010 10:00 am

ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป อย่าลืมแวะไปอ่านดู แล้วเข้ามาคุยกันต่อก็ได้นะคะ

http://www.prdnorth.in.th/The_King/justeconomic.php

คุณนายเวร เป็นเกษตรกร หรือญาติพี่น้องเกษตรกรหรือเปล่าคะ?
จะเอาข้อมูลทางเทคโนโลยีในด้านไหนละคะ เผื่อว่าจะได้ช่วยค้นหาอีกแรง..
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเทวาหรือซาตาน มนุษย์เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด
User avatar
Jseventh
 
Posts: 1741
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:19 am

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby Jseventh » Tue Jun 15, 2010 10:04 am

= คุณโกธรจนตัวสั่นเทาเมื่อเห็นความอยุติธรรมตรงหน้าคุณคือสหายผม =

ว่าแต่ แนวคิดตามลายเซ็นต์ของคุณเนี่ยะ สนับสนุนการวิ่งไล่ตามกระแสทุนนิยมหรือ?
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเทวาหรือซาตาน มนุษย์เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด
User avatar
Jseventh
 
Posts: 1741
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:19 am

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby นายเวร » Tue Jun 15, 2010 12:24 pm

"ทุนนิยมเสรีประชาธิปไตย" ตามที่คิดไว้นะครับ ได้ข้อมูลดีๆกับพี่น้องเยอะเลยจะลองไปศึกษาดูครับ
Last edited by นายเวร on Sat Jun 19, 2010 3:20 pm, edited 1 time in total.


คุกกักขังได้แค่กายหยาบ ... คุกมิอาจกำหราบใจกล้าแกร่ง

จิตวิญญาณ เสรีชน มิโรยแรง ... จักตอบโต้ ทุกตะแบง แห่งอธรรม


ว.แหวนลงยา
เย้ยฟ้า ท้านรก
User avatar
นายเวร
 
Posts: 3515
Joined: Tue Jun 01, 2010 3:36 am

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby ter162525 » Tue Jun 15, 2010 5:23 pm

คนพาลผู้บาปแท้ ทุรจิต
ไปสู่หาคบบัณทิต ค่ำเช้า
ฟังธรรมอยู่เนืองนิตย์ บ่ทราบ ใจนา
คือจวักตักเข้า ห่อนรู้รสแกง
กบเกิดใต้สระ บัวบาน
ฤาห่อรู้รสมาลย์ หนึ่งน้อย
ฦมราอยู่ไกลสถาน นับโยชนื ก็ดี
ยินโบกมาค้อยค้อย เกลือกเคล้าเสาวคนธ์

ไม่ต้องมีคำอธิบายครับ ถ้าเรายังเดินไม่แข็งจะวิ่งมันก็ล้ม ในหลวงท่านทรงสอนให้เราเดินอย่างมั่นคง
ไม่ได้สอนให้อยู่กลับที่อยู่ที่คนอื่นคิดถ้าเราเดินอย่างมั่นคงมันก็ถึงจุดหมายแต่ถ้าเรายังเดินไม่เก่งไปวิ่งมันอาจจะถึงจุดหมายได้แต่คุณคงเจ็บระบมไปหมดบางคนที่ล้มอาจจะตกหลุมไม่ได้ขึ้นมาอีกเลย ในหลวงท่านไม่ได้สอนว่าให้สนใจอยู่แค่นี้แต่ถ้าคุณสามารถก้าวไปได้ก็ค่อยก้าวไป มี100 ใช่ 80 ที่เหลือเก็บไว้ หาได้เพิ่มก็ค่อยใช่เพิ่ม เพราะท่านไม่ได้สอนเฉพาะชาวนาแต่ท่านทุกคนครับ ไม่ใช่มี100 ใช่150 มันก็เป็นแต่หนี้กับหนี้
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป
User avatar
ter162525
 
Posts: 3030
Joined: Tue Mar 23, 2010 3:23 pm

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby Vihok_Asnii » Tue Jun 15, 2010 10:26 pm

ในความรู้สึกของชาวนา คนยากคนจนทั่วไป
โดยเฉพาะคนที่เลือกเชื่อผู้อุปถัมป์ที่เป็นนายทุนหรือนักการเมือง ว่าจะมาช่วยเขาให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้

มักจะถูกปลูกฝัง เสี้ยมสอน ให้ตั้งแง่ต่อแนวคิดเรื่อง "ความพอเพียง" ในทำนองว่า
"เป็นแนวคิดที่ชนชั้นกลาง ชนชั้นสูงสนับสนุนเพื่อมากดและจำกัดโอกาสเจริญเติบโตของชนชั้นล่างรากหญ้า
พวกเขาไม่เข้าใจคนจนเพราะพวกเขามีปัจจัยต่างๆ เอื้อให้อยู่อย่างพอเพียงได้อยู่แล้ว
และการฝังความคิดให้คนจนพอเพียง ก็คือให้คนจนเจียมตัว จะได้ไม่พยายามเผยอขึ้นไปแข่งขัน แย่งชิงผลประโยชน์กับพวกเขาเท่านั้นเอง"


แต่จริงๆ แล้ว พวกเขาเคยได้หันความสนใจจากเวทีหาเสียงของนักการเมือง ไปมองดู รับฟังและเรียนรู้ จากเพื่อนเกษตรกรผู้ที่เคยลำบากยากจนมาก่อนเหมือนๆ กับเขาในประเทศนี้ แต่ได้น้อมรับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และการเกษตรตามแนวพระราชดำริ มาปฏิบัติบ้างหรือไม่?

ในนั้นมีหลายรายที่ประกาศตัวเองด้วยความภาคภูมิว่า เดินตามเส้นทางนี้แล้วปลดหนี้ได้ เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้อย่างสบาย
เดินตามเส้นทางนี้แล้ว กลับมีอิสระและศักดิ์ศรีเป็นตัวของตัวเอง และมีโอกาสเติบโตในย่างก้าวของตัวเองอย่างมั่นคง
...อย่างที่การเดินตามระบอบนายทุน มุ่งหน้าทำการเกษตรแบบที่(นายทุนสอนว่า)ทำแล้วจะรวย และการรอหวังพึ่งการอุปถัมป์จากอำนาจการเมือง ...ไม่สามารถให้ได้

และยังมีความสำราญกายสบายใจ มากกว่าคนอีกมากในทุกระดับชั้น ที่ทำงานด้วยความเคร่งเครียดตลอดเวลาเพียงเพื่อไล่ตามกระแสความอยากได้อยากมีแข่งกับคนอื่น ที่ถูกกระตุ้นโดยการตลาดบริโภคนิยม โดยไม่สนใจว่าต้องยอมเสียในสิ่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว มิตรภาพ สุขภาพและแม้ชีวิตของตนเอง ขนาดไหน

ถ้าอย่างนั้น ใครกันแน่ที่จำกัดตัวเอง หรือยอมตกอยู่ใต้การครอบงำอย่างแท้จริง?

ปล. ถ้าพูดถึงทุนนิยมเสรี ผมเองเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคล และเสรีภาพในการแสวงหาทรัพย์สินหรือวิธีประกอบอาชีพของตนเองของแต่ละบุคคล ในอีกกระทู้นึงผมยังไปทักท้วงเรื่องการแบ่งสรรทรัพยากรที่เสนอรูปแบบเหมือนคอมมิวนิสม์อยู่เลย ...แต่ผมก็ยึดถือในเรื่องดุลยภาพ และความสุขที่เป็นเนื้อหาสาระของชีวิตจริงๆ ซึ่งหลายๆ ครั้งการมุ่งไปแสวงหาทุน หรือทรัพย์สินอย่างสุดโต่ง มันกลับมาเป็นตัวขัดขวางและทำลายสิ่งเหล่านี้ ทั้งสำหรับตัวเองและผู้อื่นด้วย
ชาติหนอนย่อมเสพส้อง .... อาจม
อิ่มหนำก็ชื่นชม .... แซ่ซร้อง
มินำพาครรลอง .... ถูกผิด
อ้างความสุขที่ต้อง .... หมักหมมอมมูล


REMEMBER, O BEAST! THAT STARTED THY BLOODY HISTORY ON 14th OF JULY,
REMEMBER, HE WHO INVENTED GUILLOTINES WAS HIMSELF BEHEADED BY A GUILLOTINE!
User avatar
Vihok_Asnii
 
Posts: 2133
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:54 am

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby Jseventh » Wed Jun 16, 2010 10:04 am

Vihok_Asnii wrote:ในความรู้สึกของชาวนา คนยากคนจนทั่วไป
โดยเฉพาะคนที่เลือกเชื่อผู้อุปถัมป์ที่เป็นนายทุนหรือนักการเมือง ว่าจะมาช่วยเขาให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้

มักจะถูกปลูกฝัง เสี้ยมสอน ให้ตั้งแง่ต่อแนวคิดเรื่อง "ความพอเพียง" ในทำนองว่า
"เป็นแนวคิดที่ชนชั้นกลาง ชนชั้นสูงสนับสนุนเพื่อมากดและจำกัดโอกาสเจริญเติบโตของชนชั้นล่างรากหญ้า
พวกเขาไม่เข้าใจคนจนเพราะพวกเขามีปัจจัยต่างๆ เอื้อให้อยู่อย่างพอเพียงได้อยู่แล้ว
และการฝังความคิดให้คนจนพอเพียง ก็คือให้คนจนเจียมตัว จะได้ไม่พยายามเผยอขึ้นไปแข่งขัน แย่งชิงผลประโยชน์กับพวกเขาเท่านั้นเอง"


ใช่ค่ะ คุณวิหค ท่องเน็ตก็จะเจอคนใส่แนวคิดนี้ให้กันบ่อยๆ..

คนชั้นกลางในเมือง แต่งตัวดี มีของดีๆใช้ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่มีเงินสำรองเก็บ ใช้เงินเดือนชนเดือน ออกถมเถ..บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด ถ้าไม่วางแผนการเงินดีๆ ก็แย่..เขาเรียกว่า ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง / ในความเป็นจริงแล้ว แนวคิดนี้สอนให้รู้จักตัวเองก่อนเป็นสำคัญ ดูแลหรือสร้างรากฐานตนเองให้แข็งแรง จากนั้นจึงพัฒนาต่อ.. / การพัฒนานั้น ก็อยู่ที่ตนเองเป็นสำคัญ ถ้าอยากพัฒนาต่อก็ต้องเพิ่มเติมความรู้ / คนที่มีความพอเพียงในใจ จะเหมือนมีภูมิคุ้มกันที่จะช่วยให้ไม่ติดกับดักการบริโภคนิยมจนเกิดโทษ..(ดิฉัน เคยมีบทเรียนมาบ้าง จึงเข้าใจได้ดี)

บทสัมภาษณ์คุณ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เรื่องวิพากษ์บริโภคนิยม อ่านแล้วก็ให้ข้อคิดดีค่ะ..
http://ac2plad.com/webboard/index.php?topic=63.0
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเทวาหรือซาตาน มนุษย์เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด
User avatar
Jseventh
 
Posts: 1741
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:19 am

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby ริวมะคุง » Wed Jun 16, 2010 10:27 am

น่าสงสาร จนแล้วจนอีกดักดานชมัด พูดถึงสมองนะจน

ทุกวันนี้มีรถกระบะเก่าๆมอไซค์คัน บ้านก็ผ่อน ไม่เคยจะคิดว่าตัวเองจนเลย เห็นเบนซ์งามจอดก็ไม่คิดอยากได้เพราะเรา"ทำ"แค่นี้จะหวังอะไรเล่า ;)
แต่พวกไม่"ทำ"แต่อยากมีอยากได้แบบคนอื่นสุดท้ายแสวงหาโดยทางมิชอบพอโดนจับโทษสังคม พวกนี้สวะจริงๆ :evil:
ประเทศไทยต้องก้าวต่อไป
User avatar
ริวมะคุง
 
Posts: 1906
Joined: Thu Nov 26, 2009 8:28 am

Re: ความพอเพียงของชาวนา

Postby Vihok_Asnii » Wed Jun 16, 2010 10:44 am

Jseventh wrote:
Vihok_Asnii wrote:ในความรู้สึกของชาวนา คนยากคนจนทั่วไป
โดยเฉพาะคนที่เลือกเชื่อผู้อุปถัมป์ที่เป็นนายทุนหรือนักการเมือง ว่าจะมาช่วยเขาให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้

มักจะถูกปลูกฝัง เสี้ยมสอน ให้ตั้งแง่ต่อแนวคิดเรื่อง "ความพอเพียง" ในทำนองว่า
"เป็นแนวคิดที่ชนชั้นกลาง ชนชั้นสูงสนับสนุนเพื่อมากดและจำกัดโอกาสเจริญเติบโตของชนชั้นล่างรากหญ้า
พวกเขาไม่เข้าใจคนจนเพราะพวกเขามีปัจจัยต่างๆ เอื้อให้อยู่อย่างพอเพียงได้อยู่แล้ว
และการฝังความคิดให้คนจนพอเพียง ก็คือให้คนจนเจียมตัว จะได้ไม่พยายามเผยอขึ้นไปแข่งขัน แย่งชิงผลประโยชน์กับพวกเขาเท่านั้นเอง"


ใช่ค่ะ คุณวิหค ท่องเน็ตก็จะเจอคนใส่แนวคิดนี้ให้กันบ่อยๆ..

คนชั้นกลางในเมือง แต่งตัวดี มีของดีๆใช้ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่มีเงินสำรองเก็บ ใช้เงินเดือนชนเดือน ออกถมเถ..บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด ถ้าไม่วางแผนการเงินดีๆ ก็แย่..เขาเรียกว่า ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง / ในความเป็นจริงแล้ว แนวคิดนี้สอนให้รู้จักตัวเองก่อนเป็นสำคัญ ดูแลหรือสร้างรากฐานตนเองให้แข็งแรง จากนั้นจึงพัฒนาต่อ.. / การพัฒนานั้น ก็อยู่ที่ตนเองเป็นสำคัญ ถ้าอยากพัฒนาต่อก็ต้องเพิ่มเติมความรู้ / คนที่มีความพอเพียงในใจ จะเหมือนมีภูมิคุ้มกันที่จะช่วยให้ไม่ติดกับดักการบริโภคนิยมจนเกิดโทษ..(ดิฉัน เคยมีบทเรียนมาบ้าง จึงเข้าใจได้ดี)

บทสัมภาษณ์คุณ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เรื่องวิพากษ์บริโภคนิยม อ่านแล้วก็ให้ข้อคิดดีค่ะ..
http://ac2plad.com/webboard/index.php?topic=63.0


ครับ ความจริงถ้าคิดๆ ดูแล้วก็น่าใจหายที่ในชนบท ในชายขอบของสังคมเรา มีพวก "เจ้าพ่อเจ้าแม่ผู้อุปถัมป์" ที่พยายามจะกรอกหูชาวบ้าน ประทับภาพใส่สมองชาวบ้าน
ให้คิดย้ำๆ ซ้ำๆ เกิดความคับแค้น ในความยากลำบากของตน
ให้มองแต่ภาพความลำบากของตน แล้วไปเทียบกับความสุขสบายของพวกคนอื่น
ให้มองแต่ในสิ่งที่ตนเองไม่มี แล้วไปเทียบกับสิ่งที่คนอื่นมี

ให้คิดว่าสิ่งเหล่านั้น ที่ตนเองผ่านมา โดยที่คนเมืองหรือคนอื่นๆ ไม่ได้ผ่านความลำบากอย่างของตัวเอง
และสิ่งที่ตนเองขาดโดยที่คนเมืองหรือคนอื่นๆ เหล่านั้นมี
มันหมายถึงสังคมทอดทิ้งพวกเขา สังคมนี้และโลกนี้ติดหนี้พวกเขา
แต่ไม่มีใครอื่นเข้าใจ ไม่มีใครอื่นพยายามช่วยเขา และไม่มีปัญญาจะช่วยเขาได้ นอกจากท่านผู้อุปถัมป์เหล่านั้นเท่านั้น

จึงควรที่จะสนับสนุนท่านเหล่านั้นให้เป็นใหญ่เป็นโต จะได้ไปทวงเอาทรัพยากรจากคนอื่นๆ จากสังคมที่ติดหนี้พวกเขา กลับมาบำรุงเลี้ยงให้เขาได้อยู่ดีกินดีกับเขาบ้าง
พร้อมกับจะถือโอกาสใช้อำนาจที่ได้มา ทำอะไรสักหลายๆ อย่างเพื่อล้างแค้นเอาคืนสังคมเหล่านั้นแทนพวกเขาไปด้วยก็ยิ่งดี

ในขณะเดียวกัน...ก็ทำให้ไม่เชื่อในวิถีทางของการลุกขึ้นมาคิดทำพัฒนาด้วยตัวเอง และหวังพึ่งบรรดาท่านผู้อุปถัมป์ กลายเป็นบอนไซแคระแกร็นอยู่ใต้ร่มเงาคนเหล่านั้นต่อไป

แทนที่จะสอนให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง และสอนให้รู้จักวิธีเติบโตด้วยตนเอง
เหมือนกับพ่อแม่ที่แท้จริง ที่มุ่งหวังทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนลูก และมีความยินดีเมื่อได้เห็นลูกเติบใหญ่เป็นคนดีของสังคม เป็นที่พึ่งของตัวลูกเองและคนอื่นๆ ได้

แต่อีกทางหนึ่ง... เจ้าหนี้ที่โหดร้ายย่อมใช้กลลวงหลอกล่อให้ลูกหนี้ต้องติดบ่วงหนี้ของตนเองต่อไปเพื่อใช้ประโยชน์อย่างไม่สิ้นสุด นายทาส เจ้าพ่อเจ้าแม่มาเฟีย เจ้าลัทธิที่โหดร้ายย่อมต้องการผูกมัดคนให้เป็นเบี้ยล่างของตนต่อไป แม้จะต้องใช้วิธีเสี้ยมสอนคนให้หวาดกลัวและปิดกั้นตัวเองออกจากสังคมอื่น หรือสอนให้คิดและทำเยี่ยงอาชญากร สมรู้ร่วมคิดในขบวนการทำความผิดซ้ำซากเพื่อจะได้เป็นโซ่ตรวนผูกมัด ไม่ให้กลับไปอยู่ร่วมกับสังคมปกติได้และจำยอมต้องอยู่ในสังกัดตน ทำงานสกปรกสร้างฐานอำนาจให้ตนตลอดไป จนกว่าจะตายหรือหมดประโยชน์
ชาติหนอนย่อมเสพส้อง .... อาจม
อิ่มหนำก็ชื่นชม .... แซ่ซร้อง
มินำพาครรลอง .... ถูกผิด
อ้างความสุขที่ต้อง .... หมักหมมอมมูล


REMEMBER, O BEAST! THAT STARTED THY BLOODY HISTORY ON 14th OF JULY,
REMEMBER, HE WHO INVENTED GUILLOTINES WAS HIMSELF BEHEADED BY A GUILLOTINE!
User avatar
Vihok_Asnii
 
Posts: 2133
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:54 am

Previous

Return to สภากาแฟ



cron