หลายวันก่อนได้มีโอกาสไปที่ค่ายเปรมติณสูลานนท์แบบไม่เป็นทางการ เพราะทราบว่าที่นี่เขาทำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เข้าไปยังไม่ถึงจุดหมายดี เห็นแพะฟูงหนึ่งเดินและเล็มหญ้า สอบถาม ท.ทหาร ได้ความว่าเป็นของข้าราชการบางท่านที่เลี้ยงไว้ ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง พอจะได้ภาพชัดเจนแล้วละครับ แต่ก่อนที่จะเข้าสู่ประเด็นของเรื่องนี้ ผมอยากจะถือโอกาสแนะนำ ค่ายนี้สักเล็กน้อย
“ค่ายเปรมติณสูลานนท์” ตั้งอยู่ที่ ตำบลบัวเงิน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของ กองพันทหารม้าที่ 14 ในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ เป็นหน่วยทหารอีกหน่วยหนึ่งที่ได้ดำเนินโครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอ เพียง และส่งเสริมการท่องเที่ยวในหน่วยทหารมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ ซุ้มประตูค่าย&หอเกียรติยศรัฐบุรุษ และศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ มีฟาร์มนกกระจอกเทศ ม้าลาย นกยูงฯลฯ ลองไปดูให้เห็นกับตา ยอมรับว่าน่าสนใจ น่าดูงานมาก เป็นทั้งสวนเศษรฐกิจพอเพียง ไร่นาสวนผสม สวนสมุนไพรและสวนสัตว์ สามารถเข้าไปหาความรู้และพักผ่อนหย่อนใจไปในตัว ภายในบริเวณจัดได้อย่างลงตัว ภายในบริเวณค่ายรักษาระบบนิเวศน์ได้เป็นอย่างได้ มีป่าไม้ร่มรื่น ทราบว่าแนวคิดนี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นผู้จุดประกาย ท่านยากให้ทหารได้นำแนวคิดทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติ และเป็นโครงการนำร่องสำหรับประชาชน ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้เข้ามาศึกษาดูงาน แต่น่าเสียดายที่วันนี้ประชาชนได้ถูกทุนนิยมกระหน่ำจนยากที่จะเข้าใจเรื่อง นี้
หอเกียรติยศรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นที่รวบรวมและเรียบเรียงชีวประวัติ และผลงานสำคัญของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เพื่ออนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา และยึดถือเป็นแบบอย่าง เพื่อเสริมสร้างเอกลักษณ์แห่งคนดีและเชิดชูเกียรติยศและรัฐบุรุษสืบไป หอเกียรติยศรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ตั้งอยู่ภายในบริเวณค่ายเปรมติณสูลานนท์ ตำบลบัวเงิน อำเภอน้ำพอง ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2039 (น้ำพอง-กระนวน) กม.ที่ 25 ห่างจากตัวเมืองขอนแก่น ประมาณ 50 กิโลเมตร หอเกียรติยศแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความดี และจิตใจที่ดีงามที่ท่านมีต่อประชาชนคนไทยทุกคน จนได้รับการยกย่องเกียรติยศสูงสุด ในฐานะที่สามัญชนที่พึงได้รับจากสถาบันพระมหากษัตริย์และจากความศรัทธา ของมหาชนบนแผ่นดินไทย โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2543 ซึ่งตรงกับวันเกิดครบ 80 ปี ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ภายในอาคารได้รวบรวมและเรียบเรียงชีวประวัติตลอดจนผลงานสำคัญของท่านไว้ให้ อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา เพื่อจะนำคุณงามความดีทั้งหลายที่ท่านได้ทำเป็นแบบอย่างไปเป็นตัวอย่างในการ ประพฤติปฏิบัติตนตามเจตนารมณ์ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่ว่า "ทุกคนเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน" ท่านที่สนใจจะเข้าชมขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อเข้าชมล่วงหน้าหรือเป็นหมู่คณะได้ที่ ค่ายเปรมติณสูลานนท์ โทร. 0-4324-2005, 0-4345-9239, 0-4345-9237
แนวคิดเศษรฐกิจพอเพียง ถือว่าเป็นทางรอดของประเทศไทย ที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” ทรงกล่าวถึงมากว่า 30 ปี วันนี้หากจะนำประเทศชาติให้อยู่รอดต่อไป คนไทยต้องพอในทุกเรื่อง หยุดความโลภ หยุดการทุจริตคตโกง มีคุณธรรม จริยธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งทั้งหมดนี้มีอยู่ในตัวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ การไปเยี่ยมชมค่ายเปรมติณสูลานนท์ในครั้งนี้จึงได้เรียนรู้เรื่องของ เศรษฐกิจพอเพียง ได้พักผ่อน ที่สำคัญได้รับรู้ว่า “รัฐบุรุษ”นั้น ชีวิตทั้งชีวิต “ต้องทดแทนคุณแผ่นดิน”
แล้วทำไมจึงต้องตกเป็นเป้าของการโจมตี..?? หากมองตามที่ผมว่ามา ท่านไม่เห็นจะน่าถูกโจมตีตรงไหน ที่ร้ายไปกว่านั้น คนที่โจมตีท่านไม่เห็นจะมีความดีตรงไหนในชีวิต แต่ละคนล้วนแต่สร้างภาระความวุ่นวายให้กับประเทศไทยหลายครั้งหลายหน ไม่เว้นแต่ครั้งที่ผ่านมา หากจะพูดถึงการพัฒนาชาติบ้านเมือง ยุคที่ท่านเป็นผู้บริหารประเทศ แนวคิดเรื่อง แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” มีความชัดเจนในการพัฒนาประเทศไปสู่ความอยู่ดีกินดีที่ควบคู่ไปกับการมี คุณธรรม ไม่ได้นำประเทศชาติไปสู่ความเจริญแบบขาดคุณธรรม ไม่ได้มอบเมาประชาชนให้คิดถึงแต่เงินเท่านั้น ตัวท่านเองเป็นแบบอย่างของความซื่อสัตย์ เป็นแบบอย่างของการรักษาวัฒนธรรม เป็นตัวอย่างของการทำมากกว่าพูด
พูดได้อย่างเต็มปากว่า ยุคที่ท่านบริหารประเทศการพัฒนาชนบทได้รับการปฏิบัติมากที่สุด มีถนนเกิดขึ้นในชนบท มีไฟฟ้าใช้โดยทั่วไป ต้องยอมรับโดยไม่มีข้อแม้ ว่ายุคท่านการเร่งรัดพัฒนาชนบทเกิดขึ้นอย่างจริงจัง แม้แต่ถิ่นที่อยู่ของประชาชนที่นักเคลื่อนไหวบางคนเรียกเขาว่า “ไพร่” ก็ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง แนวคิดอีสานเขียวหรือฮารับปันบารู ก็มาจากทิศทางตรงนี้ ไม่เว้นแม้แต่การปรองดองที่เป็นรูปธรรม ก็เกิดในยุคท่าน คือนโยบาย 66/2523 หรือคนเดือนตุลาจะว่าไม่จริง นโยบายนี้แหละทำให้พวกท่านได้มีโอกาสเป็นใหญ่เป็นโตในปัจจุบัน
ท่านเป็นแบบของการจงรักภักดี การเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง ท่านจึงเป็นเจ้าของวลีที่ว่า “เกิดมาต้องทดแทนคุณแผ่นดิน” นั้นหมายความว่า ท่านสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน ไม่ทรยศต่อบ้านเกิดเมืองนอนอย่างคนบางคน(หรือหลายๆคน) ท่านพยายามบอกผู้คนให้รักบ้านเกิดเมืองนอน ตัวอย่างการจงรักภักดีที่เป็นรูปธรรมที่ผมเห็นก็คือ การน้อมนำและสนับสนุนให้ทหาร นำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในค่ายฯอย่างที่ค่ายเปรมติณสูลานนท์นี้เอง
พระเจ้าแผ่นดิน ทรงเป็นห่วงบ้านเมือง หากนำบ้านเมืองไปสู่ทุนนิยมแบบผูกขาด พระองค์น่าจะทรงเห็นว่า หากประชาชนใด้หลงไปกับกระแสทุนนิยม ที่มองโดยกระแสแล้วน่าจะดี แต่ลึกๆแล้วไม่ใช่ มันคือมะเร็งร้ายที่กำลังกัดกินประเทศชาติและประชาชนอย่างน่ากลัว
จริงๆแล้ว ขบวนการนักศึกษาในอดีต หรือคนเดือนตุลา น่าจะทราบดีว่าลัทธิทุนนิยม เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดวันมหาวิปประโยค นอกเหนือจากการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ เพราะอันตรายการลัทธินี้พวกท่านเคยต่อต้าน(ลองไปหาอ่านสิ่งพิมพ์ที่พวกท่าน ทำกันในยุคนั้นซิ) แต่วันนี้พวกท่านหลายๆคนกลับกลายเป็นทุนนิยมเสียเอง และมีส่วนหนึ่งก็ไปหนุนทุนิยม ท่านก้าวมาสู่การเมืองก็ใช้วิธีการทุนนิยม(หรือจะบอกว่าไม่จริง)
พล.อ.เปรม เป็นอดีตข้าราชการระดับสูง เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกันกับอดีตนายกรัฐมนตรีอีกหลายๆคน ถูกเขาเรียกว่าอำมาตย์ แต่อำมาตย์ พล.อ.เปรม มีความจงรักภัดี น้อมนำสนับสนุนแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าแผ่นดิน
เศรษฐกิจพอเพียงตรงกันข้ามกับทุนนิยม การจงรักภักดีตรงกันข้ามกับการทรยศ การทดแทนคุณแผ่นดินตรงกันข้ามกับการขายชาติ ผมคงไม่ต้องบอกแล้วนะครับว่าทำไม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จึงตกเป็นเป้าของการโจมตี จะเป็นการตีท่านเองหรือตีวัวกระทบคราด ทุกท่านทราบดี
ผมไม่ขออะไรหรอกครับ นอกจาก “ขอให้คนขายชาติจงพินาศ” เท่านี้แหละครับ
http://www.oknation.net/blog/somdej/2010/06/28/entry-1
