เรื่องนี้นอกจากผมจะเคยตั้งกระทู้ที่บอร์ดเสรีไทย ยังเคยไปร่วมเสวนาในห้องพูดคุยที่วิกีพีเดีย
เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา ผมนำเนื้อความที่เคยพูดคุยไว้มาลงที่นี่ด้วยก็แล้วกัน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการรับราชการทหารการให้ข่าวเรื่องการรับราชการทหาร คุณวีระมาทีหลังครับ ความจริงต้นเรื่องมันย้อนไปได้ถึงปี 2542 สมัยรัฐบาลชวน 1 ครับ สาเหตุเริ่มมาจากลูกๆ ของ คุณเฉลิม อยู่บำรุง รองหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านตอนนั้น ลูกๆ แกไปใช้เอกสาร สด.43 ปลอม สมัครเข้าเป็นนายตำรวจ แล้วถูกจับได้ ทำให้เกิดการตอบโต้ทางการเมือง โดยขุดคุ้ยเรื่องการรับราชการทหารของ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลหลายคน ทำนองว่า "ข้าผิดเอ็งก็เลว" ซึ่งหนึ่งในนั้นที่โดนก็คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รมต.สำนักนายกฯ โดยในตอนนั้นตัวตั้งตัวตีของฝ่ายค้านคือ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ที่ถึงขนาดถูกนายอภิสิทธิ์ฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท และในที่สุดฝ่าย นพ.เปรมศักดิ์ ต้องลงหนังสือพิมพ์ขอขมา
ถ้าอยากอ่านข่าวเก่าๆ ในสมัยนั้น ผมรวบรวมเอาไว้ที่ลิงค์นี้นะครับ
index.php?topic=18240.0 คิดว่ามีข้อมูลให้ศึกษามากพอสมควร
จากนั้นเรื่องก็เงียบไปจนเมื่อ ปี 2550 มีการขุดคุ้ยขึ้นมาใหม่อีกโดยกลุ่ม นปก. ตัวตั้งตัวตีก็กลุ่มเดิมครับคืออดีตสมาชิกพรรคความหวังใหม่ ที่ยุบไปรวมกับพรรคไทยรักไทย ตอนนั้นจุดประสงค์หลักๆ พุ่งเป้าไปที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ในประเด็นที่ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ ตั้งแต่สมัยปี 2542 ที่ พล.อ.สุรยุทธ์ เป็น ผบ.ทบ. แต่ปลุกกระแสไม่ขึ้นเพราะแค่เริ่มต้นก็พบว่าคดีหมดอายุความ จนกระทั่งมาถึงปลายปี 2550 ใกล้เลือกตั้งถึงมีการขุดขึ้นมาโจมตี นายอภิสิทธิ์ อีกรอบ จุดประสงค์หลักรอบนี้ ก็น่าจะเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ ของนายอภิสิทธิ์ ที่ได้รับการคาดหมายเป็นหนึ่งใน ว่าที่นายกฯ คนใหม่
เหตุการณ์สมัยที่นายอภิสิทธิ์จะต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารมันยืดยาว ถ้าจะลงในวิกิพีเดียก็จะไม่ใช่สารานุกรม เราก็คุยที่นี่แล้วกันนะครับ
ประเด็นที่พยายามตั้งกันขึ้นมาก็คือ นายอภิสิทธิ์ไม่ปฏิเสธแสดงว่ายอมรับ ทั้งที่โดยสภาพความจริงนายอภิสิทธิ์ไม่สะดวกจะตอบโต้เรื่องนี้ระหว่างหาเสียง เหมือนกับกรณีการโจมตี พล.อ.เปรม ที่ท่านก็ไม่สะดวกจะตอบโต้เหมือนกัน ในขณะที่เอกสารจากทาง นปก. ก็เป็นเอกสารที่ นปก. อ้างเอาเอง ไม่มีหน่วยงานราชการที่ไหน ยืนยันความถูกต้อง อาจถูกแก้ไขตรงไหนก็ได้ เหมือนกรณีเอกสารลับ คมช. และไม่ใช่ข้อมูลสาธารณะ ที่ใครจะสามารถตรวจสอบ เรื่องก็เลยยันกันอยู่แค่ที่ นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าได้สมัครเข้ารับราชการทหาร จนได้รับยศเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรมาแล้ว
ส่วนถ้าจะบอกว่า "หนีทหาร" คำนี้ถ้าใช้ให้ตรงความหมายจะใช้กับกรณีเป็นทหารเกณฑ์อยู่แล้วหนีราชการครับ ส่วนกรณีไม่ไปเข้ารับการตรวจเลือก จะเรียกว่า "ขาดการตรวจเลือก" ซึ่งจะถูกนำชื่อไปลงใน "บัญชีคนที่ขาดการตรวจเลือก" แล้วรอให้มารับการตรวจเลือกในปีต่อไป สถานะระหว่างนี้จะยังเป็น "ทหารกองเกิน" เมื่อมารับการตรวจเลือกถ้าต้องเป็นทหารก็จะบรรจุเป็น "ทหารกองประจำการ" โดยจะรอให้มาตรวจเลือกไปจนอายุเกิน 29 ปี ก็จะจำหน่ายออกเป็น "ทหารกองหนุน" คนที่ไม่มารับการตรวจเลือกถ้าจะเรียกให้ถูกน่าจะใช้ว่า "หนีเกณฑ์ทหาร"
มีอีกเรื่องที่ควรทราบคือ ขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว ถ้าจะต้องเป็นทหารก็เป็นเพียง 6 เดือน ไม่ใช่ 2 ปี ตามเกณฑ์ทั่วไป
ที่นี้่กรณีของนายอภิสิทธิ์ มีกำหนดให้ไปรับการตรวจเลือกในเดือนเมษายน 2530 แต่เชื่อว่ามีหลักฐานบันทึกว่า "ขาดการตรวจเลือก" ซึ่งแนวทางปกติก็คือ จะต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกใหม่ในเดือนเมษายนของปี 2531 แต่ 4 เดือนถัดมาคือเดือนสิงหาคม 2530 นายอภิสิทธิ์ได้ไปสมัครเข้าเป็น ข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร (ตามกฎหมายนับเป็น ข้าราชการทหาร แม้จะมีคำว่า "พลเรือน") ตำแหน่งอาจารย์ โรงเรียนนายร้อย จปร. ได้ผ่านหลักสูตรการฝึกทหารตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ส่วนที่สงสัยกันว่าสมัครเข้าไปได้อย่างไร จากที่ผมประมวลข่าวดูคิดว่านายอภิสิทธิ์ สมัครโดยขาดส่งเอกสาร สด.9 ซึ่งมีฐานความผิดแค่โทษปรับครับ และต่อมาได้ไปขอออกเอกสาร สด.9 ฉบับใหม่มายื่นในการขอติดยศร้อยตรี โดยระหว่างการเป็นอาจารย์ ผมพบว่ามีกฎหมายยกเว้น ให้ไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือก แต่ผมไม่ทราบว่ามีการขอยกเว้นหรือเปล่า จนมาถึงปี 2531 นายอภิสิทธิ์ก็ได้รับพระราชทานยศร้อยตรี แล้วลาออกจากราชการไปเรียนต่อ ป.โท ที่ประเทศอังกฤษ กลับมาเป็นอาจารย์ที่ธรรมศาสตร์ ตามประวัติที่เรารู้กันครับ
สรุปว่านายอภิสิทธิ์น่าจะ "หนีเกณฑ์ทหาร" แต่ก็ไปสมัครเข้าเป็นทหารในอีก 4 เดือนต่อมา ได้บรรจุเข้าเป็น "ทหารกองประจำการ" ผ่านหลักสูตรฝึกทหาร และรับราชการทหารมาแล้วจริงๆ นานกว่า 1 ปี ไม่ใช่หนีหายไปเฉยๆ อย่างที่เขาหนีกันทั่วไป การที่นายอภิสิทธิ์ลาออกจากราชการทหาร ผมเข้าใจว่าตอนนี้เขามีสถานะเป็น "ทหารกองหนุน" และอีกประมาณ 2 ปีก็จะมีอายุเกิน 45 ปี พ้นราชการทหารโดยสมบูรณ์ครับ
ส่วนที่ผ่านมาจะมีความผิดหรือไม่อย่างไร ที่แน่นอนคือขาดอายุความหมดแล้ว และที่ผ่านมาทางกองทัพไม่เคยติดใจดำเนินคดีใดๆ ทั้งสิ้น ผู้บริหารกองทัพยังรับรองสถานะ นายทหารชั้นสัญญาบัตรของนายอภิสิทธิ์ด้วยซ้ำ มีแต่ฝ่ายการเมืองที่เคลื่อนไหวโจมตีในเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ไม่เคยหาเหตุว่า นายอภิสิทธิ์ทุจริตคอร์รัปชั่น ในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้สักเรื่องเดียว
อธิบายมายืดยาวหวังว่าคงพอจะเป็นประโยชน์ ให้เข้าใจเรื่องราวได้ชัดเจนขึ้นนะครับ ที่สำคัญผมอยากทบทวนประเด็นว่า เรื่องนี้เริ่มต้นมาจาก การตอบโต้ทางการเมือง ที่ลูกคุณเฉลิม ใช้เอกสาร สด.43 ปลอม สมัครเป็นนายตำรวจ แล้วถูกจับได้ ไม่ได้เกิดจากความบริสุทธิ์ใจ ในการทำงานตรวจสอบ เพราะแม้แต่ในตอนเริ่มต้นเมื่อปี 2542 คดีก็ขาดอายุความไปหมดแล้วครับ กองทัพไม่เคยติดใจใดๆ มีแต่ฝ่ายการเมืองที่เคลื่อนไหวมาโดยตลอด จะดำเนินคดีอะไรก็ไ่ม่ได้ มุ่งแต่ทำลายความน่าเชื่อถือทางการเมืองกันเท่านั้น jerasak 3:26, 11 มกราคม 2551