ตร.191 จับ "จักรชรัส คงสุวรรณ" อดีตทหารเรือนาวิกโยธินและเป็นลูกน้องคนสนิท"เสธ.แดง" ได้ที่หมู่บ้านในอ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม รายงานแจ้งว่าผู้ต้องหาที่จับได้ให้การเป็นประโยชน์ซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนการที่วางแผนก่อการร้าย ที่สำคัญยังรู้ข้อมูลทุกอย่างกับ"เสธ.แดง" รวมถึงข้อมูลเงินค่าใช้จ่ายที่"ทักษิณ"ส่งมาให้เสธ.แดงใช้จ่ายในการสนับสนุน การก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ผู้ต้องหาถูกคุมตัวสอบอยู่ที่ค่ายทหารในปราจีนบุรี วันนี้(13 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ191(ตปพ.) สามารถจับกุม นายจักรชรัส คงสุวรรณ อายุ 37 ปี อดีตทหารเรือนาวิกโยธิน (ยศชั้นประทวน) ลูกน้องคนสนิทของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านหนองแทรก อ.กันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ทั้งนี้รายงานข่าวยังระบุอีกว่าผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์กับคดีเป็นอย่างมากรวมถึงจะสามารถขยายผลจับกุมลูกน้องเสธ.แดงที่ร่วมขบวนการได้อีกด้วย สำหรับตัวผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นคนสนิท"เสธ.แดง"เพราะจะรู้ข้อมูลทุกอย่าง เกี่ยวกับตัวเสธ.แดง
รวมถึงรู้เรื่องเงินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมันตรี ส่งมาให้เสธ.แดงเพื่อนำไปใช้จ่ายด้านใดบ้าง ทั้งนี้ยังได้ซัดทอดถึงตัวการสำคัญที่ร่วมวางแผนก่อการร้าย และยังเปิดปากให้การว่าเสธ.แดงไปรับเงินจากใคร ผู้ต้องหายยังยอมเปิดเผยข้อมูลสำคัญรวมทั้งให้การระบุจุดนัดพบ ซึ่งถูกกำหนดให้ใช้เป็นสถานที่ส่งต่อเงินเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการก่อความไม่สงบด้วยทั้งนี้สำหรับตัวผู้ต้องหาขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบที่ค่ายทหารในจังหวัดปราจีนบุรีhttp://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000112518เอาภาพเก่าๆมาให้ดู....ความเลวของคนที่เชื่อมโยงกัน
ผลงาน เศษ.แดง กลุ่มลูกน้องคนสนิทที่ถูกจับได้
เริ่มจากไอ้อรุณ ฉายาจันทร์ คดีเก่าทุบรถนายกด้วย
ไอ้กบ สมควร หรือ รชต วงศ์ยอด 



ไอ้ยักษ์ หรือ จรัล ลอยพูล
ไอ้ศรชัย ศรีดี
แต่งกายแบบทหารบนรถไฟ้า จากคลิปCNN
เลวๆพวกนี้ ชอบใช้ชุดทหารกัน
ไอ้หรั่ง หรือ สุรชัย เทวรัตน์ 

โชคอำนวย สุรการ(ที่โชคไม่อำนวย ตามชื่อ....ทำเลวย่อมได้ัรับกรรม)
จากการค้นบ้านเมีย ตรวจค้นที่บ้านนางพะยอมและพบหลักฐานสำคัญหลายรายการ เช่น ระเบิดเอ็ม 67 ปรากฏว่าระเบิดเหล่านั้นมีตำหนิมีการขูดลบหมายเลขในกระเดื่องด้วยปากกาเมจิ สีน้ำเงิน
พนักงานสอบสวนนำหลักฐานมา พิสูจน์และตรวจสอบเทียบ เคียงกับหลักฐานที่พบจากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ.-19 พ.ค.ก็พบว่าระเบิดเอ็ม 67 ที่พบในบ้านของนางพะยอมมีพยานหลักฐานตรงกันกับเหตุระเบิดที่เกิดบ่อยครั้งใน ช่วงนั้น เช่น เหตุระเบิดแขวงการทางธนบุรีบางพลัด วันที่ 23 มี.ค. และวันที่ 24 มี.ค. เหตุระเบิดกรมบังคับคดีบางขุนนนท์ วันที่ 26 มี.ค. ระเบิดที่สำนักงานอัยการสูงสุด ระเบิดหน้าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 บริเวณหน้าบ้านนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ครั้ง หน้ามูลนิธิรัฐบุรุษ หน้าสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที บริเวณสวนลุมไนท์พล่าซ่า รวม 7-8 ครั้ง เป็นลักษณะเดียวกันทั้งหมด และมีพยานหลักฐานยืนยันนอกจากนี้ยังพบหลักฐานยืนยันว่า มีส่วนเกี่ยวพันกับการจับคนร้าย 2 คน คือ นายบัณฑิต สิทธิชุม และนายสุมนัฐ ปุนละเวศ กรณียิงอาร์พีจีเข้าใส่กระทรวงกลาโหมและวัดพระแก้ว ซึ่งระเบิดที่ปรากฏในรถของคนร้าย ส่วนหนึ่งมาตรงกับระเบิดในบ้านนางพะยอมด้วย(ไอ้ 2 ตัว นี่ก็รับสารภาพและนำไปสู่การจับกุมคนอื่นในขบวนการด้วย)พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่าตำรวจสรุปการจับกุมหลักฐานดังกล่าวไว้ 3 ประเด็น คือ 1.แหล่งที่มาของระเบิดทั้งหมดน่าจะมาจากแหล่งเดียวกัน 2.กลุ่ม นปช.ที่จับได้น่าจะเป็นกลุ่มที่ใช้ความรุนแรง และ 3.คนร้ายเริ่มใช้ระเบิดตั้งแต่ก่อนการชุมนุมใช้ต่อสู้เจ้าหน้าที่จนถึงวัน ที่ 19 พ.ค. ซึ่งทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าระเบิดบ่อยครั้งเป็นการดำเนินการเป็นระบบอย่างต่อเนื่องโทมัส ฟุลเลอร์ ผู้สื่อข่าวของอินเตอร์แนชันแนล เฮอรัลด์ ทริบูน ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผลหรือเสธ.แดงถูกยิงขณะให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติหลายสำนักเมื่อวานนี้ ว่า เขากำลังสัมภาษณ์เสธ.แดงอยู่ในขณะนั้น และเสธ.แดงกำลังตอบคำถามโดยมองหน้าเขาอยู่ จากนั้นกระสุนก็เข้าที่หน้าผากของเสธ.แดง ซึ่งเขารู้สึกเหมือนกระสุนได้ข้ามศรีษะของเขาไปก่อนถูกเสธ.แดง ฟุลเลอร์ บอกว่า เขาและนักข่าวหลายคนสัมภาษณ์เสธ.แดงขณะอยู่หลังป้อมปราการที่ใช้ยางรถยนต์ และไม้ไผ่กองสุมกันของคนเสื้อแดงตรงช่วงแยกศาลาแดง
น่าสังเกตว่าทุกอย่างมันสอดรับกันเป็นขั้นเป็นตอน แม้กระทั่งดูเหมือนว่า การลอบยิง เสธ.แดง ก็มีการยิงช่วงที่สื่อต่างประเทศเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ขณะเดียวกันเที่ยวนี้สื่อทั้งไทยและเทศต่างตกเป็นเป้ากระสุนไม่แพ้กัน เมื่อดึก(16 พ.ค.53) เอ็ม 79 และอาร์พีจีถล่มเข้าที่โรงแรมดุสิตธานีหลายนัด ก็อย่าได้แปลกใจที่โรงแรมดังกล่าวนอกจากเป็นที่พักของแขกต่างชาติทั่วไปแล้วยังเป็นที่รวมของสื่อต่างประเทศหลายสำนักทำให้บังเอิญว่านี่คือกระบวนการให้เป็นข่าวเกิดความสนใจชยุต ไหลเจริญ หนึ่งในลูกน้อง เศษ.แดง อีกคนที่ถูกจับกุมตัวได้
และชยุต เป็นกุญแจสำคัญ ที่นำไปสู่การจับกุมคนอื่นๆ
ชยุตเป็นคนยอมให้ข้อมูลกับDSI
และยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในการก่อเหตุสร้างศพที่สี่แยกคอกวัวด้วย
(ชยุต เป็นอดีตทหารเก่า)ปฏิบัติการระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงส่งไฟเข้ากรุงเทพที่ วังน้อย
.....หวังดับไฟกรุงเทพ วันที่ 10 เมษายน 2553
จากการสอบสวนพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงานใกล้กับที่เกิดเหตุให้การว่าในคืนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาขณะที่กำลังดูการถ่ายทอดเหตุการณ์ปะทะกันที่กรุงเทพ ปรากฎว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณเสาไฟฟ้าดังกล่าวติดต่อกัน
แต่ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าเป็นการสปาร์คของสายไฟฟ้าแรงสูง หรืออาจจะเป็นการจุดปะทัดยักษ์เนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมผ่านเส้นทางดังกล่าว
กระทั่งเช้าวันเดียวกันนี้ มีประชาชนไปออกกำลังกายใกล้กับเสาไฟฟ้าแรงสูง และเห็นว่าที่ขาทั้งสองข้างของเสามีลักษณะขาดออกจากแท่งปูนที่เป็นฐานขนาดใหญ่ จึงได้แจ้งให้ทางการไฟฟ้าทราบมาทำการตรวจสอบ จนพบว่ามีการวางระเบิดเสาไฟฟ้า และเสาไฟฟ้ามีความเสียหายจึงได้แจ้งให้ตำรวจทราบและมาทำการตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาของระเบิด และการทำงานโดยเบื้องต้นมั่นใจว่าเป็นการก่อวินาศกรรม เพื่อที่จะไปเชื่อมโยงกับการชุมนุมในคืนวันที่ 10 เม.ย.
อย่างไรก็ตาม จะต้องประสานกับกองพิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญมาหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่จากหน่วยบำรุงรักษาสายส่งปฎิบัติการภาคกลาง กล่าวว่า เสาไฟฟ้าดังกล่าวเป็นเสาพาดสายส่งขนาดใหญ่
ที่จ่ายไฟเส้นทางวังน้อย-รังสิต เป็นเสาไฟฟ้าขนาด 230,000 โวล์ต เพื่อจ่ายไฟไปยัง จ.ปทุมธานี ปริมณฑลกรุงเทพ จากการตรวจสอบเบื้องต้นผู้ก่อเหตุตั้งใจให้เสาไฟฟ้าล้ม แล้วสามารถที่จะดึงกันล้มได้หลายต้นได้ ซึ่งหากเสาไฟฟ้าแรงสูงนี้ล้มจริง ก็จะมีผลทำให้กระแสไฟฟ้าในบริเวณที่รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็น พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี บางส่วนกระแสไฟฟ้าดับชั่วขณะ แต่ก็ไม่ยาวนาน เนื่องจากมีการวางระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงแบบใยแมงมุมเอาไว้ สามารถที่จะจ่ายไฟได้อีก ในกรณีเสาล้มหรือเสียหาย แต่การเกิดไฟฟ้าดับระยะเวลาดังกล่าว ก็จะเกิดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 150-200 ล้านบาทได้
วันนี้ (13 เมษายน) เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิด เข้าตรวจสอบเสาไฟฟ้าแรงสูงแบบ 4 ขา หนักประมาณ 320 ตัน สูงประมาณ 45 เมตร อยู่ห่างจากถนนสายเอเชียประมาณ 500 เมตร พื้นที่หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายก่อวินาศกรรม เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบเสาไฟฟ้าดังกล่าวถูกลอบวางระเบิดเสียหาย 2 ต้น ต้นแรกถูกแรงระเบิดทำให้ขาตั้งเสียหาย 2 ขา ส่วนต้นที่ 2 เสียหาย 1 ขา นอกจากนี้ ยังพบสายไฟฟ้า และระเบิดซีโฟร์อีก 3 ลูก จุดชนวนด้วยนาฬิกา วางอยู่บริเวณขาของเสาไฟฟ้า จึงทำการเก็บกู้
ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้ง แต่ไม่ได้สนใจ เพราะนึกว่ายางรถยนต์ระเบิด กระทั่งมาพบว่าเสาไฟฟ้าถูกลอบวางระเบิด จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เบื้องต้นสันนิฐานว่าคนร้ายได้ลอบมาก่อวินาศกรรม เพื่อต้องการให้บริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในไฟฟ้าดับ แต่ระเบิดทำงานไม่เต็มวงจร ทำให้ระเบิดที่เหลือไม่ทำงาน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทราบว่า ไฟฟ้าดังกล่าวส่งมาจากโรงไฟฟ้าวังน้อย เพื่อจ่ายกระแสไฟไปยังพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในทั้งหมด เช่น สีลม ราชประสงค์ มีกำลังส่งแรงดันไฟฟ้า 2 แสนกว่าโวลต์ ซึ่งหากระเบิดทำงานสมบูรณ์ จะทำบริเวณกรุงเทพฯ ชั้นในไฟฟ้าดับทันที http://www.suthichaiyoon.com/detail/1762