ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ส.ค.1 กันก่อน
พระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497
มาตรา 5 ให้ผู้ที่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินอยู่ก่อนวันที่ประมวล กฎหมายที่ดินใช้บังคับ โดยไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน แจ้งการครอบครองที่ดินต่อ นายอำเภอท้องที่ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
การแจ้งการครอบครองตามความในมาตรานี้ ไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่แก่ผู้แจ้ง แต่ประการใด
ส.ค.1 เป็นเอกสารที่ราษฎรทำขึ้นเองแล้วนำไปแจ้งต่อทางราชการ เจ้าของที่ดินจะไปขอแบบพิมพ์ ส.ค. 1 จาก พนักงานเจ้าหน้าที่ แบบพิมพ์นั้นจะเป็นแผ่นมีรอยปรุตรงกลางมีข้อความเหมือนกันทั้งสองข้าง เมื่อได้แบบพิมพ์มาแล้วเจ้าของที่ดินจะกรอกข้อความเองเหมือนกันทั้งสองข้าง แล้วนำไปยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่จะลงเลขรับไว้ตามหมู่ที่ ตำบล อำเภอ ที่รับแจ้งลงในทะเบียนการครอบครองที่ดินแล้วตีตราประจำต่อใน ส.ค. 1 ตรงรอยปรุแล้วฉีก ส.ค. 1 ตามรอยปรุเป็น 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งเก็บไว้ที่อำเภอ อีกฉบับหนึ่งมอบให้เจ้าของที่ดินไป ส.ค. 1
การแจ้ง ส.ค. 1 ไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่แก่ผู้แจ้งแต่ประการใด เดิมใครมีสิทธิอยู่อย่างไร เมื่อแจ้ง ส.ค. 1 แล้วก็คงมีสิทธิอยู่อย่างนั้น กล่าวคือ ถ้าเดิมใครครอบครองทำประโยชน์อยู่ในทุ่งเลี้ยงสัตว์สาธารณะ ป่าช้าสาธารณะ หรือป่าสงวน เมื่อแจ้ง ส.ค. 1 แล้วก็ยังเป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์อยู่ในทุ่งเลี้ยงสัตว์สาธารณะ ป่าช้าสาธารณะ หรือป่าสงวนอยู่เช่นเดิม หรือเดิมเป็นผู้เช่าที่ดินคนอื่นแม้จะนำที่ดินที่เช่าไปแจ้ง ส.ค. 1 ก็ยังคงเป็นผู้เช่าอยู่เช่นเดิม ผู้แจ้งจะอ้างสิทธิใด ๆ ขึ้นใหม่ไม่ได้ และ ส.ค.1 นั้นไม่ใช้เอกสารสิทธิ อันเป็นเอกสารราชการ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำขึ้นจึงเป็นเพียงเอกสารธรรมดา ส.ค.1 มีเพียงสิทธิครอบครอง โอนไม่ได้ (เว้นแต่โอนโดยการส่งมอบการครอบครอง) แต่ ส.ค. 1 นำไปจดทะเบียนจำนองได้ หากแต่ผู้รับจำนองจะต้องเสี่ยงภัยเอาเองในเมื่อถึงกาลบังคับจำนองอาจจะ บังคับจำนองไม่ได้โดยเหตุที่กล่าวแล้ว
คำพิพากษาฎีกาที่ 1518/2503 การแจ้งการครอบครองที่ดินตามแบบ ส.ค.1 นั้นไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้แจ้งแต่ประการใด เว้นแต่ผู้แจ้งจะได้สิทธิครอบครองอยู่แล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2508 ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยให้แจ้งการครอบครองที่ดินตามแบบส.ค.1 ต่อนายอำเภอท้องที่โดยมีกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านรับรองว่าข้อความถูกต้องและ เป็นความจริงนั้นเป็นประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการ ไม่ใช่เป็นข้อกำหนดหน้าที่ของกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านการเซ็นชื่อรับรองดัง กล่าวเป็นแต่เพียงพยานเท่านั้น ไม่ใช่รับรองว่าหนังสือนั้นเป็นเสมือนหนังสือราชการ ดังนั้น หนังสือ ส.ค.1 นี้จึงไม่ใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ
คำพิพากษาฎีกาที่ 1076-1079/2510 ผู้ที่ไม่มีสิทธิในที่ดิน แม้จะได้ไปแจ้งการครอบครอง ได้รับ ส.ค.1 และได้รับ น.ส.3 ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิครอบครองในที่ดินนั้น รับซื้อที่ดิน น.ส.3 ไว้โดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่เมื่อปรากฏว่าผู้มีชื่อใน น.ส.3 ไม่มีสิทธิในที่ดินนั้น ผู้ซื้อก็ไม่มีสิทธิแต่อย่างใด
คำพิพากษาฎีกาที่ 472/2513 ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติว่า ส.ค.1 นั้นเป็นหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือถือว่าเหมือนโฉนด การแจ้งเป็นเพียงการแสดงเจตนาอย่างหนึ่งว่า ผู้แจ้งยังไม่สละสิทธิครอบครองที่ดินที่แจ้งนั้น การแจ้งก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่หรือกรรมสิทธิ์นอกเหนือไปจากสิทธิที่ครอบครองมีอยู่แต่เดิม
อ่านข้างบนครบหมดแล้วก็มากรณีบ้านหนองจาน ชาวบ้านสามารถแจ้งการครอบครองที่ดินโดยกรอกตามแบบส.ค.1 ยังไงก็ได้ครับ แม้ว่าจะเลยเขตแดนไปก็ตาม แต่จะไม่ก่อให้เกิดสิทธิขึ้นใหม่แก่ผู้แจ้งอย่างใด ครอบครองพื้นที่ 5 ไร่ แต่แจ้งไป 10 ไร่ ก็มีสิทธิแค่ 5 ไร่ ไม่ได้ 10 ไร่ตามที่แจ้ง หรือแจ้งพื้นที่ที่อยู่ในฝั่งกัมพูชาก็ไม่เกิดสิทธิครอบครองตามกฎหมายของไทย แถมจะทำให้ ส.ค.1 นั้นใช้ไม่ได้ด้วย ถ้าชาวบ้านยังยืนยันว่าอยู่ตำแหน่งนั้น หากตรวจสอบแล้วว่าไม่ตรงกับที่แจ้งหรือเป็นที่ที่ไม่สามารถครอบครองได้ก็เสียสิทธิไป อย่าลืมว่าแผนที่แสดงแนวเขตแดนและตำแหน่งก่อนเขมรอพยพมันมีอยู่ ชาวบ้านก็ระบุตำแหน่งที่ดินเองว่าอยู่ตรงบ่อน้ำนั่น คราวนี้ปัญหาได้เกิดล่ะครับเพราะเป็นที่ที่ไม่สามารถครอบครองได้ ต่อให้ยกเลิก MOU2543 ผลักดันเขมรโดยอ้างอิงแผนที่แสดงแนวเขตแดนและตำแหน่งก่อนเขมรอพยพ ชาวบ้านก็อดอยู่ดี
แถมยังยืนยันอีกว่าแจ้งเกินพื้นที่ครอบครองจริงอีก
dutchout wrote:
จริง ๆ ชาวบ้านอ้างตำแหน่งตามภาพศิริโชคก็ได้ เพราะตำแหน่งนั้นเสียพื้นที่ทำกินเนื่องจากเขมรอพยพเหมือนกัน ความเสี่ยงที่แจ้งเลยเส้นเขตแดนก็น้อยกว่า
ส่วน น.ส.3 นั้นเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ราชการออกให้ แต่ไม่มีระวาง เป็นแผนที่รูปลอย ไม่มีการกำหนดตำแหน่งที่ดินแน่นอน ใช้การยึดโยงกับถาวรวัตถุหรือสิ่งอื่นที่พอจะหาได้ในบริเวณนั้น ในกรณีที่นายเบ หลัก 46 จึงเป็นตำแหน่งที่ใช้ยึดโยงได้ดีที่สุดเนื่องจากสามารถอ้างอิงตำแหน่งหลัก 46 จากแผนที่ทางราชการได้