สืบเนื่องจากไทยไม่สามารถจัดตั้ง Sovereign Wealth Fund (SWF) ยังไม่ได้ซะที
.... และยังมีอัตราเติบโตของ Foreign Exchange Reserve อย่างผิดปกติในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ..... เทียบกับ 20 - 30 ปีก่อน (ปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 12 ของโลก หรือ ประมาณเกือบ 3 เท่าของงบประมาณประเทศ)
ทำให้เกิดภาระต่อการคลังประเทศในการรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท
Nemaki wrote:ตอบนะครับ .....
1. สำคัญสุดตอนนี้ คือ รบกวนโปรดช่วยตอบคำถาม "อยากจะทราบเกี่ยวกับ Standing และ ประวัติความเป็นมาของ Public Saving ของไทย ..... และ ข้อมูลการเปรียบเทียบกับนานาประเทศคับ? (หลายๆ Cluster)" ......... Cluster ที่ว่า ผมหมายถึง เทียบ G8, NID, ASEAN และ ฯลฯ ครับ
ผมไม่เข้าใจคำว่า Public Saving ของไทย ที่คุณ Nemaki ยกมานะครับ
โดยปรกติ Public Saving หมายถึงเงินออมของชาตินั้นๆ ไม่ได้หมายถึงเงินที่รัฐบาลเอาไปฝากไว้
แต่คุณพิมพ์ถามๆมาเหมือนว่ารัฐบาลหรือประเทศเรามีเงินฝาก ซึ่งผมไม่ทราบเลย ความรู้ผมไม่ถึงจึงไม่สามารถตอบได้
เท่าที่ผมรู้มาคือรัฐบาลไม่มีเงินฝากครับ (กฎหมายไม่อนุญาตให้นำเงินไปฝากในธนาคารพาณิชย์เพื่อหาดอกผลใดๆ แข่งกับประชาชน)
และแม้นว่าเราจะมีเงินทุนสำรองมหาศาล แต่มันก็ไม่ใช่ของรัฐบาล มันเป็นหลักประกันของค่าเงินรัฐบาลบริหารจัดการได้ แต่นำไปใช้ไม่ได้
ส่วนเงินฝากของประชาชนรวมกันมันก็เท่ากับความมั่งคั่งของประเทศนั้นๆอยู่แล้ว
รัฐบาลจะมีก็แต่เงินคงคลัง เงินงบประมาณ ถ้ามีเงินรายได้เกินความคาดหมายก็ต้องนำไปใช้หนี้ ฯลฯ
(ทำงบประมาณขาดดุลได้ สมดุลได้ แต่ทำเกินดุลไม่ได้ครับ ถ้าเกินขึ้นมาจากรายได้มากกว่าเป้าหมายจะกลายเป็นเงินคงคลัง ซึ่งรัฐบาลจะใช้เงินคงคลังได้เพียง 5 ประการเท่านั้น คือ 1. ชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 2. ใช้ชำระหนี้ต่างประเทศ 3. ซื้อสินทรัพย์ที่เป็นเงินตราต่างประเทศ 4. ไถ่ถอนพันธบัตรของรัฐบาลก่อนกำหนด 5. กรณีต้องปฏิบัติตามกฎหมายแต่ไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้เท่านั้น จะไปทำอย่างอื่นไม่ได้)
หรือหากประเทศรวยมากอยู่แล้ว ไม่มีหนี้ เงินล้นประเทศ
รัฐบาลก็ต้องให้ต่างประเทศกู้แล้วออกพันธบัตรเป็นหนี้ประชาชนแทน(แบบญี่ปุ่นซึ่งหนี้สาธารณะสูงสุด) รัฐบาลไม่ฝากเงินแข่งกับประชาชนหรอกครับรัฐบาลมีหน้าที่ใช้เงิน
เท่าที่ผมทราบมาผิวเผินเพียงเท่านี้
2. ผมสงสัยว่าอัตราการเติบโตของ Foreign Exchange Reserve มันยังผิดปกติอยู่ดีนะคับ ถึงจะเอาตัวเลขเป่ะๆ ของ Trading Surplus / Foreign Investment ทั้ง Direct และใน Security มาคำนวณด้วย .... อันนี้ คงต้องไปดูว่ารัฐบาลเราเก็บ US Bonds เพิ่มขึ้นขนาดใหน เมื่อใหร่ ด้วยนะครับ
ถ้าผิดปรกติผมต้องถามว่าจะผิดปรกติไปเพื่ออะไรครับ
รัฐบาลก็อยากมีเงินเอาไปใช้หนี้จะแย่ รถไฟฟ้าสารพัดสียังต้องกู้ญี่ปุ่นเลยครับ
(เงินทุนสำรองเกือบทั้งหมดของไทยอยู่ในต่างประเทศเป็นดอลลาร์เพื่อลดความเสี่ยงผกผันกับเงินบาท
ที่อยู่ในประเทศเป็นทองคำ มีอยู่เป็นส่วนน้อยมาก สินทรัพย์อย่างอื่นยิ่งน้อยลงไปอีกครับ จะเห็นว่าเป็นเงินสดพร้อมให้ใช้อยู่แล้ว ถ้าใช้ได้เราจะไปกู้ทำไม)
3. เรื่อง Foreign Exchange Reserve ของประเทศที่เป้นอันดับสูงๆ ของโลก .... ผมไม่เคยระบุนะครับ ว่าเป็นเรื่องที่ดี .... เพราะมันมีประเด็นอื่นๆ ที่เป็นคนละประเด็นกับการสะสมเอาไว้สู้กับ Hedge Funds (Mega-Speculator) นะครับ .... อย่างในอันดับโลกฯ ในลิงค์ข้างต้น .... ยังมีชื่อประเทศที่อาจมีปัญหาทางนโยบายการคลังอยู่ด้วยเลยครับ .... อาทิ ..... Brazil (#7), Algeria (#15), Mexico (#17) และ Libya (#20) ครับ
http://www.ryt9.com/s/prg/404498
Sovereign Wealth Fund (SWF) หรือที่เรียกว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ หมายถึง กองทุนของรัฐบาลที่มีทุนเป็นสินทรัพย์ต่างประเทศและมีการบริหารจัดการแยกจากสินทรัพย์อื่นๆ
ลักษณะการลงทุนที่ต่างไปจากการลงทุนประเภทอื่นๆ ของรัฐ โดยในบางกรณีเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนสูงและเป็นการลงทุนระยะยาว หรือลงทุนในธุรกิจที่สามารถเป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
ข้อทดสอบบอร์ดเสรีไทย ....... รอดู rep
Nemaki wrote:คำตอบข้างบน ... สำหรับผมแล้ว มีสาระที่อาจจะเป็นประโยชน์แค่นี้นะครับ "ยิ่งมีทุนสำรองระหว่างประเทศมากแค่ไหน ก็เหมือนกับประเทศไทยมีความสามารถในการชำระหนี้มากเท่านั้น ดังนั้นเวลาที่รัฐบาลไปกู้เงินจากต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เจรจายอมจะต่ำกว่า" ..... แต่อย่างที่ทราบกัน การกำหนดอัตรดอกเบี้ยเงินกู้ มันมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้องนะครับ
ผมสงสัยเรื่องนี้ เป็นการส่วนตัวนะครับ ..... ที่สำคัญ Optimism เป็นสิ่งที่ดีนะคับ
.... สงสัยว่าไทยเรา Debt Finance มากี่ปีแล้วหนิ? 10, 20, 30, 40 ปี?
nithiphat wrote:Nemaki wrote:คำตอบข้างบน ... สำหรับผมแล้ว มีสาระที่อาจจะเป็นประโยชน์แค่นี้นะครับ "ยิ่งมีทุนสำรองระหว่างประเทศมากแค่ไหน ก็เหมือนกับประเทศไทยมีความสามารถในการชำระหนี้มากเท่านั้น ดังนั้นเวลาที่รัฐบาลไปกู้เงินจากต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เจรจายอมจะต่ำกว่า" ..... แต่อย่างที่ทราบกัน การกำหนดอัตรดอกเบี้ยเงินกู้ มันมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้องนะครับ
ผมสงสัยเรื่องนี้ เป็นการส่วนตัวนะครับ ..... ที่สำคัญ Optimism เป็นสิ่งที่ดีนะคับ
.... สงสัยว่าไทยเรา Debt Finance มากี่ปีแล้วหนิ? 10, 20, 30, 40 ปี?
ทำไมคุณ Nemaki ถึง arrogant อย่างนี้ล่ะครับ จะเอาแต่ criticise โดยไม่ share ความเห็น แบ่งปัน knowledge ให้คนอื่นบ้างหรือครับ
อ่านยังไงก็ไม่เห็นว่าคนถามอยากได้คำตอบ ถ้ารู้เรื่องอะไรดี ก็เอามาเขียนเผยแพร่แบบ Dr. Pornchokchai ก็ยังดีกว่านะครับ
Nemaki wrote:เริ่มตอบบ้างบางส่วนครับ
Public Saving > http://en.wikipedia.org/wiki/National_savings
อย่างที่เห็นใน link คับ Public Saving ที่เป็น 1 ใน 2 ของ component ของ National Saving ..... ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะประสพความสำเร็จในการดำรง Public Saving ได้ตลอดเกือบทุกๆ ปี หรือออกรายงานแจงรายละเอียดให้แก่มวลชนทราบได้
Nemaki wrote:ตกลง ประเทศไทยจะไปทางใหน (นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก) ในบอร์ดนี้ ไม่มีใครพอจะรู้อะไรเลยซักคนเลยหรอคับ?
Nemaki wrote:ข้อทดสอบบอร์ดเสรีไทย ....... รอดู rep