สื่อนอกประจานสุวรรณภูมิ ชี้อนุสรณ์ "ทักษิณคอรัปชั่น" สน ช.ตามบี้ทุจริตสนามบินสุวรรณภูมิ "ธเรศ ปุณณะศรี" แฉอีกประตูหนีไฟเจ๊งแล้ว แถมยังเป็นประตูโลหะ อันตรายเมื่อมีเหตุไฟไหม้ ขณะที่"ปฐมพงษ์"ย้ำสัญญาคิงเพาเวอร์ไม่ชอบมาพากล ดีดีการบินไทยเผยพร้อมย้ายเที่ยวบินในประเทศบางเส้นทางกลับไปใช้ท่าอากาศยาน กรุงเทพภายใน 1 เดือน "นพดล"ติงอย่าทำลายความน่าเชื่อถือ"ทักษิณ"
(30ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศก็รายงานเรื่องปัญหารันเวย์และแท็กซี่เวย์ของสนามบิน สุวรรณภูมิร้าว ตลอดจนปัญหาท่อน้ำแตกภายในอาคารที่พักผู้โดยสารเช่นกัน โดยสำนักข่าวเอพีรายงานว่าสายการบินบางแห่งเริ่มจะตั้งคำถามแล้วว่ามีความ ปลอดภัยพอหรือไม่ที่จะบินมายังสนามบินใหม่ของไทย
ขณะที่นักวิจารณ์ในประเทศต่างพากันเรียกขานสนามบินใหม่ว่าเป็นความอับอาย ขายหน้าของประเทศมากกว่าที่จะเป็นความภาคภูมิใจของประเทศ ทั้งยังเป็นอนุสรณ์การคอรัปชั่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกโค่นอำนาจไม่กี่วันก่อนสนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 28 กันยายนปีที่แล้ว
เอพีไม่เพียงพูดถึงปัญหาด้านโครงสร้างของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีปัญหา อยู่ถึง 61 จุด และต้องใช้เงินแก้ไขซ่อมแซมถึงประมาณ 1,500 ล้านบาทเท่านั้น แต่ยังพูดรวมไปถึงเรื่องการย้ายกลับไปยังสนามบินดอนเมืองเพื่อลดความแออัด ระหว่างที่ซ่อมแซมสุวรรณภูมิเรื่อยไปจนถึงปัญหาด้านการท่องเที่ยวที่จะตามมา
ตลอดจนปัญหาห้องน้ำในอาคารที่พักผู้โดยสารไม่พอเพียงจนเป็นเหตุให้เกิด ปัญหาห้องน้ำสกปรกตามมา จนต้องกันเงินเอาไว้อีก 40 ล้านบาทเพื่อสร้างห้องน้ำใหม่อีกร่วม 200 แห่งในสนามบิน รวมถึงปัญหาด้านการจัดการกระเป๋าที่ทำให้กระเป๋าผู้โดยสารสูญหายหรือได้รับ กระเป๋าช้า และการเช็คอินด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ขลุกขลักล่าช้าทำให้ผู้โดยสารต้องเข้า คิวรอเช็คอินยาวเหยียด ตลอดจนปัญหาเครื่องปรับอากาศและประตูหมุนที่เสียอยู่บ่อยๆ
"สนช."ชี้ทุกโครงการสาวถึงตัว"ทักษิณ"
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มกราคม มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและ ติดตามการแก้ไขปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิ สภานิติบัญัติแห่งชาติ (สนช.) มีพล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการแต่ละคณะที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาของสนามบิน สุวรรณภูมิ ได้รายงานผลความคืบหน้าของการตรวจสอบในด้านต่างๆ
พล.อ.อ.ธเรศ ปุณณะศรี ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและแก้ไขปัญหาการรักษาความสะอาดและสภาพแวดล้อม ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวว่า จาก การลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการใช้งานในสนามบินสุวรรณภูมิ พบว่าประตูหนีไฟ ซึ่งเป็นแบบอัตโนมัติหลายจุด ไม่สามารถใช้การได้ ต้องตัดกระแสไฟทิ้งถึงสามารถเปิดได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะใช้บัตรเปิด ก็ไม่สามารถเปิดได้
และโครงสร้างของบริเวณประตูทุกบานยังเป็นโลหะ หากเกิดไฟไหม้บานประตูจะเกิดความร้อนสูง ซึ่งถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ส่วนห้องสูบบุหรี่ที่มีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และเครื่องดูดอากาศ ก็ไม่ยอมทำงาน เพราะหลายเครื่องยังไม่ต่อสาย อาจด้วยความเร่งรีบในการส่งมอบงาน นอกจากนี้ระบบพีซีแอร์ 400 เฮิร์ต ซึ่งเป็นระบบทำความเย็นภายในอาคารสนามบิน ยังเกิดปัญหาบางจุดที่มีรอยเชื่อมต่อ โครงหลังคายังมีความร้อนสูง อาจเกิดปัญหาในช่วงหน้าร้อน ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯจะเชิญเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคที่เกี่ยวข้องของ ทอท.มาชี้แจง เพื่อปรับปรุงแก้ไขต่อไป
ขณะที่พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสัญญาการดำเนินงานของบริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวถึงกรณีที่นายวิชัย รักศรีอักษร ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ออกมาระบุถึงเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท ที่คิงเพาเวอร์จ่ายให้กับบริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด(ทอท.) เป็นการจ่ายล่วงหน้า เนื่องจากทอท.ขาดสภาพคล่องทางการเงินว่า จากแบบข้อเสนอด้านราคาของบริษัทคิงเพาเวอร์ พบว่าข้อเสนอราคาสำหรับการรับสิทธิ์เป็นผู้ประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามเงื่อนไขแล้วในแบบการเสนอราคาในตอนท้ายยังระบุด้วยว่า เพื่อให้ข้อเสนอด้านราคาเป็นประโยชน์ต่อ ทอท. สูงสุด บริษัทคิงเพาเวอร์ฯยินดีที่จะชำระค่าตอบแทนให้แก่ทอท.เพิ่มเติม
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า นอกเหนือจากจำนวนเงินที่เสนอไว้ในข้อเสนอด้านราคาข้างต้น เป็นเงินเท่ากับ 2,000 ล้านบาท เป็นการล่วงหน้า ลงนามโดยนายสมบัติ เดชาพานิชกุล และนายนิพนธ์ รักศรีอักษร กรรมการ เท่าที่อ่านในแบบข้อเสนอราคาของบริษัทคิงเพาเวอร์ฯ ในเงินเพิ่มเติมนอกเหนือคำเหล่านี้ทำให้เข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และคำว่า เป็นการล่วงหน้า เพราะบริษัทเกรงว่าจะไม่ได้รับงานหรือไม่ จึงต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม 2,000 ล้านบาท แต่บริษัทคิงเพาเวอร์ฯกลับพยายามแก้ประเด็นเหล่านี้ โดยอ้างว่าเงิน 2,000 ล้าน บาท เป็นการจ่ายเงินล่วงหน้าให้กับ ทอท. และเรื่องนี้ทอท.ต้องออกมาแก้ว่า เงินดังกล่าวอยู่ ที่ไหน
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบสัญญาของบริษัทคิงเพาเวอร์ เรื่องการใช้สถานที่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่พบว่าใช้สถานที่เกินกว่าที่สัญญากำหนด โดยในสัญญาใช้คำว่า ไม่ต่ำกว่า 5,000 ตร.ม. แต่คิงเพาเวอร์ฯกลับใช้พื้นที่สร้างร้านค้าปลอดอากร และคลังสินค้าของตัวเองสูงถึง 11,820 ตร.ม. ส่วนสัญญาโครงการจัดกิจกรรม เชิงพาณิชย์ ที่บริษัทคิงเพาเวอร์ฯได้รับอนุมัติคือ 20,000 ตร.ม. แต่การใช้พื้นที่จริงกลับสูงถึง 37,600 ตร.ม. และยังพบว่ามีการใช้พื้นที่เพิ่มเติมเพื่อทำ city garden อีก 25,827.67 ตร.ม. นอกจากนี้ยังพบว่ามีการแก้ไขแบบจากเดิมเป็นทางเลื่อน แต่ปรับเป็นร้านค้าทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทอท.ต้องตอบให้ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสุสานความชั่วร้าย ที่กินกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การวางรูปแบบ การเขียนสัญญา และการตั้งบริษัทที่ปรึกษา
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงมติของกระทรวงคมนาคม ที่ให้ย้ายเที่ยวบินภายในประเทศบางสายการบิน ไปยังสนามบินดอนเมืองว่า เป็นไปตามข้อเสนอของมติที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารบริษัทท่าอากาศยานแห่ง ประเทศไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ที่มีมติให้ย้ายเที่ยวบินภายในประเทศไป ใช้ดอนเมือง เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิ ยังไม่มีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้โดยสารภายในประเทศ และผู้โดยสารระหว่างประเทศ การที่รัฐบาลชุดที่แล้วไปคุยว่า สามารถลดค่าก่อสร้างได้หลายพันล้านบาทนั้น เป็นเพราะสาเหตุไม่ยอมสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เป็นการพูดความจริงไม่หมด
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหลายส่วนมีข้อมูลตรงกัน และเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะโครงการประมูลรถเข็นกระเป๋า พีซีแอร์ 400 เฮิร์ต และการประมูลเช่ารถลีมูซีน ซึ่งทำให้รัฐเสียประโยชน์ และตนเชื่อข้อมูลที่นายอลงกรณ์มีอยู่ ปัญหาเรื่องการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ คณะกรรมาธิการฯกำลังเข้าไปรื้อดูสัญญาทั้งหมด เพื่อจะเอาผิดกับผู้บริษัทรับเหมา ที่สนามบินเพิ่งเปิดใช้ได้ 3-4 เดือน ยังอยู่ในช่วงการรับประกันที่บริษัทต้องรับผิดชอบ และจะดูว่าใครเป็นผู้ตรวจรับงาน ซึ่งตรงนี้จะมีผลที่สุด ในการลากเอาตัวคนผิดมาลงโทษ เท่าที่ดูข้อมูลการทุจริตในทุกโครงการ ล้วนสาวไปถึงตัวอดีตนายกฯทั้งหมด
เมื่อถามว่า ภาพลักษณ์ในสายตาต่างชาติที่เสียไปจะแก้ไขอย่างไร พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า ขอ เปรียบสนามบินสุวรรณภูมิ เหมือนเด็กที่เกิดมาพิกลพิการ แต่คนที่ทำให้เด็กคนนี้เกิดมา กลับไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศ เราเข้ามาตรงนี้ก็เพื่อจะติดตามเอาตัวคนผิดมาลงโทษ และแก้ไขปรับปรุงให้สนามบินเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ยอมรับว่าข่าวที่ออกไปมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสนามบิน ที่เราต้องการทำให้เป็นศูนย์การบิน หรือฮับ ของภูมิภาคนี้ เราต้องแก้ไขเพื่อให้สุวรรณภูมิสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้
ตนในฐานะที่สวมหมวก 2 ใบทั้งในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารบริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) และตำแหน่งประธานที่ปรึกษาประธานบอร์ดทอท.ด้วย จึงเข้าไปใช้อำนาจสั่งการปรับปรุงแก้ไขได้ทันที ทำให้ลัดขั้นตอนในการสั่งการลงได้มาก ซึ่งตนเชื่อว่าจะสามารถเอาตัวคนผิดมาลงโทษได้ ภายในระยะเวลา 3 เดือน ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯได้รับมอบหมายมาจาก สนช.
การบินไทยพร้อมย้ายเที่ยวบินในประเทศกลับปลาย มี.ค.
เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ภาษาเศรษฐกิจ” ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี เมื่อเช้าวันนี้ (30 ม.ค.) กรณีที่กระทรวงคมนาคมตัดสินใจให้ย้ายเที่ยวบินในประเทศที่ไม่ต้องต่อเครื่อง กลับไปใช้ท่าอากาศยานกรุงเทพโดยสมัครใจ ว่า การบินไทยพร้อมอยู่แล้ว โดยจะมีเพียงเที่ยวบินในประเทศบางส่วน เช่น เชียงใหม่-กรุงเทพฯ กระบี่-กรุงเทพฯ และภูเก็ต-กรุงเทพฯ บางเที่ยวบินที่จะยังใช้สนามบินสุวรรณภูมิต่อไป เพราะมีผู้โดยสารต่างชาติที่ต้องต่อเครื่องไปต่างประเทศ
ขณะนี้ฝ่ายวางแผนของบริษัทได้เริ่มเตรียมการแล้วว่าจะต้องขนย้ายอุปกรณ์ อะไรกลับไปบ้าง แต่เชื่อว่าจะมีค่าใช้จ่ายไม่มาก เพราะอุปกรณ์บางอย่าง เช่นฝ่ายช่าง และอุปกรณ์สำนักงานบางส่วนยังคงอยู่ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ ส่วนที่จะต้องขนย้ายกลับไปจะมีเฉพาะรถกราวน์เซอร์วิสและอุปกรณ์ไอทีสำหรับ ระบบเช็กอินผู้โดยสารเท่านั้น
"อย่างเร็วที่สุดคาดว่าการบินไทยจะใช้เวลาเตรียม การประมาณ 1 เดือน แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมน่าจะเป็นปลายเดือนมีนาคมนี้ เพราะปกติการบินไทยจะปรับเปลี่ยนตารางการบินทั่วโลกปีละ 2 ครั้ง โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคมจะเปลี่ยนไปใช้ตารางบินสำหรับฤดูร้อน (Summer Program) ซึ่งจะต้องมีการประกาศประชาสัมพันธ์ตารางบินใหม่ไปทั่วโลกอยู่แล้ว หากการโยกย้ายล่าช้าออกไปอีก จะทำให้ต้องปรับเปลี่ยนตารางการบินหลายครั้งและอาจขลุกขลักบ้าง"
ส่วนความพร้อมของท่าอากาศยานกรุงเทพ เรืออากาศโทอภินันทน์ กล่าวว่า การบินไทยได้ทำหนังสือถึง บมจ. ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. ขอใช้อาคารผู้โดยสารในประเทศเดิม ซึ่งออกแบบสำหรับให้บริการเที่ยวบินในประเทศอยู่แล้ว ซึ่งผู้โดยสารเข้าไปเช็กอินเดินต่อไปอีกเพียงไม่กี่ก้าว ก็ขึ้นเครื่องบินได้ทันที อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็มีพร้อมอยู่แล้ว ทอท.ไม่ต้องลงทุนเพิ่มเลย ถือว่าพร้อมที่สุด ส่วนสายการบินนกแอร์จะต้องย้ายด้วยหรือไม่ ต้องให้ผู้บริหารของนกแอร์พิจารณา แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าควรจะย้ายเช่นกัน
ทอท.ย้ายไปดอนเมืองได้ภายใน60วัน
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวเรื่องนี้ว่า ทอท. ในฐานะเจ้าของพื้นที่จะเร่งดำเนินการให้ท่าอากาศยานกรุงเทพมีความพร้อมโดย เร็วที่สุดเพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลที่จะให้เส้นทางบินในประเทศกลับไปใช้ สนามบินดอนเมือง
"ทอท.เรียกประชุมผู้บริหารทั้งท่าอากาศยานกรุงเทพ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นการภายใน เพื่อเตรียมแผนรายละเอียดในการโยกย้าย ที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 60 วันในการดำเนินการ" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าว
"นพดล"ติงอย่าทำลายความน่าเชื่อถือ"ทักษิณ"
เมื่อเวลา 13.00น. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ และตระกูลชินวัตร แถลงข่าวกรณีปัญหารอยร้าวในรันเวย์และแท็กซี่เวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิที่ โรงแรมเซ็นทรัล โซฟิเทลว่า เป็นการพยายามโยงและทำลายความน่าเชื่อถือของพ.ต.ท.ทักษิณและรัฐบาลชุดที่ แล้ว ตนได้หารือกับพ.ต.ท.ทักษิณแล้วและได้รับคำสั่งให้ชี้แจงเรื่องนี้ว่า สนามบินแห่งนี้เป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ แม้จะมีข้อบกพร่องบ้าง เช่น รันเวย์และแท็กซี่เวย์ร้าว ท่อประปารั่ว ก็ต้องซ่อมแซม ผู้รับผิดชอบในส่วนใด ก็ต้องรับผิดชอบในส่วนนั้นๆ พ.ต.ท.ทักษิณสนับสนุนการตรวจสอบเต็มที่เพื่อหาผู้ที่รับผิดชอบ
นายนพดล กล่าวว่า มีการระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณต้องรับผิดชอบนั้นจะเกินไปสักหน่อย ตนคิดว่าไม่ควรใช้สนามบินแห่งนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง นำมาเป็นตัวประกัน หรือนำมาทำลายล้างพ.ต.ท.ทักษิณและรัฐบาลชุดที่แล้ว การสร้างบ้านนั้น เป็นเรื่องยาก แต่การซ่อมแซมนั้นไม่น่าจะยาก หากบ้านหลังนั้นรั่วจะทุบทิ้งหรือจะซ่อมแซม เรื่องนี้นั้นใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด พ.ต.ท.ทักษิณเป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรเข้าใจประเด็นนี้ด้วย
นายนพดล กล่าวว่า หากไปสอบถามคนไทยว่าสนามบินแห่งนี้เป็นความภูมิใจของคนไทยหรือไม่ ตนมั่นใจว่าคนส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็นความภูมิใจ การเร่งรัดการก่อสร้างสนามบินแห่งนี้ของรัฐบาลชุดที่แล้วนั้นสามารถกระทำได้ เป็นคนละประเด็นกับกรณีที่วิศวกรหรือผู้รับเหมาบอกว่าไม่สามารถทำได้ แต่กลับไปเร่งว่าต้องทำให้ได้ ตนไม่เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเร่งรัดโดยไม่รู้ว่าสิ่งที่เหมาะสมเป็นอย่างไร เพราะการเร่งรัดงานนั้นไม่ได้หมายความว่าไม่ได้คำนึงถึงหลักวิศวกรรม
"อนาคตนั้นหากประชาชนจะสนับสนุนพรรคใดก็จะดูผลงาน ในอดีต หากประชาชนเห็นว่าสนามบินแห่งนี้ควรจะมีอยู่ ประชาชนก็จะสนับสนุนพรรคนั้นๆ หากประชาชนไม่เห็นด้วยว่าใช้งบประมาณมากไป ประชาชนก็จะสนับสนุนพรรคอื่นๆ ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย การสร้างความเข้มแข็งให้กฎหมายและทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน นั้นเป็นความต้องการของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ต้องเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่กลั่นแกล้งกัน" นายนพดล กล่าว
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
................................
ของผมเก่ากว่าว่ะบัง
