PinkDevil wrote:
เข้ามาอ่านข้อมูลตัวเลขที่คุณ baezae ได้ช่วยรวบรวมให้ ขอตั้งขอสังเกตเรื่องหนึ้สาธารณะ
สาวกทักษิณชอบอ้างว่าเป็นเพราะหนี้ IMF ของรัฐบาลชวนทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วกู้มาตั้งแต่สมัยชวลิตที่มีทักษิณเป็นรองนายก ไม่ว่ากัน เอาเป็นว่ามีหนี้ IMF ก็มีหนี้ IMF แต่ถ้าไปพิจารณาตัวเลขแล้วจะเห็นว่าหหลังจากการใช้หนี้ IMF ที่เหลือทั้งหมดตามมติ ครม มกราคม 2546 ยอดหนี้โดยรวมหลังจากการใช้หนี้ไปแล้วไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลยเลย เพราะในเดือน ตุลาคม 2545 ยอดหนี้อยู่ที่ 2.94 ล้านล้านบาทหลังจากใช้หนี้ไปแล้วในเดือนมกราคม 2546 ยอดหนี้ในเดือนตุลาคม 2546 2547 อยู่ที่ 2.93 3.13 ล้านล้านบาท คือลดลงมาแค่ประมาณ 10,000 ล้านบาทในปลายปี แล้วตีกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3.13 ล้านล้านบาทในปีถัดมา
มองง่ายๆตรงไปตรงมาเลย คือ ทักษิณก็แค่กู้หนี้ใหม่ไปใช้หนี้ IMF แล้วแหกตาคนไทยเท่านั้นเอง แล้วการกู้ของทักษิณไม่ได้น้อยไปกว่าอภิสิทธิ์เลยเพราะดูจากตัวเลขสัดส่วนต่อ GDP ดังนั้น วาทกรรมดีแต่กู้ กู้มากที่สุดนั้น เป็นเพียงวาทกรรมที่มุ่งทำลายคู่แข่งทางการเมือง โดยปราศจากข้อมูลข้อเท็จจริงสนับสนุนอย่างที่สุด
ที่จริงการการก่อหนี้สาธารณะไม่ใช่เรื่องที่ผิด ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะทำก็ทำไปเถอะ ตราบใดที่สัดส่วนหนี้ต่อ GDP อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลกตอนนี้ สัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยที่อยู่ระดับ 45% ถือว่า อยู่ในระดับที่ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลในอนาคต และเมื่องลองเปรียบเทียบกับหลายๆประเทศในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ (68%) ฝรั่งเศส (78%) เยอรมัน (73%) หรือประเทศในทวีปอเมริกาอย่างอเมริกา (84%) แคนาดา (81%) ส่วนมาเลเซียทีมีระดับเศรษฐกิจใกล้เคียงกับไทย(55%) –ข้อมูลสัดส่วนหนี้ต่อ GDP ปี 2010 จาก IMF- สัดส่วหนี้สาธารณะของไทยก็ไม่ได้สูงไปกว่าประเทศเหล่านั้นเลย
สิ่งที่คนไทยควรจะมองน่าจะเป็นว่าเมื่อกู้มาแล้ว เงินกู้นั้นนำไปใช้ในโครงการอะไร เป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวมหรือไม่ เป็นโครงการที่มุ่งสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศหรือไม่ ประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นที่คนที่ไม่ชอบอภิสิทธิ์ควรยกขึ้นมาถกเถียงมากกว่าจะมานั่งพูดๆๆ ว่าดีแต่กู้ แล้วไม่มีอะไรต่อ สังคมไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการวิพากษ์วิจารณ์เลยด้วยซ้ำ
แต่สิ่งเดียวที่คนเหล่านั้นจะได้ก็คือความจริงที่ทิ่มแทงกลับไปว่า ทักษิณ ที่บูชาว่าเก่งนักเก่งหนานั้น เป็นเพียงคนไร้ฝีมือ ที่ไม่มีความสามารถอะไร นอกจากการโกหกแหกตาคนไทยด้วยความหน้าด้านปลิ้นปล้อนเท่านั้นเอง
เพิ่มเติมครับ เด๊วจะหาว่าสมัยคุณชวนไม่ทำอะไร
ตั้งแต่ประเทศไทยเกิดต้มยำกุ้งแล้ว รัฐบาลชวลิตกู้เงินจากแหล่งทุนต่างประเทศนั้น ไม่ได้เฉพาะมี IMF ผมจำชื่อไม่ได้แต่มีแหล่งเงินกู้อยู่อีก 2-3 แหล่ง ซึ่งในสมัยชวนนั้น ก็ใช้หนี้เงินกู้เหล่านี้ไปหมดแล้ว เนื่องจาก เงินกู้แหล่งอื่นมีดอกเบี้ยค่อนข้างแพงกว่า IMF และคิดว่าเป็นเพราะการวางแผนของรัฐบาลควรจะใช้หนี้เงินกู้แห่ลงไหนไปก่อน
ถ้าเทียบแล้ว ถ้าสมัยชวลิตกู้เงินกู้จากแหล่งอื่นๆ รวม 100% สมัยชวนก็ใช้หนี้เงินกู้ทั้งหมดไปถึง 50-60% ขาดแต่หนี้ IMF ถ้าจำตัวเลขไม่ผิดสมัยชวนใช้หนี้เฉพาะแหล่งนี้นี้ไป 20% พอ แม้วมาบริหารประเทศ ก็เอาเงินภาษีประชาชนเช่นเดียวกันใช้หนี้ IMF เช่นเดียวกับสมัยชวน คนก็เลยจำได้แต่หนี้ IMF คิดว่าเป็นผลงานของแม้ว ทั้งที่จริง มีอีกแหล่งเงินกู้ 2-3 แหล่ง ก็เป็นผลงานของรัฐบาลชวนเหมือนกันที่ใช้หนี้หมด ถ้าจะคิดตรรกะแบบนั้น
ปล เรื่องเปอร์เซ็นต์ไม่แน่ใจนัก อาจคลาดเคลื่อน ลองไปหาข้อมูลเพิ่มได้ เพราะพิมพ์เท่าที่จำเรื่องราวคราวๆได้ แต่ก็จำได้แม่นยำว่า สมัยชวนก็ใช้หนี้แหล่งเงินกู้อื่น ไม่น้อยกว่าสมัยแม้วที่ใช้หนี้ IMF