รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby nithiphat » Mon Jun 06, 2011 4:11 pm

ทุนสำรองเทียบกับประเทศอื่นก็ดูดี

Image
User avatar
nithiphat
 
Posts: 660
Joined: Sat Apr 24, 2010 7:33 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby คนในพื้นที่ » Mon Jun 06, 2011 4:18 pm

กระทู้ดีๆ มีสาระแบบนี้คงไม่มีเสื้อแดงคนไหนคอมเมนท์ :D

ผมว่าแม้วไม่ได้โม้นะ แค่เอาตัวเลขบงตัวมาพูด เช่นยอดรวมส่งออกสูง 4ล้านล้านกว่า แต่ไม่บอกว่าขาดดุลย์เท่าไรเพราะจบประโยคปุ๊บเสื้อแดงก็เฮฮฮฮ เลยไม่ไดรู้เรื่องกัน :D
User avatar
คนในพื้นที่
 
Posts: 202
Joined: Fri May 14, 2010 1:22 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby Torres_No9 » Mon Jun 06, 2011 8:07 pm

มาช่วยดันครับ ท่านใดมีข้อมูลอะไรน่าสนใจช่วยกันเอามาใส่ไว้นะครับ ผมอยากอ่าน :lol: :lol: :lol:
กลุ่มเพื่อนลูคัส ++
User avatar
Torres_No9
 
Posts: 1091
Joined: Thu May 20, 2010 2:47 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby chaturant » Mon Jun 06, 2011 9:06 pm

ไปแชร์เยอะๆครับ แชร์เว็บเสื้อแดงได้ยิ่งดี ลองไปให้มันแถดู จะเป็นแบบไหน ผมไม่มี login เว็บแดงเลย
User avatar
chaturant
 
Posts: 384
Joined: Mon Oct 13, 2008 11:41 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby แดง ขาว น้ำเงิน » Mon Jun 06, 2011 9:54 pm

Muupan Tang
เรื่องเงินสำรองนั้น ที่เพิ่มขึ้นเพราะมีกฏหมายเพิ่มเงินสำรวมระหว่างประเทศ เป็นสัดส่วนต่อ GDP ที่มากขึ้น (จากภาพเป็นมูลค่าที่ยังไม่หักเงินเฟ้อ) จึงไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดี สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดทางศก.ได้คือ บัญชีดุล, GDP,เงินคงคลัง,บัญชีหนี้สาธารณะ ซึ่งปัจจุบันพบว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีสภาพที่ย่ำแย่ลง หนี้สาธารณะสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ GDP ยังมีการเติบโตอยู่ แต่โตน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ และเมื่อแยกเป็นsectorแล้วก็มีการกระจุกตัวอยู่เฉพาะสาขาเท่านั้น ยิ่งทำให้ช่องว่างทางสังคมสูงขึ้น
ส่วนหนี้สาธารณะที่บอกเยอะคือเยอะมากกว่าเดิมจริง แต่เราต้องแบ่งว่าเราไปเปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วไม่ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับ"ความสามารถในการใช้หนี้"ด้วย เช่นเดียวกับGDP ที่เราไม่สามารถใช้เป็นมาตรในการวัดระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนาได้ เพราะอัตราการโตนั้นไม่เท่ากันอยู่แล้ว ของประเทศพัฒนาแล้วจะค่อนข้างคงตัว เพิ่มก็เพิ่มไม่มาก บางประเทศลดลง เพราะ๑.การถดถอยของจำนวนประชากร ๒.การย้ายฐานการผลิต ,แหล่งทำงาน ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศลดลง แต่ไม่ได้แปลงว่ารายได้ประชาชาติจะลดลงเสมอไป....ทั้งนี้ยังไม่ได้พิจารณาการลงทุนระหว่างรัฐ ในตราสารประเภทต่างๆ อย่างญี่ปุ่นหรือจีนนั้นก็มีการลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐบาลประเทศต่างๆไว้เพียบ ดิฉันว่าคุณกำลังจับแพะชนแกะอยู่รึเปล่าคะเนี่ย


เธอว์ว่าอย่างนี้ ท่านๆ ว่าอย่างไร :mrgreen:
"ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือคนโง่ ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือทาส" เพลโต้
User avatar
แดง ขาว น้ำเงิน
Moderator
 
Posts: 4943
Joined: Thu Feb 12, 2009 4:07 pm
Location: Earth

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby baezae » Mon Jun 06, 2011 10:18 pm

แดง ขาว น้ำเงิน wrote:
Muupan Tang
เรื่องเงินสำรองนั้น ที่เพิ่มขึ้นเพราะมีกฏหมายเพิ่มเงินสำรวมระหว่างประเทศ เป็นสัดส่วนต่อ GDP ที่มากขึ้น (จากภาพเป็นมูลค่าที่ยังไม่หักเงินเฟ้อ) จึงไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดี สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดทางศก.ได้คือ บัญชีดุล, GDP,เงินคงคลัง,บัญชีหนี้สาธารณะ ซึ่งปัจจุบันพบว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีสภาพที่ย่ำแย่ลง หนี้สาธารณะสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ GDP ยังมีการเติบโตอยู่ แต่โตน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ และเมื่อแยกเป็นsectorแล้วก็มีการกระจุกตัวอยู่เฉพาะสาขาเท่านั้น ยิ่งทำให้ช่องว่างทางสังคมสูงขึ้น
ส่วนหนี้สาธารณะที่บอกเยอะคือเยอะมากกว่าเดิมจริง แต่เราต้องแบ่งว่าเราไปเปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วไม่ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับ"ความสามารถในการใช้หนี้"ด้วย เช่นเดียวกับGDP ที่เราไม่สามารถใช้เป็นมาตรในการวัดระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนาได้ เพราะอัตราการโตนั้นไม่เท่ากันอยู่แล้ว ของประเทศพัฒนาแล้วจะค่อนข้างคงตัว เพิ่มก็เพิ่มไม่มาก บางประเทศลดลง เพราะ๑.การถดถอยของจำนวนประชากร ๒.การย้ายฐานการผลิต ,แหล่งทำงาน ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศลดลง แต่ไม่ได้แปลงว่ารายได้ประชาชาติจะลดลงเสมอไป....ทั้งนี้ยังไม่ได้พิจารณาการลงทุนระหว่างรัฐ ในตราสารประเภทต่างๆ อย่างญี่ปุ่นหรือจีนนั้นก็มีการลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐบาลประเทศต่างๆไว้เพียบ ดิฉันว่าคุณกำลังจับแพะชนแกะอยู่รึเปล่าคะเนี่ย


เธอว์ว่าอย่างนี้ ท่านๆ ว่าอย่างไร :mrgreen:


ดุลการค้าเราดีขึ้นครับ GDP เทียบกับ ณ เมื่อปี ๓๑ เราก็ดีขึ้น เงินคงคลังก็สูงขึ้นด้วยอัตราส่วนที่มากกว่า บัีญชีหนี้สาธารณะก็ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับปีเหลี่ยม เช่นกัน อัตราเงินเฟ้อก็ต่ำกว่า สมัยเหลี่ยมสูงสุดช่วง ๔๘ ถึง ๔๙ อยู่ร้อยละ ๔.๖ ปัจจุบันอยู่ที่ ๓ กว่า ๔

http://www.tradingeconomics.com/thailand/inflation-cpi

หนี้สาธารณะสูงขึ้นจริงตามจำนวนเงินครับ แต่ปริมาณเมื่อเทียบกับรายได้กลับลดต่ำลง GDP ณ เมื่อปี ๕๓ โตเป็นอันดับสองรองจากสิงคโปร์

เหล่านี้มีในตารางในหน้าแรกพร้อมหมดแล้ว ส่วนในลิงค์ถัดมาเป็นอัตราการเพิ่มของจีดีพี เมื่อเทียบกับปี ๕๓ (เพื่อตัดประเด็นค่าเงินที่เปลี่ยนไป) ซึ่งเราอยู่อันดับ ๒๒ ของโลก เป็นที่ ๒ ในภูมิภาคอาเซียนรองจากสิงคโปร์

http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_real_GDP_growth_rate_(latest_year)

ความสามารถในการใช้หนี้เราก็สูงมากขึ้น ปัจจุบันเราใช้หนี้ได้ตกเดือนละ ๑ หมื่นล้าน แถมมีเงินส่งคลังเยอะกว่าด้วย ต้นปี ๕๔ ส่งเข้ากว่า ๓ แสนล้าน

http://thairecent.com/Business/2011/867220/

http://www.oknation.net/blog/sigree/2011/05/20/entry-4

การลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศต่างก็เพิ่มมากขึ้น ภายในมีผู้ขอรับการลงทุนเพิ่มร้อยละ ๑๓ จากต่างประเทศก็เพิ่ม

The board of investment of Thailand เปิดเผยตัวเลขการลงทุนจากภายในประเทศในไตรมาสแรก ปี ๕๔ พบว่ามูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนช่วง มค ๕๔ ถึง มีค ๕๔ มีมูลค่าถึง ๑๑๗๘๐๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๓ จากช่วงเวลาเดียวกันในปี ๒๕๕๓ โดยเฉพาะในกลุ่มปิโตรเคมี กระดาษ และพลาสติก เพิ่มขึ้นถึง ๑๐ เท่า ส่วนกลุ่มที่รองลงมาก็เป็นอุตสาหกรรมบริการและก่อสร้าง อิเลคทรอนิคและไฟฟ้าตามลำดับ จำนวนโครงการที่ลงทุน ๔๕๓ โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๕๘ เมื่อเปรียบเทียบรายปี

ส่วนทางจากต่างประเทศ มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ ๗๐๑๑๑ ล้านบาท โดยร้อยละ ๕๐ มาจากทางญี่ปุ่น เน้นหนักทางด้านอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โดยอัตราเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๗๕ จากปี ๕๓

http://www.boi.go.th/english/about/statistics.asp

ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญเปรียบเทียบรัฐบาลอภิสิทธิ์ กับทักษิณ สมัคร สมชาย ไม่ว่ายกตัวไหนขึ้นมาเสื้อแดงก็หน้าหงายหมดครับ
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้
ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้
แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว
User avatar
baezae
 
Posts: 1144
Joined: Thu Feb 18, 2010 10:43 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby PinkDevil » Tue Jun 07, 2011 12:35 am


เอาเรื่องกฎหมายเพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศต่อ GDP

ลองไปพิจารณาที่มาที่ไปของทุนสำรองระหว่างประเทศซึ่งได้เขียนอธิบายไปแล้ว แต่ขออธิบายหลักการเกี่ยวกับการคิด ดุลบัญชีการชำระเงิน หรือที่รู้จักกันว่า balance of payment ในแต่ละปี

มูลค่าการส่งออกสินค้า – มูลค่าการนำเข้าสินค้า = ดุลการค้า ของแต่ละปี
มูลค่าการส่งออกสินค้าบริการ – มูลค่าการนำเข้าสินค้าบริการ = ดุลบริการ ของแต่ละปี
ดุลการค้า + ดุลบริการ + เงินโอนสุทธิ + รายได้สุทธิ = ดุลบัญชีเดินสะพัด ของแต่ละปี
เงินทุนไหลเข้า-เงินทุนไหลออก= เงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิ ของแต่ละปี
ดุลบัญชีเดินสะพัด + เงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิ = ดุลการชำระเงิน ของแต่ละปี

ดุลการชำระเงิน = เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในปีนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ดุลการชำระเงินจะเกินดุลหรือขาดดุล

ขออนุญาตยกตัวอย่างเป็นตัวเลขให้เห็นชัดๆ ในปี 25XX ประเทศไทย
ส่งออกสินค้า >>>>> 200 ล้านเหรียญ
นำเข้าสินค้า>>>>>> 150 ล้านเหรียญ
ส่งออกบริการ>>>>>300 ล้านเหรียญ รายได้ส่วนใหญ่ในภาคบริการของไทย คือ รายได้จากการท่องเที่ยว
นำเข้าบริการ>>>>>>200 ล้านเหรียญ รายจ่ายที่คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ ซื้อบริการอื่นๆจากต่างประเทศ
เงินทุนไหลเข้า>>>>>300 ล้านเหรียญ การลงทุนจากต่างประเทศในระยะยาว หรือ การลงทุนในระยะสั้น
เงินทุนไหลออก>>>>100 ล้านเหรียญ คนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ

ดุลการชำระเงิน = (200-150)+(300-200)+(300-100) = 350

ดังนั้น ทุนสำรองระหว่างประเทศในรอบระยะปี 25XX จะเพิ่มขึ้น 350 ล้านเหรียญ

สมมุติในปีก่อนหน้า 25XX ประเทศไทยมีทุนสำรองสะสมอยู่ที่ 1000 ล้านเหรียญ หมายความว่า ณ สิ้นปี 25XX ประเทศไทยจะมียอดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 1350 ล้านเหรียญ โดยเพิ่มขึ้นมา 350 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นยอดรายรับสุทธิจากต่างประเทศ ที่ประเทศไทยสามารถหาได้ในปีนั้นๆ

ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่จะมีการออกกฎหมายว่าจะต้องเก็บรักษาเงินทุนสำรองเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ของ GDP ตามที่กล่าวอ้าง เพราะเงินตราต่างประเทศที่เกินดุลการชำระเงินเข้ามาจะต้องถูกโอนเข้าไปสู่กองทุนเงินสำรองทั้งหมด อาจจะกระจายแค่ว่าจะเก็บอยู่ในรูปของสินทรัพย์ชนิดใดเท่านั้น ซึ่งปกติธนาคารแห่งประเทศไทยจะเก็บรักษาในรูปของเงินตราต่างประเทศ ซึ่งถ้าไปดูรายงานจากบัญชีของธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2522 ก็ใช้หลักการนี้ในการจัดทำดุลบัญชีการชำระเงินและตัวเลขทุนสำรองก็จะมีที่มาที่ไปอย่างที่ได้แสดงไปข้างต้น นอกจากนั้นแล้วด้วยลักษณะที่ทุนสำรองมีลัษณะเป็น stock ขณะที่ GDP มีลักษณะเป็น flow มันไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบเป็นสัดส่วนกันได้ เพราะถ้าปีต่อไป รัฐบาลบริหารประเทศได้ห่วยมากๆ GDP เติบโตติดลบ ทำให้ตัวเลขรวมของ GDP น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ให้ตัวเลขทุนสำรองระหว่างประเทศเท่าเดิม รัฐบาลไม่สามารถหาเพิ่มได้เลย สัดส่วนต่อ GDP ก็เพิ่มมากขึ้นสิ (ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ) เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว

และเมื่อไปพิจารณา พรบ เงินตรา 2501 ที่กำหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีหน้าที่ในการบริหารเงินทุนสำรอง และเก็บรักษาเงินทุนสำรอง ครั้งล่าสุดที่มีการแก้ไข คือ ในปี 2545 ที่กำหนดให้มีการโอนเงินจำนวน หนึ่งแสนหกหมื่นห้าพันล้านบาท จากบัญชีสำรองพิเศษให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อชดเชยการขาดทุนของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีผู้รับสนองพระบรมราชโองการชื่อ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร

ในเมื่อบุคคลท่านนั้นอ้างว่ามีกฎหมายที่กำหนดว่าให้มีการกันเงินสำรองระหว่างประเทศเป็นสัดส่วนต่อ GDP ที่เพิ่มมากขึ้น คงต้องเป็นหน้าที่ของบุคคลท่านนั้นต้องนำกฎหมายฉบับที่ว่ามาแสดงแล้วล่ะคะ ดิฉันก็อยากเห็น อยากได้เป็นข้อมูลเหมือนกัน เพราะอาจจะหลงหูหลงตาไป
Last edited by PinkDevil on Thu Jun 09, 2011 8:45 pm, edited 1 time in total.
To dream the impossible dream
To fight the unbeatable foe
To bear with unbearable sorrow
To run where the brave dare not go
To right the unrightable wrong
To love pure and chaste from afar
To try when your arms are weary
To reach the unreachable star
User avatar
PinkDevil
 
Posts: 835
Joined: Sat Feb 07, 2009 1:12 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby Torres_No9 » Tue Jun 07, 2011 7:31 am

ดังใหญ่ละท่านทั้งหลายที่รวบๆข้อมูล Team-Korn เอาตารางของ Team-Ku ในนี้ไปลงใน FB ด้วยน๊าเนี๊ยะ ++
กลุ่มเพื่อนลูคัส ++
User avatar
Torres_No9
 
Posts: 1091
Joined: Thu May 20, 2010 2:47 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby PinkDevil » Tue Jun 07, 2011 7:45 am


ขอยกประเด็นเฉพาะการเปรียบเทียบหนี้สาธารณะกับประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนรายละเอียดเรื่องหนี้สาธารณะได้อธิบายไปแล้วในหน้าแรก

ในการเปรียบเทียบหนี้สาธารณธระหว่างประเทศสองประเทศ โดยปกติจะไม่ใช้ยอดหนี้รวมหรือ gross term เพราะว่าขนาดเศรษฐกิจ และค่าเงินที่แตกต่างกัน แต่จะใช้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ในการเปรียบเทียบ ซึ่งจากตัวเลขที่ได้ยกมาและที่คุณ Mahasura ได้จัดทำเป็นแผนภูมิก็แสดงให้เห็นว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยต่อ GDP ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 45 น้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วในยุโรปหลายๆประเทศด้วยซ้ำ และถ้ายิ่งเปรียบเทียบกับสมัยทักษิณ ยกเว้นปี 2549 (ซึ่งเป็นปีสุดท้ายเพียงปีเดียว) สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงกว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ทุกปี (ประเด็นเรื่องหนี้ IMF ได้อธิบายแล้วในหน้าแรกถ้าสงสัยกลับไปอ่านได้) ส่วนความสามารถในการใช้หนี้ นั้นโดยปกติจะพิจาณาจากสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP

สำหรับประเด็นที่บอกว่าไม่สามารถเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น คนที่ยกประเด็นนี้ต้องอธิบายว่าทำไมไม่ได้ ไม่ใช่มาบอกด้วนๆว่าไม่ได้โดยไม่มีเหตุผลประกอบ หรือว่าไม่ได้เพราะถ้าเปรียบเทียบแล้วจะทำให้วาทกรรมดีแต่กู้ที่พรรคเพื่อไทยสร้างขึ้นมาเป็นเพียงเรื่องโกหกใส่ร้าย
Last edited by PinkDevil on Tue Jun 07, 2011 8:01 am, edited 1 time in total.
To dream the impossible dream
To fight the unbeatable foe
To bear with unbearable sorrow
To run where the brave dare not go
To right the unrightable wrong
To love pure and chaste from afar
To try when your arms are weary
To reach the unreachable star
User avatar
PinkDevil
 
Posts: 835
Joined: Sat Feb 07, 2009 1:12 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby คนบาป » Tue Jun 07, 2011 7:56 am

Torres_No9 wrote:ดังใหญ่ละท่านทั้งหลายที่รวบๆข้อมูล Team-Korn เอาตารางของ Team-Ku ในนี้ไปลงใน FB ด้วยน๊าเนี๊ยะ ++


อธิบายด้วยกร๊าฟ ใส่คำอธิบายสั้นๆ เปรียบเทียบ 2 รัฐบาลให้เห็นชัด ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby คนบาป » Tue Jun 07, 2011 8:00 am

PinkDevil wrote:
ขอยกประเด็นเฉพาะการเปรียบเทียบหนี้สาธารณะกับประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนรายละเอียดเรื่องหนี้สาธารณะได้อธิบายไปแล้วในหน้าแรก

ในการเปรียบเทียบหนี้สาธารณธระหว่างประเทศสองประเทศ โดยปกติจะไม่ใช้ยอดหนี้รวมหรือ gross term เพราะว่าขนาดเศรษฐกิจ และค่าเงินที่แตกต่างกัน แต่จะใช้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ในการเปรียบเทียบ ซึ่งจากตัวเลขที่ได้ยกมาและที่คุณ Mahasura ได้จัดทำเป็นแผนภูมิก็แสดงให้เห็นว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยต่อ GDP ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 45 น้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วในยุโรปหลายๆประเทศด้วยซ้ำ และถ้ายิ่งเปรียบเทียบกับสมัยทักษิณ ยกเว้นปี 2549 (ซึ่งเป็นปีสุดท้ายเพียงปีเดียว) สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงกว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ทุกปี (ประเด็นเรื่องหนี้ IMF ได้อธิบายแล้วในหน้าแรกถ้าสงสัยกลับไปอ่านได้) ส่วนความสามารถในการใช้หนี้ นั้นโดยปกติจะพิจาณาจากสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP

สำหรับประเด็นที่บอกว่าไม่สามารถเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น คนที่ยกประเด็นนี้ต้องอธิบายว่าทำไม่ได้ ไม่ใช่มาบอกด้วนๆว่าไม่ได้โดยไม่มีเหตุผลประกอบ หรือว่าไม่ได้เพราะถ้าเปรียบเทียบแล้วจะทำให้วาทกรรมดีแต่กู้ที่พรรคเพื่อไทยสร้างขึ้นมาเป็นเพียงเรื่องโกหกใส่ร้าย


คนที่บอกว่าเปรียบเทียบไม่ได้ ทำไม ไอเอ็มเอฟ ประเมินได้...คนที่บอกเปรียบเทียบไม่ได้คือไม่ยอมเปรียบเทียบต่างหาก
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby psapsa » Tue Jun 07, 2011 9:24 pm

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ แต่สงสัยนิดนึงตรงข้อมูลตัวเดียวกันของคุณ zereza กับ คุณ MahaAsura หลายตัวไม่ตรงกัน เช่น ตัวเลขส่งออกปี 53 5.85 กับ 6.17 ล้านล้านบาท ถ้าผมดูผิดไปกรุณาแนะนำด้วยครับ
User avatar
psapsa
 
Posts: 5
Joined: Wed May 11, 2011 6:34 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby baezae » Tue Jun 07, 2011 9:52 pm

psapsa wrote:ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ แต่สงสัยนิดนึงตรงข้อมูลตัวเดียวกันของคุณ zereza กับ คุณ MahaAsura หลายตัวไม่ตรงกัน เช่น ตัวเลขส่งออกปี 53 5.85 กับ 6.17 ล้านล้านบาท ถ้าผมดูผิดไปกรุณาแนะนำด้วยครับ


คิดว่าน่าจะต่างกันเพราะช่วงเวลาในการประเมินครับ

บางหน่วยงานประเมินตอนสิ้นไตรมาส ๔ บางหน่วยงานประเมินตอน ธ.ค. บางหน่วยงานประเมินกลางปี ขึ้นอยู่กับแหล่งที่นำข้อมูลมาครับ

อย่างข้อมูลธนาคารโลก กับ imf บางทีก็จะคลาดเคลื่อนกันนิดหน่อยเป็นทศนิยมแบบนี้ครับ
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้
ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้
แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว
User avatar
baezae
 
Posts: 1144
Joined: Thu Feb 18, 2010 10:43 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby MahaAsura » Tue Jun 07, 2011 10:02 pm

ผมเข้าใจตามที่ คุณ baezae ตอบนะครับ
ซี่งไม่แน่ใจว่า ข้อมูลตั้งแต่ปี 43-52 ดูเหมือนคุณ baezae จะขอใช้ข้อมูลจากของผมนะครับ
ส่วน 53 น่าจะหามาเพิ่ม ซี่งมาจากคนละหน่วยงานที่ใช้เวลาการประเมินคนละช่วงเวลา

สำหรับ แหล่งข้อมูลที่ผมอ้างอิง มาจากธนาคารแห่งประเทศไทยนะครับ ตารางแรก [ EC_XT_001 : สินค้าออกและสินค้าเข้าจำแนกตามกลุ่มสินค้า ]
ดู sheet Yearly นะครับ

http://www.bot.or.th/Thai/Statistics/Ec ... Trade.aspx

;)

baezae wrote:
psapsa wrote:ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ แต่สงสัยนิดนึงตรงข้อมูลตัวเดียวกันของคุณ zereza กับ คุณ MahaAsura หลายตัวไม่ตรงกัน เช่น ตัวเลขส่งออกปี 53 5.85 กับ 6.17 ล้านล้านบาท ถ้าผมดูผิดไปกรุณาแนะนำด้วยครับ


คิดว่าน่าจะต่างกันเพราะช่วงเวลาในการประเมินครับ

บางหน่วยงานประเมินตอนสิ้นไตรมาส ๔ บางหน่วยงานประเมินตอน ธ.ค. บางหน่วยงานประเมินกลางปี ขึ้นอยู่กับแหล่งที่นำข้อมูลมาครับ

อย่างข้อมูลธนาคารโลก กับ imf บางทีก็จะคลาดเคลื่อนกันนิดหน่อยเป็นทศนิยมแบบนี้ครับ
User avatar
MahaAsura
 
Posts: 70
Joined: Sun Jan 23, 2011 8:58 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby phoosana » Tue Jun 07, 2011 10:56 pm

เปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วนี่ประเทศไหน

สเปน ที่คนว่างงานมากกว่า 20%
หรือจะเอาประเทศกรีซ

:lol: :lol: :lol: :lol:
We love fender.
User avatar
phoosana
 
Posts: 2608
Joined: Tue Jan 27, 2009 11:13 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby Torres_No9 » Wed Jun 08, 2011 3:05 am

มานั่งดูตารางที่อันบนสุดตัวเลข GDP ของเราในตารางไม่มีปีไหนติดลบ
GDP ปี 2552 เราติดลบ 2.3% อยากทราบสาเหตุที่มาของการติดลบนิดนึงครับ
ท่านใดมีข้อมูลแชร์หน่อยครับ ขอบคุณครับ ++

ปล. คิดถึงคุณคลำปมจัง หลังจากอ่านข้อมูลในกระทู้นี้ ++
กลุ่มเพื่อนลูคัส ++
User avatar
Torres_No9
 
Posts: 1091
Joined: Thu May 20, 2010 2:47 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby คนบาป » Wed Jun 08, 2011 3:09 am

วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby Torres_No9 » Wed Jun 08, 2011 3:23 am

คนบาป wrote:วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์


อันนั้นทราบอยู่ครับ เพราะวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์มันตั้งแต่ปี 2551
แต่อยากรู้ข้อมูลเปรียบเทียบประเทศอื่นๆ ว่าเค้ามีอัตราตัวเลข
ในช่วงปี 2552 กันนั้นเป็นยังไงกันบ้างอ่ะครับ :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
กลุ่มเพื่อนลูคัส ++
User avatar
Torres_No9
 
Posts: 1091
Joined: Thu May 20, 2010 2:47 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby PinkDevil » Wed Jun 08, 2011 3:24 am


GDP หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ คือ รายได้รวมของประเทศไทย ในปี 2553 ตามรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย อยู่ที่ประมาณ 10.1 ล้านล้านบาท ณ ราคาปัจจุบัน โตจากปี 2552 ร้อยละ 11 ในขณะที่ ในปี 2551 (รัฐบาลพลังประชาชน) GDP ของไทยอยู่ 8.5 ล้านล้านบาท

อาจจะมีบางคนบอกว่าดูแค่ตัวเลขเฉยๆก็ต้องมากกว่า เพราะ มีอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นลองไปดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ณ ราคาคงที่ (ซึ่งประเทศไทยใช้ราคาในปี 2531 เป็นฐาน โดยจะนำ GDP คิดย้อนกลับไปว่าในปี 2531 มีค่าเท่ากับเท่าไหร่ เพื่อตัดปัญหาเรื่องอัตตราเงินเฟ้อออกไป) พบว่า GDP ของไทยในปี 2553 ณ ราคาคงที่ อยู่ที่ 4.59 ล้านล้านบาท โตขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 7.8 ซึ่ง GDP อยู่ที่ 4.26 ล้านล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับระดับ GDP ในปี 2551 ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง GDP ปี 2551 อยู่ที่ 4.36 ล้านล้านบาท

จะเห็นได้ว่าปีแรกที่เข้ามาทำงาน GDP มีอัตราการเติบโตติดลบ คือติดลบร้อยละ 2.3 ทั้งๆที่ตอนนั้นมีการคาดการณ์จากทั้ง imf adb หรือแม้กระทั่งจากหัวหน้าทีมเศรฐกิจเพื่อไทย (ดร โอฬาร ไชยประวัติ)ว่าจะต้องติดลบประมาณร้อยละ 4 แต่ติดลบจริงร้อยละ 2.3 แล้วถ้าพิจารณาอัตราการเติบโตของ GDP ของประเทศต่างในปี 2552 (ณ ราคาคงที่ ตัดปัจจัยเงินเฟ้อออกไปแล้ว) ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย (-1.71) สิงคโปร์ (-1.28) เกาหลีใต้ (0.19) บราซิล (-0.18) ฝรั่งเศส (-2.54) อังกฤษ (-4.89) เดนมาร์ค (-4.7) และอเมริกา (-2.63) – ข้อมูล IMF ปี 2009– จะเห็นได้ว่าในช่วงปี 2552 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีปัญหาอันเนื่องมาจากวิกฤตการเงินทั้งในอเมริกาและยุโรป ส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆทั่วโลก และไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น

ปีต่อมาคือปี 2553 ภายใต้บรรยากาศทางการเมืองที่คุกรุ่น เศรษฐกิจโลกก็ยังซบเซา แต่สามารถบริหารงานพาประเทศฝ่าฟันมาได้ แถม GDP ยังเติบโตอัตราที่สูง คือ ร้อยละ 7.8 คนที่ไม่ชอบอภิสิทธิ์จะไม่มีความเป็นธรรมในหัวใจให้เครดิต คนทำงานหน่อยหรือ ????
Last edited by PinkDevil on Wed Jun 08, 2011 4:09 am, edited 1 time in total.
To dream the impossible dream
To fight the unbeatable foe
To bear with unbearable sorrow
To run where the brave dare not go
To right the unrightable wrong
To love pure and chaste from afar
To try when your arms are weary
To reach the unreachable star
User avatar
PinkDevil
 
Posts: 835
Joined: Sat Feb 07, 2009 1:12 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby baezae » Wed Jun 08, 2011 3:34 am

Torres_No9 wrote:มานั่งดูตารางที่อันบนสุดตัวเลข GDP ของเราในตารางไม่มีปีไหนติดลบ
GDP ปี 2552 เราติดลบ 2.3% อยากทราบสาเหตุที่มาของการติดลบนิดนึงครับ
ท่านใดมีข้อมูลแชร์หน่อยครับ ขอบคุณครับ ++

ปล. คิดถึงคุณคลำปมจัง หลังจากอ่านข้อมูลในกระทู้นี้ ++


ดูอันนี้ปุ๊บ จะเข้าใจปั๊บเลยครับ เป็นแผนภูมิแสดงอัตราการเจริญเติบโตของจีดีพีของปี 08 - 09 ราย 3 เดือน เริ่มที่ ตค. ของแต่ละปี

http://www.tradingeconomics.com/thailand/gdp-growth
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้
ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้
แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว
User avatar
baezae
 
Posts: 1144
Joined: Thu Feb 18, 2010 10:43 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby MahaAsura » Wed Jun 08, 2011 4:01 am

วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ส่งผลถึงปี 52 นะครับ อย่างไตรมาสสุดท้าย ปี 51 นี่ ไทย ติดลบ 4.3% ไตรมาสแรกปี 52 ติดลบมากกว่า 5% ครับ
ถ้าจำข่าวปีนั้นได้ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจสมัยนายกฯสมัคร คือ นายโอฬาร ไชยประวัติ ทำนายว่า ปี 52 ไทยติดลบ 4 หรือ 5% มากสุดในโลก
และคุณกรณ์แถลงข่าวว่าเป็นไปไม่ได้ ซึ่งคุณกรณ์ก็ทำได้จริงๆ แต่ต้องขอบคุณเสื้อแดงที่ไม่เผาเมืองข้ามปีข้ามชาติ เพราะไตรมาสสุดท้ายปี 52
GDP ไทยโตประมาณ 5.8% เนื่องจาก การใช้จ่ายครัวเรือน การลงทุนเอกชน และการส่งออกปรับตัวดีขึ้น เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ดุลการค้าของไทยดีมาก
รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นจากราคาพืชผลสูงขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติเชื่อมั่นและเดินทางมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น ตัวเลขการจ้างงานก็ดีขึ้น อัตราการว่างงานลดลง

ขอบคุณที่เรามีรัฐมนตรีคลังโลก ;)

Image
ข้อมูลจาก IMF :http://www.imf.org/external/pubs/ft/weo/2011/01/weodata/index.aspx

จากกราฟจะเห็นว่า มีไม่กี่ประเทศที่ GDP บวกส่วนใหญ่ บิ๊กเนม จะติดลบกันหมด

Torres_No9 wrote:
คนบาป wrote:วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์


อันนั้นทราบอยู่ครับ เพราะวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์มันตั้งแต่ปี 2551
แต่อยากรู้ข้อมูลเปรียบเทียบประเทศอื่นๆ ว่าเค้ามีอัตราตัวเลข
ในช่วงปี 2552 กันนั้นเป็นยังไงกันบ้างอ่ะครับ :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
Last edited by MahaAsura on Wed Jun 08, 2011 8:19 am, edited 1 time in total.
User avatar
MahaAsura
 
Posts: 70
Joined: Sun Jan 23, 2011 8:58 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby Torres_No9 » Wed Jun 08, 2011 4:21 am

ต้องขอบคุณข้อมูลที่หลายๆท่าน ณ ที่นี้ ที่ได้ค้นหา,รวบรวม และนำมาแบ่งปันกัน
แต่คนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้อาจจะไม่ทราบว่าบุคคลที่เป็นนำมาสู่จุดเริ่มต้นของการนำข้อมูลดีๆ
เหล่านี้มาโพสแบ่งปันกันใน ส.ร.ท. คือ "มะแอศิษย์บังโม" เสื้อแดงพันธุ์แท้แห่ง ส.ร.ท.
แฟนขับมาร์คนาซี ด้วยคำพูดสั้นๆเพียง 2 ประโยค

มะแอศิษย์บังโม wrote:ทักษิณ 6 ปี กับ ม๊ากนาซี 2 ปี ใครกู้มากกว่ากัน

กู้น้อยกว่า แถมมีเงินจ่ายคืนไอเอ็มเอฟหมดก่อนสัญญา


viewtopic.php?f=2&t=35997

ทำให้เพื่อนสมาชิกหลายท่านต้องนำข้อมูลจริงมาแบ่งปันมาแสดงให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ขอบคุณครับบังโม ++
กลุ่มเพื่อนลูคัส ++
User avatar
Torres_No9
 
Posts: 1091
Joined: Thu May 20, 2010 2:47 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby psapsa » Wed Jun 08, 2011 11:10 am

MahaAsura wrote:ผมเข้าใจตามที่ คุณ baezae ตอบนะครับ
ซี่งไม่แน่ใจว่า ข้อมูลตั้งแต่ปี 43-52 ดูเหมือนคุณ baezae จะขอใช้ข้อมูลจากของผมนะครับ
ส่วน 53 น่าจะหามาเพิ่ม ซี่งมาจากคนละหน่วยงานที่ใช้เวลาการประเมินคนละช่วงเวลา

สำหรับ แหล่งข้อมูลที่ผมอ้างอิง มาจากธนาคารแห่งประเทศไทยนะครับ ตารางแรก [ EC_XT_001 : สินค้าออกและสินค้าเข้าจำแนกตามกลุ่มสินค้า ]
ดู sheet Yearly นะครับ

http://www.bot.or.th/Thai/Statistics/Ec ... Trade.aspx

;)

baezae wrote:
psapsa wrote:ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ แต่สงสัยนิดนึงตรงข้อมูลตัวเดียวกันของคุณ zereza กับ คุณ MahaAsura หลายตัวไม่ตรงกัน เช่น ตัวเลขส่งออกปี 53 5.85 กับ 6.17 ล้านล้านบาท ถ้าผมดูผิดไปกรุณาแนะนำด้วยครับ


คิดว่าน่าจะต่างกันเพราะช่วงเวลาในการประเมินครับ

บางหน่วยงานประเมินตอนสิ้นไตรมาส ๔ บางหน่วยงานประเมินตอน ธ.ค. บางหน่วยงานประเมินกลางปี ขึ้นอยู่กับแหล่งที่นำข้อมูลมาครับ

อย่างข้อมูลธนาคารโลก กับ imf บางทีก็จะคลาดเคลื่อนกันนิดหน่อยเป็นทศนิยมแบบนี้ครับ


ขอบคุณอีกทีครับ :D
User avatar
psapsa
 
Posts: 5
Joined: Wed May 11, 2011 6:34 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby หนูอ้อย » Wed Jun 08, 2011 2:34 pm

ขอบคุณที่อนุญาตให้นำข้อมูลไปใช้
ดันอีกทีค่ะ
สู้ถวายหัว
User avatar
หนูอ้อย
 
Posts: 2095
Joined: Sat Mar 21, 2009 10:40 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby Jeh_Pen » Wed Jun 08, 2011 5:33 pm

จากตารางนี้

Image

ผมเอาไปให้เสื้อแดงบางคนดู เค้าเถียงกลับมาว่า ตั้งแต่ 43 ถึง 51 หนีสาธารณะลดลงมาเรื่อยๆ หมายความยังไง

แต่พอหลังปี 51 กลับเพิ่มขึ้น หมายความว่าไง
User avatar
Jeh_Pen
 
Posts: 725
Joined: Sat Apr 02, 2011 1:29 pm


Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby jaojao48 » Wed Jun 08, 2011 6:12 pm

ชาวบ้านร้องจ๊าก หลังผักชีปรับราคาขึ้น 43-45 บาทต่อกิโลกรัม

ส่งผลให้ราคาล่าสุดของผักชีอยู่ที่กิโลกรัมละ 180 บาท


:mrgreen: :mrgreen:

ต่อไปก็เป็นผักชีทองคำ ไม่แพงตอนมาร์ค

แล้วจะแพงตอนไหน
User avatar
jaojao48
 
Posts: 1063
Joined: Wed Oct 15, 2008 4:31 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby phoosana » Wed Jun 08, 2011 7:50 pm

เขาดูเศรษฐกิจในภาพรวม

นี่มาจากไหนผักชีแพง

หรือต้องเอาผักชีเป็นตัวดัชนีชี้วัด

เศรษฐกิจทั่วโลก :lol:
We love fender.
User avatar
phoosana
 
Posts: 2608
Joined: Tue Jan 27, 2009 11:13 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby คนบาป » Wed Jun 08, 2011 8:17 pm

Jeh_Pen wrote:จากตารางนี้

Image

ผมเอาไปให้เสื้อแดงบางคนดู เค้าเถียงกลับมาว่า ตั้งแต่ 43 ถึง 51 หนี้สาธารณะลดลงมาเรื่อยๆ หมายความยังไง

แต่พอหลังปี 51 กลับเพิ่มขึ้น หมายความว่าไง


วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ เกิดขึ้นทั่วโลก สมัยรัฐบาลสมัคร-สมชาย นั่นแหละครับ เลยต้องกู้มาแก้วิกฤติ

ผมไม่มีตัวเลขกู้ แต่เข้าใจว่ากู้ในเมืองไทยมากกว่ากู้เมืองนอก

และเมื่อเทียบกับทักษิณ กลับกู้น้อยกว่าเมื่อเทียบเป็นสัดส่วนต่อ GDP

เวลาเปรียบเทียบ 2 รัฐบาลต้องเทียบลักษณะวงจรเศรษฐกิจด้วยนะครับ ปลายรัฐบาลชวนปี 2543 เศรษฐกิจเริ่มฟื้น กร๊าฟมีแนวโน้มเชิดหัวขึ้นแล้ว

แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เข้ามาในภาวะวิกฤติ เศรษฐกิจมีท่าทีดิ่งเหว ซึ่งทุกคนมองว่า เด็กน้อยสองคนจะเอาไม่อยู่ บางคนบอกว่าอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือนด้วยซ้ำ

แต่ไม่รู้เป็นยังไง ตลาดหุ้นพุ่งกว่า 150 %
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby zereza » Wed Jun 08, 2011 8:45 pm

Jeh_Pen wrote:จากตารางนี้

Image

ผมเอาไปให้เสื้อแดงบางคนดู เค้าเถียงกลับมาว่า ตั้งแต่ 43 ถึง 51 หนีสาธารณะลดลงมาเรื่อยๆ หมายความยังไง

แต่พอหลังปี 51 กลับเพิ่มขึ้น หมายความว่าไง


เอาไปโดดๆอย่างนั้นก็โดนยำสิครับ กราฟที่เอาไปต้องเทียบกับดัชนีทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ถ้าเราจะเอาไปบอกว่าสมัยทักษิณหนี้สาธารณะมันสูง กราฟที่เอาไปมันไม่สื่อครับ ต้องเอาตัวอื่นไปใช้เปรียบเทียบ เช่นกราฟดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจในช่วงนั้นๆว่าเป็นอย่างไร เรื่องแบบนี้เค้าไม่มาเสียเวลานั่งหาเองหรอกครับ เราต้องเอาไปป้อนถึงที่

Image

กราฟนี้แสดง SET index ย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ 2544 - 2554 ครับ

กราฟที่นำเสนอกันนั้น ถ้าจะให้ดีแนบ SET index ไปด้วยนะครับ (ผมทำไม่เป็น ฝากท่านอื่นด้วย)
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง"
"อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
User avatar
zereza
 
Posts: 1312
Joined: Mon Apr 26, 2010 6:03 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ