รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby Sweet Chin Music » Sat Jun 25, 2011 12:33 am

พึ่งเห็นกระทู้นี้แฮะ ขอลงชื่อก่อน เดี๋ยวจะไล่อ่านตอนว่างๆ
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby papa05 » Sat Jun 25, 2011 9:13 am

ตามหามานาน ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล :D :D :D เดี๋ยวขอเอาไปตบกบาลพลพรรคจอมแถหน่อย
ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว

ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟันผองถัยด้วยใจทนง
[b]

http://www.facebook.com/?ref=home#!/home.php?sk=group
User avatar
papa05
 
Posts: 451
Joined: Sun May 23, 2010 9:04 pm
Location: WWW.satnumber.com

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby OOOOO » Sat Jun 25, 2011 3:36 pm

Gop wrote:ความจริงอีกอย่างคือ สองสามปีมานี้ แทบทุกคอนโดที่สร้าง ถูกจองเต็มหมดตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ แสดงให้เห็นได้ว่าคนมีเงินมากขึ้น เศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีทางเกิดเหตุการณ์อย่างนี้แน่นอน ใครมีตัวเลขด้านอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยมั้ยครับ ผมว่านี่เป็นตัวชี้วัดที่ดีอีกอันหนึ่ง


เห็นด้วยเลยครับ จากที่ได้รับรู้มาจากรอบตัวมีแต่คนสนใจและมีกำลังซื้อในเรื่องอสังหาริมทรัพย์มากกว่าแต่ก่อนเยอะครับ จริงๆผมเข้าใจว่าถ้าจะดูว่าเศรษฐกิจโตมั้ย ปัจจัยหนึ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมคือเรื่องนี้แหละครับ
Unloveable
User avatar
OOOOO
 
Posts: 5
Joined: Fri Jan 16, 2009 11:41 am
Location: Bangkok

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby d'alembert » Sat Jun 25, 2011 10:54 pm

ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้เศรษฐศาสตร์มหาภาค และพยายามใช้ข้อมูลและบริบทความจริงมากอธิบายสถาพภาพเศรษฐกิจไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
ขอบคุณอีกครั้ง โดยเฉพาะคุณ PinkDevil ที่อธิบายวิธีการคำนวณตัวเลขทางเศรษฐกิจต่าง :D
d'alembert
 
Posts: 1
Joined: Sat Jun 25, 2011 10:24 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby chaturant » Sun Jun 26, 2011 2:44 am

รับข้อมูลให้รอบด้านแล้วจะเห็นความจริง
User avatar
chaturant
 
Posts: 384
Joined: Mon Oct 13, 2008 11:41 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby sompongt » Mon Jun 27, 2011 11:58 am

เรียนพ่อแม่พี่น้อง

3 ปีที่ผ่านมา
เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก
แต่ประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และการบริหารเศรษฐกิจ โดย คุณกรณ์ จาติกวณิชย์
ได้นำพาประเทศไทยวิ่งฉิว เงินทองสะพัด ไม่มีปัญหาอย่างประเทศอื่นทั่วโลกเขา
ได้โปรดร่วมใจกันเลือกเบอร์ 10 ให้คนเก่ง คนดีได้ทำงานต่อนะครับ

เลือกพรรคเพื่อไทย ระวังมันเข้ามาทำเศรษฐกิจเจ๊งอีกรอบ เหมือนไอ้อ้วนชวลิต นะครับ
ฝืดเคืองกันทุกหย่อมหญ้า คนตกงานกันทั่วประเทศ ยังจำได้ไหมครับพี่น้อง

เบอร์ 10
เบอร์ 10
เบอร์ 10
รวมใจกัน เลือกเบอร์ 10 นะครับ
ปัญหาในเมืองไทย มีต้นตอมาจากคนไทยขายเสียง ถ้าแก้ไม่ได้ ปัญหาไม่จบ
User avatar
sompongt
 
Posts: 603
Joined: Wed Oct 22, 2008 11:14 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby ริวมะคุง » Mon Jun 27, 2011 12:22 pm

มดมอด ปักหมุดได้ป่าวครับ ;)

ปล. ขออนุญาตินำไปเผยแพร่นะครับ รักจังข้อมูลแบบนี้ จุ้ฟๆ
ประเทศไทยต้องก้าวต่อไป
User avatar
ริวมะคุง
 
Posts: 1906
Joined: Thu Nov 26, 2009 8:28 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby I_love_Bangkok » Tue Jun 28, 2011 8:23 am

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แบบนี้อยากได้มานานแล้วขอบคุณครับ
User avatar
I_love_Bangkok
 
Posts: 31
Joined: Mon Jan 10, 2011 6:32 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby alone_mon » Tue Jun 28, 2011 9:24 am

ถ้าให้ดี อยากให้หาข้อมูลเหล่านี้มาลงนิดนึงครับ จะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆด้วย

1. SET Index ย้อนหลัง 10 ปี ทั้งของไทยอย่างเดียว และมีเปรียบเทียบกับตลาดหลักๆของโลกด้วย

2. เงินเฟ้อ % ทั้งในรอบ 10 ปี และเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆด้วยก็จะดีมาก (ขอเป็นแบบไม่มีราคาน้ำมันมาเกี่ยวนะครับ)

3. ปริมาณการนำเข้า/ส่งออก สุทธิในแต่ละปี 10 ปีย้อนหลัง

4. Poverty line หรือ เส้นแบ่งความจนของคนในประเทศ ว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีการขยับขึ้นบ้างหรือเปล่า?

และสุดท้าย 5. การกระจายรายได้ ว่ามีสัดส่วนสมดุลมากขึ้นหรือเปล่า?

ปล. ถ้าคุณไม่เชื่อในข้อมูล เชื่อแต่ความรู้สึก แล้วคนเราจะเรียนไปทำไม???
"Perceive that which cannot be seen with the eye."
User avatar
alone_mon
 
Posts: 220
Joined: Fri May 13, 2011 10:22 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby baezae » Tue Jun 28, 2011 9:27 am

alone_mon wrote:ถ้าให้ดี อยากให้หาข้อมูลเหล่านี้มาลงนิดนึงครับ จะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆด้วย

1. SET Index ย้อนหลัง 10 ปี ทั้งของไทยอย่างเดียว และมีเปรียบเทียบกับตลาดหลักๆของโลกด้วย

2. เงินเฟ้อ % ทั้งในรอบ 10 ปี และเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆด้วยก็จะดีมาก (ขอเป็นแบบไม่มีราคาน้ำมันมาเกี่ยวนะครับ)

3. ปริมาณการนำเข้า/ส่งออก สุทธิในแต่ละปี 10 ปีย้อนหลัง

4. Poverty line หรือ เส้นแบ่งความจนของคนในประเทศ ว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีการขยับขึ้นบ้างหรือเปล่า?

และสุดท้าย 5. การกระจายรายได้ ว่ามีสัดส่วนสมดุลมากขึ้นหรือเปล่า?

ปล. ถ้าคุณไม่เชื่อในข้อมูล เชื่อแต่ความรู้สึก แล้วคนเราจะเรียนไปทำไม???


ข้อ ๒ กับ ๓ มีอยู่แล้วในตารางแรกเลยครับ ๑๐ ปี พอดี

ที่เหลือเดี๋ยวไปนั่งคุ้ยให้ครับ
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้
ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้
แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว
User avatar
baezae
 
Posts: 1144
Joined: Thu Feb 18, 2010 10:43 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby ชามู » Tue Jun 28, 2011 10:46 am

อ่านโพสของคุณ Vezzzz แล้วก็ำขำ

ตัวเลขอ้างอิง มีที่มาที่ไปชัดเจน
ไม่เอามาใ้ช้
กลับบอกให้ใช้ความรู้สึก จินตนาการ
คุณกำลังจะบอกว่า ความรู้สึกของคุณมันแม่นยำกว่าตัวเลขของธปท. และ ไอเอ็มเอฟ อย่างนั้นฤา
ไปๆ มาๆ ผมว่าคุณนั่นแหละ ที่ไม่ได้เปิดใจรับฟังอะไร นอกจากนั่งมองกระเบื้องบนทางเดินหน้าบ้าน :lol:

สำหรับผม เอาแค่เราผ่านวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์มาแบบไม่ต้องมีคนตกงานมหาศาล
ผมก็พอใจแล้ว นี่ขนาดมีไอ้พวกเลวๆ ออกมาเผาบ้านเผาเมืองสองปีซ้อนนะ
ไอ้หน้าหล่อ กับไอ้โย่งมันยังทำได้ขนาดนี้

ถ้าใช้ความรู้สึกของผม
ผมว่าเด็กสองคนนี่มันเก่งจริงๆ
ที่มันยังทำให้ชีวิตคุณ Vezzz เหมือนเดิม ดำเนินไปวันๆ ได้
ไม่มีอะไรที่ต้องตื่นเต้น แบบตกงานแล้วต้องไปหางานทำใหม่น่ะ


ขอหมายเหตุเพิ่มหน่อยก็แล้วกัน
ถ้าอยากใช้จินตนาการเล่นกระทู้
ผมรู้จักอีกเวปหนึ่งครับ จินตนาการล้วนๆ
ชื่อพันดริฟท์นะครับ

ที่นี่ไม่น่าจะเหมาะกับคุณหรอก
คูณน่าจะสังเกตุเห็นตั้งแต่หน้าแรกว่า ที่นี่ไม่ใช้ิจินตนาการเปลืองครับ
ต่อให้มีข้อมูล ยังมีคนถามทันทีว่า ขอแหล่งที่มาของข้อมูลด้วย
ดังนั้น ไม่มีทางที่จะมั่วได้ มั่วๆ มา เจอตบเกรียนคว่ำไปหลายศพแล้ว
ชามู ปลาวาฬตัวใหญ่ ใจดี
User avatar
ชามู
 
Posts: 928
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:22 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby psapsa » Wed Jun 29, 2011 3:28 pm

ขอเพิ่มเติมข้อมูลด้านสังคมครับ ตัวเลขที่สำคัญอยู่หน้า 26 เป็นต้นไปครับ

http://social.nesdb.go.th/social/Portal ... nal_99.pdf
User avatar
psapsa
 
Posts: 5
Joined: Wed May 11, 2011 6:34 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby chaturant » Thu Jun 30, 2011 1:04 am

ใครว่างดูนี้ทีครับ เสื้อแดงเอาตัวเลขนี้มา ผมกำลัง งง หลายตัว พอถามแหล่งที่มา ก็ตอบไม่ได้

http://www.facebook.com/event.php?eid=1 ... =1&theater
User avatar
chaturant
 
Posts: 384
Joined: Mon Oct 13, 2008 11:41 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby PinkDevil » Thu Jun 30, 2011 1:28 am

กรณีที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มขึ้นในช่วงปี 2552 มีการตอบไปแล้วในกระทู้นี้หน้าแรกๆว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์จำเป็นต้องกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะปัญหาวิกฤตการเงินในอเมริกาซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก (อย่าลืมว่าอเมริกาและยุโรปเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย อำนาจซื้อที่ลดลงของประเทศเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อไทย) คิดว่าประเด็นนี้มีการให้แสดงเหตุผลกันไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนตัวเลขในคอลัมภ์สุดท้ายที่เอามาแสดงคาดว่าคนจัดทำข้อมูลน่าจะเอาหนี้ต่อหัวไปคิดเป็นร้อยละของ GDP ต่อหัว จึงได้ชุดตัวเลขนั้นออกมา แต่ดิฉันไม่ได้ตรวจสอบว่าข้อมูลตัวเลขแต่ละตัวตรงกับข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย IMF หรือไม่ ที่จริงเจ้าของข้อมูลควรจะระบุที่มาข้อมูลให้ชัดเจน เผื่อคนที่สนใจจะได้เข้าไปสอบทานข้อมูลได้
To dream the impossible dream
To fight the unbeatable foe
To bear with unbearable sorrow
To run where the brave dare not go
To right the unrightable wrong
To love pure and chaste from afar
To try when your arms are weary
To reach the unreachable star
User avatar
PinkDevil
 
Posts: 835
Joined: Sat Feb 07, 2009 1:12 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby chaturant » Thu Jun 30, 2011 1:33 am

ใครว่างมาช่วยผมอธิบายให้แดงฟังหน่อยครับ เริ่มเหนื่อย
http://www.facebook.com/permalink.php?s ... =1&theater
User avatar
chaturant
 
Posts: 384
Joined: Mon Oct 13, 2008 11:41 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby baezae » Thu Jun 30, 2011 1:53 am

chaturant wrote:ใครว่างมาช่วยผมอธิบายให้แดงฟังหน่อยครับ เริ่มเหนื่อย
http://www.facebook.com/permalink.php?s ... =1&theater


หมูแผ่นนี่ผมปลงแล้วครับ เคยเถียงด้วยตอนอยู่ราชดำเนิน

เถียงไปเถียงมา ยันข้อมูลไม่ไหว บอกผมกระแดะใช้คำพระ ใช้ศัพท์สูงซะงั้น

ผมแค่ย้อนไปว่า ยุควิสัญญีนี่ท่าจะมีหมอให้ยาสลบเยอะ แค่นั้นเอง
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้
ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้
แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว
User avatar
baezae
 
Posts: 1144
Joined: Thu Feb 18, 2010 10:43 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby chaturant » Thu Jun 30, 2011 2:11 am

http://topicstock.pantip.com/rajdumnern ... 87577.html

สรุปอภิสิทธิ์ทำไรผิดหมด


>> GDP ไทยพุ่งพรวดพราด ด้วยฝีมือรัฐบาลอภิสิทธิ์ ?? <<


ตาม ที่สมาชิกหลายท่าน ได้อภิปรายว่า เป็นเพราะฝีมือรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่ทำให้ GDP ประเทศไทยพุ่งขึ้นอย่างมากมายในปีนี้ แม้จะมีความไม่ยุติธรรม - แก้ไข - ความไม่มั่นคงทางการเมืองเกิดขึ้นก็ตาม เรื่องนี้ ผมขอนำเสนอข้อมูลแย้งดังนี้ :

* สภาพัฒน์ เป็นผู้นำเสนอข้อมูลว่า ใน Q1 ของปี 2553 GDP ไทยโตพรวดถึง 12% แต่เมื่อดูในรายละเอียด :
o ภาคเกษตร เติบโตเพียง 2%, นอกภาคเกษตร เติบโต 13% กว่า
o นอกภาคเกษตร มีทั้งด้านบริการ การผลิต และการส่งออก พบว่า ที่โตมากที่สุดคือการส่งออก

ไทยส่งออกอะไรทราบไม๊ครับ

* รถยนต์ + 90% !!!
* แผงวงจรไฟฟ้า (IC-Integrated Circuit) + 76% !!!
* Hard disk + 54% !!!
* อื่นๆ คือ วิทยุ โทรทัศน์ ส่วนประกอบเครื่องยนต์ !

ตกลงประเทศเรากลายเป็นประเทศอุตสาหกรรม ไปแล้วหรือ ? ที่เราเคยเรียนกันมาว่า เราส่งออก ข้าว น้ำตาล ยางพารา มันก็ไม่จริงละซิ

ปัญหา คือ รถยนต์ ไม่มียี่ห้อ "ด่านเกวียน" มีแต่ Toyota, Isutsu... IC ยี่ห้อไทยเคยเห็นมั๊ยครับ Hard disk ยี่ห้อ "ประตูทะเล" ไม่มี มีแต่ Seagate, Hitachi, Toshiba วิทยุโทรทัศน์ "ธานินท์" หรือเปล่า ไม่ใช่ ไม่มี ที่เราส่งออกไปนั้น ล้วนแต่เป็นการ "Reexport" เป็นส่วนใหญ่

* เราซื้อวัตถุดิบเข้ามา
o รถยนต์: เราซื้อเหล็ก เครื่องยนต์(ส่วนที่มีราคาแพง และ Hi-tec), ส่วนสมองกลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
o IC: เรานำเข้าแผ่น Wafer เข้ามาต่อขา, ใส่กรอบ
o Hard disk: ส่วนวัสดุ Ferrite ต่างๆ นำเข้าทั้งนั้น
* เราประกอบและส่งออก
o หลักคือใช้แรงงานราคาถูก
o และชิ้นส่วนบางส่วนที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง (เช่น เบาะรถ ชิ้นส่วนพลาสติก ฯลฯ) สั่งจากโรงงานภายในประเทศได้
* ผลได้ของบริษัทเจ้าของแบรนด์
o ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ไม่เสียภาษี ทั้งภาษี VAT, ภาษีส่งออก, ภาษีเงินได้
o แล้วยังได้ขายสินค้าให้กับคนไทย มาช่วยๆ กันผ่อนๆๆๆ จนญี่ปุ่นรวยปลิ้น

แต่ GDP ดูเฉพาะตัวเลขรายรับ

(ใน ปีนี้ อาจมีการอ้างถึงบัญชีกระแส หรือบัญชีเดินสะพัดของประเทศ ที่ + แบบเยอะมาก ทั้งที่น้ำมันแพงแบบมหาโหด ... โปรดอย่าหลงกลตัวเลข ขารับของบัญชี มาจาก เงินที่กู้เข้ามา กับเงินที่ยึดมาจากทักษิณ แค่คู่นี้ งบก็ออกมาดูสุดหรูแล้ว ....)

สรุปว่า GDP พึ่งการส่งออก "ของที่ไม่ใช่ของเรา" เยอะมาก เมื่อวานนี้ (16/8) รัฐบาลออกมาประกาศหน้าตาเฉยว่า จะขยายสัดส่วนรายได้จากการส่งออกขึ้นไปเป็น 20% ทำเอาเอกชนสะดุ้งโหยง แม้แต่นายพรศิลป์ กรรมการรองเลขาธิการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งประชาธิปัตย์จ๋ามาแต่ไหนแต่ไร ยังแย้งว่า เยอะไปๆ ไม่น่าเกิน 12% ...

(ประเทศเรากำลังจะกลายเป็นคนรับใช้ของประเทศญี่ปุ่นเต็มรูปแบบอยู่แล้ว)

ผล ร้ายที่จะตามมาของการอัด GDP ให้โตมากๆๆๆ คือ อัตราเงินเฟ้อ และการแข็งตัวของเงินบาท การแข็งตัวของเงินบาท ทำให้สินค้าภาคเกษตรยิ่งเละเทะหนักเข้าไปอีก จากที่โดนโจมตีจากคู่แข่งเพื่อนบ้านจนแทบยืนไม่ติด ส่วนเงินเฟ้อนั้น อย่าว่าแต่ GDP เพิ่มเลย แค่มีข่าวว่าจะขึ้นเงินเดือนขรก. ของก็ขึ้นไปรอก่อนแล้ว ...

แล้วสมัยทักษิณหละ เขาทำเหมือนกันหรือเปล่า ?

สมัยทักษิณ การส่งออกก็ Boom เช่นกัน แต่นโยบายหลักอย่างนึงของรัฐบาลทักษิณคือ Dual Track Policy คือ เศรษฐกิจต้องมี 2 ขา ขานึงส่งออก อีกขานึงการค้าขายภายในประเทศ (Dual track policy นี่เอง ที่เป็นที่มาของคำว่า "ทักษิโณมิกส์")

ขาภายในประเทศนั้นมีหลักการคือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส จนเกิดโครงการต่างๆ ตามมาเป็นพรวน ทั้ง OTOP, 30 บาท, กองทุนหมู่บ้าน, โครงการเอื้ออาทรฯลฯ ซึ่งการลดรายจ่ายของคนยากจน ถูกกระแนะกระแหนว่าเป็น "ประชานิยม" แต่ต้องยอมรับว่า เป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านห่างไกล ซึ่งเคยคิดว่า ตัวเองไม่มีความหมายใดๆ ในประเทศ เริ่มมีศักดิ์ศรีขึ้น... ไว้ว่างๆ ผมจะอภิปรายประเด็นนี้อีกที ยาวครับ...

เท่าที่ติดตามข่าวมาตลอด รัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้เครื่องยนต์ "ส่งออก" เพียงเครื่องเดียว แถมไม่ใช่เครื่องของไทยเราเองด้วย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อันตรายครับ

ใน วันนี้ ญี่ปุ่นกำลังลังเลกับนโยบายแปลกๆ ของรัฐบาล อย่างเรื่องมาบตาพุด เพียงแต่ว่า ญี่ปุ่นไม่สามารถปรับตัวได้มากนัก (เพราะถลำลึกไปแล้ว) จึงออกมาแนวงอนๆ ขณะที่นักลงทุนชาติอื่นที่ยังลงไม่มาก ย้ายฐานไปต่างประเทศแล้วไม่ใช่น้อย

ถ้า ญี่ปุ่นเกิดมองเห็นสัจจธรรม ย้ายการลงทุนออกไปแม้เพียงบางส่วน เครื่องยนต์ที่รัฐบาลใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะพังทลายทันที โดยไม่มีแผน B ไว้รองรับแต่อย่างไร

หรือคุณเพียงแต่เอาตัวเลขสวยๆ นี้ ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น ??

ขอร้องเหอะ อย่าเอาแค่ตัวเลขมาหลอกกันเลย

(โห! จบเศรษฐศาสตร์ Oxford มาได้ยังงัยเนี่ยะ)

มิ น่าเล่า ถึงได้มีการแต่งตั้งนาย อำพน กิติอำพน ที่พ้นจากตำแหน่ง เลขาฯสภาพัฒน์ฯ ให้มานั่งข้างๆ อภิสิทธิ์ในตำแหน่ง เลขาฯ ครม.ในทันที

เพราะนายอำพนนี่เอง ที่เสนอตัวเลข "เติบโต 12%" จนเป็นที่ถูกอกถูกใจท่านนายกฯนี่เอง ...

=====================================

<แก้ไขเพิ่มเติม 12:30 17/8/53>

บังเอิญไม่สามารถตอบคุณมัสแตง {P9588093} โดยตั้งกระทู้ได้จนกว่าจะเที่ยงคืน ก็เลยขอตอบทางนี้ก่อนนะท่าน แล้วคืนนี้ซักตี 2ตี 3 จะตอบอีกที...

* ก่อนอื่นขอเรียนให้เพื่อนๆ ทราบว่า ในวันนี้ ผู้ส่งได้เกิดอาการตื่นตระหนกกับ อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งขึ้นไปถึง 31 บาทกว่าแล้ว ...
* (แต่มีข่าวดีนิดๆ คือ เวียตนามส่งออกข้าวจนหมดประเทศ ตอนนี้ถึงคราวที่เราจะส่งออกข้าวได้บ้างแล้ว) -- เฮ!
* และ ผมขอเรียนคุณมัสแตงว่า ผมไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ ผมเป็นวิศวกรไฟฟ้า แต่ผมติดตามข่าวสารบ้านเมืองทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ผมเป็นทั้งผู้นำเข้าและส่งออก (การบริการ) พอจะเข้าใจความคิดของผู้ประกอบการบ้างพอสมควร ข้อมูลทั้งหลาย ผมได้ตรวจสอบจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ไม่ได้นำมาจากการฟังทางวิทยุ หรืออ่านจากข่าวสั้นๆ ทางนสพ. ...
* ประเด็นของผมคือ การพึ่งพาการส่งออก "ที่ไม่ใช่ของของเรา" มากจนเกินไป และผมก็ทราบดีว่า พนักงาน คนงาน ของผู้ส่งออกเหล่านั้นเป็นคนไทย ลูกหลานชาวนา แต่ผมถามคุณมัสแตงกลับว่า คุณพอใจแค่นี้หรือ ? กับการทำงานในโรงงาน เยี่ยงทาส ในโรงงาน IC คุณไปดูสิ มีแต่สาวๆ อายุไม่เกิน 30 เพราะ เกินกว่านั้น สายตาที่สาวๆ เหล่านี้ เพ่งผ่านเลนส์ กับแสงที่ส่องสว่างมาก เพื่อมองการเชื่อมขา IC นั้น ทำให้สายตาเสียก่อนวัยอันควร ... ทำไมเราไม่สามารถสร้างงานลักษณะอื่นให้เค้าทำ ? มีทางเลือกอื่นอีกหรือไม่ ถึงจะต้องมาพึ่งพาแต่การส่งออกแทนคนอื่นอย่างนี้ ? ผมว่า ให้เค้ากลับไปทำนายังจะดีกว่า แต่คุณต้องส่งเสริมอาชีพเค้าให้มีเกียรติ มีรายได้เหมาะสมกับฐานะ มากกว่าที่เป็นอยู่
* ผมยังคงเห็นด้วยว่า เราต้องมีอุตสาหกรรม ต้องมีการส่งออก แต่ผมไม่เห็นด้วยที่คุณมาชูเรื่องนี้อยู่เรื่องเดียว ให้ดูตัวเลขสวยๆไว้ก่อน แถมผมจับได้ว่า มันไม่จริง
* คุณอำพนเก่งหรือ ? จริงครับ ผมยอมรับ แต่ก็ไม่ต่างจากคุณธาริต ที่เก่งแต่"เลือก" ที่จะนำเสนอข้อมูลให้กับเจ้านายมากไปหน่อย
* ส่วนการที่คุณบอกว่า "อย่าบูชาเทพองค์เดียวอยู่เลย" อันนี้ คุณหมายถึงทักษิณ หรืออภิสิทธิ์ครับ ?

สุดท้าย รบกวนจริงๆ นะ คุณมัสแตง รบกวน สะกดภาษาไทยให้ถูกต้องมากกว่าที่เป็นอยู่ได้หรือไม่ครับ อ่านแล้วปวดหัว

* นายอำพล --> นายอำพน (สะกดอย่างนี้จริงๆ)
* สภาพัฒนา --> สภาพัฒนฯ
* โรงประกอบรถยนตร์ --> โรงงานประกอบรถยนต์
* แบบไม่อัคติ --> แบบไม่อคติ
* ด้วยไม่กอร์ป --> ด้วยไม้กอล์ฟ

เรื่องนี้ ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เพียงแต่อยากให้ถูกต้องเท่านั้น
User avatar
chaturant
 
Posts: 384
Joined: Mon Oct 13, 2008 11:41 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby PinkDevil » Thu Jun 30, 2011 3:24 am


ประเทศไทยส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ รถยนต์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นสินค้าส่งออกหลักมาเป็นสิบปีแล้ว คาดว่าผู้ที่ยังคิดว่าประเทศไทยส่งออกข้าว น้ำตาล ยางพารา คงใช้ความทรงจำสมัยเรียนประถม ยังดีที่ไม่บอกว่าประเทศไทยส่งไม้สักเป็นสินค้าส่งออกหลักด้วย

ประเด็นเรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์ ตอนสมัยทักษิณก็ประกาศว่าจะทำให้ไทยเป็น ดีทรอยส์แห่งเอเชีย ตอนนั้นก็เห็นใครตบมือกันเกรียวกราวว่าท่านผู้นำเป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล แล้วทำไมวันนี้อุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ของไทยประสบความสำเร็จในการส่งออกกลับกลายเป็นเรื่องเลวร้ายไปเสียแล้ว คงเป็นเพราะมันดีในสมัยที่นายกชื่ออภิสิทธิ์ ไม่ใช่ทักษิณ ถ้าเกิดในสมัยทักษิณ สงสัยจังว่าคนที่ตำหนิวันนี้ จะยังเขียนตำหนิอย่างที่เขียนอยู่หรือเปล่า

ดุลบัญชีเดินสะพัด = ดุลการค้า + ดุลบริการ + เงินโอนและเงินบริจาคสุทธิ + รายได้สุทธิ
ดังนั้นการที่ผู้เขียนอ้างว่าดุลปัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลมากๆ เกิดจากเงินที่กู้เข้ามาและเงินที่ยึดจากทักษิณ เป็นการเขียนที่อยู่บนพื้นฐานความไม่รู้บัญชีมหาภาคอย่างแท้จริง เพราะถ้ามีความรู้ว่าบัญชีเดินสะพัดประกอบด้วยตัวเลขออะไรบ้างนั้น จะไม่กล้าที่จะกล่าวอ้างเช่นนั้นเลย อีกอย่างที่เงินที่ยึดจากทักษิณ นั้นเป็นเงินที่อายัดไว้ตั้งแต่ปี 2549 ดังนั้นไม่มีทางที่จะปรากฎในบัญชีในช่วงปี 2552-2553 เพราะบัญชีเดินสะพัดเป็น flow ของแต่ละปี

ส่วนประเด็นที่บอกว่าการอัด GDP ให้โตมากๆ ผลคือ เงินเฟ้อ กับ การแข็งตัวของค่าเงินบาท
เงินบาทแข็ง คือ ราคาเงินบาทแพงขึ้นเมื่อนำเงินตราต่างประเทศมาซื้อ การจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้เงินตราต่างประเทศไหลเข้ามากกว่าไหลออก ก็เจ้าของบทความบอกเองไม่ใช่หรือว่า ประเทศไทยส่งออกมากแต่ก็นำเข้าวัตถุดิบมาก แล้วทำไมเงินตราต่างประเทศยังไหลเข้าสุทธิมากอยู่ล่ะ ขัดแย้งกันเองนะนี่

ปีที่แล้ว ที่ใครๆก็ออกมาบ่นระงมว่าค่าเงินบาทแข็งเกินไป ส่งออกไทยต้องตายแน่ๆ สู้คู่แข่งไม่ได้ แต่สุดท้ายการส่งออกของไทยในปี 2553 อยู่ที่ 193,600 ล้านเหรียญสหรัฐ และเกินดุลการค้า 14,000 ล้านเหรีญสหรัฐ แปลว่าอะไร แปลว่าปัจจัยค่าเงินอาจจะมีส่วนแต่ไม่ใช่ทั้งหมด แนวคิดการใช้ค่าเงินอ่อนเพื่อกระตุ้นการส่งออกนั้น ส่วนตัวคิดว่าเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างล้าสมัย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานการณ์ คนมีหน้าที่ก็ต้องพิจารณากันไปว่าเครื่องมือใดเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์

การที่ GDP โต มีผลต่อเงินเฟ้อหรือไม่ ตอบตามตรงว่ามี แต่ต้องมองว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับใด ปัจจุบันเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 3.27 (ไตรมาสแรกของปี 2554) ยังไม่ใช่ระดับที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจ (ตามทฤษฎีแล้ว ภาวะเงินเฟ้ออ่อนๆมีผลดีต่อเศรษฐกิจ) ในปี 2553 อัตราเงินเฟ้อของไทยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 3.3 โดยมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ร้อยละ 7.8 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่ร้อยละ 3.3 ไม่ใช่อัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี (2544-2553) เพราะในปี 2551 อัตราเงินเฟ้อยู่ที่ร้อยละ 5.5 โดยมีอัตราการเจริญเติบโตเพียง ร้อยละ 2.5 แล้วทราบหรือเปล่าค่ะว่าในปี 2548 อัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่ร้อยละ 4.5 โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 4.6 (หมายเหตุ อัตราการเติบโตของ GDP คำนวณ จาก % การเปลี่ยนแปลงของ GDP ณ ราคาคงที่ ในปี 2531 แหล่งข้อมูล ธนาคารแห่งประเทศไทย )

จะเห็นได้ว่าถ้ารัฐบาลมีความสามารถ ก็จะสามารถบริหารประเทศให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจได้โดยที่สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาได้ ในทางตรงกันข้ามถ้าขาดความสามารถถึงแม้อัตราการเติบโตจะต่ำ อัตราเงินเฟ้อก็สูงได้เหมือนกันถ้ารัฐบาลสามารถทำให้ GDP เติบโตในอัตราที่มากกว่าเงินเฟ้อได้ ก็เท่ากับว่าอัตราการเติบโตแท้จริงยังเป็นบวก ย่อมหมายความว่าระบบเศรษฐกิจของประเทศโตขึ้น ซึ่งก็เป็นผลดีต่อทุกคนไม่ใช่หรือ????

ส่วนเรื่องตัวเลขเติบโตร้อยละ 12 ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว เป็นตัวเลขจริง ไม่ใช่ตัวเลขที่คุณอำพน ปั้นขึ้นเพื่อมาเลียรัฐบาล แต่ทำไมไม่บอกต่อล่ะว่าที่ทั้งปีของปีที่แล้วลดลงมาเหลือแค่ร้อยละ 7 กว่าๆ เพราะไตรมาส 2 ประเทศไทยเจอเหตุการณ์แดงเผาเมือง
Last edited by PinkDevil on Thu Jun 30, 2011 8:07 am, edited 2 times in total.
To dream the impossible dream
To fight the unbeatable foe
To bear with unbearable sorrow
To run where the brave dare not go
To right the unrightable wrong
To love pure and chaste from afar
To try when your arms are weary
To reach the unreachable star
User avatar
PinkDevil
 
Posts: 835
Joined: Sat Feb 07, 2009 1:12 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby Torres_No9 » Thu Jun 30, 2011 3:37 am

GDP ไทยพุ่งพรวดพราด ด้วยฝีมือรัฐบาลอภิสิทธิ์ ?? จากภาวะเศรษฐกิจขาลงทั่วโลก ปัญหาการเมืองภายในและภัยธรรมชาติ
รัฐบาลนี้ประคองธุรกิจในประเทศไม่ให้ล้มหายตายจากไปมากมายเหมือนตอนปี 40 ,คนไม่ตกงานมากอย่างที่คาดการณ์ไว้
รายได้จากส่วนต่างๆนอกจากจะไม่ลดลงมากอย่างที่คาดการณ์กันไว้ หลายอย่างกลับทำได้ดีจากที่คิดว่าจะแย่ เช่น การท่องเที่ยว
ที่สำคัญตัวเลขทุนสำรองระหว่างประเทศของรัฐบาลนี้เพิ่มขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ก็น่าจะพอที่จะบอกได้ว่ารัฐบาลนี้มีฝีมือแค่ไหน

ในทางกลับกันสมัยทักกี้ใช้วิธีกระตุ้น GDP ส่วนนึงจากภายในประเทศด้วยการกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนจากโครงการประชานิยม
ซึ่งไม่ได้เป็นการพัฒนาประเทศในระยะยาว เวลาดูตัวเลขต่างๆในกระทู้นี้ควรจะต้องทำความเข้าใจและดูตัวเลขหลายอย่างประกอบกัน
เพราะตัวเลขต่างๆเหล่านี้ มันมีที่มาที่ไปและเกี่ยวเนื่องกัน มันจะบอกได้ว่าทำไมตัวเลขลดลง-เพิ่มขึ้น มาจากอะไร เพราะอะไร ++
กลุ่มเพื่อนลูคัส ++
User avatar
Torres_No9
 
Posts: 1091
Joined: Thu May 20, 2010 2:47 am

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby baezae » Thu Jun 30, 2011 7:02 am

จากลิงค์เฟสบุ๊คอันแรก ผมก็นั่งคิดอยู่ตั้งนานว่า เสื้อแดงคนโพสต์เอาตัวเลขในคอลัมน์ที่ ๓ มาจากไหน ปรากฎว่าเส้นผมบังภูเขา

ในเฟสบุ๊คนั้น(ปัจจุบันลบไปแล้ว) คอลัมน์ที่สองระบุว่าเป็น %หนี้ (ไม่ระบุตัวเปรียบเทียบว่าต่ออะไร) แล้วคอลัมน์ที่สามระบุว่าเป็น %หนี้ต่อจีดีพี ซึ่งถือว่าเป็นการเสียมารยาทและทุจริตอย่างร้ายแรง เพราะในความเป็นจริง ตัวเลขในคอลัมน์ที่ ๒ นั้น เป็นอัตราส่วนหนี้ต่อจีดีพีรายปีที่สุทธิแล้ว ข้อมูลตรงนี้ผมในส่วนที่เป็นหนึ่งในผู้รวบรวมข้อมูลยืนยันว่า สามารถตรวจทานได้จากทั้ง ธนาคารโลก imf และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งการที่ผู้ดัดแปลงตาราง ตัดตัวเปรียบเทียบออกไป ก็เพื่อจะให้สับสน และนำตัวเปรียบเทียบไปอ้างในตารางที่ ๓

แล้วตัวเลขในคอลัมน์ที่ ๓ มาจากไหนล่ะ? อย่างที่บอกว่าเส้นผมบังภูเขา เสื้อแดงคนที่ดัดแปลงตารางใช้วิธีคำนวนเอาตัวเลขอัตราร้อยละของปีหนึ่ง คิดเป็นอัตราส่วนกับอัตราส่วนของอัตราร้อยละของหนี้ต่อจีดีพีในปีก่อนหน้า หรือถ้าเอาให้ง่าย ๆ คือ เอา % หนี้ต่อจีดีพีปี ๕๔ ไปคุณ ๑๐๐ แล้วหารด้วยอัตราหนี้ต่อจีดีพีปี ๕๓ ซึ่งเป็นวิธีการทำนอมอลไลเซชั่นที่แหวกมาก เพราะตัวเลขสุทธิในคอลัมน์ที่ ๒ นั้น เป็นการคิดโดยปรับฐานจีดีพีของแต่ละปีให้เท่ากับ ๑๐๐ เหมือนกันหมดอยู่แล้ว เมื่อได้ร้อยละมาก็เปรียบเทียบได้เลย ไม่ต้องไปนอมอลไลซ์ต่ออีกรอบ

การทำแบบนั้น คาดว่าเพื่อให้ตัวเลขดูเยอะน่าตกใจ และได้ตัวเลขที่เข้าข้างตัวเอง แต่เป็นวิธีเล่นแร่แปรธาตุข้อมูลอย่างน่ารังเกียจ และไม่มีคุณค่าทางการชี้วัดแต่อย่างใดเลย

อีกครั้ง ในฐานะหนึ่งในผู้รวบรวมข้อมูล ขอด่าว่า คนที่ดัดแปลงตารางนั้น นอกจากโง่ดักดาน ยังสันดาาานเสียอย่างรุนแรงอีกด้วย
ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้
ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้
แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว
User avatar
baezae
 
Posts: 1144
Joined: Thu Feb 18, 2010 10:43 am


Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby MIRO » Fri Jul 08, 2011 12:33 am

:D

อย่าให้ตก ดันไว้ก่อน
ยามบุญมา กาไก่กลายเป็นหงษ์
ยามบุญหลง หงส์เป็นกาน่าฉงน
ยามบุญมา หมูหมากลายเป็นคน
ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์
User avatar
MIRO
 
Posts: 1407
Joined: Sat Oct 25, 2008 4:21 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby halfmoon » Fri Jul 08, 2011 12:55 am

:lol: :lol: :lol: เผลอแป๊บบบเดียว มีคนเข้ามาอ่าน หมื่นหกพันก่าๆๆ สงสัยต้องให้ mod ฝังมุกซะแล้ว :o
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby nithiphat » Fri Jul 08, 2011 1:22 am

alone_mon wrote:ถ้าให้ดี อยากให้หาข้อมูลเหล่านี้มาลงนิดนึงครับ จะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆด้วย

1. SET Index ย้อนหลัง 10 ปี ทั้งของไทยอย่างเดียว และมีเปรียบเทียบกับตลาดหลักๆของโลกด้วย



SET index ย้อนหลัง 5 ปี
โดยวันที่ 26 สค 08 คือวันที่มีการยึดทำเนียบ เน้นเพื่อจะบอกว่าช่วงนี้ที่หุ้นตกเป็นเพราะตลาดโลก เป็นทั่วโลก ไม่ใช่เพราะการยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน เดี๋ยวพวกเสื้อแดงจะมาบิดเบือนได้

Image

ส่วนข้างล่าง เปรียบเทียบกับ FTSE ของสิงคโปร์ กับ Hang Seng ของฮ่องกง

Image

Image
User avatar
nithiphat
 
Posts: 660
Joined: Sat Apr 24, 2010 7:33 pm


Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

Postby คนบาป » Sun Jul 10, 2011 8:47 pm

ถือว่าเป็นของขวัญให้รัฐบาลปูแดงละกันครับ
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Previous

Return to สภากาแฟ



cron