ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ริวเซย์ » Fri Jan 30, 2009 9:40 pm

พวกกลุ่มพยายามล้มล้างสถาบันไม่มีวันทำการใหญ่สำเร็จ

เพราะไร้ซึ่งคุณธรรม ความชอบธรรมใดๆ ขัดต่อหลักศีลธรรมอันดีอย่างร้ายแรง

เข้าข่ายเป็นกบฏ(ตัวจริง) มวลชนที่เข้าร่วมก็น้อย

แถมมีบทบัญญัติเอาโทษได้ตามกฎหมาย

พยายามเข้าเถิดนะครบ ตายเกิดอีก10ครั้งก็ไม่สำเร็จ

:lol:
หากดอกไม้แย้มบานในใจแห่งผู้คนที่ทุกข์ทน
ความสว่างส่องทางสับสนด้วยความรักที่มอบแก่กัน
ให้ดอกไม้นั้นแทนความงามแห่งน้ำใจ ยิ่งใหญ่
เมฆหมอกก็คงสลาย ด้วยดอกไม้คือความสดใสในแสงตะวัน
คือดอกไม้อันดีงาม คงอยู่ด้วยความสดใส
คือดอกไม้ของน้ำใจ งดงามเพียงใดให้แก่กัน
User avatar
ริวเซย์
Site Admin
 
Posts: 3386
Joined: Fri Oct 17, 2008 12:34 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby phunnapob » Fri Jan 30, 2009 10:01 pm

ไอ้เจียม เอาเวลาไปบอกพ่อแม้วมรึงเหอะ ว่าอยู่เฉย ๆได้แล้ว หรือไม่ก็เปิดหน้าสู้มาเลยว่าสิ่งที่มรึงต้องการคืออะไร

ไม่ใช่เป็นอีแอบสิงบอร์ดนู้น ป่วนบอร์ดนี้ รำคาญว่ะ

เออ...อีกอย่าง หัดถามตัวเองด้วยน่ะว่า มันคุ้มมั้ยกับสิ่งที่ทำอยู่ ถ้าไม่คุ้มเลิกเหอะ ก่อนจะหาว่าไม่เตือน
กำจัด"กบฏ"ให้สิ้นแผ่นดิน
phunnapob
 
Posts: 498
Joined: Mon Dec 01, 2008 4:43 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby samepong » Fri Jan 30, 2009 10:09 pm

บก.ลายจุด wrote:
"ความเท่าเทียมไม่มีจริง"

ผมติดใจวรรคนี้ของคุณ jerasak คุณกำลังหมายถึงบริบทไหนกันครับ
โลกที่ทุกวันนี้มันไม่เท่าเทียมกัน หรือ หลัการที่ว่า มนุษย์นั้นเท่าเทียมกันเป็นเรื่องโกหก
ที่ถูกต้องคือ การประกาศและยอมรับ ก้มหัวต่อหลักการที่จริงแท้ว่า "ความเท่าเทียมเป็นเรื่องโกหก" กระนั้นหรือ ?

การที่ พธม หรือ พวกคุณต่อสู้กับทักษิณ เป็นเพราะคุณเชื่อว่า คนที่แข็งแรงกว่าคือผู้ที่มีความชอบธรรมที่จะเป็นผู้ชนะ หรือ ว่าคุณถือหลัการเท่าเทียมกันในสังคม
คน ๆ หนึ่งทำสิ่งหนึ่งได้หากเขาแข็งแรงกว่า ในขณะที่คนที่ตัวเล็กกว่า อ่อนแอกว่ากระทำเช่นเดียวกับอีกคนไม่ได้

หลักความเสมอภาคไม่ได้อยู่ในระบบคิดของคุณดอกหรือ
หากโลกนี้มันช่างบิดเบี้ยว คุณทำยังไงกับความไม่เท่าเทียมของมัน
เอาตัวเองไปเป็นชนชั้นที่สูงกกว่า เกาะเกี่ยวสถานะหรือฝ่ายที่ได้เปรียบกว่ากระนั้นหรือ ?

วิญญูชนไม่ใช่เมื่อเห็นความไม่เสมอภาคเกิดขึ้นในสังคม แล้วเราช่วยกันทำให้ความเสมอภาคเกิดขึ้นดอกหรือ ?

โอ้....คุณเป็นคนประเภทไหน
ผู้เข้าใจโลกอย่างลึกซึ้งและก้มหัวให้กับความไม่เสมอภาค เท่าเทียม ในฐานะผู้พ่ายแพ้
หรือคุณเป็นพวกที่เข้าใจโลกอันไม่เท่าเทียมนี้ แล้วเอาตัวเองไปเป็นผู้กดขี่

เวลาคุณตะโกนอยู่หน้าม็อบ คุณตะโกนในฐานะกลุ่มคนผู้แข็งแรง อารยัน ซึ่งจะมาพิชิตพวกที่ต้องล้มตายไปในกฎของผู้แข็งแรงกว่าเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มีชีวิตรอด


มันไม่มีจริงหรอกครับคำว่า เท่าเทียมกันในทุกๆๆด้านนะ คุณจะเอาอะไรมาวัดว่าเท่าเทียมกัน

ผมถามหน่อย ทำไมพ่อถึงตีลูกได้ แต่ลูกไม่สามารถตีพ่อได้ คำตอบ มันคือหน้าที่ ที่พ่อสั่งสอนลูก (ในการกระทำที่ปกติที่ไม่ใช่การทารุณกรรม)
ทำไม พ่อต้องเลี้ยงดูลูกในเมื่อพ่อก็ต้องเลี้ยงดูตัวเอง เพราะหน้าที่ของ พ่อ

ทุกสิ่งที่เกิดถูกสร้างมาให้มีหน้าที่ และวางไว้ในสถาณะที่ต่างๆกัน คุณมีสิทธิที่จะไม่ยอมรับ แต่ไม่มีสิทธิ์มายัดเหยียดให้คนอื่นไม่ยอมรับ
และที่สำคัญ คุณไม่มีสิทธิ์มาเปลี่นแปลง พลวัติ ทางสังคมได้

ทุกคนเกิดมาไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว แต่ความไม่เท่าเทียมกันนั้น แบ่งได้สองอย่างคือ
1.ความไม่เท่าเทียมกันทางธรรมชาติ คนบางคนเกิดมาตัวโตกว่า คนบางคนเกิดมาแข็งแรงกว่า คนบางคนเกิดมาไม่ครบ32ประการ คนบางคนเกิดมา เกิน32ประการ คนบางคนเกิดมา พร้อมความสามารถพิเศษ คนบางคนเกิดมาพร้อมปมด้อย(อ.สมสักกับลายจุดมีหรือเปล่าไม่รู้)

2.ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม คนบางคนเกิดมาในตระกูลร่ำรวย คนบางคนเกิดมาในตระกูลที่ยากจน คนบางคนเกิดมาในตระกูลใช้แรงงาน แต่ไม่ว่าจะเกิดมาจากตระกูลไหน สิ่งที่มีเหมือนกันกันคือ หน้าที่ และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมนั้นเองที่แบ่งชนชั้นออกเป็นหลาชนฃั้น จนวันนี้ไม่ว่าประเทศไหนก้ยังวแบ่งชนชั้น หลักๆคือ ชนฃั้นปกรองและชนชั้นผู้ถูกปกครอง

ความเท่าเทียมกัน คือความเท่าเทียมกันในสิทธิ พื้นฐาน หลักประชาธิปไตย ก็ใช้ความเท่าเทียมกันในหลักนี้ เพราะ ประชาะปไตย ไม่สามารถทำให้ชนชั้นหายไปได้ ขนาดอเมริกา พอเลือกตั้งเรียบร้อยจะเกิดชนชั้นปกครองทันที เพราะ ประธานาธิบดีจะกลายเป้ฯผู้ปกครอง
กลับมาความเท่าเทียมกัน คุณและผมมีความเท่าเทียมกันในการมีชีวิตอยู่ไม่ว่าผู้ใดไม่สามารถพราก มันไปจากเรา คุณและผมมีสิทธิ์ในการสะสมทรัพยกรต่างๆ มีสิทธิ์ที่จะดำรงชีวิต และมีสิทธิ์ต่างในกรอบกฎหมายเดียวกัน

แต่ไม่ว่าคุณจะทำยังไง ความไม่เท่เทียมกันย่อมต้องมีอยู่ตามกฎข้อแรกและข้อสอง กฎข้อแรกคุณไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่ข้อสองคุณอาจจะเปลี่ยนได้ แต่ผมไม่ให้คุณเปลี่ยนแน่นอนกับสังคมไทย

อย่าตะโกนคำว่าเท่าเทียมกัน หากคุณกับผมร่ำรวยไม่เท่ากัน อิ่มท้องไม่เท่ากัน แข็งแรงไม่เท่ากัน ฉลาดไม่เท่ากัน เพราะความเท่าเทียมกันไม่มีในโลก
User avatar
samepong
 
Posts: 1943
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:15 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby บก.ลายจุด » Fri Jan 30, 2009 10:40 pm

โอ้...นี่ผมกำลังพูดอยุ่กับใครล่ะเนี่ย
พวกขุนนางกลับชาติมาเกิดหรือกระไร ?
ซากเดนความคิดที่พูดเต็มปากอย่างไม่ละอายใจว่า "คนไม่เท่ากับคน"
และควรยอมรับกับความไม่เท่าเทียมในสังคม ราวกับว่า ความไม่เท่าเทียมที่คุณพูดถึงนั้น เป็นความงดงามกระนั้นแหละ

โลกมนุษย์ฆ่ากันตายไปเท่าไหร่แล้ว เพื่อจะประกาศว่า "คนเท่ากับคน"
สงครามกลางเมืองในสหรัฐระหว่างเหนือ-ใต้ การปลดปล่อยคนสีผิวในอเมริกา
การปลดแอกจากจักวรรดิ์นิยมทั้งหลายที่ปกครองประเทศต่าง ๆ

แน่นอนว่าบางคนรวย บางคนจน
บางคนพิการ บางคนร่างกายสมบูรณ์
บางคนไร้การศึกษา บางคนเรียนจบ ดร
บางคนกินปลาทะเล บางคนกินปลาร้า
แต่ทุกคน ล้วนแล้วเป็นคนเสมือนกัน

การมองคนไม่เท่ากับคน
คือการทำลายหลักการสำคัญที่เรียกว่า "สิทธิมนุษยชน"
ซึ่งเคารพหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์
มนุษย์มีเสรีภาพในการคิด และ ตั้งคำถาม
นิคเช่ ยังประกาศว่า พระเจ้าตายแล้ว
หรือแม้แต่การตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของ พระผู้เป็นเจ้าว่า สิ่งนี้ดำรงอยู่หรือเคยมีอยู่จริงหรือไม่

ผมไม่ได้พูดถึงความไม่เท่าเทียมของสถาบันใด
แต่ผมพูดถึงหลักการว่าด้วยความเสมอกันของความเป็นมนุษย์

การเคารพนับถือใครนั้น ผมไม่เคยขัด
แต่เราต้องไม่ทำลายหลักการพื้นฐานสำคัญนี้
เมื่ออยู่ท่ามกลางฝูงหมา(บ้า)
หนึ่ง....ใจเย็น ๆ เดินไปเรื่อย ๆ เป็นปกติ
สอง....เมื่อหมามันเห่าครั้งแรก ๆ ให้แผ่เมตตาไว้
สาม....เมื่อมันแว้งกัด เอาก้อนหินเขวี้ยงใส่หัวมัน
สี่......เมื่อหมาม้นยังไล่กัดอีก ให้ตะโกนด่ามันว่า "ถ่อย"
User avatar
บก.ลายจุด
 
Posts: 1221
Joined: Sun Nov 09, 2008 12:02 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby จีรนุช » Fri Jan 30, 2009 10:49 pm

สงครามกลางเมืองไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ ความเท่ากันของคน มันเกิดขึ้นเพราะผลประโชน์ของคนขาวที่ขัดกันเอง :D ไปศึกษามาไหม่ อย่้ามองประวัติศ่สตร์อย่างติ้นเขิน ให้ฝรั่งมันหลอกเอาได้

นิคเช่ ยังประกาศว่า พระเจ้าตายแล้ว อ่อ เเล้วมันเป็นใคร เหรอ พระเจ้ามีหรือไม่มียังไม่มีใครู้เลย เอามาเป้นตุ้กตาทำไม

พอจะเข้าใจ ท่านคิดว่าคนเราเกิดกินขี้ปี้นอนเท่ากัน คิดได้เเค่นี้ อายุเท่าไรเเล้ว ....
รักเเปะลิ้มมากค่ะ
User avatar
จีรนุช
 
Posts: 5689
Joined: Sun Nov 30, 2008 7:34 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby samepong » Fri Jan 30, 2009 10:51 pm

ผมไม่ได้บอกคนเราไม่เท่ากัน แต่ คนเราย่อมไม่เท่าเทียมกัน ในข้อที่ผมยกอ้าง และจะเท่าเทียมกันในเรื่องของ

" ความเท่าเทียมกัน คือความเท่าเทียมกันในสิทธิ พื้นฐาน หลักประชาธิปไตย ก็ใช้ความเท่าเทียมกันในหลักนี้ เพราะ ประชาะปไตย ไม่สามารถทำให้ชนชั้นหายไปได้ ขนาดอเมริกา พอเลือกตั้งเรียบร้อยจะเกิดชนชั้นปกครองทันที เพราะ ประธานาธิบดีจะกลายเป้ฯผู้ปกครอง
กลับมาความเท่าเทียมกัน คุณและผมมีความเท่าเทียมกันในการมีชีวิตอยู่ไม่ว่าผู้ใดไม่สามารถพราก มันไปจากเรา คุณและผมมีสิทธิ์ในการสะสมทรัพยกรต่างๆ มีสิทธิ์ที่จะดำรงชีวิต และมีสิทธิ์ต่างในกรอบกฎหมายเดียวกัน"


คุณจะว่าผมมาจาก ขุนนางกลับชาติมาเกิดหรืออะไรก็ตามแต่ หากคุณไม่สามารถทำให้คนเท่าเทียมกันใด้ในทุกด้าน อย่าบอกว่า คนเราจะเท่าเทียมกัน

ผมกับคุณย่อมไม่เท่าเทียมกันหากวัดตาม
1ความไม่เท่าเทียมกันตามธรรมชาติ
2 ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม

ถาคุณคิดว่าสามารถทำให้ความเท่าเทียมกันในสองข้อนี้หายไปได้ ก็ลองทำดู

ความเท่าเทียมกัน ไม่ใช่การเหมือนกันนะครับ ความเท่าเทียมกัน คือความเท่าเทียมกันในสิทธิ และผมไม่ได้ มองว่าคนไม่ใช่คน คุณนั้นแหละที่ดุถูกตัวเอง ว่าคุณไม่ใช่คน

ซากเดนความคิดที่พูดเต็มปากอย่างไม่ละอายใจว่า "คนไม่เท่ากับคน" บก.ลายจุด


ผมย้ำอีกครั้ง คนเราเท่าเทียมกัน ในในสิทธิ พื้นฐาน หลักประชาธิปไตย ก็ใช้ความเท่าเทียมกันในหลักนี้ คุณและผมมีความเท่าเทียมกันในการมีชีวิตอยู่ไม่ว่าผู้ใดไม่สามารถพราก มันไปจากเรา คุณและผมมีสิทธิ์ในการสะสมทรัพยกรต่างๆ มีสิทธิ์ที่จะดำรงชีวิต และมีสิทธิ์ต่างในกรอบกฎหมายเดียวกัน
User avatar
samepong
 
Posts: 1943
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:15 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Canthai » Fri Jan 30, 2009 10:55 pm

- ผมไม่ต้องการมีพี่น้องมาก อย่างที่พ่อแม่ผมมีอยู่ และแม่จะต้องไม่มีลูกถี่นัก

- พ่อกับแม่ ต้องอยู่ด้วยกัน อย่างสงบสุข ทำความอบอุ่นให้ผมและพี่น้อง

- ประเทศของผมควรจะมีความสัมพันธ์อันชอบธรรม และเป็นประโยชน์กับโลกภายนอก ผมจะได้มีโอกาสเรียนรู้ ถึงความคิด และวิชาของมนุษย์ทั้งโลก และประเทศของผม จะได้มีโอกาสรับเงินทุนจากต่างประเทศ มาใช้ ประโยชน์

- ผมต้องการให้ชาติของผม ได้ขายผลผลิตแก่ต่างประเทศ ด้วยราคาอันเป็นธรรม

- ในฐานะที่ผมเป็นกรรมกร ผมก็ควรจะมีหุ้นส่วน หรือมีส่วนในโรงงาน หรือบริษัทห้างร้านที่ผมทำงานอยู่

-เรื่องอะไรที่ผมทำเองไม่ได้ หรือได้แต่ไม่ดี ผมก็จะขอความร่วมมือกับเพื่อนฝูง ในรูปสหกรณ์ หรือสโมสร หรือสหภาพ จะได้ช่วยซึ่งกันและกัน

- ผมต้องการโอกาสที่มีส่วนร่วมในสังคมรอบตัวผม ต้องการมีส่วนในการวินิจฉัยโชคชะตาทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมของชาติ

- เมื่อจะตาย ก็ขออย่าให้ตายแบบโง่ๆ อย่างบ้าๆ คือตายในสงครามที่คนอื่นก่อให้เกิดขึ้น ตายในสงครามการเมือง ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ ตายเพราะน้ำ หรืออากาศเป็นพิษ หรือ ตาย เพราะการเมืองเป็นพิษ

คัดบางส่วนมาให้อ่านเล่น ๆ "จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน"
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby halfmoon » Fri Jan 30, 2009 11:25 pm

ตอนแรกผมนึกว่า บก.ลายจุด จะมีลายที่ขนหรืออาภรณ์
ฟังไปฟังมา บก.สักลายจุดไว้ที่ผืนหนังตัวเองซะแล้ว ทึ่ง
สงสัยต้องแนะนำไปประตูน้ำโพลีคลีนิก ถึงจะลบลายได้!
Last edited by halfmoon on Sat Jan 31, 2009 8:13 am, edited 1 time in total.
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ฉิกตี๋ » Fri Jan 30, 2009 11:31 pm

..............................................................

...ตัวอย่าง Blind Faith ,Blind Faith

...No Coup ,No coup


Snap21.jpg
(35.14 KiB) Downloaded 846 times



ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวก No Coup ฉลาดขึ้น บ้างไหม
...........................................................



....นปก. มันแปลว่าอาราย ว่า................

..................................................
Last edited by ฉิกตี๋ on Fri Jan 30, 2009 11:36 pm, edited 1 time in total.
“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือ สร้างอนาคตขึ้นมาเอง”
User avatar
ฉิกตี๋
 
Posts: 712
Joined: Wed Dec 03, 2008 6:52 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Ixora » Fri Jan 30, 2009 11:36 pm

อ่านไปอ่านมา เข้าใจได้เลย คุณบอกอ
ที่แท้ คุณก็แค่รู้สึกว่า ทำไมกูด่าไม่ได้วะ
คงกระสันอยากด่าเขาเสียเต็มประดาละสิท่า
ทำมาเป็นอ้างสิทธิมนุษยชน

ถามหน่อยเหอะ การเรียกร้องของคุณ ความต้องการของคุณ
ถ้าไม่ได้ มันทำให้ชีวิตประจำวันคุณเดือดร้อนตรงไหนเหรอ

เปล่าเลย มันแค่จิตริษยาของคุณเท่านั้นเอง
...ความชอบธรรมต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม...
User avatar
Ixora
 
Posts: 2103
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:11 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Aloha007 » Fri Jan 30, 2009 11:44 pm

ใครที่ชอบพูดอยู่เรื่อย "ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน" แล้วพอปล่อยให้ปกครองกันเอง ก็ไล่ตีจิกกันแทบเป็นแทบตาย เพื่อย่งการนำเป็นใหญ่ เป็นผู้นำชนชั้น บ้านเราประชาธิปไตยเยอะแล้วนะ แต่มันอยู่ที่สันดานคน
บล็อกส่วนตัว
http://www.oknation.net/blog/kittinunn
บ้านหลังใหม่
http://forum.serithai.org
User avatar
Aloha007
 
Posts: 1141
Joined: Tue Oct 14, 2008 12:14 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby halfmoon » Fri Jan 30, 2009 11:45 pm

ตกลงไอ้เจียมสัก มันส่งไปรษณีย์บัตรไปให้ใครฟะ คุณฉิกตี๋ พลิกด้านหลังให้ดูหน่อยสิ ไม่งั้นก็ส่งไปทั่วประเทศเลย :lol: :lol: :lol:
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ฉิกตี๋ » Sat Jan 31, 2009 12:04 am

......................................................................................................

halfmoon wrote:ตกลงไอ้เจียมสัก มันส่งไปรษณีย์บัตรไปให้ใครฟะ คุณฉิกตี๋ พลิกด้านหลังให้ดูหน่อยสิ ไม่งั้นก็ส่งไปทั่วประเทศเลย :lol: :lol: :lol:



..แหะ แหะ คุณ Halfmoon ผมเอามาจากเว็บลุงแคน นั่นแหละ แหม ท่าจะถูกใจพวกเกลียดรัฐประหารซ่อนรู๊ป ซ่อนรูป อิ อิ....

..เพิ่มอีกนิดสสส์ Blind Faith, Blind Faith

ผมเสนอว่ามารณรงค์ให้คนอย่าทำผิดกฎหมายโน่นนี่ให้เสียเวลาเลย

ทำผิดใหญ่ๆแม่งเลย กบฎรัฐประหาร ล้ม รธน.เลย ไม่ต้องถูกฟ้องศาล ไม่ต้องถูกประณาม ไม่ต้องขึ้นศาลแผนกคดีอาญานักการเมืองอะไรทั้งนั้น

ยุให้พวกทักษิณ รัฐประหารแม่งเลยครับ

ทุกอย่างมันวิปริตหมดแล้ว

มีฟ้องนักการเมืองทุกวัน

แต่รัฐประหารมา 2 ปี

เป็นนายกพระราชทาน เขายายเที่ยงปีนึง
คนวางแผนรัฐประหารอยู่เบื้องหลังอีก

ไม่มีความผิดใดๆทั้งสิ้น

(ที่วิปริต ชวนเศร้ามากๆสำหรับผมคือ บรรดา "ปัญญาชน" ทั้งหลาย ก็พลอยคิดวิปริตตามไปด้วยว่า ภาวะวิปริตนี้ เป็นเรื่องปกติ)
http://www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=704262



....แอ็คชั่น.....


80x80_Picture15077.JPG
(13.49 KiB) Downloaded 790 times
“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือ สร้างอนาคตขึ้นมาเอง”
User avatar
ฉิกตี๋
 
Posts: 712
Joined: Wed Dec 03, 2008 6:52 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby kingkong » Sat Jan 31, 2009 12:05 am

บก.ลายจุด wrote:โอ้...นี่ผมกำลังพูดอยุ่กับใครล่ะเนี่ย
พวกขุนนางกลับชาติมาเกิดหรือกระไร ?
ซากเดนความคิดที่พูดเต็มปากอย่างไม่ละอายใจว่า "คนไม่เท่ากับคน"
และควรยอมรับกับความไม่เท่าเทียมในสังคม ราวกับว่า ความไม่เท่าเทียมที่คุณพูดถึงนั้น เป็นความงดงามกระนั้นแหละ

โลกมนุษย์ฆ่ากันตายไปเท่าไหร่แล้ว เพื่อจะประกาศว่า "คนเท่ากับคน"
สงครามกลางเมืองในสหรัฐระหว่างเหนือ-ใต้ การปลดปล่อยคนสีผิวในอเมริกา
การปลดแอกจากจักวรรดิ์นิยมทั้งหลายที่ปกครองประเทศต่าง ๆ

แน่นอนว่าบางคนรวย บางคนจน
บางคนพิการ บางคนร่างกายสมบูรณ์
บางคนไร้การศึกษา บางคนเรียนจบ ดร
บางคนกินปลาทะเล บางคนกินปลาร้า
แต่ทุกคน ล้วนแล้วเป็นคนเสมือนกัน

การมองคนไม่เท่ากับคน
คือการทำลายหลักการสำคัญที่เรียกว่า "สิทธิมนุษยชน"
ซึ่งเคารพหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์
มนุษย์มีเสรีภาพในการคิด และ ตั้งคำถาม
นิคเช่ ยังประกาศว่า พระเจ้าตายแล้ว
หรือแม้แต่การตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของ พระผู้เป็นเจ้าว่า สิ่งนี้ดำรงอยู่หรือเคยมีอยู่จริงหรือไม่

ผมไม่ได้พูดถึงความไม่เท่าเทียมของสถาบันใด
แต่ผมพูดถึงหลักการว่าด้วยความเสมอกันของความเป็นมนุษย์

การเคารพนับถือใครนั้น ผมไม่เคยขัด
แต่เราต้องไม่ทำลายหลักการพื้นฐานสำคัญนี้



สงสัย บก.จะดูหนังมากไป ความเท่าเทียมกันในโลกแห่งความจริงมันไม่มีหรอกครับ เพราะมันไม่มีไง คนจึงไขว่คว้าหาความเท่าเทียม ก็แค่เพื่อที่จะลอกเลียนความสุขที่ตนเองปราถนา หรือ แม้แต่โอกาส ที่ตนเองต้องการจะมีไว้ครอบครองบ้าง เพราะ ไม่มีอะไรในโลกที่สามารถให้คนทุกคน หรือ สัตว์ทุกพันธ์ได้เท่ากัน ทุกชีวิตมันถูกแบ่งแยกมาตั้งแต่กำเนิดโลกแล้ว เพียงแต่ เราจะสามารถยอมรับได้หรือไม่ ก็เพียงเท่านั้น แม้แต่ชนชั้น มันก็ถูกกำหนดมาแต่ช้านานว่า ต้องมีชนชั้นปกครองและใต้ปกครอง มีจ่าฝูง มีหัวหน้าฝูง ใหญ่กินเล็ก ห่วงโซ่อาหาร ซึ่งล้วนแล้วแต่คือ ธรรมชาติทั้งสิ้น ซึ่งสังคมของ คน ก็เป็นสังคมสมมุติที่มีกลไกที่เรียกว่าชนชั้นไม่ต่างจากธรรมชาติของสัตว์โลกโดยทั่วไปแม้แต่น้อย

เพียงแต่ คน มีคำว่า ละโมบ มากกว่า อยากยิ่งใหญ่ อยากมีอำนาจ อยากมีความพึงพอใจ จึงก่อให้เกิด การกดขี่ข่มเหง การเบียดเบียน การบีบบังคับ ซึ่งรุนแรงและโหดร้ายกว่าธรรมชาติแท้จริงเสียอีก

จึงก่อให้เกิดความคิดว่า คนนั้นควรจะ เท่าเทียมกัน เพื่อ ปกป้องตนเอง และ การก้าวต่อสู้เพื่อให้ไม่ถูกกดขี่อีกต่อไป เพื่อจะได้โงหัวจากโคลนตม มาสูดสายลมที่คนชั้นสูงสัมพัสดูบ้าง หรือ แม้แต่ การก้าวไปใช้ชีวิตที่ไม่ต้องถูกข่มเหงอีกต่อไป ที่เรียกกันว่า อิสระภาพ

แต่....นั้นมันสมัยที่ คนขาวปกครองคนดำ ชนชั้นนำกดขี่คนชั้นล่าง เช่น ทาส ผู้ใช้แรงงาน
มาปัจจุบัน โลกได้ก้าวสู่ระบบทุนนิยม ทุกคนล้วนมีโอกาสที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต เพียงแต่ จะทำด้วยวิธีไหน และ มีแผนการเช่นไร ในปัจจุบัน ลูกคนจน อาจเป็นเจ้าของกิจการที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต หรือ มหาเศรษฐี ก็อาจกลับกลายมาเป็นขอทาน ก็ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ การกระทำของคนนั้นๆทั้งสิ้น สังคมให้โอกาสทุกคน เพียงแต่ ทุกคนก็ต้องยอมรับว่า โอกาสนั้นอาจมีมากบ้างน้อยบ้างไม่เท่ากัน ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์เท่ากัน หรือ มีสิทธิ์ในสังคมเท่าๆกัน แต่ คนทุกคน สามารถเท่าเทียม หรือ เหนือกว่า คนอื่นๆได้ ด้วยตัวตนของตนเอง

ดังนั้น ผมจึงมองว่า ปัจจุบัน ไม่เหมือนเมื่ออดีตอีกต่อไป ใครจะคิดแบบคนเมื่อ 60 -90 ปีที่แล้วผมก็ไม่ว่า เพียงแต่อยากให้รู้จักยอมรับความเปลี่ยนแปลงของโลกบ้าง โลกนี้ได้ให้โอกาสกับทุกคน ทุกคนย่อมมีโอกาส แม้ว่าจะไม่เท่าเทียม เช่น คุณ บก.ก็มักจะให้โอกาส พวกชาวเขา และ เรียกร้องหาโอกาสให้พวกเขา ซึ่งก็ต้องมีบางส่วนที่ ประสบความสำเร็จ ที่สำเร็จก็เพราะสังคมเปิดโอกาส แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณทำให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม แต่ คุณทำให้เขามีโอกาส พอที่จะเป็นเช่นดั่งคนอื่นๆเท่านั้นเอง

แต่อย่างที่กระผมแจ้งไว้ ซึ่งมันเป็นความจริงอย่างแน่แท้ นั้นคือ คนทุกคนไม่มีวันเท่าเทียมกันหรอกครับ เพราะ คนจะเท่ากันได้ต้องมีองค์ประกอบที่ คล้ายกัน ควบคู่เสมอ ถ้า องค์ประกอบที่ว่านั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จะร้องหาความเท่าเทียมจนตายก็ไม่มีประโยชน์ครับ คิดง่ายๆ คุณเป็นประธานมูลนิธิ ถ้ามี คน 2 คนให้คุณตัดสินใจขึ้นมาแทนคุณ ผมเชื่อ ว่า 2 คนนั้นจะไม่มีวันเท่าเทียมกันในใจคุณ หรือ แม้แต่ ถ้ายามหน้ามูลนิธิคุณดันทะลึ่งมาบอกคุณว่า เขาอยากเป็นประธาน เขามีสิทธิ์ที่จะได้เป็นประธานหรือไม่ คุณอาจตอบว่ามีสิทธิ์ แต่ ในใจคุณ ผมคิดว่า คุณไม่คิดเช่นนั้นหรอกครับ.

ปล.ผมก็ยังสงสัยอยู่ดี ว่าแนวทางของมูลนิธิ คุณ ไม่ได้เกี่ยวกับ พวกเสื้อแดง รัฐประหาร หรือ การแก้ไข กม.หมิ่นพระบรม เสียหน่อย เลยแปลกใจว่า ตกลง คุณมีเป้าหมายอะไรในชีวิตและการดำเนินการของคุณกันแน่ จะทำเพื่อสังคม หรือ เพื่อความพอใจของตัวคุณเองกันแน่
User avatar
kingkong
 
Posts: 60
Joined: Wed Jan 28, 2009 5:51 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby halfmoon » Sat Jan 31, 2009 12:22 am

คือว่าคนสักลายจุดใส่ผืนหนังตัวเองแล้ว ลบไม่ได้ ก็เลยกลายเป็นปมเด่น
แท้จริงอาจพรางปมด้อยของตนที่อยู่ในใจ หรือประสบการณ์เลวร้ายรึไม่
แต่หากเอาความรู้ประสบการณ์อันพึงมีมาประกอบสร้างสังคมในทางบวก
ก็น่าจะพอได้ ผมอยากให้ใครสักคนเป็นอาสาสมัครกล่อมเกลาแกหน่อย
อาจเป็นการปกป้องประเทศชาติอีกทางนึง ดีกว่าปล่อยให้กัดกร่อนจนพัง!
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Caocao » Sat Jan 31, 2009 12:43 am

ตกลงที่ บก. ลายจุด มานั่งพิมพ์ นอนพิมพ์ แทนสมศักดิ์เจียมนี่ เพราะเห็นด้วยในหลักการ หรือพยายามแสดงตัวให้ชัดเจนว่าตัวไม่เอาเจ้า จะได้เข้าใจชัดๆว่า บก. ลายจุด ไม่เอาเจ้า ไม่ใช่แค่สนับสนุนสมศักดิ์เจียม เพราะอยู่ฝ่ายทักษิณเหมือนกัน เอาให้แน่ๆครับ บอกมาเลยดีกว่าจะได้ใสๆ :D
"เพราะชอบธรรม จึงเป็นธรรม"
User avatar
Caocao
 
Posts: 1748
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:17 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ฉิกตี๋ » Sat Jan 31, 2009 1:12 am

...........................................................................................................


นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ยังได้ แสดงตัวอย่างให้ดู ว่า การไม่กระจอกและขี้ลืมนั้นทำอย่างไร

ด้วยการเสนอให้นายแดน ริเวอร์ส ไปกราบบังคมทูลขอพระราชทานสัมภาษณ์ สมเด็จพระเทพฯ เพื่อกราบบังคมทูลถามเหตุผลที่พระองค์ทรงกล่าวสดุดีเกียรติคุณลูกเสือชาวบ้านที่เสียชีวิตจากการเข้าร่วมการบุกเข้าไปในธรรมศาสตร์เมื่อ 6 ตุลา 2519 ทั้งยังแนะนำให้นายแดนกราบบังคมทูลถามว่า ในปัจจุบัน สมเด็จพระเทพฯ ยังคงยืนยันพระราชดำรัสดังกล่าวหรือไม่ ที่เชิดชูการกระทำของผู้ที่บุกเข้าไปในธรรมศาสตร์เมื่อ 6 ตุลา 2519

นอกจากนี้ยังแนะนำให้นายแดนขอสัมภาษณ์ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร อดีตนายกรัฐมนตรีหลัง 6 ตุลา 2519 และ ปัจจุบันเป็นองคมนตรี ซึ่งเคยมีบทบาทก่อน 6 ตุลา 2519 ในการปลุกระดมทางทีวีเพื่อต่อต้านนศ. ไม่ต่างจากนายสมัคร ทั้งหลังเหตุการณ์ดังกล่าวก็เข้ารับตำแหน่งนายกฯ และทำการปราบปรามผู้รอดชีวิตจาก 6 ตุลา 2519 อีก โดยแนะนำให้นายแดนถามนายธานินทร์ว่า รู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนั้น (เช้าวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519)

อันที่จริงแล้ว เมื่อ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เห็นว่า นายแดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น สัมภาษณ์ผิดคนก็สามารถเขียนจดหมายไปแนะนำนายแดนด้วยตนเองได้ อีกทั้งยังสามารถทำเป็นจดหมายเปิดผนึกถึงสื่อมวลชนทุกประเภทเพื่อแสดงความ เห็นดังกล่าวได้ ซึ่งนายแดนและคนอื่นๆ จะได้รับทราบความเห็นของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และจะได้ตอบความคิดเห็นดังกล่าวตามแนวความคิดของแต่ละคน

แต่การที่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ใช้ วิธีการแบบซ่อนเล่ห์ ด้วยการ ด่ากราดรอบวง ด้วยคำเหยียดหยามประเภท "กระจอก" และ "ขี้ลืม" ต่อบรรดาผู้ที่กำลังวิจารณ์นายสมัคร ในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศคนปัจจุบัน เพื่อแฝงเร้นนำเสนอการอวด ความเฉลียวฉลาดและกล้าหาญแบบสุนัขจิ้งจอก โดยชี้ว่าควรไปสัมภาษณ์คนที่นายสมศักดิ์ระบุอ้อมๆ ว่าเป็น "นายตัวจริง" ของนายสมัครเมื่อสมัย 6 ตุลา 2519 ออกจะเป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วไปในแวดวงวิชาการเขาไม่กระทำกัน

ในงานชิ้นหลายชิ้น รวมถึง "เราสู้" ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการทำงานศึกษาค้นคว้ารายละเอียดของหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์จำนวนมากอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และด้วยจิตใจที่รักความจริง

แต่ในระยะหลังๆ นี้ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล กลับละทิ้งความสามารถดังกล่าว และพยายามแสดงตนเป็นสิ่งที่ตนไม่เคยเป็นมาจริงเลย ทั้งในอดีต-ปัจจุบัน และแม้ในอนาคต คือการเป็น ศาสดาเจ้าลัทธิ หรือ ผู้ชี้นำการปฏิวัติสังคม

นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล น่าจะศึกษาประวัติศาสตร์การปฏิวัติของมนุษยชาติยุคต่างๆ ด้วยความเข้าใจผิดที่สำคัญบางอย่าง และความเข้าใจผิดดังกล่าวได้ทำให้ลูกหลานที่ดีของปวงชนไทยคนหนึ่ง ถลำไปเป็น ผู้เชิดชูลัทธิบูชาบุคคล และแสดงตนเป็น เทวดาผู้ไม่เคยชี้แนะผิดพลาด ซึ่งคอยด่ากราดบรรดาผู้คนร่วมแวดวงต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของปวงชนไทย เพียงเพื่อขับเน้นรัศมีแห่งความเฉลียวฉลาดและอัจฉริยภาพของตน

แน่นอนว่า นักวิชาการ ก็มีธาตุเช่นเดียวกับ ศิลปิน หรือ ผู้ผลิตงานสร้างสรรค์ อื่นๆ คือ ความโรแมนติค-อ่อนไหว และ ความโน้มเอียงที่หมกมุ่นอยู่ในโลกส่วนตัว

แต่นั่นก็เป็นการท้าทายจากภายในของตนเอง ในการต่อสู้เพื่อรักษาสมดุล ระหว่าง ความอหังการส่วนตน กับ ความเคารพต่อสังคม ระหว่าง ชัยชนะส่วนตัว กับ ชัยชนะของปวงชน ระหว่าง ความสำเร็จ-ความพึงใจส่วนตน กับ มิตรภาพ-ความสามัคคีในขบวนสู้รบที่ปฏิวัติ

ขอนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้กรุณาทบทวนความคิดของตนในระยะหลายปีนี้อีกครั้ง เราทุกคนเอาใจช่วยเพื่อให้นักวิชาการผู้กล้าหาญได้หวนกลับคืนสู่อ้อมกอดของปวงชนอีกครั้งหนึ่ง


http://www.arayachon.org/motherland/20080216/374


อาจารย์ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล แห่งภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กูรู และตำรวจความคิดประจำเว็บบอร์ดการเมือง (web board guru & thought police) ผู้วิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านฝ่ายพันธมิตร- เครือผู้จัดการ-ตุลาการภิวัตน์- รัฐประหาร-การยุบพรรคไทยรักไทย-รัฐธรรมนูญ 2550 - ฝ่าย "สองไม่เอา" ฯลฯลฯลฯลฯ อย่างเกรี้ยวกราดดุร้าย ดื้อรั้นเถรตรง ไม่ฟังอีร้าค้าอีรม และเอาการเมืองนำวิชาการเสมอมา ตามที่ปรากฏค่อนข้างสม่ำเสมอในเว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน,ประชาไท และที่อื่นๆ ดูตัวอย่างใน "ปัญญาชน 14 ตุลา พันธมิตร และแอ๊กติวิสต์ "2 ไม่เอา" รัฐประหาร 19 กันยา : รัฐประหารเพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน, 2550), หน้า 382 - 430.


http://www.nidambe11.net/.../2008q2/2008june20p4.htm

สมศักดิ์ เจียมฯ"-ไอ้หัวโตฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ เผาหนังสือเป็นว่าเล่น, ตำนานไอ้หัวโตบ้าบอฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์

พ่อเคยเล่าให้ฟังว่ามีรุ่นพี่คนหนึ่งที่สวนกุหลาบชื่อว่าสมศักดิ์ เจียมฯเพื่อนๆเรียกว่า"ไอ้หัวโต"
มีอยู่ปีหนึ่งมันทำหนังสือรุ่นท้าทายครูบาอาจารย์ชื่อศึกขึ้นมาพร้อมๆกับหนังสือรุ่นของจริงมีเนื้อหาฝักไฝ่คอมมิวนิสต์และมันเผาหนังสือรุ่นฉบับจริงที่ผลิตออกมาทุกป
ีพร้อมกับปลุกระดมให้นักเรียนสวนกุหลาบทะเลาะกันเอง พ่อบอกว่ามันบ้าๆบอๆเป็นไอ้คอมมิวนิสต์ที่คลั่งลัทธิ
อย่างหนัก ปลุกปั่นให้นักเรียนกระด้างกระเดื่องต่อโรงเรียนและรัฐบาล มันกับเพื่อนติงต๊อง
ของมันบ้าๆบอๆไปวันๆจนถึงขั้นบรรลุจุดสุดยอดแห่งลัทธิคอมมิวนิสต์ มันกระสันต์อยากล้มเจ้า
มากกระทั่งเวลามันสอนหนังสือมันก็แทรกเนื้อหาล้มเจ้าไปด้วย แม้กระทั่งลูกศิษย์ปริญญาโทของมัน
มาสอนวิชาสหวิทยาการณ์ให้กูที่ธรรมศาสตร์ยังคลั่งลัทธิตามอาจารย์หัวโตของมันสอดแทรกเคล็ด
วิชาล้มเจ้าเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะหลอดยาสีฟันเอย เศรษฐกิจพอเพียงเอย เหมือนกับเป็นคาถาลัทธิที่
มันท่องมาจากไอ้หัวโตสมศักดิ์ เจียมฯ ทำให้ลัทธิคอมมิวนิสต์หัวเอียงซ้ายยังไม่ตายไปจากธรรมศาสตร์
ตราบใดที่ไอ้หัวโตสมศักดิ์ เจียมฯมันยังมีชีวิตอยู่


http://www.sameskybooks.org/board/index.php?s=61f7d9...

...อาจารย์สมศักดิ์ไม่ไปตอบเขาหน่อย ละครับ...

1211879400.jpg
(32.62 KiB) Downloaded 761 times




1211880251.jpg
(38.66 KiB) Downloaded 747 times



...........................................................................
“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือ สร้างอนาคตขึ้นมาเอง”
User avatar
ฉิกตี๋
 
Posts: 712
Joined: Wed Dec 03, 2008 6:52 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Caocao » Sat Jan 31, 2009 1:28 am

ที่ผมอยากรู้มากกว่าหน่ะ คือทบวงมีกระบวนการคัดสรรค์บุคลากรยังไงถึงได้มีบุคคลซึ่งมีแนวคิดที่ส่อถึงอันตรายต่อความมั่นคง สอดแทรกในหน่วยงาน :(
"เพราะชอบธรรม จึงเป็นธรรม"
User avatar
Caocao
 
Posts: 1748
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:17 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Canthai » Sat Jan 31, 2009 2:29 am

ผมด่าหมักจืดมาหลายปี ไอ้หัวโต มันคิดยังไงกับ "แฝดสยอง หมักจืด"

บอกให้ไปอ่านบันทึกอาจารย์ป๋วย กรณี 6 ตุลา 19 ก็ไม่ไปค้นคว้า เป็นอาจาย์ภาษาอะไร

ไม่รู้ว่าแกล้งโง่ หรือโง่จริง ๆ

"คำให้การของดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ กรณีเหตุการณ์ 6 ตุลา "

ผมอ่านหลายเที่ยว อาจารย์ป๋วยปกป้องสถาบันฯ บอกว่าสถาบันฯเป็นกลาง

ต่อหน้าฝรั่งชื่อ นายสมีตัน ต่อหน้าคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ สภาคองเกรส สหรัฐอเมริกา

ถ้าเป็นนักประวัติศาสตร์ ต้องวิเคราะห์ว่า ทำไมอาจารย์ป๋วยต้องกล่าวปกป้องสถาบันในสถานการณ์เช่นนั้น

อ่านตอนท้ายๆ ก็ได้ครับ...
http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/01/19/entry-2
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby zigaratte » Sat Jan 31, 2009 3:38 am

เจียมโดนลอกคราบซะแล้ว ว่ะ เฮ้ย

ไม่น่าเชื่อ ฮ่าๆๆๆ แก่กระโหลกกะลาจริงๆ

เจียมดีแต่บอกให้คนโน้นคนนี้ไปถาม ทำไมมรึงไม่ไปถามเองหล่ะ กระจอกฉิบหาย ไอ้เจียม นักวิชาการ ที่ซุกหัวอยู่แต่ในรู กระจอกยิ่งกว่าไอ้ดาตอปิโดซะอีก


ป.ล. ถึงจุดที่ยกตัวอย่างวลีของนิทเช่ที่เขาบอกว่า " God is dead " หน่ะจุดเข้าใจความหมายของมันหรือเปล่า หรือสักแต่เอามาใช้ จะได้โชว์เหนือ โชว์เท่
User avatar
zigaratte
 
Posts: 819
Joined: Mon Oct 13, 2008 9:08 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby enjoy » Sat Jan 31, 2009 4:20 am

เรียกสาวๆข้างๆบ้านมาดูว่านี่ไงไอ้หัวโตชอบหมิ่น
สาวๆข้างห้องร้องยี้!!!!!!!!!!!
พวกเธอเอาน้ำล้างตาด้วยนะบอกเดี๋ยวเป็นเสนียนติดตา หัวเราะขำไอ้หัวโตกันใหญ่
ได้นิ้วกลางด้วยนะคนที่ยกให้สวยด้วยขอบอก :lol:

5555 ทุเรสเวทนาไอ้หัวโตสมศักดิ์
ปีนึงหัวโตขึ้นทุกๆกี่นิ้วก็ไม่รู้เครียดจัด

ใครรู้ตัวเองว่าเอี้ยหัวโตยกมือขึ้น :P
Image
User avatar
enjoy
 
Posts: 103
Joined: Tue Nov 25, 2008 6:36 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby คิคิ » Sat Jan 31, 2009 5:42 am

Canthai wrote:หัวโต

มีคนชอบคิดว่าผมเป็น "แคน สาริกา" นักเขียนในค่ายเนชั่นหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่หรอก

แคน ไทเมือง ก็คือ แคน ไทเมือง เป็นชาวนาแก่ๆ ที่บ้านหนองแคน

ผมสัมผัสสหาย ระดับลึกจริง ๆ น้อยมากครับ ยกเว้น "สหายขวาน" นอกนั้นก็ผ่าน ๆ พยักหน้าให้กัน

ผมเรียนมาจากคณะที่สมศักดิ์ เจียมคงไม่มีปัญญาเอ็นติด ช่วงที่เค้าต่อสู้ 14 ตุลา 16 ผมจบมาปีเศษแล้ว

โตมากับยุคแสวงหา ยุคสังคมศาสตร์ปริทรรศน์ ตอนเรียนก็ไปทำหนังสือที่โรงพิมพ์สมาคมสังคมศาสตร์นั่นแหละ

เพื่อนผมมีทั้งซ้าย มีทั้งขวา มีทั้งเสรีนิยม ทั้งคอมมูนิสต์ สมัย 6 ตุลา 19 ก็เข้าไปทำข่าวในห้องประชุมของศูนย์นิสิตบ่อย ๆ ซึ่งมีหนังสือพิมพ์รายวันไม่กี่ฉบับหรอกที่เข้าไปในนั้นได้ ( รู้สึกจะอยู่ตึกนิติชั้น 2 )

แต่นักข่าวรุ่นน้องผมที่ร้องไห้ส่งเสียงโฮ โฮ... วันที่ 6 ตุลา 19 ทันทีที่เห็นข่าวช่อง 9 ในวันที่ 6 ตุลาคมปีนั้น

เดี๋ยวนี้กลายเป็นลิ่วล้อทักษิณ ตรงข้ามพันธมิตร ( เดี๋ยวนี้ระดับหัวหน้าข่าวหน้า 1 ยักษ์ใหญ่หัวเขียว )

ส่วน "หัวโต" นั้นตอน 14 ตุลา 16 น่าจะอายุ 15 ปี ช่วงนั้นตลาดหนังสือฝ่ายซ้ายเปิดมาก วางขายกันเกร่อ

ตอนนั้นหัวโตน่าจะเพิ่งเสียงแตก นมเพิ่งแตกพาน...ผมทำงานแล้ว เรียนจบเป็นบัณฑิตแล้ว

หนังสือแปล หนังสือไม่แปล มีขายกันเกลื่อน หัวโตคงได้สัมผัสคำว่า "ซ้าย" ในยุคนั้น

อย่าบอกว่าสนใจคอมมูนิสต์มาตั้งแต่เด็กๆ เพราะครอบครัวเชื่อเช่นนั้นนะ

แต่ด้วยสาขาที่เรียน ทำให้ต้องอ่านมาก ทำงานมาก คุยกับอาจารย์มาแทบทุกคณะ สัมผัสการอภิปรายในมหาวิทยาลัยแทบทุกงาน

ผมโตมาจากจังหวัดทางภาคอีสาน ฟังวิทยุเสียงประเทศไทย(ปักกิ่ง) คุยกับคอมมูนิสต์เวียตนาม โตทันตอนแคมป์ทหารอเมริกัน

ดูหนังกลางแปลงจากยูซีส...

ต้องบอกว่าห้วง 14 ตุลาคม 2516 นั้นผมโตเต็มวัย ทำงานแล้วครับ แต่หัวโตยังคงเป็นแค่ดักแด้ ในรังไหม

เพื่อนผมในจังหวัดเป็นอาจารย์แล้วออกป่าต่อสู้ในเขตงานบุณฑริก ก็โดนเพื่อนที่จบสามพรานยิงตาย...มันไม่น่าอภิรมย์ซักเท่าไหร่

ที่เพื่อนเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก ต้องหยิบอาวุธขึ้นมาประหัตประหารกัน ให้ตายไปอย่างโง่ ๆ

แม่ของเพื่อนผมที่ถูกยิงตาย ก็สร้างนิยายหลอกตัวเองว่า "ลูกชายยังไม่ตาย" จนแม่เสียชีวิตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ต้องบอกอีกทีว่า ผู้คนในเสรีไทยเว็บบอร์ด มีคนที่ร่วมต่อสู้ใน 14 ตุลา 16 อีกหลายคน

อย่าเที่ยวดูถูกผู้คนเค้าไปทั่ว...ผู้คนเค้าขี้เกียจตอบโต้ เพราะมันเข้าทางหัวโต...โต้แย้งในเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์

เมื่อรักจะเชื่อในทางของตนเอง โดยไม่ฟังเหตุผลคนอื่นก็ต้องปล่อยไป ไม่พูดในเรื่องที่ยอมกันไม่ได้

ก็ต้องบอกอีกครั้งว่า ในความหลากหลายของความคิด เราก็อยู่ร่วมกันได้ ไม่ต้องทะเลาะกันในเรื่องที่ไม่มีใครอยากพูด

อย่าคิดว่าคนอื่นรู้ไม่เท่าทันหัวหงอก ๆ แบบคุณ

เลิกเถอะครับ...มันไม่เกิดผลในเว็บนี้หรอก

ความรู้เรียนทันกันหมด...

โชคดีอย่างหนึ่งคือ ถึงผมจะแก่กว่าคุณ แต่ผมบนหัวยังไม่หงอกเลย ผมคงโชคดีกว่าคุณนิดนึงมั๊ง


:mrgreen: ถูกใจ ให้กิ๊ฟครับ

ไอ้หงอกเจียม กับ ไอ้หงอกสุนัข เอ้ย สุนัย ไม่ต่างกันเลย 55555
:mrgreen:
ลายเซ็นต์กู มืงก็ลบ
User avatar
คิคิ
 
Posts: 1702
Joined: Tue Oct 14, 2008 3:40 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby สมศักดิ์ เจียม » Sat Jan 31, 2009 7:07 am

jerasak wrote:
สมศักดิ์ เจียม wrote:
Prinz_Bismarck wrote:ให้เครดิตแก่คุณ jerasak นะครับ เพราะผมถามเขาทางหลังไมค์

แต่แนะนำว่า คุณ Prinz_Bismarck ไม่ต้องคิดมาก
ถึงอย่างไรคนกลุ่มนี้ก็ต้องหาเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ

...

ว่าแต่เขาจะเถียงประเด็นไหนแน่ "วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้"
หรือว่า "ตรวจสอบไม่ได้" ครับ?

เพราะแน่นอนว่าโครงการพระราชดำริวิพากษ์วิจารณ์ได้
แต่ผู้วิพากษ์วิจารณ์ควรเข้าใจด้วยว่ากำลังวิพากษ์วิจารณ์
การทำงานเจ้าหน้าที่ วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการทำงาน-
ของโครงการ หรือจะวิพากษ์วิจารณ์แนวพระราชดำริ

ถ้าวิพากษ์วิจารณ์เ้จ้าหน้าที่ หรือการทำงานของโครงการ
ก็เหมือนกับวิพากษ์วิจารณ์คนทั่วไป โครงการทั่วไปครับ
สามารถไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

แต่ถ้าจะวิพากษ์วิจารณ์แนวพระราชดำริ ก็ควรระมัดระวัง
เรื่องแสดงความเห็นหมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายฯ
ซึ่งเป็นเรื่องที่มีกฎหมายห้ามไว้

...



คนที่จะตอบโต้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อที่สุดก็เห็นมีแต่คุณ jerasak เท่านั้น :D


อย่างที่เขียนมานี้น่ะหรือครับ เรียกว่า "สมน้ำสมเนื้อ"
โธ่เอ๋ย

อันนี้่ ฝ่ากท้าไปถึงคุณจีรศักดิ์ ตรงๆ

ออกมา "หน้าไมค์" ดีกว่าครับ ไปหลบๆซ่อนๆ อยู่ข้างหลังทำไม

...

ขอท้าให้ออกมาหน้าไมค์ดีกว่าครับ ไปมุดหลบแต่หลังไมค์ ให้คนอื่นออกหน้า มา "หน้าแตก" ทำไม??

(ปล. เห็นมีการศึกษา อ่านเว็บระดับ bi-lingual แบบ fringer นะครับ ท่าทางก็เหมือนมีการศึกษา แต่ไหง ไม่รู้จัก ยอมรับเมื่อเถียงไม่ได้ หรือ ให้ดีกว่านั้น ไม่รู้จัก คิดอะไรให้มีลักษณะ critical กว่านี้ครับ แล้วแทนที่จะช่วย "โปรดสัตว์" ทำให้คนแถวนี้ มีความฉลาด หรือ ความรู้จักยอมรับ เผชิญความจริง มากขึ้น กลับ set ตัวอย่างไม่ดี แบบ รู้ แต่เอาสีข้างเข้าถู แบบนี้ ล่ะครับ?)


อ.สมศักดิ์ ครับ :D

ข้อความของผมที่คุณ Prinz_Bismarck นำมาโพสต์
ผมไม่ได้ตั้งใจคุยกับใครนอกจากคุณ Prinz_Bismarck
ซึ่งปกติจะมีสมาชิกคุยหลังไมค์กับผมว่าไปเห็นประเด็น
เรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วถามว่าผมมีความคิดเห็นอย่างไร
ผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามีการพูดคุยกันที่ไหน เพราะปกติ
มักจะมาจาก ประชาไท ฟ้าเดียวกัน หรือ พันทิป

การที่ อ.สมศักดิ์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อความของผม
ทำนองว่าผมหลบๆซ่อนๆ มุดหลบแต่หลังไมค์ให้คนอื่น-
ออกหน้าแล้วท้าให้ผมออกมาหน้าไมค์นั้น แสดงให้เห็น
ถึงความมีอคติคิดจินตนาการแต่เรื่องร้ายให้คนอื่นของคุณ
ทั้งที่ตัวคุณเองมีข้อมูลเพียงนิดเดียว จากข้อความบางส่วน
ที่ผมคุยกับคุณ Prinz_Bismarck ทางหลังไมค์เท่านั้น
และผมไม่ได้ตั้งใจจะคุยอะไรกับคุณเลย :!:

แค่เพียงการวิพากษ์วิจารณ์ ดูหมิ่น หมิ่นประมาทตัวผม
โดยมีอคติ ใช้จินตนาการด้านลบในกระทู้นี้ก็แสดงให้เห็น
มาตรฐานของ อ.สมศักดิ์ แล้ว ซึ่งผมเองที่เป็นคนธรรมดา
ก็ยังลำบากหากจะพิสูจน์ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ว่าไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่คุณกล่าวหา แล้วถ้าเป็นระดับ
บุคคลสำคัญสูงสุดของประเทศจะลำบากขนาดไหน?


...

มีคำกล่าวที่มีชื่อเสียงว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"
ผมอยากขยายความว่า "จินตนาการอันตรายกว่าความรู้"

หากจินตนาการนั้นเกิดขึ้นจากอคติ หากเราไม่ระมัดระวัง
ความคิดของเรา มันจะกำหนดการกระทำของเรา และ
ในที่สุดมันจะกำหนดชะตากรรมของเรา
:idea:

...

อ.สมศักดิ์ เป็นคนฉลาด จบปริญญาตรีได้เกียรตินิยม
และยังได้ร่ำเรียนจนจบปริญญาเอก จากต่างประเทศ
สมควรบริหารความฉลาดให้เกิดประโยชน์ทางวิชาการ
ไม่ใช่มาโพสต์กระทู้ยั่วคนอื่นเล่น แล้วนำเอาไปอวด-
เพื่อนในบอร์ดกลุ่มตัวเองเหมือนเด็กไม่มีอะไรทำแบบนี้

อ.สมศักดิ์เองมีประสบการณ์การสอน การบรรยายและ
งานเขียนทางวิชาการ ที่มากมายกว่าผมหลายเท่านัก
ซึ่งผมเองเคยได้ติดตามศึกษางานชิ้นที่ดีๆ มาหลายชิ้น
กลับไปทำงานวิชาการเถอะครับ อย่าเสียเวลาเปลืองตัว
เปลืองสมอง เล่นอะไรแบบนี้จะดีกว่าไหม?
:idea:

...

ที่ อ.สมศักดิ์ โพสต์ตลอดเวลาว่าไม่มีใครคุยกับคุณ
ในประเด็นที่คุณอยากคุย ผมเคยตอบไปตั้งแต่ต้นว่า
ตามมารยาท อย่าชวนใครคุยในเรื่องที่เขาไม่อยากคุย

ถ้าผมชวน อ.สมศักดิ์ ร่วมกันเชิดชูถวายพระเกียรติ
สถาบันพระมหากษัตริย์ อ.สมศักดิ์ อยากร่วมกับผม
ไหมล่ะครับ และถ้าผมตั้งกระทู้ที่บอร์ดกลุ่มของคุณ
ชักชวนให้เชิดชูสถาบัน คิดว่าคนที่นั่นจะคุยในประเด็น
ที่ผมตั้งกระทู้ไหมครับ?
:?:

...

แนวคิด อ.สมศักดิ์ กับผมไม่เหมือนกันครับ คุณจะบอก
ว่าผมโง่หรือบ้าอย่างไรก็ตาม แต่ผมมีความคิดความเชื่อ
ของผมเองว่า "ความเท่าเทียมไม่มีจริง" ซึ่งไม่เฉพาะกับ
ประเทศไทยแต่เป็นความจริงเชิงประจักษ์ทุกสังคมทั่วโลก

*ดังนั้นที่คุณพยายามบอกว่าสถาบันฯ สมควรวิจารณ์ได้
เหมือนบุคคลธรรมดา ผมจึงไม่เห็นด้วยโดยสิ้นเชิง*


และข้อผิดพลาดในกระทู้นี้เกี่ยวกับความสับสนในประเด็น
"การวิพากษ์วิจารณ์" กับ "การด่าทอ ดูหมิ่น หมิ่นประมาท"
ผมก็ได้ชี้ให้เห็นชัดเจนแล้ว ถ้า อ.สมศักดิ์ ไม่สามารถจะ
วิพากษ์วิจารณ์โดยถวายความเคารพด้วย นั่นก็เป็นปัญหา
ของตัวคุณเอง ไม่ใช่ที่กฏหมายมาตรา 112 หรอกครับ :idea:

...

ปล. คุณสฤณี เจ้าของเว็บ fringer ผมถือเป็นเพื่อนรุ่นน้อง
ที่มีความคิดอ่านดีๆ... ที่สำคัญรู้จักคุยในเรื่องที่น่าสนใจ
ไม่น่าเบื่อหน่ายเหมือนอาจารย์บางคนครับ :D

ไม่เข้ามา 1 วัน ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คือ แม้จะมี rep เพิ่มมากขึ้นมากมายเป็นหน้าๆแล้ว แต่ไม่มีใครที่อ้างความจงรักภักดี สามารถโต้แย้งประเด็นได้เลยแม้แต่คนเดียว หันไปพูดเรือ่งอะไรก็ไม่ทราบ ดังที่ผมบอกว่า การที่ผู้จงรักภักดี ไม่สามารถโต้แย้งประเด็นด้วยเหตุผล และข้อมูลนั้น เป็นการเสียเครดิตของความจงรักภักดีเอง พิสูจน์ยืนยันอย่างชัดเจนในข้อเสนอของผมมาตลอดว่า ความจงรักภักดีของพวกคุณเป็นความจงรักภักดีแบบ blind faith

จะมี "ยกเว้น" บ้างเพียงเล็กน้อย คือกรณี jerasak นี้

อันที่จริง ผมออกจะขำ ที่ Prinz "ยอมรับ" โดยปริยายว่า คนอื่นๆที่ โพสต์กันจนนับ rep ไม่ถ้วน นี่ "(ไม่)สมน้ำสมเนื้อ" กับผมเลย คือ ไม่อยู่ในระดับการโต้เลย

แต่อันใหม่ที่ jerasak มาเขียนนี่ ไม่ได้โต้กลับประเด็นที่ผมโต้ไปเลย ซึ่งอันที่จริง ตั้งแต่อันก่อน ดังที่ผมได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เท่ากับยอมรับโดยปริยายในข้อเสนอหลักของผมมาโดยตลอดคือ โครงการพระราชดำริ ที่เป็น ประเด็นหลักในการอ้างความจงรักภักดี และในการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวเรื่อง "ในหลวงทำดี" นั้น เป็นสิ่งที่ตรวจสอบไม่ได้ ไม่มี accountability เลย และดังนั้น ความจงรักภักดีบนพื้นฐานเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลรองรับใดๆ เป็น ความเชื่อแบบมืดบอด นั่นเอง

หลังจากพูดอะไรไม่ทราบที่ไม่เกี่ยวเลย เสียยืดยาวข้างต้น ประเด็นนิดเดียว ที่ jerasak เขียนมาข้างบนนี้คือตรงบรรทัดท้ายๆนี้

"และข้อผิดพลาดในกระทู้นี้เกี่ยวกับความสับสนในประเด็น "การวิพากษ์วิจารณ์" กับ "การด่าทอ ดูหมิ่น หมิ่นประมาท" ผมก็ได้ชี้ให้เห็นชัดเจนแล้ว ถ้า อ.สมศักดิ์ ไม่สามารถจะวิพากษ์วิจารณ์โดยถวายความเคารพด้วย นั่นก็เป็นปัญหา
ของตัวคุณเอง ไม่ใช่ที่กฏหมายมาตรา 112 หรอกครับ"


ใครกันแน่ครับที่ "ผิดพลาดสับสน" ?

ที่คุณเขียนมานี้ คือการที่ในภาษาวัยรุ่นเขาเรียกกันว่า "แถ" คือ พยายามบิดเบือนประเด็น ไม่ยอมรับว่า ตัวเองโต้แย้งไม่ได้ ตั้งแต่คราวก่อน

ผมได้อธิบายไว้ชัดเจนว่า accoutability หมายถึงอะไร ตั้งแต่ ตรวจสอบข้อมูลธรรมดา ไปถึงวิพากษ์วิจารณ์ ไปถึงการเอาผิด
ซึ่งนี่เป็นบรรทัดฐานสากล ที่ทุกคนยอมรับกัน ที่พวกคุณ เวลาใช้กับนักการเมือง ก็ยอมรับในบรรทัดฐาน ความหมายของคำนี้ เช่นนี้

และได้เสนอว่า โครงการฯ ไม่มี accountability

ไม่ทราบ "สับสน" หรือ "ผิดพลาด" ตรงไหน

ก็ ม.112 ่นี่ไง ที่ทำให้ มีไม่ได้

ที่ผมเสนอไป และที่คุณเขียนมานี้ ไม่เท่ากับยอมรับโดยปริยายหรือว่า "โครงการฯน่ะตรวจสอบไม่ได้ คือ ไม่มี accoutability " (และดังนั้น ที่เขียนตอนท้ายคราวก่อน ว่า "ก็ไม่เห็นว่า่โครงการพระราชดำริ วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ตรงไหน่" จึงเป็นเพียงการแก้เกี้ยวเท่านั้น ของคนที่รู้อะไรผิดถูก รู้อะไรเป็นอะไร แต่ไม่มีความกล้าจะยอมรับ)

"การวิพากษ์วิจารณ์" กับ "การด่าทอ ดูหมิ่น หมิ่นประมาท" นี่ใคร เป็นคนวัดครับ?

อย่างพวกคุณด่านักการเมือง อย่างทักษิณ ("ไอ้เหลี่ยม ไอ้..." ต้องให้ผมยกมาหรือครับ?) ซึ่งผมก็โอเค ใครๆ ก็โอเค ถือเป็นส่วนหนึ่งของการ accountability จะขาดเกินไป ก็แล้วแต่ ไม่เห็นมีใครว่าอะไร
(แม้แต่ในบรรดา rep ที่มาเขียนด่าผม ในสิ่งที่ไม่เกี่ยวประเด็นเลย ("ไอ้หงอก ฯลฯ ฯลฯ" ในแง่นึง ก็เป็นกระบวนการ "ตรวจสอบ" กันเอง ของชุมชนเน็ต ซึ่ง ผมก็โอเค แม้จะเห็นว่า ไม่มี taste เลย ที่สำคัญ ไม่เกี่ยวประเด็นเลย)

ทำไมพอมาพูดถึง accountabiltiy เรื่องสถาบันฯ กลับยกอันนี้มาอ้างล่ะครับ?

นี่ไมใช่เรื่อง สองบรรทัดฐาน ที่ผมเสนอหรือ?

อีกอย่าง จำที่ตัวเองเขียนไม่ได้แล้วหรือ คราวก่อน เขียนมาเองว่า

"แต่ถ้าจะวิพากษ์วิจารณ์แนวพระราชดำริ ก็ควรระมัดระวังเรื่องแสดงความเห็นหมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีกฎหมายห้ามไว้"

คราวนี้ เพิ่มคำว่า "โดยความเคารพ" แปลว่า อะไรครับ "วิพากษ์วิจารณ์โดยความเคารพด้วย"

มีด้วยหรือครับ accountability "ด้วยความเคารพ"??

เรื่องนี้ "เป็นปัญหาของผม แต่ไม่ใช่ปัญหาของ ม.112" ได้ยังไงไม่ทราบ?

ม.112 และ ไอเดีย เรือง มีอำนาจ แต่ไม่ยอมให้มี accountability ซึ่งล้อมรอบ ม.112 และกฎหมาย และการปฏิบัติอื่นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ เป็นการขัดกับหลักการประชาธิปไตย ขัดกับมาตรฐานความจริง ของสังคมและโลกสมัยอย่างชัดเจน

คนที่มีการศึกษาอย่างคุณ รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่มีความกล้า ที่จะยอมรับ ความจริง อันน่าเกลียดนี้ ไม่มีความกล้าที่จะยอมรับว่า ความจงรักภักดี ที่มีพื้นฐานมาจากการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวทั้งหลายนั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถอ้างได้ ตามบรรทัดฐานสมัยใหม่ เพราะตรวจสอบไม่ได้ วิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เอาผิด ไม่ได้

สรุป (อย่างที่เขียนไปในกระทู้ ที่คนที่นี่ ไม่มีความกล้าจะเผชิญความจริง จึงลบออกไป) ว่า

ที่ว่ากันว่า "ในหลวงทำดี" นั้น ความจริง ไม่สามารถบอกได้จริงๆ ได้แต่บอกตามที่กฎหมายบังคับ หรือตามการประชาสัมพันธ์ด้านเดียว ที่ accountability ไม่ได้
Last edited by สมศักดิ์ เจียม on Sat Jan 31, 2009 7:13 am, edited 3 times in total.
User avatar
สมศักดิ์ เจียม
 
Posts: 109
Joined: Thu Jan 01, 2009 9:32 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby manrattagid01 » Sat Jan 31, 2009 7:11 am

ถึงคุณ จขกท.

ข้อมูลและเหตุผล เป็นสิ่งสำคัญ ต่อการมีชีวิตอยู่อย่างที่คุณพูด แต่...

ถ้าขาดใจ หรือความรู้สึก ก็จะมีชีวิตที่เหมือนกับ ไร้ตัวตน ไม่มีอะไรที่น่าจดจำสำหรับคนรุ่นหลัง

อดีตยาวนานที่ผ่านมา มีการต่อสู้ ด้วยจิตใจและความรู้สึกมากมายที่หล่อหลอมรวมกันของคนรุ่นก่อน และถูกจาลึกด้วยความรู้สึกของคนรุ่นหลัง

(เปรียบเทียบก็เหมือนกับภาษาที่เราขีดเขียน ถึงแม้จะเขียนถูกต้องทุกอักขระแต่ก็ยัง ต้องอาศัยคำพูด หรือใจ ในการสื่อควา่มหมายให้สมบูรณ์ เพื่อให้เข้าถึงความหมาย100%)

สิ่งที่คุณ จขกท.ขาดไปคือหัวใจ มันจึงยากที่ จขกท.จะเข้าไปยืนในจิตรใจคนอื่นได้ อย่างที่เล่าปี่ เคยพูดไว้

สุดท้าย... มันยากที่จะทำใจให้ยอมรับได้ แต่อยากให้ จขกท. ลองเอาไปคิดและลองใส่ความรู้สึกที่เรียกว่าหัวใจลงไปบ้าง...ซักนิด ในที่นี้ไม่มีไครอยากซ้ำเติมคุณจริงๆหรอก ทุกคนในบอร์ดนี้มีความรู้สึกที่อยู่ในส่วนลึกๆของหัวใจที่เห็นอกเห็นใจ จขกท.อย่างจริงใจมากกว่าครับ และพร้อมจะเปิดโอกาส ให้เรามีโอกาสคุยกันด้วยหัวใจ เหตุผล และข้อมูลครับ
User avatar
manrattagid01
 
Posts: 167
Joined: Mon Jan 05, 2009 11:12 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby สมศักดิ์ เจียม » Sat Jan 31, 2009 7:29 am

ข้างล่างนี้ ผม ยก มาเล่นๆ ให้เห็น (ซึี่งความจริง ควร obvious) ว่า พวกคุณผู้จงรักภักดี ไม่มีความสามารถในการโต้แย้งอย่างไร
ไม่มี ประเด็น ไม่มี taste
แต่ผมก็โอเคนะ
ในสังคมสมัยใหม่ อะไรๆที่มีลักษณะสาธารณะ ก็ควรวิจารณ์ได้ทั้งนั้น อะไรๆก็ควรสามารถอภิปรายกันได้
ผมมาโพสต์ความเห็นสาธารณะ คุณไม่ชอบ ก็ด่ามา ผมไม่ว่าอะไร
นักการเมือง แสดงความเห็นในสาธารณะ ใช้เงินงบประมาณของสาธารณะ ก็ว่ากัน วิพากษ์กัน ด่ากัน กระทั่งเอาผิดกัน ก็ไม่เห็นใครว่าอะไร
(แม้ว่า ถ้าในตัวอยา่ง rep ที่ยกมา ควรจะมีประเด็นและ taste กว่านี้)

อะไรๆ ก็สามารถมีความรู้สึก "2 ด้าน" ทั้ง รัก และ เกลียด ได้
ที่แปลกคือ สำหรับผู้จงรักภักดี
ในจักรวาลนี้ สถาบันกษัตริย์ เป็นสิ่งเดียวที่ห้ามมีความรู้สึกและแสดงออกอย่างอื่นนอกจาก "รัก / เทอดทูน" ฯลฯ
ถ้ามีความรู้สึกอย่างอื่น แสดงออกอย่างอื่น จะโดนเล่นงานทันที ด้วยโทษแรงๆ


ไม่รู้สึกประหลาดในจักรวาลหรือครัีบ?

ผมถือโอกาส "ลา" สำหรับวันนี้ และอาจจะกระทู้นี้ด้วย เพราะเท่าทีเ่ห็น คงยากที่จะมีใครมีความสามารถพอจะโต้แย้งประเด็นด้วยเหตุผลและข้อมูลได้ น่าละอายครับ น่าละอายจริงๆ
(ศตวรรษที่ 21 แล้วนะครับ เชื่ออะไร โดยไม่สามารถ defend ด้วยเหตุด้วยผล ขนาดนี้ได้อย่างไรครับ?)
คิคิ wrote:ไอ้หงอกเจียม กับ ไอ้หงอกสุนัข เอ้ย สุนัย ไม่ต่างกันเลย 55555 [/size][/color] :mrgreen:

enjoy wrote:เรียกสาวๆข้างๆบ้านมาดูว่านี่ไงไอ้หัวโตชอบหมิ่น
สาวๆข้างห้องร้องยี้!!!!!!!!!!!
พวกเธอเอาน้ำล้างตาด้วยนะบอกเดี๋ยวเป็นเสนียนติดตา หัวเราะขำไอ้หัวโตกันใหญ่
ได้นิ้วกลางด้วยนะคนที่ยกให้สวยด้วยขอบอก :lol:

5555 ทุเรสเวทนาไอ้หัวโตสมศักดิ์
ปีนึงหัวโตขึ้นทุกๆกี่นิ้วก็ไม่รู้เครียดจัด

ใครรู้ตัวเองว่าเอี้ยหัวโตยกมือขึ้น :P
User avatar
สมศักดิ์ เจียม
 
Posts: 109
Joined: Thu Jan 01, 2009 9:32 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby kingkong » Sat Jan 31, 2009 8:38 am

สมศักดิ์ เจียม wrote:ข้างล่างนี้ ผม ยก มาเล่นๆ ให้เห็น (ซึี่งความจริง ควร obvious) ว่า พวกคุณผู้จงรักภักดี ไม่มีความสามารถในการโต้แย้งอย่างไร
ไม่มี ประเด็น ไม่มี taste
แต่ผมก็โอเคนะ
ในสังคมสมัยใหม่ อะไรๆที่มีลักษณะสาธารณะ ก็ควรวิจารณ์ได้ทั้งนั้น อะไรๆก็ควรสามารถอภิปรายกันได้
ผมมาโพสต์ความเห็นสาธารณะ คุณไม่ชอบ ก็ด่ามา ผมไม่ว่าอะไร
นักการเมือง แสดงความเห็นในสาธารณะ ใช้เงินงบประมาณของสาธารณะ ก็ว่ากัน วิพากษ์กัน ด่ากัน กระทั่งเอาผิดกัน ก็ไม่เห็นใครว่าอะไร
(แม้ว่า ถ้าในตัวอยา่ง rep ที่ยกมา ควรจะมีประเด็นและ taste กว่านี้)

อะไรๆ ก็สามารถมีความรู้สึก "2 ด้าน" ทั้ง รัก และ เกลียด ได้
ที่แปลกคือ สำหรับผู้จงรักภักดี
ในจักรวาลนี้ สถาบันกษัตริย์ เป็นสิ่งเดียวที่ห้ามมีความรู้สึกและแสดงออกอย่างอื่นนอกจาก "รัก / เทอดทูน" ฯลฯ
ถ้ามีความรู้สึกอย่างอื่น แสดงออกอย่างอื่น จะโดนเล่นงานทันที ด้วยโทษแรงๆ


ไม่รู้สึกประหลาดในจักรวาลหรือครัีบ?

ผมถือโอกาส "ลา" สำหรับวันนี้ และอาจจะกระทู้นี้ด้วย เพราะเท่าทีเ่ห็น คงยากที่จะมีใครมีความสามารถพอจะโต้แย้งประเด็นด้วยเหตุผลและข้อมูลได้ น่าละอายครับ น่าละอายจริงๆ
(ศตวรรษที่ 21 แล้วนะครับ เชื่ออะไร โดยไม่สามารถ defend ด้วยเหตุด้วยผล ขนาดนี้ได้อย่างไรครับ?)
คิคิ wrote:ไอ้หงอกเจียม กับ ไอ้หงอกสุนัข เอ้ย สุนัย ไม่ต่างกันเลย 55555 [/size][/color] :mrgreen:

enjoy wrote:เรียกสาวๆข้างๆบ้านมาดูว่านี่ไงไอ้หัวโตชอบหมิ่น
สาวๆข้างห้องร้องยี้!!!!!!!!!!!
พวกเธอเอาน้ำล้างตาด้วยนะบอกเดี๋ยวเป็นเสนียนติดตา หัวเราะขำไอ้หัวโตกันใหญ่
ได้นิ้วกลางด้วยนะคนที่ยกให้สวยด้วยขอบอก :lol:

5555 ทุเรสเวทนาไอ้หัวโตสมศักดิ์
ปีนึงหัวโตขึ้นทุกๆกี่นิ้วก็ไม่รู้เครียดจัด

ใครรู้ตัวเองว่าเอี้ยหัวโตยกมือขึ้น :P



ไม่ประหลาดหรอกครับ เพราะคนเราต่างก็มีจักรวาลของตนเองทั้งนั้น รวมถึงตัวคุณเองก็มีจักรวาลของตัวคุณเอง เพียงจักรวาลของคุณมันผิดที่ผิดทางไปหน่อย เพราะมันไปเหลื่อมล้ำจักรวาลคนอื่น ที่คุณพยายามป่าวประกาศหน่ะมันไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่มันไปทำให้ความรู้สึกของคนอื่นเขาแย่ ก็คงไม่ต่างจากมีคนมาบอกคนอื่นๆว่าพ่อคุณว่ามีเมียน้อย หรือ ด่าแม่คุณว่ามีหลายผัว นั้นแหละครับ ซึ่งอาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่เราก็ไม่ทราบแต่ที่แน่ๆคือคุณไม่พอใจใช่ไหมครับ แต่ถ้าคุณพอใจก็จบประเด็นไป แต่ถึงอย่างไรผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า การที่เราพยายามยัดเยียดความรู้สึกที่ไม่ดีของเราที่เกลียดสิ่งหนึ่งไปใส่หัวคนที่รักสิ่งนั้นมันจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าคุณบอกว่า คุณสำเร็จความไคร่แบบนี้ ผมคงยอมรับนะครับ แต่ถ้าไม่ใช่ คุณต้องถามตัวเองว่า จิตปกติรึเปล่านะครับ

ปล.ยืนยันครับว่าถ้าผมเจอคุณผมขอท้าชกนะครับ
User avatar
kingkong
 
Posts: 60
Joined: Wed Jan 28, 2009 5:51 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby แมว มหาภัย » Sat Jan 31, 2009 9:12 am

คุณครับ งั้นคุณต้องพกแอลกอฮอล์ติดตัวไปด้วยแล้วละ ถ้ามีโอกาสชกหนาไอ้สมศักดิ์ ชกเสร็จต้องรีบเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือฆ่าเชื้อโรคเป็นการด่วน แต่ผมไม่สนับสุนนให้มีการใช้ความรุนแรงกันคนที่แค่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ความรุนแรงมันเหมือนละลอกคลื่น มันกระแทกกระทบขยายวงออกไปได้เรื่อยๆ

ถ้าต่อยมันแล้วผมว่าชีวิตคุณอาจจะต้องพัวพันกับเรื่องยุ่งยากไม่จบสิ้น คนบางคนเป็นโรคบางประเภทที่ชอบรับความเจ็บปวด ยิ่งตัวเองเจ็บปวดเท่าไรยิ่งรู้สึกว่ามีความสุข ต่อยมันไปเปรี้ยงเดียวมันอาจจะมายืนรอคุณหน้าบ้านทุกเช้ารอให้คุณต่อยมันก็ได้

ดูเอาแค่ในกระทู้นี่ซิ ด่ามันไปวันเดียวเดี่ยวนี้มันมาเข้าบอร์ดรอห้ด่ายิกๆ อยู่ทุกวัน
แข็ง เยียบเย็น และสงบนิ่ง เหมือนนิวเคลียร์ลูกหนึ่ง
อำมาตย์เอกเจ้าพระยาวิฬาร์มหาภัยบดินทร์
User avatar
แมว มหาภัย
 
Posts: 546
Joined: Tue Nov 18, 2008 11:10 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Oriland » Sat Jan 31, 2009 9:42 am

เพิ่งตื่นครับ จะกินอะไรดี
User avatar
Oriland
 
Posts: 316
Joined: Sat Jan 24, 2009 4:30 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby บก.ลายจุด » Sat Jan 31, 2009 10:00 am

kingkong wrote:
สมศักดิ์ เจียม wrote:ข้างล่างนี้ ผม ยก มาเล่นๆ ให้เห็น (ซึี่งความจริง ควร obvious) ว่า พวกคุณผู้จงรักภักดี ไม่มีความสามารถในการโต้แย้งอย่างไร
ไม่มี ประเด็น ไม่มี taste
แต่ผมก็โอเคนะ
ในสังคมสมัยใหม่ อะไรๆที่มีลักษณะสาธารณะ ก็ควรวิจารณ์ได้ทั้งนั้น อะไรๆก็ควรสามารถอภิปรายกันได้
ผมมาโพสต์ความเห็นสาธารณะ คุณไม่ชอบ ก็ด่ามา ผมไม่ว่าอะไร
นักการเมือง แสดงความเห็นในสาธารณะ ใช้เงินงบประมาณของสาธารณะ ก็ว่ากัน วิพากษ์กัน ด่ากัน กระทั่งเอาผิดกัน ก็ไม่เห็นใครว่าอะไร
(แม้ว่า ถ้าในตัวอยา่ง rep ที่ยกมา ควรจะมีประเด็นและ taste กว่านี้)

อะไรๆ ก็สามารถมีความรู้สึก "2 ด้าน" ทั้ง รัก และ เกลียด ได้
ที่แปลกคือ สำหรับผู้จงรักภักดี
ในจักรวาลนี้ สถาบันกษัตริย์ เป็นสิ่งเดียวที่ห้ามมีความรู้สึกและแสดงออกอย่างอื่นนอกจาก "รัก / เทอดทูน" ฯลฯ
ถ้ามีความรู้สึกอย่างอื่น แสดงออกอย่างอื่น จะโดนเล่นงานทันที ด้วยโทษแรงๆ


ไม่รู้สึกประหลาดในจักรวาลหรือครัีบ?

ผมถือโอกาส "ลา" สำหรับวันนี้ และอาจจะกระทู้นี้ด้วย เพราะเท่าทีเ่ห็น คงยากที่จะมีใครมีความสามารถพอจะโต้แย้งประเด็นด้วยเหตุผลและข้อมูลได้ น่าละอายครับ น่าละอายจริงๆ
(ศตวรรษที่ 21 แล้วนะครับ เชื่ออะไร โดยไม่สามารถ defend ด้วยเหตุด้วยผล ขนาดนี้ได้อย่างไรครับ?)
คิคิ wrote:ไอ้หงอกเจียม กับ ไอ้หงอกสุนัข เอ้ย สุนัย ไม่ต่างกันเลย 55555 [/size][/color] :mrgreen:

enjoy wrote:เรียกสาวๆข้างๆบ้านมาดูว่านี่ไงไอ้หัวโตชอบหมิ่น
สาวๆข้างห้องร้องยี้!!!!!!!!!!!
พวกเธอเอาน้ำล้างตาด้วยนะบอกเดี๋ยวเป็นเสนียนติดตา หัวเราะขำไอ้หัวโตกันใหญ่
ได้นิ้วกลางด้วยนะคนที่ยกให้สวยด้วยขอบอก :lol:

5555 ทุเรสเวทนาไอ้หัวโตสมศักดิ์
ปีนึงหัวโตขึ้นทุกๆกี่นิ้วก็ไม่รู้เครียดจัด

ใครรู้ตัวเองว่าเอี้ยหัวโตยกมือขึ้น :P



ไม่ประหลาดหรอกครับ เพราะคนเราต่างก็มีจักรวาลของตนเองทั้งนั้น รวมถึงตัวคุณเองก็มีจักรวาลของตัวคุณเอง เพียงจักรวาลของคุณมันผิดที่ผิดทางไปหน่อย เพราะมันไปเหลื่อมล้ำจักรวาลคนอื่น ที่คุณพยายามป่าวประกาศหน่ะมันไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่มันไปทำให้ความรู้สึกของคนอื่นเขาแย่ ก็คงไม่ต่างจากมีคนมาบอกคนอื่นๆว่าพ่อคุณว่ามีเมียน้อย หรือ ด่าแม่คุณว่ามีหลายผัว นั้นแหละครับ ซึ่งอาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่เราก็ไม่ทราบแต่ที่แน่ๆคือคุณไม่พอใจใช่ไหมครับ แต่ถ้าคุณพอใจก็จบประเด็นไป แต่ถึงอย่างไรผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า การที่เราพยายามยัดเยียดความรู้สึกที่ไม่ดีของเราที่เกลียดสิ่งหนึ่งไปใส่หัวคนที่รักสิ่งนั้นมันจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าคุณบอกว่า คุณสำเร็จความไคร่แบบนี้ ผมคงยอมรับนะครับ แต่ถ้าไม่ใช่ คุณต้องถามตัวเองว่า จิตปกติรึเปล่านะครับ

ปล.ยืนยันครับว่าถ้าผมเจอคุณผมขอท้าชกนะครับ


ไม่ไหวเลยครับ สำหรับ Rep นี้ของคุณ
หนึ่ง...จักรวาลของคุณ มันเป็นแค่ระบบคุณค่าของคนกลุ่มหนึ่งแบบคุณเท่านั้นเอง
สอง...การยกกรณีพ่อแม่ ผัวเมีย การสำเร็จความไคร่ เอาเรื่องเพศมาเหยียดคนอื่นแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่า ต่ำชั้น มันไม่ใช่ลักษณะของคนที่ใช้เหตุผล
สาม...การยกเลิก ม.112 ไม่ได้แปลว่า ใครจะไปหมิ่นประมาทสถาบันแล้วไม่ติดคุกนะครับ ยังมีักฎหมายอาญาอื่น ที่คุ้มครองสิทธิ์ของคนทุกคน หากถูกหมิ่นประมาท ก็ติดคุกหลายปีทีเดียว ถ้ามีใครไปกล่าวหาอย่างไม่เป็นจริงแ้ล้วทำให้เสื่อมเสีย ก็ในเมื่อมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิ์เสมอกันหมดแล้ว จะกลัวอะไร เราใช้มาตราฐานเดียวกันทั้งหมดไม่ได้หรือครับ

ผมอ่านความเห็นคุณในหลายความเห็น จริง ๆ คุณเป็นคนที่ใช้เหตุใช้ผลเป็นทีเดียว แ้ม้จะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยบ้าง ก็ยังได้เห็นคุณพอมีเหตุผล ไมน่าเขียนแบบนี้นะครับ น่าผิดหวัง
เมื่ออยู่ท่ามกลางฝูงหมา(บ้า)
หนึ่ง....ใจเย็น ๆ เดินไปเรื่อย ๆ เป็นปกติ
สอง....เมื่อหมามันเห่าครั้งแรก ๆ ให้แผ่เมตตาไว้
สาม....เมื่อมันแว้งกัด เอาก้อนหินเขวี้ยงใส่หัวมัน
สี่......เมื่อหมาม้นยังไล่กัดอีก ให้ตะโกนด่ามันว่า "ถ่อย"
User avatar
บก.ลายจุด
 
Posts: 1221
Joined: Sun Nov 09, 2008 12:02 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby loginofu » Sat Jan 31, 2009 10:20 am

ตั้งแต่กระทู้ก่อน มากระทู้นี้ เขาก็บอกกันไปแล้ว
คิดว่าตรวจสอบไม่ได้ อยากจะตรวจสอบนัก
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

PreviousNext

Return to สภากาแฟ