ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby สมศักดิ์ เจียม » Sat Jan 31, 2009 11:02 am

kingkong wrote:ก็คงไม่ต่างจากมีคนมาบอกคนอื่นๆว่าพ่อคุณว่ามีเมียน้อย หรือ ด่าแม่คุณว่ามีหลายผัว นั้นแหละครับ ซึ่งอาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่เราก็ไม่ทราบแต่ที่แน่ๆคือคุณไม่พอใจใช่ไหมครับ แต่ถ้าคุณพอใจก็จบประเด็นไป


เรื่องในจักรวาลนี้ มีสถาบันฯอย่างเดียวเท่านั้นที่สำหรับพวกจงรักภักดี ห้ามรู้สึกอย่างอื่น ผมว่า เป็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ หากใช้เหตุผลคิดกันดูหน่อย ประหลาดแน่นอน ไม่มีจักรวาลไหน มีอย่างนี้หรอกครับ

ประเด็นที่ผมอยากพูดมานาน คือที่ยกมานี้

ที่พวกจงรักภักดีชอบยกเรือ่ง ถ้าด่า พ่อ ด่าแม่ผม ก็ต้องโกรธ เป็นธรรมดา

ดังนั้น จึงเหมือนกับกรณีห้ามวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ

คิดให้ดีๆครับ เหมือนกันอย่างไร

ก่อนอื่นเลยนะครับ ที่วา ด่าพ่อ ด่าแม่ ผม นี่ก็ด่ากันอยู่เป็นประจำนี่คับ ผมเฉยๆนะ

ผมแสดงให้ดูเอง "ด่าเอง" ให้ดูก็ได้ครับ

"ไอ้สมศักดิ์ ไอ้หัวหงอก ไ้อ้ลูกกะหรี่ แม่มึงเป็นเกระหรี่ พ่อมึงเป็นสัตว์..."

เห็นไหมครับ ผมเฉยๆ เพราะ คนที่ด่าเช่นนี้ แสดงว่า ไม่มีปัญญา ไม่มีวุฒิภาวะอะไร ผมไม่รู้สึก

พ่อ แม่ ผมเป็นอย่างไรจริงๆ ผมย่อมทราบดี และไม่รู้สึกกระเทือนอะไร ไม่คิดจะฟ้องร้อง อะไรเลยด้วยซ้ำ
(คุณเอง ทำได้ไหมล่ะ ในกรณีสถาบัน? ที่ทำไมได่้้เพราะอะไร?)

แต่ประเด็นจริงๆ คืออย่างนี้ครับ

พ่อ-แม่ ผมเป็นประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัวครับ
สถาบันเป็นประเด็นสาธารณะ ยิ่งกว่าสาธารณะอีกครับ
กษัตริย์เป็นประมุขรัฐ สถาบัน เป็นองค์กรรัฐ
แต่ละปี ใช้งบประมาณสาธารณะ (ซึี่งเป็นของผมด้วย เช่นเดียวกับของทุกคน) ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้าน
(เทียบสัดส่วนแล้ว สูงกว่า UK หลายเท่า เคยมีคนคำนวนให้ดูกันแล้ว)
ไม่นับ ทรัยพย์สินฯ ส่วนที่อยู่ในความดูแลของสถาบันฯตอนนี้ ("สำนักงานทรัพย์สิน..") ซึงที่จริง เป็นทรัพย์สินสาธารณะเหมือนกัน
ไม่ต้องพูดถึง การบังคับเรือ่ง ม.8 และ ม.112
การประชาสัมพันธ์ด้านเดียว เกือบ 24 ่ชม.
ทั้งหมดนี้ มีอะไรทีเ่หมือน พ่อ เหมือน แม่ ผม (หรือคุณ) บ้างครับ?
คุณด่าพ่อ ด่าแม่ผม อย่างมาก ผมโกรธ แล้วไง? มีโทษจำคุก 15 ปีหรือครับ?
ผมต้องใชังบประมาณหลายหมื่นล้าน เพื่อดำรงรักษาสถานะ ของพ่อแม่ผม (หรือคุณ) หรือครับ?

จะเห็นว่า analogy (การเปรียบเทียบ) เรื่อง พ่อแม่ กับ สถาบัน นี่ไม่เป็นเหตุผลเลยครับ

ยิ่งกว่านั้น
บางคร้ัง ผมออกจะขำ เวลาคนจงรักภักดี ชอบเปรียบเทียบแบบนี้่
ไม่ได้ใช้ความคิดให้ตลอดครับ
ผมเคยเขียนในทีอื่นแล้ว แต่เขียนซ้ำอีกทีก็ได้
นอกจาก ideal image (ภาพปฏิมา) เรือ่ง พ่อ แม่ ลูก ที่ชอบโฆษณาขายสินค้ากันแล้ว
ถามจริงๆเถอะครับ มีสักกี่ครอบครัว ที่ไม่มีปัญหาอะไร ระหว่าง พ่อ แม่ ลูก
(ใครไม่มี ผมอนุโมทนา ยินดีด้วย)
มีทุกที่แหละครับ มากบ้าง น้อยบ้าง
อย่างมีคนจงรักภักดี เคยเปรียบเทียบแบบนี้ แล้วว่า แตะต้องไม่ได้สถาบัน ต้องรักอย่างเดียว อะไรทำนองนี้
ผมก็ถามด้วยความขำว่า ไม่เคยได้ยินข่าว พ่อข่มขืนลูก แม่ทำร้ายลูกหรือครับ?
กรณีแบบนี้ ลูก จะเกลียด พ่อ หรือ แม่ ไม่ได้หรือครับ
ต่อให้ไม่ต้องเป็นกรณี extreme อย่างที่เพิ่งพูดมา
เอาแค่ปัญหาธรรมดาๆ ครอบครัวทั่วไป
พ่อ ด่าลูก ลูกทะเลาะพ่อ ทะเลาะแม่ อย่างรุนแรง นี่ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยเห็นหรือครับ?
กรณีพวกนี้ มีการบังคับว่า จะโดนจับคุก 15 ปีหรือครับ?
ในครอบครัว ถ้าลูกมีส่วนในการทำงานด้านเศรษฐกิจ เลี้ยงพ่อแม่ ถ้าเกิดสมมุติ พ่อ เอาเงินไปผลาญ ไปกินเหล้า พนัน ฯลฯ ลูกไม่มีสิทธิ์ หรือไม่ควร จะแย้ง หรือต่อว่า หรือคับ?
คุณจะเปรียบเทียบกับสถาบันฯ ก็จะเอาให้ตลอดแบบความสัมพันธ์ที่เป็นจริง ระหว่าง พ่อ แม่ ลูก ที่วา นี้ไหมล่ะคัีบ??

สรุปแล้ว เรืองที่อ้างๆกันมา ไม่ว่า เรื่อง "เป็นความรักชอบส่วนตัว" "ใครมาว่าพ่อแม่ คนเขาย่อมโกรธ" บลา บลา บลา
ใช้ในกรณีสถาบันฯไม่ได้หรอกครับ
เรืองสถาบันฯเป็นเรืองระบบการเมือง ระบบกฎหมาย

(ปล. อีกนิด หัดศึกษา ปวศ.กันบ้างครับ สถานะสถาบันฯ ที่เอามาอ้างๆกัน เป็นพ่อ เป็นแม่ นี่ก็มาทีหลังมาก ในปวศ.ไทย หลังสฤษดิ์ ที่จริง หลัง 14 ตุลา 6 ตุลา ด้วยซ้ำ ไม่ได้ เป็นอย่างที่การประชาสัมพันธ์ด้านเดียวชอบเสนอหรอกครับ

พวกคุณทั้งหมด ผม assume ว่า ล้วนเป็นพวกมีการศึกษา
ยิ่งพวกแอนตี้ทักษิณ ส่วนใหญ่ มีแนวโน้ม จะดูถูก พวกมวลชนทักษิณ ชาวบ้านที่หนุนทักษิณ ว่าเป็นพวก คนระัดับล่าง ไม่มีการศึกษา เลือกนักการเมือง ไม่เป็น เลือกแต่คนที่ โกงบ้านกินเมือง บลา บลา บลา

แต่ลองดูตัวพวกคุณเอง เวลาพูดเรือ่งสถาบันฯนี่สิครับ พูดเหมือนคนมีการศึกษา รู้จักใช้เหตุใช้ัผล หรือครับ?
ไม่เลย
ทั้งในแง่ ข้อมูล ในแง่ เหตุผล ประเด็น ไม่มีเลยครับ
ผมถึงบอกว่า ไม่เป็นเครดิต ให้กับการจงรักภักดีเลย
ชวนอายมากกว่า ที่คนที่ "มีการศึกษา" มีความสามารถในการเถียงในสิ่งที่ตัวเองอ้างว่าสำคัญ เพียงเท่านี้เอง
User avatar
สมศักดิ์ เจียม
 
Posts: 109
Joined: Thu Jan 01, 2009 9:32 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby สมศักดิ์ เจียม » Sat Jan 31, 2009 11:08 am

loginofu wrote:ตั้งแต่กระทู้ก่อน มากระทู้นี้ เขาก็บอกกันไปแล้ว
คิดว่าตรวจสอบไม่ได้ อยากจะตรวจสอบนัก
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"

เอ คุณไม่ได้ อ่านที่แม้แต่ jerasak เขียนหรือครับ
ก็ยังยอมรับโดยปริยาย ว่า ตรวจสอบ ไม่ได้
(accountability คือ ตรวจสอบข้อมูล วิพากษ์วิจารณ์ ไปจนถึง เอาผิด ฯลฯ คือทั้งชุด เหมือนกับที่ใช้กับผู้มีอำนาจทั่วไปในระบอบประชาธิปไตย)
จะเรียกให้ผมไปตรวจสอบอะไรที่ตรวจสอบไม่ได้ล่ะครับ?
User avatar
สมศักดิ์ เจียม
 
Posts: 109
Joined: Thu Jan 01, 2009 9:32 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Caocao » Sat Jan 31, 2009 11:09 am

ตั้งแต่เกิดมาในแผ่นดินไทย เพิ่งรู้ครับว่า ม.112 นี่ ทำให้หลายๆคนในที่นี้รู้สึกว่าตัว มีคุณค่าน้อยกว่ามนุษย์ เป็นพวก Sub Human ด้อยค่า ขอบอกว่า ถ้าเรื่องแค่นี้จะเป็นเสี้ยนหนามที่ขัดขวางคุณในการดำรงชีพในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ก็จงไปตายแล้วเลือกเกิดในที่ๆคุณคิดว่าเขาให้ความเท่าเทียมในก้อนสมองของคุณแล้วกัน ถุยๆๆๆๆ 555 :lol:
"เพราะชอบธรรม จึงเป็นธรรม"
User avatar
Caocao
 
Posts: 1748
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:17 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby loginofu » Sat Jan 31, 2009 11:15 am

สมศักดิ์ เจียม wrote:
loginofu wrote:ตั้งแต่กระทู้ก่อน มากระทู้นี้ เขาก็บอกกันไปแล้ว
คิดว่าตรวจสอบไม่ได้ อยากจะตรวจสอบนัก
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"
"ไปตรวจสอบเองเลยสิครับ จะมาเห่าทางเว็บบอร์ดอยู่ทำไม"

เอ คุณไม่ได้ อ่านที่แม้แต่ jerasak เขียนหรือครับ
ก็ยังยอมรับโดยปริยาย ว่า ตรวจสอบ ไม่ได้
(accountability คือ ตรวจสอบข้อมูล วิพากษ์วิจารณ์ ไปจนถึง เอาผิด ฯลฯ คือทั้งชุด เหมือนกับที่ใช้กับผู้มีอำนาจทั่วไปในระบอบประชาธิปไตย)
จะเรียกให้ผมไปตรวจสอบอะไรที่ตรวจสอบไม่ได้ล่ะครับ?


ขอหลักฐานในสิ่งที่คุณไปทำมาด้วยสิครับ อย่าพูดแต่ว่า ตรวจสอบไม่ได้อย่างเดียว
ขอหลักฐานในสิ่งที่คุณไปทำมาด้วยสิครับ อย่าพูดแต่ว่า ตรวจสอบไม่ได้อย่างเดียว
ขอหลักฐานในสิ่งที่คุณไปทำมาด้วยสิครับ อย่าพูดแต่ว่า ตรวจสอบไม่ได้อย่างเดียว
ขอหลักฐานในสิ่งที่คุณไปทำมาด้วยสิครับ อย่าพูดแต่ว่า ตรวจสอบไม่ได้อย่างเดียว
ขอหลักฐานในสิ่งที่คุณไปทำมาด้วยสิครับ อย่าพูดแต่ว่า ตรวจสอบไม่ได้อย่างเดียว
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby samepong » Sat Jan 31, 2009 11:20 am

เท่ากับยอมรับโดยปริยายในข้อเสนอหลักของผมมาโดยตลอดคือ โครงการพระราชดำริ ที่เป็น ประเด็นหลักในการอ้างความจงรักภักดี และในการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวเรื่อง "ในหลวงทำดี" นั้น เป็นสิ่งที่ตรวจสอบไม่ได้ ไม่มี accountability เลย และดังนั้น ความจงรักภักดีบนพื้นฐานเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องไม่มีเหตุผลรองรับใดๆ เป็น ความเชื่อแบบมืดบอด นั่นเอง สมศักดิ์ ไม่เจียม


ผทโพสไปแล้วว่า ดครงการไหนที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย คุณลองบอกมาหน่อยซิครับ วิเคาะห์มาให้ดูเลย ผมคนนึงในเสรีไทจะอ่าน คนในนี้พร้อมจะอ่าน

แต่ที่เค้าด่า คือ คุณท่องคถานี้มา แต่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่โครงการ ของพระองค์ไม่ดี หรือทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย

ผมย้ำอีกทีว่า เอาการวิเคาะห์มาให้อ่าน แต่อย่ามาโจมตี ม.112 อย่าถ่องคถาแล้วจบ อย่างนี้มันก้ตีหัวเข้าบ้าน แล้วก็ ตะแบงว่าไม่ได้ๆๆ

คนในนี้เค้าเบื่อ ที่คุณเอาคถามาท่อง คุณเข้าใจไหมเนี่ย สงสัยว่า สมศักดิ์ปลอมไหมเนี่ย แค่เอาชื่อมาโพสแล้วก็เอสบทความของ ฟดก บางอันมาโพสเล่นๆ มากกว่าแล้วมั้ง

ปล.ไม่ได้ชื่นชม แค่สงสัยว่า ตัวจริงน่าจะฉลาดอ่านที่คนอื่นโพสมาได้บ้าง แต่ทำไม งโง่ ถ่องคถา มาอยู่ได้
User avatar
samepong
 
Posts: 1943
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:15 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby kingkong » Sat Jan 31, 2009 11:30 am

สมศักดิ์ เจียม wrote:
kingkong wrote:ก็คงไม่ต่างจากมีคนมาบอกคนอื่นๆว่าพ่อคุณว่ามีเมียน้อย หรือ ด่าแม่คุณว่ามีหลายผัว นั้นแหละครับ ซึ่งอาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่เราก็ไม่ทราบแต่ที่แน่ๆคือคุณไม่พอใจใช่ไหมครับ แต่ถ้าคุณพอใจก็จบประเด็นไป


เรื่องในจักรวาลนี้ มีสถาบันฯอย่างเดียวเท่านั้นที่สำหรับพวกจงรักภักดี ห้ามรู้สึกอย่างอื่น ผมว่า เป็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ หากใช้เหตุผลคิดกันดูหน่อย ประหลาดแน่นอน ไม่มีจักรวาลไหน มีอย่างนี้หรอกครับ

ประเด็นที่ผมอยากพูดมานาน คือที่ยกมานี้

ที่พวกจงรักภักดีชอบยกเรือ่ง ถ้าด่า พ่อ ด่าแม่ผม ก็ต้องโกรธ เป็นธรรมดา

ดังนั้น จึงเหมือนกับกรณีห้ามวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ

คิดให้ดีๆครับ เหมือนกันอย่างไร

ก่อนอื่นเลยนะครับ ที่วา ด่าพ่อ ด่าแม่ ผม นี่ก็ด่ากันอยู่เป็นประจำนี่คับ ผมเฉยๆนะ

ผมแสดงให้ดูเอง "ด่าเอง" ให้ดูก็ได้ครับ

"ไอ้สมศักดิ์ ไอ้หัวหงอก ไ้อ้ลูกกะหรี่ แม่มึงเป็นเกระหรี่ พ่อมึงเป็นสัตว์..."

เห็นไหมครับ ผมเฉยๆ เพราะ คนที่ด่าเช่นนี้ แสดงว่า ไม่มีปัญญา ไม่มีวุฒิภาวะอะไร ผมไม่รู้สึก

พ่อ แม่ ผมเป็นอย่างไรจริงๆ ผมย่อมทราบดี และไม่รู้สึกกระเทือนอะไร ไม่คิดจะฟ้องร้อง อะไรเลยด้วยซ้ำ
(คุณเอง ทำได้ไหมล่ะ ในกรณีสถาบัน? ที่ทำไมได่้้เพราะอะไร?)

แต่ประเด็นจริงๆ คืออย่างนี้ครับ

พ่อ-แม่ ผมเป็นประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัวครับ
สถาบันเป็นประเด็นสาธารณะ ยิ่งกว่าสาธารณะอีกครับ
กษัตริย์เป็นประมุขรัฐ สถาบัน เป็นองค์กรรัฐ
แต่ละปี ใช้งบประมาณสาธารณะ (ซึี่งเป็นของผมด้วย เช่นเดียวกับของทุกคน) ไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นล้าน
(เทียบสัดส่วนแล้ว สูงกว่า UK หลายเท่า เคยมีคนคำนวนให้ดูกันแล้ว)
ไม่นับ ทรัยพย์สินฯ ส่วนที่อยู่ในความดูแลของสถาบันฯตอนนี้ ("สำนักงานทรัพย์สิน..") ซึงที่จริง เป็นทรัพย์สินสาธารณะเหมือนกัน
ไม่ต้องพูดถึง การบังคับเรือ่ง ม.8 และ ม.112
การประชาสัมพันธ์ด้านเดียว เกือบ 24 ่ชม.
ทั้งหมดนี้ มีอะไรทีเ่หมือน พ่อ เหมือน แม่ ผม (หรือคุณ) บ้างครับ?
คุณด่าพ่อ ด่าแม่ผม อย่างมาก ผมโกรธ แล้วไง? มีโทษจำคุก 15 ปีหรือครับ?
ผมต้องใชังบประมาณหลายหมื่นล้าน เพื่อดำรงรักษาสถานะ ของพ่อแม่ผม (หรือคุณ) หรือครับ?

จะเห็นว่า analogy (การเปรียบเทียบ) เรื่อง พ่อแม่ กับ สถาบัน นี่ไม่เป็นเหตุผลเลยครับ

ยิ่งกว่านั้น
บางคร้ัง ผมออกจะขำ เวลาคนจงรักภักดี ชอบเปรียบเทียบแบบนี้่
ไม่ได้ใช้ความคิดให้ตลอดครับ
ผมเคยเขียนในทีอื่นแล้ว แต่เขียนซ้ำอีกทีก็ได้
นอกจาก ideal image (ภาพปฏิมา) เรือ่ง พ่อ แม่ ลูก ที่ชอบโฆษณาขายสินค้ากันแล้ว
ถามจริงๆเถอะครับ มีสักกี่ครอบครัว ที่ไม่มีปัญหาอะไร ระหว่าง พ่อ แม่ ลูก
(ใครไม่มี ผมอนุโมทนา ยินดีด้วย)
มีทุกที่แหละครับ มากบ้าง น้อยบ้าง
อย่างมีคนจงรักภักดี เคยเปรียบเทียบแบบนี้ แล้วว่า แตะต้องไม่ได้สถาบัน ต้องรักอย่างเดียว อะไรทำนองนี้
ผมก็ถามด้วยความขำว่า ไม่เคยได้ยินข่าว พ่อข่มขืนลูก แม่ทำร้ายลูกหรือครับ?
กรณีแบบนี้ ลูก จะเกลียด พ่อ หรือ แม่ ไม่ได้หรือครับ
ต่อให้ไม่ต้องเป็นกรณี extreme อย่างที่เพิ่งพูดมา
เอาแค่ปัญหาธรรมดาๆ ครอบครัวทั่วไป
พ่อ ด่าลูก ลูกทะเลาะพ่อ ทะเลาะแม่ อย่างรุนแรง นี่ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยเห็นหรือครับ?
กรณีพวกนี้ มีการบังคับว่า จะโดนจับคุก 15 ปีหรือครับ?
ในครอบครัว ถ้าลูกมีส่วนในการทำงานด้านเศรษฐกิจ เลี้ยงพ่อแม่ ถ้าเกิดสมมุติ พ่อ เอาเงินไปผลาญ ไปกินเหล้า พนัน ฯลฯ ลูกไม่มีสิทธิ์ หรือไม่ควร จะแย้ง หรือต่อว่า หรือคับ?
คุณจะเปรียบเทียบกับสถาบันฯ ก็จะเอาให้ตลอดแบบความสัมพันธ์ที่เป็นจริง ระหว่าง พ่อ แม่ ลูก ที่วา นี้ไหมล่ะคัีบ??

สรุปแล้ว เรืองที่อ้างๆกันมา ไม่ว่า เรื่อง "เป็นความรักชอบส่วนตัว" "ใครมาว่าพ่อแม่ คนเขาย่อมโกรธ" บลา บลา บลา
ใช้ในกรณีสถาบันฯไม่ได้หรอกครับ
เรืองสถาบันฯเป็นเรืองระบบการเมือง ระบบกฎหมาย

(ปล. อีกนิด หัดศึกษา ปวศ.กันบ้างครับ สถานะสถาบันฯ ที่เอามาอ้างๆกัน เป็นพ่อ เป็นแม่ นี่ก็มาทีหลังมาก ในปวศ.ไทย หลังสฤษดิ์ ที่จริง หลัง 14 ตุลา 6 ตุลา ด้วยซ้ำ ไม่ได้ เป็นอย่างที่การประชาสัมพันธ์ด้านเดียวชอบเสนอหรอกครับ

พวกคุณทั้งหมด ผม assume ว่า ล้วนเป็นพวกมีการศึกษา
ยิ่งพวกแอนตี้ทักษิณ ส่วนใหญ่ มีแนวโน้ม จะดูถูก พวกมวลชนทักษิณ ชาวบ้านที่หนุนทักษิณ ว่าเป็นพวก คนระัดับล่าง ไม่มีการศึกษา เลือกนักการเมือง ไม่เป็น เลือกแต่คนที่ โกงบ้านกินเมือง บลา บลา บลา

แต่ลองดูตัวพวกคุณเอง เวลาพูดเรือ่งสถาบันฯนี่สิครับ พูดเหมือนคนมีการศึกษา รู้จักใช้เหตุใช้ัผล หรือครับ?
ไม่เลย
ทั้งในแง่ ข้อมูล ในแง่ เหตุผล ประเด็น ไม่มีเลยครับ
ผมถึงบอกว่า ไม่เป็นเครดิต ให้กับการจงรักภักดีเลย
ชวนอายมากกว่า ที่คนที่ "มีการศึกษา" มีความสามารถในการเถียงในสิ่งที่ตัวเองอ้างว่าสำคัญ เพียงเท่านี้เอง



555 ขำครับ พอเขาพ่อ เอา แม่ มาเปรียบนิดเดียว แถมยังไม่ทันด่า พ่อ ด่า แม่ คุณเลยครับ แหม ออกมา พร่ำพรรณาเสียยืดยาว แถมมี บก.ลายจุด ออกมาปกป้องด้วย 555 ขำครับ ทีมเดียวกัน คิดเหมือนกัน ก็คงต้องปกป้องกันไป แต่เดี๋ยวก่อน พอดีเพิ่งเลิกงานน่ะครับ เดี๋ยวขอนอนสักตื่นจะมาพิมพ์ใหม่ เออ คนเราก็แปลกเนอะ พอแหย่ๆเข้าหน่อย เหมือน จิตใจจะร้อนรุ่มนะครับ แถมมีด่า พ่อ ตัวเองโชว์อีก 5555 จบ ดร. แต่ สุดยอดครับ เกรียนพอๆกับเด็ก ป.4 คิๆๆๆ
User avatar
kingkong
 
Posts: 60
Joined: Wed Jan 28, 2009 5:51 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby samepong » Sat Jan 31, 2009 11:44 am

555 ขำครับ พอเขาพ่อ เอา แม่ มาเปรียบนิดเดียว แถมยังไม่ทันด่า พ่อ ด่า แม่ คุณเลยครับ แหม ออกมา พร่ำพรรณาเสียยืดยาว แถมมี บก.ลายจุด ออกมาปกป้องด้วย 555 ขำครับ ทีมเดียวกัน คิดเหมือนกัน ก็คงต้องปกป้องกันไป แต่เดี๋ยวก่อน พอดีเพิ่งเลิกงานน่ะครับ เดี๋ยวขอนอนสักตื่นจะมาพิมพ์ใหม่ เออ คนเราก็แปลกเนอะ พอแหย่ๆเข้าหน่อย เหมือน จิตใจจะร้อนรุ่มนะครับ แถมมีด่า พ่อ ตัวเองโชว์อีก 5555 จบ ดร. แต่ สุดยอดครับ เกรียนพอๆกับเด็ก ป.4 คิๆๆๆ


โห ไปว่าเค้า ผมจะบอกให้ แบบสม ไม่เจียม เนี่ย ไม่เกรียนจริง คิดไม่ได้เท่าเค้าหรอกนะ ผมจะบอกให้
User avatar
samepong
 
Posts: 1943
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:15 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ลูกนนทรี » Sat Jan 31, 2009 11:58 am

อ้ออันนี้ขอนอกเรื่องที่ตัวบุคคลอีกทีนะครับ ถ้าสมสัตว์ มีความสามารถทางวิชาการจริงๆป่านนี้อายุตั้ง51-52แล้วทำไมยังใช้คำนำหน้าว่า อ.ดร.แต่ไม่เห็นจะมีคำว่าผศ.หรือรศ. หรือศ.เลยล่ะครับ หรือว่าเป็นความล้มเหลวทางวิชาการของอาจารย์สมสัตว์ครับ บทความทางวิชาการก็เยอะแต่เอ ผมเคยได้ยินว่าคุณวุฒิของการมีความรู้วิทยะฐานะของอาจารย์ทั้งหลายหากให้มีน้ำหนักมากขึ้นน่าจะมีตำแหน่งนำหน้านี่นา เอหัวโตก็อายุตั้งจะ52แล้วทำไมยังเป็นอ.ดร.อยุ่เลย บทความไม่ได้รับการยอมรับในประเทศหรือนานาชาติเลยหรือ ผมตอกกลับหัวโตได้มั้ยว่า"กระจอกจัง" แค่เป็นผศ.ยังทำไมได้เลย อ้ออีกอย่างนะ ผมพอจะเดาคำตอบของหัวโตได้ว่า ที่ไม่ได้เป็นผศ.หรือรศ.หรือศ. เพราะขี้เกียจทำผลงาน อ้อผมปัจฉิมลิขิตเอาไว้ได้มั้ย จะถามหัวโตว่า
ปล.หัวโตรับราชการตอนนี้คงระดับ7ไม่ก็8 หัวโตคงได้รับเครื่องราชสินะ แล้วหัวโตรับเอาไว้มั้ยเห็นหัวโตชอบวิพากษก์วิจารณ์สถาบันเนี่ย ผมถามนะว่าหัวโตรับแล้วเอาไปทิ้งเลยมั้ยแหมผมล่ะอยากรุ้จุดยืนของหัวโตจริงๆ :lol:อ้อข้อมูลที่หัวโตไม่ได้รับตำแหน่งทางวิชาการเนี่ยไม่ใช่เพราะผมรู้จากการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวนะ แต่มันเป็นข้อเท็จจริงหน่ะสิ
หัวใจของนักการเมืองจริงๆคือการทำนุบำรุงผลประโยชน์ของชาติ แต่ปัจจุบันในเมืองไทยหาได้ยากเสียเหลือเกิน
User avatar
ลูกนนทรี
 
Posts: 1567
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:35 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby นทร์ » Sat Jan 31, 2009 1:04 pm

มาอีกแล้ว ตรรกะ แบบทุกคนหรือคนส่วนใหญ่ของพธม ต้องมีตรรกะอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วกลุ่มนี้จึงเป็นแบบนั้นแบบนี้

การที่พยายามหา หลักฐานตรรกะ แบบของคุณ มาจับเพื่อให้คนกลุ่มนั้นเป็นแบบนี้ คนกลุ่มนี้เป็นแบบนั้น

(ถ้าไม่เข้าใจก็พยายามอ่านที่ตัวเองเขียนให้ดี)

แต่ละคน แต่ละกลุ่ม ที่มีบางส่วนเหมือนกัน เช่น พธม หรือ กลุ่มเสื้อแดง รักทักษิณ

เป็นการรวมกลุ่มมแบบหนึ่ง แต่การเชื่อมโยงลักษณะเพื่อให้ถึงสถาบัน (มักสรุปเอาตามที่แกนนำประกาศ)

แล้วเหมาว่าคนกลุ่มนั้น ไร้เหตุผล ตามตรรกะที่พยายามสรรหามา

ผมว่ามันไม่เข้ากับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

เพราะแต่ละคน ใน พธม หรือแต่ละคนในกลุ่มเสื้อแดง

ล้วนมีความต่าง หรือ เหมือนกันอยู่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง

อย่าเหมารวมเลยครับ คิดมากเหมารวมมาก ก็ปวดหัวเปล่าๆ


ไทย เมืองไทย ประเทศไทย

มีลักษณะพิเศษ อย่างหนึ่ง คือ "การเข้ากันได้ กับคนทุกกลุ่ม" (ในระดับที่แตกต่างกัน)

อย่าพยายามแยก ตามแกนนำ หรือผู้นำกลุ่มพยายามทำเลยครับ ผมไม่เห็นว่าจะเป็นจริงได้... และทำไปก็ไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร

รังแต่สร้าง ความแตกแยกให้กับสังคมเปล่าๆ..

;)
User avatar
นทร์
 
Posts: 795
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:41 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby kritz » Sat Jan 31, 2009 2:08 pm

สงสัยพวกมึงสองตัว(สมศักดิ์ ไม่เจียม กับ ลายจุด ไฮยีน่า)จะเก็บกดเพราะถูกแบนไปสองพันกว่าเว็บ หาที่สำเร็จความใคร่ไม่ได้ เลยมาตีฝีปาก ด้วยตรรกะโง่ๆ ของพวกแสวงหาสิ่งที่มันไม่มีจริงในจักรวาล ...ถุย

ถ้าไอ้ที่พวกประเทศ ชนเผ่าหรือดินแดนที่พวกมึงอ้างถึงน่ะ มันสู้แล้วมันชนะ อย่างอเมริกาเทือกๆ นั้น มันยังมีบุคคลระดับ วีไอพี ไว้ทำพ่อมึงเหรอ แล้วไอ้ทักษิณเมื่อตอนมันเป็นนายกฯน่ะ มึงจะเก็บมันไว้เป็น วีไอพี ให้พ่อมึงกราบอยู่ทำไมวะ ไอ้สันขวาน

ปล. ขออภัยเจ้าของเว็บครับ เก็บอาการไม่อยู่ เห็นแล้วอยากตบกะโหลกหัวหงอก หัวขาว ทำไมพวกมึงสองตัวไม่มาอยู่แถวๆ บ้านกูวะ กูจะช่วยคุมความประพฤติให้
I'm a PAD, not a Democrat!

Honestly is the best policy!
ประชาทนธิปไตย คลิกเบาๆ
User avatar
kritz
 
Posts: 2276
Joined: Fri Nov 07, 2008 12:52 pm
Location: ภูเก็ต

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Argus » Sat Jan 31, 2009 2:14 pm

สมศักดิ์ เจียม wrote:เอ คุณไม่ได้ อ่านที่แม้แต่ jerasak เขียนหรือครับ
ก็ยังยอมรับโดยปริยาย ว่า ตรวจสอบ ไม่ได้
(accountability คือ ตรวจสอบข้อมูล วิพากษ์วิจารณ์ ไปจนถึง เอาผิด ฯลฯ คือทั้งชุด เหมือนกับที่ใช้กับผู้มีอำนาจทั่วไปในระบอบประชาธิปไตย)
จะเรียกให้ผมไปตรวจสอบอะไรที่ตรวจสอบไม่ได้ล่ะครับ?


เฮ้ โตมาจนป่านนี้มีคำว่า หลักการ เหตุผล ความมุ่งมั่น บ้างหรือเปล่าวะ
ไหนว่าเป็นอาจารย์ โด่ กระจอกแบบนี้เป็นอาจารย์ได้ไง เห็นอ้างกันจังนักวิทยาศาสตร์.

ที่คุณ je ตรวจสอบไม่ได้มันเป็นปัญหาของคุณ je คุณเก่งไม่ใช่เหรอไง แสนรู้ ชิบเลย.
ผมเห็นนักวิทยาศาสตร์หลายคน เขา พยายาททำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ ประสพผลสำเร็จ แล้วก็ กระจายให้คนอื่น.

แล้วนี่อะไร ไม่เห็นจะทำ ฮา อะไร เลย วันๆ มาอ้างคำพูดคุณ je แล้วว่า ตรวจสอบไม่ได้ คุณ je ตรวจสอบไม่ได้ ไม่ใช่ว่า ไอ้คนเก่ง อย่างคุณ mung จะ ตรวจสอบไม่ได้นี่หว่า.

ที่ผมใช้คำพูดแรงๆ เพราะผมรู้สึกว่า ไอ้คุณ mung โคตร ปัญญาอ่อนเลย คอยแอบอ้างคำพูดคนโน้นที คนนี้ที มาสรุป แบบเดียวกับลายจุดเลย.
User avatar
Argus
 
Posts: 1668
Joined: Wed Dec 03, 2008 11:30 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby jerasak » Sat Jan 31, 2009 2:32 pm

บก.ลายจุด wrote:
"ความเท่าเทียมไม่มีจริง"

ผมติดใจวรรคนี้ของคุณ jerasak คุณกำลังหมายถึงบริบทไหนกันครับ
โลกที่ทุกวันนี้มันไม่เท่าเทียมกัน หรือ หลัการที่ว่า มนุษย์นั้นเท่าเทียมกันเป็นเรื่องโกหก
ที่ถูกต้องคือ การประกาศและยอมรับ ก้มหัวต่อหลักการที่จริงแท้ว่า "ความเท่าเทียมเป็นเรื่องโกหก" กระนั้นหรือ ?

การที่ พธม หรือ พวกคุณต่อสู้กับทักษิณ เป็นเพราะคุณเชื่อว่า คนที่แข็งแรงกว่าคือผู้ที่มีความชอบธรรมที่จะเป็นผู้ชนะ หรือ ว่าคุณถือหลัการเท่าเทียมกันในสังคม
คน ๆ หนึ่งทำสิ่งหนึ่งได้หากเขาแข็งแรงกว่า ในขณะที่คนที่ตัวเล็กกว่า อ่อนแอกว่ากระทำเช่นเดียวกับอีกคนไม่ได้

หลักความเสมอภาคไม่ได้อยู่ในระบบคิดของคุณดอกหรือ
หากโลกนี้มันช่างบิดเบี้ยว คุณทำยังไงกับความไม่เท่าเทียมของมัน
เอาตัวเองไปเป็นชนชั้นที่สูงกกว่า เกาะเกี่ยวสถานะหรือฝ่ายที่ได้เปรียบกว่ากระนั้นหรือ ?

วิญญูชนไม่ใช่เมื่อเห็นความไม่เสมอภาคเกิดขึ้นในสังคม แล้วเราช่วยกันทำให้ความเสมอภาคเกิดขึ้นดอกหรือ ?

โอ้....คุณเป็นคนประเภทไหน
ผู้เข้าใจโลกอย่างลึกซึ้งและก้มหัวให้กับความไม่เสมอภาค เท่าเทียม ในฐานะผู้พ่ายแพ้
หรือคุณเป็นพวกที่เข้าใจโลกอันไม่เท่าเทียมนี้ แล้วเอาตัวเองไปเป็นผู้กดขี่

เวลาคุณตะโกนอยู่หน้าม็อบ คุณตะโกนในฐานะกลุ่มคนผู้แข็งแรง อารยัน ซึ่งจะมาพิชิตพวกที่ต้องล้มตายไปในกฎของผู้แข็งแรงกว่าเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มีชีวิตรอด


ก่อนอื่นผมขอชมเชย บก.ลายจุด ที่สามารถจับประเด็นสำคัญ
ในข้อความจำนวนมากที่ผมโพสต์ตอบ อ.สมศักดิ์
:D

ขณะที่ผมแปลกใจพอสมควรที่ อ.สมศักดิ์ กลับไม่แสดง-
การสังเกตเห็นประเด็นนี้ ทั้งที่ผมเน้นสีไว้เป็นพิเศษแล้ว? :?:

...

ประเด็น "ความเท่าเทียมไม่มีจริง" บก.ลายจุด ตั้งคำถามว่า
ผมกำลังหมายถึงบริบทไหนระหว่าง โลกทุกวันนี้ไม่เท่าเทียมกัน
กับ หลัการที่ว่ามนุษย์นั้นเท่าเทียมกันเป็นเรื่องโกหก

*คำตอบคือถูกต้องทั้ง 2 บริบทที่ บก.ลายจุด ยกมาครับ*

...

ประเด็น "ความเท่าเทียมไม่มีจริง" นี้สำหรับผมเป็นหนึ่งใน
ปรมัตถ์สัจจะ เป็นกฎจักรวาลเทียบเท่ากับ กฎไตรลักษณ์

เพราะตามธรรมชาติที่เป็นจริงไม่มีอะไรเลยที่เท่าเทียมกัน
ความเท่าเทียมมีอยู่แต่ในจินตภาพ เป็นแค่เพียงนามธรรม
เหมือนกับ "วงกลม" ที่เราสามารถนิยามได้เป็นคำอธิบาย
แต่ในธรรมชาติไม่เคยมีวงกลมจริงๆ มีแต่อะไรที่ใกล้เคียง
คล้ายๆ จะเป็นวงกลมแต่ถึงที่สุดแล้วก็ไม่ใช่วงกลม

คำกล่าวที่ว่า "คนเท่ากับคน" / "มนุษย์ล้วนเท่าเทียมกัน"
ก็เป็นแค่เพียงคำพูด แท้จริงแล้วไม่เคยมีใครเท่ากันจริงๆ

ดีที่สุดที่เราทำได้ก็คือบัญญัติเป็นกฎหมาย แต่ความจริง
เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎธรรมชาติได้หรอกครับ
:idea:

...

ผมอยากชี้ให้ บก.ลายจุด สังเกตความคิดตัวเองสักหน่อย
ความรู้สึกคุณเมื่อมีคนบอกว่า "ความเท่าเทียมไม่มีจริง"
ก็คงไม่ต่างกับความรู้สึกของคนไทยทั่วไปที่เคารพสถาบันฯ
แล้วถูกคนกลุ่มหนึ่งบอกว่าควรปฏิบัติต่อสถาบันเท่ากันกับ
ที่ปฏิบัติต่อสามัญชนทั่วไป
:!:

เมื่อยึดกรอบความคิดกันคนละแบบก็ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง
แต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่ากรอบความคิด "คนเท่ากับคน" นั้น
ก็เป็นเพียงเรื่องสมมุติ ขณะเดียวกันการถือว่าคนแต่ละคน
มีระดับชั้นในสังคมไม่เท่ากันก็เป็นเรื่องสมมุติด้วย

แต่การสมมุติ "คนเท่ากับคน" เป็นการสมมุติที่ฝืนธรรมชาติ
ในขณะที่การสมมุติคนแต่ละคนมีระดับชั้นในสังคมไม่เท่ากัน
เป็นการสมมุติที่สอดคล้องกับความจริงในธรรมชาติ


...

สรรพสัตว์ทั้งหลายหากอยู่ร่วมกันเป็นสังคมล้วนมีลำดับชั้น
ไม่ว่าจะเป็นแมลงอย่างมดปลวก หรือฝูงวัวควาย ฝูงสิงโต
ไล่มาจนถึงฝูงลิง และฝูงมนุษย์ ที่ในที่สุดกลายเป็นชนเผ่า
กลายเป็นอาณาจักร และกลายเป็นรัฐชาติในปัจจุบัน

ทุกสังคมวัฒนธรรมต่างมีธรรมเนียมเกี่ยวกับกาละเทศะบุคคล
ทุกสังคมวัฒนธรรมบางคนมีสิทธิบางอย่าง ขณะที่บางคนไม่มี
บางคนอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์บังคับ แต่บางคนได้รับการยกเว้น
หากใครไม่ยอมรับในเรื่องนี้เท่ากับไม่ยอมรับความจริง...

*หลักการ "คนเท่ากับคน" คือตัวอย่างการไม่ยอมรับความจริง*

ทั้งที่หากไปดูผู้นำแนวคิด "คนเท่ากับคน" อย่างสหรัฐอเมริกา
อดีตประธานาธิบดียังได้รับการดูแลตลอดชีวิตในฐานะ VIP
แตกต่างจากคนแก่ทั่วไป เป็นความไม่เสมอภาคอย่างชัดเจน

คำพูดของคุณที่ว่า "วิญญูชนไม่ใช่เมื่อเห็นความไม่เสมอภาคเกิดขึ้น-
ในสังคม แล้วเราช่วยกันทำให้ความเสมอภาคเกิดขึ้นดอกหรือ ?"

ถามว่า บก.ลายจุด จะทำอย่างไรกับความไม่เสมอภาคนี้ล่ะครับ
ไล่อดีตประธานาธิบดีออกจากความเป็น VIP อย่างนั้นหรือ? :?:

...

หลักการ "ความเท่าเทียมไม่มีจริงนี้" ยังเป็นจริงแม้แต่กับ
คนๆ เดียวกันเมื่อเวลาเปลี่ยนไป ตัวอย่างเช่น คุณอภิสิทธิ์
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เป็น นายกฯเงา ก็มีสถานะบทบาทหนึ่ง
มาถึงตอนนี้กลายเป็นนายกฯจริงก็มีอีกสถานะบทบาทหนึ่ง
"อภิสิทธิ์ยังไม่เท่ากับอภิสิทธิ์" ดังนั้นที่ว่า "คนเท่ากับคน"
ก็เป็นแค่คำพูดที่ไม่เคยเป็นจริง

ทุกสังคมวัฒนธรรมต่างมีลำดับชั้นทางสังคมทั้งนั้น หากเรา-
อยู่ในลำดับชั้นใดก็ต้องปฏิบัติตามบทบาทของตัวเองครับ

หากไปยึดมั่นถือมั่นกับจินตนาการที่ฝืนธรรมชาติ ก็ีมีแต่
ความทุกข์ร้อนคับข้องใจจากการฝืนธรรมชาตินี่เอง :idea:

...

สุดท้ายการยอมรับความจริงว่า "ความเท่าเทียมไม่มีจริง"
ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยให้คนอ่อนแอถูกทอดทิ้ง
หลักพรหมวิหารสี่ คือหลักธรรมที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
และเป็นเครื่องชี้แนวทางว่าผู้ที่พร้อมกว่า มีสถานะดีกว่า
สมควรปฏิบัติอย่างไรต่อผู้ด้อยกว่า

นั่นคือหลัก เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ที่ผู้พร้อมกว่า
ควรช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์และมีความสุข ยินดีกับความสุข-
ของผู้อื่น และสุดท้ายรู้จักวางเฉยเมื่อสมควรวางเฉย

ไม่รู้ว่าผมจะมีความสามารถอธิบายให้ บก.ลายจุด เข้าใจ
ในความคิดของผมหรือเปล่า ที่ผมพยายามอธิบายยืดยาว
ก็เพราะเชื่อว่า บก.ลายจุด เป็นคนหนึ่งที่สามารถเข้าใจได้
แต่ผมกำลังหนักใจว่าจะทำอย่างไรกับ อ.สมศักดิ์ ดี
:|
Last edited by jerasak on Sat Jan 31, 2009 2:55 pm, edited 1 time in total.
== นักฝันมีชิวิตเพื่อนิรันดร์กาล ==
User avatar
jerasak
 
Posts: 1803
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:22 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby kritz » Sat Jan 31, 2009 2:46 pm

เรียนท่าน jerasak ครับ พุทธธรรม ที่เคยตรัสสอนไว้นั้น เป็นอนิจจังที่จริงแท้อยู่เสมอครับ บัวนั้นมี 4 เหล่าฉันใด มนุษย์ผู้เป็นสัตว์โลกย่อมเป็นเช่นเดียวกันครับ แนวคิดเรื่องความเท่าเทียมของผมนั้นเป็นแนวทางเดียวกับท่าน jerasak ครับ แต่ไม่ขออธิบายให้บัวที่อยู่ใต้ตม เพราะเมื่อกาลเวลาผ่านไป ร่างกายที่เป็นอนิจจังของคนเหล่านั้นย่อม เปื่อยผุและเน่าสลายไปเอง เพื่อเป็นอาหารแก่เหล่าส่ำสัตว์ได้ดำรงค์ชีพต่อ พวกคนเหล่านี้ มีประโยชน์เพียงเท่านี้จริงๆ ... :lol:

ผมกลับรู้สึกสงสารเด็กรุ่นใหม่ที่ต้องผ่านประสบการณ์การเรียน การสอนจากคนเหล่านี้ที่สมมติอัตตาตัวเองเป็นอาจารย์ เพื่อพร่ำสอนแนวคิด ลัทธิอุบาทว์ เช่นนี้อยู่ร่ำไป ...พะอืดพะอมจริงๆ ครับ
I'm a PAD, not a Democrat!

Honestly is the best policy!
ประชาทนธิปไตย คลิกเบาๆ
User avatar
kritz
 
Posts: 2276
Joined: Fri Nov 07, 2008 12:52 pm
Location: ภูเก็ต

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Cherub Rock » Sat Jan 31, 2009 3:22 pm

ซ้ำง่ะ
Last edited by Cherub Rock on Sat Jan 31, 2009 3:24 pm, edited 1 time in total.
:idea: 1 ปีตุลาเลือด ฆาตรกรต้องไม่ลอยนวล
วันข้างหน้า ผู้มีอำนาจ จะไม่บังอาจฆ่าประชาชน
-->
User avatar
Cherub Rock
 
Posts: 2769
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:47 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Cherub Rock » Sat Jan 31, 2009 3:23 pm

Cherub Rock wrote:ที่จริงสมสักไม่ใช่แค่ไม่เอา 112 หรอก
พูดง่ายๆ คือไม่เอาสถาบันกษัตริย์นั่นแหละ

อยากรู้จังว่าถ้าทำประชามติกันจะเป็นยังไง
เห็นเค้าว่าพรรคฟ้าเดียวกันมีตั้งหมื่น (น้อยกว่าหมาขี้เรื้อนใน กทม.) :lol:
:idea: 1 ปีตุลาเลือด ฆาตรกรต้องไม่ลอยนวล
วันข้างหน้า ผู้มีอำนาจ จะไม่บังอาจฆ่าประชาชน
-->
User avatar
Cherub Rock
 
Posts: 2769
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:47 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Minerva » Sat Jan 31, 2009 3:35 pm

ผมนับถือ อ.สมศักดิ์ จริงๆเลยนะคับ อาจารย์มีความพยามจริงๆเลย ที่จะถกเ ถียง ถ้าผมเป็นอาจารย์ผมไม่สนใจพวกแ่ม่งหรอก
ถ้ามันอยากจะตายแบบโง่ๆ หรือตายแบบไม่ยอมรับรู้ความจริงอะไรเลยก็ปล่อยพวกมันไปเถอะครับ
คนเราถ้าทำตัวเหมือนน้ำเต็มแล้วไปแล้ว พวกเค้าก็ปฏิเสธที่จะรับรู้ในสิ่งที่พวกเค้าไม่เชื่อ และพวกเค้าก็ไม่พยามที่จะใช้สมองเลยแม้แต่น้อย

ผมเห็นมีแต่คนมาด่า เสียดสี อ่านๆดูแต่ละความเห็น ก็รู้แล้วว่าระดับสติปัญญาของเค้ามันแค่ไหน
ไม่ได้ดูถูกนะ แต่คำพูดของพวกคุณมันบ่งบอกเอง

ผมว่าปล่อยใ้ห้พวกมันตายไปกับสิ่งที่พวกมันเชื่อโดยไม่คิดจะเปิดกว้าง หรือใ้ช้สมองในการคิดเถอะคับจาร

คุณลูกนนทรี ก่อนที่คุณจะไปว่าอะไรใคร นี่หัดดูตัวเองหน่อยนะ หัดเปิดใจบ้าง มหาลัยคุณคงไม่ได้สอนให้มีความคิดล่ะสิถึงพูดแบบนี้
User avatar
Minerva
 
Posts: 2
Joined: Sat Jan 31, 2009 3:11 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Oriland » Sat Jan 31, 2009 3:39 pm

ถ้าความเท่าเทียมกันมีจริงนะครับ

คนขยัน กับ คนไม่ขยัน

คนขยันมีงาน มีเงิน รวย

คนไม่ขยันไม่มีงานไม่มีเงิน จน

อีกอย่างครับ

คนขยันเรียนจบปริญญาตรี โท เอก ได้ทำงานดีๆ อนาคตดี

คนไม่ขยัน เรียนไม่จบอะไรเลย นั่งเป็นจับกัง ก็อยู่แค่นั้น

คนดี กับ คนเลว

คนดีทำความดีได้อยู่ในสังคมดีๆ

คนเลวทำความเลวได้อยู่ในสังคมที่ไม่ดี

ความเท่าเทียมกันไม่มีจริงหรอกครับอย่าหลอกตัวเองเลย
User avatar
Oriland
 
Posts: 316
Joined: Sat Jan 24, 2009 4:30 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ridkun » Sat Jan 31, 2009 3:46 pm

อาจารย์หัวโตคงลืมไปว่าเมื่อวันหนึ่งในปี พ.ศ. 2475 มีคนกลุ่มหนึ่งไปปล้นเอาอำนาจจากในหลวงมา แล้วก็บอกว่าอำนาจเป็นของประชาชน
พอดีผมก็ยังคงเป็นคนโง่ๆ ในสายตาอาจารย์ แต่ผมก็คิดโง่ๆ ว่าวันนั้นเราก็ไปปล้นเอาอำนาจจากสถาบันมาชัดๆ เราก็น่าจะมีอะไรดีๆ ให้สถาบันบ้าง
คนเรานี่นะ ถ้าเอาแต่ได้ ได้คืบจะเอาศอก เห็นแก่ตัว ไม่รู้จักบุญคุณคน ผมว่าชีวิตคงไม่เจริญหรอก

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

ridkun
Site Admin
 
Posts: 1815
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:08 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Oriland » Sat Jan 31, 2009 3:48 pm

Minerva wrote:ผมนับถือ อ.สมศักดิ์ จริงๆเลยนะคับ อาจารย์มีความพยามจริงๆเลย ที่จะถกเ ถียง ถ้าผมเป็นอาจารย์ผมไม่สนใจพวกแ่ม่งหรอก
ถ้ามันอยากจะตายแบบโง่ๆ หรือตายแบบไม่ยอมรับรู้ความจริงอะไรเลยก็ปล่อยพวกมันไปเถอะครับ
คนเราถ้าทำตัวเหมือนน้ำเต็มแล้วไปแล้ว พวกเค้าก็ปฏิเสธที่จะรับรู้ในสิ่งที่พวกเค้าไม่เชื่อ และพวกเค้าก็ไม่พยามที่จะใช้สมองเลยแม้แต่น้อย

ผมเห็นมีแต่คนมาด่า เสียดสี อ่านๆดูแต่ละความเห็น ก็รู้แล้วว่าระดับสติปัญญาของเค้ามันแค่ไหน
ไม่ได้ดูถูกนะ แต่คำพูดของพวกคุณมันบ่งบอกเอง

ผมว่าปล่อยใ้ห้พวกมันตายไปกับสิ่งที่พวกมันเชื่อโดยไม่คิดจะเปิดกว้าง หรือใ้ช้สมองในการคิดเถอะคับจาร

คุณลูกนนทรี ก่อนที่คุณจะไปว่าอะไรใคร นี่หัดดูตัวเองหน่อยนะ หัดเปิดใจบ้าง มหาลัยคุณคงไม่ได้สอนให้มีความคิดล่ะสิถึงพูดแบบนี้


มหาวิทยาลัย ผมสอนให้ จงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจบมาทำงานรับใช้ประชาชน

มหาวิทยาลัยผมสอนให้ ผมไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง

มหาวิทยาลัยผม สอนให้สำนึกบุญคุณพ่อหลวง

มหาวิทยาลัยผมสอนให้เปิดกว้างทุกความคิดที่เข้ามา ไม่ให้ด่าคนที่ไม่เห็นด้วย ควรจะอธิบายเขาดีๆ

มหาวิทยาลัยไม่ได้สอนให้ คิดคดทรยศต่อ สถาบัน ถ้าไม่มีสถาบัน ไม่มีแผ่นดินไทยอยู่จนถึงทุกวันนี้

เสียกรุงครั้งที่ 1 ใครกู้ชาติ

เสียกรุงครั้งที่ 2 ใครกู้ชาติ

สงคราม 9 ทัพ ใครป้องกันไว้

ยุค อาณานิคม ใครป้องกันประเทศให้ไม่ให้ไปเป็นเมืองขึ้น ฝรั่ง

แล้วในปัจจุบันใครกันที่เป็นห่วง ประชาชนในประเทศที่สุด

ถ้าบรรพบุรุษ ที่กู้แผ่นดินผืนนี้ให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยรู้ว่า ลูกหลานเขามันคิดคดทรยศกับความรู้สึกที่เขามีให้กับสถาบัน

เขาคงนั่งร้องไห้อยู่แน่ๆ

ฝากให้คิดเท่านี้แหละครับ
User avatar
Oriland
 
Posts: 316
Joined: Sat Jan 24, 2009 4:30 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ฉิกตี๋ » Sat Jan 31, 2009 4:18 pm

...........................................................................

โจทย์ ล้มปืน

วิธีการ สู้กับทหารซึ่งเป็น State Power โดยนิยามว่าเป็นเผด็จการ หรือเผด็จการซ่อนรู๊ป ซ่อนรูป

วัตถุประสงค์ ทำให้ทหารซึ่งเป็นฐานสำคัญหลักและเพียงหนึ่งเดียวของจอมทัพไทยเสื่อมและแยกทหารกับสถาบันหลักออกจากกัน

...โดยเน้นจัดกิจกรรม ปาเป้าสู้กับทหารอย่างสร้างสรร อาวุธทางปัญญา


a1.jpg
(25.74 KiB) Downloaded 281 times


...แจกของลับ สู้กับทหารอย่างกล้าหาญ แนวทางประชาทีปะตาย เสรีนิยมโคด โคด..


ab.jpg
(38.9 KiB) Downloaded 281 times


..และต่อสู้กับปืน ด้วยอุดมการณ์ No Coup ไม่ยอมหนีทหารแม้แต่ก้าวเดียว

08_113749_52.jpg
(45.44 KiB) Downloaded 278 times



..... งานกะป๋ม No Coup ล้มปืน คร๊าบ ล้มปืนและสู้กับปืนโดยใช้สติกเกอร์เป็นหลัก คร๊าบ เก่งและกล้าหาญ ฉลาดชาญชัย โคด โคด....

..........................................................................................................................
“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือ สร้างอนาคตขึ้นมาเอง”
User avatar
ฉิกตี๋
 
Posts: 712
Joined: Wed Dec 03, 2008 6:52 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ลูกนนทรี » Sat Jan 31, 2009 4:25 pm

Minerva wrote:ผมนับถือ อ.สมศักดิ์ จริงๆเลยนะคับ อาจารย์มีความพยามจริงๆเลย ที่จะถกเ ถียง ถ้าผมเป็นอาจารย์ผมไม่สนใจพวกแ่ม่งหรอก
ถ้ามันอยากจะตายแบบโง่ๆ หรือตายแบบไม่ยอมรับรู้ความจริงอะไรเลยก็ปล่อยพวกมันไปเถอะครับ
คนเราถ้าทำตัวเหมือนน้ำเต็มแล้วไปแล้ว พวกเค้าก็ปฏิเสธที่จะรับรู้ในสิ่งที่พวกเค้าไม่เชื่อ และพวกเค้าก็ไม่พยามที่จะใช้สมองเลยแม้แต่น้อย

ผมเห็นมีแต่คนมาด่า เสียดสี อ่านๆดูแต่ละความเห็น ก็รู้แล้วว่าระดับสติปัญญาของเค้ามันแค่ไหน
ไม่ได้ดูถูกนะ แต่คำพูดของพวกคุณมันบ่งบอกเอง

ผมว่าปล่อยใ้ห้พวกมันตายไปกับสิ่งที่พวกมันเชื่อโดยไม่คิดจะเปิดกว้าง หรือใ้ช้สมองในการคิดเถอะคับจาร

คุณลูกนนทรี ก่อนที่คุณจะไปว่าอะไรใคร นี่หัดดูตัวเองหน่อยนะ หัดเปิดใจบ้าง มหาลัยคุณคงไม่ได้สอนให้มีความคิดล่ะสิถึงพูดแบบนี้


น่าจะเก็บไว้พูดกับอาจารย์มรึงเถอะ ไอ้ที่ว่าทำตัวเหมือนน้ำเต็มแล้วสมเพศกับคำพูดหว่ะ :lol: :lol:
หัวใจของนักการเมืองจริงๆคือการทำนุบำรุงผลประโยชน์ของชาติ แต่ปัจจุบันในเมืองไทยหาได้ยากเสียเหลือเกิน
User avatar
ลูกนนทรี
 
Posts: 1567
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:35 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby ลูกนนทรี » Sat Jan 31, 2009 4:36 pm

อย่างน้อยมหาวิทยาลัยผมเค้าก็สอนผมให้ไม่คิดล้มล้่างหรือวิจารณ์สถาบันครับ สอนให้ผมรักประชาชนและทดแทนบุญคุณภาษีที่ประชาชนเสียมาให้ผมเรียน ผมจะด่าคนก็ต่อเมื่อเค้าดูถูกคนอื่นก่อน บอกอาจารย์ของมรึงเถอะminevaว่าใครเริ่มดูถูกใครก่อนก็บอกแล้ว จานของมรึงหน่ะกินภาษีหลวงไปเรียนกลับมาก็มาด่าหลวงถ่มน้ำลายรดฟ้าแล้วกลับมาเข้าหน้าตัวเอง ด่าคนอื่นในบอร์ดนี้ว่าโง่จบมาจากไหน ขอโทษคนที่เป้นdoctor ในประเทศนี้มีเยอะครับและคุณวุฒิทางวิชาการสูงกว่าไอ้หัวโตของมรึงเยอะ แหมมมม เป็นแค่อ.ดร. แล้วบอกว่าชั้นนี้เป็นพหูสูตรรุ้เรื่องดีไปหมด แต่ที่แท้ผลงานวิชาการส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ลเยแม้จะเขียนดีแต่ก็เป็น ดีในคราบพญามารหน่ะสิ
ปล.ผมว่าช่วงนี้ถ้าไอ้หัวโตเข้ามาเล่นผมว่าเดี๋ยวก็มีไอ้พวกบอร์ดหมาเดียวกันมาสมัครสมาชิกที่เว็บนี้เพื่อปกป้องศาสดามัน ดูได้ว่าเริ่มมีมา1ตัวล่ะ
ปล.ย้ำอีกทีว่าโลกนี้มันไม่เท่าเทียมในทางปฏิบัติหรอกนะ ในทางทฏษฏีหน่ะเป็นไปได้ แต่หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ในทางทฤษฏีล้วนแต่ล้มเหลวเมื่อนำมาปฏิบัติ
หัวใจของนักการเมืองจริงๆคือการทำนุบำรุงผลประโยชน์ของชาติ แต่ปัจจุบันในเมืองไทยหาได้ยากเสียเหลือเกิน
User avatar
ลูกนนทรี
 
Posts: 1567
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:35 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby หมักมะเร็ง » Sat Jan 31, 2009 4:56 pm

กระทู้นี้คงจะยาว ถ้าจะหาคนที่สมสากเกรียนหงอกรับฟังและเชื่อ มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวนั่นคือลุงเภกฯ :lol:

ปล.สมสากหัวหงอกจริงเป็นภววิสัยไม่ใช่อัตวิสัย ดังนั้นจึงไม่ใช่การทำลายความน่าเชื่อถือ เดี๋ยวจะมีใครมาติงโง่ๆ อย่างลายจุดอีก :mrgreen:
User avatar
หมักมะเร็ง
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:21 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Cherub Rock » Sat Jan 31, 2009 5:05 pm

หมักมะเร็ง wrote:คนที่สมสากเกรียนหงอกรับฟังและเชื่อ มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวนั่นคือลุงเภกฯ :lol:


:lol: :lol: :lol:
:idea: 1 ปีตุลาเลือด ฆาตรกรต้องไม่ลอยนวล
วันข้างหน้า ผู้มีอำนาจ จะไม่บังอาจฆ่าประชาชน
-->
User avatar
Cherub Rock
 
Posts: 2769
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:47 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Canthai » Sat Jan 31, 2009 5:14 pm

เรื่องการใช้งบประมาณในโครงการหลวง มีให้ตรวจสอบอยู่แล้วครับ

ต้องไม่ลืมว่า งานในพระราชดำริ มีทั้งใช้งบประมาณและทรัพย์สินส่วนพระองค์

ส่วนมากจะทำในรูป "มูลนิธิฯ" ซึ่งแน่นอนว่าต้องตรวจสอบ มีการปฏิบัติตามกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย

งานไหนต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน ย่อมอยู่ในระเบียบกฎหมาย เพราะใช้ผ่านกระทรวง ทบวง กรม

งานแบบนี้น่าจะเรียกว่า ทรงเป็นที่ปรึกษาโครงการ มากกว่า

เอาไปเปรียบเทียบกับอังกฤษ คงไม่ได้ ( คล้ายๆ ได้ยิน ส. ศิวลักษณ์ พูดประเด็นนี้ )

กษัตริย์ของประเทศหนึ่ง คงเทียบเคียงกับกษัตริย์อีกประเทศหนึ่งไม่ได้ เพราะบริบทต่างกัน ความเป็นมาต่างกัน กฎหมายแตกต่างกัน

การกระทำหรือผลงานแตกต่างกัน

ผลงานของ กษัตริย์อังกฤษ กับ พระราชกรณีกิจของ พระมหากษัตริย์ไทย คนละเรื่อง คนละบทบาท

ยิ่งนำไปเปรียบเทียบกับกษัตริย์ประเทศอื่น เราคนไทยยิ่งเห็นความแตกต่างมากมายมหาศาล

เพราะพระมหากษัตริย์ไทยกับประชาชน หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว สุขทุกข์มีจิตใจสื่อถึงกัน..

ประชาชนทุกข์ใจ สถาบันทุกข์ด้วย สถาบันมีรอบแย้มพระสวรล เราคนไทยปลาบปลื้ม..

นี่คือความเป็นหนึ่งเดียวคือคำว่า "ชาติ" ไม่มีแบ่งแยก ทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน เดินไปข้างหน้าด้วยกัน

ดังนั้นคำดที่ว่า "ธ ทรงเป็นยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์" จึงมีคนไทยทั่วประเทศยกย่อง ก้มกราบยอมรับนับถือยกใจให้ทั้งใจ

ส่วนเรื่อง สำนักงานทรัพย์สินฯ ก็มีแถลงการณ์และเนื้อหาอธิบายความ ทั้งภาษาไทย / ภาษาอังกฤษ ขึ้นให้อ่านตามเว็บไซต์แล้ว

หัวโตทำไมไม่ไปหาอ่านล่ะ...

การตรวจสอบทำได้ครับ ทำรายงานในเชิงการศึกษาย่อมทำได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ผิดกฎหมาย 112 ก็เท่านั้นเอง


เราต้องไม่ลืมว่า ธุรกิจเอกชน ธุรกิจมหาชน คนไทย อีกเป็นจำนวนมาก ได้ดำเนินตามรอยพระยุคลบาท ก่อตั้ง ชมรม สมาคม มูลนิธิ ทำงานเสียสละเพื่อบ้านเมืองมากมาย...เป็นผู้ให้ เป็นผู้เสียสละ

คนเหล่านั้นต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทำด้วยจิตใจที่เป็นสุข ไม่มีใครบังคับแต่อย่างใด


นี่คงไม่ถูกด่าว่าเป็นถ้อยคำสรรเสริญ เพราะเป็นสิ่งที่เรารู้ เราสัมผัสได้

ก็เรามีสำนึกของเราเป็นเช่นนี้ ใครคนอื่นก็มีสำนึกแตกต่างกันไป

แต่เราเชื่อมั่นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย เป็นแรงบันดาลใจให้คนไทย 99.999999 % ที่คิดจะทำความดีเพื่อตนเอง เพื่อส่วนรวม และเพื่อชาติ

เป็นที่ยอมรับในสังคมนานาชาติทั่วโลก

ที่เหลือ ก็ยกให้พันกว่าคน ที่ อ.ใจ ที่รวบรวมรายชื่อมา...ส่วนหัวโต ไม่กล้าแม้แต่จะลงชื่อตามเพื่อน ๆ
Last edited by Canthai on Sat Jan 31, 2009 5:51 pm, edited 1 time in total.
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby kritz » Sat Jan 31, 2009 5:17 pm

ผมก็อยากทราบเหมือนกันนะครับว่า หาก ลูกศิษย์ ของสมศักดิ์ ไม่เจียม เดินเข้าไปทักทาย สมศักดิ์ ว่า "เห้ยสัตว์ มึงไปไหนมาวะ เป็นไงบ้างวะ" พร้อมเอามือตบกระโหลกไปหนึ่งที คนอย่างสมศักดิ์ ไม่เจียม จะรู้สึกเยี่ยงไร เพราะศิษย์ของสมศักดิ์ ไม่เจียม คนนั้น ก็อ้างเช่นกันว่า "ก็กูเป็นคน ก็เท่าเทียมกับมึงไงวะ สมศักดิ์ ไม่เจียม" ... :lol:

ผมมันพวกน้ำเต็มครับ ไม่ขอรับน้ำเน่ามาบรรจุ ขอรับแต่เฉพาะน้ำดีๆ เท่านั้น
I'm a PAD, not a Democrat!

Honestly is the best policy!
ประชาทนธิปไตย คลิกเบาๆ
User avatar
kritz
 
Posts: 2276
Joined: Fri Nov 07, 2008 12:52 pm
Location: ภูเก็ต

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby หมักมะเร็ง » Sat Jan 31, 2009 5:37 pm

สมศักดิ์ เจียม wrote:" ไอ้สมศักดิ์ ไอ้หัวหงอก ไอ้ลูกกะหรี่ แม่มึงเป็นกระหรี่ พ่อมึงเป็นสัตว์..."

เห็นไหมครับ ผมเฉยๆ เพราะ คนที่ด่าเช่นนี้ แสดงว่า ไม่มีปัญญา ไม่มีวุฒิภาวะอะไร ผมไม่รู้สึก

โห สมสากประชดประชันแบบนี้ ดูถูกสติปัญญาตัวเองและชาวโลกเกินไปหรือเปล่าครับ ใครๆก็รู้ว่าเป็นไปได้ยาก

สมสากหัวหงอกขนาดนี้อายุคงไม่ใช่น้อยๆ แม่ของสมสากก็น่าจะยิ่งอายุไม่ใช่น้อยๆ

ในทางปฎิบัติ สามารถประกอบอาชีพที่สมสากกล่าวถึงได้เหรอครับ (ใช้คำว่า"เป็น" แสดงว่าปัจจุบันก็ยังทำอยู่)

ยิ่งประชดประชันว่าพ่อตัวเองเป็นสัตว์ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ต่อให้แม่ของสมสากสังวาสกับสัตว์จริง

ก็ไม่มีทางเกิดเป็นสมสากได้ ประเด็นนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ (ไม่ต้องขนาดจบดร. แค่เรียนชีววิทยาเบื้องต้นก็พอ)

ผมคิดว่า ถ้าสมสากรู้สึกอะไรก็คงแปลกหล่ะครับ มีแต่เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ทั้งนั้น

Image
User avatar
หมักมะเร็ง
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:21 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby Minerva » Sat Jan 31, 2009 5:59 pm

ลูกนนทรี wrote:อย่างน้อยมหาวิทยาลัยผมเค้าก็สอนผมให้ไม่คิดล้มล้่างหรือวิจารณ์สถาบันครับ สอนให้ผมรักประชาชนและทดแทนบุญคุณภาษีที่ประชาชนเสียมาให้ผมเรียน ผมจะด่าคนก็ต่อเมื่อเค้าดูถูกคนอื่นก่อน บอกอาจารย์ของมรึงเถอะminevaว่าใครเริ่มดูถูกใครก่อนก็บอกแล้ว จานของมรึงหน่ะกินภาษีหลวงไปเรียนกลับมาก็มาด่าหลวงถ่มน้ำลายรดฟ้าแล้วกลับมาเข้าหน้าตัวเอง ด่าคนอื่นในบอร์ดนี้ว่าโง่จบมาจากไหน ขอโทษคนที่เป้นdoctor ในประเทศนี้มีเยอะครับและคุณวุฒิทางวิชาการสูงกว่าไอ้หัวโตของมรึงเยอะ แหมมมม เป็นแค่อ.ดร. แล้วบอกว่าชั้นนี้เป็นพหูสูตรรุ้เรื่องดีไปหมด แต่ที่แท้ผลงานวิชาการส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ลเยแม้จะเขียนดีแต่ก็เป็น ดีในคราบพญามารหน่ะสิ
ปล.ผมว่าช่วงนี้ถ้าไอ้หัวโตเข้ามาเล่นผมว่าเดี๋ยวก็มีไอ้พวกบอร์ดหมาเดียวกันมาสมัครสมาชิกที่เว็บนี้เพื่อปกป้องศาสดามัน ดูได้ว่าเริ่มมีมา1ตัวล่ะ
ปล.ย้ำอีกทีว่าโลกนี้มันไม่เท่าเทียมในทางปฏิบัติหรอกนะ ในทางทฏษฏีหน่ะเป็นไปได้ แต่หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ในทางทฤษฏีล้วนแต่ล้มเหลวเมื่อนำมาปฏิบัติ


แต่มหาลัยกูไม่ได้สอนให้กูเป็นทาส หรือเป็นขี้ข้าใครหวะ ถึงเป็นข้า ก็เป็นข้าประชาชน แล้วมหาลัยกูมันเสรีกว่ามึงไงไอ้สัต

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เค้ารู้ไปหมดทุกเรื่อง ประเด็นมันอยู่ที่เค้าต้องการจะอภิปรายด้วย สิ่งสำคัญมันอยู่ที่มึงได้คิดวิเคราะห์
แต่ถ้าสมองมึงมันไม่เปิดรับ ก็ช่างหัวมึง
ผมว่านะ ตอนนี้อาจารย์สมศํกดิ์ กะลังพิสูจ ว่า ควายมันฟังเสียงซอไม่รู้เรื่องจริงๆหวะ
User avatar
Minerva
 
Posts: 2
Joined: Sat Jan 31, 2009 3:11 pm

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby loginofu » Sat Jan 31, 2009 6:05 pm

Minerva wrote:
ลูกนนทรี wrote:อย่างน้อยมหาวิทยาลัยผมเค้าก็สอนผมให้ไม่คิดล้มล้่างหรือวิจารณ์สถาบันครับ สอนให้ผมรักประชาชนและทดแทนบุญคุณภาษีที่ประชาชนเสียมาให้ผมเรียน ผมจะด่าคนก็ต่อเมื่อเค้าดูถูกคนอื่นก่อน บอกอาจารย์ของมรึงเถอะminevaว่าใครเริ่มดูถูกใครก่อนก็บอกแล้ว จานของมรึงหน่ะกินภาษีหลวงไปเรียนกลับมาก็มาด่าหลวงถ่มน้ำลายรดฟ้าแล้วกลับมาเข้าหน้าตัวเอง ด่าคนอื่นในบอร์ดนี้ว่าโง่จบมาจากไหน ขอโทษคนที่เป้นdoctor ในประเทศนี้มีเยอะครับและคุณวุฒิทางวิชาการสูงกว่าไอ้หัวโตของมรึงเยอะ แหมมมม เป็นแค่อ.ดร. แล้วบอกว่าชั้นนี้เป็นพหูสูตรรุ้เรื่องดีไปหมด แต่ที่แท้ผลงานวิชาการส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ลเยแม้จะเขียนดีแต่ก็เป็น ดีในคราบพญามารหน่ะสิ
ปล.ผมว่าช่วงนี้ถ้าไอ้หัวโตเข้ามาเล่นผมว่าเดี๋ยวก็มีไอ้พวกบอร์ดหมาเดียวกันมาสมัครสมาชิกที่เว็บนี้เพื่อปกป้องศาสดามัน ดูได้ว่าเริ่มมีมา1ตัวล่ะ
ปล.ย้ำอีกทีว่าโลกนี้มันไม่เท่าเทียมในทางปฏิบัติหรอกนะ ในทางทฏษฏีหน่ะเป็นไปได้ แต่หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกนี้ในทางทฤษฏีล้วนแต่ล้มเหลวเมื่อนำมาปฏิบัติ


แต่มหาลัยกูไม่ได้สอนให้กูเป็นทาส หรือเป็นขี้ข้าใครหวะ ถึงเป็นข้า ก็เป็นข้าประชาชน แล้วมหาลัยกูมันเสรีกว่ามึงไงไอ้สัต

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เค้ารู้ไปหมดทุกเรื่อง ประเด็นมันอยู่ที่เค้าต้องการจะอภิปรายด้วย สิ่งสำคัญมันอยู่ที่มึงได้คิดวิเคราะห์
แต่ถ้าสมองมึงมันไม่เปิดรับ ก็ช่างหัวมึง
ผมว่านะ ตอนนี้อาจารย์สมศํกดิ์ กะลังพิสูจ ว่า ควายมันฟังเสียงซอไม่รู้เรื่องจริงๆหวะ


ด้วยนิยามของคำว่าทาส ผมว่าคุณใกล้เคียงกว่านะ
และก็อย่างที่บอก จะพิสูจน์ก็ทำเลยครับ แล้วเอาหลักฐานมาโชว์เลย
แค่ลมปาก หรือพิมพ์อะไรทางเว็บบอร์ดใครก็ทำได้
ไม่ได้แปลว่าพูดอะไรที่ใกล้เคียงกับความจริง
หรือพิสูจน์ว่าตัวเองเก่งกล้าอย่างที่อ้าง
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น บ้างไหม: ว่าด้วย ..

Postby บก.ลายจุด » Sat Jan 31, 2009 6:17 pm

jerasak wrote:
บก.ลายจุด wrote:
"ความเท่าเทียมไม่มีจริง"

ผมติดใจวรรคนี้ของคุณ jerasak คุณกำลังหมายถึงบริบทไหนกันครับ
โลกที่ทุกวันนี้มันไม่เท่าเทียมกัน หรือ หลัการที่ว่า มนุษย์นั้นเท่าเทียมกันเป็นเรื่องโกหก
ที่ถูกต้องคือ การประกาศและยอมรับ ก้มหัวต่อหลักการที่จริงแท้ว่า "ความเท่าเทียมเป็นเรื่องโกหก" กระนั้นหรือ ?

การที่ พธม หรือ พวกคุณต่อสู้กับทักษิณ เป็นเพราะคุณเชื่อว่า คนที่แข็งแรงกว่าคือผู้ที่มีความชอบธรรมที่จะเป็นผู้ชนะ หรือ ว่าคุณถือหลัการเท่าเทียมกันในสังคม
คน ๆ หนึ่งทำสิ่งหนึ่งได้หากเขาแข็งแรงกว่า ในขณะที่คนที่ตัวเล็กกว่า อ่อนแอกว่ากระทำเช่นเดียวกับอีกคนไม่ได้

หลักความเสมอภาคไม่ได้อยู่ในระบบคิดของคุณดอกหรือ
หากโลกนี้มันช่างบิดเบี้ยว คุณทำยังไงกับความไม่เท่าเทียมของมัน
เอาตัวเองไปเป็นชนชั้นที่สูงกกว่า เกาะเกี่ยวสถานะหรือฝ่ายที่ได้เปรียบกว่ากระนั้นหรือ ?

วิญญูชนไม่ใช่เมื่อเห็นความไม่เสมอภาคเกิดขึ้นในสังคม แล้วเราช่วยกันทำให้ความเสมอภาคเกิดขึ้นดอกหรือ ?

โอ้....คุณเป็นคนประเภทไหน
ผู้เข้าใจโลกอย่างลึกซึ้งและก้มหัวให้กับความไม่เสมอภาค เท่าเทียม ในฐานะผู้พ่ายแพ้
หรือคุณเป็นพวกที่เข้าใจโลกอันไม่เท่าเทียมนี้ แล้วเอาตัวเองไปเป็นผู้กดขี่

เวลาคุณตะโกนอยู่หน้าม็อบ คุณตะโกนในฐานะกลุ่มคนผู้แข็งแรง อารยัน ซึ่งจะมาพิชิตพวกที่ต้องล้มตายไปในกฎของผู้แข็งแรงกว่าเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์มีชีวิตรอด


ก่อนอื่นผมขอชมเชย บก.ลายจุด ที่สามารถจับประเด็นสำคัญ
ในข้อความจำนวนมากที่ผมโพสต์ตอบ อ.สมศักดิ์
:D

ขณะที่ผมแปลกใจพอสมควรที่ อ.สมศักดิ์ กลับไม่แสดง-
การสังเกตเห็นประเด็นนี้ ทั้งที่ผมเน้นสีไว้เป็นพิเศษแล้ว? :?:

...

ประเด็น "ความเท่าเทียมไม่มีจริง" บก.ลายจุด ตั้งคำถามว่า
ผมกำลังหมายถึงบริบทไหนระหว่าง โลกทุกวันนี้ไม่เท่าเทียมกัน
กับ หลัการที่ว่ามนุษย์นั้นเท่าเทียมกันเป็นเรื่องโกหก

*คำตอบคือถูกต้องทั้ง 2 บริบทที่ บก.ลายจุด ยกมาครับ*

...

ประเด็น "ความเท่าเทียมไม่มีจริง" นี้สำหรับผมเป็นหนึ่งใน
ปรมัตถ์สัจจะ เป็นกฎจักรวาลเทียบเท่ากับ กฎไตรลักษณ์

เพราะตามธรรมชาติที่เป็นจริงไม่มีอะไรเลยที่เท่าเทียมกัน
ความเท่าเทียมมีอยู่แต่ในจินตภาพ เป็นแค่เพียงนามธรรม
เหมือนกับ "วงกลม" ที่เราสามารถนิยามได้เป็นคำอธิบาย
แต่ในธรรมชาติไม่เคยมีวงกลมจริงๆ มีแต่อะไรที่ใกล้เคียง
คล้ายๆ จะเป็นวงกลมแต่ถึงที่สุดแล้วก็ไม่ใช่วงกลม

คำกล่าวที่ว่า "คนเท่ากับคน" / "มนุษย์ล้วนเท่าเทียมกัน"
ก็เป็นแค่เพียงคำพูด แท้จริงแล้วไม่เคยมีใครเท่ากันจริงๆ

ดีที่สุดที่เราทำได้ก็คือบัญญัติเป็นกฎหมาย แต่ความจริง
เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎธรรมชาติได้หรอกครับ
:idea:

...

ผมอยากชี้ให้ บก.ลายจุด สังเกตความคิดตัวเองสักหน่อย
ความรู้สึกคุณเมื่อมีคนบอกว่า "ความเท่าเทียมไม่มีจริง"
ก็คงไม่ต่างกับความรู้สึกของคนไทยทั่วไปที่เคารพสถาบันฯ
แล้วถูกคนกลุ่มหนึ่งบอกว่าควรปฏิบัติต่อสถาบันเท่ากันกับ
ที่ปฏิบัติต่อสามัญชนทั่วไป
:!:

เมื่อยึดกรอบความคิดกันคนละแบบก็ทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง
แต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่ากรอบความคิด "คนเท่ากับคน" นั้น
ก็เป็นเพียงเรื่องสมมุติ ขณะเดียวกันการถือว่าคนแต่ละคน
มีระดับชั้นในสังคมไม่เท่ากันก็เป็นเรื่องสมมุติด้วย

แต่การสมมุติ "คนเท่ากับคน" เป็นการสมมุติที่ฝืนธรรมชาติ
ในขณะที่การสมมุติคนแต่ละคนมีระดับชั้นในสังคมไม่เท่ากัน
เป็นการสมมุติที่สอดคล้องกับความจริงในธรรมชาติ


...

สรรพสัตว์ทั้งหลายหากอยู่ร่วมกันเป็นสังคมล้วนมีลำดับชั้น
ไม่ว่าจะเป็นแมลงอย่างมดปลวก หรือฝูงวัวควาย ฝูงสิงโต
ไล่มาจนถึงฝูงลิง และฝูงมนุษย์ ที่ในที่สุดกลายเป็นชนเผ่า
กลายเป็นอาณาจักร และกลายเป็นรัฐชาติในปัจจุบัน

ทุกสังคมวัฒนธรรมต่างมีธรรมเนียมเกี่ยวกับกาละเทศะบุคคล
ทุกสังคมวัฒนธรรมบางคนมีสิทธิบางอย่าง ขณะที่บางคนไม่มี
บางคนอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์บังคับ แต่บางคนได้รับการยกเว้น
หากใครไม่ยอมรับในเรื่องนี้เท่ากับไม่ยอมรับความจริง...

*หลักการ "คนเท่ากับคน" คือตัวอย่างการไม่ยอมรับความจริง*

ทั้งที่หากไปดูผู้นำแนวคิด "คนเท่ากับคน" อย่างสหรัฐอเมริกา
อดีตประธานาธิบดียังได้รับการดูแลตลอดชีวิตในฐานะ VIP
แตกต่างจากคนแก่ทั่วไป เป็นความไม่เสมอภาคอย่างชัดเจน

คำพูดของคุณที่ว่า "วิญญูชนไม่ใช่เมื่อเห็นความไม่เสมอภาคเกิดขึ้น-
ในสังคม แล้วเราช่วยกันทำให้ความเสมอภาคเกิดขึ้นดอกหรือ ?"

ถามว่า บก.ลายจุด จะทำอย่างไรกับความไม่เสมอภาคนี้ล่ะครับ
ไล่อดีตประธานาธิบดีออกจากความเป็น VIP อย่างนั้นหรือ? :?:

...

หลักการ "ความเท่าเทียมไม่มีจริงนี้" ยังเป็นจริงแม้แต่กับ
คนๆ เดียวกันเมื่อเวลาเปลี่ยนไป ตัวอย่างเช่น คุณอภิสิทธิ์
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เป็น นายกฯเงา ก็มีสถานะบทบาทหนึ่ง
มาถึงตอนนี้กลายเป็นนายกฯจริงก็มีอีกสถานะบทบาทหนึ่ง
"อภิสิทธิ์ยังไม่เท่ากับอภิสิทธิ์" ดังนั้นที่ว่า "คนเท่ากับคน"
ก็เป็นแค่คำพูดที่ไม่เคยเป็นจริง

ทุกสังคมวัฒนธรรมต่างมีลำดับชั้นทางสังคมทั้งนั้น หากเรา-
อยู่ในลำดับชั้นใดก็ต้องปฏิบัติตามบทบาทของตัวเองครับ

หากไปยึดมั่นถือมั่นกับจินตนาการที่ฝืนธรรมชาติ ก็ีมีแต่
ความทุกข์ร้อนคับข้องใจจากการฝืนธรรมชาตินี่เอง :idea:

...

สุดท้ายการยอมรับความจริงว่า "ความเท่าเทียมไม่มีจริง"
ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยให้คนอ่อนแอถูกทอดทิ้ง
หลักพรหมวิหารสี่ คือหลักธรรมที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
และเป็นเครื่องชี้แนวทางว่าผู้ที่พร้อมกว่า มีสถานะดีกว่า
สมควรปฏิบัติอย่างไรต่อผู้ด้อยกว่า

นั่นคือหลัก เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ที่ผู้พร้อมกว่า
ควรช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์และมีความสุข ยินดีกับความสุข-
ของผู้อื่น และสุดท้ายรู้จักวางเฉยเมื่อสมควรวางเฉย

ไม่รู้ว่าผมจะมีความสามารถอธิบายให้ บก.ลายจุด เข้าใจ
ในความคิดของผมหรือเปล่า ที่ผมพยายามอธิบายยืดยาว
ก็เพราะเชื่อว่า บก.ลายจุด เป็นคนหนึ่งที่สามารถเข้าใจได้
แต่ผมกำลังหนักใจว่าจะทำอย่างไรกับ อ.สมศักดิ์ ดี
:|


แม้เข้าใจสิ่งที่คุณพยายามอธิบาย
แต่ไม่สามารถยอมรับชุดอธิบายนั้นได้

การอ้างว่า คนไม่เท่ากับคน ด้วยกฎของธรรมชาติ
หากคนไม่เท่ากับคน เราเรียกคนที่ด้อยกว่าว่าอะไร (สุนัข ลิง แจกัน ก้อนหิน )และ เรียกคนที่สูงกกว่าว่าอะไร ?
โดยกฎของธรรมชาติ คนเราทุกคนกำเนิดมาจากหลักการเดียวกันใช่หรือไม่ ระหว่างที่ดำรงอยู่ก็อยู่บนกฎว่าด้วยการเติบโต และ ความเสื่อม และ การจากไปใช่หรือไม่ ?
คน ๆ ใด ที่เลยไปจาก กฎธรรมชาติข้อนี้ ?
คำตอบคือ ไม่มี

สิ่งที่ทำให้คนต่างจากคนนั้น เป็นวัฒนธรรมของผุ้คนในแต่ละยุค และ บริบททางสังคม
เมื่อก่อนยุคที่มนุษย์ใกล้เคียงกับสัตว์ การแย่งชิง เป็นกฎของการเอาชีวิตรอด ใครแข็งแรงกว่าคนนั้นชนะไป อยู่รอด
กล้ามเนื้อของผู้ชายทำให้ความแตกต่างทางเพศ ชนชั้นนำจึงเป็นชาย เพราะกำหนดทั้งพลังทางเศรษฐกิจและการคุ้มครองเผ่าพันธุ์จากการสู้รบ

การเกิดของจ่าฝูง หรือ ผู้นำในชุมชน
ประกอบกับความเชื่อ พิธีกรรม ผู้นำบางคน(หมอผี)สามารถติดต่อวิญญาณกับเทพต่าง ๆ (ความพยายามสื่อสารกับธรรมชาติ)
การไล่ล่า เข่นฆ่ากันของแต่ละเผ่า เพื่อแย่งชิงทรัยากร และ ป้องกันมิให้อีกฝ่ายเติบโต อันจะเป็นหลักประกันของความปลอดภัยของพวกตน
ความยิ่งใหญ่ที่เกิดจาการแย่งชิง และความกลัว

แม้แต่ในเผ่าพันธุ์นั้นเอง ก็ยังมีการแย่งชิงอำนาจของคนรอบข้าง การสังหารของชนชั้นนำ การเปลี่ยนผ่านทางอำนาจที่ต้องตัดหัวอีกฝ่าย 7 ชั่วโครต ก็มาจากการที่จะต้องให้แน่ใจว่าคนที่คิดจะช่วงชิงอำนาจจะหมดไป แน่นอนว่า อำนาจนั้นเป็นของผู้นำใน ณ ขณะนั้น

ระบอบประชาธิปไตย เกิดขึ้นตามวิวัฒนาการของมนุษย์และสังคม
เมื่อปัญญาชนในฝรั่งเศสเติบโตขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเติบโตปัญญาชนทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อวิถีทางในการแก้ไขปัญหาความยากจนอดอยากของคนในประเทศนั้น ๆ
ในขณะที่ภายนอกราชวังประชาชนอดอยากและตะโกนคำว่า "ขนมปัง" ในขณะที่ในพระราชวัง กลับใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย การปกครองที่ผู้มีอำนาจพิจารณาเพียงการรักษาฐานอำนาจและผลประโยชน์ของตนเองไว้ แต่ไม่ได้ใส่ใจกับการดำรงอยู่ของประชาชน ทำให้ประสิทธิ์ภาพของระบบการปกครองดังกล่าว ตกต่ำจนถึงขีดสุด และ การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น

หลังการเปลี่ยนแปลงในฝรั่งเศส ก็เต็มไปด้วยการเข่นฆ่ากันอีกนับสิบปี การเข้าแย่งชิงอำนาจของพวกผู้นำแบบเก่า ๆ ก็ยังเกิดขึ้น ไม่ต่างกับในประเทศไทยหลัง 2475 ที่ขุนศึก ขุนนาง ยังมีบทบาท ภายหลังการประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่เพราะการเคารพในหลักการ "อำนาจสูงสุดป็นของประชาชน" ดอกหรือ ที่ทำให้เหล่าขุนศึก ขุนนาง เผด็จการทั้งหลาย ต้องคลาย หรือ ยั้งมือกับประชาชน แม้ในใจพวกเขาจะไม่เชื่อในสิ่งนั้น แต่มันก็เป็นอะไรที่มากกว่าสายลม ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางการเมือง วาทะกรรม อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน และ เสรีภาพ เสมอภาค ภรดรภาพ ล้วนแล้ว เป็นพลังทางจินตนาการอันสำคัญ ที่ขับเคลื่อนสังคมมาถึงทุกวันนี้

คุณ jerasak จะโยนทิ้ง หรือ เผาทิ้ง เครือ่งมือสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศนั้นหรือ ?
คุณจะใช้อะไรขับเคลื่อนพลังของประชาชน ประเทศนี้ขับเคลื่อนโดนการเฆียนตีประชาชน เหมือนเฆี่ยนตีวัวควายในภาคการเกษตรหรือ ?
หลายสิบปีที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เกิดจากการปลดปล่อยพลังการผลิตของมนุษย์ ไม่ใช่เกิดจาการเฆี่ยนตี หรือบังครับให้ต้องทำ

การที่ผมโต้เถียงในประเด็นนี้ ไม่ใช่เพราะผมเกลียดชังผู้ใด
แต่ผมเห็นว่าหลักการเป็นสิ่งสำคัญ
การประกาศและยอมรับว่า คนเท่ากับคน ไม่ได้ทำให้คนจนหมดไป หรือ คนรวยไม่มีที่ยืน
แต่ทำให้สิทธิ์พื้นฐานของคนทุกคนมีหลักประกัน
เมื่อเขาเกิดมา มนุษย์คนนั้น ไม่ว่าจะเป็นบุตรของคนรวย หรือ คนจน เขาเป็นประชากรของชาตินั้น
เมื่อเขาเด็ก เขาได้รับการดูแล และ สวัสดิการของรัฐ ในการคุ้มครองและพัฒนาให้เป็นผู้มีการศึกษา แม้เขาจะยากจนก็ตามที
เมื่อเขาโตขึ้น เขามีสิทธิ์ที่จะนำความรู้ของตนไปประกอบอาชีพ เท่าที่เขามีศักยภาพ เพื่อเลี้ยงดูตนเอง ครอบครัว และ จนเจือสังคม
และแน่นอน เขามีสิทธิ์ในการเป็นพลเมือง เพื่อกำหนดทิศทางประเทศ โดยการใช้สิทธิ์ทางการเมือง และไม่ว่าเขาจะรวย หรือ จน หรือ นามสกุลอะไร พวกเขาเสมอกัน
เมื่อวันหนึ่ง เขาเกิดความขัดแย้งพิพาก กับคู่กรณี กฎหมายจะคุ้มครองเท่าเทียมกับคู่กรณี
หากวันหนึ่ง เขาถูกนักการเมือง พ่อค้าผู้รำรวย รังแก เขามิต้องก้มหัวและยอมรับว่า ตนเองมีความเป็นคนน้อยกว่าพวกชนชั้นสูงเหล่านั้น

นี่คือ คนเท่ากับคน ในทัศนะผม
เมื่ออยู่ท่ามกลางฝูงหมา(บ้า)
หนึ่ง....ใจเย็น ๆ เดินไปเรื่อย ๆ เป็นปกติ
สอง....เมื่อหมามันเห่าครั้งแรก ๆ ให้แผ่เมตตาไว้
สาม....เมื่อมันแว้งกัด เอาก้อนหินเขวี้ยงใส่หัวมัน
สี่......เมื่อหมาม้นยังไล่กัดอีก ให้ตะโกนด่ามันว่า "ถ่อย"
User avatar
บก.ลายจุด
 
Posts: 1221
Joined: Sun Nov 09, 2008 12:02 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron