เวียนว่ายตายเกิด

ห้องสำหรับกระทู้นอกเรื่อง ดูแลโดย Mod 1ktip

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby ไร้สีไร้กลิ่น » Thu Aug 18, 2011 7:00 pm

บางคนไม่รู้ตัวว่าทำบาปก็มี
บางคนทำบาปโดยไม่ละอายใจก็มี
คนที่อยู่ศาสนาอื่นไม่รู้ว่าทำแบบนี้แล้วบาป ตายไปก็ตกนรก ผมถึงได้บอกว่าเราโชคดีที่เกิดมาในพระพุทธศาสนาซึ่งพระพุทธเจ้าได้สั่งสอนไว้แล้วว่าสิ่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี ท่านสั่งสอนให้เรารักษาศีล รู้จักทำสมาธิ สอนวิธีภาวนา สอนการใช้ปัญญา สอนวิธีการให้ไปสู่การพ้นทุกข์ ก็ขึ้นกับว่าเราจะปฏิบัติตามกันหรือไม่ แต่สิ่งที่ท่านสอน ผู้ที่ปฏิบัติย่อมจะรู้ว่าเป็นอย่างไร สิ่งที่ท่านสั่งสอนก็เป็นสิ่งที่ดี ทำไปก็ไม่ได้เดือดร้อน
ส่วนการปลุกระดมจนคนเกิดความเชื่อว่าการทำลายผู้อื่นที่เป็นภัยต่อชาติทำให้เป็นการช่วยชาติ อันนั้นคือโลภ โกรธ หรือหลง ทำให้กลายเป็นบาปทั้งโดยรู็ตัวหรือไม่รู้ตัว ผู้ที่ทำย่อมเกิดบาปกรรมขึ้นแล้ว แต่ผลของกรรมจะตอบสนองเมื่อไหร่นั่นอีกเรื่อง ส่วนพวกเราที่เห็นคนอื่นหลงผิดอยู่มีเมตตาจะช่วยก็ช่วย หรือจะปล่อยไปก็แล้วแต่ ยังไงก็มีสติไว้อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนอื่นที่ถูกใช้ให้ไปทำบาปละกัน

คนตักบาตรพร้อมกัน พระรูปเดียวกัน ก็อาจได้บุญไม่เท่ากัน ขึ้นกับจิตใจอีก เคยเจอข้อความเกี่ยวกับสวรรค์ชั้นต่างๆว่าต่างกันอย่างไร สวรรค์ชั้นล่างๆคือทำความดีโดยหวังผลตอบแทน แต่ถ้าสวรรค์ชั้นสูงก็จะทำบุญเพราะคิดว่าเป็นหน้าที่ หรืออยากช่วย ... ลองไปหารายละเอียดอีกทีละกันครับ
User avatar
ไร้สีไร้กลิ่น
 
Posts: 832
Joined: Tue Nov 23, 2010 1:49 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby kainuy555 » Thu Aug 18, 2011 7:05 pm

ไม่เชื่อครับ เพราะมีตัง จ่ายสดครับ 555 ล้อเล่นครับ


อันนี้จริงจัง
เชื่อหรือไม่ เป็นความเชื่อ เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลครับ
User avatar
kainuy555
 
Posts: 1462
Joined: Mon May 16, 2011 9:35 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby กรกช » Thu Aug 18, 2011 7:36 pm

ตะนิ่นตาญี wrote:หาก กรรม คือการกระทำ กฎแห่งกรรม คือ กฎแห่งการกระทำ

ตะนิ่นตาญี ไม่แน่ใจว่า เจ้าของกระทู้ ต้องการสื่อถึงเรื่องราวใด

ไยจึงจั่วหัวออกมาถึง เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด (Reborn)

โดยโยงไปถึง กฎแห่งกรรม หรือ กฎแห่งการกระทำ




ผมขอโควทสั้นๆตรงนี้นะครับ

คือเจตนาที่ผมพูดถึงเรื่องกฎแห่งกรรม ก็เพื่อโยงไปถึงเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เพราะผมคิดว่าเกี่ยวข้องกันครับ
User avatar
กรกช
 
Posts: 1170
Joined: Wed Mar 11, 2009 8:15 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby ไร้สีไร้กลิ่น » Thu Aug 18, 2011 7:47 pm

ที่เกิดภพเกิดชาติเพราะกิเลสทำให้กลับมาเวียนว่ายตายเกิด การตัดกิเลส จึงทำให้ไม่กลับมาเกิดอีก
จากวิกิ
ปฏิจสมุปบาท /ปะติดจะสะหฺมุบบาด/ (สันสกฤต:ปรตีตยสมุตปาทะ) เป็นหลักธรรมข้อหนึ่งในพุทธศาสนา อธิบายถึง การเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกัน จึงเกิดมีขึ้น

การที่ทุกข์เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัยต่อเนื่องกันมา มีองค์หรือหัวข้อ 12 ดังนี้ คือ อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปทาน ภพ ชาติ ชรามรณะ
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะสังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะอุปทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม

ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี

ตราบใดที่คิดแค่ว่าทำดีเพื่อจะไปสวรรค์ ยังไงก็ต้องกลับมาเกิดอีก เพราะเป็นไปตามกฎอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เทวดาก็มีอายุขัย หลังพ้นจากเทวดาก็ไปเกิดเป็นอย่างอื่น ถ้าได้เกิดเป็นคนก็คิดว่าทำดีเพื่อไปเกิดเป็นเทวดา หรือชาติหน้าเกิดมาสบาย ก็เกิดไม่รู้จบ จนกว่าจะหลุดพ้นคือตัดความอยาก ตัดความยึดมั่นถือมั่น.. ตัดอวิชชาไปได้
User avatar
ไร้สีไร้กลิ่น
 
Posts: 832
Joined: Tue Nov 23, 2010 1:49 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby แตงดุ๊ด » Thu Aug 18, 2011 7:59 pm

เรื่องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องของขันธ์ 5 คะ ประกอบด้วยง่ายๆคือ ร่างกาย ความรู้สึก ความจำ ความคิด และการรับรู้ มนุษย์มี 5 สิ่งนี้ทุกคน แยกไม่ได้ ต้องอยู่รวมกัน แต่ก็คนละอย่างกัน

การตายแล้วเกิดใหม่ของร่างกายอาจเห็นชัดๆไม่ได้ อาจเห็นได้ในระดับเซลล์ที่ตายแล้วสร้างใหม่ ช่างมัน เอาไว้ก่อน แต่ในอีก 4 อย่างที่เหลือสามารถเห็นได้หากมีสติมากพอจะรู้ว่า ความรู้สึกหนึ่งเกิด ความรู้สึกหนึ่งก็ดับไป แล้วเกิดขึ้นใหม่

ความทรงจำเกิดขึ้น แล้วก็หายไป ความคิดหนึ่งเกิดขึ้น ความคิดนั้นก็หายไป แล้วเกิดใหม่ ความรับรู้ทางประสาทสัมผัสหนึ่งๆเกิดขึ้น แล้วมันก้หายไป แล้วเกิดใหม่ เวียนอย่างนั้น

ที่ว่ามานั้นคือการเกิดดับของขันธ์ทั้ง 5 เอวังก็จบลงด้วยประการฉะนี้.....

ว๊าย...วันนี้มีสาระ ยุบหนอพองหนอ...
มิใส่จี
User avatar
แตงดุ๊ด
 
Posts: 645
Joined: Sat May 22, 2010 8:11 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby กรกช » Fri Aug 19, 2011 9:39 am

การระลึกชาติของ
ด.ช.ชนัย ชูมาลัยวงศ์


หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 7423 วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 ได้ลงข่าวว่า
ได้พบเด็กระลึกชาติรายใหม่ อายุเพียง 3 ขวบ หนียายออกจากบ้านไปหาครอบครัวเมื่อชาติก่อน
เผยความหลังชาติก่อนเป็นครู ถูกคนร้ายยิงตาย มีลูก 4 คน เมียเก่าและลูกได้ยินเรื่องราวถึงกับตะลึง
เพราะรู้เรื่องชาติก่อนได้ถูกต้อง เพื่อนเก่าเป็นตำรวจก็อัศจรรย์ใจ เมื่อเด็ก 3 ขวบทักทายว่า จำได้ไหม ? แล้วเล่าความหลังให้ฟัง

อ่านต่อที่นี่
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6111

เรื่องนี้น่าจะผ่านตาท่านสมาชิกกันไปบ้างแล้ว
เรื่องนี้มีคำตอบอยู่แค่ 2 ข้อ คือ

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง กับ เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันสร้างเรื่องขึ้นมา

เชิญท่านสมาชิกอ่าน และ วิเคราะห์กัน
ว่างๆผมจะเข้ามาต่อครับ
User avatar
กรกช
 
Posts: 1170
Joined: Wed Mar 11, 2009 8:15 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby google » Fri Aug 19, 2011 11:19 am

User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby annykun » Fri Aug 19, 2011 11:26 am

ผมเชื่อในกฎแห่งกรรมครับ ปัญหาทางการเมืองที่พวกเราผจญกันมาในช่วงหลายปีมานี้ คงเป็นผลกรรม จากผู้มีอำนาจทางการเมือง
รวมทั้งสภาพสังคมในอดีต ที่ปล่อยปละละเลย คนยากคนจนมากเกินไป ไม่ยอมแก้ไขปัญหาที่หมักหมมไว้ของประเทศ
เมื่อทักษิณเข้ามา ปัญหาต่างๆจึงประทุขึ้น ราวกับเป็นกรรมสนอง เป็นการชดใช้กรรมหมู่จากบาปแห่งอดีตกาล

แต่ตัวทักกี้เองก็ทำกรรมกับประเทศ และคนอื่นๆไว้มาก ผลกรรมจากการโกหก ตอแหล ที่ทำให้ความคิดของผู้คนในสังคม
บิดเบี้ยวไปหมด แม้แต่ผู้มีอำนาจทางการเมืองยุคปัจจุบัน ยังมีความคิดบิดเบี้ยว ทุกการกระทำมีความผิดพลาดมากขึ้น มากขึ้น
เรื่อยๆ จนบางทีก็ดูเหมือน จะทำผิดจะซ้ำรอย คนในอดีตที่ตนเองดูถูกเหยียดหยาม เพียงแค่กลับขั้วเปลี่ยนข้างเท่านั้นเอง

หากประเทศดำเนินไป แบบบิดเบี้ยวเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าในอนาคต จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
ผลกรรมจะต้องตอบสนอง ทักกี้และพลพรรค ในวันใดวันนึงอย่างแน่นอน

แล้วเมื่อไหร่ ประเทศไทยจะหลุดพ้นจากวังวนแห่งชะตากรรมนี้ซะทีล่ะเนี่ย? :|
ตัวข้าเป็นได้ทั้งสวรรค์ และนรก
User avatar
annykun
 
Posts: 332
Joined: Thu Jul 28, 2011 3:44 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby หรอยจัง » Fri Aug 19, 2011 11:37 am

ดูการเมืองตอนนี้ รูสึกปวดหัวมาก ไม่มีมารตฐานเอาเสือเลย เห็นแก่พวกพ้องมากกว่าประชาชน
User avatar
หรอยจัง
 
Posts: 10
Joined: Thu Aug 18, 2011 3:57 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby คนปลูกต้นไม้ » Fri Aug 19, 2011 11:42 am

เชื่อมั่นในความดี และการทำความดี ย่อมได้รับผลดีตอบแทนค่ะ อาจช้าหรือเร็วเท่านั้น

และเชื่อในคำกล่าวว่า สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ นั่นคือผลแห่งบาป-บุญค่ะ
User avatar
คนปลูกต้นไม้
 
Posts: 244
Joined: Mon Oct 04, 2010 2:50 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby ter162525 » Fri Aug 19, 2011 1:28 pm

ตะนิ่นตาญี wrote:ขออนุญาต ตะนิ่นตาญี สงสัยสักนิดหนึ่งเถอะครับ คุณter162525 ตะนิ่นตาญี สงสัยว่า ความดีของทุกคนเหมือนกันหรือไม่?

อย่างไรเรียกว่า ดี อย่างไรเรียกว่า ชั่ว ถ้าความความดีของทุกคนเหมือนกัน เหตุใดจึงไม่กลัวที่จะทำ ชั่ว?

ความดีของ ทักษิณ ความดีของ คนเสื้อแดง แตกต่างจาก เราๆท่านๆ กันหรือไม่?

เหตุใดไม่กลัวที่จะได้รับผลกรรม หรือ ผลแห่งการกระทำชั่วทั้งปวง

หากเราเชื่อกันว่า การเผาบ้าน-เผาเมือง เป็นความชั่ว?

มาถึงตรงนี้ต้องขออนุญาต คุณter162525 ออกตัวสักนิดหนึ่งเถอะครับ

ตะนิ่นตาญี ตั้งข้อสงสัย เพราะสงสัย ไม่ใช่ที่จะหลบหลู่ ความเชื่อใดๆ ของทุกๆท่านที่ปรากฏ ณ กระทู้นี้


ตะนิ่นตาญี

วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

เวลา ๑๘.๓๖ นาฬิกา


ผมจำได้คราวว่า ความดี คือสิ่งที่เราทำแล้ว มีความสุขโดยที่ไม่ไปเบียดเบียน ผู้อื่นเรียกความดี ครับ
แต่จะต้องมีศีลประกอบด้วย นะครับอย่างการคดโกงผู้อื่น เราทำเรามีความสุขแต่เป็นการเบียดเบียนผู้อื่น มันก็ไม่ใช่ความดี เป็นความชั่ว อย่างคุณโลภอยากได้นั้นนี้ แต่คุณขยันทำงานหาเงินมาด้วยความเพียรของตนเอง ไม่คดโกงผู้อื่นทรัพย์นั้นได้มาโดยชอบ อย่างนี้เรียกความดี

เราต้องแยกก่อนนะครับว่า กิเลส กับความดีความชั่วต่างกัน การทำตามกิเลสแต่ในทางที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นนั้นไม่ถ้าว่าเป็นความชั่วแต่เมื่อไหรที่เกิดการเบียดเบียนผู้อื่นอันนี้ล่ะความชั่ว แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำตามกิเลส อันนี้เรียกความดีแน่นอนครับ
ที่นี้มาถึงเรื่องทักษิณ กัน แม้วทำอะไรไว้บ้างอันนี้ไม่อยากสาธยายถ้าว่าเบียดเบียนผู้อื่นไหม ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไหม ผมว่าเห็นชัดก็ที่ใต้เพียงต้องการอำนาจของตัวเองเท่านั้น การเผาบ้านเผาเมืองนั้น
คุณ ตะนิ่นตาญี ว่ามันเบียดเบียนผู้อื่นหรือไม่ถ้าไม่แล้วผู้คนที่มีร้านค้าอยู่ที่ราชประสงค์ทำไมออกมาด่ากัน อย่างนี้เราก้เรียกความชั่วนะถูกแล้ว แต่ถ้าเรามีบ้านอยากสร้างใหม่ไม่ได้คิดหวังประกัน จุดไฟเผาไม่ได้เดือดร้อนใคร อันนี้ก็ไม่เรียกความชั่ว แต่สิ่งที่ทำให้คนเราไม่ได้เกรงกลัวความชั่วเพราะคุณธรรมเราไม่เท่ากัน อีกทั้งผลของกรรมมันมีอะไรมากกว่า ที่จะบอกว่าทำอย่างนี้จะต้องเป็นแบบนี้ มันมีส่วนประกอบเยอะมาก จนพระพุทธเจ้าต้องบอกมันเป็นอจิณไตยคืออธิบายชี้ชัดๆแบบ 1+1 ได้ 2 ไปเลยไม่ได้บ้างคนทำกรรมชั่วแต่เขาเคยทำกรรมดีมากๆ มากก่อน กรรมดีที่มีอำนาจมากกว่า ยังให้ผล กรรมชั่วเลยไม่ตามสนองยังคงได้ดิบได้ดีอยู่ก็หลงคิดว่านั้นคือความดี ทำให้คนบ้างคนไม่เกรงกลัว บางคนทำดีมาตลอด แต่กรรมดียังไม่ให้ผลแต่กรรมชั่วที่เคยทำมาแม้เพียงเล็กน้อยให้ผลก่อนก็หลงนึกน้อยใจในการทำความดีก็มี ดังนั้นเมื่อมันเป็นเรื่องที่เห็นได้ยาก คนบ้างคนเลยไม่มีความเกรงกลัวบาปกรรมที่ทำไว้ แต่สุดท้ายกรรมที่ปลูกต้องให้ผลอยู่ดี
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป
User avatar
ter162525
 
Posts: 3030
Joined: Tue Mar 23, 2010 3:23 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby สุดที่รัก » Fri Aug 19, 2011 2:28 pm

คุณเคยคลั่งไคล้ในกระแส ..เมพลิ้มฟีเวอร์.. ป่วนชาติบ้านเมืองคุณคือสหายผม คริ คริ
User avatar
สุดที่รัก
 
Posts: 302
Joined: Wed Sep 01, 2010 2:29 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby pulom02 » Fri Aug 19, 2011 2:37 pm

ไปถามคนนี้สิ :twisted: น้องจ่อย วัย10ขวบ ตายแล้วฟื้น :evil: :twisted: :evil: :twisted: :evil: :twisted:

http://news.sanook.com/1048765-%E0%B8%9 ... B8%99.html
แดง ที่ทำชั่วแล้วถูกจับได้ เรียก แดงเทียม
แดง ที่ถูกพวกเดียวกันฆ่าแล้วเอาศพไปแห่ เรียก แดงแท้
แดง แกนนำที่ได้ตำแหน่ง เรียก แดงศักดินา
แต่แดง ในอินเทอร์เน็ต เรียก แดงแถ......5555
pulom02
 
Posts: 277
Joined: Sun Jul 31, 2011 12:40 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby กรกช » Tue Aug 30, 2011 8:13 pm

กรกช wrote:การระลึกชาติของ
ด.ช.ชนัย ชูมาลัยวงศ์


หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 7423 วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 ได้ลงข่าวว่า
ได้พบเด็กระลึกชาติรายใหม่ อายุเพียง 3 ขวบ หนียายออกจากบ้านไปหาครอบครัวเมื่อชาติก่อน
เผยความหลังชาติก่อนเป็นครู ถูกคนร้ายยิงตาย มีลูก 4 คน เมียเก่าและลูกได้ยินเรื่องราวถึงกับตะลึง
เพราะรู้เรื่องชาติก่อนได้ถูกต้อง เพื่อนเก่าเป็นตำรวจก็อัศจรรย์ใจ เมื่อเด็ก 3 ขวบทักทายว่า จำได้ไหม ? แล้วเล่าความหลังให้ฟัง

อ่านต่อที่นี่
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6111

เรื่องนี้น่าจะผ่านตาท่านสมาชิกกันไปบ้างแล้ว
เรื่องนี้มีคำตอบอยู่แค่ 2 ข้อ คือ

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง กับ เป็นการสมรู้ร่วมคิดกันสร้างเรื่องขึ้นมา

เชิญท่านสมาชิกอ่าน และ วิเคราะห์กัน
ว่างๆผมจะเข้ามาต่อครับ


ขอนุญาติดันครับ

จากกรณีนี้ ที่มีคำตอบแค่ 2 ข้อ คือ เป็นเรื่องจริง หรือ ไม่จริง
ซึ่งถ้าคิดว่าจริง ก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่ถ้าจะคิดว่าไม่จริง ก็ต้องหาเหตุผล
ผมคิดว่า มันคงเป็นเรื่องยาก ที่ชาวบ้านในชนบทหลายๆคน เมื่อสมัยเกือบ 40 ปีก่อน
จะสมรู้ร่วมคิดสร้างเรื่องโกหกตรงนี้ขึ้นมาได้อย่างแนบเนียน
แถมโกหกสร้างเรื่องไปเพื่ออะไร ก็ยังหาเหตุผลไม่เจอ

จะว่าเพื่อความโด่งดังมันก็ยังดูไม่สมเหตุ สมผล
เพราะตอนยายของ ด.ช. ชนัย ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เรื่องก็ผ่านมา 6-7 ปีแล้ว
และยายเองก็อายุถึง 79 ปีแล้ว ผมว่าคนอายุขนาดนั้นคงไม่อยากดังแล้วมั๊ง

การที่คนชนบทแก่ๆอายุถึง 79 ปี จะมานั่งพูดโกหกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์อันดับ 1 ของประเทศ มันดูไม่น่าเป็นไปได้

ต่อมาผมก็มีโอกาสได้รู้ว่า กรณีกลับชาติมาเกิด ไม่ได้มีเฉพาะเมืองไทย
แต่ต่างประเทศ ก็มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้

ปล.รับรองว่ากระทู้นี้เกี่ยวข้องกับสังคม และ การเมืองแน่นอน โปรดติดตามไปเรื่อยๆ :mrgreen:
User avatar
กรกช
 
Posts: 1170
Joined: Wed Mar 11, 2009 8:15 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby กรกช » Tue Aug 30, 2011 8:47 pm

ปัจจุบันเป็นยุควิทยาศาสตร์ หลักวิชาการต่าง ๆ
ต้องผ่านการทดสอบทางวิทยาศาสตร์เสียก่อนจึงจะเชื่อถือได้

นี่คือ รายชื่อหนังสือ ที่เขียนโดยศาสตราจารย์ฝรั่ง ที่ยืนยันว่า

“ชาติหน้ามีจริง”

1. งานวิจัยเรื่อง “ 20 ผู้กลับชาติมาเกิด”

โดย ศ.นพ. เอียน สตีเวนสัน อ่านต้นฉบับภาษาอังฤษได้ที่
http://books.google.com/books?id=vIDES6VWl1MC&hl=th

2. ชาติภพ

โดย Brian L.Weiss,M.D. มหาวิทยาลัยไมอามี่ จุไรรัตน์ อารยะกิตติพงศ์ แปล
สำนักพิมพ์มติชน 12 ถ.เทศบาลนฤมาล ประชาชื่น 1 กทม. 10900

3. ประจักษ์พยานตายแล้วเกิด

โดย ดร. บุณย์ นิลเกษ โรงพิมพ์สหมิตรออฟเซท 48 /54
ถนนพระสุเมรุ บ้านพานถม พระนคร กท.10200 พิมพ์ครั้งที่ 3

4. จิตใต้สำนึกกับการระลึกชาติ

โดย Jess Stearn “ทศยุทธ์” แปล สำนักพิมพ์เรืองบุญ
10/0 ม.7 ต.บางกระสอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

5. 25 ผู้ระลึกชาติ

โดย นที ลานโพธิ สำนักพิมพ์ธารบัวแก้ว
25/5/54 ซ.หมู่บ้านเจริญรัตน์ ถ.ประชาราษฏร์ 16 ต.ตลาดขวัญ จ.นนทบุรี

6. แว่นส่องจักรวาฬ

โดย พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ ธ.บ. โรงพิมพ์รุ่งเรืองรัตน์
47 ถ.เฟื่องนคร พระนคร กรุงเทพฯ 2502 (นายรวล รุ่งเรืองธรรม)

7. นักวิจัยไทยค้นพบ 28 ผู้กลับชาติมาเกิด

ฟังบรรยายได้ที่ : http://www.navy.mi.th/navy_admin/maolee/deadborn.php[/color]

User avatar
กรกช
 
Posts: 1170
Joined: Wed Mar 11, 2009 8:15 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby PeterPan » Tue Aug 30, 2011 10:13 pm

เชื่ออย่างแน่นอน ถ้าหากไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด แล้วคนทำบาปทำกรรมก็กลายเป็นโชคดีไปซิครับ พอชาติภพนี้ทำบาปก่อเวรก่อกรรมเอาไว้ ก็เหมือนว่าจบสิ้นกันไป ไม่รู้ว่าได้ไปรับเวรรับกรรมที่ไหน แต่ถ้าเกิดใหม่ แน่นอนว่าผลกรรมที่เคยได้กระทำมาแต่ชาติก่อนๆ ต้องย้อนมาถึงไม่ชาติใดก็ชาติภพหนึ่ง คนเราจึงได้เกิดมาแตกต่างกันตั้งแต่เกิด ๆ เป็นชาย เป็นหญิง เป็นเพศที่สาม
เกิดมาแล้วนิสัยใจคอเป็นอย่างไรก็แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลอีก และขึ้นอยู่กับว่าครอบครัวเป็นอย่างไร พ่อแม่เป็นอย่างไร เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนมาแบบไหนอีก เกิดมาในประเทศพื้นที่แหล่งใดอีก
บางคนก็ไปเกิดในปท.ที่มีอาณาเขตใหญ่ บางคนก็ไปเกิดในปท.เล็ก
บางคนก็เกิดในเขตแอฟริกา , ทะเลทราย, หรือบางคนอย่างคนไทยส่วนใหญ่ ได้เกิดบนแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีคนนับถือมากที่สุดจนเป็นศาสนาหลักประจำชาติไทย ได้เกิดมาใต้ร่มโพธิสมภารได้พึ่งพระบารมีของในหลวง มีพระประมุขที่ทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาพระกรุณาธิคุณ ช่วยเหลือปวงราษฎร์อย่างไม่ทรงย่อท้อ หรือเหน็ดเหนื่อยเลย ตลอดมาตั้งแต่ทรงครองราชย์จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นบุญของคนไทยที่ได้เกิดบนแผ่นดินทีดีพร้อมทุกอย่างเช่นนี้ ก็แล้วแต่บุญกรรมที่กระทำไว้ ไม่งั้นต้องไปเกิดในดินแดนที่มีการรบพุ่งฆ่าฟันกันเพียงแค่ต่างเผ่า ต่างพันธุ์ ลืมกระทั่งว่าเป็นชาติเดียวกัน

ส่วนคนที่ยังก่อกรรม คิดก่อการร้าย ฆ่าฟันเพื่อนร่วมชาติ ก่อการจลาจลเผาบ้านเผาเมือง ก็ให้เลิกคิดสิ่งร้ายๆ หันมาทำดี เพื่อชาติบ้านเมืองของท่านเอง ตัวท่านก็อยู่บนแผ่นดินนี้ทำไมจึงคิดทำสิ่งไม่ดี ชั่วร้าย ให้เกิดแก่บ้านเมืองที่มีแต่สิ่งดีๆ หวังให้มันพินาศย่อยยับลงไปเพื่อประโยชน์อันใด หรือเพื่อผลประโยชน์เศษเดนเพียงนิด ค่าจ้างเพียงหน่อย เลยทำให้ลืมความเป็นคนเป็นทรัพยากรบุคคลที่ดีของชาติ ลืมบุญคุณแผ่นดินนี้ได้อย่างไร ลองนึกทบทวนและเลิกการกระทำผิดๆนั้นเสีย ไม่มีอะไรที่สายเกินแก้ พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครองแก่ผู้กระทำดี ผู้ที่มีธรรม ๆย่อมคุ้มครอง
"การมีสิทธิและเสรีภาพนั้นเป็นสิ่งดี แต่ควรระมัดระวังว่าการใช้สิทธิและเสรีภาพนั้น ได้ไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นหรือไม่" พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
PeterPan
Moderator
 
Posts: 765
Joined: Tue Nov 30, 2010 6:47 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby ไร้สีไร้กลิ่น » Wed Aug 31, 2011 9:15 am

เรื่องเวรกรรมไม่ได้มีแค่กรรมส่งผลเมื่อเกิดในชาติต่อไป แต่กรรมส่งผลให้ไปนรก ไปสวรรค์ เกิดเป็นเปรต เป็นสัตว์ หรือถ้ากรรมทันตาก็เห็นในชาตินั้นเลย

- พอดีไม่มีความรู้เรื่องศาสนาอื่นว่ามีความเชื่อเรื่องภพชาติหรือไม่ :?:
- ศาสนาที่เชื่อเรื่องพระเจ้าก็มองว่าทำดีไปอยู่กับพระเจ้า ทำไม่ดีก็ตกนรก แต่ถ้าเกิดชาติเดียวแล้วทำผิดจะตกนรกตลอดไปหรือเปล่า :?:
- แล้วคนที่ทำดีแต่ไม่ได้นับถือพระเจ้าจะไม่ได้ไปสวรรค์ ส่วนคนทำไม่ดีแต่นับถือพระเจ้าและเข้าพิธีล้างบาปถึงจะได้ไปสวรรค์ เหรอครับ พระเจ้าจะไม่เมตตาผู้ที่ทำความดีเพียงแต่ไม่นับถือพระเจ้าเท่านั้นหรือ อย่างพวกที่บูชายัญ ฆ่าสัตว์มาบูชาเทพเจ้า แบบนี้ก็ได้ไปสวรรค์เหรอ แล้วนับถือพระเจ้าองค์อื่นก็ตกนรกเหรอครับ :?:

แต่สำหรับตัวผมเชื่อว่า ไม่ว่าศาสนาอะไร ถ้าทำดีก็ย่อมได้ดี ทำดีย่อมได้ไปสวรรค์นะ
ปัญหาคือบางทีเราทำผิดแต่คิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกนี่แหละลำบากเพราะจะตกนรกไม่รู้ตัว อย่างที่เคยอ่าน คนที่บวชเป็นพระทำผิดศีลก็ไม่ได้ไปสวรรค์ บางคนบวชพระรักษาศีลครบแต่ไม่รู้จักภาวนา อยู่ไปวันๆ บริโภคปัจจัยจากที่คนอื่นทำบุณแต่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของสงฆ์เต็มที่ ก็ไปเกิดเป็นเปรตได้ นับประสาอะไรกับนักการเมืองที่โกงกิน
ส่วนรู้แล้วจะทำรึเปล่านี่ก็อีกเรื่อง
ผมว่าจริงไม่จริงก็ช่างเหอะ เอาเป็นว่ามาเล่าสู่กันฟังก็ละกัน (รอจขกท.มาเล่าต่อ)
เอ่อ อีกเรื่องคือตอนพระพุทธเจ้าจะบรรลุก็เจอมารผจญ พญามารไม่ต้องการให้คนหลุดพ้น ต้องการให้มีการเวียนว่ายตายเกิด ต้องใช้เวรใช้กรรม อย่างบางคนบรรลุอรหันต์ก็ทำให้เจ้ากรรมนายเวรตามไปเอาคืนไม่ได้ ก็เลยกลับมามองว่าถ้ามีเทพที่สร้างสิ่งต่างๆขึ้นมา สร้างมนุษย์ขึ้น แต่ก็สร้างให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ สร้างให้ต้องเกิดมาผจญทุกข์ แต่มนุษย์ก็บูชาผู้สร้างนั้น ทั้งที่มีทางหลุดพ้นจากวงจรนี้แต่ก็ยอมที่จะอยู่ในวงจรต่อไป แล้วการได้ไปอยู่กับผู้สร้างจะไร้ซึ่งความทุกข์ มีความสุขตลอดไปเหรอ เกิดไปอยู่แล้วทำให้ท่านไม่พอใจอีกล่ะจะเป็นยังไง :?:
User avatar
ไร้สีไร้กลิ่น
 
Posts: 832
Joined: Tue Nov 23, 2010 1:49 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby google » Wed Aug 31, 2011 10:02 am

คิดว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ครับ??
User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby phoosana » Wed Aug 31, 2011 10:17 am

อย่าไปเทียบกับศาสนาอื่นเลยครับ ทะเลาะเบาะแว้งกันเปล่า :lol:
We love fender.
User avatar
phoosana
 
Posts: 2608
Joined: Tue Jan 27, 2009 11:13 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby guxkung » Wed Aug 31, 2011 10:42 am

google wrote:คิดว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ครับ??

มนุษย์ต่างดาวถ้าจะมีก็น่าจะไปลองๆหาแถว "จานบิน" ดูนะครับ
ผมไม่รู้ ผมแมว
User avatar
guxkung
 
Posts: 989
Joined: Mon Jun 13, 2011 7:26 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby ไร้สีไร้กลิ่น » Wed Aug 31, 2011 11:54 am

ผมแค่ตั้งคำถามเพราะอยากรู้แนวคิดของศาสนาอื่นน่ะครับ พอดีไม่ได้ศึกษาเรื่องศาสนาอื่น ไม่ได้ตั้งใจจะไปจับผิดอะไรหรอกครับ ผมมองว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ได้มาถกเถียงหาข้อเท็จจริงเพราะมันพิสูจน์ได้ยาก เอาเป็นว่ามีสิ่งดีๆก็มาเล่าสู่กันฟัง ถ้าบางอย่างสอดคล้องและเป็นสิ่งที่ดีจะได้มั่นใจทำต่อไป
ว่าแต่ถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง พระเจ้าจะเป็นองค์เดียวกับโลกมนุษย์มั้ย แต่โดยส่วนตัวมองว่าจักรวาลกว้างใหญ่อาจมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่น แต่อยู่ใกล้ๆเราคงไม่มี ส่วนจะสามารถเดินทางมาโลกหรือไม่ผมว่ายากนะ ที่คิดว่ามีจับเอามนุษย์ไปทดลองก็ไม่เห็นว่าจะทดลองเรื่องอะไร หรือจะไปทำสารคดีแบบสัตว์โลกน่ารู้เหรอ
(เริ่มออกทะเล) สงสัยจะเป็นอจินไตยจริงๆ คิดไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา
User avatar
ไร้สีไร้กลิ่น
 
Posts: 832
Joined: Tue Nov 23, 2010 1:49 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby google » Wed Aug 31, 2011 11:59 am

ไร้สีไร้กลิ่น wrote:ผมแค่ตั้งคำถามเพราะอยากรู้แนวคิดของศาสนาอื่นน่ะครับ พอดีไม่ได้ศึกษาเรื่องศาสนาอื่น ไม่ได้ตั้งใจจะไปจับผิดอะไรหรอกครับ ผมมองว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ได้มาถกเถียงหาข้อเท็จจริงเพราะมันพิสูจน์ได้ยาก เอาเป็นว่ามีสิ่งดีๆก็มาเล่าสู่กันฟัง ถ้าบางอย่างสอดคล้องและเป็นสิ่งที่ดีจะได้มั่นใจทำต่อไป
ว่าแต่ถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง พระเจ้าจะเป็นองค์เดียวกับโลกมนุษย์มั้ย แต่โดยส่วนตัวมองว่าจักรวาลกว้างใหญ่อาจมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่น แต่อยู่ใกล้ๆเราคงไม่มี ส่วนจะสามารถเดินทางมาโลกหรือไม่ผมว่ายากนะ ที่คิดว่ามีจับเอามนุษย์ไปทดลองก็ไม่เห็นว่าจะทดลองเรื่องอะไร หรือจะไปทำสารคดีแบบสัตว์โลกน่ารู้เหรอ
(เริ่มออกทะเล) สงสัยจะเป็นอจินไตยจริงๆ คิดไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมา


นั่นซิครับถ้ามนุษย์ต่างดาวมีจริง...มนุษย์ต่างดาวใช้นรก สวรรค์เดียวกัยมนุษย์โลกหรือไม่??
555+
User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby ไร้สีไร้กลิ่น » Wed Aug 31, 2011 1:57 pm

ผมก็ไม่ทราบว่าพระพุทธเจ้ากล่าวถึงเรื่องโลกอื่นหรือไม่ แค่บอกว่าโลกของเรามีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ แต่ก่อนหน้านั้นหรือหลังจากนั้นจะอยู่บนโลกนี้หรือโลกอื่นก็ไม่ทราบ เรื่องสวรรค์นรกก็อธิบายแค่เฉพาะโลกนี้ แต่ก็มีนรกขุมหนึ่งที่อยู่นอกจักรวาล(http://www.larnbuddhism.com/godgram/nr/04.html มีนรกขุมพิเศษอีกขุมหนึ่งซึ่งมีนามว่า โลกันตนรก อันว่าโลกันตนรกนี้เป็นขุมยิ่งใหญ่ และประหลาดกว่าบรรดาขุมนรกทั้งหลายเพราะอยู่ภายนอกจักรวาล...)
แล้วมนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่แล้วยังไง การพ้นทุกข์ไม่ได้ไปขึ้นกับใครแต่ขึ้นกับการปฏิบัติของเราเอง
ผมว่าอย่างน้อยศาสนาพุทธก็สามารถพิสูจน์ได้ในขณะมีชีวิต เราก็ฝึกปฏิบัติภาวนา ถึงจุดหนึ่งก็คิดว่าน่าจะตอบได้ล่ะว่าจริงหรือไม่(ขึ้นกับว่าปฏิบัติได้แค่ไหนด้วย ไม่ใช่ทำไม่ถึงไหนแล้วมาบอกไม่มีอะไรก็คงไม่ใช่) การพิสูจน์ก็ไม่ได้ลงทุนมาก นั่งสมาธิ ละกิเลสตัณหา ผมว่าดีกว่ารอให้ตายแล้วถึงมาพิสูจน์ว่าสวรรค์มีจริงหรือไม่
(คนนับถือศาสนาอื่นก็ฝึกปฏิบัติภาวนาได้ไม่จำเป็นต้องท่องพุทโธ ดูลมหายใจ หรือยุบหนอพองหนอก็ได้ การนั่งสมาธิก็มีวิจัยว่ามีประโยชน์ ยกเว้นนั่งไม่ถูกหลักการเช่นเพ่งนิมิตหรือสะกดจิตตนเองซึ่งอาจวิปลาสได้)

แต่ศาสนาต่างๆล้วนสอนให้ทำดีและมีความเชื่อเรื่องสวรรค์นรกเหมือนกัน คนที่ไม่เชื่อศาสนาและมองอะไรเป็นวิทยาศาสตร์ที่ต้องสัมผัสรับรู้ได้ด้วยประสาททั้ง 5 เท่านั้นกลับมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีจริง(ผมก็หนึ่งในนั้น จนวันนึงมามองว่าสิ่งที่เราไม่เห็นก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีจริง คนที่เราเชื่อถือเช่นพ่อ แม่ ที่ท่านปฏิบัติท่านประสบมาแล้วบอกต่อ พระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ยืนยัน เรื่องพระธาตุก็มีให้ได้พบเห็นกันตามเจดีย์ต่างๆ ก็ต้องกลับมามองดูว่าจริงๆแล้วเรื่องต่างๆอาจมีอยู่แต่เราไม่เห็นเองรึเปล่า)
User avatar
ไร้สีไร้กลิ่น
 
Posts: 832
Joined: Tue Nov 23, 2010 1:49 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby google » Wed Aug 31, 2011 3:06 pm

เรื่องนี้ผมกลับมองว่าศาสนาไม่ว่าจะพุทธ คริสต์ หรือ อิสลามเป็นเรื่องของกุศโลบายครับ
ศาสนาทุกศาสนาสอนเหมือนกันหมดคือให้เป็นคนดี ทำความดี ละเว้นความชั่ว เกรงกลัวต่อบาป
ทั้งนี้เพื่อให้สังคมดำเนินไปได้อย่างเป็นปกติสุข และง่ายต่อการควบคุม ปกครอง
ผมคิดว่าปกครองคนดียังไงก็ง่ายกว่าปกครองคนที่ไม่เกรงกลัวต่อการทำชั่วแน่ๆ
User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby isa » Wed Aug 31, 2011 3:45 pm

ไม่ใช่แค่เชื่อครับ... แต่รุ้ว่าใช่

หากย่อยทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวคุณให้หมด ก็ไม่มีอะไรเหลือนอกจากพลังงาน และความว่าง
สสารนั้นไม่มีจริง เพราะเมื่อย่อยสสารลงไป สิ่งที่เรียกว่าสสารก็คือการแสดงตัวของพลังงาน
และพลังงานก็ดำเนินการไปตามกฎเกณฑ์ของมัน

กฎแห่งกรรมก็เป็นกฎพลังงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะเรียกว่าการเหนี่ยวนำก็ได้
หากศึกษาคติพุทธอย่างละเอียด ก็จะพบว่าทางพุทธแยกองคฺ์ประกอบมนุษย์ออกเป็นขันธ์ห้า
ซึ่งถ้าพูดย่อยๆก็คือกาย - และจิต ซึ่งให้ความสำคัญกับจิตมากกว่ากายด้วยซ้ำ เพราะองค์ประกอบของจิต
กินไปแล้วถึง 4 ส่วนของขันธ์ 5 กายเป็นแค่ตัวอิงอาศัยของอายตนะที่เอาไว้กระทำและรับผลของกรรม

และสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่เรียกว่าผลของกรรมนั้น ทางพุทธมองว่าเป็นกระแสของเหตุการณ์
ถ้าเป็นคนที่ปฏิบัติธรรม จะพบว่าช่วงไหนที่จิตดีๆ จะมีแต่เหตุการณ์ดีๆเข้ามาหาตัว
แต่ช่วงไหนที่แย่ๆ หรือที่เรียกว่าจิตตก ช่วงนั้นก็จะมีแต่เหตุร้ายๆเข้ามา ที่เรียกว่าผีซ้ำด้ำพลอย
ในความเป็นจริงก็คือ คนที่จิตตก หดหู่ นั้น ประสาทรับรู้จะอยู่ในวงแคบกว่าเดิมเยอะ
โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุหรืออะไรก็เยอะกว่าคนทั่วไป

ถ้าเราเป็นคนที่ความรู้สึกไว บางครั้งเวลาไปนั่งใกล้คนบางคน เราจะสัมผัสกระแสที่ออกมาจากตัวคนนั้นได้
คนดีก็จะมีกระแสเย็นๆ น่าอยู่ใกล้ บางคนก็ร้อนจนอึดอัด บางคนก็น่าสะอิดสะเอียน
ลองนึกดูภาพว่าเมื่อเอาคนจำนวนมากๆที่คุณภาพทางจิตไปแบบเดียวกันมาอยู่รวมกัน
กระแสจิตที่ออกมามันจะเป็นแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับคนกลุ่มนั้น คนอืนๆที่อยู่ในกลุ่มก็จะถูกชักนำไปในทำนองเดียวกัน
แบบเดียวกับที่เรารู้สึกเวลาไปดูคอนเสิร์ต และกระแสจิตรวมของประเทศนี่แหละที่จะเป็นตัวเหนี่ยวนำ
สิ่งดีๆหรือสิ่งร้ายๆเข้ามาหาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตของผู้นำที่เป็นตัวชี้แนวทางให้กับหมู่ชนโดยรวมในประเทศ
คนโบราณถึงได้ถือสากับเรื่องตัวผู้นำกันนักไง

และถ้าจิตคนมีแต่คนเลวทรามเยอะมากๆ มันก็จะส่งผลกระทบต่อสสารรอบตัว ซึ่งอย่างที่เรียนแล้วว่า
สสารก็แค่พลังงานรูปแบบหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นพลังงานจึงสามารถส่งผลกระทบถึงพลังงานอย่างอื่นได้
เราก็ลองมองรอบตัวแล้วกันว่าคุณภาพของคนโดยรอบตัวเรานั้น มีคนดีเหลือเปอร์เซ็นต์อยู่แค่ไหน
คนสมัยนี้บางคนชอบอ้างว่าคนสมัยก่อนก็เลวเหมือนกัน แต่บอกจริงๆว่าคนสมัยก่อนนั้น แม้แต่โจรก็ยังมีสัจจะ
แต่ปัจจุบัน คนระดับมีตำแหน่งยังกระบัดสัตย์ยิ่งกว่าโจรเสียอีก

ลองศึกษางานของคุณดังตฤณ พระธรรมคณาภรณ์ ฯลฯ ดูครับ แล้วท่านจะหนาว...ยิ่งพวกแดงที่เย้วๆอยู่ตอนนี้...ไม่อยากจะนึกภาพเลยจริงๆง..
User avatar
isa
 
Posts: 124
Joined: Mon Oct 13, 2008 9:16 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby จีรนุช » Wed Aug 31, 2011 4:22 pm

การทำอะไรก็มีผล เหมือน butterfly s effect จะช้าจะเร็ว จะออกมาในรูปเเบบไหนบ้างก็เท่านั้น เเต่ไม่ค่อยสนใจว่าใครเกิดมาเเบบบนั้นเเบบนี้เพราะอะไร มีคำฝรั่งคำนึงที่บอกว่า เราไม่ต้องมองอะไรเป็นวิทยาศาตร์ไปหมด ลองคิดว่า เรามาอยู่ตรงนี้ เพราะทำอะไรสักอย่างเท่านั้น อยู่ที่เราจะเลือกทำดีหรือไม่ดี อีกหน่อยเราก็ต้องเปลียนสภาพไปเเล้ว จักรวาลที่เราว่าใหญ่หนักหนา อาจจะเป็นเเค่เม็ดเลือดเเดงในร่างกายของสัตว์เซลเดียวบางตัวในโลกอื่นเเเค่นั้นเองก็ได้
เรื่องทำไมใครเกิดมาเเบบนั้นเเบบนี้ ออกจะเกินความรู้ของคนในยุคสมัยที่ยังกล้าเผาบ้านเผาเมืองตัวเองไปหน่อย พระเจ้าควรจะมีมากกว่า 1 รูปเเบบ นรกสวรรค์ก็มี มากกว่า 1 รูปเเบบ ตามสายตาของคนที่มอง ถึงจะมองในสิ่งเดียวกัน เพราะฉะนั้นบางทีก็ไม่ต้องงงว่าทำไมพวกโจรถ่อยมันถึงเผาบ้านเผาเมืองได้หน้าตาเฉย มันคงถูกโปรเเกรมมาให้เลวโดยที่คิดว่ามันกำลังทำดีอะนะ
User avatar
จีรนุช
 
Posts: 5689
Joined: Sun Nov 30, 2008 7:34 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby big boss » Wed Aug 31, 2011 5:02 pm

google wrote:คิดว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ครับ??


คิดว่ามีจริงครับ เพราะคิดตามเหตุและผลแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่โลกจะเป็นดาวดวงเดียวในเอกภพ ที่มีสิงมีชีวิตที่มีสติปัญญาอาศัยอยู่

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่ภายใต้กฏแห่งเอกภพเหมือนกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอยู่ดาวดวงไหน ซึ่งอาจจะเป็นกฏแห่งกรรมหรือกฏอื่นๆอะไรก็ตามที่เราไม่มีวันรู้

ผมเชื่ออย่างนั้นนะ
User avatar
big boss
 
Posts: 146
Joined: Mon Jul 04, 2011 9:20 am

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby Huligan » Thu Sep 01, 2011 12:33 am

Bookmarks wrote:ไม่เชื่อครับ เรื่องบาปกรรมก็ไม่เชื่อ เพราะยังไม่เห็นไอ้แม้วมันติดคุก


คิดคล้ายๆกันครับ...
ไม่ถึงกับปฏิเสธ แต่รอการพิสูจน์หลายๆเคสอยู่ โดยเฉพาะพวกแกนนำควายแดงทุกตัว :ugeek:
*แล้วการที่ผมยังไม่เชื่อ ก็ไม่ได้หมายความว่าผมต้องไปกระทำการแบบเดียวกับพวกควายแดงสักหน่อย!
ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้

การตัดหางลูกอ๊อด ไม่ได้ทำให้ลูกอ๊อดกลายเป็นกบได้!!!
User avatar
Huligan
 
Posts: 1203
Joined: Mon Jan 12, 2009 3:33 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby Huligan » Thu Sep 01, 2011 12:43 pm

ขออภัยโพสซ้ำ... :?
Last edited by Huligan on Thu Sep 01, 2011 12:54 pm, edited 1 time in total.
ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้

การตัดหางลูกอ๊อด ไม่ได้ทำให้ลูกอ๊อดกลายเป็นกบได้!!!
User avatar
Huligan
 
Posts: 1203
Joined: Mon Jan 12, 2009 3:33 pm

Re: เวียนว่ายตายเกิด

Postby Huligan » Thu Sep 01, 2011 12:53 pm

google wrote:กฎแห่งกรรม
เชื่อว่ามี ในกรณีที่ว่า
ถ้าคุณกินนมบูด ผลกรรมที่คุณจะได้รับคือ คุณท้องเสีย

แต่ไม่เชื่อว่ามีในกรณีที่ว่า
แม่ค้าทุบหัวปลา ผลกรรมที่ได้รับคือ ปวดหัวอย่างหนัก
หรือ
ทำบุญชาตินี้เยอะๆชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเกิดมาลำบาก


ส่วนการเวียนว่ายตายเกิด
เชื่อในเรื่องของสสาร
คนเราตายธาตุในร่างกายอาจจะไปอยู่ในอะไรก็ได้
เช่นอยู่ในต้นไม้ อยู่ในนก อยู่ในกระสอบปุ๋ย ไม่มีใครรู้
แต่ที่แน่ๆไม่หายไปจากโลก เว้นแต่จะไปอยู่ในพวกขยะอวกาศ

ในความคิดผมพวกกฎแห่งกรรม ชาตินี้ชาติหน้า ที่มันน่ากลัวๆ
ทุกอย่างล้วนแต่เป็นกุศโลบายให้คนไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเท่านั้นเอง


มีมุมมองคล้ายๆกันครับ...
แล้วไอ่เรื่องสัตว์มีศีล ไม่มีศีลน่ะ? งั้นถ้าผมกินวัวหรือไก่ก็บาปกว่ากินหมาอ่ะดิ เพราะหมาแมวมันเป็นสัตว์ผู้ล่า

*ผมปฏิบัติตัวตามกฏหมายทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะกลัวเวรกรรมตามสนองในเชิงลึกอะไรแบบนั้น
แค่ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมมีศักดิ์ศรีในชีวิต ก็เท่านั้นเอง แล้วอีกอย่างผมยังไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องทำผิดศีีล
แต่ถ้าวันใดผมรู้สึกว่า การรักษาศีล หรือรักษากฎหมาย อาจนำมาซึ่งความเสียหายที่รุนแรงกว่า(ในเชิงประจักษ์) เมื่อนั้นผมก็พร้อมละเมิดศีลธรรมได้ทุกข้อ
เช่น สมมติถ้ามีควายแดงจะมาฆ่าผม ผมก็ต้องชิงลงมือฆ่ามันก่อนเท่านั้นเอง โดยไม่จำเป็นต้องแคร์ผลที่ตามมาภายหลังให้มากนัก ถ้ามี ตร.จะจับผมไปสอบสวน ผมก็คงจะยอมให้จับโดยดี
แต่ผมจะไม่ขออโหสิกรรมจากควายที่ผมฆ่าไปกับมือเป็นอันขาด :twisted:
ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้

การตัดหางลูกอ๊อด ไม่ได้ทำให้ลูกอ๊อดกลายเป็นกบได้!!!
User avatar
Huligan
 
Posts: 1203
Joined: Mon Jan 12, 2009 3:33 pm

PreviousNext

Return to ห้องพัก



cron