ต้องคนมีวิสัยทัศน์อย่างไอ้โกร่งครับ ถึงจะเข้าใจท่านธีรชัย ..
'โกร่ง'อัดแบงก์ชาติยับหนุนตั้งกองทุนมั่งคั่งโดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"วีระพงษ์"อัดแบงก์ชาติยับ ทำประเทศเสียหาย! หนุนตั้งกองทุนมั่งคั่ง บริการเงินทุนสำรองฯ แนะปรับโครงสร้างรายงานตรงรมว.คลัง
ดร.วีระพงษ์ รามางกูร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Hard Topic ในหัวข้อ "วิเคราะเศรษฐกิจการเมืองไทย" ทางสถานี Money Chanel วานนี้ (7 ก.ย.) ว่า เขาเห็นด้วยกับแนวคิดการจัดตั้งกองทุนมั่งคั่งของรัฐบาล และเห็นด้วยกับการบ้าน 4 ข้อที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง มอบให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปศึกษาและหาแนวทางแก้ไข เพราะต้องยอมรับว่า ที่่ผานมาธปท.โยนภาระให้กับประชาชน ผู้เสียภาษีเป็นอย่างมาก จากการบริหารงานที่ผิดพลาดของธปท. การเข้าไปโอบอุ้มสถาบันการเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟืื้นฟูฯ) ซึ่งสร้างภาระหนี้มากมายให้กับประเทศ
"ที่ผ่านมาแบงก์ชาติสร้างวิกฤติมาเป็นระยะๆ ที่จริงเราไว้ใจแบงก์ชาติไม่ได้"
เขายกตัวอย่างแนวทางการจัดตังกองทุนมั่งคั่งว่า รัฐบาลอาจจัดตั้งกองทุนมั่งคั่งขึ้นมา โดยขายพันธบัตร (บอนด์) ให้กับธปท. แทนที่ธปท.จะเอาเงินที่มีอยู่ไปซือพันธบัตรของสหรัฐ ยุโรป หรือเยอรมันนี ที่ขณะนี้ก็มีปัญหาเศรษฐกิจและมีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องไปแก้กฎหมาย ให้สามารถทำได้ ธปท.ก็จะกลายเป็นเจ้าของพันธบัตร รูปแบบการบริหารก็อาจขายต่อให้กับธนาคารพาณิชย์ ธปท.ก็จะทำหน้าที่คล้ายกับโบรกเกอร์
ส่วนความเสี่ยงของกองทุนมั่งคั่ง ดร.วีระพงษ์ กล่าวว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจดีกองทุนมั่งคั่งในหลายประเทศก็มีกำไร แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวก็พบว่าหลายกองทุนก็ขาดทุนเช่นกัน แต่เขาก็เชื่อว่าน่าจะขาดทุนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับปล่อยให้ธปท.เป็นผู้บริหาร และที่ผ่านมาผู้ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ล้วนมาจากธปท. ไม่ได้เกิดจากกระทรวงการคลัง
นอกจากนี้ เขายังเห็นว่า แบงก์ชาติควรแยกหน่วยงานกำกับดูแล ฝ่ายตรวจสอบ และบริหารเงินทุนสำรองออกจากกัน เพราะถือว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งที่ผ่านมาธปท.ชอบว่าคนอื่น แต่ธปท.กลับมีโครงสร้างการทำงานที่ Conflict of interest เสียเอง
เขาเสนอแนะว่า ธปท.ควรรายงานตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรก็สามารถชี้แจงต่อสภาได้
ส่วนมุมมองเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธปท. ดร.วีระพงษ์ ให้ความเห็นว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการใช้นโยบายการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation targeting) และมองว่า ธปท.ผิดมาตั้งแต่ต้นที่ใช้เป็นตัวกำหนดนโยบายดอกเบี้ย เพราะ "เงินเฟ้อ"ที่เกิดขึ้น มาจากราคาสินค้า นำเข้า-ส่งออก และราคาน้ำมัน ไม่เกี่ยวกับดอกเบี้ย
"การขึ้นดอกเบี้ยทำให้เศรษฐกิจไม่ขยายตัว"
ส่วนการที่หลายฝ่ายมองว่านายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แทรกแซงการทำงานของธปท. อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความเห็นว่า ไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธปท. พร้อมกลับถามย้อนกลับว่า นายธีระชัยเป็นนักการเมืองที่ไหน
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20110907/408359