บก.ลายจุด wrote:ถึงคุณ jerasak
..
ต่อกรณี ม.112 ผมเห็นว่าในทางหลักการ สิ่งนี้ควรปรับเปลี่ยน กฎหมายนี้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพวกที่อ้างความจงรักภักดี หรือแม้แต่คนในเวบนี้ ที่ชอบมาขู่ฟอด ๆ ว่า หมิ่นฯ กฎหมายนี้กลายเป็น มีด หอก ให้กับพวกคณะรัฐประหาร นักการเมือง และ พวกอนุรักษ์นิยม ใช้ทิ่มแทงคนอื่น อย่างไม่ยุติธรรม
..
ผมเคยนอนในคุก แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ผมเข้าใจดีว่า ชีวิตในนั้นมันแย่ขนาดไหน
คนไม่ควรเข้าไปอยู่ในนั้น หากเขาไม่ได้กระทำความผิด แต่เมื่อกฎหมายระบุความผิด ทั้ง ๆ ที่กฎหมายนั้นไม่อยู่บนฐานที่พึงจะเป็น ผมเห็นว่า เราควรต่อสู้ยกเลิกกฎหมายนั้น
แต่ไม่ใช่ว่า การหมิ่นสถาบัน จะไม่ติดคุก หากพวกเราเชื่อว่า สถาบันฯนั้นได้กระทำสิ่งที่ดี ไว้มากมาย จนประชาชนเคารพนับถือ และ เชื่อมั่น การที่มีใครใส่ร้ายสถาบันฯ พวกเขาก็ต้องติดคุกหลายปี ด้วยใช้กฎหมายเช่นเดียวกับสามัญชน
..
http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp ... 1230550007
มาตรา 133
ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 134
ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายผู้แทนรัฐต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาสู่พระราชสำนัก ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 135
ผู้ใดกระทำการ ใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใด อันมีความหมายถึงรัฐต่างประเทศซึ่งมีสัมพันธไมตรี เพื่อเหยียดหยามรัฐนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บก.ลายจุด wrote:ถึงคุณ jerasak
คำว่าความเสมอภาค น่าจะมีรากฐานมาจากสิ่งที่เรียกว่า "ความยุติธรรม"
และความยุติธรรม พื้นฐานมาจากหลักของธรรมชาติ
ทำไม โจร ที่ปล้นผลผลิตชาวบ้านถึงไม่ได้รับการยอมรับในทางสากล
ก็เพราะว่า มันไม่ยุติธรรม ที่ชาวบ้านทำการผลิต แต่โจรปล้นการผลิต
เมื่อโจรมาปล้น ชาวบ้านก็รวมตัวกัน เพื่อสร้างกลไกปราบโจร
แต่ชาวบ้านไม่ทำตัวแบบโจร ไปปล้นคนอื่น ก็เพราะว่า เขาถือว่า ชาวบ้านคนอื่นก็คนเหมือนกัน จะไปปล้นมาได้อย่างไร
เอาล่ะ แต่ยังไง บ้านเมือง หรือ สังคม ก็มีโจร มีการปล้น จนถึงทุกวันนี้
ถ้าหลักการว่า "คนเท่ากับคน" ไม่ใช่หลักการทางธรรมชาติ ผมไม่เชื่อว่าหลักการดังกล่าจะเติบโต และทลายการกดขี่มาได้ถึงทุกวันนี้
และโลกกำลังใช้หลักการนี้สร้างความเสมอภาคในสังคม แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกมาก
ผมไม่ได้คิดว่า แนวคิดนี้เฟ้อฝัน ยูโทเปีย แต่โครตจะ Basic
แต่แน่นอนว่า กลุ่มคนในสังคมย่อมมองเห็น หรือ พยายามสร้างการมองเห็นให้แตกต่างกันออกไป ตามพื้นฐานและเหตุผลที่ต่างกันไป
ว่ากันแบบตรง ๆ ผมไม่เชื่อหรอกว่า คุณ Jerasak จะไม่ยอมรับความเสมอภาคของคนในสังคม
แม้เราแตกต่างกันอุดมการณ์ทางการเมืองในบางแง่มุม แต่ผมเชื่อว่าเราคล้ายกันในหลายเรื่อง โดยเฉพาะพื้นฐานความคิดที่เรียกว่า "ความดีงาม"
ผมสัมผัสสิ่งนั้นได้ในตัวคุณครับ
แต่ที่คุณพยายามอธิบายฉีกออกมา ทั้ง ๆ ที่ดูฝืน ๆ ก็เพราะว่า คุณต้องการป้องกันเรื่องที่อาจไปเชื่อมโยงกับ ม.112
เอาถึงที่สุด ผมก็ไม่ได้แน่ใจว่า คุณมีฐานคิดเกี่ยวกับสถาบันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลักการของสถาบันฯ หรือ ตัวบุคคล ซึ่งทุกวันนี้ ก็ยังเป็นสิ่งที่สงสัยกันอยู่ว่า คนไทยนับถือสถาบัน หรือ นับถือตัวบุคคล
หากคุณจะติดตามข้อเขียนของผม ผมไม่เคยแตะไปที่ตัวบุคคลเลย ซึ่งคุณไม่รู้ว่าผมคิดยังไง
ผมเป็นอิสระและแยกแยะออกระหว่างสิ่งที่เป็นโครงสร้าง หลักการ และ บุคคล ผมฝึกฝนและเรียนรู้จากโลกที่เป็นจริง ไม่ใช่กอดตำราอย่างที่ลุงแคนแกชอบแซวผมบ่อย ๆ
ต่อกรณี ม.112 ผมเห็นว่าในทางหลักการ สิ่งนี้ควรปรับเปลี่ยน กฎหมายนี้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพวกที่อ้างความจงรักภักดี หรือแม้แต่คนในเวบนี้ ที่ชอบมาขู่ฟอด ๆ ว่า หมิ่นฯ กฎหมายนี้กลายเป็น มีด หอก ให้กับพวกคณะรัฐประหาร นักการเมือง และ พวกอนุรักษ์นิยม ใช้ทิ่มแทงคนอื่น อย่างไม่ยุติธรรม
ผมเคยนอนในคุก แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ผมเข้าใจดีว่า ชีวิตในนั้นมันแย่ขนาดไหน
คนไม่ควรเข้าไปอยู่ในนั้น หากเขาไม่ได้กระทำความผิด แต่เมื่อกฎหมายระบุความผิด ทั้ง ๆ ที่กฎหมายนั้นไม่อยู่บนฐานที่พึงจะเป็น ผมเห็นว่า เราควรต่อสู้ยกเลิกกฎหมายนั้น
แต่ไม่ใช่ว่า การหมิ่นสถาบัน จะไม่ติดคุก หากพวกเราเชื่อว่า สถาบันฯนั้นได้กระทำสิ่งที่ดี ไว้มากมาย จนประชาชนเคารพนับถือ และ เชื่อมั่น การที่มีใครใส่ร้ายสถาบันฯ พวกเขาก็ต้องติดคุกหลายปี ด้วยใช้กฎหมายเช่นเดียวกับสามัญชน อย่าลืมว่า แม้แต่สมัคร ก็กำลังจะโดนข้อหาติดคุกเพราะหมิ่นประมาท และนี่คือความสง่างามที่คนที่จงรักภักดีควรสนับสนุนไปแนวทางนี้ ไม่ใช่ให้มีกฎหมายพิเศษแล้วปล่อยให้พวกขวาอนุรักษ์เอาไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ทุกคนมีที่ยืนบนความเสมอกัน
เมื่อทุกคนเสมอกัน เราก็จะระมัดระวังกันมากขึ้น อดทนกันมากขึ้น รักกันมากขึ้น
สันติภาพที่คุณ jerasak อยากเห็นก็จะเกิดขึ้น เมื่อศักดิ์ศรีของทุกคน อยู่ร่วมกันในแนวระนาบ
Unnamable wrote:http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp ... 1230550007
มาตรา 133
ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 134
ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายผู้แทนรัฐต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาสู่พระราชสำนัก ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 135
ผู้ใดกระทำการ ใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใด อันมีความหมายถึงรัฐต่างประเทศซึ่งมีสัมพันธไมตรี เพื่อเหยียดหยามรัฐนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
คุณกำลังสนทนาเรื่องนี้ บนบอร์ดนี้ เพื่อจุดประสงค์อันใด?
บก.ลายจุด wrote:คุณกำลังสนทนาเรื่องนี้ บนบอร์ดนี้ เพื่อจุดประสงค์อันใด?
ผมไม่ได้เป็นคนจุดประเด็นนี้ แต่เป็นประเด็นโต้เถียงระหว่างคุณ jerasak และ อ.สมศักดิ์ เรื่องความโปร่งใส และ การตรวจสอบ
คำว่า "ความเท่าเทียมไม่มีจริง" คนที่เปิดประเด็นคือคุณ jerasak เพราะเขาประกาศเป็นความคิดหลักในการต่อสู้ทางความคิดกับเรื่องการตรวจสอบและความโปร่งใส
เวลาผมได้ยินประโยคนี้ มันก็คล้าย ๆ กับเรื่อง "ทฤษฏีปลาทะเล" ผมทนไม่ได้หรอกครับ ที่จะนิ่งเฉยต่อการเผชิญหน้ากับความคิดพวกนี้
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นหลักการและสะท้อนรากฐานทางความคิด อย่าคิดว่า เรื่องความเท่าเทียมกัน หรือ คนเท่ากับคน มันจะเกี่ยวแค่เรื่อง ม.112 แต่มันจะไปเกี่ยวกับรูปธรรมอีกจำนวนมาก
เวลาผมถกเถียงเรืองพวกนี้ ก็ขอความกรุณาผู้มีสติปัญญา อย่ากล่าวหาผมว่าผมจ้องล้มล้างสถาบัน เพราะมันไม่แฟร์
ถ้าจะให้ครบก็ต้องเอาบุคคลทั่วไปมาเทียบด้วยครับjerasak wrote:Unnamable wrote:http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp ... 1230550007
มาตรา 133
ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 134
ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายผู้แทนรัฐต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาสู่พระราชสำนัก ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 135
ผู้ใดกระทำการ ใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใด อันมีความหมายถึงรัฐต่างประเทศซึ่งมีสัมพันธไมตรี เพื่อเหยียดหยามรัฐนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดูตามลิงค์คุณ Unnamable แล้วกว่าจะ "เท่าเทียม" คงต้องแก้กฎหมายอีกเยอะแยะ![]()
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 136
ผู้ใดดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 198
ผู้ใดดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจาณาหรือ
พิพากษาของศาล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
---
พระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕
มาตรา ๔๔ ทวิ
ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย สมเด็จพระสังฆราช ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๔ ตรี
ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแ ตกแยก ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สมศักดิ์ เจียม wrote:ข้างล่างนี้ คือ "ข้อมูลเพิ่มเติม" ทีเ่ขียนอยู่ในกระทู้เดียวกันนี้ ที่ ฟดก.
ผมเพิ่งกลับมาเห็นบรรดา reply ของ สมาชิก ทีนี่
อืม ยังโง่ และ ไร้ความสามารถในการตอบโต้ด้วยเหตุผล ด้วยข้อมูลเหมือนเดิมจริงๆ
เพิ่มเติมข้อมูล:
เมื่อคุณ ชนิดา ชิตบัณฑิตย์ นำเสนอ วพ.ของเธอ ("โครงการพระราชดำริ" ทีได้ วพ.ดีเด่น) บังเอิญผมได้ไปนั่งฟังอยู่ด้วย
คุณชนิดา ได้ไปทำ filed work ในพื้นที่ โครงการตามพระราชดำริ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง (โครงการที่จัดให้ชาวนา ทำนาแบบใหม่) ทางภาคเหนือ ไ้ด้ไปสัมภาษณ์ชาวบ่านที่เข้าร่วมโครงการ เจ้าหน้าที่โครงการ ฯลฯ
ผมก็ถามว่า ในบรรดาผู้เข้าร่วมโครงการ และเจ้าหน้าที่ ที่สัมภาษณ์ มีใครสะท้อนออกมาในทาง negative บ้างหรือไม่ ฯลฯ
คุณชนิดา ตอบทันทีทำนองนี้ว่า ไม่มีใครวิจารณ์โครงการพระราชดำริ, โครงการฯวิจารณ์ไม่ได้
ใครที่ได้อ่านบทความเกี่ยวกับ สำนักงานทรัพย์สินฯ ของผม ที่ตีพิมพ์ในฟ้าเดียวกัน คงจะเห็นว่า
ใช้เวลา 30-40 ปี กว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา จะลงมติในทางหลักการว่า "สำนักงาน" เป็น "หน่วยงานของรัฐ" เพื่อจะ "เปิดทาง" ให้ ผู้ตรวจการรัฐสภา ได้เข้าไป "ตรวจสอบ" ได้ (เฉพาะกรณี) มิหนำซ้ำ ในมติดังกล่าวของ กฤษฎีกา ยังต้องกำชับไว้ด้วยว่า "ให้คำนึงถึง มาตรา 8 ใน รัฐธรรมนูญ ทีว่า "องค์พระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ..."
แต่การ "ตรวจสอบ" ดังกล่าว (ดังที่ผมแสดงไว้) ทำอย่างชนิด ผิวเผินเสียจน ถ้าใช้บรรทัดฐาน accountability ที่เข้าใจกันในโลกอารยะ จะกลายเป็นเรื่องโจ๊กไป (คือ จนท.ของ ผู้ตรวจการรัฐสภา ทำหน้งสือไป"เรียนสอบถาม" จนท. สำนักงานทรัพย์สิน จนท.สำนักงานทรัพย์สิน ก็ทำหนังสือชี้แจงมา .. จบ
(อันนี้ไม่ต้องพูดถึงระดับอื่น เช่น งบประมาณ รายรับรายจ่าย ซึี่งล้วนเป็นความลับ การบริหารงานอื่นๆ ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ จริงๆแล้ว ดังที่กล่าวในบทความนั้น "ข่าวลือ" ภายใน สนง.ในทางไม่ดี ไม่ใช่ไม่มี แต่ไม่มีใครกล้าแตะ หรือ แตะได้)
bmp wrote:ดู แต่ละ กระทู้ตอบ ก็รู้.. ว่า เสรีไทย เป็นอย่างนี้!!!...พูดโดนใจดำ แล้วเลือดขึ้นหน้า
คนมาเขาเริ่มโพสด้วยเหตุผล! เป็นที่ตั้ง ... แต่คนตอบ ตอบด้วยอารมร์! เป็นที่ตั้ง ด่าพ่อ ล่อแม่ไว้ก่อน
คนตอบส่วนมาก จะมาแนวด่าเอาสะใจ เอาความชอบของตนเป็นที่ตั้ง และอารมร์เป็นที่ตั้ง จนลืมเหตุผล และเนื้อหาที่จะแย้ง
สุดท้ายแล้ว ก็ด่าทอ เพียงแค่สะใจ ให้เสียๆหายๆ
พอถกสู้ไม่ได้ ก็พาล พาลขู่โน่นขู่นี้ จะขุดเบื้องหลัง มาบ้าง จะเล่นหลังบ้านบ้าง ละครไทย น้ำเน่า เดิมๆ เหมือนเดิมทุกอย่าง... ไม่ต่างจาก แปะลิ้ม
ตลาดสด
ตลาดสด
![]()
![]()
bmp wrote:ดู แต่ละ กระทู้ตอบ ก็รู้.. ว่า เสรีไทย เป็นอย่างนี้!!!...พูดโดนใจดำ แล้วเลือดขึ้นหน้า
คนมาเขาเริ่มโพสด้วยเหตุผล! เป็นที่ตั้ง ... แต่คนตอบ ตอบด้วยอารมร์! เป็นที่ตั้ง ด่าพ่อ ล่อแม่ไว้ก่อน
คนตอบส่วนมาก จะมาแนวด่าเอาสะใจ เอาความชอบของตนเป็นที่ตั้ง และอารมร์เป็นที่ตั้ง จนลืมเหตุผล และเนื้อหาที่จะแย้ง
สุดท้ายแล้ว ก็ด่าทอ เพียงแค่สะใจ ให้เสียๆหายๆ
พอถกสู้ไม่ได้ ก็พาล พาลขู่โน่นขู่นี้ จะขุดเบื้องหลัง มาบ้าง จะเล่นหลังบ้านบ้าง ละครไทย น้ำเน่า เดิมๆ เหมือนเดิมทุกอย่าง... ไม่ต่างจาก แปะลิ้ม
ตลาดสด
ตลาดสด
![]()
![]()
Huligan wrote:คนไทย916 wrote:-3- wrote:จะบอกว่า แม้แต่ บก.ลายจุด ก็เคยมาโชว์ปล่อยไก่ที่นี่แล้วด้วยครับ เช่นเดียวกับสมศักดิ์ (ไม่)เจียมฯ![]()
http://www.serithai.net/phpbb3/viewtopi ... &start=180kingkong wrote:ก็คงไม่ต่างจากมีคนมาบอกคนอื่นๆว่าพ่อคุณว่ามีเมียน้อย หรือ ด่าแม่คุณว่ามีหลายผัว นั้นแหละครับ ซึ่งอาจเป็นเรื่องจริงหรือไม่เราก็ไม่ทราบแต่ที่แน่ๆคือคุณไม่พอใจใช่ไหมครับ แต่ถ้าคุณพอใจก็จบประเด็นไปสมศักดิ์ เจียม wrote:............ประเด็นที่ผมอยากพูดมานาน คือที่ยกมานี้
ที่พวกจงรักภักดีชอบยกเรื่อง ถ้าด่า พ่อ ด่าแม่ผม ก็ต้องโกรธ เป็นธรรมดา
ดังนั้น จึงเหมือนกับกรณีห้ามวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ
คิดให้ดีๆครับ เหมือนกันอย่างไร
ก่อนอื่นเลยนะครับ ที่ว่า ด่าพ่อ ด่าแม่ ผม นี่ก็ด่ากันอยู่เป็นประจำนี่คับ ผมเฉยๆนะ
ผมแสดงให้ดูเอง "ด่าเอง" ให้ดูก็ได้ครับ
"ไอ้สมศักดิ์ ไอ้หัวหงอก ไอ้ลูกกะหรี่ แม่คุณเป็นกระหรี่ พ่อคุณเป็นสัตว์..."
Quote กี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อ สำหรับข้อความสีแดงๆนั่น![]()
![]()
samepong wrote:สมศักดิ์ เจียม wrote:ข้างล่างนี้ คือ "ข้อมูลเพิ่มเติม" ทีเ่ขียนอยู่ในกระทู้เดียวกันนี้ ที่ ฟดก.
ผมเพิ่งกลับมาเห็นบรรดา reply ของ สมาชิก ทีนี่
อืม ยังโง่ และ ไร้ความสามารถในการตอบโต้ด้วยเหตุผล ด้วยข้อมูลเหมือนเดิมจริงๆ
เพิ่มเติมข้อมูล:
เมื่อคุณ ชนิดา ชิตบัณฑิตย์ นำเสนอ วพ.ของเธอ ("โครงการพระราชดำริ" ทีได้ วพ.ดีเด่น) บังเอิญผมได้ไปนั่งฟังอยู่ด้วย
คุณชนิดา ได้ไปทำ filed work ในพื้นที่ โครงการตามพระราชดำริ เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง (โครงการที่จัดให้ชาวนา ทำนาแบบใหม่) ทางภาคเหนือ ไ้ด้ไปสัมภาษณ์ชาวบ่านที่เข้าร่วมโครงการ เจ้าหน้าที่โครงการ ฯลฯ
ผมก็ถามว่า ในบรรดาผู้เข้าร่วมโครงการ และเจ้าหน้าที่ ที่สัมภาษณ์ มีใครสะท้อนออกมาในทาง negative บ้างหรือไม่ ฯลฯ
คุณชนิดา ตอบทันทีทำนองนี้ว่า ไม่มีใครวิจารณ์โครงการพระราชดำริ, โครงการฯวิจารณ์ไม่ได้
..............
ใครที่ได้อ่านบทความเกี่ยวกับ สำนักงานทรัพย์สินฯ ของผม ที่ตีพิมพ์ในฟ้าเดียวกัน คงจะเห็นว่า
ใช้เวลา 30-40 ปี กว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา จะลงมติในทางหลักการว่า "สำนักงาน" เป็น "หน่วยงานของรัฐ" เพื่อจะ "เปิดทาง" ให้ ผู้ตรวจการรัฐสภา ได้เข้าไป "ตรวจสอบ" ได้ (เฉพาะกรณี) มิหนำซ้ำ ในมติดังกล่าวของ กฤษฎีกา ยังต้องกำชับไว้ด้วยว่า "ให้คำนึงถึง มาตรา 8 ใน รัฐธรรมนูญ ทีว่า "องค์พระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ..."
แต่การ "ตรวจสอบ" ดังกล่าว (ดังที่ผมแสดงไว้) ทำอย่างชนิด ผิวเผินเสียจน ถ้าใช้บรรทัดฐาน accountability ที่เข้าใจกันในโลกอารยะ จะกลายเป็นเรื่องโจ๊กไป (คือ จนท.ของ ผู้ตรวจการรัฐสภา ทำหน้งสือไป"เรียนสอบถาม" จนท. สำนักงานทรัพย์สิน จนท.สำนักงานทรัพย์สิน ก็ทำหนังสือชี้แจงมา .. จบ
(อันนี้ไม่ต้องพูดถึงระดับอื่น เช่น งบประมาณ รายรับรายจ่าย ซึี่งล้วนเป็นความลับ การบริหารงานอื่นๆ ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ จริงๆแล้ว ดังที่กล่าวในบทความนั้น "ข่าวลือ" ภายใน สนง.ในทางไม่ดี ไม่ใช่ไม่มี แต่ไม่มีใครกล้าแตะ หรือ แตะได้)
คุณ จะมาดิสเครดิตเรื่องงบจัดสรรอะไรก็ตาม ผมเชื่อไม่ใฃ่ไม่เชื่อ แต่ ผมเต็มใจ ผมอยู่ในแผ่นดินนี้ อยู่บนดินที่ท่านสมมุติว่าเป้นเจ้าของผมภูมิใจ ทำไมละครับ บรรพบุรุษผม มาจากเมืองจีน เหมือนคุณ แต่ทำไม ตระกูลผมถึงสำกในมหากรุณาธิคุณ แผ่นดินนี้ ของพระองค์ ผมรำลึกและไม่คิดให้พระองค์ลงมาจากที่ๆผมวางไว้
ถาคุณไม่อยากรับความรู้สึกแบบนี้ก็โอนสัญชาติหรือยายถิ่นฐานไปได้ครับ ผมไม่ห้าม แต่ทำไมไม่ไป ไปในที่ชอบๆๆๆ ไปขุดกระดูกบรรรพยุรุษคุณมาถามว่า ที่คุณทำนะ เนรคุณหรือเปล่า
bmp wrote:ดู แต่ละ กระทู้ตอบ ก็รู้.. ว่า เสรีไทย เป็นอย่างนี้!!!...พูดโดนใจดำ แล้วเลือดขึ้นหน้า
คนมาเขาเริ่มโพสด้วยเหตุผล! เป็นที่ตั้ง ... แต่คนตอบ ตอบด้วยอารมร์! เป็นที่ตั้ง ด่าพ่อ ล่อแม่ไว้ก่อน
คนตอบส่วนมาก จะมาแนวด่าเอาสะใจ เอาความชอบของตนเป็นที่ตั้ง และอารมร์เป็นที่ตั้ง จนลืมเหตุผล และเนื้อหาที่จะแย้ง
สุดท้ายแล้ว ก็ด่าทอ เพียงแค่สะใจ ให้เสียๆหายๆ
พอถกสู้ไม่ได้ ก็พาล พาลขู่โน่นขู่นี้ จะขุดเบื้องหลัง มาบ้าง จะเล่นหลังบ้านบ้าง ละครไทย น้ำเน่า เดิมๆ เหมือนเดิมทุกอย่าง... ไม่ต่างจาก แปะลิ้ม
ตลาดสด
ตลาดสด
![]()
![]()
สมศักดิ์ เจียม wrote:[size=85]ไม่รู้ว่านี่จะช่วยให้พวกเสรีไทย ฉลาดขึ้น หรือกล้าเผชิญความจริง มากขึ้น บ้างไหม : ว่าด้วย "การตรวจสอบ" โครงการพระราชดำริ
ผมรู้สึกกึ่งเอ็นดู กึ่งสมเพช พวกบอร์ดเสรีไทย ที่พยายาม หาใบบัว มาปิดช้างตาย
จีรนุช wrote:ใครขุดกระทู้มันมาประจานวะ![]()