คนบาป wrote:สมศักดิ์ หัวโต ชอบกล่าวอ้างเรื่อง 6 ตลา 19
ผมก็บอกให้อาจารย์ประวัติศาสตร์แบบแก ไปอ่านคำให้การของ ดร.ป๋วย ต่อสภาคองเกรส สหรัฐอเมริกา หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 19
ผมนำมาลงไว้ในบล็อคนานแล้ว...
http://www.oknation.net/blog/canthai/2008/01/19/entry-2
000000000000000000000000000
นายสมีตัน : ดร.ป๋วย ผมคิดว่าคุณอ้างถึงความแตกแยกเป็นกลุ่มภายในหมู่ทหาร และผมเข้าใจว่าบางกลุ่มโยงใยกับในวัง
คุณอธิบายอีกเล็กน้อยได้ไหมว่า อะไรอยู่เบื้องหลังความขัดแย้งที่กำลังก่อตัวขึ้น
ดร.ป๋วย : ผมคิดว่ามีข่าวลือว่าพระเจ้าอยู่หัวโปรดนายทหารกลุ่มนั้นกลุ่มนี้อยู่เสมอ จนกระทั่งบัดนี้ผมไม่คิดว่าข่าวลือเหล่านั้นได้รับการพิสูจน์ ผมเชื่อว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงพยายามที่จะเป็นกลางจริง ๆ พระองค์ทรงมีส่วนในเหตุการณ์ 6 ตุลาคมหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ และผมก็ไม่มีหลักฐานใด ๆ ในเรื่องนี้
นายสมีตัน : คุณจะพูดไหมว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงวางพระองค์เป็นกลาง
ดร.ป๋วย : ระหว่างกลุ่มต่าง ๆ หรือ
นายสมีตัน : วางพระองค์เป็นกลางในช่วงการรัฐประหารเดือนตุลาคม
ดร.ป๋วย : ผมได้ยินเช่นนั้นเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว
นายสมีตัน : ผมมีความรู้สึกว่า อาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าอยู่หัวทรงเข้ากับกลุ่มหนึ่ง
นายธอมป์สัน : ผมก็เข้าใจเช่นนั้น เรื่องนี้สำคัญมากจริง ๆ ต่อการพัฒนาของเหตุการณ์ในเมืองไทย แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากต่อการนำมาพูดคุยกับคนไทยเอง เพราะทัศนคติคนไทยต่อพระเจ้าอยู่หัวนั้นแสดงความเคารพเป็นอย่างมาก เกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดคุยเรี่องนี้กัน อย่างไรก็ตาม บางสิ่งบางอย่างก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
ดร.ป๋วย : ผมพูดได้ว่า รัฐบาลได้ปฏิเสธตลอดมาว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้ทรงมีส่วนเกี่ยวข้อง
นายธอมป์สัน : ผมคิดว่าสมมุติฐานก็คือ บางช่วงในเดือนมกราคม 2519 ถึงตุลาคม 2519 พระเจ้าอยู่หัวทรงเปิดเผยพระองค์ไม่พอพระทัยทหารจะกลับเข้ามามีอำนาจอีก เรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้นักวิชาการส่วนมากที่สนใจเรื่องการเมืองไทย
นายสมีตัน : คำถามสุดท้ายนะครับ ท่านประธาน หลายคนซึ่งถูกเรียกว่าเป็นนักสังเกตการณ์มือเก่าเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของไทย สังเกตว่าในระยะสุดท้ายของช่วงประชาธิปไตย 2516-19 ทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาไม่มีความอดทนมากนัก กับการทอลองวิถีประชาธิปไตย จึงนำไปสู่เหตุเดือนตุลาคม
ผมสนใจที่ได้พังคำวิพากษ์วิจารณ์ของคุณทั้งสอง นั่นเป็นการสังเกตการณ์ที่ถูกต้องหรือเป็นการขยายความจนเกินเลยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงประชาธิปไตย
นายธอมป์สัน : มันไม่ใช่ประเด็นหลักจริง ๆ ผมคิดว่าประเด็นหลักจริง ๆ คือความยุ่งเหยิงภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น การปฏิวัติที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทำให้ทหารไทยรู้สึกว่าเป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ทำให้คิดว่ามีภัย มีการข่มขู่จากทั้งภายนอกและภายใน
ในประวัติศาสตร์ คนไทยได้พยายามเสมอที่จะให้สองสิ่งนี้สมดุลกัน โดยสร้างสัมพันธ์กับมหาอำนาจ เพื่อจะให้สมดุลกับความยุ่งยากที่เกิดขึ้นภายใน หรือทำในสิ่งที่กลับกัน เขามองว่าการมีภัยทั้งสองด้านนั้นมากเกินไปกว่าที่จะทนได้
ดร.ป๋วย : ผมเห็นด้วยกับ ดร.ธอมป์สันตรงที่ว่าเป็นเงื่อนไขที่จำเป็น แต่ไม่ใช่เงื่อนไขที่พอเพียง แต่ผมไม่เห็นด้วยกับส่วนอื่นที่พูดมา ถึงแม้ว่าลาว กัมพูชา และเวียดนาม จะเป็นดังแต่ก่อนคือไม่มีรัฐบาลคอมมิวนิสต์เลยก็ตาม ผมก็คิดว่าเหตุการณ์ 6 ตุลาคมก็ยังคงจะเกิดขึ้นอยู่ดี เพราะในความเห็นของผม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือทหารต้องการกลับมามีอำนาจ เรื่องมันง่ายขนาดนั้น ทหารได้เตรียมการไว้แล้วขณะที่กำลังมีการร่างรัฐธรรมนูญในปี 2517 พวกเขาเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา และในปี 2517 นั้น คุณรู้ว่าเวียดนามยังมิได้เป็นคอมมิวนิสต์
นายธอมป์สัน : ใช่ แต่ปัญหาก็คือแผนการเหล่านั้นจะสำเร็จหรือไม่ ทำไมถึงไม่สำเร็จจนกระทั่งปี 2519 หลังจากที่อเมริกันได้ละทิ้งและถอนตัวออกมาแล้ว พวกเขาวางแผนกันอยู่ วางแผนกันอยู่เสมอ แต่ผมคิดว่านักสังเกตการณ์ไทยรู้ดีว่า ท้ายที่สุดสิ่งที่ผลักดันให้เขาถึงจุดต้องทำรัฐประหารก็คือความล้มเหลวของการรักษาความมั่นคงในภูมิภาค เราละทิ้งเขาไป ผมคิดว่าคงเห็นพ้องที่จะไม่เห็นด้วยกันในเรื่องนี้อีก
ดร.ป๋วย : ผมเห็นด้วยกับคุณ แต่ผมคิดว่าเราให้น้ำหนักกับปัจจัยแต่ละอย่างต่างกัน
นายธอมป์สัน : เป็นไปได้ว่าจะเกิดรัฐประหารขึ้นอยู่ดี แต่รัฐประหารที่เกิดขึ้นแล้วนั้น เกิดขึ้นเพราะเป็นเหตุการณ์ที่สืบเนื่องมาจากลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2519 และการพยายามทำรัฐประหารทุกครั้งก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2516-19 ไม่สามารถเรียกเสียงสนับสนุนได้เพียงพอเนื่องจากรัฐบาลไม่เข้มแข็งและไม่มีพลังที่ทหารคิดว่าจำเป็นสำหรับประเทศอย่างพอเพียง ทั้งนี้ผมไม่ได้หมายถึงพลังทางทหาร ผมหมายถึงหลายสิ่งรวมกัน คือด้านเศรษฐกิจ เสถียรภาพทางสังคม และความมั่นคงภายใน ผมไม่คิดว่าประเทศใดจะมุ่งพัฒนาอย่างจริงจังได้ ในเมื่อยังไม่มีความมั่นคงที่แน่ชัด นี่คือกรณีของไทยในตอนปลายของช่วงนั้น
นายสมีตัน : ขอบคุณ ดร.ป๋วย ขอบคุณ ศ.ธอมป์สัน ขอบคุณท่านประธาน
นายเฟรเชอร์: ผมขอขอบคุณท่านทั้งสอง ผมขออภัยที่การสืบพยานล่าช้ากว่ากำหนดมาก แต่ก็มีประโยชน์มาก เราขอบคุณที่ท่านช่วยตอบคำถามต่าง ๆ คณะอนุกรรมการหยุดพักการพิจารณาไว้เพียงเท่านี้
เขาคงลืมไปว่าที่เขาเล่นอยู่คือ อินเตอร์เน็ท ข้อมูลในนี้มีเยอะ ไม่เหมือนแต่ก่อน ฟังแต่เขาว่า เขาว่า




