บทกลอน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบทกลอน

บทกลอน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

Postby vampirella » Wed Feb 18, 2009 1:48 pm

เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน
ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน
เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร ข้าราชการตงฉินถูกประณาม
สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้ เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล
จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียใจ ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ
User avatar
vampirella
 
Posts: 10
Joined: Tue Feb 17, 2009 2:24 pm

Re: บทกลอน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

Postby คนไทยคนหนึ่ง » Wed Feb 18, 2009 9:11 pm

ขอแก้ข่าวคำทำนายของหลวงพ่อฯ ในบทความ นสพ.ไทยโพสต์
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=875
หลวงพ่อฤาษีลิงดำบรรยายเรื่อง "อนาคตของประเทศชาติ"
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680
ปล.หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง ไม่เคยแต่งกลอนครับ
ประชาธิปไตย คือการที่ฟังเสียงส่วนน้อย แต่ทำเพื่อคนส่วนใหญ่
ประชาธิปไตยต้องมีศีลธรรมเป็นรากฐาน ไม่อย่างนั้นจะเป็นประชาธิปไตยไม่ได้
เมื่อไม่มีศีลธรรมเป็นพื้นฐานแล้ว ระบบประชาธิปไตยนั่นแหละ จะเป็นระบบที่เลวร้ายที่สุด
User avatar
คนไทยคนหนึ่ง
 
Posts: 1884
Joined: Mon Oct 13, 2008 6:51 am

Re: บทกลอน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

Postby vampirella » Fri Feb 20, 2009 4:32 pm

"ประชาธิปไตย คือการที่ฟังเสียงส่วนน้อย แต่ทำเพื่อคนส่วนใหญ่"
ตอบว่า : เป็นเพียงความคิดของคนบางคนที่เจตนาจะบิดเบือนบรรทัดฐานในสังคมให้ดูเหมือนจะถูกต้องเท่านั้น ยอมไม่ใช่แนวความคิดที่ถูกต้อง ฉะนั้นหากมีความประสงค์จะเห็นสังคมที่เรียกว่า นิติรัฐ หรือ นิติธรรม ที่มักนำมากล่าวอ้างบ่อยๆ ย่อมไม่สมควรปล่อยให้ความเชื่อส่วนตัวอย่างนี้ไปทำให้ผู้อื่นหลงผิดด้วย

"ประชาธิปไตยต้องมีศีลธรรมเป็นรากฐาน ไม่อย่างนั้นจะเป็นประชาธิปไตยไม่ได้"
ถามว่า : ในวันนี้ความคิดชนชั้นปกครอง(หมายถึงผู้นำการเมือง)ยังเป็นอย่างที่เห็นกันอยู่ว่า เรียกได้ว่าสามัญสำนึกยังหาดูได้ยาก แล้วประสาอะไรจึงจะไปพูดถึงความมีศีลธรรม ที่เป็นเพียงนามธรรมภายในจิตใจมนุษย์ตรวจสอบพิสูจน์วัดไม่ได้เลย...อ่านแล้วลองพิจารณาด้วยใจเป็นกลางก็พอ ยังไม่ต้องไปพูดถึงในสิ่งที่มองไม่เห็นและจับต้องไม่ได้

"เมื่อไม่มีศีลธรรมเป็นพื้นฐานแล้ว ระบบประชาธิปไตยนั่นแหละ จะเป็นระบบที่เลวร้ายที่สุด"
บอกว่า : เห็นด้วยและในโลกใบนี้ก็ไม่มีระบอบการปกครองใดดีสุดหรือเลวสุด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่คน และปัญหาบ้านเมืองในวันนี้ก็เกิดจากคนเช่นกัน
User avatar
vampirella
 
Posts: 10
Joined: Tue Feb 17, 2009 2:24 pm

Re: บทกลอน หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

Postby Ixora » Thu Apr 16, 2009 10:22 am

วันนี้ตอนเช้า กินไส้กรอก กับไข่ดาวอีกแล้ว อิ ๆ :lol:
...ความชอบธรรมต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม...
User avatar
Ixora
 
Posts: 2103
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:11 am


Return to ร้อยรักษ์กวีวรรณ



cron