ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 9:43 pm

klser wrote:สำหรับผม เฒ่า ส. ไม่ค่อยมีเครดิต เรื่องศาสนาเท่าไหร่ คือไม่ให้ราคานั่นแหละ แต่ประเด็นการเมืองบางอย่าง แกมีความคมอยู่บ้าง

ที่คุยกันตอนนี้กำลังหลงประเด็นกันครับ
หลงตรงที่คิดว่าพระที่มาจับสึกนั้น จับสึกเพราะอาบัติปาราชิก อันนี้ไม่ใช่ เข้าใจผิดแล้ว อาบัติปาราชิกไม่ต้องจับสึกครับเพราะขาดจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ ต่อให้ไม่สึกก็เป็นผ้าเหลืองห่มตอ (แต่ก็ยังสามารถปฏิบัติจนบรรลุธรรมในขั้นต้นๆได้นะ ถ้ากลับตัวกลับใจ)

แต่การจับสึกแบบที่พระท่านกระทำต่อกันอยู่ตอนนี้ เป็นการบอกให้สึกเพราะคณะสงฆ์เห็นว่าท่านไม่เข้ากับหมู่พวก ทำให้โลกติเตียน และอาจส่งผลต่อความเสื่อมศรัทธาของศานิกชน คณะสงฆ์ท่านจะสวดเตือนสามครั้ง (ผมจำชื่อการสวดไม่ได้) ถ้ายังไม่ยอมฟังคณะสงฆ์สามารถจับสึกได้เพราะเป็นพระต้องมีสังกัดคือคณะสงฆ์ แต่การจับสึกในกรณีอย่างนี้ พระที่โดนจับสึกสามารถบวชใหม่ได้ถ้าพระอุปปัชฌาย์ยอมให้บวช

ปล. ผมไม่มีความเห็นเรื่องอาจารย์เกษมนะเพราะภูมิธรรมผมไม่ถึง แต่ที่บอกว่าจับสึกเพราะอาบัตินี่หลงประเด็นครับ


นี่ก็มั่วหนักเข้าไปอีก อาบัติก็ส่วนอาบัติ ปราชิกก็ส่วนปะราชิก

มี "อาบัติปะราชิก" ด้วยหรือ พระธรรมวินัยข้อไหนเนี่ย
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 9:46 pm

เช neverdie wrote:หลงประเด็นแล้วครับ เอาสั้นๆนะครับ ในความหมายของผม ....

กราบพระพุทธรูปทุกวันแต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

ไม่กราบพระพุทธรูป แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

ทีนี้ลองแย้งมาครับ


ผมแย้งไปแล้วไง แต่คุณ เช ไม่เข้าใจเอง :)

ผมลองใหม่นะ Logic 101

1) กราบพระพุทธรูปทุกวันแต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

2) ไม่กราบพระพุทธรูป แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

3) เลิกกราบพระพุทธรูป แต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

4) กราบพระพุทธรูปทุกวัน แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

จากที่กล่าวมาข้างต้น ทั้ง 4 ข้อ เราสามารถสรุปได้ว่า การกราบหรือไม่กราบพระพุทธรูปมันไม่ได้มีผลใดๆ เลย


อันนี้สรุปเอาแบบทางโลกเลยนะ
คุณเช มีข้อแย้งตรรกะข้างบนหรือเปล่า :D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Apichai » Thu Oct 06, 2011 9:47 pm

klser wrote:สำหรับผม เฒ่า ส. ไม่ค่อยมีเครดิต เรื่องศาสนาเท่าไหร่ คือไม่ให้ราคานั่นแหละ แต่ประเด็นการเมืองบางอย่าง แกมีความคมอยู่บ้าง

ที่คุยกันตอนนี้กำลังหลงประเด็นกันครับ
หลงตรงที่คิดว่าพระที่มาจับสึกนั้น จับสึกเพราะอาบัติปาราชิก อันนี้ไม่ใช่ เข้าใจผิดแล้ว อาบัติปาราชิกไม่ต้องจับสึกครับเพราะขาดจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ ต่อให้ไม่สึกก็เป็นผ้าเหลืองห่มตอ (แต่ก็ยังสามารถปฏิบัติจนบรรลุธรรมในขั้นต้นๆได้นะ ถ้ากลับตัวกลับใจ)

แต่การจับสึกแบบที่พระท่านกระทำต่อกันอยู่ตอนนี้ เป็นการบอกให้สึกเพราะคณะสงฆ์เห็นว่าท่านไม่เข้ากับหมู่พวก ทำให้โลกติเตียน และอาจส่งผลต่อความเสื่อมศรัทธาของศานิกชน คณะสงฆ์ท่านจะสวดเตือนสามครั้ง (ผมจำชื่อการสวดไม่ได้) ถ้ายังไม่ยอมฟังคณะสงฆ์สามารถจับสึกได้เพราะเป็นพระต้องมีสังกัดคือคณะสงฆ์ แต่การจับสึกในกรณีอย่างนี้ พระที่โดนจับสึกสามารถบวชใหม่ได้ถ้าพระอุปปัชฌาย์ยอมให้บวช

ปล. ผมไม่มีความเห็นเรื่องอาจารย์เกษมนะเพราะภูมิธรรมผมไม่ถึง แต่ที่บอกว่าจับสึกเพราะอาบัตินี่หลงประเด็นครับ


ที่ผมฟังมาก็แบบนี้
กรณี เจ้าสำนักธรรมกาย ก็ถือว่า ปราชิก คือ สิ้นสุดความเป็นพระแล้ว โดยไม่ต้องสึก
อย่างกรณีนี้ ถ้าพระเกษม กลับตัวกลับใจ ก็สามารถจะบวชใหม่ได้ครับ
User avatar
Apichai
 
Posts: 586
Joined: Wed May 19, 2010 2:59 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 9:49 pm

sleepless wrote:ผมจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพนะ

เมื่อเราต้องข้ามฝั่ง เราไม่สามารถก้าวทีเดียวถึงอีกฝั่งหนึ่งได้
เราจำเป็นต้องมีเรือ

เรือสำหรับบางคนเป็นเรือยาง บางคนเป็นเรือไม้ บางคนเป็นเรือหางยาว

พอไปถึงฝั่ง เราก็ทิ้งเรือนั้นไปได้ หากเรายังแบกเรืออยู่ เราก็ขึ้นฝั่งไม่ได้

เราทิ้่งทั้งพระพุทธรูป ทิ้งแม้กระทั้งธรรม

แต่ที่พระเกษมสอนนั้น ท่านบอกให้เราทิ้งเรือเอาไว้ตั้งแต่อยู่ฝั่งนี้เลย

แล้วให้คนข้ามฝั่งไป โดยการเกาะก้่อนขี้หมาไป

คุณเห็นภาพหรือยังว่ามันเพี้ยนขนาดไหน
:D


ผิดแล้วครับ พระพุทธรูปไม่ใช่เรือ แต่พระธรรมที่ตถาคตทรงแสดงใว้ต่างหากครับที่เป็นเรือ

ตราบที่ยังหลงยึดติดในพระพุทธรูป ก็เหมือนนั่งกอดขอนไม้ฟูมฟายอยู่ริมฝั่งน้ำ ไม่ยอมก้าวขึ้นเรือเพื่อข้ามฝั่งเสียที

ดังนี้ครับ ... ;) ;) ;) ;)
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 9:53 pm

เช neverdie wrote:
ผิดแล้วครับ พระพุทธรูปไม่ใช่เรือ แต่พระธรรมที่ตถาคตทรงแสดงใว้ต่างหากครับที่เป็นเรือ

ตราบที่ยังหลงยึดติดในพระพุทธรูป ก็เหมือนนั่งกอดขอนไม้ฟูมฟายอยู่ริมฝั่งน้ำ ไม่ยอมก้าวขึ้นเรือเพื่อข้ามฝั่งเสียที

ดังนี้ครับ ... ;) ;) ;) ;)


คุณเช มองไม่เห็นหรือว่าการ "ยึดติดในพระพุทธรูป" กับการ "ไม่ยึดติดในพระพุทธรูป" มันมีค่าคือการยึดติดเท่ากัน มันคือการนั่งกอดขอนไม้อยู่ริมฝั่งเท่ากัน :D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby klser » Thu Oct 06, 2011 9:53 pm

เช neverdie wrote:
klser wrote:สำหรับผม เฒ่า ส. ไม่ค่อยมีเครดิต เรื่องศาสนาเท่าไหร่ คือไม่ให้ราคานั่นแหละ แต่ประเด็นการเมืองบางอย่าง แกมีความคมอยู่บ้าง

ที่คุยกันตอนนี้กำลังหลงประเด็นกันครับ
หลงตรงที่คิดว่าพระที่มาจับสึกนั้น จับสึกเพราะอาบัติปาราชิก อันนี้ไม่ใช่ เข้าใจผิดแล้ว อาบัติปาราชิกไม่ต้องจับสึกครับเพราะขาดจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ ต่อให้ไม่สึกก็เป็นผ้าเหลืองห่มตอ (แต่ก็ยังสามารถปฏิบัติจนบรรลุธรรมในขั้นต้นๆได้นะ ถ้ากลับตัวกลับใจ)

แต่การจับสึกแบบที่พระท่านกระทำต่อกันอยู่ตอนนี้ เป็นการบอกให้สึกเพราะคณะสงฆ์เห็นว่าท่านไม่เข้ากับหมู่พวก ทำให้โลกติเตียน และอาจส่งผลต่อความเสื่อมศรัทธาของศานิกชน คณะสงฆ์ท่านจะสวดเตือนสามครั้ง (ผมจำชื่อการสวดไม่ได้) ถ้ายังไม่ยอมฟังคณะสงฆ์สามารถจับสึกได้เพราะเป็นพระต้องมีสังกัดคือคณะสงฆ์ แต่การจับสึกในกรณีอย่างนี้ พระที่โดนจับสึกสามารถบวชใหม่ได้ถ้าพระอุปปัชฌาย์ยอมให้บวช

ปล. ผมไม่มีความเห็นเรื่องอาจารย์เกษมนะเพราะภูมิธรรมผมไม่ถึง แต่ที่บอกว่าจับสึกเพราะอาบัตินี่หลงประเด็นครับ


นี่ก็มั่วหนักเข้าไปอีก อาบัติก็ส่วนอาบัติ ปราชิกก็ส่วนปะราชิก

มี "อาบัติปะราชิก" ด้วยหรือ พระธรรมวินัยข้อไหนเนี่ย


อาบัติแปลว่าล่วงละเมิด
อาบัติปาราชิกแปลว่า ล่วงละเมิดศีลขั้นปาราชิก ครับ

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD% ... 5%E0%B8%B4
User avatar
klser
 
Posts: 171
Joined: Tue Oct 14, 2008 6:18 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby kainuy555 » Thu Oct 06, 2011 9:55 pm

เช neverdie wrote:
kainuy555 wrote:นายเกษมครับ ไม่ใช่พระเกษม
สาวกของพระพุทธเจ้า ไม่ปฎิบัติแบบนี้แน่นอน


แล้วพระสงค์ในพุทธศาสนานิกายมหายาน ที่เวลาสวดมนต์ต้องมีพระฝ่ายที่เล่นเครื่องดนตรี ตีกลอง เล่นตะเข้ ไปพร้อมกับทำนองการสวดเป็นบทเพลง นี่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าไหมครับ

หรือว่าในความเข้าใจของคุณมีแต่พระในนิกายธรรมยุตเท่านั้นที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า


เอาเท้าเหยียบโต๊ะ เหยียบเก้าอี้ เขี่ยเก้าอี้นี่นะ ผมคิดว่า มันไม่มีในนิกายนะ
หรือถ้านิกายไหนให้ทำได้ ก็ควรไปบวชอยู่นิกายนั้น ครับ
User avatar
kainuy555
 
Posts: 1462
Joined: Mon May 16, 2011 9:35 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Apichai » Thu Oct 06, 2011 9:56 pm

เช neverdie wrote:
sleepless wrote:ผมจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพนะ

เมื่อเราต้องข้ามฝั่ง เราไม่สามารถก้าวทีเดียวถึงอีกฝั่งหนึ่งได้
เราจำเป็นต้องมีเรือ

เรือสำหรับบางคนเป็นเรือยาง บางคนเป็นเรือไม้ บางคนเป็นเรือหางยาว

พอไปถึงฝั่ง เราก็ทิ้งเรือนั้นไปได้ หากเรายังแบกเรืออยู่ เราก็ขึ้นฝั่งไม่ได้

เราทิ้่งทั้งพระพุทธรูป ทิ้งแม้กระทั้งธรรม

แต่ที่พระเกษมสอนนั้น ท่านบอกให้เราทิ้งเรือเอาไว้ตั้งแต่อยู่ฝั่งนี้เลย

แล้วให้คนข้ามฝั่งไป โดยการเกาะก้่อนขี้หมาไป

คุณเห็นภาพหรือยังว่ามันเพี้ยนขนาดไหน
:D


ผิดแล้วครับ พระพุทธรูปไม่ใช่เรือ แต่พระธรรมที่ตถาคตทรงแสดงใว้ต่างหากครับที่เป็นเรือ

ตราบที่ยังหลงยึดติดในพระพุทธรูป ก็เหมือนนั่งกอดขอนไม้ฟูมฟายอยู่ริมฝั่งน้ำ ไม่ยอมก้าวขึ้นเรือเพื่อข้ามฝั่งเสียที

ดังนี้ครับ ... ;) ;) ;) ;)


คุณเช คำสอนที่ครูบาอาจารย์ กล่าว เช่น เห็นพระพุทธเจ้า ให้ฆ่า เสีย
หรือ เห็นจิต ให้ทำลายจิต เป็นคำสอนเฉพาะเจาะจง สำหรับศิษย์ ที่ไม่ใช่ปุถุชน
Last edited by Apichai on Fri Oct 07, 2011 7:04 am, edited 1 time in total.
User avatar
Apichai
 
Posts: 586
Joined: Wed May 19, 2010 2:59 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 10:00 pm

sleepless wrote:
เช neverdie wrote:หลงประเด็นแล้วครับ เอาสั้นๆนะครับ ในความหมายของผม ....

กราบพระพุทธรูปทุกวันแต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

ไม่กราบพระพุทธรูป แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

ทีนี้ลองแย้งมาครับ


ผมแย้งไปแล้วไง แต่คุณ เช ไม่เข้าใจเอง :)

ผมลองใหม่นะ Logic 101

1) กราบพระพุทธรูปทุกวันแต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

2) ไม่กราบพระพุทธรูป แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

3) เลิกกราบพระพุทธรูป แต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

4) กราบพระพุทธรูปทุกวัน แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

จากที่กล่าวมาข้างต้น ทั้ง 4 ข้อ เราสามารถสรุปได้ว่า การกราบหรือไม่กราบพระพุทธรูปมันไม่ได้มีผลใดๆ เลย


อันนี้สรุปเอาแบบทางโลกเลยนะ
คุณเช มีข้อแย้งตรรกะข้างบนหรือเปล่า :D


ก็อย่างที่ผมแย้งไปแล้วเช่นกัน ถ้าการกราบใหว้พระพุทธรูปเป็นไปแบบพิธีกรรมตามๆกันมา โดยไม่บอกกล่าวกันให้รู้แจ้งในธรรม ในที่สุดจริตของแต่ละคนมันก็จะทำให้หลงงมงายไปกับเรื่องศักดาภินิหาร-ความศักดิ์สิทธิ มากกว่าเรื่องของ ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา นี่คือประเด็นของผมครับ

และนี่ก็คงเป็นสิ่งเดียวกันกับที่พระเกษมกำลังบอกต่อสังคมครับ (เฉพาะเรื่องนี้นะครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พระเกษมวิพากษ์ว่ายิ่งลักษณ์ควรเป็นนายยกหรือไม่ อันนั้นของสงวนความเห็นไปเล่นกระทู้อื่นครับ)

;) ;) ;)
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 10:05 pm

sleepless wrote:
เช neverdie wrote:
ผิดแล้วครับ พระพุทธรูปไม่ใช่เรือ แต่พระธรรมที่ตถาคตทรงแสดงใว้ต่างหากครับที่เป็นเรือ

ตราบที่ยังหลงยึดติดในพระพุทธรูป ก็เหมือนนั่งกอดขอนไม้ฟูมฟายอยู่ริมฝั่งน้ำ ไม่ยอมก้าวขึ้นเรือเพื่อข้ามฝั่งเสียที

ดังนี้ครับ ... ;) ;) ;) ;)


คุณเช มองไม่เห็นหรือว่าการ "ยึดติดในพระพุทธรูป" กับการ "ไม่ยึดติดในพระพุทธรูป" มันมีค่าคือการยึดติดเท่ากัน มันคือการนั่งกอดขอนไม้อยู่ริมฝั่งเท่ากัน :D


เอางี้ ....

แล้วระหว่างการยึดติดในพระธรรมปฏิบัติตามคำสอนของตถาคต กับการยึดติดในพระพุทธรูป

อย่างไหนควรมีคุณค่ากว่ากันครับ ลองตอบผมหน่อย
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 10:09 pm

เช neverdie wrote:
ก็อย่างที่ผมแย้งไปแล้วเช่นกัน ถ้าการกราบใหว้พระพุทธรูปเป็นไปแบบพิธีกรรมตามๆกันมา โดยไม่บอกกล่าวกันให้รู้แจ้งในธรรม ในที่สุดจริตของแต่ละคนมันก็จะทำให้หลงงมงายไปกับเรื่องศักดาภินิหาร-ความศักดิ์สิทธิ มากกว่าเรื่องของ ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา นี่คือประเด็นของผมครับ

และนี่ก็คงเป็นสิ่งเดียวกันกับที่พระเกษมกำลังบอกต่อสังคมครับ (เฉพาะเรื่องนี้นะครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พระเกษมวิพากษ์ว่ายิ่งลักษณ์ควรเป็นนายยกหรือไม่ อันนั้นของสงวนความเห็นไปเล่นกระทู้อื่นครับ)

;) ;) ;)


ผมเข้าใจครับ สิ่งที่พระเกษมพยายาม (จำอาจารย์พุทธทาสมา) สอน

มันไม่ใช่สิ่งที่ชาวบ้านทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้หรอกครับ บางครั้งเราก็ไปดูถูกชาวบ้านมากเกินไป

แต่พระเกษมสอนคนโดยไม่ได้ดูว่าคนเหล่านั้นอยู่ที่ระดับใด

การตบพระเศียรพระพุทธรูปเพื่อโชว์ให้ชาวบ้านดูว่า "กูไม่ติดยึด" นั้น แสดงให้เห็นว่าพระเกษมไม่ได้มีความเข้าใจ และหลงไปยึดติดอย่าง "สุดโต่ง" กับ "การไม่ติดยึด"

หรือคุณเช คิดว่าไม่สุดโต่ง?
:D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby klser » Thu Oct 06, 2011 10:16 pm

เรื่องพระพุทธรูป
http://www.dhammathai.org/buddha/g47.php
พระพุทธรูปถือว่าเป็นอุทเทสิกเจดีย์ ครับ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจดีย์ 4 อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านให้เคารพ จริงๆแล้วตามหลักที่ถูกต้องเมื่อหล่อพระพุทธรูปพระท่านจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรืออรหัตธาตุ เข้าไปด้วยครับ ก็เลยเป็นเจดีย์ไปโดยปริยาย

ต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับตอนตรัสรู้ก็ถือว่าเป็นเจดีย์

ส่วนการกราบพระสามครั้ง ต้อง ระลึกพุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย กราบแบบนี้ถึงจะได้อานิสงฆ์
ตามความเห็นส่วนตัว การเคารพพระรัตนตรัยจะช่วยให้เราละวิจิกิจฉาในพระรัตนตรัยหนึ่งในสังโยชน์สามตัวแรก และการกราบการไหว้เป็นการลดสักกายะทิฏฐิ สังโยชน์อีกตัวด้วย กราบเถอะครับอย่าถือตัวเลย
User avatar
klser
 
Posts: 171
Joined: Tue Oct 14, 2008 6:18 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 10:18 pm

sleepless wrote:
เช neverdie wrote:
ก็อย่างที่ผมแย้งไปแล้วเช่นกัน ถ้าการกราบใหว้พระพุทธรูปเป็นไปแบบพิธีกรรมตามๆกันมา โดยไม่บอกกล่าวกันให้รู้แจ้งในธรรม ในที่สุดจริตของแต่ละคนมันก็จะทำให้หลงงมงายไปกับเรื่องศักดาภินิหาร-ความศักดิ์สิทธิ มากกว่าเรื่องของ ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา นี่คือประเด็นของผมครับ

และนี่ก็คงเป็นสิ่งเดียวกันกับที่พระเกษมกำลังบอกต่อสังคมครับ (เฉพาะเรื่องนี้นะครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พระเกษมวิพากษ์ว่ายิ่งลักษณ์ควรเป็นนายยกหรือไม่ อันนั้นของสงวนความเห็นไปเล่นกระทู้อื่นครับ)

;) ;) ;)


ผมเข้าใจครับ สิ่งที่พระเกษมพยายาม (จำอาจารย์พุทธทาสมา) สอน

มันไม่ใช่สิ่งที่ชาวบ้านทั่วไปไม่สามารถเข้าใจได้หรอกครับ บางครั้งเราก็ไปดูถูกชาวบ้านมากเกินไป

แต่พระเกษมสอนคนโดยไม่ได้ดูว่าคนเหล่านั้นอยู่ที่ระดับใด

การตบพระเศียรพระพุทธรูปเพื่อโชว์ให้ชาวบ้านดูว่า "กูไม่ติดยึด" นั้น แสดงให้เห็นว่าพระเกษมไม่ได้มีความเข้าใจ และหลงไปยึดติดอย่าง "สุดโต่ง" กับ "การไม่ติดยึด"

หรือคุณเช คิดว่าไม่สุดโต่ง?
:D


อันนี้ปรมาจารย์ตั๊กม๊อ ส.ศิวลักษณ์ วิพากษ์ไปแล้ว ไม่ขอวิพากษ์ซ้ำครับ

ต้องอาบัติ ไม่ถึงขึ้นปราชิก สังฆาทิเสส

พระท่านปลงอบัติในป่าช้า ก็จบ
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 10:21 pm

เช neverdie wrote:
เอางี้ ....

แล้วระหว่างการยึดติดในพระธรรมปฏิบัติตามคำสอนของตถาคต กับการยึดติดในพระพุทธรูป

อย่างไหนควรมีคุณค่ากว่ากันครับ ลองตอบผมหน่อย



คุณเช ชาวบ้านมีหลายระดับ บางคนเขาสามารถรับรู้สิ่งที่เป็นนามธรรมได้ แต่บางคนเขาต้องผ่านการรับรู้รูปธรรม ก่อนจะนำไปสู่นามธรรม

จึงต้องการเรือที่แตกต่างกันออกไป

หากจะกล่าวกันไปถึงที่สุดแล้ว ทั้งพระพุทธรูปและธรรม (ที่เราได้ยินได้ฟัง) ก็ล้วนเป็นสมมุติบัญญัติทั้งนั้น

การตบเศียรพระพุทธรูปหาได้สร้างประโยชน์แต่อย่างใดเลย เพราะอย่างที่บอก มันเหมือนการปล่อยเส้นฟางแล้วไปเกาะก้อนขี้หมาที่แย่กว่านั่นเอง

หรือคุณ เช ว่าการตบเศียรพระพุทธรูปก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวพุทธ? :D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 10:23 pm

klser wrote:เรื่องพระพุทธรูป
http://www.dhammathai.org/buddha/g47.php
พระพุทธรูปถือว่าเป็นอุทเทสิกเจดีย์ ครับ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจดีย์ 4 อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านให้เคารพ จริงๆแล้วตามหลักที่ถูกต้องเมื่อหล่อพระพุทธรูปพระท่านจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรืออรหัตธาตุ เข้าไปด้วยครับ ก็เลยเป็นเจดีย์ไปโดยปริยาย

ต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับตอนตรัสรู้ก็ถือว่าเป็นเจดีย์

ส่วนการกราบพระสามครั้ง ต้อง ระลึกพุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย กราบแบบนี้ถึงจะได้อานิสงฆ์
ตามความเห็นส่วนตัว การเคารพพระรัตนตรัยจะช่วยให้เราละวิจิกิจฉาในพระรัตนตรัยหนึ่งในสังโยชน์สามตัวแรก และการกราบการไหว้เป็นการลดสักกายะทิฏฐิ สังโยชน์อีกตัวด้วย กราบเถอะครับอย่าถือตัวเลย


อันนี้อยากให้ใช้หลักกาลามสูตร พิจารณาดูให้มากครับ สมัยพุทธกาลยังไม่มีพระพุทธรูป

พระพุทธรูปเพิ่งจะมามีก็สามร้อยปีหลังพุทธกาล อันเป็นค่านิยมของพวกกรีกที่เข้ามาภายหลัง

ข้อความข้างบนน่าจะมาจาการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งใดครั้งหนึ่งในสิบสี่ครั้งที่ผ่านมา

แล้วมีการเติมเรื่องนี้เข้าไป ข้อความจากพระโอษฐ์อาจไม่ใช่อย่างนี้ พึงใช้หลักกาลามสูตรครับ
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 10:30 pm

เช neverdie wrote:
อันนี้ปรมาจารย์ตั๊กม๊อ ส.ศิวลักษณ์ วิพากษ์ไปแล้ว ไม่ขอวิพากษ์ซ้ำครับ

ต้องอาบัติ ไม่ถึงขึ้นปราชิก สังฆาทิเสส

พระท่านปลงอบัติในป่าช้า ก็จบ


มันไม่จบเท่านั้นสิครับ

เห็นได้ชัดว่า ส. วิจารณ์อย่างเอียงข้าง (ผมไม่ทราบว่าแกมี conflict of interest หรือเหตุผลใด แต่ได้ยินกล่าวถึงสันติอโศก)

หากพระเกษมตบเศียรพระพุทธรูปในป่าช้า แล้วไปปลงอาบัติคนเดียว มันก็จบ

แต่นี่พระเกษมตบเศียรพระพุทธรูปโชว์สานุศิษย์และบุคคลทั่วไปอีกมากมาย

การกระทำที่สุดโต่งของพระเกษมจะทำให้คนเกิดการเข้าใจผิด และหลงไปยึดติด อย่างสุดโต่ง กับการไม่ติดยึด

ต่อไปคนก็จะมีการกระทำที่สุดโต่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น ลามปามไปถึงการไม่ยึดติดกับบุพการี ครูบาอาจารย์ เป็นต้น

มันจึงเป็นเรื่องที่มากกว่าการปลงอาบัติแล้วจบครับ

มันต้องสร้างความเข้าใจให้ผู้ที่ซึมซับการกระทำอันสุดโต่งของพระเกษมได้ทราบว่าที่ทำไปนั้น มันไม่ใช่วิถีทางแห่งชาวพุทธ
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby arun sound2545 » Thu Oct 06, 2011 10:34 pm

ใจเย็นๆ
ทุกท่าน ใจเย็นๆ
หลายท่าน ต่างคนต่างความคิด
อาบัต คือ ข้อห้าม
อาบัต โทษต่างกัน
สิ่งที่พระเกษมทำนั้น ผมเห็นเป็นอาบัติเพียง เล็กน้อย แต่ก็ถือว่า อาบัต
จะยึดวัตถุหรือจะยึด หลักธรรม??
ผม เป็นคนธรรมดา คนเฒ่าคนแก่คนทั่วไปแค่ยกมือไหว้ตามอวุโส
เมื่อผมบวชเป็นพระภิกษุ ถามว่า คนดังกล่าง กราบไหว้ผม ทำไม?
เขาไม่ใด้กราบผ้าเหลืองที่ผมห่มนะครับ
หากผมเป็นคนแค่ห่มเหลือง ใครเขาจะไหว้
ยกตัวอย่างง่ายๆ
ผมบวชเป็นพระภิกษุ แล้วกินเหล้าเมายาพาสาวมากก
ถามว่า จะมีใครมากราบไหว้ผมต่อไปหรือเปล่า?
แล้วเขากราบไหว้ผมเพราะอะไร?
เขากราบผมเพราะผม อยู่ในศีลในธรรม ต่างหาก
กราบผมเพราะปฏิบัตดีปฏิบัตชอบ ต่างหาก
เรากราบพระธรรม หาใด้กราบเพียงใบลาน
หากแต่กราบธรรมที่อยู่ในใบลานนั้น ต่างหาก
คนที่กราบผมนั้น หาใด้กราบผมที่ผมห่มเหลือง หากแต่กราบเพราะผม ปฎิบัต ต่างหาก พอเข้าใจไหมครับ
อยากจะทำอะไรก็ทำไป
ภายใต้ระบบประชาธิปไตย
ตราบใดที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนและ
ผู้อื่นเดือดร้อน
ประชาธิปไตย คือเสียงส่วนใหญ่
ไม่ใช่เสียงคนบ้าส่วนไหญ่
User avatar
arun sound2545
 
Posts: 115
Joined: Sat Sep 17, 2011 7:36 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Anubitz » Thu Oct 06, 2011 10:35 pm

sleepless wrote:
Anubitz wrote:
sleepless wrote:

ใช่ครับ ฟังก็รู้แล้วว่าทั้ง ส. และท่านเกษมอ่านหนังสือของท่านพุทธทาสที่กล่าวถึงภูเขากางกั้นธรรม แล้วไปหยิบเอามาสอนชาวบ้านเพราะคิดว่าเทห่ดี
:D


เท่ดีหรือไม่นั้น อยากให้ดูที่การกระทำทั้งสองท่านเข้าใจได้ลึกซึ้งหรือเปล่า จะกล่าวว่านำมาสอนเพราะฟังแล้วเท่ดีคงจะกระไรอยู่ครับ
โดยส่วนตัวผมได้ยินประโยคเรื่องพระพุทธรูปนี้ครั้งแรกจากคลิปเสียง การเทศนาธรรมของท่านพุทธทาส ครั้งที่สองจาก อาจารย์ ส. ในรายการ พื้นที่ชีวิต ถามว่าเท่ร์มั๊ย บอกได้ว่าสิ่งแรกที่คิดคือ จริงด้วย เหมือนกับเป็นการเปิดโลกทัศน์บางอย่าง (ผมก็ใช้คำไม่ถูกเหมือนกันว่าใช้คำว่าอะไรดีนะ ) แต่ความรู้สึกว่าเท่ร์คงไม่มีเลยครับ หากแต่ มองว่าประโยคนี้ เป็นประโยคที่ง่ายต่อการนำไปพูดให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายๆมากกว่า ผมมองเช่นนั้นหน่ะครับ


ผมอ่านเรื่องนี้จากท่านพุทธทาสเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นก็เข้าใจเอาด้วยความโง่เขลาเหมือนท่านทั้งสองนั่นแหล่ะครับ มันสุดโต่ง ความไม่รู้ทำให้เราหลุดจากอันหนึ่งไปยึดกับอีกอันหนึ่งที่แน่นกว่าเดิม

เอาง่ายๆ ว่าคุณเคยเห็นสายพระป่าตั้งแต่หลวงปู่มั่นลงมามีท่านใดที่เอาพระพุทธรูปโยนทิ้งบ้าง?

มีแต่ยิ่งกราบด้วยความเคารพบูชามากขึ้น

ที่ท่านพุทธทาสให้โยนทิ้งนั้นไม่ใช้พระพุทธรูปที่เป็นปูนเป็นอิฐ แต่เป็นไอ้ที่อยู่ในใจคุณต่างหาก!


ต้องบอกกว่าว่าผมเป็นเด็กเมื่อวานซืนจริงๆครับ ซึ่งการมองสิ่งที่ท่านทั้งสองทำนั้นเป็นวิธีการสอนอย่างหนึ่งเท่านั้น หากมองตรงที่การทำลายพระพุทธรูปผมอยากให้มองถึงว่า จุดประสงของการทำลายนั้นคืออะไร เป็นการทำลายเนื่องด้วยการดูหมิ่น หรือ เป็นการชี้ให้เห็นอะไรบางอย่าง ซึ่งในกรณีทั้งสองนี้ผมมองว่าไม่ได้มีความตั้งใจในการดุหมิ่นเลยครับ แต่อาจจะขัดหูขัดตาหลายๆคน

รบกวนช่วยชี้แจงเรื่องการยึดติดให้ฟังหน่อยได้มั๊ยครับ ที่ว่า เมื่อลึกยึดติดกับพระพุทธรูปแล้ว ไม่ยึดติดกับอะไร ก็คือการยึดติดหน่ะครับ ผมสนใจตรงนี้หน่ะครับ
User avatar
Anubitz
 
Posts: 478
Joined: Sat Sep 17, 2011 5:28 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby arun sound2545 » Thu Oct 06, 2011 10:39 pm

การกระทำที่สุดโต่งของพระเกษมจะทำให้คนเกิดการเข้าใจผิด และหลงไปยึดติด อย่างสุดโต่ง กับการไม่ติดยึด

ต่อไปคนก็จะมีการกระทำที่สุดโต่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น ลามปามไปถึงการไม่ยึดติดกับบุพการี ครูบาอาจารย์ เป็นต้น

มันจึงเป็นเรื่องที่มากกว่าการปลงอาบัติแล้วจบครับ

ผิดแล้วครับ
การไม่เคารพบุพการี หรือ ครูบาอาจารย์
ถามว่า ไม่เคารพเพราะอะไร
เราเคารพเพราะ อะไร
เราเคารพกันที่ความดี หาใช่ใครทำเราเกิดแล้วเราก็ต้องเคารพไม่
ยกตัวอย่าง ครู ที่เป็นคนสอนสั่งนักเรียนสาว
ถือว่า ควรเคารพ หากแต่สอนเสร็จ แล้วก็เอานักเรียนไปนอนด้วย
ถามว่า ตกลง ครูคนนี้ ทำดีหรือเปล่า?
เราเคารพกันที่ความดีนะครับ
ไม่ใด้เคารพที่เป็นครู
อยากจะทำอะไรก็ทำไป
ภายใต้ระบบประชาธิปไตย
ตราบใดที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนและ
ผู้อื่นเดือดร้อน
ประชาธิปไตย คือเสียงส่วนใหญ่
ไม่ใช่เสียงคนบ้าส่วนไหญ่
User avatar
arun sound2545
 
Posts: 115
Joined: Sat Sep 17, 2011 7:36 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 10:42 pm

sleepless wrote:
เช neverdie wrote:
เอางี้ ....

แล้วระหว่างการยึดติดในพระธรรมปฏิบัติตามคำสอนของตถาคต กับการยึดติดในพระพุทธรูป

อย่างไหนควรมีคุณค่ากว่ากันครับ ลองตอบผมหน่อย



คุณเช ชาวบ้านมีหลายระดับ บางคนเขาสามารถรับรู้สิ่งที่เป็นนามธรรมได้ แต่บางคนเขาต้องผ่านการรับรู้รูปธรรม ก่อนจะนำไปสู่นามธรรม

จึงต้องการเรือที่แตกต่างกันออกไป

หากจะกล่าวกันไปถึงที่สุดแล้ว ทั้งพระพุทธรูปและธรรม (ที่เราได้ยินได้ฟัง) ก็ล้วนเป็นสมมุติบัญญัติทั้งนั้น

การตบเศียรพระพุทธรูปหาได้สร้างประโยชน์แต่อย่างใดเลย เพราะอย่างที่บอก มันเหมือนการปล่อยเส้นฟางแล้วไปเกาะก้อนขี้หมาที่แย่กว่านั่นเอง

หรือคุณ เช ว่าการตบเศียรพระพุทธรูปก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวพุทธ? :D


ก็นี่เอง เพราะเข้าใจผิดกันอย่างนี้ เราจึงได้เห็นคนในประเทศเรามากมายไปนั่งขูดต้นไม้ขอหวย กราบซากลูกหมา บูชาซากลูกควาย จุดธูปใหว้ต้นไม้พิการ เพราะเข้าใจผิดว่าพระพุทธรูปเป็นรูปธรรม แล้วพระธรรมคำสั่งสอนเป็นนามธรรมจึงได้วุ่นวายกันอยู่อย่างนี้

ลองยกพระพุทธรูปที่บ้านขึ้นมาดูแล้วชี้ให้ดูหน่อยว่า ตรงไหนคือพระพุทธเจ้า หรือว่ามีใครเคยเห็นพระพักต์ของพระพุทธองค์กับตาตัวเองบ้าง นี่ต่างหากที่เป็นนามธรรม

การตบเศียรพระพุทธรูป ถึงตอนนี้อย่างน้อยก็เป็นเครื่องกระตุ้นในส่วนของผู้มีปัญญาในสังคมที่ไม่ได้เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนในชีวิตให้ได้หันมามองมาฉุกคิด บางคนอาจจะไม่เคยสนใจพระธรรมเลยมาชั่วชีวิตก็อาจจะได้ปลีกเวลามาดูมาศึกษาว่าพระธรรมมีอะไรบ้าง แล้วจะรู้ว่าธรรมนั้นมีแต่ของดีๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะธรรมอันเป็นเครื่องคุ้มครองโลก ธรรมอันเป็นเครื่องอยู่ของผู้ใหญ่ ธรรมอันทำให้สำเร็จในหน้าที่การงาน ธรรมอันทำให้เป็นศิริมงคลแก่ชีวิต ล้วนแล้วแต่เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ ศึกษาแล้วเอาไปปฏิบัติได้ทั้งสิ้นตามฐาณานุรูปของแต่ละคน
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 10:42 pm

Anubitz wrote:รบกวนช่วยชี้แจงเรื่องการยึดติดให้ฟังหน่อยได้มั๊ยครับ ที่ว่า เมื่อลึกยึดติดกับพระพุทธรูปแล้ว ไม่ยึดติดกับอะไร ก็คือการยึดติดหน่ะครับ ผมสนใจตรงนี้หน่ะครับ


พระเกษมสอนให้คนเลิกยึดติดกับรูปธรรมคือพระพุทธรูป ซึ่้งเป็นสรณะของชาวบ้าน

แล้วหันไปยึดติดกับนามธรรมคือ "การไม่ติดยึดกับพระพุทธรูป"

ส่งผลให้ตัวพระเกษมเองเกิดการกระทำที่สุดโต่งขึ้นมา
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby arun sound2545 » Thu Oct 06, 2011 10:43 pm

อีกอย่าง
อย่าหาว่าสอนกันนะครับ
อยากให้ใจเย็นๆกันและ
อยากให้แชร์ข้อมูลในความเห็นที่ต่างกัน
จะใด้เอามาเป็นความรู้กัน
อย่าดูถูกเหยียดหยามกันในภูมิความรู้เลย
จะทำให้ขุ่นเคื่องกันเปล่าๆ
อยากจะทำอะไรก็ทำไป
ภายใต้ระบบประชาธิปไตย
ตราบใดที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนและ
ผู้อื่นเดือดร้อน
ประชาธิปไตย คือเสียงส่วนใหญ่
ไม่ใช่เสียงคนบ้าส่วนไหญ่
User avatar
arun sound2545
 
Posts: 115
Joined: Sat Sep 17, 2011 7:36 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 10:46 pm

เอาสั้นๆตรงๆอีกที ...

ปัญหาของพระเกษมนั้น ไม่ได้อยู่ที่การตบเศียรพระพุทธรูปหรอก

แต่ปัญหาของพระเกษมอยู่ตรงที่พระท่านเทศบอกว่ายิ่งลักษณ์ไม่สมควรเป็นผู้นำต่างหาก

ใช่ไหมครับ
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby คนบาป » Thu Oct 06, 2011 10:47 pm

sleepless wrote:
คนบาป wrote:คล้ายๆ จะบอกว่ากราบพระพุทธรูปแล้วจะช่วยให้เกิดสมาธิ

แต่การทำสมาธิหรือวิถีเข้าสู่สมาธิ ไม่มีเรื่องกราบพระพุทธรูปแล้วจะเกิดสมาธินะ


ปุถุชนอย่างเรามันยังตัดขาดจากสมมุติบัญญัติไม่ได้หรอกคุณแคน

เราเดินไปแล้วก้มลงกราบพระพุทธเจ้าโดยไม่มีพระพุทธรูปได้หรือยัง

สำหรับบางคน การกราบพระพุทธรูปในห้องพระที่บ้าน ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นวัตรปฏิบัติเหมือนการเริ่มสูดลมหายใจจะเริ่มทำงานสักอย่าง

ไม่ได้หมายความว่าพระพุทธรูปทำให้เกิดสมาธิ แต่ ถามกลับว่า เลิกกราบไหว้พระพุทธรูปแล้วทำให้เกิดสมาธิสว่างไสวกว่าได้อย่างนั้นหรือ? ก็ไม่


ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีพระพุทธรูป ทำสมาธิได้มั๊ย

ไปอยู่ตามป่าตามเขาทำสมธิได้มั๊ย

นอนในโรงแรมทำสมาธิได้มั๊ย

นั่งทำงานที่โต๊ะทำสมาธิได้มั๊ย
Last edited by คนบาป on Thu Oct 06, 2011 10:49 pm, edited 1 time in total.
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby klser » Thu Oct 06, 2011 10:47 pm

sleepless wrote:
Anubitz wrote:รบกวนช่วยชี้แจงเรื่องการยึดติดให้ฟังหน่อยได้มั๊ยครับ ที่ว่า เมื่อลึกยึดติดกับพระพุทธรูปแล้ว ไม่ยึดติดกับอะไร ก็คือการยึดติดหน่ะครับ ผมสนใจตรงนี้หน่ะครับ


พระเกษมสอนให้คนเลิกยึดติดกับรูปธรรมคือพระพุทธรูป ซึ่้งเป็นสรณะของชาวบ้าน

แล้วหันไปยึดติดกับนามธรรมคือ "การไม่ติดยึดกับพระพุทธรูป"

ส่งผลให้ตัวพระเกษมเองเกิดการกระทำที่สุดโต่งขึ้นมา

การพยายามไม่ยึดติดอะไร จะเรียกว่า วิภวตัณหา ก็ได้
User avatar
klser
 
Posts: 171
Joined: Tue Oct 14, 2008 6:18 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 10:52 pm

klser wrote:
sleepless wrote:
Anubitz wrote:รบกวนช่วยชี้แจงเรื่องการยึดติดให้ฟังหน่อยได้มั๊ยครับ ที่ว่า เมื่อลึกยึดติดกับพระพุทธรูปแล้ว ไม่ยึดติดกับอะไร ก็คือการยึดติดหน่ะครับ ผมสนใจตรงนี้หน่ะครับ


พระเกษมสอนให้คนเลิกยึดติดกับรูปธรรมคือพระพุทธรูป ซึ่้งเป็นสรณะของชาวบ้าน

แล้วหันไปยึดติดกับนามธรรมคือ "การไม่ติดยึดกับพระพุทธรูป"

ส่งผลให้ตัวพระเกษมเองเกิดการกระทำที่สุดโต่งขึ้นมา

การพยายามไม่ยึดติดอะไร จะเรียกว่า วิภวตัณหา ก็ได้


พระเกษมบอกว่าไม่ให้ยึดติดในพระพุทธรูป แต่ให้ยึดติดในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ครับ

อย่างนี้ย่อมไม่ใช่วิภวตัณหาแน่นอน ต้องเรียกว่าสัมมาทิฏฐิจึงจะถูกครับ
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 10:53 pm

เช neverdie wrote:
ก็นี่เอง เพราะเข้าใจผิดกันอย่างนี้ เราจึงได้เห็นคนในประเทศเรามากมายไปนั่งขูดต้นไม้ขอหวย กราบซากลูกหมา บูชาซากลูกควาย จุดธูปใหว้ต้นไม้พิการ เพราะเข้าใจผิดว่าพระพุทธรูปเป็นรูปธรรม แล้วพระธรรมคำสั่งสอนเป็นนามธรรมจึงได้วุ่นวายกันอยู่อย่างนี้


คุณ เช ผมไม่ได้พูดถึงการกราบซากลูกหมา บูชาซากลูกควายนะครับ อย่าเหมารวม :)

ผมกำลังพูดถึงการกราบไหว้ตัวแทนของพระพุทธเจ้านะครับ

คุณเช ลองให้ชาวบ้านเดินเข้าไปที่วัดที่ไม่มีพระสงฆ์ ไม่มีพระพุทธรูป แล้วให้กราบพระพุทธเจ้าดูสิครับ ว่าเขาจะกราบได้หรือเปล่า



เช neverdie wrote:
ลองยกพระพุทธรูปที่บ้านขึ้นมาดูแล้วชี้ให้ดูหน่อยว่า ตรงไหนคือพระพุทธเจ้า หรือว่ามีใครเคยเห็นพระพักต์ของพระพุทธองค์กับตาตัวเองบ้าง นี่ต่างหากที่เป็นนามธรรม


เอางี้ คุณ เช คิดว่าทำไมพระป่าทั้งหลายยังกราบไหว้อิฐปูนอยู่ ไม่เอาไปขว้างทิ้ง ทั้งๆ ที่ท่านเหล่านั้นเดินไปตามถนน ก้มลงกราบลงไปที่ไหน ก็คือกราบพระพุทธที่นั่น เหตใดท่านพระอริยะเหล่านั้นยังกราบพระพุทธรูปให้ขาวบ้านดูอยู่ทุึกวัน


เช neverdie wrote:
การตบเศียรพระพุทธรูป ถึงตอนนี้อย่างน้อยก็เป็นเครื่องกระตุ้นในส่วนของผู้มีปัญญาในสังคมที่ไม่ได้เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนในชีวิตให้ได้หันมามองมาฉุกคิด


อันนั้นเป็นข้อแก้ตัวของพระเกษมครับ :)
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 10:56 pm

arun sound2545 wrote:ผิดแล้วครับ
การไม่เคารพบุพการี หรือ ครูบาอาจารย์
ถามว่า ไม่เคารพเพราะอะไร
เราเคารพเพราะ อะไร
เราเคารพกันที่ความดี หาใช่ใครทำเราเกิดแล้วเราก็ต้องเคารพไม่
ยกตัวอย่าง ครู ที่เป็นคนสอนสั่งนักเรียนสาว
ถือว่า ควรเคารพ หากแต่สอนเสร็จ แล้วก็เอานักเรียนไปนอนด้วย
ถามว่า ตกลง ครูคนนี้ ทำดีหรือเปล่า?
เราเคารพกันที่ความดีนะครับ
ไม่ใด้เคารพที่เป็นครู


ผมกำลังจะบอกว่าการกระทำอันสุดโต่งของพระเกษมอาจจะทำให้เกิดลามปามโดยใช้ตรรกะเดียวกันได้ว่า
ก็พ่อแม่กูมันก็แค่เซลล์หลายล้่านเซลล์มาประกอบกันนี่หว่า ทำไมกูต้องเคารพด้วย
กรุณาเข้าใจใหม่ครับ :D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Thu Oct 06, 2011 10:57 pm

เอาสั้นๆตรงๆอีกที ...

ปัญหาของพระเกษมนั้น ไม่ได้อยู่ที่การตบเศียรพระพุทธรูปหรอก

แต่ปัญหาของพระเกษมอยู่ตรงที่พระท่านเทศบอกว่ายิ่งลักษณ์ไม่สมควรเป็นผู้นำต่างหาก

ใช่ไหมครับ
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Thu Oct 06, 2011 10:58 pm

คนบาป wrote:
ไปอยู่ในที่ที่ไม่มีพระพุทธรูป ทำสมาธิได้มั๊ย

ไปอยู่ตามป่าตามเขาทำสมธิได้มั๊ย

นอนในโรงแรมทำสมาธิได้มั๊ย

นั่งทำงานที่โต๊ะทำสมาธิได้มั๊ย


ได้ทุกข้อเลยคุณแคน

คราวนี้ผมถามกลับนะ :D

เลิกกราบไหว้พระพุทธรูปแล้วทำให้ทำสมาธิได้หรือ?
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron