guxkung wrote:เห็นพูดถึงฝรั่งเศสแล้ว บังเอิญเหลือบไปดูธงฝรั่งเศส
แล้วเกิดสงสัยว่าทำไม ธงไตรรงค์ ถึง ไปคล้ายกับธงฝรั่งเศส มีความเป็นมาอะไรหรือเปล่าครับ?
ขออภัยที่ออกนอกเรื่องครับ แต่เกิดสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ
Huligan wrote:
รู้สึกว่า บางท่านที่เคยเข้ามาร่วมแจมกับ อาจารย์แอมฯ ในวันนี้ ก็เคยเข้าไปโต้แย้ง โรดาก คนนั้นมาก่อนเช่นกัน![]()
bloglink2011 wrote:guxkung wrote:เห็นพูดถึงฝรั่งเศสแล้ว บังเอิญเหลือบไปดูธงฝรั่งเศส
แล้วเกิดสงสัยว่าทำไม ธงไตรรงค์ ถึง ไปคล้ายกับธงฝรั่งเศส มีความเป็นมาอะไรหรือเปล่าครับ?
ขออภัยที่ออกนอกเรื่องครับ แต่เกิดสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ[/quote![]()
![]()
![]()
เห็นด้วยamplepoor wrote:ร. 6 ใช้ธงฝรั่งเศสเป็นต้นแบบครับ แล้วเพิ่มเป็นสองทบ ให้สีน้ำเงินอยู่กลาง แทนกษัตริย์
-----------------
เหตุที่ทรงเปลี่ยนเพราะมีคนติดธงช้างผิด ดูน่ารังเกียจ จึงทรงเลือกแบบชนิดที่ไม่มีทางติดผิดมาใช้
ดราม่า wrote:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7
ผมโพสเนื้อหาของสมุดปกขาวในวิกีพีเดีย แต่ก็โดนลบอย่างรวดเร็ว![]()
ทั้งๆที่ก็กดลิงค์มาจาก"สมุดปกเหลือง"แท้ๆ
พระบรมราชวินิจฉัย ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า พึ่งไปพบมาครับ
http://goo.gl/khqB8
เป็นpdf
http://file.uploadfile.biz/i/ENIEMEIIIMWNME
amplepoor wrote:ก่อนตายสักสองสามปี ปรีดีให้สัมถาษณ์เอเชียวีค 28 ตุลาคม 2323 ที่คนทั่วไปมักจะยกประโยคเท่มาอ้าง
ข้าพเจ้าอายุ 32 ปี พวกเราได้ทำการอภิวัฒน์ แต่ข้าพเจ้าก็ขาดความชัดเจน และครั้นข้าพเจ้ามีความจัดเจนมากขึ้น ข้าพเจ้าก็ไม่มีอำนาจ
นั่นเป็นคำปิดท้าย ที่จริงแล้ว ประโยคนำมีความสำคัญกว่ามาก เรียกว่าเป็นระดับปรีดีวิพากษ์ปรีดีทีเดียว
เมื่อเราเริ่มจัดตั้งกลุ่มแกนของ พรรคอภิวัฒน์ในปารีส ข้าพเจ้ามีอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น หนุ่มมาก หนุ่มทีเดียว ขาดความชัดเจน แม้ว่าข้าพเจ้าได้รับปริญญาแล้วจะได้คะแนนสูงสุด แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าทางทฤษฎี ข้าพเจ้าไม่มีความจัดเจน และโดยปราศจากความจัดเจน บางครั้งข้าพเจ้าประยุกษ์ทฤษฎีอย่างนักตำรา ข้าพเจ้าไม่ได้นำเอาความเป็นจริงในประเทศของข้าพเจ้ามาคำนึงด้วย ข้าพเจ้าติดต่อกับประชาชนไม่พอ ความรู้ทั้งหมดของข้าพเจ้าเป็นความรู้ตามหนังสือ ข้าพเจ้าไม่ได้เอาสาระสำคัญของมนุษย์มาคำนึงด้วยให้มากเท่าที่ข้าพเจ้าควรจะมี
ผมอยากรู้ว่า ที่พวกนักวิชาการมันยกย่องปรีดีกันเลิศเลอน่ะ
มันอ่านคำสารภาพนี้เข้าใจหรือเปล่า มันจะเอางานที่เจ้าตัวบอกเองว่ามีแต่ทฏษฎี เป็นนักตำรา "ไม่ได้นำเอาความเป็นจริงในประเทศของข้าพเจ้ามาคำนึงด้วย" ไม่ได้สัมผัสกับประชาชน เรียกว่าไม่ติดดินนั่นแหละ ไม่ได้เอาสาระสำคัญของมนุษย์มาคำนึง.........มาเทิดทูนอีกหรือ
ยังจะเอารัฐธรรมนูญห่วยๆ ที่นายคนนี้ทำไว้ผิดๆ กลับมาใช้ โหยยย โง่ซ้าาา.......
ใหนคุยว่า เคารพเจตจำนงปรีดีงัยละ
เช neverdie wrote:ยาวไปเลยลูกเพ่ ซ้ายว่าง
ตามอ่านอย่างสนุกสนาน
![]()
![]()
amplepoor wrote:ข้อความตรงนี้ แสดงความสิ้นคิดของปรีดี
คนมั่งมีในสมัยหนึ่ง ต้องกลับเป็นคนยากจนในอีกสมัยหนึ่ง หรือมรดกที่ตกทอดไปถึงบุตรต้องละลายหายสูญ ไม่คงอยู่ตลอดชีวิตของบุตร บุตรของผู้มั่งมีกลับตกเป็นของคนยากจน
ดราม่า wrote:ข้างบนนั่นตรงกับประวัติวัยเด็กของท่านปรีดีนะครับ พ่อแม่เป็นเจ้าของนา เคยมั่งมีมาก่อน และมายากจนลงภายหลังจากการทำนาล้มเหลวamplepoor wrote:ข้อความตรงนี้ แสดงความสิ้นคิดของปรีดีคนมั่งมีในสมัยหนึ่ง ต้องกลับเป็นคนยากจนในอีกสมัยหนึ่ง หรือมรดกที่ตกทอดไปถึงบุตรต้องละลายหายสูญ ไม่คงอยู่ตลอดชีวิตของบุตร บุตรของผู้มั่งมีกลับตกเป็นของคนยากจน
amplepoor wrote:ญีปุ่นทำสงครามพร้อมกันโดยแอบบุกอ่าวมุก ถล่มเมกาก่อน พร้อมๆ กับที่ถล่มอังกฤษที่สิงคโปร์ และยกพลขึ้นบกตลอดภาคใต้ สยามต่อสู้อย่างดล้าหาญ มีอนุสาวรีย์เจ้าพ่อดำ และยุวชนทหารที่ชุมพรเป็นหลักฐาน ตั้งแต่เช้ามีดของวันที่ 8 ธันวาคม 2484
ถึงวันที่ 12 ธันวาคม จอมพลป. นายกก็ประกาศร่วมมือกับญี่ปุ่น ในวันนั้นเอง ที่อเมริกา
มรว. เสนีย์ ปราโมช เอกอัครราชทูตไทยก็ประกาศไม่ยอมรับการกระทำของจอมพลป. วันนั้นคือวันเริ่มต้นของขบวนการเสรีไทย
หลังจากนั้นจึงเกิดเสรีไทยที่อังกฤษ และเสรีไทยในประเทศ
ท่านคงจะคิดออกว่า ใครควรได้รับการยกย่องอย่างแท้จริงในการจัดตั้งเสรีไทย
อ้อ
เพราะสัมพันธไมตรีที่ดี ที่เสนีย์มีกับรัฐบาลเมกา เมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้ อังกฤษมารดามันจะเข้ามาปลดอาวุธเรา เพราะมันถือว่าเราเป็นฝ่ายแพ้สงคราม แต่เมกาไม่เห็นด้วย....ถ้าไม่ใช่เพราะมีเสรีไทยสายอเมริกาเป็นที่ยอมรับ ท่านคิดว่าลำพังนายปรีดี จะทัดทานกองทัพอังกฤษได้ละหรือ
เรื่องเสรีไทยนี้ ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยแบบปรีดี๊ ปรีดี คือเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น
amplepoor wrote:ในสถานะการณ์สงคราม วิทยุอเมริกาก็ไม่ใช่ว่าใครอยากออกอากาศก็ทำได้นะครับ
การที่เสนีย์พูดออกอากาศได้ นั่นหมายความว่า รัฐบาลสหรัฐให้การยอมรับและการจัดตั้งขบวนการ มีระบบรองรับแน่ชัด พูดกันตรงๆ น่ะ หัวหน้าเสรีไทยที่แท้จริง คือเสนีย์ ไม่ใช่ปรีดี
เพราะปรีดีก็เหมือนทุกครั้งที่ทำการใหญ่ เป็นต้องให้คนอื่นตายแทน เสรีไทยก็เช่นกัน
การต่อต้านในประเทศนั้น หลวงอดุลยเดชจำรัส อธิบดีตำรวจเสียอีก ที่แสดงตนชัดว่าไม่เอาญี่ปุ่น
จำได้ว่า ประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2488 คุณถวิล อุดล อดีตเสรีไทยประจำประเทศจีน ได้เดินทางจากพระนครไปร้อยเอ็ด แวะเยี่ยมคนรู้จักและข้าพเจ้าที่อุบล พร้อมกันนั้น คุณหลวงกาจสงคราม ซึ่งกลับจากเมืองจีนก็ได้พบกัน ทั้งสองท่านปรารภเรื่องตั้งพรรคการเมือง พรรคที่ท่านทั้งสองชวนให้ร่วมมือนั้น คือ "พรรคสหชีพ" ข้าพเจ้าไม่ได้แสดงความขัดข้องหรือเห็นชอบประการใด เป็นแต่ไต่ถามความละเอียดบางประการ คงได้ความว่าบุคคลส่วนมากที่เริ่ม และร่วมก่อการเป็นเสรีไทยเกือบทั้งหมด เมื่อได้หลักนโยบายโดยตลอดแล้ว ข้าพเจ้าเห็นชอบเกือบทั้งนั้น แต่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ จำได้ว่าไม่มีบ่งชัด ดูเหมือนข้าพเจ้าทักว่า น่าจะมีไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวนโยบายนั้น ทราบว่า ท่านอาจารย์ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม มีส่วนรู้ส่วนเห็นอยู่ด้วย เกรงว่าจะถูกมองไปในแง่ไม่สุ้เป็นมงคล อีกประการหนึ่ง ข้าพเจ้าทักว่า พรรคนี้มาจากเสรีไทย น่าจะเป็นไปในทำนองแยกพวก พวกเสรีไทยและมิใช่เสรีไทย ทุกข้อทุกกระทรงข้าพเจ้าได้รับคำชี้แจง แต่ว่าความในใจมีประการใด ข้าพเจ้าไม่อาจทัดทานโต้แย้ง ต่อมาก็มีเพื่อนสหชีวกผู้หนึ่ง ที่ข้าพเจ้าไม่หาญที่จะออกชื่อได้ ได้พบกันที่พระยครในโอกาสที่ข้าพเจ้า มาธุระเกี่ยวแก่บริษัทอุบลจังหวัด ท่านสหชีวกผู้นั้นชวนข้าพเจ้า ด้วยการยกเอาชื่อท่านอาจารย์หลวงประดิษฐ์ฯ กับท่านศาสตราจารย์คนหนึ่ง* มาอ้างว่า นโยบายนี้ท่านเป็นผู้ให้แนวคิดแก้ร่าง เป็นที่เชื่อได้ว่าไม่มีบกพร่อง
มาถึงตอนนี้ ข้าพเจ้าจึงถือโอกาสแสดงธรรมเล็กน้อย เป็นเหตุให้เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนรุ่นเก่าที่ไม่รู้จักวันกลับ คือ เตียง ศิริขันธ์ ล้อเลียนข้าพเจ้าว่า อ้ายลื้อมันดีแต่เข้าวัดเท่านั้น เอะอะก็ธรรมะเสียเรื่อย ข้าพเจ้าบอกว่า พระพุทธองค์ทรงสอนมิให้เชื่อโดยอ้างตำรา มิให้เชื่โดยอ้างครูอาจารย์ มิให้เชื่อโดยคาดเอาเดาเอา ฯลฯ ต้องเชื่อต้องเห็นชอบด้วยปัญญา ความเห็นชอบของตนเอง
เป็นอันว่า ในที่สุดข้าพเจ้ามิได้สมัครสังกัดพรรคสหชีพ ขณะนั้นพรรคสหชีพเป็นรัฐบาล ข้าพเจ้าก็เป็นฝ่ายค้านตามธรรมเนียม