ปรีดี แฮททริค

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Thu Oct 06, 2011 7:05 pm

ระหว่างทำบัญชีรายชื่อ ตัวกระผมเองก็เกิดความสงสัยนักหนาว่า โดนกันไปขนาดนั้น ประเทศไทยก็ยังค่อยๆ กระต้วมกระเตี้ยมมาได้

แล้วไฉนพวกท่าน จึงมาระบุว่า 2549 เป็นการรัฐประหารที่สร้างผลเสียหายร้ายแรงที่สุดหรา......

ผมว่า เสียหายร้ายแรงน่ะ คือท่านทักษิณคนเดียวนะ

แต่ท่านสมัคร ท่านสวมชาย ท่านยิ่งเละ ได้รับผลดีอิ๊บอ๋ายเลยละท่าน

จู่ๆ ก็ได้เป็นนายก


จริงป่ะ

ล้างผลของการรัฐประหารแล้ว สามคนนี้ก็อดเป็นนายกอะดิ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby guxkung » Thu Oct 06, 2011 7:38 pm

เห็นพูดถึงฝรั่งเศสแล้ว บังเอิญเหลือบไปดูธงฝรั่งเศส
แล้วเกิดสงสัยว่าทำไม ธงไตรรงค์ ถึง ไปคล้ายกับธงฝรั่งเศส มีความเป็นมาอะไรหรือเปล่าครับ?

ขออภัยที่ออกนอกเรื่องครับ แต่เกิดสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ
ผมไม่รู้ ผมแมว
User avatar
guxkung
 
Posts: 989
Joined: Mon Jun 13, 2011 7:26 pm

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby มะเขือเทศเน่า » Thu Oct 06, 2011 7:43 pm

guxkung wrote:เห็นพูดถึงฝรั่งเศสแล้ว บังเอิญเหลือบไปดูธงฝรั่งเศส
แล้วเกิดสงสัยว่าทำไม ธงไตรรงค์ ถึง ไปคล้ายกับธงฝรั่งเศส มีความเป็นมาอะไรหรือเปล่าครับ?

ขออภัยที่ออกนอกเรื่องครับ แต่เกิดสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ


ผมคิดว่าไม่เกี่ยว เพราะธงชาติไทยที่เป็นธงไตรรงค์เริ่มใช้ในสมัย ร.6
เนื่องจากธงชาติไทยแบบเดิมที่เป็นธงช้าง(ช้างเผือกบนผืนธงสีแดงล้วน)
ต้องสั่งผ้าพิมพ์จากต่างประเทศ
อีกอย่าง ถ้านำไปใช้ผิดที่ผิดทาง เช่น ให้ผืนธงห้อยลงมาในแนวตั้ง
ก็จะดูไม่งาม ไม่เหมาะสม เหมือนช้างเอาเท้าชี้ฟ้า

ถ้าทำธงชาติที่ไม่มีลวดลายอะไร มีแต่แถบสี
ประชาชนทั่วไปก็สามารถตัดเย็บได้เอง เริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ.2460
การเมืองทำให้ปวดหัว แต่อย่ากลัวที่จะรับฟัง อิอิ
อย่าปล่อยให้คำว่า "ประชาธิปไตย" และ "ประชาชน"
ถูกใช้เป็นเครื่องมือหากินของนักการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตน
User avatar
มะเขือเทศเน่า
 
Posts: 2525
Joined: Sat May 01, 2010 9:43 pm

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Thu Oct 06, 2011 7:49 pm

ร. 6 ใช้ธงฝรั่งเศสเป็นต้นแบบครับ แล้วเพิ่มเป็นสองทบ ให้สีน้ำเงินอยู่กลาง แทนกษัตริย์

พวกมันถึงพยายามจะเปลี่ยนธงงัยครับ
สมัยก่อนใช้ธงไตรรงค์กันเป็นปกติ เดี๋ยวนี้ ค่อยๆ ลดลง เน้นธงแดงลูกเดียว
-----------------
เหตุที่ทรงเปลี่ยนเพราะมีคนติดธงช้างผิด ดูน่ารังเกียจ จึงทรงเลือกแบบชนิดที่ไม่มีทางติดผิดมาใช้
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby Huligan » Thu Oct 06, 2011 10:41 pm

จำได้ว่าเมื่อก่อน เจ้าของนามแฝง โรดาก เคยเข้ามาตั้งกระทู้ด่า ปรีดี ในลากดำนา(สมัยที่ยังไม่แดง)บ่อยๆ
แต่เป็นการด่าแบบไม่มีมูล ออกแนวล่อเป้ามากกว่า
รู้สึกว่า บางท่านที่เคยเข้ามาร่วมแจมกับ อาจารย์แอมฯ ในวันนี้ ก็เคยเข้าไปโต้แย้ง โรดาก คนนั้นมาก่อนเช่นกัน ;)

*เชื่อว่า หลายคนในนี้ก็ไม่ได้เกลียดปรีดีเสียทีเดียว แต่ไม่ชอบการพยายามบิดเบือนที่กลุ่มอาจมนี้ทำอยู่
อาจมีบางคนที่ไม่ชอบแกจริงๆ ซึ่งก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขา
8-)
ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้

การตัดหางลูกอ๊อด ไม่ได้ทำให้ลูกอ๊อดกลายเป็นกบได้!!!
User avatar
Huligan
 
Posts: 1203
Joined: Mon Jan 12, 2009 3:33 pm

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Thu Oct 06, 2011 11:07 pm

Huligan wrote:
รู้สึกว่า บางท่านที่เคยเข้ามาร่วมแจมกับ อาจารย์แอมฯ ในวันนี้ ก็เคยเข้าไปโต้แย้ง โรดาก คนนั้นมาก่อนเช่นกัน ;)
8-)


ผมป่าวเป็นจานครับ เป็นคนธรรมดาๆ แค่นั้น บางอย่างก็อาจจะรู้บางอย่างก็อาจจะไม่รู้ แต่พยายามเข็คทุกครั้งก่อนจะส่งความเห็น ถ้าผิดก็ท้วงนะครับ จะได้แก้ไข
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby คนบาป » Thu Oct 06, 2011 11:13 pm

กระทู้โรดักในราชดำเนิน จำได้แต่ผมกับลุงปุฯ นอกนั้นก็เลือนๆ แล้ว
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby bloglink2011 » Fri Oct 07, 2011 12:48 am

[quote="guxkung"]เห็นพูดถึงฝรั่งเศสแล้ว บังเอิญเหลือบไปดูธงฝรั่งเศส
แล้วเกิดสงสัยว่าทำไม ธงไตรรงค์ ถึง ไปคล้ายกับธงฝรั่งเศส มีความเป็นมาอะไรหรือเปล่าครับ?

ขออภัยที่ออกนอกเรื่องครับ แต่เกิดสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ[/quote :shock: :shock: :shock:

เห็นด้วย
User avatar
bloglink2011
 
Posts: 5
Joined: Thu Oct 06, 2011 11:53 pm

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 1:53 am

bloglink2011 wrote:
guxkung wrote:เห็นพูดถึงฝรั่งเศสแล้ว บังเอิญเหลือบไปดูธงฝรั่งเศส
แล้วเกิดสงสัยว่าทำไม ธงไตรรงค์ ถึง ไปคล้ายกับธงฝรั่งเศส มีความเป็นมาอะไรหรือเปล่าครับ?

ขออภัยที่ออกนอกเรื่องครับ แต่เกิดสงสัยขึ้นมาตะหงิดๆ[/quote :shock: :shock: :shock:

เห็นด้วย



amplepoor wrote:ร. 6 ใช้ธงฝรั่งเศสเป็นต้นแบบครับ แล้วเพิ่มเป็นสองทบ ให้สีน้ำเงินอยู่กลาง แทนกษัตริย์
-----------------
เหตุที่ทรงเปลี่ยนเพราะมีคนติดธงช้างผิด ดูน่ารังเกียจ จึงทรงเลือกแบบชนิดที่ไม่มีทางติดผิดมาใช้
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 11:20 am

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7

ผมโพสเนื้อหาของสมุดปกขาวในวิกีพีเดีย แต่ก็โดนลบอย่างรวดเร็ว :?:

ทั้งๆที่ก็กดลิงค์มาจาก"สมุดปกเหลือง"แท้ๆ


พระบรมราชวินิจฉัย ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า พึ่งไปพบมาครับ
http://goo.gl/khqB8
เป็นpdf
http://file.uploadfile.biz/i/ENIEMEIIIMWNME
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm


Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 1:05 pm

ดราม่า wrote:http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7

ผมโพสเนื้อหาของสมุดปกขาวในวิกีพีเดีย แต่ก็โดนลบอย่างรวดเร็ว :?:

ทั้งๆที่ก็กดลิงค์มาจาก"สมุดปกเหลือง"แท้ๆ


พระบรมราชวินิจฉัย ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า พึ่งไปพบมาครับ
http://goo.gl/khqB8
เป็นpdf
http://file.uploadfile.biz/i/ENIEMEIIIMWNME



แปลกดี เขาระบุเหตุผลที่ลบว่า บทความไม่มีเนื้อหาที่มีความหมายหรือความสำคัญ ดูประวัติคนลบ ก็ดูเหมือนจะเล่นแต่เรื่องอิสลาม

เราจะยืนยันการโพสต์ได้ใหมครับ อ้อ ยังมีอีกหมวดที่เกี่ยวกับพระราชนิพนธ์ ลองไปลงไว้ที่นั่นแล้วลิ้งค์ให้โยงกับปรีดีได้ใหม
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 1:09 pm

เมื่อเขาไม่ยอมลง เราเอามาแปะที่นี่ก็ได้ แต่ยาวมากนะครับ ผมจะลงตามที่อยากให้อ่าน ฉบับเต็มเวบนิดาลงไว้แล้ว เชิญแวะไปอ่าน
http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2004q ... ug01p1.htm

และต้องอ่านเรื่องประกอบที่สถาบันพระปกเกล้าทำไว้ด้วย
http://thaipoliticsgovernment.org/wiki/ ... 3%E0%B8%A1

พระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ
คัดจาก ปรีดี พนมยงค์ ,ปรีดี พนมยงค์กับสังคมไทย (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , 2526) หน้า 173-259

ข้าพเจ้าได้อ่าน เค้าโครงเศรษฐกิจ และร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกันความสุขสมบูรณ์ของราษฎร และเค้าร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกอบเศรษฐกิจตลอดแล้ว ขอให้ความเห็นพิจารณาข้อความต่างๆ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ว่าด้วยหลักของราษฎร
ความในหมวดนี้ข้าพเจ้าไม่มีความเห็นอันใดพิศดาร นอกจากว่าจะจัดการบำรุงเศรษฐกิจนั้นก็ดีแล้ว แต่ข้อสำคัญมีอยู่เพียงว่า ถ้าจะทำตามโครงการเศรษฐกิจดังนี้เมื่อใด ขอให้จัดการให้ราษฎรได้เป็นผู้เลือกที่จะได้ใช้การเศรษฐกิจดังนี้จริงๆ คือ ขอให้ฟังเสียงราษฎรจริงๆ อย่าได้หักโหมบังคับเอาโดยทางอ้อม หรือทางใดทางหนึ่งให้ออกเสียงเห็นด้วยเลย ขออย่าโกรธราษฎรถ้าเขาพากันออกเสียงว่าไม่ชอบวิธีเหล่านี้ ซึ่งย่อมทำให้เกิดความไม่พอใจแก่พวกของผู้เขียนโดยแน่นอน และอย่าได้ว่าราษฎรนั้นถือทิฐิมานะงมงายหรือเป็นอุบาทว์กาลีโลก

ข้อ ๒ ความแร้นแค้นของราษฎร
ผู้เขียนเล่าว่าราษฎรเวลานี้นั้นแร้นแค้นอดอยากเต็มทน และราษฎรทั่วไปไม่ทราบเลยว่ารุ่งขึ้นจะมีอาหารเพียงพอ ไม่ขาดแคลนหรือไม่ ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า ราษฎรของเราตลอดจนชนชั้นคนขอทานยังมิปรากฎเลยว่าอดตาย คนที่อดตายจะมีก็แต่คนที่กลืนไม่ลงเพราะความเจ็บไข้เท่านั้น แม้แต่สุนัขตามวัดก็ปรากฎยังไม่มีอดตาย แม้แต่ในปีน้ำท่วม พ.ศ.๒๔๖๐ ผู้เขียนก็ยังกล่าวเองในเค้าโครงเศรษฐกิจภาค ๒ ว่าไม่มีราษฎรอดตายเพราะมีข้าวเพียงพอที่จะแจกกันกิน และยังมีเหลือเอาไปจำหน่ายยังต่างประเทศเสียด้วยซ้ำ ความอดอยากแร้นแค้นนี้ย่อมแล้วแต่ตราชู อะไรชั่งเครื่องวัด คนที่ได้รับเงินเดือน ๒๐๐ บาท ก็นับว่าอดอยากแร้นแค้นก็ได้ ถ้าเทียบการกินอยู่กับผู้ที่ได้เงินเดือนๆละ ๑,๐๐๐ บาท จริงอยู่ราษฎรของเรายังไม่มีตึกอยู่โดยทั่วไป และไม่มีเครื่องแต่งตัวฝรั่งแต่โดยทั่วไป และไม่มีรายได้เท่ากับคนงานของฝรั่ง ถ้าคิดเทียบตามอัตราเงินแบบฝรั่งนั้น ได้มากก็ใช้มาก เพราะราคาเงินของเขาถึงแม้จะสูงก็จริงเมื่อเทียบกับเงินเรา แต่อำนาจในการซื้อของบำรุงร่างกายนั้นมีน้อยกว่าของเราแน่ๆ ถ้าจะเปรียบถึงใจและความพอใจของราษฎรฝรั่งและราษฎรของเราแล้ว ข้าพเจ้าเชื่อว่าราษฎรของเรามีความสุขใจมากกว่าเสียอีก ข้าพเจ้ายอมรับว่าฐานะของการกินอยู่ของราษฎรของเราแล้วยังต่ำกว่าฐานะของราษฎรในเมืองต่างประเทศ ดังเช่นอังกฤษหรืออเมริกา แต่ตามรายงานของโปรเฟซเซอร์ซิมเมอร์แมนนั้น กล่าวว่า ฐานะของเรานี้สูงกว่าบรรดาราษฎรในประเทศอื่นๆในทวีปอาเซีย (เฉพาะบนพื้นทวีปไม่รวมเกาะต่างๆ) และมีความอดอยากแร้นแค้นทั้งกายและใจน้อยกว่าราษฎรชาวนาในประเทศรัสเซีย ซึ่งใช้โครงการเศรษฐกิจรูปนี้อยู่ ณ บัดนี้โดยแน่นอน ราษฎรของเรามีน้อยคนหรือจะไม่มีก็ได้ที่นอนกลางคืนแล้วนึกว่ารุ่งขึ้นเช้าจะหากินไม่ได้ นอกจากผู้นั้นจะกระดุกกระดิกตัวไม่ได้ หาไม่ฉะนั้นคงหาอาหารกินเพียงพอหรือไม่ ในประเทศรัสเซียเสียอีกที่ราษฎรนอนตาไม่หลับ รุ่งขึ้นไม่ทราบว่าจะได้กินอาหารเพียงพอหรือไม่ ถ้าสหกรณ์หาอาหารมาไม่ได้เพียงพอแล้ว ซึ่งปรากฎอยู่เป็นประจำวน การซื้ออาหารก็ซื้อหามากไม่ได้ บางครั้งอาจจะต้องอดด้วยซ้ำ จะไปขอใครเขากินก็ไม่ได้ จะกลับไปทำของตัวกินก็ไม่ได้ เพราะไม่มีที่จะไปทำกินเสียแล้ว คนไทยเราถ้ายังมีนา มีสวน ที่จะปลูกข้าวปลูกผักได้แล้ว ก็ยังหวังอยู่ได้เสมอว่าจะพอหาข้าวกินได้ไม่อดอยาก นอกจากถ้าดำเนินกิจการแบบรัสเซียแล้ว ความอดอยากจนตายนี้อาจปรากฎกลายเป็นจริงขึ้นได้ โปรเฟซเซอร์ซิมเมอร์แมนก กล่าวว่า รายได้และฐานะการกินอยู่ของราษฎรไทยนั้นสูงกว่าราษฎรชาติใดๆทั้งหมดในทวีปอาเซียที่อยู่บนพื้นทวีปเป็นส่วนสำคัญ ย่อมเป็นเครื่องสนับสนุนความคิดเห็นของข้าพเจ้าอีกส่วนหนึ่ง
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 1:26 pm

ข้อความที่ควรเน้น (ขออนุญาตงดใช้ราชาศัพท์นะครับ)

้าจะทำตามโครงการเศรษฐกิจดังนี้เมื่อใด ขอให้จัดการให้ราษฎรได้เป็นผู้เลือกที่จะได้ใช้การเศรษฐกิจดังนี้จริงๆ คือ ขอให้ฟังเสียงราษฎรจริงๆ อย่าได้หักโหมบังคับเอาโดยทางอ้อม หรือทางใดทางหนึ่งให้ออกเสียงเห็นด้วยเลย

ผู้เขียนเล่าว่าราษฎรเวลานี้นั้นแร้นแค้นอดอยากเต็มทน และราษฎรทั่วไปไม่ทราบเลยว่ารุ่งขึ้นจะมีอาหารเพียงพอ ไม่ขาดแคลนหรือไม่ ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า ราษฎรของเราตลอดจนชนชั้นคนขอทานยังมิปรากฎเลยว่าอดตาย

ตามรายงานของโปรเฟซเซอร์ซิมเมอร์แมนนั้น กล่าวว่า ฐานะของเรานี้สูงกว่าบรรดาราษฎรในประเทศอื่นๆในทวีปอาเซีย (เฉพาะบนพื้นทวีปไม่รวมเกาะต่างๆ) และมีความอดอยากแร้นแค้นทั้งกายและใจน้อยกว่าราษฎรชาวนาในประเทศรัสเซีย ซึ่งใช้โครงการเศรษฐกิจรูปนี้อยู่ ณ บัดนี้โดยแน่นอน
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 1:41 pm

ก่อนตายสักสองสามปี ปรีดีให้สัมถาษณ์เอเชียวีค 28 ตุลาคม 2323 ที่คนทั่วไปมักจะยกประโยคเท่มาอ้าง

ข้าพเจ้าอายุ 32 ปี พวกเราได้ทำการอภิวัฒน์ แต่ข้าพเจ้าก็ขาดความชัดเจน และครั้นข้าพเจ้ามีความจัดเจนมากขึ้น ข้าพเจ้าก็ไม่มีอำนาจ

นั่นเป็นคำปิดท้าย ที่จริงแล้ว ประโยคนำมีความสำคัญกว่ามาก เรียกว่าเป็นระดับปรีดีวิพากษ์ปรีดีทีเดียว

เมื่อเราเริ่มจัดตั้งกลุ่มแกนของ พรรคอภิวัฒน์ในปารีส ข้าพเจ้ามีอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น หนุ่มมาก หนุ่มทีเดียว ขาดความชัดเจน แม้ว่าข้าพเจ้าได้รับปริญญาแล้วจะได้คะแนนสูงสุด แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าทางทฤษฎี ข้าพเจ้าไม่มีความจัดเจน และโดยปราศจากความจัดเจน บางครั้งข้าพเจ้าประยุกษ์ทฤษฎีอย่างนักตำรา ข้าพเจ้าไม่ได้นำเอาความเป็นจริงในประเทศของข้าพเจ้ามาคำนึงด้วย ข้าพเจ้าติดต่อกับประชาชนไม่พอ ความรู้ทั้งหมดของข้าพเจ้าเป็นความรู้ตามหนังสือ ข้าพเจ้าไม่ได้เอาสาระสำคัญของมนุษย์มาคำนึงด้วยให้มากเท่าที่ข้าพเจ้าควรจะมี

ผมอยากรู้ว่า ที่พวกนักวิชาการมันยกย่องปรีดีกันเลิศเลอน่ะ

มันอ่านคำสารภาพนี้เข้าใจหรือเปล่า มันจะเอางานที่เจ้าตัวบอกเองว่ามีแต่ทฏษฎี เป็นนักตำรา "ไม่ได้นำเอาความเป็นจริงในประเทศของข้าพเจ้ามาคำนึงด้วย" ไม่ได้สัมผัสกับประชาชน เรียกว่าไม่ติดดินนั่นแหละ ไม่ได้เอาสาระสำคัญของมนุษย์มาคำนึง.........มาเทิดทูนอีกหรือ


ยังจะเอารัฐธรรมนูญห่วยๆ ที่นายคนนี้ทำไว้ผิดๆ กลับมาใช้ โหยยย โง่ซ้าาา.......

ใหนคุยว่า เคารพเจตจำนงปรีดีงัยละ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby overtherainbow » Fri Oct 07, 2011 1:49 pm

amplepoor wrote:ก่อนตายสักสองสามปี ปรีดีให้สัมถาษณ์เอเชียวีค 28 ตุลาคม 2323 ที่คนทั่วไปมักจะยกประโยคเท่มาอ้าง

ข้าพเจ้าอายุ 32 ปี พวกเราได้ทำการอภิวัฒน์ แต่ข้าพเจ้าก็ขาดความชัดเจน และครั้นข้าพเจ้ามีความจัดเจนมากขึ้น ข้าพเจ้าก็ไม่มีอำนาจ

นั่นเป็นคำปิดท้าย ที่จริงแล้ว ประโยคนำมีความสำคัญกว่ามาก เรียกว่าเป็นระดับปรีดีวิพากษ์ปรีดีทีเดียว

เมื่อเราเริ่มจัดตั้งกลุ่มแกนของ พรรคอภิวัฒน์ในปารีส ข้าพเจ้ามีอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น หนุ่มมาก หนุ่มทีเดียว ขาดความชัดเจน แม้ว่าข้าพเจ้าได้รับปริญญาแล้วจะได้คะแนนสูงสุด แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าทางทฤษฎี ข้าพเจ้าไม่มีความจัดเจน และโดยปราศจากความจัดเจน บางครั้งข้าพเจ้าประยุกษ์ทฤษฎีอย่างนักตำรา ข้าพเจ้าไม่ได้นำเอาความเป็นจริงในประเทศของข้าพเจ้ามาคำนึงด้วย ข้าพเจ้าติดต่อกับประชาชนไม่พอ ความรู้ทั้งหมดของข้าพเจ้าเป็นความรู้ตามหนังสือ ข้าพเจ้าไม่ได้เอาสาระสำคัญของมนุษย์มาคำนึงด้วยให้มากเท่าที่ข้าพเจ้าควรจะมี

ผมอยากรู้ว่า ที่พวกนักวิชาการมันยกย่องปรีดีกันเลิศเลอน่ะ

มันอ่านคำสารภาพนี้เข้าใจหรือเปล่า มันจะเอางานที่เจ้าตัวบอกเองว่ามีแต่ทฏษฎี เป็นนักตำรา "ไม่ได้นำเอาความเป็นจริงในประเทศของข้าพเจ้ามาคำนึงด้วย" ไม่ได้สัมผัสกับประชาชน เรียกว่าไม่ติดดินนั่นแหละ ไม่ได้เอาสาระสำคัญของมนุษย์มาคำนึง.........มาเทิดทูนอีกหรือ


ยังจะเอารัฐธรรมนูญห่วยๆ ที่นายคนนี้ทำไว้ผิดๆ กลับมาใช้ โหยยย โง่ซ้าาา.......

ใหนคุยว่า เคารพเจตจำนงปรีดีงัยละ

พวกนี้เค้าเลือก เอาเฉพาะที่มีประโยชน์และเข้ากันได้กับจุดประสงค์ของเค้าค่ะ
ชอบ
เปลือกๆ
ยิ่งมีวาทะกรรมที่เอามาใช้ได้สำเร็จรูป
ยิ่ง ตบเข่าฉาด
เอามาขยายย เชียว
อะไรที่เอามาแก้ต่าง
และขัดแย้งกับสิ่งที่อยากนำเสนอ
จะผ่านตาไปอย่างรวดเร็ว
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 2:11 pm

เมื่อปรีดีแก่ ด่าปรีดีหนุ่มเสียเละเทะอย่างนั้น เรามาดูผลงานหลักลอยของปรีดีหนุ่มกันหน่อย....ผลงานที่ใช้เวลาคิดมาตั้งแต่ยี่สิบกว่า แล้วอีกเกือบสิบปีก็ได้โอกาสนำมาใช้ โดยที่ระหว่างเวลาร่วมสิบปีนั้น คนคิดอยู่บนหอคอยงาช้าง ใครมาคุยด้วยก็ร้อนรนอยากจะล้างสมองเขาให้เชื่ออย่างที่ตัวเองเชื่อ.....เหมือนที่พระยาทรงฯ เคยบ่นกับพ่อไอ้แซมมาแล้ว

นี่คือหลักการหลักลอยของหนุ่มไฮโซนักเรียนนอก ในปี 2475

หมวดที่ ๒ ความไม่เที่ยงแท้แห่งการเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ความแร้นแค้นของราษฎร

ผู้ที่มีจิตเป็นมนุษย์ ประกอบด้วยความเมตตากรุณาแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว เมื่อเห็นสภาพชาวนาในชนบทก็ดี เห็นคนยากจนอนาถาในพระนครก็ดี ก็จะปรากฎความสมเพชเวทนาขึ้นในทันใด ท่านคงจะเห็นว่าอาหาร เครื่องนุ่งห่ม สถานที่อยู่ ฯลฯ อันเป็นปัจจัยแห่งการดำรงชีวิตของบุคคลเหล่านี้แร้นแค้นปานใด แม้วันนี้มีอาหารรับประทาน พรุ่งนี้และวันต่อไปจะยังคงมีหรือจะขาดแคลนก็ทราบไม่ได้ อนาคตย่อมไม่แน่วแน่ เมื่อท่านปลงสังขารต่อไปว่าชีวิตของเรานี้ย่อมชรา ย่อมเจ็บป่วย ก็แหละเมื่อบุคคลเข้าอยู่ในสภาพเช่นนั้น จะยังคงมีอาหารรับประทานอีกหรือ เพราะแม้แต่กำลังวังชาจะแข็งแรงก็ยังขาดแคลนอยู่แล้ว

คนมั่งมี คนชั้นกลาง คนยากจน ก็อาจแร้นแค้น
ความไม่เที่ยงแท้แห่งการดำรงชีวิตนั้น มิใช่จะมีแต่ในหมู่ราษฎรที่ยากจนเท่านั้น คนชั้นกลางก็ดี คนมั่งมีก็ดี ย่อมจะต้องประสบความไม่เที่ยงแท้ด้วยกันทุกรูปทุกนาม ขอให้คิดว่าเงินทองที่ท่านหามาได้ในเวลานี้ ท่านคงจะเก็บเงินนั้นไว้ได้ จนกว่าชีวิตของท่านจะหาไม่ และอยู่ตลอดสืบไปถึงบุตรหลานเหลนของท่านได้หรือ ตัวอย่างมีอยู่มากหลายที่ท่านคงพบคงเห็นว่า คนมั่งมีในสมัยหนึ่ง ต้องกลับเป็นคนยากจนในอีกสมัยหนึ่ง หรือมรดกที่ตกทอดไปถึงบุตรต้องละลายหายสูญ ไม่คงอยู่ตลอดชีวิตของบุตร บุตรของผู้มั่งมีกลับตกเป็นของคนยากจน เช่นนี้ท่านก็เห็นได้แล้วว่า เงินนั้นไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงแท้ อันจะเป็นประกันการดำรงชีวิตของท่าน ท่านจะรู้แน่หรือว่า สังขารของท่านจะยังคงแข็งแรงทำงานได้ตลอดชีวิต ถ้าท่านป่วยหรือพิการอย่างใดขึ้น ท่านทำงานไม่ได้ ท่านต้องใช้เงินของท่านที่มีอยู่แล้ เงินนั้นย่อมสูญสิ้นหมดไปเช่นนี้แล้ว ท่านจะได้อาหารที่ไหนรับประทาน เพราะท่านป่วยหรือพิการทำงานไม่ได้ ท่านลองนึกว่าถ้าท่านตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น ท่านจะรู้สึกอย่างไร


อ่านแล้ว ข้าพเจ้าก็อยากเอาอวัยวะบางอย่าง ยันหน้านายปรีดี เพราะเหตุผลที่เขายกมา อันเป็นใบเสร็จโค่นราชวงศ์จักรีนั้น มันเป็นเท็จทั้งหมด

เขาอ้างว่าคนจนจะอดตาย แม้วันนี้มีอาหารรับประทาน พรุ่งนี้และวันต่อไปจะยังคงมีหรือจะขาดแคลนก็ทราบไม่ได้ .......

ประเทศเรา ตั้งแต่มีประวัติศาสตร์ให้เรียนรู้ ไม่เคยปรากฏว่ามีคนอดตายอย่างที่ปรีดีตอแหล ตัดเอาเฉพาะ 150 ปีกรุงรัตนโกสินทร๋ ยิ่งไม่มีเข้าไปใหญ่ ตัดเข้ามาที่วงราชธานีอันเป็นเขตปกครองของกษัตริย์ ยิ่งไม่มีแน่นอน พ้นวงราชธานีออกไปเป็นความรับผิดชอบของเจ้าเมืองประเทศราช เท่าที่นึกดู ก็ไม่เคยพบว่ามี

ปรากฏการณ์ที่จะชี้ว่ามีการอดตายกันนั้น ท่านให้ดูที่การอพยพ สมัยนั้นมีแต่คนจีนที่อพยพ ที่ยุโรปนั้น อพยพไม่ได้ระบบมันรายัมเพราะมันผูกกับที่ดิน ถ้าไม่ใช่สงครามก็ไม่มีการอพยพ ในขณะที่สยาม แนวคิดทางการปกครองให้ความสำคัญกับกำลังคน ใครอพยพเข้ามาเป็นยินดีต้อนรับทั้งนั้น

กลับกัน ใครเคยเจอข่าวชาวนาไทยอพยพเพราะไม่มีข้าวกินบ้าง....

แล้วนายปรีดี ก็ใช้ความเท็จตรงนี้ ก่อการยึดอำนาจ

เทียบไปแล้ว ที่คมช. ยึดอำนาจทักษิณ หลักฐานความผิดชัดเจนกว่าที่นายปรีดีมั่วสร้างขึ้นมาหลายร้อยเท่า

การยึดอำนาจของนายปรีดี จึงเป็นความเลว เพราะผิดกฏปวงชนอาจโค่นล้มทรราช
แต่การยึดอำนาจของคมช. ปวงชนยินดี เพราะเป็นการโค่นล้มทรราชผู้แอบอ้างประชาธิปไตย
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby เช neverdie » Fri Oct 07, 2011 2:21 pm

ยาวไปเลยลูกเพ่ ซ้ายว่าง

ตามอ่านอย่างสนุกสนาน

:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 2:25 pm

ข้อความตรงนี้ แสดงความสิ้นคิดของปรีดี

คนมั่งมีในสมัยหนึ่ง ต้องกลับเป็นคนยากจนในอีกสมัยหนึ่ง หรือมรดกที่ตกทอดไปถึงบุตรต้องละลายหายสูญ ไม่คงอยู่ตลอดชีวิตของบุตร บุตรของผู้มั่งมีกลับตกเป็นของคนยากจน

นี่มันพล๊อตเรื่องจากนิยายราคาถูกนี่หว่า ...มารดามันเหอะ มันเอาเรื่องลูกหลานไม่สามารถรักษามรดกของบรรพบุรุษ มาเป็นข้ออ้างในการปฎิวัิติเว้ยเฮ้ย....จะมีอะไรปัญญาอ่อนกว่านี้อีกฟะ

นี่หรือ มันสมองคณะราษฎร

ผมว่า สหายบังแอ อะตอม ใต้หล้า นายเวร แต๋มๆ เฮนซุน หนูจิน.....ฯลฯ ในเวบเราทุกคนฉลาด ล้วนกว่าไอ้มันสมองหมูก้อนนี้ทั้งนั้น กรรมเวรประเทศกรูจริงๆ ราชสำนักอุตส่าห์ควักกระเป๋ษ ส่งมันไปชุบตัว มารดามันชุบออกมาแล้วได้คุณภาพแค่โนบิตะวรเจตน์ เป็นตัวแทนของความสิ้นคิดอย่างแท้จริง

โง่บัดซบครับท่าน ไม่ต่ำไปกว่านี้
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 2:45 pm

เช neverdie wrote:ยาวไปเลยลูกเพ่ ซ้ายว่าง

ตามอ่านอย่างสนุกสนาน

:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:



อิอิ กระเป็ารถกรู...เท่โคตร

น้าเชฯ คิดเหมือนผมป่าว....ผลังจากขอดเกล็ดปรีดีมาถึงหน้านี้ ผมว่า พวกที่อวยปรีดีนี่ ส่วนมากไม่ได้อ่านปรีดีนิพนธ์กันอย่างตั้งใจนะ เพราะถ้าตั้งใจแล้ว มันจะต้องเห็นความโง่ของปรีดี เห็นเหตุผลวิบัติในนั้น และเห็นว่าปรีดีสายตาสั้น เห่อตำรา ....เว้นแต่พวกมันโง่กว่าปรีดี อันนี้ก็น่าเห็นใจ

ประเด็นหนึ่ง ที่พระปกเกล้าแทงไว้ และฝั่งคณะราษฎรไม่มีใครปฎิเสธก็คือ ที่ทรงบอกว่าระบอบเศรษฐกิจของปรีดีนี้ รัสเซียก็ใช้อยู่ และประชาชนก็อดตายเหมือนเดิม นี่เป็นข้อยืนยันว่าปรีดีเป็นคอมมิวนิสต์ (แต่เป็นคอมมิวนิสต์กระจอก เพราะปัญญาไปไม่ถึงหัวใจของมารกซ์ เรื่องชนชั้น) พยายามใช้ระบบเศรษฐกิจจัดการแบบนั้นกับสยาม แต่ไม่กล้าลอกมาชัดๆ เพราะคนไทยไม่เอาแน่ๆ ก็เลยตัดต่อจนเละ


แ ม่ ง เอ้ย นักปฎิวัติ เ ชี่ ย รัยวะ ไม่มีต้นทุนทางปัญญาของตัวเอง ทำเป็นแต่ลอกเขา แล้วก็ดัดแปลงแบบงี่เง่า เอาแค่ข้อเดียวที่จะซื้อที่ดินจากราษฎร.....แล้วงัยละ พวกเจ้าที่ดินก็รวยพุงปลิ้นสิ อยู่ดีๆ มีคนเอาเงินมาแลกกับทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดกำไร

พวกซ้ายกระจอก มันชอบอ้างว่าแนวคิดนี้ทำให้ศักดินาเสียประโยชน์ พวกนี้โง่กว่าปรีดีจริงๆ สมมติว่าตระกูลศักดินา เป็นเจ้าของที่ดินสักแปดส่วนของระบบโฉนดทั้งประเทศ ก็จะกลายเป็นว่าปรีดีต้องไปหาเงินมาซื้อที่ทั้งหมดเป็นของรัฐบาล...ต้องใช้เงินเท่าไหร่น่ะ แล้วจะประเมินอย่างไร จัดสรรให้เกิดประโยชน์อย่างไร ราษฎรที่ใหนจะไปอยู่ พ.ศ. นั้น ถนนยังไม่มีทางรถไฟก็ยังไม่ครบ ไปได้ก็ตามลำน้ำและทุ่งโล่ง....เอานกกระจอกบินตระเวณดูกระมัง

แล้ว ตกลงมารดามันยึดอำนาจ เพื่อจะเป็นหนี้ศักดินาอำมาตย์กระนั้นหรือ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 2:48 pm

amplepoor wrote:ข้อความตรงนี้ แสดงความสิ้นคิดของปรีดี

คนมั่งมีในสมัยหนึ่ง ต้องกลับเป็นคนยากจนในอีกสมัยหนึ่ง หรือมรดกที่ตกทอดไปถึงบุตรต้องละลายหายสูญ ไม่คงอยู่ตลอดชีวิตของบุตร บุตรของผู้มั่งมีกลับตกเป็นของคนยากจน


ข้างบนนั่นตรงกับประวัติวัยเด็กของท่านปรีดีนะครับ พ่อแม่เป็นเจ้าของนา เคยมั่งมีมาก่อน และมายากจนลงภายหลังจากการทำนาล้มเหลว
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 3:18 pm

ดราม่า wrote:
amplepoor wrote:ข้อความตรงนี้ แสดงความสิ้นคิดของปรีดีคนมั่งมีในสมัยหนึ่ง ต้องกลับเป็นคนยากจนในอีกสมัยหนึ่ง หรือมรดกที่ตกทอดไปถึงบุตรต้องละลายหายสูญ ไม่คงอยู่ตลอดชีวิตของบุตร บุตรของผู้มั่งมีกลับตกเป็นของคนยากจน
ข้างบนนั่นตรงกับประวัติวัยเด็กของท่านปรีดีนะครับ พ่อแม่เป็นเจ้าของนา เคยมั่งมีมาก่อน และมายากจนลงภายหลังจากการทำนาล้มเหลว


สรุปคือ

ยึดอำนาจเพื่อสนองปมด้อยแห่งวงศ์สกุล


กระนั้นหรือ



แต่ที่จริงแล้ว ตระกูลนายปรีดีนี่ ไม่จนนะครับ ผมละขำที่พวกเขียนประวัติ ชอบบอกว่าปรีดีเป็นลูกชาวยา ที่จริงเขาเป็นลูกชนชั้นสูง พ่อมีเงินขนาดไปซื้อที่เพื่อทดลองทำนา มันก็ต้องเจ๊งแหละ ชาวนาที่ใหนส่งลูกมาเรียนในกรุงเทพได้

ปรีดีเอง ฐานะดีนะครับ ไม่งั้นพ่อตาไม่ยกลูกสาวให้หรอก ตระกูลเจ้าเมืองใหญ่นะนั่น กลับจากเมืองนอก นอกจากรับราชการแล้ว ก็มีเงินเปิดโรงพิมพ์ หนังสือเล่มแรกที่เขาพิมพ์น่ะ ใช้เงินมหาศาลครับท่าน พิมพ์กฎหมายตราสามดวงโดยการถ่ายรูป กัดบล๊อกพิมพ์สกรีนทั้งเล่ม
ประชุมกฎหมายไทยภาค 1 กฎหมายตราสามดวง
http://www.digitalrarebook.com/index.ph ... &pid=29191

เทียบกับการพิมพ์ปกติ ต้องใช้เงินมากกว่ากันเป็นร้อยเท่าทีเดียว

ไม่รวยเอาเงินที่ใหนทำล่ะ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby PettyCash » Fri Oct 07, 2011 3:22 pm

หมวดที่ ๒ ความไม่เที่ยงแท้แห่งการเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ความแร้นแค้นของราษฎร
อ่านหมวดนี้ของปรีดีแล้ว เหมือนคนเพ้อเจ้อ

พออ่านที่ปรีดีเพ้อเสร็จแล้วไปอ่านพระบรมราชวินิจฉัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ
ทำให้สงสัยว่าปรีดีไม่รู้หรือว่ามีคนอดอยากที่รัสเซีย
รู้แล้วแต่ทำมัยยังตะแบงจะทำ หรือคิดไม่ออกลอกเขามาอย่างเดียว
เบือพวกตัวเองดีอยู่คนเดียว
คนอื่นผิดหมด เลวหมด
User avatar
PettyCash
 
Posts: 1666
Joined: Fri Nov 28, 2008 11:26 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 3:54 pm

มาดูความโง่ของปรีดีต่อ

ราษฎรไทยชอบเป็นข้าราชการ
การจ่ายเงินเดือนให้แก่ราษฎรทั่วหน้านี้เห็นว่าถูกต้องต่อนิสสัยของราษฏรไทยโดยแท้ เพราะเป็นที่ทราบกันอยู่ว่า ทุกๆ คนชอบทำราชการ ชอบมีเงินเดือน แต่กระนั้นก็ยังมีข้าราชการบางคนเที่ยวป่าวประกาศ และป้องกันกีดขวาง ไม่อยากให้ราษฎรได้ทำราชการบ้าง ทั้งๆผู้นั้นเองก็เป็นข้าราชการมีเงินเดือน


ที่แกเขียนมานี่ แกไม่รู้จักพ่อแกหรืองัย ที่ไม่รับราชการจะเอาดีทางพ่อค้า

แล้วการอ้างว่ามีคนกีดขวางไม่ให้ชาวบ้านเป็นข้าราชการ แค่นี้อะนะ แกก็เลยยึดอำนาจซะเพื่อให้ทุกคนเป็นข้าราชการเสียให้หมด

นี่เอาอวัยวะข้างใหนคิดน่ะ

แล้วในฐานะที่ผ่านเมืองนอกเมืองนา เรียนซะสูง อยากรู้ว่า ในโลก ณ วันนั้น มีประเทศใหน(วะ) ที่พลเมืองรับราชการกันทุกคน
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby phoebus » Fri Oct 07, 2011 4:06 pm

amplepoor wrote:ญีปุ่นทำสงครามพร้อมกันโดยแอบบุกอ่าวมุก ถล่มเมกาก่อน พร้อมๆ กับที่ถล่มอังกฤษที่สิงคโปร์ และยกพลขึ้นบกตลอดภาคใต้ สยามต่อสู้อย่างดล้าหาญ มีอนุสาวรีย์เจ้าพ่อดำ และยุวชนทหารที่ชุมพรเป็นหลักฐาน ตั้งแต่เช้ามีดของวันที่ 8 ธันวาคม 2484

ถึงวันที่ 12 ธันวาคม จอมพลป. นายกก็ประกาศร่วมมือกับญี่ปุ่น ในวันนั้นเอง ที่อเมริกา
มรว. เสนีย์ ปราโมช เอกอัครราชทูตไทยก็ประกาศไม่ยอมรับการกระทำของจอมพลป. วันนั้นคือวันเริ่มต้นของขบวนการเสรีไทย

หลังจากนั้นจึงเกิดเสรีไทยที่อังกฤษ และเสรีไทยในประเทศ
ท่านคงจะคิดออกว่า ใครควรได้รับการยกย่องอย่างแท้จริงในการจัดตั้งเสรีไทย

อ้อ
เพราะสัมพันธไมตรีที่ดี ที่เสนีย์มีกับรัฐบาลเมกา เมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้ อังกฤษมารดามันจะเข้ามาปลดอาวุธเรา เพราะมันถือว่าเราเป็นฝ่ายแพ้สงคราม แต่เมกาไม่เห็นด้วย....ถ้าไม่ใช่เพราะมีเสรีไทยสายอเมริกาเป็นที่ยอมรับ ท่านคิดว่าลำพังนายปรีดี จะทัดทานกองทัพอังกฤษได้ละหรือ

เรื่องเสรีไทยนี้ ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยแบบปรีดี๊ ปรีดี คือเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น


ยืนยันได้ครับว่าจริง

คนที่ประกาศเสรีไทยจริง ๆ คือ ท่าน ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ด้วยวิทยุกระจายเสียงที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ในเย็นวันที่ 12 ธันวาคม 2484 (ตามเวลาที่นั่น)

ท่านใช้คำว่า "Free Thai Movement" ขึ้นมา โดยมินำพาคำสั่งประกาศสงครามของจอมพล ป. ที่สั่งให้ท่านยื่นต่อรัฐบาลสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่า เป็นเหตุที่คนไทยทั้งชาติไม่เห็นด้วย

แล้วท่านก็เป็นหัวหน้าที่นั่น

ที่อังกฤษไม่มีหัวหน้าที่แท้จริง เพราะรัฐบาลอังกฤษกีดกัน

ส่วนในเมืองไทยก่อนหน้านั้น มีขบวนการใต้ดินต่อต้านญี่ปุ่นมานานแล้ว ในชื่อต่าง ๆ รวมถึงมีกระทั่งมีอั้งยี่กลุ่มคนจีนที่เจ็บแค้นญี่ปุ่นที่กระทำชำเราคนจีนในนานกิง ร่วมฆ่าทหารญี่ปุ่นหรือคนไทยที่ร่วมมือกับทางญี่ปุ่นด้วยการปักด้วยขากรรไกรข้างเดียวผูกผ้าสีแดงเป็นสัญลักษณ์ก็ยังมี

แต่จริง ๆ แล้วต้องยกความดีให้ท่าน ม.ร.ว.เสนีย์ ที่เด็ดเดี่ยวกล้าประกาศ "Free Thai Movement" ขึ้น ซึ่งก็แปลได้เป็นภาษาไทยตรงตัวว่า "ขบวนการเสรีไทย"

พวกที่อยู่ในเมืองไทยนั่นแหล่ะ ถึงค่อยกล้าตั้งขึ้นมาเป็นกลุ่มเป็นก้อนจริง ๆ จัง ๆ จริง ๆ

ในชีวลิขิต ท่านเล่าว่า ท่านประกาศไปแล้ว มีคนนำไปออกวิทยุในประเทศไทย ปรีดีถึงกับตบเข่าเลยว่า "พูดอย่างนี้ ใช้ได้" ที่อังกฤษก็เช่นกัน นร.ไทยคนนึงที่นั่นได้ฟังคำประกาศของท่านแล้วก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน
"ดี แต่ตอแหล"
User avatar
phoebus
 
Posts: 3245
Joined: Mon Feb 28, 2011 4:32 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 4:20 pm

ในสถานะการณ์สงคราม วิทยุอเมริกาก็ไม่ใช่ว่าใครอยากออกอากาศก็ทำได้นะครับ

การที่เสนีย์พูดออกอากาศได้ นั่นหมายความว่า รัฐบาลสหรัฐให้การยอมรับและการจัดตั้งขบวนการ มีระบบรองรับแน่ชัด พูดกันตรงๆ น่ะ หัวหน้าเสรีไทยที่แท้จริง คือเสนีย์ ไม่ใช่ปรีดี

เพราะปรีดีก็เหมือนทุกครั้งที่ทำการใหญ่ เป็นต้องให้คนอื่นตายแทน เสรีไทยก็เช่นกัน

การต่อต้านในประเทศนั้น หลวงอดุลยเดชจำรัส อธิบดีตำรวจเสียอีก ที่แสดงตนชัดว่าไม่เอาญี่ปุ่น
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 4:26 pm

อยากจะถามคณะนิติราด กับเหล่าพวงสวรรค์ที่สอพลอกัน ว่า

ที่เสนีย์ประกาศ Free Thai Movement ขึ้นมา เท่ากับประกาศตนเป็นกบฏ เพราะรัฐบาลจอมพลป. เป็นรัฐบาลถูกต้องตามกฏหมายอยู่ การประกาศเข้ากับญี่ปุ่นก็ทำผ่านสภา......

เมื่อดูตามกฏหมาย เสนีย์ก็พยายามรัฐประหารนี่นา เพียงแต่กระทำการนอกประเทศ แต่แย่ที่สุดตือมีต่างชาติหนุนหลังเสียด้วย

จะอธิบายกรณีนี้อย่างไรดีล่ะ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby phoebus » Fri Oct 07, 2011 4:40 pm

amplepoor wrote:ในสถานะการณ์สงคราม วิทยุอเมริกาก็ไม่ใช่ว่าใครอยากออกอากาศก็ทำได้นะครับ

การที่เสนีย์พูดออกอากาศได้ นั่นหมายความว่า รัฐบาลสหรัฐให้การยอมรับและการจัดตั้งขบวนการ มีระบบรองรับแน่ชัด พูดกันตรงๆ น่ะ หัวหน้าเสรีไทยที่แท้จริง คือเสนีย์ ไม่ใช่ปรีดี

เพราะปรีดีก็เหมือนทุกครั้งที่ทำการใหญ่ เป็นต้องให้คนอื่นตายแทน เสรีไทยก็เช่นกัน

การต่อต้านในประเทศนั้น หลวงอดุลยเดชจำรัส อธิบดีตำรวจเสียอีก ที่แสดงตนชัดว่าไม่เอาญี่ปุ่น


ใช่เลยครับ การที่ท่านกล้าประก่าศแบบนั้นออกไปนับว่าใจเด็ดมาก ๆ เพราะเท่ากับการประกาศตัวเป็นกบฏต่อรัฐบาลไทยชัด ๆ

เพราะหลังจากนี้แล้ว ท่านก็ถูกถอดถอนสัญชาติไทย และน่าเป็นกังวลด้วยว่า แล้วท่านจะโดนส่งกลับเมืองไทยด้วยหรือเปล่า

ซึ่งถ้าโดนส่งกลับล่ะก็ โทษมีสถานเดียว คือ ประหารชีวิต แน่นอน

เพราะก่อนหน้านั้นมีทูตจากชาตินึง ถูกส่งกลับประเทศไปแล้ว

แต่ท่านก็ไม่ได้ถูกส่งกลับ

นับว่าท่านเด็ดเดี่ยวมาก ๆ เป็นตัวคนเดียวท่ามกลางต่างประเทศซะด้วย


ยังมีเรื่องตอนที่นายปรีดีก่อตั้งพรรคสหชีพขึ้นมาด้วย (ซึ่งก็ตั้งก่อน ปชป.ไม่นาน เรียกว่าไล่เลี่ยกันก็ได้) อันนี้เป็นบันทึกคำพูดของนายฟอง สิทธิธรรม สมาชิก ปชป.ยุคเริ่มต้น เขากล่าวว่า

จำได้ว่า ประมาณเดือนกันยายน พ.ศ. 2488 คุณถวิล อุดล อดีตเสรีไทยประจำประเทศจีน ได้เดินทางจากพระนครไปร้อยเอ็ด แวะเยี่ยมคนรู้จักและข้าพเจ้าที่อุบล พร้อมกันนั้น คุณหลวงกาจสงคราม ซึ่งกลับจากเมืองจีนก็ได้พบกัน ทั้งสองท่านปรารภเรื่องตั้งพรรคการเมือง พรรคที่ท่านทั้งสองชวนให้ร่วมมือนั้น คือ "พรรคสหชีพ" ข้าพเจ้าไม่ได้แสดงความขัดข้องหรือเห็นชอบประการใด เป็นแต่ไต่ถามความละเอียดบางประการ คงได้ความว่าบุคคลส่วนมากที่เริ่ม และร่วมก่อการเป็นเสรีไทยเกือบทั้งหมด เมื่อได้หลักนโยบายโดยตลอดแล้ว ข้าพเจ้าเห็นชอบเกือบทั้งนั้น แต่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ จำได้ว่าไม่มีบ่งชัด ดูเหมือนข้าพเจ้าทักว่า น่าจะมีไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวนโยบายนั้น ทราบว่า ท่านอาจารย์ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม มีส่วนรู้ส่วนเห็นอยู่ด้วย เกรงว่าจะถูกมองไปในแง่ไม่สุ้เป็นมงคล อีกประการหนึ่ง ข้าพเจ้าทักว่า พรรคนี้มาจากเสรีไทย น่าจะเป็นไปในทำนองแยกพวก พวกเสรีไทยและมิใช่เสรีไทย ทุกข้อทุกกระทรงข้าพเจ้าได้รับคำชี้แจง แต่ว่าความในใจมีประการใด ข้าพเจ้าไม่อาจทัดทานโต้แย้ง ต่อมาก็มีเพื่อนสหชีวกผู้หนึ่ง ที่ข้าพเจ้าไม่หาญที่จะออกชื่อได้ ได้พบกันที่พระยครในโอกาสที่ข้าพเจ้า มาธุระเกี่ยวแก่บริษัทอุบลจังหวัด ท่านสหชีวกผู้นั้นชวนข้าพเจ้า ด้วยการยกเอาชื่อท่านอาจารย์หลวงประดิษฐ์ฯ กับท่านศาสตราจารย์คนหนึ่ง* มาอ้างว่า นโยบายนี้ท่านเป็นผู้ให้แนวคิดแก้ร่าง เป็นที่เชื่อได้ว่าไม่มีบกพร่อง

มาถึงตอนนี้ ข้าพเจ้าจึงถือโอกาสแสดงธรรมเล็กน้อย เป็นเหตุให้เพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนรุ่นเก่าที่ไม่รู้จักวันกลับ คือ เตียง ศิริขันธ์ ล้อเลียนข้าพเจ้าว่า อ้ายลื้อมันดีแต่เข้าวัดเท่านั้น เอะอะก็ธรรมะเสียเรื่อย ข้าพเจ้าบอกว่า พระพุทธองค์ทรงสอนมิให้เชื่อโดยอ้างตำรา มิให้เชื่โดยอ้างครูอาจารย์ มิให้เชื่อโดยคาดเอาเดาเอา ฯลฯ ต้องเชื่อต้องเห็นชอบด้วยปัญญา ความเห็นชอบของตนเอง

เป็นอันว่า ในที่สุดข้าพเจ้ามิได้สมัครสังกัดพรรคสหชีพ ขณะนั้นพรรคสหชีพเป็นรัฐบาล ข้าพเจ้าก็เป็นฝ่ายค้านตามธรรมเนียม



ผมคัดลอกมาจาก "นายควง อภัยวงศ์ กับพรรคประชาธิปัตย์" พิมพ์ปี 2524 ครับ

(เพิ่มเติมนิดนึงครับ ศาสตราจารย์*นั้น ในหนังสือ ระบุว่า น่าจะหมายถึง ศาสตราจารย์ ม.จ.สกลวรรณากร วรวรรณ ซึ่งเคยแสดงปาฐกถาเรื่อง "สหชีวก" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง)
"ดี แต่ตอแหล"
User avatar
phoebus
 
Posts: 3245
Joined: Mon Feb 28, 2011 4:32 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby ดีแต่อ่าน » Fri Oct 07, 2011 4:44 pm

เคยอ่านคำบอกเล่าของผู้ร่วมคณะราษฎร์คนสุดท้าย ที่ยังจำได้ดีถึงเหตุการณ์
วันที่ 24 มิถุนายน 2475

ชายชราก็ยังบอกว่าการกระทำทั้งหมดของคณะราษฎร์ เป็นมรดกให้คนรุ่นหลัง
รวมความว่าเป็นการถูกต้องแล้วที่ทำการยึดอำนาจพระเจ้าแผ่นดิน ว่าแล้วก็เล่า
เรื่องราวซึ่งล้วนแต่ใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้ เพราะผู้เล่าไม่ใช่ผู้ดู แต่เป็นส่วนหนึ่งของ
การกระทำนั้น ฉันเองใช้ความรู้สึกของประชาชนผู้จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
มายืนยัน มาเป็นความเชื่อ ว่า พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์มีความห่วงใยราษฎร
"อย่างแท้จริง"

ส่วนคณะอะไรต่อมิอะไร กาลเวลาก็ได้พิสูจน์แล้ว เหลือแต่นายปรีดีนี่แหล่ะ
ชูไว้เหนือหัว เป็นมรดกให้คนรุ่นหลังบางกลุ่มบางพวก--ไว้เป็นเครื่องมือ
ไว้เป็นเครื่องยืนยัน ว่าคนที่ทำประโยชน์เพื่อชาติไทย จริงๆแล้วเป็นบุคคลนี้
หาใช่...ไม่

ถ้าเงียบๆไปเรื่อย อาจมีคนเชื่อเพิ่ม แต่นี่ดันมีคนไม่เชื่อเพิ่มขึ้น
หลักฐานก็มีในกระทู้นี้แหล่ะ

ขอบคุณคุณแอมอีกครั้ง
User avatar
ดีแต่อ่าน
 
Posts: 26
Joined: Mon Jun 27, 2011 12:21 am

Re: ปรีดี แฮททริค

Postby amplepoor » Fri Oct 07, 2011 5:03 pm

มีเรื่องที่ผมสังเกตเอง จากประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับคนจีนอพยพ

ถ้าเราดูประวัติคนจีนสำคัญๆ ที่อพยพเข้ามา ในระหว่าง 2470 จนถึงที่รัฐบาลเริ่มเข้มงวดกับผู้อพยพ เท่ากับว่าคนจีนเหล่านี้ เข้ามาในช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

พบว่า ส่วนใหญ่ท่านเหล่านี้จะซาบซึ้งในบุณคุณของกษัตริย์ มีน้อยมากเลยที่แสดงตัวว่าสนับสนุนคณะราษฎร แต่อย่าไปยกคนจีนกลุ่มที่ทำหนังสือพิมพ์นะครับ พวกนั้นมีผลประโยชน์โดยตรง ความเห็นก็ย่อมจะเอนเอียงเป็นธรรมดา

แล้วเวลาที่เราพูดถึงคณะราษฎร เราก็ไม่ค่อยพูดถึงคนอื่นๆ เห็นย้ำพูดถึงแต่ปรีดี อันนี้ผมว่าออกจะพิลึกอยู่ไม่น้อย จะบอกว่าคนอื่นถอยห่างจากหลัก 6 ประการของคณะราษฎร ผมว่า ปรีดีเองก็ถอยด้วยเหมือนกัน

ไม่มีใครเป็นตัวจริงสักคน
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron